ผู้ที่เกิดวันพุธ

ท่านที่เกิดวันพุธ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมที่นิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทอง เงินหรือหยก ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว ไม่ควรหนาหรือบางจนเกินไป หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ หรือทำเป็นรูปเหลี่ยมๆ จะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้

ผู้ชายควรสวมแหวนไว้ที่นิ้วชี้ นิ้วกลางหรือนิ้วนางก็ได้ หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง นอกจากนี้ยังสามารถสวมแหวนหลายวงหลายนิ้วพร้อมกันได้ หรือจะซ้อนในนิ้วเดียวกันหลายวงก็ได้ ไม่ทำให้เกิดผลเสียในเรื่องของความรักอย่างแน่นอน


ผู้ที่เกิดวันพฤหัส

ท่านที่เกิดวันพฤหัส ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมที่นิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนทำด้วยวัสดุธรรมชาติอย่าง ทองคำ เงิน หรือทองคำขาว ตัวแหวนควรพอดีกับนิ้ว หรือค่อนข้างใหญ่หน่อยก็ยังดี หัวแหวนควรทำด้วยรัตนชาติแท้ แต่ควรจะมีประกายส่องสว่าง ถึงจะสามารถเพิ่มพลังของความเจริญรุ่งเรืองได้

ผู้ชายควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง ก็ได้ หรือจะใส่ที่นิ้วหัวแม่มือก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรสวมแหวนนิ้วก้อย ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ นิ้วกลาง หรือนิ้วนาง ก็จะสามารถคุ้มครองได้ในทุกๆ เรื่อง นอกจากนี้ไม่ควรสวมแหวนพร้อมกันหลายวง จะทำให้เสียพลังในเรื่องของความรัก เปรียบเหมือนการมีรักซ้อนซ่อนรัก

ผู้ที่เกิดวันจันทร์

ท่านที่เกิดวันจันทร์ ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำด้วยทองคำ เงิน นาค โลหะผสม หรือหินสีต่างๆ ก็ได้ แต่ควรเป็นแหวนที่วงค่อนข้างผอม บาง หัวแหวนเล็กๆ จึงจะสอดคล้องกับผู้ที่เกิดในวันจันทร์ ผู้ชายควรสวมแหวนเน้นไปที่นิ้วชี้ นิ้วนาง นิ้วกลาง ก็จะเสริมดวงและคุ้มครอง

ห้ามสวมแหวนนิ้วก้อยและนิ้วหัวแม่มือเด็ดขาด ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมที่นิ้วกลาง นิ้วนาง นิ้วก้อย ก็จะเกิดความเจริญรุ่งเรือง สร้างพลังแห่งเมตตามหานิยมแก่เจ้าของ ไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วชี้ และนิ้วหัวแม่มือ สามารถสวมแหวนซ้อนกันสองวงได้ แต่ถ้าเป็นสามวงซ้อนในนิ้วเดียวกันไม่ควรอย่างยิ่ง จะทำให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องของความรักได้ง่ายๆ


ผู้ที่เกิดวันอังคาร

ท่านที่เกิดวันอังคาร ผู้หญิงให้สวมที่นิ้วมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายให้สวมนิ้วมือข้างขวา ตัวเรือนทำด้วยอะไรก็ได้ แต่ไม่ควรเป็นของที่แตกหักได้ ตัวแหวนควรค่อนข้างหนาสักหน่อยจึงจะดี หัวแหวนควรใหญ่เช่นกัน ก็จะสามารถเหนี่ยวนำความเจริญรุ่งเรืองได้ ผู้ชายควรสวมไว้ที่นิ้วกลาง นิ้วชี้ ก็จะคุ้มครองผู้สวมใส่

ไม่ควรสวมแหวนนิ้วนางหรือนิ้วก้อย จะทำให้ไม่มีพลัง ส่วนผู้หญิงควรสวมแหวนที่นิ้วกลาง นิ้วชี้ และนิ้วนางเท่านั้น ก็จะส่งพลังคุ้มครองในทุกเรื่องไม่ควรสวมแหวนที่นิ้วก้อยจะทำให้เสียพลังที่ เข้มแข็ง ที่สำคัญการสวมแหวนซ้อนกันหลายวงในนิ้วเดียวกันสามารถทำได้ ไม่ได้ทำให้เกิดการสูญเสียหรือมีผลใดๆ ในเรื่องของความรัก

