[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
20 เมษายน 2567 09:22:55 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 2 [3] 4 5 6
41  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / ยุงกัดเพราะจุลินทรีย์บนผิวหนัง เมื่อ: 22 เมษายน 2557 15:40:54
ยุงกัดเพราะจุลินทรีย์บนผิวหนัง



หากคุณใช้เวลากลางคืนนั่งอยู่กลางแจ้งโดยที่ต้องคอยตบยุงตามอวัยวะต่างๆ อยู่ตลอดเวลา แต่ก็ยังไม่วายมีรอยถูกยุงกัดอยู่ดีในท้ายที่สุด นั่นเป็นเพราะว่ายุงคงชอบคุณมาก แต่คนโชคดีที่ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ถูกยุงกัดก็มีอยู่เช่นกัน แต่ไม่ใช่เพราะว่าเลือดของบางคนมีรสชาติดีกว่าแต่อย่างใด

ในการประชุมว่าด้วยความบันเทิงและการออกแบบทางเทคโนโลยีประจำปี 2557 ที่เมืองแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา เมื่อเร็วๆ นี้ ร็อบ ไนท์ นักนิเวศวิทยาจุลินทรีย์ อธิบายว่าแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์บนผิวหนังของเราผลิตสารเคมีที่แตกต่างกัน ซึ่งบางชนิดมีกลิ่นที่น่าดึงดูดสำหรับยุงมากกว่า

จุลินทรีย์นับล้านล้านชนิดที่อาศัยอยู่บนผิวหนังของเรา เป็นส่วนน้อยของจุลินทรีย์ทั้งหมดราว 100 ล้านล้านชนิดที่อาศัยอยู่ในร่างกาย ทว่าพวกมันมีบทบาทสำคัญมากต่อกลิ่นของร่างกายคนเรา หากปราศจากจุลินทรีย์เหล่านี้ เหงื่อของมนุษย์จะมีกลิ่นที่ไม่เหมือนสิ่งใดเลย อย่างไรก็ตาม ชนิดของจุลินทรีย์ที่อยู่บนผิวหนังเหล่านี้แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล ซึ่งคนส่วนมากจะมีจุลินทรีย์เหล่านี้เหมือนกันเพียงแค่ 10 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น

และเพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่า ยุงจะถูกดึงดูดจากชนิดจุลินทรีย์บนผิวหนังบางชนิดมากเป็นพิเศษ นักวิจัยให้อาสาสมัครผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่ 48 คน งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กระเทียม อาหารรสจัด และการอาบน้ำเป็นเวลา 2 วัน และให้สวมถุงเท้าไนล่อนเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อสร้างกลิ่นของผิวหนังที่มีลักษณะเฉพาะ หลังจากนั้นใช้ทรายแก้วขัดที่ฝ่าเท้าของอาสาสมัครเพื่อจับกลิ่นดังกล่าวมาเป็นเหยื่อล่อยุง

กลุ่มตัวอย่าง 9 จาก 48 คนพิสูจน์แล้วว่ามีกลิ่นตัวที่น่าดึงดูดเป็นพิเศษสำหรับยุง ขณะที่มี 7 คนผู้โชคดีที่มีกลิ่นที่ยุงส่วนใหญ่เมิน โดย "กลุ่มที่น่าดึงดูดสูง" มีจุลินทรีย์ 2 ชนิดที่เหมือนกันสูงกว่ากลุ่มตัวอย่างที่เหลือ 2.62 และ 3.11 เท่า ขณะที่กลุ่มที่ไม่ดึงดูดยุง มีชนิดของแบคทีเรียบนผิวหนังทั้งหมดแตกต่างไปจากกลุ่มอื่นโดยสิ้นเชิง นอกจากนี้ นักวิจัยยังบอกด้วยว่า คนอีกกลุ่มหนึ่งที่ดึงดูดยุงได้ในระดับสูงมากคือนักดื่มเบียร์

42  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ร้อยภูติ พันวิญญาณ / Re: ชาวเน็ตแห่ชมคลิป “รถยนต์ผี“ อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาชน BMW เมื่อ: 20 เมษายน 2557 22:54:21

Random car appears in russia - Russian Ghost Car



43  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ร้อยภูติ พันวิญญาณ / ชาวเน็ตแห่ชมคลิป “รถยนต์ผี“ อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาชน BMW เมื่อ: 20 เมษายน 2557 22:53:52
ชาวเน็ตแห่ชมคลิป “รถยนต์ผี“ อยู่ดี ๆ ก็โผล่มาชน BMW

     คลิปเหตุการณ์ที่เชื่อว่าน่าจะเกิดขึ้นในรัสเซียนี้ เป็นภาพที่บันทึกจากกล้องที่ติดอยู่ในรถยนต์คนหนึ่งซึ่งแล่นตามหลังบีเอ็ม ดับเบิลยู ที่กำลังเลี้ยวซ้ายผ่านสี่แยกอันพลุกพล่านตามสัญญาณไฟเขียว


     ระหว่างนั้นจู่ๆก็มีรถยนต์คันหนึ่งแล่นตัดหน้าบีเอ็มดับเบิลยูตรงกลางแยกพอ ดีและดูเหมือนจะมีการเฉี่ยวชนเล็กน้อย ทั้งนี้จากภาพที่สังเกตในวิดีโอ ก็ไม่เห็นว่ามียานพาหนะแล่นฝ่าไฟแดงออกมาแต่อย่างใด
       
     นับตั้งแต่ถูกอัพโหลดลง youtube เมื่อวันที่ 31 มีนาคม จนถึงตอนนี้มีผู้เช้าชมแล้วมากกว่า 1.2 ล้านคน ขณะเดียวกันก็มีการจัดทำฉบับภาพช้าในความพยายามหาคำตอบว่าความจริงของ เหตุการณ์นี้เป็นเช่นไร
       
     ทั้งนี้บางส่วนสันนิษฐานว่ารถยนต์คันนี้อาจถูกยานพาหนะคันอื่นบังจนถึง วินาทีสุดท้ายก่อนเฉี่ยวชน จนทำให้มองไม่เห็น แต่บางส่วนก็เชื่อว่ามันเป็นคลิปตัดต่อ

     แล้วคุณล่ะคิดว่าอย่างไร เชิญชมคลิปด้านล่าง

44  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ร้อยภูติ พันวิญญาณ / สุดเฮี้ยน วิญญาณเมียเข้าฝันหลอนผัวทุกคืนให้มอบตัว (นสพ.ข่าวสด) เมื่อ: 20 เมษายน 2557 22:50:36
สุดเฮี้ยน!! วิญญาณเมียเข้าฝันหลอนผัวทุกคืนให้มอบตัว หลังคว้าไม้ตีหัวดับ-โยนศพทิ้งน้ำ




เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 เม.ย. ผู้สื่อข่าว ข่าวสด รายงานว่า พล.ต.ต.ชูรัตน์ ปานเหง้า ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.ยรรยง เวชโอสถ รอง ผบก.ฯ พ.ต.อ.เกษม มุทาพร ผกก.สืบสวน 2 บก.สส.ภ.4 พ.ต.ท.จีระวัฒน์ โพธินา รอง ผกก.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สืบสวน 2 ร่วมแถลงข่าวจับกุมตัวนายสมบท สามุข อายุ 68 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.7 ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่นที่ 106/2557 ลงวันที่ 17 เม.ย. 2557 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน "ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา"

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ได้รับแจ้งพบศพ นางอ่อน ดอนกันหา อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 149 หมู่ 7 ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น เสียชีวิตลอยขึ้นอืดอยู่ในสระน้ำสาธารณะด้านทิศตะวันออกใกล้วัดสันติการามบ้านโคกไร่ ต.สงเปือย อ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบบริเวณขมับซ้ายมีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็ง เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน โดยไม่ทราบว่าคนร้ายเป็นผู้ใด กระทั่ง ตำรวจ บก.สส.ภ.4 ร่วมกับ สภ.ภูเวียง สืบทราบว่า นายสมบทที่เป็นสามีใหม่ของผู้ตาย ได้หลบหนีไปจากบ้านเกิดเหตุ หลังจากที่ผู้ตายถูกฆ่าโหดทิ้งในสระน้ำของวัดประจำหมู่บ้าน หลบหนีไปอยู่กับญาติที่บ้านเลขที่ 190 หมู่ 3 บ้านไผ่กุดหิน ต.ไชยสอ อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบที่บ้านเลขที่ดังกล่าว ได้พบกับนายสมบทนั่งคุยปรึกษากับญาติ เรื่องที่เป็นคนฆ่าผู้ตายซึ่งเป็นเมียคนที่สอง และโยนศพทิ้งลงในสระน้ำของวัดในหมู่บ้าน หลบหนีมาอยู่กับญาติที่ อ.ชุมแพ และถูกวิญญาณของนางอ่อนตามมาหลอน มาเข้าฝันนายสมบททุกคืน เพื่อให้เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเตรียมจะเข้ามอบตัวกับตำรวจ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจนเข้ามาจับกุมตัวได้เสียก่อน

ตำรวจชุดจับกุมได้นำนายสมบทมาสอบสวนปากคำที่ บก.สส.ภ.4 ซึ่งนายสมบทยอม รับสารภาพว่า มีภรรยาคนแรกและมีบุตรด้วยกัน 5 คน เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ภรรยาคนแรกเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว และลูกทุกคนทำงานใน กทม. ตนจึงอยู่บ้านเพียงคนเดียวมาครึ่งปี ได้มีนางอ่อน ดอนกัณหา ซึ่งสามีเสียชีวิตไปแล้ว เพราะประสบอุบัติเหตุ นางอ่อนกลายเป็นแม่ม่ายอยู่บ้านใกล้กัน เมื่อต่างคนต่างเป็นม่าย จึงมาอยู่ด้วยกันแบบผัวเมียไม่เป็นทางการ คือ ตนนอนบ้านของตนเอง และนางอ่อนนอนบ้านของนางอ่อน เมื่อต้องการมีความสุขทางเพศเมื่อไรก็จะมานอนที่บ้านของตนบ้าง หรือบ้านของนางอ่อนบ้าง ซึ่งเป็นผัวเมียลับๆ มาได้นานประมาณ 3 เดือน นางอ่อนจะแสดงออกเสมอว่าเป็นเมียคนหนึ่งของตน โดยด่าว่าตนเป็นประจำแบบเสียๆหายๆ บางครั้งได้ด่าถึงบุพการีที่เสียชีวิตไปแล้ว ตนอดทนที่ถูกนางอ่อนด่าว่ามาโดยตลอด

ก่อนเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา ในหมู่บ้าน มีหนังตะลุงมาแสดง นางอ่อนได้มาชวนตนถึงที่บ้าน เพื่อไปดูหนังตะลุงด้วยกัน แต่นั่งดูอยู่ไม่นาน นางอ่อนได้ชวนตนกลับบ้าน ขณะเดินทางกลับบ้าน นางอ่อนได้ดุด่าตนอีกครั้ง ครั้งนี้หนักและรุนแรงมาก ด่าถึงโคตรเหง้าของตน ลุกลามไปถึงลูกหลานของตนตลอดทาง แถมไล่ตนออกจากบ้านของนางอ่อนอีกด้วย โดยตนไม่มีความผิด จึงเกิดความโมโห

เมื่อเดินมาถึงกลางทางระหว่างกลับบ้าน ตนได้หยิบเอาไม้ ซึ่งอยู่ข้างทางตีเข้าที่ศีรษะของนางอ่อนอย่างแรงถึง 2 ครั้ง จนนางอ่อนล้มลงแน่นิ่งไป เมื่อตนก้มลงไปดู พบว่านางอ่อนเสียชีวิตแล้ว จึงอุ้มศพนางอ่อนไปทิ้งลงสระน้ำของหมู่บ้าน จากนั้นกลับเข้าบ้านพักเปลี่ยนเสื้อผ้าหลบหนี โดยระหว่างหลบหนีได้เผาเสื้อผ้าที่สวมใส่ ขณะก่อเหตุฆ่านางอ่อนแล้วทิ้งกลางทุ่งนา แล้วตนได้ขึ้นรถโดยสารเดินทางไปหลบซ่อนตัวอยู่ใน อ.ภูกระดึง จ.เลย กระทั่งเดินทางมาหลบซ่อนตัวที่บ้านญาติใน อ.ชุมแพ จ.ขอนแก่น

ช่วงที่หลบหนีได้ถูกวิญญาณนางอ่อนมาหลอนเข้าฝันทุกคืน เพื่อให้ตนเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถ้ายังหลบหนีก็จะมาเข้าฝันตนตลอดไป ตนจึงได้มาติดต่อกับญาติที่ อ.ชุมแพเพื่อขอปรึกษาเข้ามอบตัว แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาจับกุมตนดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ควบคุมนายสมบท มามุข ไปส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ภูเวียง จ.ขอนแก่น นำตัวนายสมบทไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



ขอบคุณเนื้อหาข่าวจาก ข่าวสดออนไลน์
45  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ / “ไอซอน” ดาวหางแห่งศตวรรษกลางหมู่มวลกาแล็กซี เมื่อ: 17 เมษายน 2557 16:14:16
“ไอซอน” ดาวหางแห่งศตวรรษกลางหมู่มวลกาแล็กซี



       กล้องฮับเบิลบันทึกภาพอันแสนงดงามของ “ดาวหางไอซอน” ท่ามกลางดวงดาวและกาแล็กซี ซึ่งจะเข้าสู่ด้านในของระบบสุริยะ และคาดว่าคนบนโลกจะเห็นได้ด้วยตาเปล่าในช่วงปลาย พ.ย.56นี้ ด้วยความสว่างราวกับดวงจันทร์เลยทีเดียว
       
