[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้

วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ => วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ => ข้อความที่เริ่มโดย: phonsak ที่ 22 ตุลาคม 2553 15:42:34



หัวข้อ: ขอบเขตของจักรวาล + ความโง่ของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: phonsak ที่ 22 ตุลาคม 2553 15:42:34
ขอบเขตจักรวาล+ความโง่ของมนุษย์


ลามะ อ้างอิงข้อความ:
อ้างถึง
ใครโพสต์ต่อ ไปเคี้ยวหญ้า

ผมกำลังจะตอบปัญหาของคุณที่ว่า มีสองอย่างที่ยังหาขอบเขตสิ้นสุดไม่ได้ นั่นคือ
1 ขอบเขตจักรวาล
2 ความโง่ของมนุษย์

บังเอิญ คุณดันโพสต์ข้อความว่า ใครโพสต์ต่อ ไปเคี้ยวหญ้า ผมก็เลยไม่ขอตอบในกระทู้นั้น มาตั้งกระทู้ใหม่ดีกว่า

คำตอบใน 2 คำถามของคุณที่ทิ้งไว้  มันน่าสนใจเป็นที่สุด  ไม่ตอบก็น่าเสียดาย  จริงๆ คำตอบเหล่านั้น มันพัวพันธ์อยู่กับจิตใต้สำนึก หรือภวังค์จิตของคุณและทุกๆสรรพชีวิต


1.ขอบเขตจักรวาล = พระพุทธเจ้าเรียกว่า "ที่สุดแห่งโลก"

ที่สุดแห่งโลก  = ที่สิ้นสุดความคิดปรุงแต่งในจิต เมื่อความคิดปรุงแต่งในจิตมันสิ้นสุด  มันย่อมเป็นอวกาศหรือความว่างเปล่า  พระผู้มีพระภาคตรัสว่า:

"คำว่าที่สุดแห่งโลกนั้น จะถือเอาอากาศโลกหรือจักรวาลโลกเป็นประมาณนั้นมิได้"

"ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องขวางนั้นมีอนันตจักรวาลเป็นเขต นอกอนันตจักรวาลออกไปก็เป็นอากาศว่างๆ อยู่ จึงว่าโดยขวางมีอนันตจักรวาลเป็นที่สุด"

"ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องบนนั้นมีอรูปพรหมเป็นเขต เพราะอรูปพรหม 4 ชั้นนั้น พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นนิพพานพรหมหรือนิพพานโลก นิพพานโลกนี้เป็นที่ไม่สิ้นสุด


ที่สุดแห่งจักรวาลโลกเบื้องบน...นิพพานโลกนี้เป็นที่ไม่สิ้นสุด = จักรวาลไม่มีที่สิ้นสุดนั่นเอง


2. ความโง่ของมนุษย์  = ไม่หยุดความคิดปรุงแต่งในจิต โดยการดับจิตที่คิดปรุงแต่งไปเลย เหลือแต่จิตที่ไม่คิดปรุงแต่ง(นิพพาน) เมื่อไม่ดับจิตที่คิดปรุงแต่งไปเลย = ไม่ยอมวาง(จิตสังขาร)หรือจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน เมื่อไม่วางจิตสังขาร ซึ่งเป็นโทษ(เป็นทุกขังและอนัตตา)  ก็ไม่อาจถึงพระนิพพานได้

พระพุทธเจ้าตรัสว่า "(ถ้าจะเข้าพระ นิพพาน)ต้องวางจิตใจคืนไว้แก่โลกตามเดิมเสียก่อน ถ้าวางไม่ได้เป็นโทษ ไม่อาจถึงพระนิพพานได้" = ต้องละทิ้งจิตวิญญาณที่เป็นนามรูป เพราะจิตวิญญาณที่เป็นนามรูป เป็นจิตสังขาร เป็นของปรุงแต่ง จึงมีอายุจำกัด  แม้ว่าจะเป็นอรูปพรหมสูงสุด ก็มีอายุแค่ 84,000 มหากัปเท่านั้น  เมื่อสิ้นอำนาจของอรูปฌานแล้ว  ท่านผู้นั้นก็ยังต้องมี เกิดแก่เจ็บตาย มีร้ายและดี มีคุณและโทษ มีสุขและทุกข์อยู่ต่อไป