แหวนเปลี่ยนชะตาชีวิต เคล็ดลับใส่แหวนเสริมดวงตามวันเกิด



ผู้ที่เกิดวันอาทิตย์

ท่านที่เกิดวันอาทิตย์ ผู้หญิงให้สวมแหวนมือข้างซ้าย ส่วนผู้ชายสวมแหวนมือข้างขวา ตัวเรือนควรทำจากทองแท้ เงินแท้หรือหยก ถึงจะส่งพลังดีๆ ออกมาคุ้มครอง ในการสวมแหวน หากเป็นผู้ชายให้เน้นไปที่นิ้วกลาง และนิ้วชี้ อันหมายถึงพลังอำนาจการปกครอง และวาสนาบารมี

แต่หากจะสวมแหวนที่นิ้วหัวแม่มือก็ขอให้ดูตัวเองก่อน เพราะการสวมที่หัวแม่มือนั้น ต้องเป็นผู้มีเงินทองแบบหลงจู๊อยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะเกินวาสนาตน ส่วนผู้หญิงก็ให้สวมมือซ้ายนิ้วนาง หรือนิ้วกลาง ก็จะเสริมพลังของตัวเองให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง นอกจากนี้ในการสวมแหวนหลายวงในนิ้วเดียวกันนั้นไม่ควรทำ จะทำให้เกิดความผิดพลาดในเรื่องของความรักได้ง่ายๆ

กินอาหารเพิ่มรอยยิ้ม





          ว่ากันว่าการกินอาหารให้ถูกลักษณะจะช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง แต่วันนี้เรามีข้อมูลเพิ่มเติมว่า หากอยากยิ้มสร้างสุขล่ะก็ การเลือกกินอาหารบางอย่างช่วยให้หายเศร้าหายเซ็งได้ นั่นก็คือ

โฟเลต

          กินอาหารที่อุดมด้วยโฟเลตอย่างบร็อกโคลี หน่อไม้ฝรั่ง เมล็ดทานตะวัน ส้ม แตงโม เนื้อวัว และข้าวกล้อง ช่วยให้อารมณ์ดีได้เพราะโฟเลต หรือกรดโฟลิก เป็นวิตามินที่ละลายน้ำได้ จำเป็นต่อการแบ่งตัวของเซลล์ การสังเคราะห์ดีเอ็นเอ การผลิตเม็ดเลือดแดง

          งานวิจัยของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยยอร์ก พบว่า คนที่ซึมเศร้ามีโฟเลตต่ำ ปริมาณที่แนะนำต่อวันสำหรับหญิงและชาย คือ 400 ไมโครกรัม ถ้าเป็นหญิงท้องต้องเพิ่มเป็น 600 ไมโครกรัม ใยอาหารและโปรตีนจะช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือดและช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น โฟเลตยังช่วยลดกรดอะมิโน โฮโมซิสทีน ซึ่งทำให้เป็นโรคหัวใจด้วย ถ้าได้รับโฟเลตน้อยจะเป็นโรคโลหิตจาง หญิงมีครรภ์ควรได้รับโฟเลตให้มากขึ้นเพื่อช่วยให้ทารกเสริมสร้างใยประสาท

อาหารที่มีวิตามินบี 6

          ได้แก่ กล้วย อกไก่ กระเทียม เมล็ดทานตะวัน บร็อกโคลี แตงโม อะโวคาโด และมะเขือเทศ ก็เป็นอีกประเภทที่ไม่ควรพลาด เพราะวิตามินบี 6 ส่งผลต่อการเผาผลาญของเซลล์เม็ดเลือดแดง การเผาผลาญของโปรตีน และการสังเคราะห์ของสารสื่อประสาท เซโรโทนินและโดพามีน และยังช่วยรักษาระดับน้ำตาลในเลือด และเพิ่มออกซิเจนที่ถูกส่งไปยังเนื้อเยื่อ ถ้ามีวิตามินบี 6 น้อยจะทำให้มีกรดโฮโมซิสทีนสูง เลือดจาง ปวดหัว และซึมเศร้า คราวหน้าถ้ารู้สึกแย่ ขอให้กินกล้วยแล้วความเศร้าก็จะหายไป

