[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

ข่าวของวันที่ 15 ตค. 53


เช้านี้หลายจังหวัดได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักทำให้หลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมเสียหาย
ส่วนที่จังหวัดสระแก้วฝนตกลมแรงทำให้ต้นมะขามอายุกว่า 50 ปี โค่นลงมาทับกุฏวัดโนนหมากมุ่น
ทำให้พ่อเฒ่าที่มาอาศัยวัดอยู่เสียชีวิต

โดย ที่จังหวัดนครสวรรค์ เกิดฝนตกหนักในเขตเทศบาลนครสวรรค์ตั้งแต่เช้าวันนี้ ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง
ในหลายพื้นที่ระดับน้ำสูงถึง 50-80 ซม. เนื่องจากท่อระบายน้ำระบายน้ำไม่ทัน ส่งผลให้ถนนหลายสาย
การจราจรติดขัดนานเป็นชั่วโมง ขณะที่บริเวณสถานีขนส่งจังหวัดนครสวรรค์เกิดน้ำท่วมขัง
รถประจำทางเข้ามารับส่งผู้โดยสารเป็นไปด้วยความยากลำบาก นอกจากนี้น้ำยังเข้าท่วมบ้านเรือน
เป็นจำนวนมากเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็น แอ่งกระทะการระบายน้ำค่อนข้างช้า หน่วยบรรเทาสาธารณภัย
เทศบาลนครสวรรค์ ต้องเร่งระบายน้ำ พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ผู้สัญจรในบริเวณสถานีขนส่ง
ประกอบกับช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงเทศกาลกินเจทำให้โรงเจที่ตั้งอยู่ในศูนย์ท่า รถนครสวรรค์ ประชาชน
ต้องลุยน้ำมารับอาหารเจ บริเวณครัวที่ทำอาหารก็ถูกน้ำท่วมแม่ครัวต้องช่วยกันขนย้ายอุปกรณ์ขึ้นที่สูง

เช่นเดียวกับที่จังหวัดฉะเชิงเทรา มีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำบางปะกงสูงขึ้น
หากฝนยังตกต่อเนื่องไม่หยุดจะทำให้น้ำท่วมในเขตอำเภอเมืองบริเวณ ถ.ศรีโสธรตัดใหม่
หน้าวัดหลวงพ่อโสธร เนื่องจากไม่สามารถระบายน้ำออกได้ ผู้ประกอบการค้าขายโอดครวญ
ไม่มีคนออกมาจับจ่ายซื้อสินค้า

ส่วนที่ จังหวัดสระแก้ว ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นเหตุให้ต้นมะขามอายุกว่า 50 ปี ล้มลงมาทับกุฏพระ
วัดโนนหมากมุ่น อ. โคกสูง เป็นเหตุให้พ่อเฒ่าวัย 87 ปี ซึ่งอาศัยอยู่ในกุฏพระดังกล่าวถูกต้นมะขามทับเสียชีวิตคาที่

'ชวรัตน์'ย้ำทุก จว.รับมือภัยหนาว คาดรุนแรงรอบ30ปี



มท.1 ย้ำหนักทุกจังหวัดเร่งฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย พร้อมมอบนโยบายเตรียมการรับมือภัยหนาว
ที่คาดว่าจะรุนแรงที่สุดในรอบ 30 ปี...

เมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ห้องประชุม วีไอพี. ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมารับทราบปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา, นายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ รวมถึงหัวหน้าหน่วยงานป้องกัน
และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และหน่วยงานชลประทานในพื้นที่ กว่า 100 คน พร้อมมอบนโยบาย
ในการจัดการแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาอุทกภัย ภัยหนาว รวมทั้งปัญหาภัยแล้งที่ทางจังหวัดนครราชสีมา
จะต้องเผชิญอีกในปี 2554 ที่กำลังจะมาถึง

โดยมีนายระพี ผ่องบุพกิจ ผวจ.นครราชสีมา รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้รับทราบ โดยเฉพาะปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้นซ้ำซากเรื้อรังในพื้นที่
อ.พิมาย, อ.ปักธงชัย รวมถึงเขตอำเภอเมือง ที่ตำบลหนองบัวศาลา และบริเวณตำบลหัวทะเล อ.เมืองฯ
ซึ่งมีสภาพพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ และต้องรองรับปริมาณน้ำจำนวนมหาศาลจากพื้นที่ตอนบน
ที่มีอยู่ถึง 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.สูงเนิน, อ.โชคชัย และ อ.ปักธงชัย โดยแนวทางการแก้ไขปัญหา
ในเบื้องต้นทางจังหวัดนครราชสีมาร่วมกับทางกองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการก่อสร้างคันดินกั้นน้ำ
ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งอยู่เหนือ ต.หนองบัวศาลา จนแล้วเสร็จ แต่ปรากฏว่าด้วยพื้นที่ ต.หนองบัวศาลา
ยังคงต้องรองรับน้ำจากพื้นที่ตอนบนอีกหลายช่องทางทำให้ยังคงเกิดปัญหาน้ำไหลบ่าเข้าท่วม
อย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

ทั้งนี้ ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการสำรวจ
ความเสียหายจากอุทกภัยที่เกิดขึ้น เพื่อเข้าให้การช่วยเหลือพี่น้องที่ประสบปัญหาอุทกภัย ในทุกพื้นที่
พร้อมกับได้สั่งการให้หน่วยงานทุกหน่วยงานบูรณาการร่วมกันในการวางแนวทางการ แก้ไขปัญหาต่างๆ
อย่างเป็นรูปธรรม โดยทางกระทรวงมหาดไทยพร้อมที่จะให้การสนับสนุนงบประมาณในการแก้ไขปัญหา
อย่างเป็นระบบ

นายชวรัตน์ กล่าวว่า ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือขณะนี้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย
ใน หลายจังหวัด และเพื่อให้การฟื้นฟูและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
จึงได้เน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตาม หลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลัง
กำหนด โดยเฉพาะการฟื้นฟูซ่อมแซมสิ่งสาธารณประโยชน์ที่ได้รับความเสียหาย หากพื้นที่ใด
ได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง จนเกินขีดความสามารถที่จังหวัดจะดำเนินการเองได้ ให้ขอรับการ
สนับสนุนจากส่วนกลาง

สำหรับความเสียหายด้านการเกษตร ประมง และปศุสัตว์ ที่มีมูลค่าความเสียหายเกินกว่าวงเงินทดรองราชการ
ในอำนาจของผู้ว่าราชการ จังหวัด ที่มีอยู่จังหวัดละ 50 ล้านบาท ให้เสนอเรื่องต่อคณะกรรมการ
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ/จังหวัด เพื่อขอรับการสนับสนุนงบกลางจากรัฐบาลต่อไป
ส่วนนโยบายในการรับมือกับปัญหาภัยพิบัติต่างๆ นั้น ทางกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงาน
เตรียมพร้อมอุปกรณ์ เครื่องมือให้ความช่วยเหลือต่างๆให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ อย่างเช่นในช่วง
ที่เกิดปัญหาอุทกภัยอย่างที่เป็นอยู่ ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยก็ต้องมีการเตรียมพร้อม
เครื่องมือให้ความ ช่วยเหลือทั้ง เรือท้องแบน เครื่องสูบน้ำ รวมถึงอุปกรณ์ขนย้ายข้าวของของประชาชน
เพื่อให้ได้รับความเสียหายน้อยที่สุด เป็นต้น

นายชวรัตน์ กล่าวอีกว่า จากการติดตามคาดหมายลักษณะอากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในปีนี้
ประเทศไทยจะมีสภาพอากาศหนาวเย็นที่สุดในรอบ 30 ปี โดยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวตั้งแต่ช่วง
กลางเดือนตุลาคม 2553 ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 4 - 5เดือนและจะสิ้นสุดฤดูหนาวประมาณกลางเดือน
กุมภาพันธ์ 2554 โดยมีภาคเหนือและ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่คาดว่าจะมีอากาศหนาวจัด
รวม 11 จังหวัด ประกอบด้วย ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน เลย อุดรธานี
หนองคาย สกลนคร และนครพนม ดังนั้น เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว
ที่กำลังจะมาถึง จึงได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยหนาว
ในทั้งระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับท้องถิ่น ให้มีครอบคลุมทั่วทั้งพื้นที่ พร้อมดำเนินการสำรวจ
และจัดทำบัญชีผู้ประสบภัยหนาว ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
ตามแผนรับมือของจังหวัด จัดเตรียมเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เพียงพอต่อการบรรเทาความเดือดร้อน
พร้อมทั้งวางแผนแจกจ่ายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวให้เป็นไปอย่างทั่วถึง โดยปฏิบัติตามระเบียบกระทรวง
การคลังและหลักเกณฑ์ที่กำหนดอย่างเคร่งครัด ตลอดจนประเมินสถานการณ์ภัยหนาวและรายงาน
ให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทราบทุกสัปดาห์ เพื่อจะได้ปรับแผนการให้ความช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัยหนาวให้สอดคล้องกับสภาพ อากาศและความเดือดร้อนของประชาชนในแต่ละพื้นที่.



http://www.thairath.co.th/content/region/118891 (http://www.thairath.co.th/content/region/118891)

อุตุฯประกาศเตือนภัยน้ำท่วมฉับพลัน



อุตุฯประกาศฉบับที่ 15 เตือนหลายจังหวัดภาคกลางระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะ
น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่วนภาคอีสานตอนล่างมีฝนตกหนักหลายจังหวัด

ในช่วงวันที่ 15-18 ต.ค. 53 ร่องมรสุมกำลังแรงยังคงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน
และภาคตะวันออก เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงในทะเลจีนใต้ตอนกลาง และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้บริเวณประเทศไทยมีฝนตกชุกหนาแน่น
และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน
น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ดังนี้

วันที่ 15 ต.ค. 53 บริเวณจังหวัดอุทัยธานี นครสวรรค์ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

ช่วงวันที่ 17-19 ต.ค. 53 บริเวณจังหวัด ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และ กทม.

