[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 07:39:07 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  [1] 2 3
1  นั่งเล่นหลังสวน / หน้าเวที (มุมฟังเพลง) / คืนที่ดาวเต็มฟ้า - ปราโมทย์ | Acoustic Cover By แอนนี่ x โอ๊ต เมื่อ: 10 กรกฎาคม 2564 19:20:55
<a href="http://www.youtube.com/watch?v=BpVYvRtlM-Q" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=BpVYvRtlM-Q</a>
2  นั่งเล่นหลังสวน / หน้าเวที (มุมฟังเพลง) / เดินจากไป - โอปอ เมื่อ: 03 สิงหาคม 2563 11:06:21


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=mrbegveZJMM" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=mrbegveZJMM</a>
3  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2563 14:07:16


ว่าด้วยเรื่องตัวอักษรไทยกับสระต่าง ๆ ในฟอนต์คอมพิวเตอร์

สำหรับฟอนต์ภาษาไทยในคอมพิวเตอร์ซึ่งตอนนี้กลายเป็นมาตรฐานโดยปริยายไปแล้ว (de factor)

ในฟอนต์จะต้องมีรูปสำหรับวรรณยุกต์ 4 ตำแหน่ง คือ

1. บ่อ เฒ่า < ตรงกับด้านขวาสุดของตัวอักษร และใกล้กับตัวอักษร
2. ป่อ ฝ่า < หลบหางตัวอักษรไปทางด้านซ้าย แต่ยังใกล้กับตัวอักษร
3. บิ่น ก่ำ < ตรงกับด้านขวาสุดของตัวอักษร แต่หลบสระด้านบนขึ้นไปด้านบน
4. ปิ่น ฝิ่น < หลบหางตัวอักษรไปทางด้านซ้าย และหลบสระด้านบนขึ้นไปด้านบน

โดยตำแหน่งปกติจะเป็นตามข้อ 3. ซึ่งถ้าโปรแกรม และ/หรือ ฟอนต์ ไม่ได้ออกแบบเผื่อไว้
ตำแหน่งของวรรณยุกต์ทุกแห่งก็จะเป็นแบบข้อ 3. และเป็นที่มาของคำว่า สระลอย (ซึ่งผิด
เพราะจริงๆ แล้วที่ลอยคือวรรณยุกต์)

นอกจากวรรณยุกต์แล้ว การออกแบบฟอนต์ภาษาไทยก็จะต้องเผื่อกรณีอื่นๆ อีกหลายกรณี เช่น
1. สระบนหลบหางตัวอักษรไปทางด้านซ้าย เช่น ปี, ฝี
2. สระล่างหลบหางตัวอักษรลงไปด้านล่าง ซึ่งคำเดียวในภาษาไทยที่เคยเห็นคือชื่อสี่แยกอุภัยเจษฎุทิศ มีสระอุอยู่ใต้ตัว ฎ.ชฎา
3. ตัดหาง ญ.หญิง และ ฐ.ฐาน เมื่อมีสระล่าง เช่น กตัญญู
4. นิคหิตในสระอำจะต้องหลบหางตัวอักษร เช่น ใจป้ำ








Credits: Pantip.com หัวข้อ > เจอลูก 7 ขวบ ถามเรื่องการวางวรรณยุกต์บนตัวอักษร วางตรงไหน คิดว่าไม่ยาก แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น
รวบรวมจากความคิดเห็นของคุณ สมาชิกหมายเลข 1392283, meam,
4  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2563 14:00:29


การใช้สระ

สระอะ (-ะ) เขียนไว้หลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอะ เช่น กะ จะ ปะ
สระอา (-า) เขียนไว้หลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอา เช่น มา กา ตา
สระอิ (-ิ) เขียนไว้บนพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอิ เช่น บิ สิ มิ
สระอี (-ี) เขียนไว้บนพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอี เช่น ปี ดี มี
สระอึ (-ึ) เขียนไว้บนพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอึ เช่น หึ สึ
สระอื (-ื) เขียนไว้บนพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอื แต่การใช้สระอื ต้องมี อ มาประกอบด้วย เช่น มือ ถือ ลือ
สระอุ (-ุ) เขียนไว้ใต้พยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอุ เช่น ผุ มุ ยุ
สระอู (-ู) เขียนไว้ใต้พยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอู เช่น ดู รู งู
สระเอะ (เ-ะ) เขียนไว้ทั้งหน้าและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอะ เช่น เละ เตะ เกะ
สระเอ (เ-) เขียนไว้หน้าพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอ เช่น เก เซ เข
สระแอะ (แ-ะ) เขียนไว้ทั้งหน้าและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระแอะ เช่น และ แพะ แกะ
สระแอ (แ-) เขียนไว้หน้าพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระแอ เช่น แล แพ แก
สระเอียะ (เ-ียะ) เขียนไว้ทั้งหน้า บน และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอียะ เช่น เผียะ เพียะ เกียะ
สระเอีย (เ-ีย) เขียนไว้ทั้งหน้าและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอีย เช่น เสีย เลีย เปีย
สระเอือะ (เ-ือะ) เขียนไว้ทั้งหน้า บน และหลังพยัญชนะ
สระเอือ (เ-ือ) เขียนไว้ทั้งหน้า บน และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอือ เช่น เสือ เรือ เจือ
สระอัวะ (-ัวะ) เขียนไว้บน และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอัวะ เช่น ผัวะ ยัวะ
สระอัว (-ัว) เขียนไว้บน และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอัว เช่น ตัว รัว หัว
สระโอะ (โ-ะ) เขียนไว้หน้า และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระโอะ เช่น โปะ โละ แต่ถ้ามีตัวสะกด จะตัดสระโอะออกเหลือแต่พยัญชนะต้นกับตัวสะกด เรียกว่า สระโอะลดรูป เช่น คน รก จง
สระโอ (โ-) เขียนไว้หน้าพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระโอ เช่น โต โพ โท
สระเอาะ (เ-าะ) เขียนไว้ทั้งหน้า และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอาะ เช่น เลอะ เถอะ เจอะ
สระออ (-อ) เขียนไว้หลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระออ เช่น ขอ รอ พอ
สระเออะ (เ-อะ) เขียนไว้ทั้งหน้า และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเออะ เช่น เลอะ เถอะ เจอะ
สระเออ (เ-อ) เขียนไว้ทั้งหน้า และหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเออ เช่น เจอ เธอ เรอ ถ้ามี ย สะกด จะตัด อ ออกแล้วตามด้วย ย เลย เช่น เขย เกย เฉย เรียกว่า สระเออลดรูป ถ้ามีตัวสะกดอื่น ๆ ที่ไม่ใช้ ย จะเปลี่ยน อ เป็นพินทุ์อิ เช่น เกิด เลิก เงิน เรียกว่า สระเออเปลี่ยนรูป
สระอำ (-ำ) เขียนไว้บนและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระอำ เช่น รำ ทำ จำ
สระใอ (ใ-) เขียนไว้หน้าพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระใอ มีทั้งหมด ๒๐ คำ ได้แก่ ใกล้ ใคร ใคร่ ใจ ใช่ ใช้ ใด ใต้ ใน ใบ ใบ้ ใฝ่ ใย สะใภ้ ใส ใส่ ให้ ใหม่ ใหญ่ ใหล (หลงใหล หลับใหล ใหลตาย)
สระไอ (ไ-) เขียนไว้หน้าพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระไอ เช่น ไป ไซ ไส ใช้กับคำที่มาจากภาษาอังกฤษ เช่น ไกด์ ไมล์ สไลด์ ใช้กับคำที่มาจากภาษาบาลีสันสกฤตที่แผลงสระอิเป็นสระไอ เช่น ตรี - ไตร ใช้กับคำที่มาจากภาษาเขมร เช่น สไบ
สระเอา (เ-า) เขียนไว้หน้าและหลังพยัญชนะ เมื่อนำมาประสมกับพยัญชนะ จะออกเสียงพยัญชนะนั้นประสมด้วยสระเอา เช่น เกา เผา เรา