ปลา

          เป็นอาหารทีมี โอเมก้า-3 ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ซาร์ดีน แม็กเคอเรล แอนโชวี เฮอริง สาหร่าย วอลนัต และเมล็ดป่าน ก็ช่วยให้เรายิ้มได้เพราะกรดไขมันดีเอชเอ โอเมก้า-3 ช่วยบำรุงสมอง ช่วยพัฒนาสมองและสายตาของเด็กในครรภ์

          รายงานในวารสาร Journal of Clinical Psychiatry พบว่า อาการซึมเศร้าของคนไข้จะดีขึ้นมากเมื่อได้รับแคปซูลไขมันปลาวันละ 3 ครั้งเป็นเวลา 8 สัปดาห์ ถ้าไม่ได้กินปลาเป็นประจำก็ควรกินแคปซูลไขมันปลา ส่วน โอเมก้า-3 ในพืชนั้นพบได้ในเมล็ดป่าน วอลนัต และสาหร่าย ใครอยากอารมณ์ดีให้โรยเมล็ดทานตะวันหรือวอลนัตลงในโยเกิร์ตไขมันต่ำชนิดไม่เติมความหวาน

อาหารจำพวกแป้งทั้งธัญพืชเต็มเมล็ด ผัก ผลไม้

          ของกินพวกนี้ช่วยให้พลังงาน ใยอาหาร และสารอาหารหลายชนิดที่ร่างกายต้องการ คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้กระตุ้นการสังเคราะห์เซโรโทนิน ซึ่งเป็น "ฮอร์โมนความสุข" ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ส่งผลดีต่ออารมณ์และการนอนหลับ ครั้งหน้าถ้าเครียดจงกินเมล็ดธัญพืชที่ผ่านการขัดสีน้อย กินขนมปังกรอบทาด้วยเนยถั่วจะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้น




ไทยโพสต์

4. ขาวมากเกินไป

           ความขาวในที่นี้ไม่ได้หมายถึงผิวที่ขาวเนียนอย่างเป็นธรรมชาติแน่นอน แต่หมายถึงการแต่งหน้าให้สีรองพื้นหรือแป้งนั้น ขาวสว่างกว่าผิวจริงมากจนหน้าลอยเลยทีเดียว การแต่งหน้าแบบนี้ทำให้ความสวยกลายเป็นความน่ากลัวไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ค่ะ เพราะมันไม่มีความเป็นธรรมชาติ ดูเหมือนคุณกำลังใส่หน้ากากเดินไปเดินมาอยู่อย่างนั้นเลยเชียวล่ะ

5. แต่งเล็บเยอะเกินไป

           แม้ว่ามันจะทำให้มือของคุณดูโดดเด่นสะดุดตา เพราะบนเล็บเต็มไปด้วยเม็ดคริสตัล และยาทาเล็บลายพร้อย แต่นั่นทำให้มือของคุณรกรุงรังมากกว่าที่ควรจะเป็น ยิ่งถ้าสาว ๆ คนไหนชอบแต่งเล็บเยอะ ๆ แล้วยังต่อเล็บให้ยาวด้วยอีก ยิ่งทำให้ดูเป็นแม่มดมากกว่าจะดูสวยงามจริง ๆ ดังนั้น หากอยากจะตกแต่งเล็บจริง ๆ เอาแค่พอประมาณ และที่สำคัญมันต้องไม่เป็นอุปสรรคในการหยิบจับของ ให้คุณต้องมาคอยระวังทุก ๆ ครั้งจะดีมากเลยค่ะ

