ให้เอาเลขท้าย 4 ตัว ของตั๋วรถเมล์ มาบวกกัน

คำนวณแล้วได้เลข 1
ช่วงนี้ดวงจะดีไปเรื่อยๆ
        ช่วงนี้ดวงของคุณกำลังดี หมายถึงดวงชะตาของคุณอยู่ในช่วงขาขึ้นและจะดีขึ้นเรื่อยๆ ทำอะไรก็จะประสบความสำเร็จ ไม่ติดขัด มีคนคอยช่วยเหลือ จะทำอะไรที่เป็นงานใหญ่ๆ ให้ทำในช่วงนี้จะประสบความเสร็จสูง

คำนวณแล้วได้เลข 2
ระวังตัวจากอุบัติเหตุด้วย
        ช่วงนี้ดวงของคุณไม่ค่อยดี ควรงดเว้นการเดินทางไกลๆ หรือระวังของมีคมระวังเรื่องอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้

คำนวณแล้วได้เลข 3
มีคนแอบมองคุณอยู่
        ดวงกำลังดีด้านความรัก หากโสดจะมีคนแอบรักแอบชอบคุณอยู่ หากมีคู่หรือมีแฟนแล้วความรักกำลังเป็นไปด้วยดี

คำนวณแล้วได้เลข 4
ลืมเขาเสียเถอะ
        คุณกำลังจะมีปัญหาด้านความรัก (อกหัก) หากมีคู่อยู่แล้วให้ระวังเรื่องการขัดแย้ง ทะเลาะ ความไม่เข้าใจกัน อาจถึงขั้นเลิกกัน

คำนวณแล้วได้เลข 5
มีคุณอยากคุยกับคุณ
        ดวงคุณกำลังจะดีด้านความรัก หากโสดจะมีคนแอบรักแอบชอบคุณอยู่หากมีคู่หรือมีแฟนแล้ว ความรักกำลังเป็นไปด้วยดี

คำนวณแล้วได้เลข 6
วันนี้จะพบรัก
        วันนี้คุณจะพบแต่สิ่งที่เป็นผลดีต่อคุณเอง โดยเฉพาะเรื่องความรักถ้าคุณยังไม่เคยรักใครมาก่อน วันนี้คุณจะได้พบกับรักครั้งแรกของคุณ แต่ถ้าคุณอกหักมาก่อน  วันนี้แหละที่จะมีคนมาคอยซับน้ำตาให้คุณเอง

คำนวณแล้วได้เลข 7
วันนี้ต้องรอบคอบเป็นพิเศษ ห้ามทำอะไรเล่นๆ
        วันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษ  เพราะว่าดวงของคุณกำลังขึ้นๆ ลงๆ  เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย  ก่อนที่จะทำอะไร  ควรพิจารณา  และไตร่ตรองให้ดีก่อนค่อยลงมือทำในสิ่งนั้นๆ

คำนวณแล้วได้เลข 8
คนรักของคุณเขารักคุณมาก
        คุณเป็นคนที่โชคดีที่สุด  เพราะว่าตอนนี้ความรักของคุณนั้น  สุดหวานและสุดซึ้ง  เพราะว่าคนรักของคุณตอนนี้  เขารักคุณมากกว่าใครเป็นไหนๆ และจะรักคุณตลอดไป  ทำให้คู่รักคู่อื่นๆ  อิจฉากันไปตามๆ  กัน

คำนวณแล้วได้เลข 9
โชคร้าย
        ดวงของคุณในตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงขาลงมีเรื่องต้องทำให้หนักอกหนักใจอยู่ เป็นประจำ และยังมีเหตุให้ทะเลาะวิวาทหรือเสียทรัพย์อีก ดังนั้นคุณต้องหมั่นทำความดีไว้ให้มากๆจะทำให้ดวงชะตาของคุณดีขึ้น

คำนวณแล้วได้เลข 10
มีคนแอบรักคุณ
        ดวงตอนนี้ของคุณนั้น  มีคนที่อยู่ใกล้ตัวคุณเขาแอบปลื้ม  และแอบชอบคุณอยู่เขาหวังให้คุณนั้นเข้าไปคุยกับเขาอยู่  และเขาก็แอบรักคุณมานานแล้ว

คำนวณแล้วได้เลข 11
วันนี้เหมาะกับการเริ่มต้นทุกสิ่งทุกอย่างใหม่
        วันนี้เป็นวันที่เป็นมงคลและถูกโฉลกกับคุณเหมาะอย่างยิ่งในการเริ่มต้นในทาง ที่ดีกับทุกสิ่งทุกอย่างใหม่ๆ และจะดียิ่งๆ ขึ้นไปหากคุณคิดที่เริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆ

คำนวณแล้วได้เลข 12
มีคนนินทา
        ในช่วงนี้คุณจะเป็นที่อิจฉาของคนทั่วไป  รอบๆ  ตัวของคุณ  ทำให้เขาเหล่านั้นจับกลุ่มนินทาคุณ  แต่ถ้าคุณเฉย ๆ  ไว้  ไม่ทำอะไร จะทำให้การนินทาว่าร้ายเหล่านั้น  กลับมาเป็นผลดีต่อคุณเอง

คำนวณแล้วได้เลข 13
โชคดี
        ช่วงนี้ดวงของคุณอยู่ในขาขึ้น  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร  คุณก็จะมีแต่สิ่งดี ๆ เข้ามาในตัวคุณ ไม่ว่าเรื่องความรัก  การงาน การเงิน หรือเรื่องครอบครัวของคุณ ก็มีความสุข เจริญก้าวหน้าดี่  และจะมีโชค มีลาภ  และจะมีคนนำทรัพย์สินมาให้