วิธีใช้สระ

เมื่อพยัญชนะประสมกับสระและมีตัวสะกด จะมีวิธีใช้สระหลายวิธี ดังนี้
๑. คงรูป คือเขียนรูปสระให้ปรากฏครบถ้วน ได้แก่ -า , -ิ, -ี, -ึ, -ุ, -ู , เ- , แ- , โ- , -อ , เ -ีย , เ -อ
ก + -า + ง = กาง
ด + - ิ + น = ดิน
ห + -อ + ม = หอม
ม + แ- + ว = แมว

๒. แปลงรูป คือ แปลงสระเดิมให้เป็นอีกรูปหนึ่ง ได้แก่ -ะ , เ-ะ , แ-ะ , เ-อ
ร + -ะ + บ = รับ (แปลงวิสรรชนีย์เป็นไม้หันอากาศ)
ล + เ-ะ + ก = เล็ก (แปลงวิสรรชนีย์เป็นไม้ไต่คู้)
ข + แ-ะ + ง = แข็ง (แปลงวิสรรชนีย์เป็นไม้ไต่คู้)
ด + เ-อ + น = เดิน (แปลงตัวออเป็นพินทุ์อิ)

๓. ลดรูป คือไม่ต้องเขียนรูปสระให้ปรากฏ หรือปรากฏบางส่วนแต่ยังคงต้องออกเสียงให้ตรงกับรูปสระที่ลดนั้น การลดรูปมี ๒ วิธีคือ
      ๓.๑ ลดรูปทั้งหมด ได้แก่ โ-ะ, -อ เช่น
                  บ + โ-ะ + ก = บก
                  ก + -อ + ร = กร (เมื่อมีตัว ร สะกดเท่านั้น)
      ๓.๒ ลดรูปบางส่วน ได้แก่ สระที่ลดรูปไม่หมดเหลือไว้บางส่วน เช่น
                  ค + เ-อ + ย = เคย (เมื่อตัว ย สะกด จะลดรูปตัว อ เหลือไว้แต่ไม้หน้า เช่น เชย เชย เลย เกย เอย เนย เงย )
                  ส + - ั ว + น = สวน (ลดไม้หันอากาศ คงเหลือไว้แต่ตัว ว เช่น กวน ลวน นวล ชวน ควร มวน อวน หวน)





5  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2563 13:56:28


สระ
สระ หมายถึงเครื่องหมายใช้แทนเสียงที่เปล่งออกมาในภาษา ตามหลักภาษา พยัญชนะจะต้องประกอบร่วมหรืออาศัยสระด้วยจึงจะออกเสียงได้

