[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

สุขใจในธรรม => ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน => ข้อความที่เริ่มโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ตุลาคม 2553 09:07:59



หัวข้อ: เอาชนะมาร{ของจริง}
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ตุลาคม 2553 09:07:59
(http://img1.imagehousing.com/82/0e680724c52e34bb26f1a1f1980d8b03.jpg)

http://www.youtube.com/v/oJa4r9NoXmQ?fs=1&hl=en_US

มาแนวแปลกเลยใช่ไหมครับสำหรับหัวข้อเรื่อง ของผมเรื่องนี้ สิ่งที่ดลใจให้เขียนก็สืบเนื่องมาจากช่วงหยุดยาววันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมานั่น แหละครับซึ่งผมว่าผมได้เจอและสัมผัสกับมาร{ในใจ}เข้าให้แล้ว แต่โชคดีที่พอจะมีบุญหลงเหลือกับเขาบ้างเลยมีโอกาสได้ไปทำความดีต่อบุญกับเขาสักหน่อย คิดว่าเพื่อนๆหลายคนในที่นี้คงเคยเป็นและรู้สึกเหมือนกับผมนะครับ ร่ายมาซะยาวเริ่มเล่าเลยดีกว่าครับ

เหตุการณ์แรกคือในวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา{ก่อนวันอาสาฬหบูชา}ผมและภรรยาตั้งใจจะไปทำบุญบริจาคทาน เสื้อผ้าเก่า ของเล่นเด็กของลูกผมที่เลิกเล่นแล้ว และข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นอื่น ๆ} ให้กับเด็กกำพร้าที่ วัดโบสถ์วรดิตถ์ จ.อ่างทอง และ เนื่องจากผมกับภรรยายังไม่เคยไปที่วัดนี้มาก่อนก็เลยต้องหาข้อมูลในเวปไซต์ เพิ่มเติมเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนไป ทั้งแผนที่ไปวัด สภาพของ

วัด กิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางวัดมี ฯลฯ ก็ดันไปเจอ Webboard อยู่อันหนึ่งซึ่งมีคนมาโพสไว้เกี่ยวกับวัดแห่งนี้โดยผู้โพสอ้างตัวว่าเป็น เด็กคนหนึ่งในวัด และเรื่องที่เขียนก็ค่อนข้างส่อไปในทางลบ เช่น มีคนมายักยอกของไปบ้าง เงินบริจาคบ้าง ของบริจาคเจอเกินจนต้องเอาไปขาย เอาไปทิ้งบ้าง ซึ่งเมื่อผมอ่านเจอเข้าความรู้สึกแรกวิ่งขึ้นมาทันทีครับ เราจะไปดีมั้ยวัดนี้น่ะ ไปแล้วจะได้บุญเหรอ ไป

แล้วถวายใครได้ประโยชน์ สารพัดความคิดที่พร้อมจะหยุดการทำดีของเราหลั่งไหลมาไม่ขาดสาย รวมทั้งยังแผ่ขยายไปเผื่อให้
กับคนข้างตัวเราด้วยว่า เธอจะไปแน่นะ ไม่น่าไปเลยนะกลัวถวายแล้วจะเสียของ ซึ่งทั้งหมดนี้ผมมองว่าเป็น ภาวะจิตอกุศล {จิตมาร} เข้าครอบงำ ภาษาพระคงเรียกว่า มารผจญไม่ให้คนทำดี แต่คงเป็นเพราะบุญเก่ายังพอมีเหลืออย่างที่บอกแหละครับ ผมก็เลยคิดใหม่ในทางบวกว่า ถ้าตั้งใจจะทำดีแล้วก็ไม่ต้องมีเงื่อนไขหรอก ใครทำคนนั้นก็ได้ไป ผลจะเป็นยังไงก็ช่างมัน อย่าไปยึดติด อย่างน้อยของที่

ให้ไปมันก็ต้องมีประโยชน์บ้างแหละ พอคิดได้เท่านี้ผมก็บอกภรรยาว่ามาถึงนี่แล้วตั้งใจขนาดนี้แล้วก็ลุยต่อไป ปิดคอมพิวเตอร์ เข้านอน เก็บแรงเพื่อเดินทางดีกว่าและวันรุ่งขึ้นผม พร้อมด้วยภรรยา และพ่อแม่ พี่น้องผมทุกคนก็ได้ไปทำบุญตามที่ตั้งใจไว้ที่วัดแห่งนี้ และสิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือมีหลวงพ่อที่วัดมาเป็นผู้รับถวายทานครั้งนี้ด้วย ตัวท่านเองเลยครับ งานนี้อิ่มบุญกันถ้วนหน้า และคิดว่าคุ้มค่ากับการเดินทางมาครับ เดิมทีคิดว่าไปถึงก็ให้เอาของบริจาคไปรวมกองกันไว้เฉย ๆ เหมือนบางวัดที่เคยไปมาก่อนหน้านี้ โดยที่ไม่มีพระท่านมารับรู้เลยว่าโยมท่านไหนเอามาถวายรู้สึกแปลก ๆ