วันที่ 15-17 ต.ค. 53 บริเวณความกดอากาศสูงแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกก่อนและอุณหภูมิลดลง 1-2 องศา




สำหรับ คลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังแรงอย่างต่อเนื่อง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตราย
ในการเดินเรือ และเรือเล็กในทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

ส่วน ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคอีสาน จ.อุบลราชธานี แจ้งว่าบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุม
ทางตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย ในขณะที่ร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง
ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำในทะเลจีนใต้ตอนกลาง
ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีฝนตกชุกหนาแน่น และมีฝนตกหนักในบางพื้นที่
จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำบริเวณ
จังหวัด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิด
สภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ในระยะนี้



ที่มา : เวบไซท์ครอบครัวข่าว

16 ตค. 53

โคราชอ่วม ! บ้านเรือน ถนน ไร่นา จมบาดาลหลายพื้นที่ - น้ำเขาใหญ่ทะลักท่วม“ปากช่อง”


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โคราชอ่วม! ฝนตกหนักต่อเนื่อง น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร ถนน ไร่นาหลายพื้นที่
สนามกีฬาซีเกมส์ 2.2 พันล้านจมบาดาล จราจรถ.มิตรภาพติดยาว ขณะ “น้ำเขาใหญ่” ทะลักท่วม 5 หมู่บ้าน
อ.ปากช่อง “มิตรภาพ” เข้ากทม.ใช้การไม่ได้ต้องเลี่ยง ใช้เส้นทางอื่น ด้านเขื่อนลำพระเพลิงน้ำยังล้น ท่วม
บ้านเรือนไร่นาเสียหายยับ ยันเขื่อนแข็งแรง ส่วน อ.พิมาย เร่งสูบน้ำออกจาก“ปราสาทหินพิมาย” ป้องกัน
โบราณสถานเสียหาย

     
       วันนี้ (16 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดฝนตกหนักตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. ต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
จนถึงขณะนี้ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมสูงในหลายพื้นที่ ของ จ.นครราชสีมา โดยเฉพาะบริเวณถนนสายราชสีมา - โชคชัย
ช่วงสามแยกหัวทะเล ต.หัวทะเล อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทั้งฝั่งขาเข้าและออกจากตัวเมืองนครราชสีมา มีระดับน้ำ
สูงกว่า 40 เซนติเมตร ( ซม.) เนื่องจากเป็นพื้นที่ต่ำรองรับน้ำจากเขตเทศบาลนครนครราชสีมาที่ไหลมาสมทบกัน
จึงไม่สามารถระบายได้ทัน ส่งผลให้การจราจรติดขัดอย่างหนักเป็นระยะทางยาวกว่า 5 กิโลเมตร (กม.)  พร้อมนี้
น้ำยังไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน หนองตะลุมปุ๊ก หมู่ที่ 2 ,หมู่ที่ 8 ,หมู่บ้านจัดสรรจามจุรี หมู่ที่ 8 , บ้านหนองตาคง
หมู่ที่ 10 ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา อีกระลอก ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 500 หลังคาเรือน
ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เอือมระอากับปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก แม้หน่วยงานทหารและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จะพยายามหาแนวทางแก้ไขปัญหาแต่ก็ไม่สามารถแก้ไขได้เนื่องจากน้ำทะลักลงมารวมกันเป็นปริมาณมาก


       รวมทั้งที่ สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 5 ธันวาคม 2550 หรือ สนามกีฬาเมืองหลัก 333 ปี
จังหวัดนครราชสีมา ต.ปรุใหญ่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา มูลค่าก่อสร้างกว่า 2.2 พันล้าน ซึ่งเป็นสนามกีฬา
ขนาดใหญ่ที่สุดของภาคอีสานและใช้เป็นสนามแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 ปี 2550 ได้ถูกน้ำไหลท่วมบริเวณ
สนามเทนนิส 9 สนาม สนามฝึกซ้อมฟุตบอล 1 สนาม สนามฟุตซอล 1 สนาม ลู่วิ่งกรีฑา และถนนภายใน
สนามกีฬา สูงกว่า 50 ซม. ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้และรถยนต์ไม่สามารถเข้า-ออกภายในบริเวณสนามกีฬาได้
      

       ขณะที่ อ.ปักธงชัย น้ำที่ล้นออกจากเขื่อนลำพระเพลิง ได้ไหลเข้าท่วมบ้านประชาชน ถนนในเขตเทศบาล
เมืองปักธงชัย และไร่นาราษฎรอีกกว่า 4,000 ไร่ ได้รับผลกระทบ ล่าสุดปริมาณน้ำในเขื่อนลำพระเพลิง
อยู่ที่ 119 ล้านลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.) สูงกว่าระดับกักเก็บอยู่อีกเกือบ 20 ล้าน ลบ. ม. ซึ่งทางโครงการ
ส่งน้ำและบำรุงรักษาลำพระเพลิงยืนยันว่าเขื่อนยังคงมีความแข็งแรง แต่ต้องเร่งระบายน้ำให้เร็วที่สุด
      

       เช่นเดียวกับที่ อ.ด่านขุนทด น้ำจากลำเชียงไกรได้เอ่อไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนและถนนหลายสาย
ในพื้นที่ อ.ด่านขุนทด ชาวบ้านต้องเก็บข้าวของหนีน้ำอลหม่าน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบหลายพันไร่
      

       ทางด้าน อ.ปากช่อง นายคณีธีป บุญยเกตุ นายอำเภอปากช่อง เปิดเผยว่า น้ำจากอุทยานแห่งชาติ
เขาใหญ่ ได้ไหลเข้าท่วม 5 หมู่บ้านใน พื้นที่ ต.หนองสาหร่าย และ ต.ขนงพระ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ราษฎรได้รับความเดือดร้อนกว่า 2,000 คน ล่าสุดปริมาณน้ำยังคงเพิ่มสูงอย่างต่อเนื่อง
เฉลี่ยประมาณ 80 เซนติเมตรถึง 1 เมตร และขยายวงกว้างออกไปอีก โดยเฉพาะหมู่บ้านหนองจาน หมู่ 6
และบ้านโนนป่าติ้ว หมู่ 22 ต.หนองสาหร่าย น้ำท่วมสูงกว่า 1.50 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเข้าไปช่วยขนสิ่งของ
หนีน้ำและอพยพชาวบ้านไปอยู่บนถนนเพื่อความปลอดภัย

     

       ขณะที่ถนนมิตรภาพช่วง กม.ที่ 73-74 ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ
มีน้ำท่วมสูงรถยนต์ไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องเร่งระบายรถที่ติดเป็นระยะทางยาวให้เลี่ยงไปใช้
ถนนมิตรภาพสายเก่า ผ่านตัวเมือง อ.ปากช่อง แทน

     
       นอกจากนี้ ถนนมิตรภาพ บริเวณทางคู่ขนานทั้งขาเข้า-ขาออก ช่วงตั้งแต่โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย
อ.เมือง จ.นครราชสีมา ต่อเนื่องไปถึง อ.สูงเนิน และ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เกิดน้ำท่วมสูงรถยนต์ไม่สามารถ
วิ่งผ่านได้ โดยช่วงเฉพาะ ช่วง บ้านเลิศสวัสดิ์ อ.สีคิ้ว เจ้าหน้าที่ต้องเปิดช่องทางพิเศษให้รถวิ่งสวนทางกัน
เนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง ส่งผลให้การจราจรบนถนนมิตรภาพหนาแน่นรถเคลื่อนตัวได้ช้า และ ติดขัดเป็นระยะทาง
ยาวในหลายช่วง

     
       ส่วน อ.พิมาย ล่าสุด น้ำจากแม่น้ำมูล ได้ล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และพื้นที่ทางการเกษตร
กว่า 3,000 ไร่ รวมถึงแหล่งโบราณคดีสำคัญถูกน้ำท่วมสูงกว่า 30 ซม. โดยเฉพาะ กุดลือสี ซึ่งเป็นปราสาท
บริวารของปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่ ทางทิศตะวันออกของปราสาทหินพิมาย เจ้าหน้าที่สำนักงานศิลปกรที่ 12
จังหวัดนครราชสีมา ต้องเร่งสูบน้ำออกจากตัวปราสาท เกรงว่าหากมีน้ำท่วมขังนานอาจทำให้ปราสาทเสียหายได้
      

       สำหรับ ปราสาทหินพิมาย ตั้งอยู่กลางเมือง อ.พิมาย เกิดน้ำท่วมขังบริเวณรอบ ๆ ตัวปราสาทเจ้าหน้าที่
ได้ระดมเครื่องสูบน้ำทำการสูบน้ำออก อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังคงมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องครอบคลุม
พื้นที่ จ.นครราชสีมา ทั้งจังหวัด



ที่มา : เวบผู้จัดการ

ลพบุรี-น้ำป่าและน้ำจากอ่างเก็บน้ำล้นเข้าท่วมบ้านเรือน ปชช.