รูปสระ
รูปสระในภาษาไทยมีทั้งหมด ๒๑ รูป ดังนี้
๑) ะ (วิสรรชนีย์) ใช้เป็นสระอะเมื่ออยู่หลังพยัญชนะ เช่น ปะ กะ และใช้ประสมกับสระรูปอื่น ให้เป็นสระอื่น เช่น เตะ แตะ โต๊ะ เอียะ อัวะ
๒) -ั (ไม้ผัด, ไม้หันอากาศ) ใช้เขียนบนพยัญชนะแทนเสียงสระอะเมื่อมีตัวสะกด เช่น มัด และประสมกับสระรูปอื่น เช่น ตัว ผัวะ
๓) -็ (ไม้ไต่คู้) ใช้ เขียนไว้บนพยัญชนะที่ประสมกับรัสสระที่มีวิสรรชนีย์ เพื่อแทนวิสรรชนีย์เมื่อมีตัวสะกด เช่น เจ็ด (เจะ+ด) และใช้แทนสระเอาะที่มีวรรณยุกต์โท ที่มีคำเดียวคือคำว่า ก็ (เก้าะ)
๔) า (ลากข้าง) ใช้เป็นสระอา สำหรับเขียนหลังพยัญชนะและใช้ประสมกับรูปสระรูปอื่นเป็นสระ เอาะ อำ เอา เช่น เกาะ ลำเพา
๕)  -ิ (พินทุ์อิ) ใช้เป็นสระอิ สำหรับเขียนไว้บนพยัญชนะ เช่น ซิ ผลิ และใช้ประสมกับสระรูปอื่นให้เป็นสระ อี อือ เอียะ เอีย เอือะ เอือ เช่น ผี คือ เกี๊ยะ เสีย เสือ
๖) -่ (ฝนทอง) ใช้เขียนไว้ข้างบนพินทุ์อิ ทำให้เป็นสระอี เช่น ผี มี ปี
๗) " (ฟันหนู) ใช้เขียนไว้ข้างบนพินทุ์อิเป็นสระอือ เอือะ เอือ เช่น มือ เสือ
๘) -ํ (หยาดน้ำค้าง, นฤคหิต, นิคหิต) ใช้เขียนไว้ข้างบนลากข้าง ทำให้เป็นสระอำ ( ำ) และเขียนบนพินทุ์อิเป็นสระอึ เช่น จำนำ ปรึกษา ศึกษา
๙) -ุ (ตีนเหยียด) ใช้เป็นสระอุ เขียนไว้ข้างล่างตรงเส้นหลังของพยัญชนะ เช่น ดุ
๑๐) -ู (ตีนคู้) ใช้เป็นสระอู เขียนไว้ข้างล่างตรงเส้นหลังของพยัญชนะต้น เช่น ปู งู ดู
๑๑) เ- (ไม้หน้า) ใช้เป็นสระเอ สำหรับเขียนไว้ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น เกเร ถ้าใช้สองรูปด้วยกันจะเป็นสระแอ และใช้ประสมกับสระรูปอื่นให้เป็นสระอื่น เช่น เอือ เอา เออะ เอียะ เอีย เอาะ แอะ
๑๒) ใ- (ไม้ม้วน) ใช้เป็นสระใอ สำหรับเขียนไว้หน้าพยัญชนะ เช่น ใคร ใต้ ฯลฯ
๑๓) ไ- (ไม้มลาย) ใช้เป็นสระไอ สำหรับเขียนไว้ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น ไฟไหม้ ฯลฯ
๑๔) โ- (ไม้โอ) ใช้เป็นสระโอ สำหรับเขียนไว้ข้างหน้าพยัญชนะ เช่น โมโห ใช้ประสมกับวิสรรชนีย์ทำให้เป็นสระ โอะ เช่น โละ โปะ
๑๕) ฤ (ตัวรึ) ใช้ เป็นสระ ฤ จะใช้โดด ๆ เช่น ฤดี หรือจะใช้ประสมกับพยัญชนะ (ต้องเขียนไว้หลังพยัญชนะ) และออกเสียงสระได้หลายเสียง ออกเสียงเป็น ริ เช่น กฤษณา ออกเสียงเป็น รึ เช่น ฤดู ฤทัย พฤกษ์ ออกเสียงเป็น เรอ เช่น ฤกษ์
๑๖) ฤๅ (ตัวรือ) ใช้เป็นสระ ฤๅ ใช้โดด ๆ เช่น ฤๅไม่ หรือใช้เป็นพยางค์หน้าของคำ เช่น ฤๅดี
๑๗) ฦ (ตัวลึ) ใช้เป็นสระ ฦ (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)
๑๘) ฦๅ (ตัวลือ) ใช้เป็นสระ ฦๅ (ปัจจุบันเลิกใช้แล้ว)
๑๙) ย (ตัวยอ) ใช้ประสมกับสูปสระรูปอื่น ทำให้เป็นสระอื่น เช่น สระเอีย เอียะ
๒๐) ว (ตัววอ) ใช้ประสมกับสระรูปอื่น เป็นสระ อัวะ อัว
๒๑) อ (ตัวออ) ใช้เขียนหลังพยัญชนะเป็นสระ ออ และประสมกับรูปสระรูปอื่น เป็นสระ อือ เออะ เอือะ เอือ

เสียงสระ
เสียงสระในภาษาไทยมี ๓๒ เสียง ดังนี้
    อะ    
    อา    
    อิ    
    อี    
    อึ    
    อื    
    อุ    
    อู    
เอะ
เอ
เเอะ
เเอ
เอียะ
เอีย
เอือะ
เอือ
อัวะ
อัว
โอะ
โอ
เอาะ
ออ
เออะ
เออ
อำ
ใอ
ไอ
เอา
ฤๅ
ฦๅ



เมื่อเวลาออกเสียงสระ เช่น อะ อา เอะ เอ เอียะ เอีย จะออกเสียงแตกต่างกัน
บางตัวออกเสียงสั้น บางตัวออกเสียงยาว บางตัวเหมือนมีสระสองเสียงกล้ำกัน ดังนั้น
จึงจัดแบ่งเสียงสระเป็นพวกใหญ่ ๆ ได้ ๕ พวกด้วยกัน คือ


• สระเสียงสั้น ได้แก่ สระที่ออกเสียงสั้น คือ อะ อิ อึ อุ เอะ แอะ โอะ เอาะ เออะ เอียะ เอือะ อัวะ ฤ ฦ อำ ไอ ใอ เอา
• สระเสียงยาว ได้แก่ สระที่ออกเสียงยาว คือ อา อี อื อู เอ แอ โอ ออ เออ เอีย เอือ อัว ฤๅ ฦๅ
• สระเดี่ยว ได้แก่ สระที่เปล่งเสียงออกมาเป็นเสียงเดียว ไม่มีเสียงอื่นประสมมี ๑๘ ตัวได้แก่ อะ อา อิ อี อึ อื อุ อู เอะ เอ แอะ แอ เออะ เออ โอะ โอ เอาะ ออ
• สระประสม คือ สระที่มีเสียงสระเดี่ยว ๒ ตัวประสมกัน มี ๖ ตัวได้แก่
เอียะ เสียง อิ กับ อะ ประสมกัน
เอีย เสียง อี กับ อา ประสมกัน
เอือะ เสียง อึ กับ อะ ประสมกัน
เอือ เสียง อื กับ อา ประสมกัน
อัวะ เสียง อุ กับ อะ ประสมกัน
อัว เสียง อู กับ อา ประสมกัน
• สระเกิน คือ สระที่มีเสียงซ้ำกับสระเดี่ยว ต่างกันก็แต่ว่าสระเกินจะมีเสียงพยัญชนะประสมหรือสะกดอยู่ด้วย มี ๘ ตัว ได้แก่
ฤ ฤๅ ฦ ฦๅ (รึ รือ ลึ ลือ) มีเสียงพยัญชนะ ร ล ประสมอยู่
อำ มีเสียง อะ และพยัญชนะ ม สะกด
ใอ ไอ มีเสียง อะ และพยัญชนะ ย สะกด (คือ อัย)
เอา มีเสียง อะ และพยัญชนะ ว สะกด

บางตำราถือว่าภาษาไทยมี ๒๑ เสียง ทั้งนี้ คือไม่รวมสระเกินซึ่งถือว่าเป็นหน่วยเสียงในตัวเองโดยสมบูรณ์อยู่แล้ว และไม่รวมสระประสมเสียงสั้น คือ เอียะ เอือะ อัวะ เนื่องจากมีที่ใช้ในภาษาไทยน้อยมาก และส่วนใหญ่จะเป็นคำเลียนเสียงธรรมชาติซึ่งไม่ได้ใช้สื่อความหมายอื่น