หัวข้อ: Re: เอาชนะมาร{ของจริง}
เริ่มหัวข้อโดย: 時々๛कभी कभी๛ ที่ 05 ตุลาคม 2553 09:11:45
(http://img1.imagehousing.com/82/0e680724c52e34bb26f1a1f1980d8b03.jpg)


ส่วนเหตุการณ์ที่สองก็คือในคืนวันอาสาฬหบูชา ชาวพุทธอย่างเราก็ต้องไปเวียนเทียนใช่ไหมครับ ผมกับภรรยาก็ตั้งใจเหมือนกันว่าจะไปเวียนเทียนที่วัดแถวบ้าน วัดทรงธรรมวรวิหาร แต่พอถึงเวลาประมาณ 1 ทุ่มก็เตรียมตัวจะไปแล้วครับ ฝน

ดันตกลงมาปรอย ๆ มารผจญมาอีกแล้วครับ ทั้งมารนอกใจ{ฝน} ทั้งมารในใจ ความขี้เกียจ และความพยายามหาข้ออ้างที่จะไม่ไปเพราะฝนตก ผมนั่งยื้อกับภรรยาอยู่พักใหญ่เกือบ 15 นาที ฝนก็ยังตกอยู่ ทำไงดีล่ะไปหรือไม่ไป ทันใดนั้นบุญตามมาทันครับ
{คิดเอาเองนะ}ความคิดด้านบวกก็มาบอกว่าไปเถอะน่ะ ฝนตกปรอย ๆ ก็กางร่มได้ แค่นี้ก็ไม่เปียกแล้ว ถ้าโชคดีพอไปถึงวัดฝน

อาจจะหยุดก็ได้ พอคิดเสร็จก็บอกภรรยาว่า Let's go และเป็นอย่างที่ตั้งใจจริงๆครับ พอถึงวัด ลงจากรถ เดินไปซื้อธูปเทียน และตรงเข้าไปที่พระอุโบสถเท่านั้นแหละฝนซาและหยุดตกเลยครับ{เพราะโชคดีหรือเพราะบุญก็ไม่รู้นะ}ผมก็เลยได้เวียนเทียนสมความตั้งใจ และได้ไปกราบนมัสการพระพุทธรูปในวัดได้อีก งานนี้ก็อิ่มบุญไปอีกรอบ และได้พาลูกสาวผมเข้าวัดเข้าวาปลูกฝังความดีตั้งแต่เด็กด้วยครับ

ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นคนมีบุญอะไรหรอกนะครับ อาจเป็นเพราะโชคดีมากกว่า และพยายามคิดบวกในแนวทางที่จะเป็นไปได้ ในเมื่อคนเราส่วนใหญ่มักชอบแสวงหาเหตุผลให้ตัวเองเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร ผมก็ขอเลือกเหตุผลที่จะทำเรื่องที่ดีน่าจะดีกว่าจริงมั้ยครับ{แต่ออกตัวไว้ก่อนนะครับว่าคงทำไม่ได้ทุกเรื่อง เพราะผมก็เป็นคนเดินดินคนหนึ่งเหมือนกับอีกหลายๆคน แต่จะพยายามครับ} ถ้าพูดแบบวิทยาศาสตร์เหตุการณ์ที่เล่ามานี้ก็คงเป็นเรื่อง ของผลที่ดีย่อมมาจากเหตุปัจจัยที่ดี และถ้าภาษาพระก็คงเรียกว่าทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว และโชคดีที่กรณีของทำดีกับได้ดีมันอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่นั่นเอง


ที่เล่ามาทั้งหมดไม่ได้จะบอกว่าผมเป็นคนมีบุญอะไรหรอกนะครับ อาจเป็นเพราะโชคดีมากกว่า และพยายามคิดบวกในแนวทางที่จะเป็นไปได้ ในเมื่อคนเราส่วนใหญ่มักชอบแสวงหาเหตุผลให้ตัวเองเลือกที่จะทำหรือไม่ทำอะไร ผมก็ขอเลือกเหตุผลที่จะทำเรื่องที่ดีน่าจะดีกว่าจริงมั้ยครับ ?


แอบไปจิ๋กมาจาก...........http://gotoknow.org/profile/prapun_th (http://gotoknow.org/profile/prapun_th)