คำนวณแล้วได้เลข 14
คนรักของคุณจะทำให้คุณไม่สบาย
        ช่วงนี้ดวงชะตาของคุณอยู่ในช่วงขาลง  ทำให้เรื่องต่างๆ ที่ดีกลับเป็นเรื่องที่ไม่ดีไปหมดทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องความรักช่วงนี้คนรักของคุณจะคิดนอกใจ และเริ่มเบื่อหน่ายในตัวคุณและคนรักของคุณนี้เอง  จะทำให้คุณไม่สบายทั้งกาย  และไม่สบายใจด้วย

คำนวณแล้วได้เลข 15
รู้มั้ย  แฟนคิดถึง
        คุณรู้หรือเปล่า !  ว่ามีใครเขาคิดถึงคุณอยู่  คน ๆ นั้นก็คือสุดที่รักของคุณนั้น ตอนนี้ไม่ว่าคุณจะทำอะไรเขาจะมองเห็นว่าคุณทำดีทุกเรื่อง ๆ  ไม่ว่าคุณจะทำผิดซักแค่ไหน  เขาก็ยังรักและคิดถึง  คุณอยู่ตลอดเวลา

คำนวณแล้วได้เลข 16
จะสมหวัง
        ช่วงนี้ดวงชะตาของคุณกำลังอยู่ในช่วงที่ขาขึ้นดังนั้นไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไร จะสมปรารถนาทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องความรักถ้าคุณคิดหมายปอง   คนที่คุณรักเอาไว้ในฝัน  หรือแอบรักแอบคิดถึงเขาคนนั้นอยู่ในช่วงนี้แหละะความรักของคุณจะสมหวัง

คำนวณแล้วได้เลข 17
ต้องระวังถ้าจะคบกับเขา
        ถ้าในช่วงนี้คุณคิดที่จะคบใครสักคนหนึ่ง มาไว้เป็นคนรู้ใจไว้เป็นคนคอยเอาอกเอาใจคุณ แล้วละก็  คุณควรคิด  พิจารณาให้ดีเสียก่อนเพราะว่าเขาคนนั้นที่คุณจะเลือกมาเป็นคู่ครอง หรือคนรู้ใจนั้นเขาอาจจะทำให้คุณต้องเจ็บปวดหัวใจ  หรือทำให้คุณต้องน้ำตาไหลได้  ฉะนั้น ก่อนที่จะเลือกที่จะคบกับใครในตอนนี้  ให้คุณเลือกให้ดี  ดูให้ละเอียดแล้วค่อยเลือกที่จะคบกับเขาคนนั้น

คำนวณแล้วได้เลข 18
เพื่อนของคุณจะทำให้คุณลำบาก
        ในช่วงนี้ดวงชะตาของคุณยังไม่ค่อยดีอาจจะทำให้มีเรื่องต้องเดือดร้อนอยู่ เป็นประจำ  โดยเฉพาะเกี่ยวกับเพื่อน หรือคนใกล้ตัวของคุณนั้นแหละ  เขาจะนำความเดือดร้อน  และนำความหนักอกหนักใจมาให้คุณอยู่ตลอดในช่วงนี้

7.ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 7 (ผู้ที่เกิดวันที่ 7, 16, 25)

คนเลข 7 แม้ว่าจะเป็นผู้ที่มีอารมณ์แปรปรวน ไม่ค่อยแน่นอน บางครั้งเด็ดเดี่ยวเข้มแข็ง แต่บางครั้งอ่อนไหว แต่ก็เป็นคนที่เห็นอกเห็นใจผู้อื่นง่ายและชอบคนที่จริงใจ ตอบ ชอบแสวงหาประสบการณ์ ความเร้าใจ จึงมักจะพาตัวเข้าไปเกี่ยวข้องกับกามารมณ์ การพนัน และสิ่งเสพติด อย่างเลี่ยงไม่พ้น

แต่ก็จะเป็นคนทันคน ยากที่จะถูกใครหลอก มีแต่จะหลอกคนอื่นเขา ด้านความรัก รูปลักษณะภายนอกของคนเลข 7 มักจะเป็นที่ สะดุดตา มีเสน่ห์ และโดยที่คนเลข 7 เห็นว่า เรื่องความรักและกามารมณ์เป็นเรื่องธรรมดา

ถ้าคิดจะรักกับคนเลขนี้ ต้องทำใจกับเรื่องดังกล่าว ตามตำรากล่าวไว้ว่า คนเลข 7 มักจะแพ้ทางคนที่มีเลขประจำตัวเป็นเลข 2 คู่ที่เป็นคนเลข 2 จึงพอจะอยู่ ร่วมกันได้อย่าง เป็นสุข

8.ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 8 (ผู้ที่เกิดวันที่ 8, 17, 26)

คนเลข 8 เป็นผู้ที่ มีไหวพริบสูง สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เก่ง มีวาทศิลป์เป็นเลิศ สามารถเจรจา โน้มน้าวจูงใจคนได้ดี แต่มักมีอารมณ์ไม่คงเส้นคงวา เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ตั้งเป้า หมายชีวิตไว้สูง

และชอบเสี่ยง กล้าได้กล้าเสีย ทำให้วิถีชีวิตของคนเลขนี้ค่อน ข้างผาดโผน อาจขึ้นสูงสุดและตกลงมาต่ำสุดได้บ่อยๆ แต่คนเลข 8 เป็นผู้ที่มี ความ ทรหดอดทน พยายามต่อสู้กับอุปสรรคให้ถึงที่สุด