เกิดเหตุน้ำป่า และน้ำจากอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก ล้นสปริงเวย์ เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน พื้นใต้อ่างเก็บน้ำ ใน 3 ตำบล
ของ อ.เมืองลพบุรี

ฝนที่ตกติดต่อกันหลายวัน ในช่วงนี้ ส่งผลให้ น้ำจากเทือกเขาตะกร้าทอง ในเขตตำบลนิคมสร้างตนเอง ไหลลงสู่
อ่างเก็บน้ำซับเหล็กเป็นจำนวนมาก ถึงแม้จะเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของ จ.ลพบุรี แต่เนื่องจาก
ปริมาณน้ำ ที่ไหลเข้าสู่พื้นที่รองรับน้ำของอ่างในขณะนี้มากกว่าที่คาดการณ์ จนเกินความจุของอ่างที่รองรับน้ำได้
ทำให้น้ำล้นสปริงเวย์



ประกอบกับได้มีน้ำป่าจากเทือกเขา จีนแลระลอกใหม่ ไหลลงมาสมทบตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เกิดน้ำสูง
และเริ่มขยายวงกว้างกินพื้นทีไปกว่า 3 ตำบล ของ อ.เมืองลพบุรี ประกอบด้วย ต.นิคมสร้างตนเอง ต.ท่าศาลา
และ ต.กกโก ระดับน้ำท่วมสูงกว่า 50 เซนติเมตร บ้านเรือนประชาชนหลายหลัง ไม่สามารถขนย้ายสิ่งของ
หนีน้ำได้ทัน ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมสูง รถเล็กต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากกระแสน้ำไหลแรง ทำให้
การสัญจรในช่วงเช้าเป็นไปด้วยความยากลำบาก และติดขัดเป็นทางยาว กว่า 1 กิโลเมตร

ขณะที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จ.ลพบุรี เร่งส่ง จนท.ลงพื้นที่ เพื่อตัดกระแสไฟฟ้าในจุดเสี่ยง เพื่อป้องกัน
อันตรายจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจร เนื่องจากระดับน้ำยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมเตือนประชาชนให้อยู่ห่าง
จากสายไฟ และรีบเคลื่อนย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านให้พ้นจากระดับน้ำ เนื่องจากก่อนหน้าได้มีผู้ถูกกระแสไฟฟ้า
ช็อตเสียชีวิตมาแล้ว 1 ราย ด้วย



ที่มา : www.krobkruakao.com (http://www.krobkruakao.com)

น้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก รถเล็กสัญจรไม่ได้



เพชรบูรณ์ 16 ต.ค. - เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก จนรถยนต์เล็กไม่สามารถวิ่งผ่านได้

น้ำป่าจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลเข้าท่วมถนนสายสระบุรี-หล่มสัก ถนนสายหลักจากเทศบาลตำบลพุเตย
ถึงตำบลพุขาม อำเภอวิเชียรบุรี  ยาว 4 กิโลเมตร สูง 50-70 เซนติเมตร ทำให้รถยนต์ขนาดเล็กไม่สามารถ
สัญจรวิ่งผ่านไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องแจ้งให้หันไปใช้ถนนสายวิเชียรบุรี-ศรีเทพ ซึ่งเป็นถนนสายเก่าแทน บ้านเรือน
ราษฎรถูกน้ำท่วมกว่า 20 หลังคาเรือน ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยป่าแดง ระดับน้ำสูงเกินกว่าระดับเก็บกัก จนเอ่อล้น
สปริงเวย์ ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรและพื้นที่ทางการเกษตรนับพันไร่ หัวหน้าโครงการชลประทานจังหวัดเพชรบูรณ์
กล่าวว่า หากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง จะส่งผลกระทบต่อชุมชน บ้านคลองศาลา ตำบลสะเดียง อำเภอเมือง
แต่น่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมือง


. -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมโคราชหนัก รถผ่านถ.มิตรภาพไม่ได้ต้องเลี่ยงใช้เส้นอื่นแทน
‏



เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในหลายอำเภอของจ.นครราชสีมา โดยเฉพาะ
ที่อ.สูงเนิน ระดับน้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะสะพานข้ามลำตะคองที่บ้านหินตั้ง ถูกน้ำพัดขาด ชาวบ้านไม่สามารถ
สัญจรไป-มาได้ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

ส่วนที่ตำบลสูงเนินและตำบลนากลาง น้ำที่ท่วมถนนมิตรภาพเข้า กทม.จากวัดห้วยตะคร้อ –บ้านนา ต.นากลาง
และเขตอุตสาหกรรมนวนคร อ.สุงเนิน ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นประมาณ 70-80 ซม. ระยะทาง 4 กม. และช่วงจาก
บ้านบุใหญ่ถึงหน้าบริษัทซีเกท ต.สูงเนิน ระยะทาง 2 กม. ระดับน้ำสูงประมาณ 80 ซม. รถยนต์ทุกชนิด
ไม่สามารถผ่านได้  ทาง สภ.สูงเนินร่วมกับตำรวจบ้านต้องเร่งระบายรถยนต์ทุกชนิดที่จะเข้า กทม.ให้ใช้เส้นทาง
สำรองคือเลี้ยวเข้าบ้านสลักไดเรียบทางรถไฟเข้าตัวอำเภอสูง เนินแล้วไปออกปากทางอ.สูงเนิน รวมทั้งเปิดเส้นทาง
พิเศษให้รถวิ่งสวนช่องจราจรถนนมิตรภาพฝั่งที่จะเข้าตัว เมืองนครราชสีมาอีก 1 ช่องจราจร เพื่อแก้ไขปัญหา
การจราจรที่ติดขัด

ส่วนรถที่จะเข้า กทม. ที่วิ่งมาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือเมื่อวิ่งมาถึงจ.นครราชสีมา ให้เลี่ยงไปใช้เส้นทาง
สายนครราชสีมา-กบินทร์บุรี หรือเมื่อวิ่งไปถึง อ.ปักธงชัยให้เลี้ยวขวาไปบายพาสสายปักธงชัย-สีคิ้ว และเมื่อ
ไปถึงศูนย์การสุนัขทหาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ให้เลี้ยวขวาเข้าตัวอ.ปากช่อง เพราะบริเวณถนน
มิตรภาพบายพาส อ.ปากช่อง ก็ถูกน้ำจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ไหลเข้าท่วมและตัดถนนขาดเช่นกัน
 
นายระพี  ผ่องบุพกิจ  ผวจ.นครราชสีมา ได้ประกาศพื้นที่ของจ.นครราชสีมา จำนวน 15 อำเภอ เป็นพื้นที่
ประสบภัยพิบัติอุทกภัย และจัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจแก้ไขปัญหาอุทกภัยของจังหวัดนครราชสีมา ณ สำนักงาน
ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยจังหวัด ถ.สุรนารายณ์ อ.เมือง


http://www.matichon.co.th (http://www.matichon.co.th)

"สองสาว" ระทึก!! ติดแหง่กเก๋ง เจอน้ำพัดรถลอยเคว้ง-หนุ่ม บขส.ฮีโร่ช่วยทัน

‏


พลเมืองดีมือไว ส่งภาพสองสาวเจอรถกระบะวีโก้ซิ่งชนท้าย เป็นเหตุให้รถกระเด็นข้ามฝั่ง จมลงในน้ำท่วมขัง
ซึ่งนาทีระทึกเกิดขึ้น เมื่อสองสาวต้องผจญสายฝนห่าใหญ่ที่ตกกระหน่ำ ส่งผลรถหมุนลอยเคว้ง จนคนขับบัส
บขส. ต้องลงไปช่วยชีวิต
       
       วันนี้ (16 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.35 น. พลเมืองดีมือไวขับรถผ่านไปเจออุบัติเหตุ และได้ถ่ายภาพ
ส่งมาให้ทีมงานผู้จัดการออนไลน์ ซึ่งหลังจากฝนตกกระหน่ำมาหลายวัน ทำให้เกิดน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ จึงเกิด
อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เมื่อสองสาวขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า วีออส ถูกรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ ชนท้ายรถ
เข้าอย่างจัง เป็นเหตุให้รถกระเด็นข้ามฝั่ง ไปตกอยู่บริเวณถนนที่น้ำท่วมขังสูง โดยเหตุเกิดขึ้นบริเวณถนนฝั่ง
ขาเข้า จ.นครราชสีมา ก่อนจะถึงการประปา อ.สูงเนิน
       
       ทั้งนี้ สองสาวที่ติดอยู่ในรถเก๋งวีออส กรีดร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากรถถูกกระแสน้ำพัดหมุนวน
ทำให้ลอยเคว้งไปมา ทั้งนี้มีพนักงานขับรถ บขส. ที่เห็นเหตุการณ์ทนอยู่เฉยไม่ได้ ลงจากรถไปช่วยสองสาวทันที
โดยดึงทั้งคู่ขึ้นมาจากน้ำรอดพ้นอันตรายอย่างหวุดหวิด
       
       อนึ่ง ขอเตือนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนทุกท่านให้ระมัดระวังอุบัติเหตุ โดยขับรถอย่างมีสติ เนื่องจากสายฝนที่
ตกกระหน่ำ อาจทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี จึงฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ เพราะอาจจะไม่โชคดีอย่างสองสาวผู้นี้


http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000145923 (http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9530000145923)

อุทยานฯ เขาใหญ่สั่งปิดแหล่งท่องเที่ยว 3 จุด


หัวหน้าอุทยานแห่ง ชาติเขาใหญ่หวั่นอันตรายจากน้ำป่าที่ไหลลงจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ สั่งปิด
แหล่งท่องเที่ยว 3 จุด เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเข้ม 24 ช.ม. พร้อมเครื่องสัญญาณเตือนภัย

หลังจากที่มีฝนตกในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรีอย่างต่อ เนื่อง 2-3 วันที่ผ่าน ส่งผลให้ปริมาณน้ำบนอุทยานแห่งชาติ
เขาใหญ่มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้มีการประกาศเตือน และปิดแหล่งท่องเที่ยวทันที

นายมาโนช การพนักงาน หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้กล่าวว่า ใน 2-3 วันมานี้ มีสภาพอากาศฝนตกหนัก
ทำให้ปริมาณน้ำในลำห้วยต่าง ๆ ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะฝั่งปากช่องมีน้ำท่วม ปริมาณน้ำไหลลงค่อนข้างเยอะ
วันนี้ได้รายงานท่านอธิบดี ฯ นายสุนันท์ อรุณนพรัตน์ ว่าขอปิดแหล่งท่องเที่ยวบนเขาใหญ่ 3 จุดด้วยกัน จุดแรก
บริเวณน้ำตกเหวนรก เราจะไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าเพราะปริมาณน้ำสูงมาก จุดที่ 2 กิจกรรมล่องแก่ง ที่แก่งหินเพิง

