หัวข้อ: พระเจ้า=พระพุทธเจ้า=นิพพาน คือ แสง... เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 04 ตุลาคม 2553 19:53:46 พระเจ้า=พระพุทธเจ้า=นิพพาน คือ แสง...
1. พุทธศาสนามหายาน อาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้า โดยเชื่อว่าอาทิพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก ที่ถือกำเนิด ขึ้นพร้อมกับโลก อยู่ในโลกชั่วนิรันดร์ เป็นผู้สร้างสรรพสิ่งในโลก และเป็นแหล่งกำเนิดของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย อาทิพุทธะ ปรากฏพระกายในแสงสว่าง บางตำราว่า อาทิพุทธะจะปรากฏพระกายในแสงแห่งเปลวเพลิง ที่มีรัศมีพุ่งจากดอกบัว 1. A พุทธศาสนามหายาน นิกายสุขาวดี พระพุทธเจ้าอมิตาภะเป็นพระพุทธเจ้าที่สำคัญอย่างยิ่งพระองค์หนึ่งของมหายาน “อมิตาภะ” แปลว่า “แสงสว่างอันหาที่สุดมิได้” 1. B พุทธศาสนามหายาน นิกายอื่น ในมหาไวโรจนสูตร ยกให้พระองค์เป็นศูนย์กลางมณฑล เป็นตัวแทนของความจริงสากล ในอวตังสกสูตร ที่มีรากฐานมาจากคัณวยูหสูตรและทศภูมิกสูตร กล่าวว่า พระไวโรจนะพุทธะเป็นพระพุทธเจ้าในโลกแห่งแสงสว่าง 2. พุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท พระพุทธเจ้าได้ซ่อนความหมายนี้ใว้ในชื่อตระกูลหรือชื่อโคตรของพระองค์ โคตม โคตะมะ โคดม ความหมายถึง แสงสว่างอันรุ่งโรจน์ดุจดวงอาทิตย์ หลวงปู่ดุลย์เทศน์ไว้เรื่องจิตคือพุทธะว่า “.....ความว่างนั้นจึงบริสุทธิ์และสว่าง รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิมเข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน ” “ความว่างนั้นจึงบริสุทธิ์และสว่าง” = นิพพานของจิตแต่ละดวง ศาสนาพราหมณ์เขาเรียกว่า “อาตมัน” อาตมันจึงเป็น “อายตนะนิพพาน” “รวมเข้ากับความว่าง บริสุทธิ์ สว่าง ของจักรวาลเดิมเข้าเป็นหนึ่งเรียกว่า นิพพาน" = “นิพพานของจิตมวลรวม” ศาสนาพราหมณ์หเขาเรียกว่า “ปรมาตมัน” 3. ในศาสนาพราหมณ์ นิยามของ พรหม ใน ภควัทคีตา สิ่งที่บุคคลควรรู้สูงสุดคือ พรหม พรหมคือสภาวะอันสูงสุด ไม่มีเบื้องต้น ไม่มีเบื้องปลาย เป็นอมตะ ไม่เป็นทั้งสิ่งมีอยู่และสิ่งไม่มีอยู่ = อสังขตธาตุ พรหมหยั่งรู้ถึง อารมณ์ โลภ โกรธ หลง แต่พรหมปราศจากอารมณ์เหล่านั้น = นิพพานธาตุ หรือ อสังขตธาตุ ซึ่งเป็นนามธรรมที่ไม่มีอารมณ์ พรหมไม่มีความยึดมั่นในสรรพสิ่ง = นิพพาน พรหมคือสภาวะอยู่เหนือความดีและความชั่ว = ภาวะอรหันต์ พรหมมิอาจหยั่งรู้ได้ด้วยการคิดและใช้เหตุผล = ปัญญาทางโลกุตตระธรรม พรหมคือแสงสว่างเหนือแสงสว่างทั้งปวง 4. ในศาสนาคริสต์ จากคำบรรยายของคริสตจักรแห่งหนึ่ง ในพระคัมภีร์(คริสต์)บอกว่า พระเจ้าเรียกยอห์นเข้าไปเพื่อจะให้เห็นว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากสิ่ง เหล่านั้น ก็คือบทที่ 3 …….. “ ภาพที่ยอห์นเห็นคือภาพของสวรรค์ ก็จะมีพระที่นั่งอยู่พระที่นั่งหนึ่งแต่สิ่งที่น่าแปลกใจก็คือยอห์นเห็น พระเจ้าเป็นแสง พระคัมภีร์สอนว่า พระเจ้าคือความสว่าง เพราะฉะนั้นเราอย่าคาดหมายว่า เห็นพระเจ้าแบบคุณลุงผมขาว ถือไม้เท้า ” ข้อความตอนหนึ่ง จากพระคัมภีร์และบทเทศน์ คุณพ่อสมเกียรติ ตรีนิกร “...แสงสว่างแห่งพระเจ้าจะเป็นแสงนำทางสำหรับมนุษยชาติทั้งมวลอย่างครบครัน.” พระวจนะของพระเจ้า ท่านให้พระวจนะของพระเจ้าเป็นแสงส่องนำเดินไปข้างหน้าพระเจ้าทรงสำแดงการ ทรงนำของพระองค์ทางพระคัมภีร์แก่คนของพระองค์เป็นวิสุทธิมรรค 5. ในวิชาราชาโยคะ ท่านบราห์มาได้หลุดพ้นเป็นอิสระจากบ่วงกรรม และข้อจำกัดต่างๆบรรลุถึงขั้นที่สมบูรณ์พร้อม ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ.1969 (พ.ศ.2512) อันเป็นวันที่ท่านได้ละร่างไปที่ถือว่าเป็นบทเรียนสุดท้ายของ การเปลี่ยนจากมนุษย์ธรรมดาให้กลายเป็นเทพ ท่านบราห์มาเห็นรูปลักษณะของ พระเจ้าเป็นแสงที่ไม่มีตัวตน |