       กล้องโทรทรรศน์อวกาศฮับเบิล (Hubble) ขององค์การบริหารการบินอวกาศสหรัฐ (นาซา) บันทึกภาพดาวหางไอซอน (ISON) ตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย.2013 ที่ผ่านมา และหลังจากประมวลภาพเข้าด้วยกัน 5 ภาพก็เผยให้ภาพดาวหางท่ามกลางดวงดาวที่สว่างเจิดจ้าและกาแล็กซีที่อยู่แสนไกล
       
       จากรายงานของสเปซด็อทคอมซึ่งอ้างคำอะบายของนักวิจัยในโครงการฮับเบิลระบุว่า ภาพดังกล่าวบันทึกด้วยกล้อง 5 ตัวที่บันทึกย่านแสงที่ต่างกัน 3 ตัวแรกเป็นกล้องที่กรองแสงสีเหลืองและเขียว ทำให้ได้ภาพในย่านแสงสีน้ำเงิน ส่วนอีก 2 ตัวเป็นกล้องที่บันทึกแสงสีแดงและรังสีอินฟราเรด
       
       จอช โซกอล (Josh Sokol) จากสถาบันวิทยาการกล้องโทรทรรศน์อวกาศ (Space Telescope Science Institute) ในบัลติมอร์ แมรีแลนด์ ซึ่งควบคุมการทำงานของฮับเบิล ให้ความเห็นว่า โดยทั่วไปสีแดงยิ่งเข้มหมายถึงสิ่งนั้นยิ่งเก่าแก่มาก มีวิวัฒนาการมามากกว่าสิ่งที่เป็นสีน้ำเงิน
       
       ดาวหางไอซอนจะเข้าใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดในวันที่ 28 พ.ย.นี้ ด้วยระยะห่างจากผิวดวงอาทิตย์เพียง 1.16 ล้านกิโลเมตร ซึ่งคาดว่าจะทำให้ดาวหางดวงนี้ส่องสว่างมากในช่วงเวลาดังกล่าว โดยนักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจจะสว่างราวกับพระจันทร์เต็มดวงเลยทีเดียว กระนั้นเราก็ไม่อาจคาดหวังอะไรมากกับดาวหางดวงนี้ เพราะดาวหางทั้งหลายมีชื่อเสียงแง่ลบว่ายากต่อการคาดการณ์ และพฤติกรรมของดาวหางไอซอนก็อาจจะมีลูกเล่นให้ยากจะพยากรณ์



นักสังเกตปรากฏการณ์ฟ้าและนักวิทยาศาสตร์จากทั่วโลกต่างจดจ้องการเดินของดาวหางดวงนี้ ที่ถูกขนานนามว่า “ดาวหางแห่งศตวรรษ” โดยคลิปวิดีโอจากศูนย์การบินอวกาศก็อดดาร์ด (Goddard Space Flight Center) ของนาซาอธิบายว่า ดาวหางล้วนโคจรรอบดวงอาทิตย์ แต่มีดาวหางประเภทที่เรียกว่า ดาวหางเฉียดดวงอาทิตย์ (sun grazing comet) นั้นจะเฉียดใกล้ดวงอาทิตย์มาก และมีระยะจุดปลายวงโคจร (perihelion) ไม่เกิน 1.37 ล้านกิโลเมตร บางดวงก็ใกล้จนพุ่งชนพื้นผิวดาว ซึ่งไอซอนก็จัดอยู่ในประเภทนี้
       
       ไอซอนถูกค้นพบเมื่อเดือน ก.ย.2012 ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการเข้ามาชั้นในของระบบสุริยะครั้งนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งมีถิ่งกำเนิดแถบเมฆออร์ต (Oort Cloud) ที่ระบบสุริยะชั้นนอกเช่นเดียวกับดาวหางอื่น และเมื่อเข้าใกล้ดวงอาทิตย์แล้วไอซอนจะถูกโมเมนตัมเหวี่ยงออกจากระบบสุริยะชั้นในแล้วไม่กลับมาอีกเลย
       
       ดาวหางไม่ต่างจากดาวเคราะห์ที่เกิดขึ้นจากองค์ประกอบเดียวกันระหว่างช่วงก่อกำเนิดเมื่อ 4.5 พันล้านปีก่อน ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดหวังว่าการศึกษาองค์ประกอบของดาวหางไอซอนที่เดือดจากการเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ได้อย่างใกล้ๆ นั้น จะเผยให้เห็นอดีตของระบบสุริยะเมื่อแรกเริ่ม


เครดิต  โพสจัง
46  นั่งเล่นหลังสวน / เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว / เคล็ดลับเข้าครัว วิธีปอกแอปเปิ้ลไม่ให้ดำ เมื่อ: 17 เมษายน 2557 16:10:53
วิธีปอกแอปเปิ้ลไม่ให้ดำ



สำหรับคนที่ปอกแอปเปิ้ลแล้วดำ ไม่สวย ไม่น่ากิน เหมือนตอนปอกใหม่ๆ

วิธีปอกแอปเปิ้ลไม่ให้ดำ
1. ให้ปอกแอ๊ปเปิ้ล แช่น้ำเกลือ เกลือ 1 ช้อนชา ในน้ำ 1 ชาม
2. ปอกแอ๊ปเปิ้ล แช่น้ำ มะนาว ผสมน้ำสะอาด  น้ำมะนาว 1 ช้อนชา ในน้ำ 1 ชาม

นำแอ๊ปเปิ้ลวิธีใดวิธีหนึ่ง ใน 2 วิธี ลงไปผ่านน้ำสักครู่ สะเด็ดน้ำให้แห้ง นำไปใส่กล่อง เก็บใส่ตู้เย็น แค่นี้แอปเปิ้ลก็จะไม่ดำแล้วค่ะ

 

ที่มาข้อมูล sakid.com
47  สุขใจในธรรม / ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน / บัตรเบิกทางไปสวรรค์ ภาพปริศนาธรรมจากโรงมหรสพทางวิญญาณ สวนโมกข์ ไชยา เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:46:16
บัตรเบิกทางไปสวรรค์
ภาพปริศนาธรรมจากโรงมหรสพทางวิญญาณ สวนโมกข์ ไชยา




"เมื่อใดองค์การทางศาสนา ทำหน้าที่
ขายบัตรเบิกทางไปสวรรค์ ,เมื่อนั้น
การรีดไถบนหลังทายก ทายิกา
จักมีเป็นแน่นอน"


48  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ จิบกาแฟ / สมการชีวิต เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:43:53
สมการชีวิต



หลาย ๆ สมการเรียนมาแล้วชีวิตนี้ไม่เคยได้ใช้...แต่สมการนี้เรียนเถอะแล้วชีวิตจะเจริญ

โง่ + ขยัน = เหนื่อย
โง่ + โลภ = เหยื่อ
โง่ + ขี้เกียจ = ยากจน
โง่ + บริโภคนิยม = หมดตัว
โง่ + ช้า = ล้าหลัง
โง่ + รีบร้อน = สะดุด
โง่ + อดทน = ถึงจุดหมาย แต่ช้าหน่อย
โง่ + ขยัน + อดทน = ลืมตาอ้าปากได้
โง่ + ซื่อสัตย์ = คนเมตตา
โง่ + กตัญญู = พระคุ้ม
โง่ + เรียนรู้ = ไม่โง่