6  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 04 พฤษภาคม 2563 13:38:57

สำหรับการวางรูปสระและวรรณยุกต์ภาษาไทย

จะมีโครงสร้างที่ถูกต้องดังนี้



https://f.ptcdn.info/161/047/000/ogh1fxmp6xuS2flvxze-o.jpg



อภิธานอักษรย่อ

เส้น ร ๑ หมายถึง เส้นระนาบหรือเส้นระดับที่ ๑ (เส้นตารางแนวนอน)
ช่วง ร ๓ หมายถึง ระยะตั้งแต่เส้นระนาบหรือเส้นระดับที่ ๒ ถึงเส้นระนาบหรือเส้นระดับที่ ๓
เส้น ด ๑ หมายถึง เส้นดิ่งที่ ๑ (เส้นตารางแนวตั้ง)
ช่วง ด ๑ หมายถึง ระยะตั้งแต่เส้นชานหน้าจนถึงเส้นดิ่งที่ ๑




https://f.ptcdn.info/161/047/000/ogh1ihmp4QyVAhn8uW1-o.jpg


https://f.ptcdn.info/161/047/000/ogh1iylqnD41uqaYMK-o.jpg


https://f.ptcdn.info/161/047/000/ogh1jit7kkvyw4kZuIM-o.jpg


https://f.ptcdn.info/161/047/000/ogh1jwt9hZw8uzdrVwk-o.jpg


ภาพมาตรฐานโครงสร้างอักษรไทย

https://f.ptcdn.info/190/047/000/ogjeqxl4m52YrTaZPhk-o.png


ที่มา : ราชบัณฑิตยสภา, มาตรฐานโครงสร้างตัวอักษรไทย ฉบับราชบัณฑิตยสถาน (Thai Alphabets Structural Standard)





7  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:53:30


แต่เดิมเราเรียก "ก" เฉยๆไม่ใช่ ก ไก่ แต่ด้วยพยัญชนะที่พ้องเสียงในภาษาไทยมีหลายตัวมาก
ทำให้เด็กจำได้ยาก จึงได้มีผู้คิดชื่อหรือตัวอย่างในการใช้พยัญชนะแต่ละตัวขึ้นมา เพื่อจะได้ท่องจำได้ง่ายขึ้น
แล้วเราก็ท่องจนติดปากกันมาว่า ก ไก่ ข ไข่ แต่ก็ยังไม่พบหลักฐานแน่ชัดว่าใครเป็นผู้คิดคนแรก
แต่ที่แน่ๆคือไม่ใช่ในสมัยพ่อขุนรามคำแหง

ในอดีตมีการใช้คำกำกับพยัญชนะหลายแบบ อย่างใน วิธีสอนหนังสือไทย ที่เขียนโดย พระศรีสุนทรโวหาร
ได้มีการคิดคำกำกับพยัญชนะขึ้นใหม่ 27 ตัว เช่น ข ขัดข้อง, ฃ อังกุษ, ค คิด, ฅ กัณฐา เป็นต้น
หรือใน หนังสือมูลบทบรรพกิจ ที่มีการคิดชื่อกำกับพยัญชนะทั้ง 44 ตัว เช่น ก กบ, ข เขียด เป็นต้น






ตัวอย่างการใช้คำกำกับพยัญชนะจากหนังสือมูลบทบรรพกิจ ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2458 และ พ.ศ. 2465

แบบเรียนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันยึดตาม หนังสือ แบบเรียน ก ไก่ ของ บริษัทประชาช่าง
ที่ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2490 ซึ่งเป็นแบบเรียนที่มีกลอน คือ ก เอย ก ไก่ ข ไข่ ในเล้า









Credits:
Pantip.com ความเห็นของ คุซาจิ , Nong MiM
Wikipedia
educatepark.com
8  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:49:34

ทุกตัวอักษรล้วนมีที่มา !

   



9  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:47:51


ท่อง อักษร จดจำ พยัญชนะไทย กับ เนื้อเพลง ก เอ๋ย ก ไก่ (แบบปัจจุบัน)


อักษร ตัวที่ 1 ก เอ๋ย ก ไก่
อักษร ตัวที่ 2 ข ไข่ ในเล้า
อักษร ตัวที่ 3 ฃ ฃวด ของเรา
อักษร ตัวที่ 4 ค ควาย เข้านา
อักษร ตัวที่ 5 ฅ ฅน ขึงขัง
อักษร ตัวที่ 6 ฆ ระฆัง ข้างฝา
อักษร ตัวที่ 7 ง งู ใจกล้า
อักษร ตัวที่ 8 จ จาน ใช้ดี
อักษร ตัวที่ 9 ฉ ฉิ่ง ตีดัง
อักษร ตัวที่ 10 ช ช้าง วิ่งหนี
อักษร ตัวที่ 11 ซ โซ่ ล่ามที
อักษร ตัวที่ 12 ฌ กะเฌอ คู่กัน
อักษร ตัวที่ 13 ญ ผู้หญิง โสภา
อักษร ตัวที่ 14 ฏ ชะฎา สวมพลัน
อักษร ตัวที่ 15 ฏ ปฏัก หุนหัน
อักษร ตัวที่ 16 ฐ ฐาน เข้ามารอง
อักษร ตัวที่ 17 ฑ มณโฑ หน้าขาว
อักษร ตัวที่ 18 ฒ ผู้เฒ่า เดินย่อง
อักษร ตัวที่ 19 ณ เณร ไม่มอง
อักษร ตัวที่ 20 ด เด็ก ต้องนิมนต์
อักษร ตัวที่ 21 ต เต่า หลังตุง
อักษร ตัวที่ 22 ถ ถุง แบกขน
อักษร ตัวที่ 23 ท ทหาร อดทน
อักษร ตัวที่ 24 ธ ธง คนนิยม
อักษร ตัวที่ 25 น หนู ขวักไขว่
อักษร ตัวที่ 26 บ ใบ ไม้ทับถม
อักษร ตัวที่ 27 ป ปลา ตากลม
อักษร ตัวที่ 28 ผ ผึ้ง ทำรัง
อักษร ตัวที่ 29 ฝ ฝา ทนทาน
อักษร ตัวที่ 30 พ พาน วางตั้ง
อักษร ตัวที่ 31 ฟ ฟัน สะอาดจัง
อักษร ตัวที่ 32 ภ สำเภา กางใบ
อักษร ตัวที่ 33 ม ม้า คึกคัก
อักษร ตัวที่ 34 ย ยักษ์ เขี้ยวใหญ่
อักษร ตัวที่ 35 ร เรือ พายไป
อักษร ตัวที่ 36 ล ลิง ไต่ราว
อักษร ตัวที่ 37 ว แหวน ลงยา
อักษร ตัวที่ 38 ศ ศาลา เงียบเหงา
อักษร ตัวที่ 39 ษ ฤาษี หนวดยาว
อักษร ตัวที่ 40 ส เสือ ดาวคะนอง
อักษร ตัวที่ 41 ห หีบ ใส่ผ้า
อักษร ตัวที่ 42 ฬ จุฬา ท่าผยอง
อักษร ตัวที่ 43 อ อ่าง เนืองนอง
อักษร ตัวที่ 44 ฮ นกฮูก ตาโต