และยังได้แจ้งเตือนไปยังฝั่งน้ำตกสาลิกา นางรอง และห้วยตะไคร้ และขณะนี้ฝั่งอำเภอประจันตคามน้ำกำลังลง
ไปค่อนข้างเยอะ เช่นกัน สำหรับนักท่องเที่ยวฝากเตือน น้ำตกเหวนรก น้ำตกเหวสุวัติ เราไม่ให้ลงไป สรุป
กิจกรรมที่งด คือ น้ำตก 2 จุด ล่องแก่ง 1 จุด ส่วนกิจกรรมเดินป่า ที่ต้องข้ามลำห้วย 2 เส้นทาง ที่หนองผักติ้ว
และหนองผักชี เราก็ห้ามเข้า


จากการตรวจสภาพน้ำที่บริเวณสะพานน้ำตกเหวนรก พบว่าสีน้ำเป็นสีแดงขุ่นไหลเชี่ยว มีระดับน้ำสูงถึง 2 เมตร
ถือว่าเป็นระดับเข้าสู่อันตรายอาจจะเกิดน้ำป่าได้โดยฉับพลัน จุดดังกล่าวเป็นจุดที่มีการติดตั้งเครื่องสัญญาณ
เตือนภัยเป็นการแสดงกราฟการ ไหลเชี่ยวของน้ำ และเครื่องเตือนระดับน้ำเมื่อเข่าสู่จุดวิกฤต โดยเครื่องจะทำการ
ส่งเสียง และส่งสัญญาณไปยังกรมอุตุอุดมวิทยาทันที โดยมีเจ้าหน้าที่เฝ้าจุดดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง

17 ตค. 53

น้ำท่วมทางเข้าแหล่งท่องเที่ยวล่องแก่งหินเพิง



ปราจีนบุรี 17 ต.ค.- น้ำท่วมปราจีนบุรีขยายพื้นที่ ชาวบ้านเดือดร้อนหลายตำบล และท่วมทางเข้าล่องแก่งหินเพิง
นักท่องเที่ยวพากันยกเลิกทั้งหมด

สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี วันนี้ (17 ต.ค.) ขยายวงกว้าง เนื่องจากยังมีน้ำจากอุทยานแห่งชาติ
เขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลาน ไหลลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ชาวบ้านอำเภอกบินทร์บุรี และอำเภอนาดี
เดือดร้อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอำเภอกบินทร์บุรี น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร บนถนนกบินทร์บุรี-แก่งหินเพิง หมู่ 3
ตำบลสะพานหิน ระยะทางกว่า 100 เมตร รถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ ซึ่งเป็นเส้นทางที่จะเข้าไปยังรีสอร์ท
ในพื้นที่แก่งหินเพิง ขณะเดียวกันทางเข้าที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 10  น้ำท่วมกว่า 1 เมตร นักท่องเที่ยว
ที่จองที่พักและเรือยางไว้ เพื่อล่องแก่งต้องยกเลิกและเดินทางกลับ

นอกจากนี้ แควหนุมานยังล้นฝั่งท่วม 4 หมู่บ้าน บางจุดน้ำสูงกว่า 2 เมตร  บางหลังจมน้ำเหลือเพียงชั้นบน
ทาง อบต.สะพานหิน นำเรือท้องแบนและเรือยางของรีสอร์ทไปช่วยอพยพชาวบ้านและทรัพย์สินออกมายัง
จุดปลอดภัย  ส่วนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์ น้ำสูง 50-120 ซม. เดือดร้อน 7 หมู่บ้าน 3 ตำบล

นายสินธุ์  ศรีเคลือบ  ผู้จัดการแก่งหินเพิงริเวอร์ไซต์ รีสอร์ท กล่าวว่า ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อยู่ตลอด ซึ่งน้ำขณะนี้มาจากหลายสาย ทั้งทางทับลานและอำเภอประจันตคาม หากฝนทิ้งช่วง 2-3 วัน คาดว่า
จะล่องแก่งได้ตามปกติ  แต่ขณะนี้ได้รับผลกระทบแล้วคือ นักท่องเที่ยวจองที่พักไว้เพื่อล่องแก่งแจ้งยกเลิกหมดแล้ว

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เปิดประตูระบายน้ำทำให้น้ำไหลท่วมบ้านเรือน


สระบุรี 17 ต.ค.-เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เปิดประตูระบายน้ำลงแม่น้ำป่าสัก ส่งผลให้น้ำไหลทะลักเข้าท่วมบ้านเรือน
ประชาชนในอำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี

ฝนที่ตกลงมาต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สูง จนต้องระบายน้ำออกทางท้ายเขื่อน ทำให้
บ้านเรือนของประชาชนนับร้อยหลังคาเรือน ในหมู่ 1 ตำบลบ้านครัว อำเภอบ้านหมอ จังหวัดสระบุรี ได้รับผลกระทบ
โดยน้ำในแม่น้ำป่าสักไหลทะลักเข้าบ้านเรือนอย่างรวดเร็ว จนขนสิ่งของหนีน้ำไม่ทัน เนื่องจากกระแสน้ำมีความแรง
ขณะเดียวกันหน่วยงานราชการได้เร่งให้ความช่วยเหลือและสำรวจความเสียหาย อย่างไรก็ตามคาดว่าเบื้องต้น
มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายเกือบ 200 หลังคาเรือนและหากยังมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะต้องปล่อยน้ำ
ลงท้ายเขื่อนอีก ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนประมาณพันกว่าหลังคาเรือน

น้ำท่วมรางรถไฟแล้ว 5 จุด ในพื้นที่ภาคอีสาน


กรุงเทพฯ 17 ต.ค.- นายพรสุทธิ ทองสาด หัวหน้าสำนักงานประจำ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)  กล่าวว่า
จากสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่างๆ ขณะนี้ส่งผลให้รถไฟไม่สามารถเดินในเส้นทางสายอีสานได้ตามปกติ
ซึ่งจากการรายงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพบว่าเมื่อวันที่ 16 ต.ค. พบจุดน้ำท่วมสูงกว่าราง 3 จุด ในพื้นที่
จ.นครราชสีมาโดยระดับน้ำท่วมสูงถึง 1.20 เมตร และระดับน้ำที่ท่วมสูงดังกล่าว ทำให้การรถไฟฯ ไม่สามารถ
ให้บริการเดินรถได้

ดังนั้น การรถไฟจะประเมินสถานการณ์อีกครั้งว่า จะให้บริการเดินรถได้เมื่อไร ขณะเดียวกันได้สั่งการให้
ฝ่ายการเดินรถและฝ่ายช่างกลของการรถไฟฯ ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมอย่างใกล้ชิด ซึ่งล่าสุด พบว่ามีจุดที่น้ำท่วมสูง
เพิ่มอีก 2 จุด ส่งผลให้น้ำท่วมรางรถไฟรวมทั้งสิ้น 5 จุด

สำหรับจุดที่น้ำท่วมสูง ประกอบด้วย 1. ระหว่างปางอโศก-บันไดม้า ในพื้นที่ อ.ปากช่อง 2. โคกกรวด-สถานีสูงเนิน
พื้นที่ อ.สูงเนิน 3. ช่วงคลองไผ่ อ.สีคิ้ว ในส่วนที่ได้รับรายงานเพิ่มเติมว่าได้พบพื้นที่น้ำท่วมสูงอีก 2 จุด คือ
สถานีชุมแสง จ.นครสวรรค์ ระดับน้ำท่วมสูงถึง 50 เซนติเมตร และพื้นที่ อ.โคกคีล์ จ.ชัยภูมิ น้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร


โดย
สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมที่ลพบุรีขยายวงกว้างประชาชนย้ายสิ่งของหนี


ลพบุรี 17 ต.ค.-สถานการณ์น้ำท่วมได้ขยายวงกว้างออกไปในหลายพื้นที่ที่จังหวัดลพบุรี ประชาชนต้องขนย้าย
สิ่งของหนีน้ำ และศูนย์การค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว

หลังจากที่ฝนตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำป่าจากเทือกเขาจีน เขาสามยอด และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
มีปริมาณน้ำสูงเกินการกักกัน ต้องเร่งระบายออกจากตัวเขื่อนลงสู่ท้ายเขื่อน ปริมาณฝนที่ตกลงมายังส่งผล
ให้หลายอำเภอในจังหวัดลพบุรี ประสบปัญหาน้ำป่าไหลหลาก มีน้ำท่วมขัง และไหลทะลักเข้าบ้านเรือน ประชาชน
ได้รับความเดือดร้อน ต้องขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ พื้นที่เกษตรกรเสียหายขยายเป็นวงกว้าง ส่วนร้านค้าและศูนย์การค้า
หลายแห่งในตัวจังหวัดต้องปิดกิจการชั่วคราว ส่วนที่ถนนพหลโยธินทั้งขาเข้าและขาออกจากตัวเมืองลพบุรี
และออกเส้นทางสระบุรีพัฒนานิคม ระดับน้ำสูง รถเล็กไม่สามารถวิ่งสัญจรได้

ตลาดอรัญฯ ยังจมน้ำส่งสินค้าชะงัก-จันทบุรีคึกคักรับอานิสงส์


ภูมิภาค 17 ต.ค.- ค้าชายแดนสระแก้วชะงัก น้ำท่วมยังตลาดอรัญประเทศ รถขนสินค้าจอดรออยู่ริมด่าน
กัมพูชาอ้างน้ำท่วมสูงฝั่งปอยเปต ขณะที่ชายแดนจันทบุรีรับผลพลอยได้เสื้อกันหนาวมือสองยอดขายพุ่ง คาด 2 วัน
เงินสะพัดกว่า 4 ล้านบาท

สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ล่าสุด (17 ต.ค.) แม้ระดับน้ำท่วมในวันที่ 2
เริ่มลดลง แต่ถนนหลายสายยังสัญจรลำบาก โดยเฉพาะรถเล็กไม่สามารถผ่านได้ ชาวบ้านเดือดร้อนกว่า 1,000
หลังคาเรือน ขณะที่พระสงฆ์ต้องเดินลุยน้ำออกมาบิณฑบาต ซึ่งน้ำท่วมตลาดอรัญประเทศครั้งนี้ถือว่าหนักที่สุด
ในรอบ 13 ปี ทางเทศบาลเมืองอรัญประเทศตั้งศูนย์อำนวยการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมบริเวณหน้าศาล
พระสยามเทวาธิราช ส่วนผู้ค้าในตลาดต้องขนสินค้าไปวางขายบนไหล่ถนน หน้าสำนักงานไปรษณีย์อรัญประเทศ
และหน้าสถานีรถไฟอรัญประเทศ

สำหรับด่านพรมแดนบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ เขตติดกับฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งประสบปัญหา
น้ำท่วมเช่นกัน รถบรรทุกสินค้าจากไทยไปยังปอยเปตต้องหยุดชะงัก เนื่องจากทางกัมพูชาแจ้งว่าโกดังเก็บสินค้า
ถูกน้ำท่วมสูง ไม่มีที่เก็บสินค้า จึงสั่งงดรถบรรทุกนำสินค้าเข้ากัมพูชาชั่วคราว โดยรถบรรทุกสินค้าต้องจอดรออยู่
บริเวณไหล่ถนนหน้าทางเข้าตลาดโรงเกลือ

ด้านนายสมบัติ จึงตระกูล อุปนายกสมาคมผู้ประกอบการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จ.จันทบุรี กล่าวว่า การค้า
ชายแดนของจันทบุรีช่วง 2 วันที่ผ่านมาคึกคักขึ้น โดยเฉพาะเครื่องนุ่งห่มกันหนาวมือสอง เนื่องจากขณะนี้
ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว แหล่งการค้าชายแดนใหญ่ที่สุดประสบปัญหาน้ำท่วมสูง ไม่สามารถค้าขายได้ ประกอบกับ
สภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีเริ่มเย็น ทำให้การค้าขายเสื้อกันหนาวมือสองสูงขึ้นกว่าเดิม คาดว่าช่วง 2 วัน
มีเงินสะพัดกว่า 4 ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมาถึงกว่าร้อยละ 70

ผู้ว่าฯ สระแก้วมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วม


สระแก้ว 17 ต.ค.-ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วมอบถุงยังชีพให้ชาวบ้านที่ประสบภัยน้ำท่วมในอำเภออรัญประเทศ

นายศานิตย์  นาคสุขศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นำถุงยังชีพออกแจกจ่ายช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน
จากภัยน้ำท่วมในอำเภออรัญประเทศ พื้นที่ส่วนใหญ่ถูกน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้
จากนั้นได้นำคณะสำรวจความเสียหายที่ตลาดโรงเกลือ พบว่าน้ำได้ลดลงใกล้เข้าสู่ภาวะปกติ จึงสั่งยกเลิก
ห้ามรถยนต์เข้าตลาดโรงเกลือแล้ว นอกจากนี้ตำรวจ ตชด.อรัญประเทศได้นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือ
รับส่งชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม

ขณะที่ทางการกัมพูชา ห้ามรถบรรทุกสินค้าจากไทยที่เข้าไปส่งในฝั่งปอยเปตในช่วงนี้ เนื่องจากน้ำท่วมถนน
และโกดังเก็บสินค้า หากรถบรรทุกนำสินค้าเข้าไป จะไม่มีสถานที่เก็บสินค้า จึงต้องขอให้หยุดส่งสินค้าชั่วคราว


โดย
สำนักข่าวไทย

อุตุฯเตือนภัย ฉ.26 ฝนตกหนัก-น้ำท่วมฉับพลัน!!!


กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเตือนภัยฉบับที่ 26 ให้ประชาชนบริเวณเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ภาคกลาง และภาคตะวันออกที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่าน และพื้นที่ราบลุ่ม
ริมฝั่งแม่น้ำ ระวังฝนตกหนักน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก...


ประกาศเตือนภัย "ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน" ฉบับที่ 26 วันที่ 18 ตุลาคม 2553

ในวันนี้ (18 ต.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลางเคลื่อนทางตะวันตกตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่าน
ภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยตอนบนยังมีมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนัก
หลายพื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก
ที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหล ผ่าน และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตราย
จากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง  สำหรับคลื่นลมในทะเล
อันดามันและอ่าวไทย ยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

     อนึ่งในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. 53 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม ภาค
ตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา


กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการพยากรณ์อากาศประจำวัน ประจำวันที่ 18 ตุลาคม 2553 
ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.ในวันนี้ (18 ต.ค.53) หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมภาคกลาง
เคลื่อนทางตะวันตกตามแนวร่องมรสุมที่พาด ผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทย
ตอนบนยังมีมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักหลาย พื้นที่ จึงขอให้ประชาชนบริเวณเหนือตอนล่าง
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน
และพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก
และน้ำล้นตลิ่ง สำหรับคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยยังคงมีกำลังค่อนข้างแรง ขอให้ชาวเรือระมัดระวัง
อันตรายในการเดินเรือในระยะนี้ไว้ด้วย

    อนึ่ง ในช่วงวันที่ 18-20 ต.ค. 53 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุม
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ ทำให้บริเวณดังกล่าวอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศา

   พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้. ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง
กระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก
และเพชรบูรณ์ อุณหภูมิต่ำสุด 21 องศา สูงสุด 34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนองเกือบทั่วไป ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ
จังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 22 องศา
สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่
และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี สุพรรณบุรี และราชบุรี
อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

  ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก
ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

  ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณ
จังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 33 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว
15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา
ภูเก็ต และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23 องศา สูงสุด 32 องศา ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

   กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองทั่วไป ร้อยละ 90 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง
อุณหภูมิต่ำสุด 24 องศา สูงสุด 30 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม.


  ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์   วันจันทร์ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ.2553

จ.ปราจีนบุรี ได้รับผลกระทบจากน้ำป่า เข้าท่วมหลายพื้นที่ ฟาร์มไก่แห่งหนึ่งถูกน้ำท่วม เป็นเหตุให้ไก่
ตายยกฟาร์มกว่าหมื่นตัว ขณะที่บ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมสูงหลายพื้นที่ ทางการเร่งให้ความช่วยเหลือ
อย่างเร่งด่วนแล้ว...

ขอบคุณ: ไทยรัฐออนไลน์

นอกจากปราจีนบุรี ที่สระแก้วกับระยอง 2 จังหวัดทางฝั่งภาคตะวันออก
ก็ถูกน้ำท่วมเช่นกัน รวมทั้งในพื้นที่นครสวรรค์บางส่วน ก็ไม่รอด

ขอบคุณ: ภาพจากไทยรัฐออนไลน์

18 ตค. 53



นครราชสีมา 18 ต.ค.- ตัวเมืองนครราชสีมาจมบาดาล เผยปีนี้หนักสุดเป็นประวัติการณ์ ลำตะคองทะลัก
เข้าเต็มพื้นที่สูง 2 เมตร เดือดร้อนนับล้านคน เสียชีวิตแล้ว 4  โรงพยาบาลใหญ่ทุลักทุเลน้ำท่วมอาคารเก็บศพ
การไฟฟ้าตัดไฟ 3 อำเภอ

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ล่าสุด (18 ต.ค.) ทุกพื้นที่ยังคงอยู่ในภาวะวิกฤติ 
ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขตเทศบาลนครราชสีมา น้ำลำตะคองทะลักเข้าหลายชุมชน ทั้งโรงพยาบาล
สถานศึกษา สถานที่ราชการ สนามกีฬา  สถานีขนส่ง โรงแรม  หมู่บ้านจัดสรร ถือเป็นน้ำท่วมหนักสุดเป็นประวัติการณ์
โดยพื้นที่อยู่ในภาวะวิกฤติ คือ ถ.สุรนารายณ์ ตั้งแต่สี่แยกจอหอไปถึงมหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา ระยะทาง
กว่า 7 กม.  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ.นครราชสีมา และ มหาวิทยาลัยราชภัฎนครราชสีมา
ประกาศปิดการเรียนการสอนชั่วคราวอย่างไม่มีกำหนด

เช่นเดียวกับ ถ.ช้างเผือก ที่ตั้ง รพ.มหาราชนครราชสีมา น้ำสูงกว่า 1 เมตร ไม่สามารถสัญจรได้ ต้องใช้เรือท้องแบน
รับ-ส่งแพทย์พยาบาลและญาติผู้ป่วย โดยอาคารเก็บศพถูกน้ำท่วมโลงศพลอย ส่วนศพเจ้าหน้าที่ขนย้ายไปอยู่
ที่สูงไว้ก่อนแล้ว สำหรับโรงพยาบาลเซ็นต์แมรี่ หมู่บ้านวีไอพี และสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดนครราชสีมา
แห่งที่ 2 น้ำท่วมสูงกว่า 1.5 เมตร รถยนต์นำออกมาไม่ทันจมน้ำเสียหายหลายคัน

สำหรับเส้นทางที่ปิดการจราจร  4 เส้นทาง คือ ทางหลวงหมายเลข 290  ทางเลี่ยงเมืองสูงเนิน-ปักธงชัย
ทางหลวงหมายเลข 201 สายสีคิ้ว-ชัยภูมิ ทางหลวง 2148 หนองสรวง-ด่านขุนทด ผ่านได้เฉพาะรถยนต์
ขนาดใหญ่ และทางหลวงหมายเลข 224 โชคชัย-ครบุรี ขณะที่เส้นทางรถไฟ ขาขึ้นไปกรุงเทพฯ ใช้ได้เฉพาะ
สถานีรถไฟปากช่อง อ.ปากช่องเท่านั้น ไม่สามารถวิ่งเข้าตัวเมืองโคราชได้ และขาล่องลงสู่ภาคอีสานใช้ได้ที่
สถานีหัวรถไฟ อ.เมือง

นอกจากนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจำเป็นต้องตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วม ทั้ง อ.เมืองรวม 10 จุด  อ.ปักธงชัย
10 จุด และ อ.โชคชัย  12 จุด  ทั้งนี้ ศูนย์ปฏิบัติการจังหวัดนครราชสีมาได้ประกาศแจ้งเตือนไปยังประชาชน
ที่อยู่ ใกล้ลำน้ำมูล เช่น อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.จักราชให้เตรียมรับมือน้ำท่วมสูงในวันนี้



จาก:สำนักข่าวไทย

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- โคราชวิกฤตหนัก! น้ำลำตะคองทะลักท่วมเขตเทศบาลนครนครราชสีมา เผยรพ.มหาราช
จมบาดาล ระดับน้ำสูงกว่า 1 เมตร เร่งขนย้ายผู้ป่วย-เครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์หนีน้ำ รถรับส่งผู้ป่วย-รถยนต์เล็ก
ทุกชนิดผ่านเข้าออกไม่ได้ ผู้ว่าฯ นำทีมรุดตรวจพร้อมเรียกประชุมผู้บริหาร รพ.รับมือน้ำทะลักเพิ่มต่อเนื่อง
ด้านทภ. 2 ระดมกำลังทหาร พร้อมรถบรรทุกเข้าช่วยเหลือขนถ่ายจนท.แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยและญาติ
เดินทางเข้าออกรพ. เผยโคราชมีผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมแล้ว 3 ราย
       
       วันนี้ (18 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำท่วมที่ จ.นครราชสีมา ว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้สถานการณ์
น้ำท่วมยังอยู่ในขั้นวิกฤติ โดยเมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 17 ต.ค. น้ำจากลำตะคองที่ผ่านตัวอำเภอเมืองนครราชสีมา
ได้ไหลเข้าท่วมเขตเทศบาลนครนครราชสีมาอย่างหนัก ตลอดสองฝั่งลำตะคอง ทั้ง ถนน อาคารบ้านเรือนประชาชน
หมู่บ้านจัดสรร สถานที่ราชการ วัด โรงเรียน และโรงพยาบาล บางจุดมีน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร
       
       โดยเฉพาะที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ถ.ช้างเผือก เขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงพยาบาล
ขนาดใหญ่ที่สุดในภาคอีสาน น้ำจากลำตะคองได้ทะลักเข้าท่วมภายในบริเวณโรงพยาบาลทั้งหมดระดับสูงกว่า 1 เมตร
เจ้าหน้าที่ แพทย์ พยาบาล ต้องเร่งขนย้ายผู้ป่วย และ อุปกรณ์ทางการแพทย์ขึ้นไว้ในที่สูง หรือบริเวณชั้น 2
ของแต่ละอาคาร
       
       ทางด้านกองทัพภาคที่ 2 (ทภ.2) ได้ส่งเจ้าหน้าที่ทหาร จากมณฑลทหารบกที่ 21 (มทบ.21) พร้อม
รถบรรทุกขนาดใหญ่มาให้บริการ แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยและญาติผู้ป่วย ในการเดินทางเข้าออกโรงพยาบาล
เนื่องจากรถรับส่งผู้ป่วยและรถยนต์เล็กทุกชนิดไม่สามารถเข้าไปได้ และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี
นครราชสีมา ซึ่งตั้งอยู่ในโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ประกาศปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 วัน
นักศึกษาพยาบาลต้องขนข้าวของเดินลุยน้ำออกมาขึ้นรถเพื่อเดินทางกลับภูมิลำเนาในต่างจังหวัด เช่นเดียวกับที่
โรงพยาบาลจิตเวชนครราชสีมาราชนครินทร์ ซึ่งตั้งอยู่ด้านโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ถูกน้ำท่วมสูง
และระดับน้ำยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
       
       ต่อมาเวลา 21.30 น. นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายวิทยา กามนต์
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา , นายสมศักดิ์ ปะริสุทโธ เหมทานนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ,
พล.ต.ต่อศักดิ์ เหลืองตระกูล ผู้บัญชาการ มทบ.21 และ นพ.วิชัย ขัตติยวิทยา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด
นครราชสีมา ได้เดินทางตรวจสถานการณ์น้ำท่วมเป็นการด่วนที่ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา พร้อมเรียก
ประชุมด่วนผู้บริหารโรงพยาบาล เพื่อหามาตรการในการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม และรับมือน้ำที่จะทะลักมาเพิ่มอีก
เป็นจำนวนมากในวันนี้ (18 ต.ค.)
       
       นอกจากนี้ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศและแจ้งไปยังผู้ป่วยที่แพทย์นัดตรวจ
ในวันนี้ ( 18 ต.ค.) หากยังมียาเหลืออยู่และอาการไม่หนักมากให้เลื่อนนัดออกไปอีก 1 สัปดาห์
หรือจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย และในวันนี้ ( 18 ต.ค.) ทางโรงพยาบาลจะตั้งจุดคัดกรองผู้ป่วยที่บริเวณ
โรงแรมพีกาซัส และ โรงเรียนสุรนารีวิทยา ถ.ช้างเผือก หากประชาชนต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ติดต่อได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 044-235-071
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า มีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้แล้ว 3 ราย แบ่งเป็น อ.ปากช่อง 1 ราย
และ อ.ด่านขุนทดอีก 2 ราย และมีประชาชนติดอยู่ภายในบ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วมอยู่อีกเป็นจำนวนมาก โดยในวันนี้
(18 ต.ค.) นายระพี พร้อมคณะจะขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินตรวจสภาพน้ำท่วมทั้งจ.นครราชสีมา เพื่อประเมิน
สถานการณ์และสั่งการแก้ไขปัญหาต่อไป




จาก ผู้จัดการ

19 ตค. 53

น้ำคลองชลประทานล้นตลิ่งไหลท่วมเมืองลพบุรี


    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดลพบุรี เข้าสู่วันที่ 4 แล้วแต่สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นกลับยิ่ง
วิกฤติมากยิ่งขึ้น เนื่องจากว่าปริมาณน้ำยังมีจำนวนมากและขึ้นสูงทุกชั่วโมงทำให้ชาวบ้านจำนวน มากไม่สามารถ
อาศัยในบ้านได้ต้องอพยพมาอยู่ริมถนนและที่สูงเพื่อความปลอดภัย และยังมีชาวบ้านอีกหลายครอบครัวที่ถูก
ตัดขาดขอความช่วยจากเจ้าหน้าที่ที่ยัง เข้าไปไม่ถึงจากน้ำท่วมสูงและไหลแรง

    โดย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรีหลังลงพื้นที่ ตรวจน้ำท่วมในตำบลหนองเมืองและ
ตำบลพุคาพร้อมน้ำรถปั่นไฟฟ้าเข้าช่วยเหลือชาว บ้าน เพื่อให้แสงสว่างในยามค่ำคืน ซึ่งขณะนี้ระดับน้ำที่ท่วมขัง
เพิ่มสูงขึ้นทุกชั่วโมง ทำให้ระดับน้ำในตัวหมู่บ้านสูงอยู่ที่ 2-3 เมตรแล้ว ขณะที่ในทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วมมีความสูง
อยู่ที่ 4-5 เมตร ทำให้การช่วยเหลือในขณะนี้ทำด้วยความอยากลำบากมากยิ่งขึ้น จนทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก

    ขณะนี้จังหวัดลพบุรีได้ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติจากอุทกภัยแล้ว ทั้ง11 อำเภอของจังหวัดลพบุรี
โดยมีน้ำท่วมสูงและหนักที่สุดอยู่ทึ่อำเภอ เมือง ในตำบลเขาสามยอด ท่าศาลา ถนนใหญ่ อำเภอบ้านหมี่ที่ตำบลพุคา
หนองเมือง หนองกระเบียน และดงพลับ โดยเฉพาะที่หนองเมืองและพุคาดูจะหนักกว่าที่อื่นเพราะการเข้าออก
ต้องใช้เรือ และขณะนี้เรือยังไม่พอในการเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน ล่าสุดเมื่อกลางดึกวันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา
ระดับน้ำจากคลองชลประทานอนุศาสนันซึ่งเป็นคลองขุดรับน้ำจากแม่ น้ำเจ้าพระยาได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่
ตำบลป่าตาลย่านธุรกิจ กลางเมืองลพบุรี ทำให้หมู่บ้านริมชล หมู่บ้านสระแก้ว และอีกหลายหมู่บ้านจมอยู่ใต้น้ำทันที่
ส่วนการสัญจรในขณะนี้รถยนต์ทุกชนิดไม่สามารถทำได้แล้ว ทำการธุรกิจหยุดชะยักลง

    ด้านชาวบ้านในอำเภอบ้านหมี่ ที่ตำบลหนองเมือง ตำบลพุคา และอีกหลายตำบลกำลังขาดแคลนน้ำดื่ม
และน้ำใช้หลังน้ำประปาใช้ไม่ได้ และน้ำดื่มที่เตรียมไว้ก็ถูกน้ำท่วมจนหมด ทำให้ขณะนี้ชาวบ้านหลายหมู่บ้าน
กำลังขาดแคลนอย่างหนัก และรอการช่วยเหลือ จากภาครัฐ และน้ำใจจากคนไทย