ฉลาด + ขยัน = ความสำเร็จ
ฉลาด + อดทน = ความเจริญ
ฉลาด + ขี้เกียจ = โกง
ฉลาด + ขี้เกียจ + โลภ = โคตรโกง
ฉลาด + โอกาส = ติดปีก
ฉลาด + โอกาส + ขยัน = ติดจรวด
ฉลาด + กตัญญู = สัตบุรุษ
ฉลาด + ซื่อสัตย์ = ยอดคน
ฉลาด + ไม่เรียนรู้ = ไม่ฉลาด


โลภ + ขี้เกียจ = ชีวิตหมดไปกับการหาทางลัด
โลภ + ขยัน = รวย
โลภ + โกรธ = โรคหัวใจ


โกรธ + เกลียด = ไฟในอก
โกรธ + อโหสิ = สวรรค์


รัก + หลง = อุปาทาน
รัก + ใจร้อน = ชิงสุกก่อนห่าม
รัก + ใจเย็น = ไม้เท้ายอดทอง ตะบองยอดเพชร
รัก + เข้าใจ = รักจริง

เข้าใจ + ให้อภัย = รักแท้

รัก + อดทน = บ้านเย็น
รัก + อกหัก = ปรากฏการณ์ธรรมชาติ


อกหัก + เหล้า = ยืดเวลาอกหัก
อกหัก + เข้าใจ = ลดเวลาอกหัก
อกหัก + เมตตา = หายอกหัก


ความรู้ + ความโลภ = โมหะ
ความรู้ + ความหลง = เอาตัวไม่รอด
ความรู้ + จริยธรรม = ปัญญา


สติ + ปัญญา = ความเจริญ


จินตนาการ + ความคิดสร้างสรรค์ = นวัตกรรมด้านบวก
จินตนาการ + โมหะ = นวัตกรรมด้านลบ
จินตนาการ + อารมณ์ลบ = ฟุ้งซ่าน


ปัญหา + กลุ้มใจ = ปัญหา + กลุ้มใจ
ปัญหา + วิเคราะห์ = ลดปัญหา


ใจเย็น + รอบคอบ = สำเร็จมั่นคง

รีบร้อน + มีแผน = วิ่งสะดุด
รีบร้อน + ไม่มีแผน = วิ่งอยู่กับที่


รวย + เมตตา = บุญ
รวย + ธรรม = กุศล


ทำบุญ + ชื่อเสียง = แบกโลก
ทำบุญ + ชาติหน้า = การลงทุน
ทำบุญ + เมตตา = ปล่อยวาง


ไม่เข้าใจ + ไม่ปล่อยวาง = อุปาทาน
เข้าใจ + ไม่ปล่อยวาง = โซ่ตรวน
เข้าใจ + ปล่อยวาง = เย็น


สรุป สูตรชีวิตที่ประสบความสำเร็จ :

ขยัน + อดทน + เรียนรู้ + ใจเย็น + เมตตา + ปล่อยวาง = ความเจริญรุ่งเรือง...ทั้งทางโลกและจิตใจ
49  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม / Re: 10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:40:22

9. ชาวอิสราเอลคือทาสของอียิปต์ในยุคนั้น



สิ่งที่เรา ๆ ท่าน ๆ ได้เคยเรียนรู้เกี่ยวกับประวัติของอียิปต์นั้น หลัก ๆ ก็คือเรื่องของการสร้างพิระมิด องค์กษัตริย์ฟาโรห์ และอื่น ๆ อีกสารพัด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หลายต่อหลายคนคงจะนึกกันไปว่า ทาสรับใช้คงจะเป็นชาวอียิปต์กันแน่ ๆ แต่แท้ที่จริงแล้ว เหล่าทาสรับใช้ต่างเป็นชาว "ฮิบรู" (Hebrew) หรือชาวอิสราเอลในปัจจุบันนั่นเอง ซึ่งจากคำกล่าวในคัมภีร์ไบเบิลนั้น ได้ระบุไว้ว่า ชาวฮิบรูได้ตกเป็นทาสของอียิปต์นับตั้งแต่ที่องค์กษัตริย์ทำการยึดดินแดนและอาณาจักรต่าง ๆ เข้ารวมกันเป็นอารยธรรมอียิปต์ ซึ่งนั้นทำให้ชาวฮิบรูต้องมีสถานะเป็นทาส และเป็นเบี้ยล่างให้กับอียิปต์ไปโดยปริยาย
 

10. คำสาปแช่งขององค์ฟาโรห์



เป็นที่เล่าลือกันว่า ผู้ใดก็ตามที่มาเปิดหลุมฟังพระศพขององค์ฟาโรห์ตุตันคามุน (Pharaoh Tutankhamun) จะต้องคำสาปที่นักบวชไอยคุปต์บรรจงสลักไว้ภายในสุสาน ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอาถรรพ์การเสียชีวิตอย่างน่าพิศวงขึ้น เหมือนอย่างเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ "ลอร์ด คาร์นาร์วอน" (Lord Carnarvon) กับคณะสำรวจของ "โฮเวิร์ด คาร์เตอร์" (Howard Carter) ที่เขาได้ว่าจ้างให้ทำการสำรวจค้นหาสุสานฟาโรห์ตุตันคามุน ซึ่งผลสุดท้ายแล้ว ทั้งหมดเสียชีวิตไปโดยที่แพทย์ไม่สามารถวินิจฉัยอาการได้เลย


ได้รู้ทั้ง 10 ตำนานนี้แล้ว บอกได้เลยว่าเป็นการเปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับอารยธรรมอียิปต์ได้อย่างดีมาก ๆ เลยทีเดียว หวังว่าคงจะถูกใจเพื่อน ๆ ที่สนใจเรื่องราวของดินแดนอียิปต์และประวัติศาสตร์โบราณกันนะจ๊ะ


ภาพ :  อินเตอร์เน็ต
ที่มา :  blog.eduzones.com/poonpreecha/84593
50  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม / Re: 10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:39:28

7. องค์ฟาโรห์กับการฝังทาสรับใช้



หลังจากการสิ้นพระชนม์ขององค์ฟาโรห์แล้ว เหล่าบรรดาข้าทาสบริวารของพระองค์ไม่ได้ถูกฆ่าหรือโดนฝังทั้งเป็นในสุสานขององค์ฟาโรห์อย่างที่เคยทราบ ๆ กันแต่อย่างใด เพราะมีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ชิ้นหนึ่ง ได้กล่าวไว้ว่า องค์กษัตริย์ฟาโรห์องค์สุดท้ายทรงเล็งเห็นว่า ข้าทาสของพระองค์ยังสามารถทำประโยชน์อื่น ๆ ได้มากกว่าการถูกฆ่าหรือฝังไปอย่างเปล่าประโยชน์ และเพื่อไม่ให้เป็นการขัดต่อประเพณีที่มีการสืบต่อกันมาช้านาน พระองค์จึงทรงรับสั่งให้นำ "ชับติ" (Shabti) หรือรูปแกะสลักที่ทำจากหลากหลายวัสดุ ทั้ง ขี้ผึ้ง ไม้ ดินเหนียว หิน แก้ว ดินเผา และสัมฤทธิ์ โดยทำหน้าที่เหมือนคนรับใช้ลงไปฝังในสุสานแทนชีวิตของคนเป็น ๆ