6. รองพื้นแต่ใบหน้า

           แต่ละเลยคอ สาว ๆ หลายคนมักจะให้ความสำคัญกับใบหน้า จนลืมลำคอซึ่งอยู่ติดกับใบหน้าไปอย่างไม่น่าให้อภัย และผลที่ออกมาก็คือ ใบหน้าขาวเนียนใส แต่คอกลับคล้ำกว่าหลายเฉดสีเลยทีเดียว ซึ่งถ้าหากสาว ๆ แต่งหน้ากันแบบนี้แล้วล่ะก็ ถึงแม้ว่าใบหน้าจะเนียนสวยมากแค่ไหน แต่คนภายนอกมองแล้ว คุณจะดูไม่เป็นธรรมชาติ และแสดงให้เห็นความผิดพลาดในการแต่งหน้าอย่างเห็นได้ชัดเลยล่ะ

7. ไฝและขนตาปลอม

           แม้ว่าขนตาปลอมจะช่วยให้สาว ๆ มีดวงตาโตสวย แต่ถ้าหากขนตาปลอมแผงนั้นหนาหรือยาวเกินไป ก็จะทำให้ใบหน้าดูหลอก ไม่เป็นธรรมชาติได้ ดังนั้นถ้าหากสาว ๆ อยากจะเสริมดวงตาให้สวยเด่นจริง ๆ ควรใช้ขนตาปลอมที่บาง และดูเป็นธรรมชาติดีที่สุดค่ะ นอกจากนี้ ไฝปลอมก็เช่นกัน แม้ว่ามันจะทำให้คุณดูเซ็กซี่ มีเสน่ห์อย่างไร แต่ถ้าหากใครมองแล้วก็รู้ว่ามันคือของปลอมละก็ มันคงดูน่าอายซะมากกว่า แถมยังทำให้ใคร ๆ คิดอีกว่า ถ้าติดแล้วก็ดูรู้ว่าไม่ใช่ของจริง สู้ไม่ติดจะดีกว่านะจ๊ะ

8. ทรงผมที่สวยเฉียบ

           อลังการมากเกินไป ไม่ว่าจะเป็นผมม้วนลอนที่ม้วนกลมเป็นผมตุ๊กตา หรือทรงผมสุดเนี๊ยบที่ผ่านขั้นตอนการทำมาอย่างยากเย็น ฉีดด้วยมูสแข็ง หรือเปียกเยิ้ม ทรงผมเหล่านี้จะทำให้คุณดูเหมือนกำลังจะไปงานราตรีอยู่ตลอดเวลา ซึ่งแน่นอนว่า มันดูเยอะเกินความจำเป็น และไม่มีความเป็นธรรมชาติเอาซะเลย ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่ได้ออกงานที่ต้องแต่งองค์ทรงเครื่องกันซะมากมาย ก็ทำผมแต่พอดีพองามดีที่สุดค่ะ

           และทั้งหมดที่ว่ามาข้างต้น ก็คือข้อผิดพลาดในการแต่งสวยของสาว ๆ ที่ทำให้ความงดงามกลายเป็นสิ่งที่ดูมากเกินความจำเป็น และหมดความสวยไปอย่างไม่น่าเชื่อ เพราะฉะนั้น ถ้าหากสาว ๆ คนไหนที่แต้มเติมเสริมแต่งใบหน้าและร่างกายของตัวเองอย่างที่ว่ามานี่ ก็ลองมาพิจารณากันดูอีกทีนะคะ เพื่อที่คุณจะได้ดูสวยแบบสมบูรณ์แบบ ไม่ขาด ไม่เกินอีกต่อไปค่ะ

เกี่ยวกับการแต่งหน้า 8 ความงามที่สาว ๆ ควรหลีกเลี่ยง





เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

           ปฏิเสธกันไม่ได้เลยว่า ความสวยความงามเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเรายอมกันไม่ได้เลยทีเดียว สาว ๆ ทุกคนจึงต้องมีการใช้เครื่องสำอางแต้มเติมเสริมแต่งให้ใบหน้าดูมีสีสันสวยสะดุดตา และแต่งเนื้อแต่งตัว เพื่อให้เป็นที่ดึงดูดใครต่อใครกันมากขึ้น และถึงแม้ว่าเครื่องสำอางและอุปกรณ์เสริมความงามต่าง ๆ จะเป็นสิ่งที่ช่วยเนรมิตความสวยให้กับผู้หญิงเราได้อย่างน่าอัศจรรย์ก็เถอะ แต่ถ้าหากใช้มันมากเกินไป หรือใช้กันแบบเกินความจำเป็นแล้วล่ะก็ มันก็จะทำให้ผู้หญิงเราดูไม่เป็นธรรมชาติ และขาดเสน่ห์ไปอย่างน่าเสียดาย