10  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:45:59
อักษรคู่

ในการจัดหมวดหมู่ไตรยางศ์ อักษรสูงและอักษรต่ำจำนวนหนึ่ง มีลักษณะเสียงอย่างเดียวกันแต่ในพื้นเสียงต่างกัน
นั่นคือ พวกหนึ่งมีพื้นเสียงสูง อีกพวกหนึ่งมีพื้นเสียงต่ำ สามารถจัดเป็นคู่ได้ 7 คู่ เรียกว่า "อักษรคู่"


          อักษรสูง                    อักษรต่ำ         
ข ฃ
ค ฅ ฆ
ช ฌ
ฐ ถ
ฑ ฒ ท ธ
พ ภ
ศ ษ ส




อักษรคู่เหล่านี้ สามารถนำมาใช้ร่วมกันเพื่อผันเสียงวรรณยุกต์ได้ครบ 5 เสียง เช่นเดียวกับอักษรกลาง เช่น

คา - ข่า - ข้า/ค่า - ค้า - ขา
ฮา - ห่า - ห้า/ฮ่า - ฮ้า - หา

สำหรับอักษรต่ำที่เหลือ คือ ง ญ ณ น ม ย ร ล ว ฬ ซึ่งจะเรียกว่า อักษรเดี่ยว จะใช้ ห
เป็นอักษรนำเพื่อให้สามารถผันเสียงวรรณยุกต์ได้ครบ เช่น


นา - หน่า - หน้า/น่า - น้า - หนา
วา - หว่า - หว้า/ว่า - ว้า - หวา

** หมายเหตุ ปัจจุบันไม่มีคำศัพท์คำใดที่ใช้ หณ และ หฬ เป็นพยัญชนะต้น



11  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:20:14


พยัญชนะไทย ยังแบ่งออกเป็น 3 หมู่ เรียกว่า ไตรยางศ์ ประกอบด้วย

อักษร เสียงสูง 11 ตัว ได้แก่ ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห
อักษร เสียงกลาง 9 ตัว ได้แก่ ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ
อักษร เสียงต่ำ 24 ตัว ได้แก่ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ



โดย ไตรยางศ์ หรือ อักษรสามหมู่ คือ ระบบการจัดหมวดหมู่อักษรไทย (เฉพาะรูปพยัญชนะ) ตามลักษณะการผันวรรณยุกต์
ของพยัญชนะแต่ละหมวด เนื่องจากพยัญชนะไทยเมื่อกำกับด้วยวรรณยุกต์หนึ่งๆแล้วจะมีเสียงวรรณยุกต์ที่แตกต่างกัน
การจัดหมวดพยัญชนะทำให้การเรียนภาษาไทยง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงเชื่อว่า ในชั้นแรกนั้นการแบ่งหมวดหมู่พยัญชนะ
น่าจะทำขึ้นเพื่อประโยชน์ในการแต่งตำราสอนภาษาไทยแก่นักเรียน

คำว่า ไตรยางศ์ มาจากคำในภาษาสันสกฤตว่า ตฺรย (ไตร) ซึ่งแปลว่า สาม รวมกับ อํศ (องศ์) ซึ่งแปลว่า ส่วน
ดังนั้น ไตรยางศ์ จึงแปลรวมกันได้ว่า สามส่วน



การจัดหมวดหมู่ไตรยางศ์นั้น มีหลักฐานปรากฏครั้งแรกในหนังสือจินดามณี เมื่อครั้งกรุงศรีอยุธยา
เข้าใจว่าเป็นผลงานของพระโหราธิบดีได้แต่งถวายสมเด็จพระนารายณ์มหาราช แต่ยังไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจนในเรื่องนี้




12  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / Re: ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:16:18


การพัฒนาปรับปรุง อักษร พยัญชนะไทย

อักษร ตัวอักษรภาษาไทยมีการปรับปรุงอยู่เรื่อยๆ ในสมัยพญาฦๅไทราว พ.ศ.1900 มีการแก้ไขตัวอักษรให้ผิดเพี้ยนไปบ้างเล็กน้อย
โดยเฉพาะการเพิ่มเชิงที่ตัว ญ ซึ่งใช้ติดต่อเรื่อยมาจนทุกวันนี้ คาดว่าน่าจะเอาอย่างมาจากเขมร ในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช
ราว พ.ศ. 2223 ตัวอักษรเริ่มมีทรวดทรงดีขึ้นแต่ก็ไม่ทิ้งเค้าเดิม มีบางตัวเท่านั้นที่แก้ไขผิดไปจากเดิม คือตัวอักษร ฎ และ ธ
ซึ่งเหมือนกับที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน นักวิชาการจำนวนหนึ่งเชื่อว่าในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ตัวอักษรและการใช้งานมีความคล้ายคลึง
กับในปัจจุบันมากที่สุด

อักษรไทย เป็นอักษรที่ใช้เขียนภาษาไทย และภาษากลุ่มน้อยอื่นๆ ในประเทศไทย มีพยัญชนะ 44 รูป สระ 21 รูป วรรณยุกต์ 4 รูป
และเครื่องหมายอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง พยัญชนะไทยจะเรียงตัวไปตามแนวนอน จากซ้ายไปขวา ส่วนสระจะอยู่หน้า บน ล่าง และหลังพยัญชนะ
ประกอบคำแล้วแต่ชนิดของสระ



