[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 30 กันยายน 2553 20:11:06



หัวข้อ: to be born switch off every day{สนทนาธรรม}
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 30 กันยายน 2553 20:11:06
(http://public.bay.livefilestore.com/y1p93XlaZGF2J2hlWURiCzScg_Snrr6i4B_FaCJBnQUYECqT3jDgF36ytV1bwSMx0d3hapyGSWrO4WrHtGu_0XBtQ/IMG0051.jpg?psid=1)

http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/07.%20Track%207.wma

heaven way เดินลงดี ๆ เส้นทางวก - วนอย่าสับสนกับชีวิตถ้าก้าวพลาดจะไม่มีโอกาสลุกขึ้นอีก

(http://uyfz9q.bay.livefilestore.com/y1puwwLyY1hQGevKbPEFyCjgBoQn3NSNeo-y8gjotl_lxJ--glH5i3PgMx-t56j5hxrXEdhp0j_jvxReSFv7ti_moNX3z_jaCAr/hyooneunhye.gif?psid=1)

ถ่ายภาพโดย Sometime หรือ ปารวีร์ (บางครั้ง)ก็จนและไม่มีข้าวสารกรอกหมอเลยต้องกินแกลปแทนข้าว ฮ่า ฮ่า ฮ่า


คุณ สุชาติ กำลังคิดว่า ตาเห็นรูป แล้วมันเกิด ดับ พอจะอธิบาย ว่ามันเกิดดับ

จริง ๆ พอจะอธิบายให้เข้าใจได้ไหม

ท่านอาจารย์    จักขุปสาท มีอายุเท่าไรค่ะ นานทั้งวัน หรือ เร็วมาก

คุณ สุชาติ    เร็วมาก

ท่านอาจารย์ เร็วมาก รูปที่ปรากฏทางตา  มีอายุเท่าไร

คุณ สุชาติ ๑๗ ขณะจิต

ท่านอาจารย์ เหมือนกันซึ่งเร็วมากนี่เป็นการที่ตอบน่ะค่ะตามตำรา

คุณ สุชาติ ตามหลักการที่ว่าทุกอย่างมันเป็นอย่างนั้น

ท่านอาจารย์ แล้วปัญญาก็ค่อย ๆ พิจารณาไปอย่างเรื่องของสี่งที่ปรากฏทางตาถ้า

พิจารณาถึงธาตุทีเป็นประธาน ๔ ธาตุ คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตูลม มีลักษณะ

ที่อ่อนหรือแข็ง เย็นหรือร้อน ตึงหรือไหวหรือเกาะกุมเป็นสภาพที่ปรากฏเมื่อกระทบได้

เพียง ๓ ลักษณะ คือ ลักษณะของธาตุดินที่อ่อนหรือแข็งลักษณะของธาตุลมคือตึง

หรือไหว ลักษณะของธาตุไฟคือเย็นหรือร้อน

อันนี้เป็นประธานหมายความว่าในทุกกลุ่มของรูปที่เล็กที่สุดซึ่งมีอากาสธาตุแทรก

คั่นอยู่จะต้องมี{มหาภูตรูป ๔} แต่ไม่ใช่เมีเพียงเฉพาะมหาภุตรูป ๔ ยังมีอีกรูปหนึ่งซึ่ง

ปรากฏให้รู้ได้ทางตานี่ค่ะก็ค่อยๆ พิจารณาไป ถึงความจริงถึงความละเอียดของ

{ธรรม}จนกว่าจะแยกออกว่า สี่งที่ปรากฏทางตาไม่ใช่ มหาภูตรูป

เพราะฉะนั้น.......ความรู้ต้องค่อย ๆ เพี่มขึ้นน่ะค่ะและเรื่องของการที่จะประจักษ์แจ้งจะต้อง

ประจักษ์แจ้งจริง ๆ แต่ขอให้เข้าใจขึ้นเพื่อที่{สติปัฏฐาน}จะได้ระลึกโดยที่ว่าทางตา

อาจจะไม่เคยได้ระลึกเลยว่าเป็นแต่เพียงสี่งที่ปรากฏเพราะว่ามักจะปรากฏเป็น

สี่งหนึ่งสี่งใดทันทีแม้ว่าจะได้ยินได้ฟังมาก็ตามแต่ว่าอาศัยการฟังบ่อย ๆก็จะมีบาง

ขณะที่สติระลึกแลัวก็รู้โดยน้อมไปว่าสี่งนี้เป็นแต่เพียงสี่งที่ปรากฏไม่ใช่บุคคลหนึ่ง

บุคคลใดเลย ถ้าไม่คิด เพราะฉะนั้นก็จะเห็นความสำคัญของ{สังขารขันธ์}อีกน่ะค่ะ

ซึ่งก็คงจะกล่าวถึงว่าถ้ามีแต่เพียงวิญญาณขันธ์เท่านั้นคือ{จิต}ซึ่งเป็นใหญ่เป็น

ประธานในการรู้แจ้ง ลักษณะของอารมณ์ โดยที่ไม่มีสัญญาขันธ์ สภาพที่จำหรือว่าไม่

มีสังขารที่ตรึกนึกถึงรูปร่างของสี่งที่ปรากฏแล้วละก็จะเป็นแต่เพียงปรมัตถธรรมที่

ไม่มีสัตว์บุคคลตัวตนเลย

เพราะฉะนั้น..........กิจหน้าที่ของวิญญาณขันธ์  ไม่ใช่เห็นผิต  แต่่่กิจที่เห็นผิดเป็นหน้าที่