           วันนี้เราก็เลยขอหยิบยกเรื่องนี้มาฝากกันหน่อย ไปดูกันว่าสิ่งที่เยอะเกินความจำเป็นที่ทำให้ความสวยกลายเป็นสิ่งที่น่าตกใจในสายตาคนรอบข้างนั้นมีอะไรบ้าง

1. กรีดอายไลเนอร์หนาเกินไป

ไม่ใช่เพียงแค่มันจะทำให้ดวงตาของคุณดำจนน่าตกใจแล้ว สิ่งหนึ่งที่จะเป็นปัญหาตามมา ก็คือ อายไลเนอร์เป็นเครื่องสำอางที่ไม่ได้ติดอยู่บนดวงตาได้แบบเดิมตลอดทั้งวัน และมันมักจะค่อย ๆ เลือนหายให้คุณกลายเป็นแพนด้าไประหว่างวันอย่างเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น การกรีดอายไลเนอร์ที่เหมาะสม ควรกรีดให้เส้นหนาพอประมาณ ไม่ต้องถึงขั้นกินเนื้อที่ไปครึ่งเปลือกตาอย่างที่หลาย ๆ คนทำกันเลยค่ะ การแต่งหน้าแบบนิด ๆ หน่อย ๆ ให้พอคงความเป็นธรรมชาติไว้นี่แหละ ที่จะทำให้คุณสวยมีเสน่ห์อย่างแท้จริง

2. ฉีดน้ำหอมมากเกินไป

           ไม่ว่าจะเป็นใต้วงแขน ท้อง ขา หน้าอก เรียกว่าทุกส่วนของร่างกายเลยทีเดียว ซึ่งความหอมที่มากเกินไปนี่แหละค่ะ จะเปลี่ยนเป็นความฉุนที่ใคร ๆ ก็ไม่อยากจะเดินเฉียด เพราะมันหอมเกินความพอดีเอามาก ๆ ทางที่ดีควรฉีดน้ำหอมพอประมาณ เฉพาะบริเวณชีพจร เช่น คอ ใบหู และข้อมือด้านใน ให้หอมอ่อน ๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ

3. ทาลิปสติกหนาเกินไป

           ไม่ว่าจะเป็นลิปกลอส หรือลิปสติกธรรมดาสีไหน ๆ ถ้าหากใช้มากเกินไป คุณจะดูเหมือนกับเพิ่งไปทำลิปสติกเปรอะเปื้อนปากมามากกว่าจะจงใจทำให้มันดูสวยมีเสน่ห์ และนอกจากนี้ ลองคิดดูสิว่า หากคุณทาลิปสติกหนาเกินไปแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นหากต้องทานอะไรสักอย่าง แน่นอนว่าคุณต้องคอยระวังมันจนทำให้เสียบุคลิกไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะไม่อยากจะทานลิปสติกไปพร้อม ๆ กับอาหารนั่นเอง

          Super 8 เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนปี 1979 เด็ก ๆ กลุ่มหนึ่งในเมืองเล็ก ๆ ของรัฐโอไฮโอ ซึ่งกำลังถ่ายทำหนังสั้นด้วยกล้องซูเปอร์เอท กล้องถ่ายหนังที่เป็นที่นิยมในยุค 80 พวกเด็ก ๆ ได้ตกอยู่ในเหตุการณ์มหาวิบัติครั้งใหญ่ของรถไฟขบวนหนึ่ง ทว่าภายหลังจากการสืบสวนแล้วกลับไม่ใช่อุบัติเหตุ ในเวลาต่อมาเกิดการหายตัวของผู้คน สัตว์เลี้ยง และเหตุการณ์ประหลาดก็เริ่มเกิดขึ้นในเมือง ตำรวจท้องถิ่นพยายามสืบหาความจริงที่ซ่อนเร้นอยู่ มันคือบางอย่างที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าใครจะคาดคิด