13  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ห้องสมุด / ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว เมื่อ: 03 พฤษภาคม 2563 11:14:02
ความรู้เกี่ยวกับ พยัญชนะไทย - ความเป็นมาของพยัญชนะไทย 44 ตัว







ความเป็นมาของ พยัญชนะไทย อักษร ภาษาไทย

เมื่อราวๆ ปี พ.ศ. 400 ประเทศไทยได้ อพยพจากถิ่นเดิมมาตั้งภูมิลำเนาอยู่ใกล้อาณาเขตมอญ ซึ่งกำลังเป็นชาติที่เจริญรุ่งเรืองในช่วงเวลานั้น
ส่วนในเรื่อง พยัญชนะไทย เริ่มแรกคงเริ่มเลียนแบบตัวอักษรมาจากมอญ ต่อมาราว พ.ศ. 1500 เมื่อขอมขยายอำนาจเข้ามาในดินแดนของคนไทย
ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำยม และได้ปกครองเมืองเชรียงและเมืองสุโขทัย ไทยก็เริ่มดัดแปลงอักษรที่มีอยู่เดิมให้คล้ายกับอักษรขอมหวัด

อักษรมอญและอักษรขอมที่ไทยนำมาดัดแปลงใช้นั้นล้วนเป็น อักษร ที่รับและแปลงรูปมาจากอักษรพราหมี ของพวกพราหมณ์ซึ่งแพร่หลายในอินเดียตอนเหนือ
และอักษรสันสกฤตในสมัยราชวงศ์ปัลลวะ ซึ่งแพร่หลายบริเวณอินเดียตอนใต้ อักษรอินเดียทั้งคู่นี้ต่างก็รับแบบมาจากอักษรฟินิเชียนอีกชั้นหนึ่ง
อักษรเฟนีเซียนับได้ว่าเป็นอักษรที่เก่าแก่ที่สุด และเป็นแม่แบบตัวอักษรของชาติต่างๆ ทั้งในเอเชียและยุโรป

ราว พ.ศ. 1826 พ่อขุนรามคำแหง ทรงประดิษฐ์ อักษร ภาษาไทยที่เรียกกันว่า “ลายสือไทย” ขึ้น ซึ่งได้เค้ารูปมาจากอักษรมอญและอักษรเขมรที่มีอยู่เดิม
ทำให้อักษรไทยมีลักษณะคล้ายคลึงกับอักษรทั้งสอง แม้บางตัวจะไม่คล้ายกัน แต่ก็สามารถรู้ได้ว่าดัดแปลงมาจากอักษรตัวไหน



14  นั่งเล่นหลังสวน / ลานกว้าง (มุมดูคลิป) / พฤติกรรมสัตว์สุดประหลาดจากทั่วโลก เมื่อ: 02 พฤษภาคม 2563 22:22:10


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=MfUoO-he2Rw" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=MfUoO-he2Rw</a>



 กลัว
15  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: แก้คุณไสย - คนโดนคุณไสยเป็นอย่างไร และเราจะแก้คุณไสยได้อย่างไร เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 14:48:34


วิธีป้องกันและแก้ไขเบื้องต้น




- หมั่นสวดมนต์ ทำสมาธิ แผ่เมตตาให้ตัวเอง และอุทิศส่วนกุศลให้กับตัวเอง เจ้ากรรมนายเวร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือเทวดาประจำตัวที่คอยปกป้องดูแลรักษาเรา โดยเฉพาะบทพุทธคุณและคาถาชินบัญชร พร้อมอธิษฐานขอให้คาถาเหล่านี้เป็นเกราะป้องกันภัยไม่ให้พบเจอสิ่งที่ไม่ดีในด้านต่างๆ

- หมั่นไปทำบุญ สร้างกุศล ทำสังฆทาน และนำน้ำมนต์กลับมาด้วย ส่วนหนึ่งใช้อาบน้ำ อีกส่วนเก็บไว้ดื่มกิน พร้อมกับอธิษฐานขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยปกป้องรักษาเรา และให้สามารถผ่านพ้นสิ่งเลวร้ายต่างๆ ไปได้ด้วยดี

- หมั่นรักษาศีลโดยการถือศีล 5 หรือศีล 8 และใช้ชีวิตอย่างมีสติ ระมัดระวัง และไม่ประมาท

- นำก่ำเช่า (ชะอมเทศ) กิ่งทับทิม ก้านมะยม หรือใบเต่าร้าง แช่น้ำมนต์ นำมาพรมในบริเวณบ้านหรือที่อยู่อาศัย เพื่อเป็นการล้างสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป (วัดพระแก้ว วัดสุทัศน์ฯ วัดชนะสงคราม วัดอินทร์ ขึ้นชื่อว่ามีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์มากและมีพุทธคุณในการช่วยล้างมนต์ดำ ให้ไปนำน้ำมนต์ของวัดเหล่านี้กลับบ้าน) เวลาผสมน้ำมนต์ของวัดต่างๆ เข้าด้วยกันให้ทำในวันแรม 8 ค่ำ (หรือขึ้น 8 ค่ำ) ระหว่างผสมให้ท่องบทอิติปิโสย้อนหลัง 7 รอบ และอธิษฐานขอให้เป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ในการขจัดสิ่งไม่ดีออกไป

- ให้แม่ของคนที่โดนคุณไสยนำผ้าถุงที่แม่ใส่ประจำมา ใส่ในอ่างหรือโอ่งอาบน้ำ แล้วเอาผ้าถึงมาคลุมหัวลูกพร้อมตักน้ำราดตัวลูก

- หาน้ำฝนไปล้างเท้ามารดาผู้ให้กำเนิด แล้วอธิษฐานขอพระคุณจากบิดามารดาให้มาสถิตเหนือเศียรเกล้า และนำน้ำดังกล่าวมากินและอาบ ในวันเสาร์ ช่วงเวลา 7.30 – 8.00 น. หรือวันอังคาร ช่วงเวลา 10.00 – 10.30 น.