ซึ่งส่วนมากมักจะชนะเสีย ด้วย ด้านความรัก คนที่คิดจะมาเป็นคู่ของคนเลข 8 ถ้าต้องการให้คนเลข 8 สนใจ จะต้องเป็นผู้ที่มีความเด่นเป็นพิเศษ ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เพราะคนเลข 8 ชอบอะไรที่สูงกว่ามาตรฐาน และสามารถสนับสนุนเป้าหมายของเขาได้

นอกจากนี้ยังต้องแสดงให้คนเลข 8 เห็นว่าท่านเข้าใจธรรมชาติของเขา ยอมรับและได้เตรียมตัวเตรียมใจ รับการเปลี่ยนแปลงทุกสถานการณ์ ถ้าทำได้ดังที่กล่าวมาจะสร้าง ความประทับใจให้แก่ คนเลข 8 ได้มาก คนเลข 8 มักจะสมพงศ์กับผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 และ 4

9.ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 9 (ผู้ที่ เกิดวันที่ 9, 18, 27)

คนเลข 9 เป็นคนรักธรรมชาติ ชอบสันโดษ เอางานเอา การ ค่อนข้างสุภาพและขี้อาย ชอบช่วยเหลือผู้อื่น อยากให้ผู้อื่นมาพึ่งพิง จึงมักเห็นคนเลขนี้เป็นครูหรือนักบวช หรืองานสนับสนุนที่ไม่ต้องมีปฏิสัมพันธ์ กับใคร

ด้านความรัก คนเลข 9 ต้องการเป็นผู้ปกป้องคุ้มครอง จะไม่ชอบคนที่เอะอะ เอ็ดตะโร หรือแข็งกระด้าง ชอบคนที่นุ่มนวล อ่อนโยน

และเป็นช้างเท้าหลัง (หรืออย่างน้อยก็ต้อง แสดงว่าเป็น) และเป็นคนโรแมนติก ร้อนแรงเมื่อถึงเวลา จนอาจทำให้ ท่านประหลาดใจ เพื่อนหรือบริวารที่เข้ากันได้ดีคือผู้ที่มีเลขประจำตัว เป็น 1

5.ผู้ที่มี เลขประจำตัวเป็น 5 (ผู้ที่เกิดวันที่ 5, 14, 23)

คนเลข 5 เป็นผู้ที่มี ความเข้าใจในธรรมชาติของคนเป็นอย่างดี เป็นพื้นฐานส่งเสริมให้มีความสามารถเป็น พิเศษทางด้านจิตวิทยา หรือการบริหารงานบุคคลซึ่งจะนำไป ใช้ประโยชน์ต่ออาชีพการงาน ที่ต้องแนะแนวหรือให้คำปรึกษา

เป็นผู้ที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงมาก จนบางครั้งแทบจะไม่ฟังความคิดเห็นของผู้อื่นเลย เรื่องดวงยิ่งไม่สนใจ คนเลข 5 จะซ่อนอารมณ์ไว้ไม่แสดงออกจนกว่าจะถึงเวลาที่เขาหรือ เธอตกลงปลงใจแน่นอนแล้ว

แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่รัก เพียงแต่เก็บไฟรักไว้ และปลดปล่อยออกมาเมื่อถึงเวลา เท่านั้น คนเลข 5 จะเป็นกลางกับทุกกลุ่มเลข ไม่เป็นพิเศษกับเลขประจำตัวใด แต่กลับ ไปผูกพันกับเวลาแทน โดยที่มักจะเกิดเหตุการณ์สำคัญในวันที่หรือเวลาที่ เป็นเลข 10

6.ผู้ที่มีเลขประจำตัว เป็น 6 ( ผู้ที่เกิดวันที่ 6, 15, 24)

คนเลข 6 เป็นคนง่ายๆ ไม่ค่อยมี พิธีรีตอง เป็นผู้ที่มีอารมณ์ดีอยู่เสมอ ไม่ชอบฝ่าฝืนระเบียบหรือกฎเกณฑ์ เป็นคน พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ จึงไม่ค่อยจะทะเยอทะยานไขว่ คว้าหาตำแหน่ง ดูผ่านๆ คนทั่ว ไปจะเห็นว่าคนเลข 6 ไม่มีความก้าวหน้า

แต่ในความจริงแล้ว ถ้าคนเลข 6 ได้ทำ งานที่ตนชอบก็จะทุ่มเทและสามารถรุ่งเรืองได้ในฐานะผู้เชี่ยวชาญพิเศษที่หา ผู้ เปรียบได้ยาก แต่ไม่ใช่ในฐานะนักบริหาร แสวงหา ความสุขความพอใจมากกว่าจะคำนึงถึงเงิน จึงมักใช้จ่ายเงินอย่างง่ายๆ ไม่ค่อยเก็บสะสม

ด้านความรัก คู่ของคน เลข 6 ไม่สามารถจะเก็บเขาหรือเธอไว้เป็นของท่านเพียงคนเดียว เพราะคนเลข 6 เป็นผู้ที่ชอบสังคม วิธีที่ดีที่สุดคือท่านควรไปกับคู่ของท่านด้วย เพื่อนหรือบริวาร ของคนเลข 6 คือผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 3 กับ 9 และถ้าสังเกตดูจะพบว่าสิ่งที่คน เลข 6 ได้ครอบครองมักจะมีเลขสามตัวนี้เกี่ยวข้อง คือ 3, 6 และ 9