NECTEC

ชัยภูมิ เตือน ปชช.อพยพขึ้นที่สูงก่อนเที่ยง



    ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมจ.ชัยภูมิ เริ่มเข้าสู่ภาวะวิกฤต นายปฤหัส วงศ์ชัยภูมิ ชลประทานจ.ชัยภูมิ ออกประกาศ
แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เขต อ.เมืองชัยภูมิ หลังล่าสุดเกิดฝนตกหนักมาตลอดทั้งคืนบนสันเขื่อนลำปะทาว
อ.แก้งคร้อ ตอนบน และเขื่อนลำปะทาว ตอนล่าง อ.เมืองชัยภูมิ ซึ่งมีความจุ กว่า 66 ล้าน ลบ.ม. จนเขื่อน
ไม่สามารถรองรับได้และมีน้ำล้นสันเขื่อนมาตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำอยู่ที่ 91 ซม. ล่าสุด
ระดับน้ำล้นสันเขื่อนพุ่งสูงมาอยู่ที่ 1.50 เมตรแล้ว จึงขอประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เขตอ.เมืองชัยภูมิ
ให้เร่งอพยพสิ่งของขึ้นสู่ที่สูงทันทีภายในเวลาก่อนเที่ยงวันนี้ ซึ่งจะมีราษฎรที่ตั้งอยู่ใกล้ริมตลิ่ง ห้วยลำปะทาว
ที่จะมีปริมาณน้ำไหลลงสู่ เขตต.นาฝาย ,ต.นาเสียว ,ต.บ้านเล่า และเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ ทั้ง 25 ชุมชน
จำนวนมากเข้าสู้ตัวเมืองทั้งหมดไม่เกินเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนี้ และคาดว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เข้าท่วมตัวเมือง
และมีระดับท่วมขังสูงอย่างน้อย กว่า 1- 1.50 เมตร อย่างรวดเร็ว อย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์
และติดตั้งเครื่องสูบน้ำที่มีทั้งหมด 19 จุด เพื่อระบายน้ำออกนอกเมืองขณะนี้ไม่สามารถสูบน้ำได้แล้ว เพราะระดับน้ำ
ล้นตลิ่งและตีกลับไหลเข้าเมืองทั้งหมดแล้ว

    ขณะที่ด้านสถานการณ์น้ำบนเขื่อนจุฬาภรณ์ อ.คอนสาร ที่มีความจุกว่า 188 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งมีระดับน้ำล้นสันเขื่อน
สูงกว่า 1 .50 เมตร ด้วยเช่นกัน ขณะนี้ทางเขื่อนเร่งระบายน้ำเข้าท่วมเขตอ.คอนสาร, เกษตรสมบูรณ์, ภูเขียว
และอ.บ้านแท่น และคาดว่าจะเข้าท่วมต่อที่เขตอ.ใกล้เคียงในจ.ขอนแก่นภายใน 2-3 วันนี้ เป็นวงกว้างและเข้าท่วม
ในเขตอ.เกษตรสมบูรณ์ สูงกว่า 1.50 เมตร แล้วด้วยเช่นกัน และทำให้ทางเข้าอำเภอเกษตรสมบูรณ์
ผ่าน อ.หนองบัวแดง เข้าอ.บ้านเดื่อ น้ำท่วมถนนและพัดรุนแรง สูงกว่าเมตร ไม่สามารถใช้เส้นทางนี้ผ่านเข้าได้แล้ว
กินระยะทางน้ำท่วมยาวกว่า 1 กิโลเมตร


NECTEC

ประกาศเตือนภัย
"ฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน"
ฉบับที่ 30 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2553

     
ร่องมรสุมได้เลื่อนขึ้นมาพาดผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้ในประเทศไทยมีฝนอยู่
ในเกณฑ์กระจาย และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือและภาคกลาง จึงขอให้ประชาชนบริเวณ
ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัย ตามที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่
ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดสภาวะน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลากได้
ในระยะนี้ สำหรับพื้นที่ลุ่มใกล้ลำน้ำในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกยังคงต้องระมัดระวัง
น้ำล้นตลิ่งต่อไปอีก

สำหรับ มวลอากาศเย็นจะแผ่เข้ามาปกคลุมประเทศไทยตอนบน โดยเฉพาะในภาคเหนือ และ
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศเย็นลง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศา
อนึ่ง
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ พายุไต้ฝุ่น “เมกี” (MEGI) มีศูนย์กลางอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
หรือที่
ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 118.7 องศาตะวันออก พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือ
ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่
23-24 ตุลาคมนี้


ประกาศ ณ วันที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ออกประกาศ เวลา 05.00 น.

สำนักพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา
กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

หน่วยงานให้ความช่วยเหลือน้ำท่วม

หน่วยงานให้ความช่วยเหลือน้ำท่วมและหมายเลขสอบถามข้อมูลน้ำท่วมต่าง ๆ

  1. ศูนย์รับบริจาคสิ่งของโคราช

          - หากต้องการบริจาคสิ่งของ ให้ไปที่ศาลากลาง จังหวัดนครราชสีมา

          - ต้องการบริจาคเงิน ติดต่อได้ที่เบอร์โทร 044-259-996-8,
044-259-993-4 หรือโอนมาได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "เงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.นครราชสีมา"
เลขบัญชี  301-0-86149-4

  2. ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม จังหวัดนครราชสีมา

          - สามารถสอบถามและขอความช่วยเหลือได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์
044-342652-4 และ 044-342570-7

  3. โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา

          - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 086-251-2188
ตลอด 24 ชั่วโมง

          - ทางโรงพยาบาลมีความต้องการน้ำดื่มบรรจุขวด นมกล่อง และ
อาหารแห้ง รวมทั้งของใช้เบ็ดเตล็ดผู้ป่วย เช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูปสำหรับเด็ก
และผู้ใหญ่ ผ้าอนามัย เป็นจำนวนมาก

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขานครราชสีมา
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "โรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา" เลขที่บัญชี
301-3-40176-1

  4. กรมอุตุนิยมวิทยา

          - เว็บไซต์ tmd.go.th

          - สายด่วนกรมอุตุนิยมวิทยา โทร. 1182

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา กรุงเทพมหานคร
(AM 1287 KHz) โทร. 02-383-9003-4, 02-399-4394

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.นครราชสีมา
(FM 94.25 MHz)โทร. 044-255-252

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.พิษณุโลก
(FM 104.25 MHz) โทร. 055-284-328-9

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ระยอง
(FM 105.25 MHz) โทร. 038-655-075, 038-655-477

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ภูเก็ต
(FM 107.25 MHz) โทร. 076-216-549

          - สถานีวิทยุกระจายเสียงกรมอุตุนิยมวิทยา จ.ชุมพร
(FM 94.25 MHz) โทร. 077-511-421

   5. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย

          - เว็บไซต์ disaster.go.th

          - สายด่วนนิรภัย หมายเลขโทรศัพท์ 1784

          - ขบวนช่วยเหลือน้ำท่วมออกเรื่อย ๆ ขอรับบริจาคเน้นไปที่ น้ำ,
ยาแก้ไข้, เสื้อ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์
02-241-7450-6

  6. กรุงเทพมหานคร

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย
อาคารศาลาว่าการกทม.1 (เสาชิงช้า), ศาลาว่าการกทม.2(ดินแดง)
และที่สำนักงานเขตทุกแห่งทั่วกรุงเทพฯ 50 แห่ง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-354-6858

  7. สภากาชาดไทย

          - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-251-7853-6 ,
02-251-7614-5 ต่อ 1603

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสภากาชาดไทย
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "สภากาชาด ไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย" เลขที่บัญชี
045-3-04190-6 แล้วแฟ็กซ์ใบนำฝากพร้อมเขียนชื่อและที่อยู่มาที่ สำนักงาน
การคลัง สภากาชาดไทย ถึงหัวหน้าฝ่ายการเงิน หมายเลขโทรสาร 02-250-0120
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมาย เลขโทรศัพท์ 02-256-4066-8

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์
สภากาชาดไทย 1871 ถนนอังรีดูนังต์ เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 หากมาจาก
ถนนพระราม 4 ให้เลี้ยวตรงแยกอังรีดูนังต์ เมื่อเข้าสู่ถนนอังรีดูนังต์ให้ชิดซ้ายทันที
เนื่องจากอยู่ต้นๆถนน (ทางด้านพระราม 4) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
02-251-7853-6 ต่อ 1603 หรือ 1102 หากเป็นวันหยุดราชการ ต่อ 1302 ,
02-251-7614-5 หมายเลขโทรสาร 02-252-7976

          - สามารถลงทะเบียนร่วมเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้ที่
http://www.rtrc.in.th/ (http://www.rtrc.in.th/) หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์  
02-251-7853-6 , 02-251-7614-5 ต่อ 1603 มาช่วยแพ็คชุดธารน้ำใจ  
หรือช่วยขนพวกข้าวสารอาหารแห้งขึ้นรถบรรทุก แต่มีเงื่อนไขอยู่ว่า ต้องการผู้ที่มีสุขภาพ
แข็งแรง และสามารถยกของหนักได้ (เพราะงานค่อนข้างหนัก และต้องยกของหนัก)
เป็นผู้ชายก็จะดีมาก หากเราต้องการกำลังพล จะโทรศัพท์ไปติดต่อว่าจะสะดวกมาในวันที่
เราแพ็คของหรือไม่ เป็นราย ๆ ไป


  8. กองบัญชาการ กองทัพไทย

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ (อาคาร 6)
ตลอดเวลาราชการ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์
02-575-1500

  9. ศูนย์รับบริจาคเงิน-สิ่งของช่วยผู้ประสบอุทกภัยเนชั่น

          - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-338-3333
และ 02-338-3000 กด 3

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย สาขาซีคอนสแควร์
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "บมจ.เนชั่นมัลติมีเดีย กรุ๊ป เพื่อโครงการช่วยฟื้นฟูผู้ประสบภัยหลังน้ำท่วม"
เลขที่บัญชี 095-2-71929-7

  10. สถานีโทรทัศน์สีช่อง 3 + ครอบครัวข่าวช่อง 3

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สถานีโทรทัศน์สี่ ช่อง 3 อาคารมาลีนนท์
ถนนพระราม 4 และสามารถช่วยบรรจุหีบห่อได้ที่หน้าอาคารได้เลย

            - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงเทพ สาขาพระราม 4 อาคารมาลีนนท์
บัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี "ครอบครัวข่าว ช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม53" เลขที่บัญชี
014-3-00368-9


ดูแผนที่อาคารมาลีนนท์ที่นี่ >> คลิกที่นี่ (http://www.bectero.com/images/map/map.jpg) <<

ไม่ไหวแล้วครับตีสองกว่าแล้ว พรุ่งนี้มีงาน

เดี๋ยวตื่นไม่ไหว (ง่วงมากแล้วด้วย)

ไว้เดี๋ยวผมนำสถานที่รับบริจาคมาลงเพิ่มให้นะครับ

ขอตัวไปนอนก่อน บุญรักษาทุกท่านครับ

ขอให้ปลอดภัยกันทุกคน

พรุ่งนี้จะมาต่อให้นะครับ

 ;D ;D ;D ;D

  11. สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 5

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ หน้าสถานีโทรทัศน์ กองทัพบก
ช่อง 5 สนามเป้า 

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารทหารไทย สาขาสนามเป้า
บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี "กองทัพบก โดยททบ.ช่วยภัยน้ำท่วม" เลขที่บัญชี
021-2-69426-9

 12. ศูนย์รับบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมใหญ่ที่โคราช รายการเช้าข่าวข้น+อสมท.