8. เหล่าทาสคือผู้สร้างพีระมิด



เป็นที่ถกเถียงกันอยู่พอสมควร กับประเด็นที่ว่าด้วยความยิ่งใหญ่ของพีระมิดประกอบกับความที่เทคโนโลยีและ หลักการทางวิศวกรรมต่าง ๆ ในสมัยนั้นยังไม่น่าจะเจริญเท่าที่ควร ใครคือผู้สร้างพีระมิดกันแน่ และใช้วิธีการใดในการขนย้ายก้อนหินที่มีน้ำหนักมาก ๆ ขึ้นที่สูงกันได้ ทั้งนี้ จากหลักฐานของนักประวัติศาสตร์ชาวกรีก ได้ระบุเอาไว้ในช่วงศตวรรษที่ 5 ก่อนคริสตกาลที่ว่า เหล่าบรรดาช่างฝีมืออียิปต์มากมายนับหมื่นนับแสนคน คือผู้ที่สร้างพีระมิดอันยิ่งใหญ่ตระการตา ไม่ใช่ทาสอย่างที่ในภาพยนตร์ออลลีวู้ดตีความหรือสร้างฉากให้เห็นกันก่อนหน้า นี้แต่อย่างใด


51  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม / Re: 10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:38:16

5. อักษรภาพอียิปต์โบราณ



อักษรภาพอียิปต์โบราณหรือที่เรียกกันว่า "ฮีโรกริฟฟิค" (Hieroglyphs) ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งในความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ ความชำนาญทางศิลปหัตถกรรม งานช่าง และการทำหนังสือของชาวอียิปต์โบราณถือเป็นสิ่งที่น่าทึ่งมาก ๆ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อของพวกเขาที่มีอำนาจและอิทธิพลต่อพิธีกรรมและการดำรงชีวิตอย่างสูง สำหรับอักษรภาพอียิปต์โบราณนี้ เป็นภาพอักษรที่มักจะสลักเรื่องราวเกี่ยวกับองค์ฟาโรห์ ราชวงศ์ การเมืองการปกครอง และเรื่องราวทางศาสนา ซึ่งจะมีปรากฎให้เห็นอยู่ตามวิหารและสิ่งก่อสร้างทั้งหลาย โดยแต่ละภาพก็จะมีการสื่อความหมายที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งนี่เองจึงทำให้การค้นพบในครั้งแรก ๆ นั้น ก็สร้างความมึนงงให้เหล่านักสำรวจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว


6. การตกแต่งภายในพีระมิด



นอกจากโครงสร้าง วัสดุ และวิธีการสร้างพีระมิด จะมีความอลังการงานสร้างอย่างยิ่งใหญ่มาก ๆ แล้ว ภายในของปิระมิดเองยังมีการตกแต่งอยู่อย่างสวยงามตามสมัยอีกด้วย สิ่งหนึ่งที่พบได้ภายในพีระมิดนั้นก็คือ เหล่าบรรดาอักษรภาพฮีโรกริฟฟิค อายุอานามกว่า 4,000 ปี ซึ่งช่วยให้พีระมิดที่ค้นพบกันนั้น กลายเป็นสถาปัตยกรรมอันล้ำค่าและมีอายุเก่าแก่มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกใบนี้


52  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม / Re: 10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:36:30

3. การปรากฎตัวของเอเลี่ยน



ในทุกวันนี้กระแส "เอเลี่ยน" หรือมนุษย์ต่างดาว ก็ยังคงมีให้เห็นอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า การปรากฎตัวของเอเลี่ยนมีให้เห็นมาแล้วตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ยืนยันในเรื่องนี้ ก็มาจากภาพบนฝาผนังภายในสุสานในเมืองกิซ่า โดยหนึ่งในภาพบนฝาผนังนั้นมีการวาดภาพของเอเลี่ยนปะปนอยู่ด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการตัดสินใจด้วย เพราะบางทีภาพ ๆ นี้ อาจจะเป็นเพียงแค่รูปของสิ่งของอื่น ๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับเอเลี่ยนเท่านั้นเอง
 

4. ที่สุดแห่งการค้นพบ



อีกสิ่งหนึ่งที่น้อยคนนักจะนึกถึงและรู้จักเกี่ยวกับประวัติของอิยิปต์โบราณก็คือในเรื่องของการค้นพบที่ยิ่งใหญ่ เพราะนอกจากมหาพีระมิดต่าง ๆ แล้ว ข้อมูลอันล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบกันนั้นก็คือ "เรือโซล่าร์" (Solar Boat) หรือเรือแห่งแสงอาทิตย์ที่เชื่อกันว่า จะเป็นพาหนะที่นำพาวิญญาณขององค์กษัตริย์ไปหาเทพเจ้าแห่งแสงอาทิตย์บนสวรรค์ได้ เรือโซล่าร์นี้สร้างขึ้นจากไม้มากกว่า 1,200 ชิ้น สันนิษฐานว่าสร้างตั้งแต่ 2500 ปีก่อนคริสตกาล และอาจจะเป็นเพียงเครื่องบูชาพระศพในสุสาน ไม่ได้นำไปใช้ล่องในแม่น้ำจริง ๆ แต่อย่างใด
 


53  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม / 10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:35:20
10 ตำนานลึกลับของอารยธรรมอียิปต์โบราณ

อารยธรรมอียิปต์โบราณ หรือ "ไอยคุปต์" คือหนึ่งในอารยธรรมที่มีความเก่าแก่มากที่สุดอารยธรรมหนึ่งของโลก เป็นอารยธรรมที่เรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย แถมยังเป็นที่ตั้งของสิ่งปลูกสร้างอย่าง "พีระมิด" ซึ่งเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกและการพัฒนาทางการแพทย์อย่างการทำ "มัมมี่" อีกด้วย และนอกจากความยิ่งใหญ่อลังการที่อุดมไปด้วยประวัติอันล้ำค่าต่าง ๆ มากมายแล้วนั้น อารยธรรมอียิปต์โบราณ ยังมีตำนานลึกลับ ๆ ที่น่าสนใจที่บางคนอาจจะยังไม่เคยรับรู้มาก่อนเลยก็ได้ ว่าแล้ว ไปดูกันว่าทั้ง 10 ตำนานนั้นจะมีอะไรกันบ้าง...