ข้อมูลจาก สนุกดอทคอม
16  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: แก้คุณไสย - คนโดนคุณไสยเป็นอย่างไร และเราจะแก้คุณไสยได้อย่างไร เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 14:45:56


อาการเวลาโดนคุณไสย




จริงๆ แล้วอาการของคนที่โดนคุณไสยนั้นสามารถสังเกตได้ไม่ยาก ดังนี้

- เหม่อลอย ไม่มีสมาธิ ขี้หลงขี้ลืม

- ไม่มีแรง เหนื่อยง่าย มีอาการใจสั่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

- ปวดเนื้อปวดตัว เมื่อยและชาตามบริเวณต่างๆ

- มีอาการทางร่างกายที่ผิดปกติ เช่น ร้อนๆ หนาวๆ ตลอดเวลา

- จุก เสียด แน่นบริเวณหน้าอก และบริเวณอื่นๆ แต่เมื่อไปหาหมอแล้วไม่สามารถหาสาเหตุของอาการเหล่านี้ได้

- ใต้ตาดำคล้ำเหมือนคนไม่ได้นอน

- แววตาดูแข็งกร้าว ตาขวาง ตาดุแบบไร้แววตา/อารมณ์

- มักโมโหร้าย อารมณ์แปรปรวน ไม่เป็นตัวของตัวเองแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

- ใช้อารมณ์และคำพูดที่รุนแรง ทั้งที่ปกติแล้วเป็นคนใจดีใจเย็น

- มีอาการคล้ายประสาทหลอน มักได้ยินเสียงแปลกๆ หรือเสียงที่คนอื่นไม่ได้ยิน

- เชื่อฟังหรือหลงใหลคนบางคนมากเป็นพิเศษทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เป็น จนไม่สนใจความคิดเห็นของคนรอบข้าง





17  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / Re: แก้คุณไสย - คนโดนคุณไสยเป็นอย่างไร และเราจะแก้คุณไสยได้อย่างไร เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 14:41:47


เบื้องต้นมารู้จัก "ประเภทการทำคุณไสย" 4 ประเภทกันก่อนดีกว่า



สายเสกเข้าท้อง
ถือเป็นคุณไสยระดับต่ำ สามารถทำได้หลากหลายแบบ ตั้งแต่ ตะปูตอกฝาโลงศพ เหรียญปากผี ผ้าห่มศพ หนังควาย และอื่นๆ

สายควบคุม
จัดเป็นคุณไสยชั้นกลาง ที่นิยมและเห็นกันได้บ่อยคือ การฝังรูปฝังรอย ตุ๊กตาวูดู เสน่ยาแฝด น้ำมันพราย

สายป้องกัน
จะเป็นพวกสักเลข ยันต์ หรือของที่ผ่านการลงอาคมแล้วนำมาติดตัวไว้คุ้มกันภยันอันตราย อย่างเช่น ตะกรุดหรือปรอท

สายโจมตี
เป็นจำพวกหุ่นปั้นพยนต์เสก อย่างเช่น วัวธนู ควายธนู กุมารทอง หรือหุ่นพยนต์




18  วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ / ดูดวง ทำนายทายทัก / แก้คุณไสย - คนโดนคุณไสยเป็นอย่างไร และเราจะแก้คุณไสยได้อย่างไร เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 14:39:38

อาการและวิธีแก้สำหรับคนที่โดนคุณไสย



พอเห็นหัวข้อแล้ว คงแอบขนลุกเบาๆ ว่าในโลกดิจิทัลยุค 4.0 แบบนี้ คุณไสยยังมีอยู่ในสังคมไทยจริงหรือ?
มีคนเคยกล่าวว่ายิ่งมนุษย์เกิดการพัฒนาด้านต่างๆ มากเท่าไร กิเลสก็จะตามมามากเท่านั้นทั้งโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
สิ่งเร้ารอบตัวทำให้หลายคนสามารถลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่เหนือคาดได้เลย โดยเฉพาะเรื่องรักๆ ใคร่ๆ
หรือใครโกรธแค้นกันแต่ทำอะไรกันซึ่งหน้าไม่ได้ ก็หันไปพึ่งวิชาอาคมกันเสียอย่างนั้น

เมื่อก่อนคนที่จะทำของใส่ใครจะต้องมีวันเดือนปีเกิดและเวลาตกฟากของคนๆ นั้น รวมถึงบางกรณีต้องมีสิ่งของของคนๆ นั้น
นำมาประกอบพิธีด้วย แต่เดี๋ยวนี้ได้ยินมาว่าแค่มีชื่อจริงและรูปภาพก็สามารถทำของระดับหนึ่งใส่คนๆ นั้นได้แล้ว
แต่ไม่ใช่ใครก็ทำคุณไสยใส่กันได้ ต้องเป็นคนที่มีกรรมสัมพันธ์กันมาด้วย

การทำคุณไสยนั้นต้องใช้อาคมชั้นสูงแถมต้องมีเงินและความกล้าพอสมควรถึงจะทำได้
เพราะผลที่จะได้รับกลับคืนไปสู่คนทำกรณีคุณไสยนั้นถูกแก้

ถ้าพูดถึงคนที่โดนทำคุณไสยใส่ ส่วนใหญ่จะมีอาการแปลกไปอย่างเห็นได้ชัด คุณเคยได้ลองสังเกตคนรอบข้างกันบ้างไหมว่า
เขามีนิสัยหรืออาการแปลกๆ อะไรแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนบ้าง อย่างบางคนที่ปกติเป็นคนเฮฮาร่าเริง
แต่อยู่ๆ ก็เปลี่ยนไปกลายเป็นคนเงียบๆ มีอาการซึมเศร้า หรืออยู่ๆ ก็ก้าวร้าว ฉุนเฉียวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
อาการเหล่านี้ไม่ควรมองข้าม หรือแม้แต่ตัวคุณเอง สถานที่ที่คุณอาศัยเอง ก็ต้องหมั่นสังเกตเช่นกัน
ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำเสนอวิธีสังเกตอาการของคนที่โดยทำคุณไสย พร้อมวิธีป้องกันแก้ไขเบื้องต้นมาฝากกัน





19  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ อนามัย / ความเครียด หนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้สุขภาพร่างกายผิดปกติ เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 12:34:21

"ความเครียด" ทำให้ร่างกายของคุณ "ผิดปกติ"




ทุกวันนี้ผู้คนในสังคมใช้ชีวิตท่ามกลางความกดดันจากสภาพการดำรงชีวิต หลายคนเกิดความเครียดจนทำให้ต้องพยายามหาทางออกให้กับตนเองในรูปแบบแตกต่างกันไป ทั้งเล่นกีฬา เข้ากลุ่มเพือนเพื่อสังสรรค์ หางานอดิเรกทำ ไปจนถึงการเดินทางท่องเที่ยว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนไม่รู้ว่าตัวเองเครียด กว่าจะรู้ตัวอีกที ความเครียดนั้นก็ส่งผลต่อร่างกาย