          ผลงานสุดยอดจากผู้กำกับ เจเจ อบรามห์ (Mission Impossible 3, Star Trek, Lost) และอำนวยการสร้างโดย สตีเว่น สปีลเบิร์ก (E.T., Indiana Jones, Jurassic Park, Transformers) ดาราแสดง: แอล แฟนนิ่ง, ไคล์ แชนด์เลอร์, โนอาห์ แอมเมอริช, เกเบรียล เบสสัน, โจเอล คอร์ตนีย์, ไรอัน ลี, แซค มิลส์ และ อแมนด้า มิคาลก้า

          แฟน ๆ ที่ชื่นชอบหนังแนวลึกลับไซไฟแบบลอสต์ และชอบที่มีการผูกเรื่องราวความสัมพันธ์แบบอีที เตรียมพบกับภาพยนตร์ยิ่งใหญ่แห่งปีอีกเรื่อง มหาวิบัติลับ ซูเปอร์ เอท ผลงานที่สองสุดยอดผู้กำกับร่วมกันสร้าง กำหนดฉายในไทย 9 มิถุนายน 2554 ในโรงภาพยนตร์

มหาวิบัติลับสะเทือนโลก  (UIP)

นำแสดงโดย : แอล แฟนนิ่ง (Elle Fanning), อาแมนด้า มิสเชลก้า (Amanda Michalka), ไคล์ แชนด์เลอร์ (Kyle Chandler)
อำนวยการสร้าง : สตีเวํน สปีลเบิร์ก (Steven Spielberg)
กำกับ : เจเจ อับราหม์ (J.J. Abrams)


          Super 8 โปรเจคท์ซูเปอร์ยักษ์ของสองสุดยอดผู้สร้าง สตีเว่น สปีลเบิร์กและ เจ.เจ อับราหม์ ดันสุดตัว งัดไอเดียเด็ด บทหนังเยี่ยม หวังสู้หนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ เตรียมความตื่นเต้นสุดระทึกไว้รอผู้ชมทั่วโลก 9 มิถุนายนนี้

          Super 8 (ซูเปอร์ เอท) โปรเจทค์หนังใหม่ล่าสุดที่เตรียมออกฉายในช่วงซัมเมอร์ มิถุนายนนี้ ได้ปล่อยตัวอย่างใหม่ออกมาแล้ว ซึ่งครั้งนี้ทางเจ เจ อบรามห์ ผู้กำกับมากฝีมือจาก Lost ได้ออกตัวว่า หนังเรื่องนี้มีอะไรดี ๆ มานำเสนอ และเขาไม่อยากให้หนังตกจากกระแสหนังในช่วงซัมเมอร์ปีนี้ และมีคู่แข่งเป็นหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ใหญ่ ๆ มากมาย ทั้ง Thor, Captain America, Transformers 3 ซึ่งหนังเมกะบล็อกบัสเตอร์เหล่านี้จะมีทั้งของเล่น การ์ตูนภาพ ชุดเกราะเจ๋ง ๆ มาสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับแฟน ๆ อยู่แล้ว ทางสตีเว่น สปีลเบิร์กเอง ก็หนุนเรื่องนี้อย่างเต็มที่ เขาให้ไอเดียในการนำเรื่องราวความสัมพันธ์ในครอบครัวและเพื่อนฝูงมาใช้ในหนังเรื่องนี้ โดยให้บรรยากาศของหนังออกไปในแนวหนังที่สร้างความประทับใจมาแล้วอย่าง E.T., Stand By me มาช่วยปูเรื่องให้กับหนังไซไฟทริลเลอร์ที่เกี่ยวกับเอเรีย 51 แบบ The X-file เรื่องนี้ 

ตัวอย่างเต็มๆ เท่าที่หาได้ตอนนี้พร้อมซับไทย

ตัวอย่างซับไทย Super 8

อยากบอกว่าน่าดูมาก

4 คลิปลับจากหนัง Super 8 วิบัติลับมรณะ พร้อมเรื่องย่อ

Super 8 วิบัติลับมรณะ Part.1

Super 8 วิบัติลับมรณะ Part.4

Super 8 วิบัติลับมรณะ Part.3

Super 8 วิบัติลับมรณะ Part.4

สงสัยอย่างนึง ทำไมมันไม่รวมมาเป็นอันเดียวไปเลยวะ

 