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ อาคารปฏิบัติการ ชั้น 1 ตึกอสมท.
ถ.พระราม9 เช่น อาหารแห้ง, เรือ, ผ้าอนามัย, ไฟฉาย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02-201-6000 ที่อยู่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)‎ 63/1
ถนนพระราม 9 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร 10320
 
          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขาอโศก ชื่อบัญชี
"อสมท ร่วมใจช่วยภัยน้ำท่วม" เลขที่บัญชี 015-0-12345-0 สอบถามได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02-245-0700-4

  13. กรมประชาสัมพันธ์ ช่อง 11 NBT

          - สื่อวิทยุและโทรทัศน์ เครือข่ายกรมประชาสัมพันธ์ทั่วประเทศ
จะเป็นสื่อกลางรายงานสภาพอากาศ สถานการณ์อุทกภัย และเป็นจุดรับบริจาคช่วยเหลือ
ผู้ประสบภัย ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00 น. ในวันที่ 19 ตุลาคม 2553 ชื่อรายการ
"ร่วมใจ ช่วยภัยน้ำท่วม" โดยยกเลิกผังรายการเดิมทั้งหมด

          - สำหรับการรับบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภคในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ถนนวิภาวดี-รังสิต
เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์
02-275-2053 

  14. สน.ประชาชน ทีวีไทย รับแจ้งข้อมูลน้ำท่วม และร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัย

          - สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 02-791-1385-7,
02-791-1113 หรือ people@thaipbs.or.th สามารถไปบริจาคสิ่งของข้าวสารอาหารแห้ง,
ข้าวของเครื่องใช้ ได้ที่ ตึกชินวัตร3 

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีออมทรัพย์ ชื่อบัญชี
"เพื่อนพึ่งภาช่วยน้ำท่วม" เลขที่บัญชี 020-2-69333-2

   15. จส. 100

          - สอบถามน้ำท่วมถ.มิตรภาพ ที่แขวงการทางต่าง ๆ ได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์
044-242-047 ต่อ 21, 044-212-200, 037-211-098, 036-461-422,
036-211-105 ต่อ24

  16. มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารไทยพาณิชย์
บัญชีกระแสรายวัน ชื่อบัญชี "มูลนิธิสยามกัมมาจล-ไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย"
บัญชีเลขที่บัญชี 111-3-90911-5 บริจาคผ่าน ATM / สาขา SCB
ไม่เสียค่าโอน

  17. ธนาคารออมสิน

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาสำนักพหลโยธิน
บัญชีประเภทเผื่อเรียก ชื่อบัญชี "ออมสินรวมใจช่วยภัยน้ำท่วม" เลขที่บัญชี
0-2888888888-1 ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 15 พฤศจิกายน 2553 ยกเว้น
ค่าธรรมเนียมการโอนเงินเป็นกรณีพิเศษไว้แล้ว

  18. โรงแรมดุสิตธานี

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของ ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม ได้ที่โรงแรมดุสิตธานี
ในวันพุธที่ 20 ต.ค. ตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น.

  19. มูลนิธิกลุ่มแสงเทียน

          - รวบรวมสิ่งของบริจาค ช่วยเหลือพี่น้องที่น้ำท่วม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02-465-6165

  20. การรถไฟแห่งประเทศไทย

          - สอบถามการเดินรถไฟได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1690

  21. ติดต่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉิน

          - ติดต่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉินได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1669

  22. บริษัทขนส่ง

          - สอบถามการเดินรถได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์ 1490

   23. สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก ช่อง 7

           - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ สถานีโทรทัศน์ กองทัพบก
ช่อง 7 ซ.พหลโยธิน 18/1

(http://image.ch7.com/CH72008/6/44/235/20081125/0632278302500.jpg)

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสำนักเพลินจิต
ชื่อบัญชี "7 สีช่วยชาวบ้าน" เลขที่บัญชี 001-9-13247-1
 

  24. มูลนิธิซีเมนต์ไทย

          - สามารถบริจาคอาหาร ผ้าอนามัย กางเกงในกระดาษ
กระดาษทิชชู ถุงขยะ เทียนไข และไฟแช็ค สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
หมายเลขโทรศัพท์ 02-586-3415

   25. จุดรับบริจาคของคนเสื้อแดงกลุ่ม Red Cyber

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
หน้าแฟชั่นมอลล์ (จอดรถข้างหน้าได้เลย) และบิ๊กซีลาดพร้าว ชั้น 5
ที่สถานีเอเชียอัพเดท

   26. DTAC

          - สามารถไปบริจาคสิ่งของได้ที่ DTAC อาคารจามจุรีแสควร์
ถึงวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคม 2553

   27. มูลนิธิกระจกเงา

          - สามารถไปบริจาคข้าว สาร, อาหารแห้ง, น้ำดื่ม และยารักษาโรค
ช่วยเหลือพี่-น้องผู้ประสบภัยน้ำท่วม ได้ที่ มูลนิธิกระจกเงา (สนง.กรุงเทพ) 
8/12 ซ.วิภาวดี44  ถ.วิภาวดีรังสิต  แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

          - สามารถบริจาคเงินไปได้ที่ ธนาคารกรุงไทย สาขานานาเหนือ
ชื่อบัญชี "มูลนิธิกระจกเงา" เลขที่บัญชี    000-0-01369-2 สอบถาม
รายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หมายเลขโทรศัพท์  087-274-9769 (เอ),
02-941-4194-5 ต่อ 102 (เอ,สุกี้)

  28. กรมทางหลวง

          - สายด่วนกรมทางหลวง หมายเลขโทรศัพท์ 1586 สอบถาม
ข้อมูลน้ำท่วมได้ตลอด 24 ชั่วโมง

          - สำนักงานประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวง หมายเลขโทรศัพท์
02-354-6530, 02-354 -6668-76 ต่อ 2014 ,2031

          - ศูนย์บริหารงานอุบัติภัย สำนักบริหารบำรุงทาง หมายเลขโทรศัพท์
02-354-6551

          - ตำรวจทางหลวง หมายเลขโทรศัพท์ 1193

  29 . องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ

          - สายด่วน หมายเลขโทรศัพท์ 1490 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
ในการบริจาคสิ่งของ

รวมเบอร์โทรศัพท์อาสาสมัคร และหน่วยงานในพื้นที่

 ช่วยเหลือชาวโคราช ติดต่อศูนย์กลางการช่วยเหลือ ต้าร์ @tar_kotloh 080-660-0098

 ช่วยเหลือชาวบ้านบ้านหมี่ ลพบุรี ติดต่อ ปอย 081-556-2309

 ใครต้องการเป็นอาสาสมัครช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่สระบุรี ติดต่อ แพรวา 080-060-6005

 น้ำกำลังท่วมปราสาทเมืองพิมาย ต้องการกระสอบทราย 1 พันถุงด่วน ติดต่อ ดุสิต 081-789-2096

 ช่วยเหลือชาวบ้านพิมาย โคราช ติดต่อ เทศบาล 044-471-121 ต่อ 11

 ชาวบ้าน อ. โนนสูง ยังต้องการ ข้าวสาร, อาหารแห้ง ฯลฯ ติดต่อ อบต.สุรัตน์ 088-349-7312

 ชาวชัยภูมิ แจ้งเหตุ-ขอความช่วยเหลือ เบอร์กู้ภัยมูลนิธิสว่างคุณธรรม ชัยภูมิ 044-81103
หรือหนุ่ม 084-833-6204

 กาชาดจังหวัดชัยภูมิ 044-811-203, 044-811-558

 อยุธยาและพื้นที่ใกล้เคียง ติดต่อขอความช่วยเหลือหรือต้องการเรือเร็ว ติดต่อ 035-328-739

 มีอาสาขับรถ+ปิ๊คอัพขนส่งของ พร้อมแรงงาน และน้ำมัน ติดต่อ จารุภัส 080-604-4961

ด่วนมาก!!! จ.ชัยนาท-สิงห์บุรี-อ่างทอง-อยุธยา-ปทุม-นนทบุรี ทางการสั่งอพยพประชาชน ขนข้าวของขึ้นที่สูงแล้ว

เกิดเหตุดินถล่มที่ อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ปิดเส้นทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง

ตอนนี้พื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมในไทยรวม 29 จังหวัด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 17 ราย สูญหาย 1 ราย

ผู้ประสบภัย มีปัญหาเรื่องไฟฟ้า โทรแจ้งกฟภ. PEA Call Center หมายเลขโทรศัพท์ 1129

สปสช.ย้ำผู้ประสบภัยน้ำท่วมเพียงแจ้งชื่อที่อยู่ให้ ชัดเจน ก็สามารถขอรับบริการสุขภาพแทนบัตรประชาชนได้