1. พระนางคลีโอพัตรา กับรูปโฉมที่แท้จริง



พระนางคลีโอพัตรา (Cleopatra VII) นับได้ว่าเป็นผู้ปกครองอียิปต์โบราณที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งในความรู้สึกนึกคิดของคนทั่วไป เธอคือราชินีผู้ทรงเสน่ห์ที่สุด มีรูปโฉมที่งดงาม เพียบพร้อมไปด้วยกลเม็ดเด็ดพรายในเชิงพิศวาส สามารถมัดใจชายได้อย่างอยู่หมัด แต่แท้ที่จริงแล้ว เสน่ห์ของพระนางคลีโอพัตราไม่ได้อยู่ที่เนื้อหนังมังสาหรือความงดงามแห่งใบหน้าและเรือนกายเลย แต่อยู่ที่สติปัญญาและความเฉลียวฉลาดรู้เท่าทันคนต่างหาก โดยมีหลักฐานชิ้นหนึ่งที่บ่งบอกถึงความจริงเรื่องนี้ ก็คือการค้นพบรูปปั้นส่วนพระเศียรขององค์ราชินีและเหรียญที่มีภาพพระพักตร์ของพระนาง ซึ่งเป็นการค้นพบของนักโบราณคดีรายหนึ่ง


2. ความเชื่อเกี่ยวกับความตาย



ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อที่ว่า เมื่อคนตาย ดวงวิญญาณจากร่างไปเพียงชั่วคราว เพื่อเดินทางไปพบกับพระเจ้าในโลกหน้า แล้วจะกลับมาในวันหนึ่งข้างหน้า ทั้งนี้ เมื่อวิญญาณกลับมาแล้วก็ต้องมีร่างกายอยู่ และร่างที่จะอาศัยอยู่ได้ต้องเป็นร่างกายของตนเองเท่านั้น และด้วยความเชื่อนี้เองจึงทำให้เกิดวิธีการดูแลศพ หรือที่เรารู้จักกันอย่างดีกับการทำ "มัมมี่" (Mummy) เพื่อให้สภาพศพยังอยู่ในสภาพที่ดี ไม่เน่าเปื่อยนั่นเอง


54  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:28:46


เกมโอเวอร์


เกมของมาร์คจบลงเมื่อแม่ของมาร์คมาเห็นความอุบาทว์ของลูกชายในเวลาต่อมา เธอเดินลงไปที่ห้องใต้ดินที่ร้อยวันพันปี เธอไม่เคยคิดจะใส่ใจลงไปดู เพราะเห็นว่าเป็นอาณาจักรส่วนตัวของลูกชาย แต่วันนี้เธอจำเป็นต้องลงเพราะตามหามาร์ค คงไม่ต้องบอกน่ะว่าเธอเห็นอะไรเข้า เธอรูปยกหูโทรศัพท์แจ้งตำรวจทันที....

ตำรวจสายตรวจออกตามล่าตัวมาร์ค ไม่นานก็พบเขากำลังเดินเล่นบนถนน เมื่อเห็นตำรวจเขาก็พยายามหนี ระหว่างทางก็จี้สตรีเป็นตัวประกัน แต่ก็ไปไม่ไกลตำรวจก็วิทยุเรียกสายตรวจมาสกัดไว้ได้ หลังมาร์คถูกจับกุม อามันโดก็เปิดปากว่าเป็นผู้ยิงเดวิด ครั้งแรกจากการสอบปากคำแซปปิงตัน เขาปิดปากสนิท ไม่ว่าจะขู่ ปลอบอย่างใดก็ไม่เป็นผล แต่วันรุ่งขึ้นมาร์คกลับเปิดปาก สารภาพแบบถี่ยิบเหมือนน้ำทะลัก บรรยายถึงฉากฆาตกรรม การดูดเลือด การกินเนื้อเหยื่อฆาตกรรม

"มันน่าอายนัก ผมละอายใจเหลือเกิน"

นอกจากนี้เขาสารภาพว่า ที่เขาทำการฆาตกรรมเหยื่อทั้งหมดนั้นเป็นเพราะเขาถูกบงการจากเสียงลึกลับที่ดังก้องในสมอง มันอาจเป็นเสียงพระเจ้าหรือไม่ก็ของซาตาน "ผมทำไปทั้งหมดเพราะเสียงนั้น หากผมขัดขืนไม่ทำตามเสียงนั้นบอก มันจะเอาชีวิตของผมไปแทน"

ตำรวจอึ้งไปพักใหญ่

"หมอมาร์คคนนี้ เป็นคนฉลาด และรวยอารมณ์ ลักษณะการแสดงออกไม่ผิดปกติธรรมดา แต่ตอนสอบปากคำครั้งหนึ่ง เขาเผลอปล่อยมุขหน้าตายว่า ถามจริงเหอะขอเอามีดสับขาหมวดสักฉับได้ไหมล่ะชักมันมือ"

มาร์คถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ เวยน์ด็อต เคาน์ตี้ ในระหว่างส่งขึ้นตัวพิจารณาคดีเป็นเวลานานถึงหนึ่งปีหลังถูกจับกุม มาร์คจะต้องได้รับการตรวจสอบอาการประสาททางจิตมากมายจากจิตแพทย์และจิตเวช จนอัยการอาวุโสท่านหนึ่งมีความเห็นส่วนตัวว่า "ผมเกรงว่าการตรวจเข้มของจิตแพทย์ จะทำให้จำเลยยกเอาสิ่งที่มาร์คอ้างว่าทำไปเพราะตามคำสั่งของเสียงกระซิบในสมอง และรายงานความผิดปกติทางจิตและสมองของมาร์ค มาเป็นข้อต่อสู้ว่ามาร์คเป็นคนวิกลจิต ซึ่งนั้นหมายถึงเขาสามารถรอดพ้นจากโทษประหารชีวิตในที่สุด"

และแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ในการพิจารณาคดีของมาร์ค แซ็ปปิงตัน ในเดือนมกราคม 2002 ได้มีคำสั่งให้นำตัวมาร์คไปบำบัดในโรงพยาบาลโรคจิตตลอดชีวิต แต่ไม่รู้น่ะว่าเสียงจากอเวจียังอยู่ในสมองของมาร์คหรือเปล่า




เรื่อง : หนังสือฆ่ากินศพ โดย ส.องครักษ์ สำนักพิมพ์เครือเถา
55  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:26:14




เทอรี่ ที.กรีน (Terry Green, victim)

มาร์คตะลอนหาเหยื่อมา 3 อาทิตย์เต็ม ก่อนที่จะพบเหยื่อรายแรก แต่แทนที่จะเลือกคนแปลกหน้าเขากลับเลือกเหยื่อคนใกล้ตัวนามว่า เทอรี่ ที.กรีน อายุ 25 ปี เพื่อนของมาร์คที่มาหาสู่กันเป็นประจำ