3.ผู้ที่มีเลขประจำ ตัวเป็น 3 (ผู้ที่เกิดวันที่ 3, 12, 21, 30)

คนเลข 3 เป็นผู้ตั้งเ ป้าหมายของชีวิตไว้สูง ในขณะเดียว กันก็ชอบให้วิถีชีวิตเป็นไปตามทำนองคลองธรรม เป็นผู้ใฝ่หาความรู้ และยึดมั่นใน หลักการ สามารถปรับตัวให้ เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี เป็นผู้ที่เข้ากับคนได้ ง่าย

ด้านความรัก คนเลข 3 จะทำตามกรอบธรรมเนียมประเพณีและกติกาของสังคม จะ ไม่มีการแหกกฎ หรือทำอะไรแผลงๆ ดำเนินการไปตามขั้นตอนตั้งแต่เริ่มจีบจนถึงการ แต่งงาน และเมื่อแต่งงาน ปัญหาเรื่องญาติพี่น้องของคนรักมักจะน้อยหรือไม่มีเลย
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากคุณสมบัติประจำตัวของคนเลข 3 ที่เข้ากับคนได้ง่ายนั่นเอง คู่ของคนเลข 3 ที่จะเข้ากันได้ดีเป็นพิเศษคือผู้ที่มีหมายเลขประจำตัว 6 และ 9

4.ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 4 (ผู้ที่ เกิดวันที่ 4, 13, 22, 31)

คนเลข 4 เป็นผู้ที่มีสามัญสำนึกในเรื่อง ต่างๆ เป็นเยี่ยม ตัดสินใจเรื่องใดมักจะไม่พลาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือคน ประกอบกับเป็นผู้ที่รู้เหต ุรู้ผล รู้จักคุณค่าของเงิน ทำให้สามารถตั้งหลักปัก ฐานได้รวดเร็วยิ่งกว่าผู้ใด เป็นผู้ที่บุคคลอื่นมักจะให้ความเชื่อถือ ยิ่งร่วม งานกับผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 ยิ่งส่งเสริมกันและกัน

ด้านความรัก ถึงแม้ คนเลข 4 จะไม่ใช่คนเจ้าชู้ แต่มักจะมีคนมาแอบชอบหรือหลงรัก ทั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าคนเลข 4 นอกจากจะเป็นผู้ที่มีฐานะดีแล้ว ยังมีปฏิภาณในการเดา ใจผู้อื่นได้แม่นยำ การทำให้ผู้ที่ติดต่อด้วยมีความนิยมและพอใจ ผู้ที่เป็นคู่รักจึงต้องทำใจ ให้หนักแน่นหน่อย คู่ที่เหมาะคือผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 8

1. ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 1 (ผู้ที่เกิดวันที่ 1, 10, 19, 28)

คนเลข 1 เป็นผู้ต้องการมีชีวิตแบบ ไม่อยากเป็นรองใคร มีภาววิสัยเป็นผู้นำ ไม่ชอบเป็นผู้ตาม คนเลข 1 นี้จะไม่ค่อยชอบทำงานราชการ ชอบที่จะก่อร่างสร้าง ตัว จากธุรกิจการงานของตนเองมากกว่า และก็จะทุ่มเทให้กับงานเต็มที่

ด้านความ รัก จะเป็นคนรักเดียวใจเดียว เสมอต้นเสมอปลาย มั่นคงในความรักมาก ผู้ที่จะเป็น คนรู้ใจของ 1 ได้เหมาะสมที่สุด คือ ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 4 จะเป็นทั้งเพื่อน กายและเพื่อนใจ คู่คิดคู่เคียง ร่วมหัวจมท้ายด้วยกันได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนบริวารที่จะเข้ากันได้กับ 1 ก็คือ ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 2

2.ผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 2 (ผู้ที่เกิดวันที่ 2, 11, 20, 29)

คนเลข 2 เป็นผู้ที่เหมาะแก่การเป็นยอดขุนพลคู่ใจของแม่ ทัพ เนื่องจากว่าบุคคลหมายเลข 2 นี้เป็นผู้ที่มีความสามารถเป็นเยี่ยมในการจัดการอย่างมีระบบ มีความอดทน และเป็นคนละเอียด ถี่ถ้วน มักจะเป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จต่างๆ

ด้านความรัก ถ้าคน เลข 2 รักใครมักจะไม่แสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง อาจมีเพียงแววตาเท่านั้นที่พอจะบ่งบอกให้รู้ คนเลข 2 จะสามารถจดจำรายละเอียดต่างๆ ที่เกี่ยวกับคนรัก ได้อย่างน่าอัศจรรย์ และเมื่อรักใครแล้วก็มักจะอยากให้คนรักมีระเบียบเช่นเดียวกับตน

และ บุคคลที่จะเข้าคู่กับคนเลข 2 ได้ดีคือบุคคลผู้ที่มีเลขประจำตัวเป็น 7 คนเลข 2 จะ สร้างความมั่นคงและสมบูรณ์พูนสุขให้กับครอบครัวอย่างยากที่จะมีใครเทียบได้ จน บางครั้งอาจจะถึงรุ่นหลานเหลน

การทำนาย นิสัยจากตัวเลขเป็นตำราของฝรั่ง คิดขึ้นเพื่อให้เป็นแนวทำนายนิสัยของคนที่เกิดในวันที่ต่างๆ
โดยแบ่งเป็น 9 กลุ่มด้วยกัน วิธีการจัดกลุ่มก็คือ ถ้าวันเกิดเป็นเลข

หลักเดียวอยู่แล้วก็ใช้ ได้เลย ส่วนผู้ที่เกิดตั้งแต่วันที่ 10-31ก็ ต้องนำตัวเลขตัวหน้ากับตัวหลังมาบวกกัน
ให้เป็นเลขหลักเดียว เช่น ถ้าเกิดวันที่ 25 ก็ต้องนำเลข 2 บวกกับเลข 5 จะได้เท่ากับ 7 เป็นต้น





แล้วนำตัวเลขไปอ่านคำ ทำนายต่อไปนี้...