ของ{ทิฏฐิเจตสิก}ซึ่งเป็นสภาพธรรมอีกอย่างหนึ่ง  ซึ่ งเกิดหลังจากที่มี   การใส่ใจ  ใน

รูปร่างลักษณะของสี่งที่ปรากฏเพราะฉะนั้นก็แยกทางตากับทางใจ ออกโดย

การรู้ว่าเฉพาะทางตานี้เพียงเห็นและในเวลาที่กำลังจำหรือกำลังรู้ว่า

เป็นสี่งหนึ่งสี่งใดขณะนั้นก็เป็นทางใจเสียแล้ว

ค่อย ๆ แยกทางตากับทางใจออกทางหูกับทางใจออกทางกายกับางใจออกแล้ว

ถึงจะรู้ว่า{ปรมัตถธรรม}แท้ ๆ ไม่ใช่ในขณะที่กำลังคิดเรื่องรูปร่างหรือว่าเรื่องราวต่าง ๆ

นี่ก็จะต้องเป็นเพราะ สติสัมปชัญญะ สติปัฏฐานฟังไม่ชัดคุณ สุชาต(พูดแทรก)

คุณ สุชาติ อย่างนั้นเข้าใจ

ท่านอาจารย์   เข้าใจก็ต้องปฏิบัติค่ะตามที่เข้าใจจนกว่าปัญญาจะเจริญขึ้นเพราะ

ว่าถ้าเข้าใจอย่างนี้ก็ต้องนำไปสู่การเกิด (ดับ)ได้เพราะว่าเมื่อ รูปารมณ์

กระทบกับจักขุปสาทก็ดับแล้ว ๑๗ ขณะเร็วมาก

คุณ สุชาติ ถ้าเราจะเห็นรูปกำหนดเห็น วรรณรูป เราเห็นรูปที่ปรากฏ ชื่อว่าเราเห็น

วรรณรูปของ{มหาภูตรูป} อย่างนั้นจริง ๆ หรือทีี่่เราเห็นว่า{วรรณรูป}

ท่านอาจารย์เราเห็นรูปหนึ่งซึ่งไม่ใช่แข็งไม่ใช่อ่อน

คุณ สุชาติ เราสามารถเห็นได้เนื้อแท้จริง ๆ ของมันหรือ ?

ท่านอาจารย์ กำลังเห็นเดี๋ยวนี้ล่ะค่ะนี่ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าต้องมีอีกรูปหนึ่ง

ซึ่งเป็นรูปารมณ์ในกลุ่มนั้นในกาลนั้นเหมืนกับดูเงาในกระจกตลอดชีวิต

แท้จริงไม่มีแต่ก็เหมือนมีเวลาที่ส่องกระจกนี่ค่ะเห็นใครยืนส่องกระจกนีค่ะเห็นใคร

ยึดถือว่าเป็นเราในกระจก แล้วเรามีไหมค่ะ ฉันใดในขณะนี้ทางตาก็กำลังเห็นเหมือน

อย่างนั้นแต่ก็มีการคิดนึกรูปร่างสันฐานที่ทำให้ยึดถือว่ายังคงเป็นเราอยู่จนกว่าจะรู้

จริง ๆ ว่าสี่งที่ปรากฏทางตาก็เหมือนเงาให้คิดนึกเป็นเรื่องเป็นราวต่าง ๆ โดยที่ว่าหามี

สี่งนั้นจริง ๆ ไม่เป็นแต่เพียงสี่งซึ่งเกิดแล้วดับไป ๆ ๆ แต่ว่าสืบต่อกันอย่างเร็ว

มากจนกระทั่งทำให้ดูเหมือนว่ายังมีสี่งนั้นอยู่ทุกครั้งที่เห็น


ข้อความบางตอนจากการบรรยายธรรมโดยท่านอาจารย์ สุจินต์ บริหารวนเขตต์


มูลนิธิศึกษาและเผยแพร่พระพุทธศาสนา

สำนักงานเลขที่ 174/1 ซอย เจริญนคร 78

ดาวคะนอง ธนบุรี

กรุงเทพมหานคร 10600 โทร 02 - 4680239  


หัวข้อ: Re: to be born switch off every day{สนทนาธรรม}
เริ่มหัวข้อโดย: หมีงงในพงหญ้า ที่ 30 กันยายน 2553 22:58:12
สาธุครับจากลุง (ป้า) บางครั้ง

ปล. แหม Heaven Way ตั้งชื่อซะ สวยงาม

;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: to be born switch off every day{สนทนาธรรม}
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 02 ตุลาคม 2553 11:39:07
สาธุครับจากลุง (ป้า) บางครั้ง

ปล. แหม Heaven Way ตั้งชื่อซะ สวยงาม

;D ;D ;D ;D

(:QS:) (:QS:) (:QS:)

ลุง/ป้า เอ้า........ตกลง ลุงก็ได้ ป้า ก็ได้