วันเกิดเหตุวันที่ 7 เมษายน ปีค.ศ. 2001 เทอรี่เคาะปรตูหน้าบ้านมาร์คโดยไม่ได้นัดหมาย เพราะเขาแค่มาคุยเล่นๆ เท่านั้น ภายหลังมาร์คถูกจับกุมเอาบอกผู้สื่อข่าวในคดีนี้ว่า "เทอรี่ถึงที่ตาย เหมือนภาษิตที่ว่า เข้าไปผิดที่ผิดเวลา"

มาร์คเปิดประตูพอเห็นเทอรี่ เสียงนรกนั้นบอกว่า ให้ล่อมันลงไปที่ห้องใต้ดิน เอามีดเดินป่ากระซวกมันให้ตาย! มาร์คทำตามเสียงนั้นเขาฆ่าเทอรี่ด้วยมีดเดินป่าที่ห้องใต้ดิน เลือดสาดกระจายเต็มผนัง

เมื่อฆ่าเสร็จเสียงนรกก็บอกว่า เลียกินเลือดมันเลย มาร์คทำตามทุกอย่างเขานั่งคุกเข่าลงเลียเลือดเทอรี่อย่างเมามัน แต่ยังไม่ทันได้อิ่มเสียงนั้นก็บอกว่า "คุณโง่เอ๊ยมัวแต่เลียนั้นแหละเอาศพมันไปทิ้งได้แล้วอยากติดคุกหรือไงวะ"

มาร์คละจากศพของเทอรี่ก่อนที่กลับมาเพื่อใช้ผ้าห่อมาห่อศพแล้วแบกขึ้นไปจากห้องใต้ดิน เอาไปไว้ในรถแม่ ขับออกจากแคนซัส ไปยังมัสซูรี เอารถไปจอดหลังไนต์คลับ แล้วทิ้วศพของเทอรี่ไว้ที่เบาะหลังรถ แล้วเผ่นหนี ไม่นานนักศพของเทอรี่ถูกพบโดยตำรวจสายตรวจแต่ปัญหามีอยู่ว่าจะให้เขตไหนเป็นคนทำคดีระหว่างแคนซัสหรือมัสซูรี เพราะแม้ศพพบที่มัสซีแต่รถที่พบเหยื่อน่ะมันของแคนซัสน่ะ และเมื่อตำรวจแคนซัสได้รับรายงาน แต่ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เพราะที่นี้มีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นเกือบทุกวัน ใครจะบ้าหาเหามาใส่หัวเพิ่ม กว่าตำรวจจะได้ร่องรอยที่โยนมาถึงมาร์คก็ผ่านไปสามวันแล้ว ในขณะที่มาร์คกำลังสนุกกับการฆ่า เขาฆ่าเหยื่อรวดเดียวอีกสองรายก่อนถูกจับกุม


ไมเคิล วีฟเวอร์ (Michael Weaver, victim)

10 เมษายน 3 วันหลังเทอรี่ถูกฆ่าเสียงนรกนั้นก็บงการให้มาร์คล่าเหยื่อ คราวนี้มาร์คเดินตะเวณหาเหยื่อจนพบ ไมเคิล วีฟเวอร์ อายุ 22 ปี เพื่อนสนิทคนหนึ่งของมาร์ค มาร์คพบเขานั่งอยู่บนบันไดบ้าน มาร์คเข้าไปชวนไมเคิลขับรถเล่นกัน ไมเคิลไม่ขัดข้อง ในซอยแคบๆ ห่างจากบ้านไมเคิลไปสามช่วงตึก มาร์คกระหน่ำแทงไมเคิลจนตายคามือ เสียงนั้นยังบอกไมเคิลอีกว่า "ดื่มเลือดมันสิคุณโง่สดๆ ชื่นใจ"

มาร์คทำตามเสียงนั้นอย่างง่ายดาย แต่ทำไม่นานก็เผ่นหนีเพราะกลัวใครมาเห็นเข้า


อัลตัน "เฟร็ดดี้" บราวน์ (Alton Freddie Brown, victim)

ระหว่างทางกลับบ้าน หลังจากสังหารไมเคิลมาหยกๆ บังเอิญหรือโชคร้ายไม่รู้ที่เฟรดดี้ เด็กวัย 16 ปี เพื่อนรูปร่างผอมกะหร่องที่รักและเคารพมาร์คมากเดินสวนมาพอดี เสียงในสมองบอกมาร์คว่า "เจ้าหมอนี้ก็เหมาะ"

มาร์คจึงหลอกให้เฟร็ดดี้ตามมาที่บ้าน หลอกไป แล้วไปที่ห้องใต้ดิน เอาปืนยิงเฟรดดี้จนตาย ดูดเลือดจากบาดแผล เสียงมันก็สั่งให้เขาสับร่างของเฟรดดี้ออกเป็นท่อนๆ จากนั้นให้แทะกินดิบๆ อิ่มหน่ำสำราญใจแล้วเอาชิ้นที่เหลือใส่ถุงขยะทิ้งไว้ห้องใต้ดิน แล้วออกจากบ้านตระเวณหาเหยื่อรายใหม่อีก



56  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:24:29


เสียงกระซิบจากอเวจี


ย้อนกลับไปก่อนเกิดคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง มาร์คเดินแกว่งอยู่ตอนเหนือของแคนซัส ซิตี้ เขาพบอามันโด ไกตั้น เพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกัน เป็นกุ๊ยกระจอกข้างถนน ทั้งสองต่างดีใจที่พบกัน และอามันโดก็ชักชวนมาร์คทำเรื่อง
อย่างหนึ่งเข้า...........และอามันโด คนนี้แหละ..ที่เปลี่ยนชีวิตของมาร์คไปตลอดกาล.

ต้นเดือนมีนาคม อามันโดและมาร์คหาซื้ออาวุธปืน เพื่อเอามาดักปล้นเหยื่อที่ผ่านมาตามซอกซอย จนพบเหยื่อคนหนึ่งที่ชื่อเดวิด มาร์แซ็ค อามันโดบอกให้มาร์คจ่อปืนไปที่เดวิด ส่วนเขาตบทรัพย์เหยื่อ เดวิดไม่ไม่ขัดขื่นคนร้ายทั้งสองแต่อย่างไร
ในขณะที่มาร์คเอาปืนจ่อเดวิดนั้นจู่ๆ เขาก็ได้ยินเสียงกระซิบสมองว่า

"ฆ่ามัน"

มาร์คสะดุ้ง เขาเหนี่ยวไกยิงเดวิดจนตาย ทั้งสองตกใจ พวกเขาแค่ขู่เหยื่อเพื่อเอาของมีค่าเท่านั้น แต่เหยื่อกลับมาตายด้วยปืน เรื่องใหญ่แล้ว ทั้งสองต้องแยกย้ายหลบหนีพลันวัน หลังจากเหตุการณ์ อามันโด หนีไปกบดานเท็กซัส แต่ไม่นานก็ถูกจับ แต่แทนที่อามันโดจะซักทอดมาถึงมาร์ค เขากลับไม่ทำ เพราะเขารักเพื่อน เขายอมติดคุกเพียงลำพัง