2012 โลกวินาศ !!

     อากาศต้นฤดูร้อน ที่หนาวขึ้นมาอย่างเฉียบพลัน ตลอดวันนี้(๒๘) ประสานกับภาวะธรรมชาติเสียสมดุล แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ น้ำท่วมที่ภาคใต้ของไทย ทำให้ภาพวันโลกสลาย ๒๑ ธ.ค.๒๐๑๒  ที่ปรากฎอยู่บนแผ่นฟิล์ม ๒ ปีก่อน  ตามคำทำนายของคนเผ่ามายา คล้ายความจริงที่จะเกิดขึ้นอีกไม่นานจากนี้ ซึ่งหากมองในเชิงปรัชญา ศาสนา ก็พบว่า นี่เป็นสิ่งที่ถูกพูด ได้รับการจารึกมาแล้วในที่ต่างๆ อย่างน้อยก็ในศาสนาใหญ่ๆ ๒ ศาสนา คริสต์ และอิสลาม

         ในคัมภีร์ของอิสลาม อธิบายว่าโลกเกิดจากกลุ่มหมอกควัน สภาพของโลกที่จะสิ้นสลายไปจะคล้ายกลุ่มหมอกควัน ที่ระเบิดออกเป็นชั้นๆ ดุจพรายน้ำที่ค่อยๆจางไปเมื่อเรือจมลง ภาพนี้เกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น ที่พม่า ที่ลาว  และวันนี้กำลังส่งผลสะเทือนไปทั้งโลก อย่างน้อยก็ในแง่จิตวิทยา

         ๗  ปีก่อน สึนามิถล่มชายฝั่งตั้งแต่อาเจ๊ะ อินโดนีเซีย ถึงอันดามัน กวาดเก็บชีวิตผู้คนไปมากมายมหาศาล

         ถัดจากนั้นไม่นานไซโคลนนาร์กิส ก็พัดถล่มนำหายนะครั้งใหญ่มาสู่คนพม่า ตามด้วยแผ่นดินไหวจนคนเมืองอิงลิ้ว ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน ตายเกือบยกเมือง จนกระทั่งนิวซีแลนด์ล่าสุด ปรากฎการณ์เหล่านี้อาจได้รับการสันนิษฐานในเชิงวิชาการต่างๆนานา ทั้งภาวะโลกร้อน ธรรมชาติที่เสียสมดุลเพราะน้ำมือมนุษย์ หากแต่ในมุมความเชื่อและศรัทธาของมนุษย์ ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจใฝ่รู้เช่นกัน

          ในทางวิทยาศาสตร์ เคยมีความเชื่อเรื่องวันโลกแตก หรือวันสิ้นโลก จนมีผู้นำไปสร้างภาพยนตร์หลายเวอร์ชั่น ทั้งน้ำท่วมโลก โลกแตกเป็นเสี่ยงจากดาวหางที่พุ่งเข้าชน สุดแท้แต่จะจินตนาการกันไป แต่แน่นอนที่สุด ก็คือ วันหนึ่งโลกนี้จะต้องแตกสลายลง เหมือนดาวดวงอื่นๆ นับหมื่น นับแสนดวงที่แตกกระจายกลายเป็นฝุ่นละอองเล็กๆ ลอยเคว้งคว้างอยู่ในห้วงอวกาศก่อนหน้านี้ นานนับอสงไขย

           สึนามิ พายุไซโคลนนาร์กิส ซึ่งเพี้ยนชื่อมาจากผู้เฝ้าประตูนรกในความเชื่อของอิสลาม แผ่นดินไหวในจีน นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และจากนี้ภัยธรรมชาติในหลายรูปแบบก็จะมาเยือนโลกมนุษย์อย่างไม่ขาดสาย นี่เป็นเหตุการณ์ปกติของพลโลกในยุคโลกร้อนหรือ ?

            หาไม่ !

          "เมื่อดวงอาทิตย์ดับแสงลง เมื่อดวงดาวทั้งหลายตกลงสู่พื้น เมื่อภูเขาทั้งหลายถูกทำให้เคลื่อนไหวไป เมื่ออูฐตัวเมียถูกทอดทิ้ง เมื่อสัตว์ร้ายถูกนำมารวมกัน เมื่อท้องทะเลลุกโชติช่วง เมื่อวิญญาณถูกนำมาใส่ไว้ในเรือนร่าง เมื่อเด็กหญิงที่ถูกฝังทั้งเป็นได้ถูกถาม ด้วยความผิดอันใดเล่าที่เธอถูกฆ่า เมื่อบันทึกถูกกางออก เมื่อท้องฟ้าถูกเปลี่ยนแปลง เมื่อไฟนรกลุกโชติช่วง เมื่อสวรรค์ถูกนำมาให้อยู่ใกล้ ทุกชีวิตได้รู้...."