ทำไมความเครียดถึงส่งผลต่อร่างกาย คำตอบคือ เมื่อร่างกายของคุณต้องต่อสู้กับความรับผิดชอบที่หนักหน่วง หรือ มีเรื่องราวในชีวิตที่เกิดการเปลี่ยนแปลง หัวใจของคุณจะเต้นเร็วขึ้น ฮอร์โมนคอร์ติซอล จะหลั่งมากขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความเครียด โดยคอร์ติซอลจะช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นการสูบฉีดเลือด ทำให้เลือดและสารอาหารไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น สมองและร่างกายเราจึงอยู่ในภาวะตื่นตัว

ลักษณะดังกล่าวไม่ได้ทำให้สุขภาพของคุณแย่ลง ถ้าคุณสามารถทำให้ความรู้สึกเครียดของคุณผ่อนคลายลง และ รับมือกับปัญหาด้วยความมั่นใจ แต่ถ้าทำไม่ได้ความเครียด และ ภาวะตอบสนองของร่างกายในข้างต้น จะส่งผลต่อสุขภาพ และ กลายเป็นอาการที่จะปรากฎกับร่างกายของคุณทันที ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นมาดูกัน

– ปวดหัวอย่างหนัก หรือ ปวดหัวบ่อย เพราะความเครียดที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลายาวนาน

– เพิ่มโอกาสที่จะทำให้คุณมีอาการจิตตก และ ลุกลามไปจนถึงอาการของโรคซึมเศร้า

– มีอาการกรดไหลย้อน กรดในกระเพาะอาหารเพิ่มมากขึ้น อาการเหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากความเครียด

– นอนไม่หลับ เพราะความเครียดทำให้คุณคิดมากและยากที่จะข่มตานอนได้

– ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอ ทำให้คุณป่วยบ่อย เป็นหวัดหรือแพ้อากาศทั้งปี

– ระบบย่อยอาหารทำงานผิดปกติ และทำให้คุณปวดท้อง จุก เสียด อยู่ตลอด เพราะความเครียดที่แฝงอยู่

– มีปัญหากับสุขภาพทางเพศ หรือ สมรรถภาพทางเพศ ย่อหย่อนลง

– มีอาการปวดเมื่อกล้ามเนื้อโดยไม่รู้สาเหตุ อันเนื่องมาจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ

ถ้าคุณต้องเจอกับความเครียด แล้วส่งผลต่อร่างกายดังในข้างต้น คุณควรหาวิธีการแก้ไข หรือ ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในการบรรเทาความเครียดของตนเอง มิเช่นนั้นแล้ว ถ้าส่งผลต่อสุขภาพในระยะยาว อาการที่เกิดอาจไม่เล็กน้อย และ ทำให้เกิดโรคภัยชนิดที่คุณเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน








ขอบคุณข้อมูล สนุกดอทคอม
20  นั่งเล่นหลังสวน / เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว / Re: น้ำมันมะกอก น้ำมันสารพัดประโยชน์ ดีต่อสุขภาพ เมื่อ: 10 พฤศจิกายน 2562 12:18:47




โพลิฟีนอลและสารต้านอนุมูลอิสระ
คุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากโพลิฟีนอลมักเป็นผลมาจากการที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถช่วยต้านการเสื่อมโทรมของเซลล์ สารอาหารเหล่านี้ยังช่วยในเรื่องการลดภาวะอารมณ์ตึงเครียด จัดการกับอาการเจ็บปวด ช่วยชะลอวัย อีกทั้งยังช่วยป้องกันภาวะสมองเสื่อม ภาวะหลอดเลือดสูง โรคหัวใจ โรคเบาหวานและโรคมะเร็งบางชนิดด้วย



 
วิตามินเค
วิตามินเคคือกลุ่มวิตามินที่มีความสำคัญในการสร้างโปรตีนซึ่งช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือด ช่วยสร้างกระดูกใหม่และช่วยเรื่องความสมดุลของแคลเซียม คุณประโยชน์ที่ได้จากการรับประทานวิตามินเคอย่างสม่ำเสมอคือ การช่วยเสริมสร้างสารอาหารและโปรตีนต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์สำหรับการสมานแผล อีกทั้งยังช่วยเสริมแคลเซียมในการผลิตมวลกระดูกและป้องกันกระดูกพรุน




 
วิตามินอี
วิตามินอี มีส่วนช่วยในการป้องกันการทำลายเซลล์ ช่วยลดความเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจและโรคมะเร็ง โดยมีส่วนช่วยต้านการติดเชื้อและยังช่วยป้องกันความปกติของสายตาอีกด้วย





กรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3
กรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 คือกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน ซึ่งร่างกายของมนุษย์เราไม่สามารถผลิตเองได้ ต้องจะได้รับจากการรับประทานอาหาร หากขาดกรดไขมันโอเมก้าเหล่านี้ อาจทำให้การทำงานของร่างกายบกพร่องและเกิดการเจ็บป่วยได้ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ว่าทำไมกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 จึงจำเป็น ในขณะที่กรดไขมันโอเมก้า 6 นั้นสำคัญต่อการดำรงชีวิต กรดไขมันโอเมก้า 3 เองมีบทบาทที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือการช่วยในการไหลเวียนของเลือด การทำงานของหัวใจและระบบพันธุกรรมต่าง ๆ ทั้งนี้ ปริมาณที่ดีที่สุดที่แนะนำให้บริโภคกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 คือการบริโภคในสัดส่วน 4 ต่อ 1 ยิ่งใกล้เคียงตัวเลขนี้เท่าไร ยิ่งดีเท่านั้น น้ำมันปาล์มทั่วไปมีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า 6 และโอเมก้า 3 ในสัดส่วน 45.5 ต่อ 1 น้ำมันรำข้าวในสัดส่วน 20 ต่อ 1 แต่น้ำมันมะกอกนั้นดีต่อสุขภาพยิ่งกว่า เนื่องจากมีสัดส่วนของกรดไขมันที่กล่าวไปในสัดส่วน 12.89 ต่อ 1 ซึ่งใกล้เคียงสัดส่วนที่แนะนำไปมากที่สุดนั่นเอง







ขอขอบคุณข้อมูลจาก สนุกดอทคอม
หน้า:  [1] 2 3
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.171 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 24 กันยายน 2566 12:16:57