เกร็ดภาพยนตร์

          Immortals เป็นผลงานของ ทาร์เซ็ม ซิงห์ ที่เคยทำให้ทุกคนเห็นจินตนาการที่ไร้ขอบเขตมาแล้วใน The Cell และ The Fall โดยเขาได้ทีมงานชั้นนำมาร่วมกันสร้างมหากาพย์แห่งสงครามแห่งยุคเทพนิยายกรีก เช่นทีมสร้างและทีมวิชวลเอฟเฟ็คจาก 300 และทีมออกแบบฉากต่อสู้จาก Gladiator ที่การันตีว่าจะทำผู้ชมลืมหนังเทพนิยายกรีกเรื่องอื่นไปเลย

          นี่เป็นโปรเจ็คเปิดตัวของซุปเปอร์สตาร์ของวงการคนใหม่ที่ชื่อ เฮนรี่ คาวิลล์ ที่เริ่มเป็นที่รู้จักจากซีรี่ย์ The Tudors ที่ทำให้เขาได้รับโอกาสแสดงในเรื่อง Immortals  ซึ่งเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่ทำให้วงการหันมาสนใจ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นนักแสดงคนล่าสุดที่ถูกเลือกเข้ามารับบทเป็น "ซุปเปอร์แมน" คนใหม่ ที่มีกำหนดการถ่ายทำในปี 2011

          เมื่อถูกถามว่าฉากไหนที่เขาคิดว่าจะทำให้คนดูต้องทึ่งที่สุด ผู้กำกับ ทาร์เซ็ม ซิงห์ เผยว่า "ผมอยากให้ทุกคนจับตาดูการต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่าง เธซีอุส และ มิโนธอร์ สัตว์อสุรในตำนานที่ครึ่งล่างเป็นคนและครึ่งบนเป็นกระทิง มันคือฉากต่อสู้ที่มีส่วนผสมระหว่าง 300 และ Gladiator และเป็นฉากที่ผมสนุกในการถ่ายทำที่สุด"

เรื่องย่อ

          ตามตำนานของเทพนิยายกรีก "ธนูแห่งเอพิรุส" คืออาวุธที่ทรงพลังที่สุดบนพื้นพิภพ ถูกสร้างด้วยน้ำมือของ เอเรส เทพเจ้าแห่งสงคราม ที่ซ่อนเอาไว้ในหินผาเพื่อไม่ให้ใครเป็นเจ้าของ เพราะผู้ใดก็ตามที่ครอบครองศาสตราวุธชิ้นนี้ ก็จะมีอำนาจเหนือมวลมนุษย์และเหล่าทวยเทพ ทุกคนต่างต้องการเป็นเจ้าของธนูแห่งเอพิรุส

          โดยเฉพาะ ไฮเพอร์เรียน (มิคกี้ รู้ค) กษัตริย์คลั่งอำนาจที่ประกาศสงครามกับเหล่าทวยเทพ เขารวบรวมกองทัพกระหายเลือดเพื่อพลิกแผ่นดินหาอาวุธ ด้วยกฎเหล็กของเทพเจ้าที่ไม่สามารถยุ่งเกี่ยวกับความขัดแย้งบนโลก เทพซีอุส จึงได้เลือกมนุษย์ที่ชื่อ เธซีอุส (เฮนรี่ คาวิลล์) ที่เป็นความหวังเดียวที่จะหยุดยั้ง ไฮเพอร์เรียน และช่วยเหลือมนุษย์เอาไว้ได้

          Immortals คือหนังแอ็คชั่นมหากาพย์เรื่องยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี อลังการทุนสร้างกว่า 3,500 ล้านบาท จากผู้สร้าง 300 นำแสดงโดย เฮนรี่ คาวิลล์ จาก The Tudors และเป็นคนที่ถูกเลือกให้เป็น "ซุปเปอร์แมน" คนใหม่ ร่วมด้วย ฟรีด้า ปินโต้ จาก Slumdog Millionaire, มิคกี้ รู้ค จาก Iron Man 2, The Wrestler และ เคลแลน ลัตซ์ ผู้รับบทเป็น เอ็มเมตต์ ในแฟรนไชส์หนัง Twilight