          ความตอนหนึ่งในอัล-กุรอาน วรรคอัตตักวีร อาจอธิบายปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกชั่วโมงนี้ได้บ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถอธิบายอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ได้ก็ตาม

           ในพระธรรมมาระโก บทที่ ๑๓ ข้อ ๒๔ - ๒๕ กล่าวถึงวันโลกสลาย ซึ่งหมายถึงวันที่พระเยซูคริสต์จะถือกำเนิดขึ้นมาใหม่ ความตอนหนึ่งว่า...

             ใกล้วันที่พระเยซูคริสต์  จะกลับมา ท้องฟ้าจะแปรปรวน ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ จะไม่ส่องแสง ดินฟ้าอากาศจะทำให้ฤดูกาลเปลี่ยนไป

            ภัยพิบัติ ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกนาทีในโลกใบนี้ นี่คือสัญญาณแห่งวันสิ้นโลก ๒๐๑๒ !!?




ข้อมูลจาก http://www.oknation.net/blog/chakkrish/2011/03/28/entry-1

 
 
 
 
 
 
 

05. สัญญากาสะลอง feat. ลานนา คัมมินส์

พลพล ชุดที่ 5 พลพล คนกันเอง
เพลง สัญญากาสะลอง feat. ลานนา คัมมินส์   

1. กินจากยอดสุดก่อน.....ระดับความหึงของคุณมีน้อยมาก ถึงพ่อตัวดีของคุณจะไปหนุงหนิงกับใคร คุณก็จะรอฟังเหตุผลจากเค้าก่อน

2. ใช้ช้อนกดลงไปให้แบน ๆ .....ก็อยู่ในระกับปกติ ยังใจเย็นพอ แม้นจะงอนเล็ก ๆ ก็ตาม

3. ใช้ช้อนขูดด้านข้างกิน.....ลึก ๆ แล้ว คุณขี้หึงสุดขั้วเลยล่ะ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ยังยิ้มแย้มอยู่หรอก แต่พออยู่ด้วยกัน 2 คนเมื่อไหร่ พ่อนั่น...เป็นแหลก

4. กินน้ำแข็งพร้อมกับดูดน้ำหวานตามไปด้วย.....นี่ล่ะสุด ๆ พร้อมจะวีนได้ตลอด เหตุผลไม่ฟัง แถมไม่ไว้หน้าอีกตะหาก


เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ ตรงใจคุณๆ บ้างหรือเปล่าถ้าอยากเอาไปทายเพื่อนหรือคนรู้ใจก็ได้นะคะ แค่คุณคอยสังเกตุให้ดีว่าเพื่อนหรือคนรู้ใจของคุณน่ะ เค้ากินน้ำแข็งใสอย่างไรแค่นี้ก็สามารถรู้แล้วละว่าเค้าเป็นคนยังไง


ขอบคุณข้อมูลจาก FW Mail

อัญมณีเสริมโชคร่ำรวยมั่งคั่ง



ตามปกติอัญมณีที่นำความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้ผู้เป็นเจ้าของ ส่วนใหญ่จะเป็นอัญมณีประเภท สีเขียว สีทอง หรือสีเหลืองแดง ดังตัวอย่างคือ อา มีทิส ซิตริน เคลียร์ควอช ทอง ควอชสีเขียว ทูมาลีน เฮมาไท้ หยก แจสเปอร์ อะเกรด อ๊อบซิเดี้ยน ไพไรท์ พลอย เงิน สโมคกี้ ควอช ไทเกอร์อาย โทปาส โอปอขาว แซฟฟราย เซเรไนท์ และเมซเซ ไรท์ เมื่อเราได้อัญมณีแห่งความมั่งคั่งมาแล้วเราก็สามารถที่จะนำมาใช้ทำเพื่อเสริมโชคลาภ สร้างความมั่งคั่งให้กับตนเองได้หลายวิธีด้วยกันคือ

1. พกติดตัวโดยใส่เอาไว้ในถุงเท้า

2. ใส่ลงในอ่างอาบน้ำหรือถังน้ำเพื่อใช้น้ำอาบ

3. แช่น้ำหรือเหล้าเพื่อใช้ดื่ม

4. แช่น้ำเพื่อเอาน้ำฉีดสเปรย์เสื้อผ้า ข้าวของ เครื่องใช้ สถานที่ อาคารและสำนักงาน

5. ตั้งบนโต๊ะปรมาจารย์หรือโต๊ะพิธี

6. ตั้งเอาไว้ในมุมเงินทอง

7. ตั้งเอาไว้ในบริเวณหน้าบ้านใกล้กับประตูหน้า

8. ตั้งเอาไว้ในบ้านใกล้กับประตูหน้า

9. ตั้งเอาไว้ในห้องครัว

10. ตั้งเอาไว้ในห้องอาหาร

11. ตั้งเอาไว้ในห้องนอน

12. ตั้งเอาไว้ในห้องทำงาน

13. ใส่เอาไว้ในเซฟและลิ้นชักเก็บเงินหรือของมีค่า

14. สรวมใส่ไว้บนร่างกาย

15. วางเป็นแนวตามเส้นทางที่เข้าสู่ประตูหน้าของอาคารบ้านเรือนหรือสำนักงาน

16. ใส่ไว้ในถุงหรือผูกด้วยริบบิ้นสีเขียว สีทองหรือสีเงินแล้วแขวนเอาไว้ที่กระจกส่องหลังในรถยนต์