มาร์คเมื่อมาร์คทราบข่าวของอามันโด เขาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในแคนซัส ซีตี้ จนถึงวันฆาตกรรมต่อเนื่อง หลังจากการฆาตกรรมเดวิด จู่ๆ ได้มีเสียงกระซิบในสมอง "นายต้องฆ่าคน ถ้านายไม่ฆ่านายต้องตายแทน"

แต่เสียงนั้นไม่ใช้คนเลือกเหยื่อ คนที่มาร์คฆ่าทั้งหมดล้วนเป็นคนที่เขาเลือกเอง เขาต้องเดินพล่านไปตามถนนมองหาเหยื่อ ในใจก็ถามเจ้าของเสียงว่า หมอนี้ล่ะ นางนี้ล่ะ เป็นอย่างนี้ตลอดทาง เหยื่อจึงไม่เฉลียวใจเลยว่าถูกฆ่า


57  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:22:40


ระฆังโบสถ์กับไซเรน Kansas City skyline at night


มาร์ค แซ็ปปิงตัน เกิดในตอนเหนือของรัฐแคนซัส ซิตี้ ดินแดนที่จะได้ยินเสียงระฆังดังเหง่งหง่างตลอดเวลา เพราะที่นี้อุดมไปด้วยโบสถ์คริสต์ สลับกับเสียงไซเรนกรีดร้องของรถตำรวจที่วิ่งไปจุดที่เกิดเหตุร้ายที่มักเกิดขึ้นจนเป็นปกติธรรมดาของที่นี้

มาร์ค แช็ปปิงตัน อาศัยอยู่ร่วมกับแม่ ส่วนพ่อหายหัวไปตั้งแต่มาร์คเกิด มาร์คไม่เคยเห็นพ่อ จำความได้ก็อยู่กับแม่ ในสภาพแวดล้อมที่ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยเสื่อมโทรมของคนผิวดำ

แม่ของมาร์คหวังจะให้ลูกเป็นคนดี ไม่อยากให้มาร์คเหมือนพวกกุ๊ยข้างถนน เธอจึงเลี้ยงดูมาร์คอย่างขยันขันแข็ง ใกล้ชิด เข้มงวด ป้องกันเต็มที่ไม่ให้ลูกชายคบกับพวกนักเลงหัวไม้ หรือพวกขี้คุก เธอเอาใจใส่มาร์คทุกอย่าง พาเขาไปเข้าโบสถ์ทุกวันอาทิตย์ตั้งแต่เด็ก

นั้นเองที่ทำให้มาร์คในตอนแรกเป็นเด็กดี เป็นคนฉลาด รวยอารมณ์ขัน ครูบาอาจารย์และเพื่อนต่างรักใคร่ แต่ถึงแม้ว่าแม่จะคอยดูแลและอบรมมาร์คดีเพียงใด แต่หากคบเพื่อนชั่วก็จบ มาร์คได้ทดลองยาเสพติดชนิดใหม่ที่เรียกว่า "พีซีพี" และเจ้าแดงค์ (หมายถึงยาเสพติดในหมู่ขี้ยาที่ใช้เรียกกัน โดยตัวยานี้มีสูตรคือเอาบุหรี่
ไปจุ่มยาแล้วตาให้แห้งแล้วสูบ) ที่พวกเพื่อน (ชั่ว) บอกว่า "พี้แล้วลืมทุกข์"

มาร์คเสพครั้งเดียวก็ติดเลย

นับตั้งแต่นั้นมามาร์ค แช็ปปิงตัน ก็กลายเป็นกุ๊ยข้างถนนโดยสมบูรณ์ ต่อมามาร์คถูกตำรวจจับกุม ข้อหาพกยาเสพย์ติดและเสพ ตำรวจได้ส่งสำนวนไปยัง เจอรี่ กอร์แมน ผู้ช่วยอัยการสำนักงานเขตเวย์นด็อต เคาน์ตี้ เพื่อลงความเห็น เมื่ออัยการอ่านสำนวนแล้วให้ความเห็นว่า

"เป็นความผิดเล็กน้อยไม่เกี่ยวกับความสงบของสังคม"



58  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก เมื่อ: 25 มีนาคม 2557 12:20:37
มาร์ค แช็ปปิงตัน (Marc Sappington) ใบสั่งจากนรก



จากหนุ่มนิสัยดีชาวแคนซัส เชื้อสายเเอฟริกัน อายุ 21 ปี รูปร่างผอม ผิวดำ กลับกลายเป็นฆาตกรโหดกินเลือดกินเนื้อมนุษย์ เขาให้การภายหลังว่าเขาทำตามเสียงกระซิบข้างหูที่เชื่อว่ามันมาจากนรก มันชอบพูดว่า "หมอนี้เอาไหม" "นางนี้ดีไหมน่ะ" มันสั่งให้เขาออกล่าเหยื่อและกินคน เพราะหากขัดขื่นเขาเองอาจตกเป็นเหยื่อสังหารแทน

"หมอนั้นกลัวตายเลยฆ่าคนอื่นแทน" หนึ่งในตำรวจที่สอบปากคำมาร์ค แช็ปปิงตันบอกกับผู้สื่อข่าว

มาร์คตกเป็นผู้ต้องหาฆ่าคนตาย 4 ราย 2 ใน 4 ราย ถูกมาร์คฆ่าในวันเดียว การลงมือกระทำด้วยความโหดเหี้ยม เขาพยายามดูดเลือดจากร่างเหยื่อสองราย ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทของเขา ทำได้เขาได้ฉายาอีกนามว่า "ผีดูดเลือดแห่งแคสซัส ซิตี้" นอกจากนี้ยังห่นศพเหยื่ออายุเพียง 16 เป็นชิ้นพอคำแล้วเคี้ยวกินในห้องใต้ดินตัวเองอีกด้วย

จิตแพทย์ต้องตกตะลึงถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกรต่อเนื่องรายนี้เนื่องจาก ฆาตกรต่อเนื่องส่วนมากอายุมากอย่างต่ำสุดก็ 30 ปีขึ้นไป แต่สำหรับมาร์คเขาแค่อายุ 21 ปีเท่านั้น และการฆ่าแต่ล่ะครั้งเขาก็ไม่ได้ฆ่าเหยื่อเพื่อบำบัดอารมณ์ความใคร่ แต่อย่างน้อย มันจึงเป็นกรณีน่าศึกษาอย่างยิ่งว่าอะไรทำให้เขาเป็นอย่างนั้น

59  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ร้อยภูติ พันวิญญาณ / Re: ตำนานปราสาทผีสิงที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนที่สุดในโลก เมื่อ: 05 มีนาคม 2557 13:04:21


Leap Castle Ireland Paranormal Investigation With EVP Review



60  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ร้อยภูติ พันวิญญาณ / Re: ตำนานปราสาทผีสิงที่ขึ้นชื่อว่าเฮี้ยนที่สุดในโลก เมื่อ: 05 มีนาคม 2557 13:02:30


Bassett Research presents Leap Castle
หน้า:  1 2 [3] 4 5 6
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.158 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 14 เมษายน 2567 22:29:47