พระพุทธเจ้าตรัสด้วยว่า "โลกุตตรนิพพานนั้นปราศจากวิญญาณ... วิญญาณยังมี ที่ใด ความเกิดแก่เจ็บตายก็มีอยู่ในที่นั้น" = วิญญาณในที่นี้ เกิดจาก จิตสังขาร  ซึ่งเป็นสังขตธาตุ
   
เมื่อละจิตสังขารที่เป็นสังขตธาตุได้  เราจะเข้าสู่วิราคะจิต ได้จิตปภัสสร เป็นจิตหลุดพ้น  องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า "จิตประภัสสร คือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส(นิพพาน)"

เอกนิบาตอังคุตตรนิกาย อรรถกถา ภาค ๑ หน้า ๔๕ ข้อ ๕๐

"ปภสฺสรมิทํ ภิกฺขเว จิตฺตํ ตญฺจ โข อาคนฺตุเกหิ อุปกฺกิเลเสหิ วิปฺปมุตฺติ" ความว่า "ภิกษุทั้งหลาย จิตนี้ประภัสสร ก็จิตนั้นแล หลุดพ้นแล้วจากอุปกิเลสทั้งหลายที่จรมา"

จิตที่หลุดพ้นจากกิเลส พระพุทธเจ้าเรียกว่าอะไรครับ?.....นิพพานใช่ไหมครับ

ดังนั้น องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า, องค์พระศาสนาแห่งศาสนาพุทธ, เป็นผู้ตรัสเองว่า "จิตประภัสสร คือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส หรือ นิพพาน"

= โลกุตตรนิพพานนั้นไม่มีวิญญาณที่เกิดจากจิตสังขารอยู่  แต่โลกุตตรนิพพานมีจิตวิญญาณที่เป็นปภัสสร หรือ จิตหลุดพ้นจากกิเลส(นิพพาน)อยู่


สรุป


ที่สุดแห่งโลก  = ที่สิ้นสุดความคิดปรุงแต่งในจิต เมื่อความคิดปรุงแต่งในจิตมันสิ้นสุด  มันย่อมเป็นอวกาศหรือความว่างเปล่า  จนกว่าจะหมดอำนาจฌานในจิตสังขารของอรูปพรหม เพราะอรูปพรหมไม่ได้ปล่อยวาง และละทิ้งจิตสังขาร ซึ่งเป็นของโลก(จักรวาล)ออกไป

พระพุทธเจ้าเรียก ที่สุดแห่งโลกว่า นิพพานโลก...เป็นที่ไม่สิ้นสุด  มีอรูปพรหมเป็นเขต  ส่วนนิพพานนั่นอยู่ที่ไหน?

"ดูกรอานนท์ นิพฺพานํ นครํ นาม อันชื่อว่าเมืองพระนิพพานย่อมตั้งอยู่ในที่สุดแห่งโลก โลกมีที่สุดเพียงใด พระนิพพานก็ตั้งอยู่ที่สุดเพียงนั้น พระนิพพานเป็นพระมหานครอันใหญ่ เป็นที่บรมสุข หาที่เปรียบมิได้"


หัวข้อ: Re: ขอบเขตของจักรวาล + ความโง่ของมนุษย์
เริ่มหัวข้อโดย: มดเอ๊ก ที่ 01 พฤศจิกายน 2553 21:05:52
 (http://www.catsy.ob.tc/image/17685_938703.jpg)

;D

อุ๊ยยยยยยยยย แมว ๆๆๆๆๆ น่าร๊ากกกกกกกกก

อวาตาร แมว เหมียว ๆๆๆๆๆๆๆๆ