17. ตั้งเอาไว้ใกล้ตัวเช่นตั้งบนโต๊ะทำงาน

18. ตั้งประดับบนโต๊ะอาหารหรือโต๊ะรับแขก

19. วางไว้ใต้หมอน

20. ใส่ในกระปุกเก็บเงิน

21. ใส่ไว้ในกระเป๋าเงิน

22. วางไว้ใต้ต้นไม้ในสวน

23. วางไว้ที่มุมทั้ง 4 ของพื้นที่ *หมายเหตุ อย่าลืมเด็ดขาดต้องมีชามเกลือกำกับวางไว้ในห้องนั้นๆด้วยเสมอ เพื่อเป็นการล้างพลังอัปมงคลที่จะเข้ามาสู่ห้องนั้นๆ

 


ขอบคุณข้อมูลจาก http://fafonfai.org/
ขอบคุณภาพประกอบจาก Photos.com

ชอบไอเดียจริงๆยางมันให้ความรู้สึกเหมือนผิวหนังหนาๆ 

เอามาจาก sc4wd.net

ตอนเด็กเราเคยใช้แป้งน้ำหอมเย็นมาก
ยังจำได้ต้องเขย่าก่อนแป้งมันจะนอนก้น
แต่กลิ่นไม่เหมือนพวกน้ำอบนะ 

อินเลิฟ 
 
 

 คุยอย่างไรไม่ให้ทะเลาะกัน


ถ้าทุกครั้งที่คุณมีประเด็นที่จำเป็นต้องพูดคุยกับคู่ของคุณ แล้วก็มักจะลงเอยด้วยการทะเลาะกัน หรือไม่อาจจบประเด็นที่ค้างคาใจกันได้ เพราะคุณ (หรือเขา) ไม่อาจยอมรับความจริงได้ ก็แสดงว่าการสื่อสารระหว่างคุณกำลังมีปัญหาซึ่งอาจทำให้คุณสองคนห่างเหินกันออกไปเรื่อยๆ ผู้เชี่ยวชาญได้แนะนำให้ใช้ขั้นตอนเหล่นี้ที่จะช่วยให้คุณสื่อสารกันด้วย ความมั่นคงทางอารมณ์และจบปัญหาลงได้โดยไม่ต้องทะเลาะกัน

ให้หรือรับข้อมูล
จงเปิดใจต่อสิ่งที่ได้รับจากคู่ของคุณ คุณต้องยินดีที่จะทดสอบหรือถูกทดสอบคุณไม่ต้องพูดทุกอย่างที่คุณคิด แต่ทุกอย่างที่คุณพูดออกไปต้องเที่ยวตรง ถ้าคู่ของคุณถามว่าคุณไม่สบายใจหรือเปล่า และถ้าคุณไม่สบายใจหรือโกรธ ก็ต้องพูดออกไปว่า "ใช่" มันสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องพูดความจริง

ชี้ชัดข้อมูลและอารมณ์
หลังจากได้รับข้อมูลจากคู่ของคุณแล้ว แยกแยะว่าสิ่งที่คุณกำลังได้ยินคือสิ่งที่คู่ของคุณพูดออกมาจริงหรือเปล่า คุณต้องทวนว่า "สิ่งที่ฉันได้ยินจากคุณก็คือ..." จากนั้น เพื่อให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจในความรู้สึกของเขาหรือเธอ คุณก็อาจพูดบางอย่าง เช่น "ความรู้สึกที่ฉันได้จากคุณก็คือความขุ่นข้องใจ ความโกรธ และเจ็บปวด" เพื่อให้อีกฝ่ายตอบรับหรือปฏิเสธในสิ่งที่ตรงกับความรู้สึกของตัวเอง

อยู่กับปัจจุบัน
จดจ่อกับเรื่องที่กำลังพูดกันอยู่อย่าได้ขุดคุ้ยเรื่องในอดีตขึ้นมา ซึ่งจะทำให้ประเด็นทั้งหมดเบี่ยงบนไป

อย่าเดินหนี
อย่าได้เดินหนีไปก่อนที่การพูดคุยจะจบสิ้นลง เพื่อไม่ให้มันยืดเยื้อมากนัก คุณสามารถต่อรองจำกัดเวลาก่อนหน้าได้ เพื่อที่ทั้งสองจะได้รู้ว่าการสนทนาจะยาวนานแค่ไหน   
 

ขอบคุณสนุก

ในช่วงเวลาที่สถาบันการศึกษา อุดมศึกษาส่วนใหญ่กำลังอนุมัติผลการเรียนของนักศึกษาที่จะสำเร็จการศึกษา
ประกอบกับการผลิตบัณฑิตจบใหม่ออกมาแต่ละปีมีจำนวนมาก ทำให้บัณฑิตเหล่านี้ต้องประสบกับปัญหา
การหางานทำโดยเฉพาะในยุคของการแข่งขัน และภาวะวิกฤตเศรษฐกิจในปัจจุบัน เพื่อเป็นการสะท้อน
ความคิดเห็นอันเป็นฐานข้อมูลให้กับบัณฑิตจบใหม่ บันฑิตที่กำลังหางานทำและผู้ที่เกี่ยวข้อง สวนดุสิตโพล
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากนักศึกษา จำนวนทั้งสิ้น 1129 คน
และสถานประกอบการ 30 แห่ง ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ระหว่างวันที่ 6-9 มีนาคม 2554 สรุปได้ดังนี้

1. ความเห็นเห็นของนักศึกษาหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว

อันดับที่1 ต้องการศึกษาต่อ 53.92%

อันดับที่2 ไม่ต้องการศึกษาต่อแต่ต้องการที่จะทำงาน 24.87%

อันดับที่3 ไม่แน่ใจ 21.21%

2. อาชีพที่นักศึกษาอยากทำหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว

อันดับที่ 1 ธุรกิจส่วนตัว/ประกอบอาชีพอิสระ 33.17%

อันดับที่ 2 สายการบิน/แอร์โฮสเตส/สจ๊วต/นักบิน 11.21%

อันดับที่ 3 พนักงานบริษัทเอกชน 9.34%

อันดับที่ 4 นักลงทุน/การเงิน บัญชี ธนาคาร การตลาด 8.87%

อันดับที่ 5 วิศวกร 7.01%

อันดับที่ 6 นักคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเมอร์ 6.54%

อันดับที่ 7 ทหาร/ตำรวจ 6.07%

อันดับที่ 8 แพทย์/พยาบาล 5.60%

อันดับที่ 9 ครู/อาจารย์ 5.14%

อันดับที่ 10 ทำงานในวงการบันเทิง/ดารา นักร้อง 3.74%

3."เงินเดือน" ที่นักศึกษาต้องการเมื่อเทียบกับความรู้ที่จบมา

อันดับ 1 12000-16000 บาท 33.08%

อันดับ 2 มากกว่า 25001 บาทขึ้นไป 25.95%

อันดับ 3 16001-20000 บาท 23.68%

อันดับ 4 20001-25000 บาท 12.78%

อันดับ 5 8000-12000 บาท 4.51%

4.นักศึกษาคิดว่าจะต้องทำอย่างไร? จึงจะมีงานทำหลังจากสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีแล้ว

อันดับ 1 มีการวางแผนอนาคต เลือกเรียนในสาขาวิชาที่ตลาดแรงงานต้องการ 26.43%

อันดับ 2 ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการรับสมัครงานและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ 22.70%

อันดับ 3 ไม่เลือกงานหรือเลือกสมัครเฉพาะงานที่มีรายได้สูง 20.81%

อันดับ 4 มีผลการเรียนที่ดี มีความสามารถพิเศษที่โดดเด่น 16.55%

อันดับ 5 กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความคิดสร้างสรรค์ มีประสบการณ์ที่ตรงกับสายงาน 13.51%

5."นักศึกษา" คาดหวังต่อผู้ประกอบการในการคัดเลือกผู้ที่จะเข้ามาทำงานอย่างไร?

อันดับ 1 ควรเปิดโอกาสให้นักศึกษาทุกสถาบันไม่จำกัดเฉพาะสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียงเท่านั้น 25.80%

อันดับ 2 พิจารณาจากความรู้ความสามารถของผู้สมัครเป็นหลัก 23.91%

อันดับ 3 พิจารณาจากคุณสมบัติอื่นๆ ประกอบด้วย เช่น ความตั้งใจ ความรักในอาชีพ ความถนัด ความสามารถพิเศษอื่นๆ เป็นต้น 18.22%

อันดับ 4 มีเกณฑ์การคัดเลือกที่ยุติธรรม/ไม่ใช้ระบบอุปถัมภ์ เส้นสาย 16.24%

อันดับ 5 ควรให้โอกาสกับบัณฑิตจบใหม่และที่ยังไม่มีประสบการณ์ด้วย 15.83%

อื่นๆ งานบริการท่องเที่ยว โรงแรม/ไกด์/งานด้านกฏหมาย/นัการเมือง/สื่อมวลชนฯลฯ


ขอบคุณ สวนดุสิตโพล

 

ต้นต่อของสาเหตุที่ทำให้มนุษย์ออฟฟิตเราเป็นโรคปวดนู้นเหมื่อยนี้

ปัจจุบันผู้คนหลากหลายอาชีพ โดยเฉพาะพนักงานออฟฟิต มักเผชิญกับการปวดกล้ามเนื้อ เช่น ปวดคอ บ่า ไหล่ สะบัก หลัง
ซึ่งอาการเหล่านี้สามารถหายได้ภายใน 1-2 วัน หากทานยาลดปวด คลายกล้าเนื้อ หรือพักผ่อนอย่างเพียงพอ แต่ถ้าอาการปวด
เป็นไปอย่างต่อเนื่อง และรุนแรงเพิ่มขึ้นนั่นแสดงว่า คุณอาจมีอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรัง ซึ่งถ้าปล่อยไว้โดยไม่รักษาให้ถูกวิธี
อาจทำให้เกิดอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น ปวดศรีษะเรื้อรัง ปวดไมเกรน นอนไม่หลับ โครงสร้างร่างกายผิดปกติ

ทางการแพทย์จะเรียกอาการปวดกล้ามเนื้อเรื้อรังนี้ว่า “ Myofacial Pain Syndrome”

ซึ่งสาเหตุเกิดจากการหดเกร็งของกล้ามเนื้อเป็นก้อนเล็กๆขนาด 0.5 – 1cm. จำนวนมากหรือเรียกว่า “Trigger Point”
หรือจุดกดเจ็บซึ่งก้อนเหล่านี้จะซ่อนตัวอยู่ในกล้ามเนื้อ ซึ่งการเกิดจุดกดเจ็บจะทำให้กล้ามเนื้อขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง
จนเกิดการอักเสบและเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ อาการที่เด่นชัดของกลุ่มโรคนี้คือจะมีอาการปวดร้าวของกล้ามเนื้อที่มีการหด
เกร็งมากๆ ไปยังบริเวณที่มีส่วนเกี่ยวพันกันกับกล้ามเนื้อที่มีการหดเกร็ง เช่น ถ้ามีการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อบริเวณต้นคอ
บ่า จะมีอาการปวดร้าวไปยังศรีษะ และเบ้าตาได้

โดยอาการปวดอาจจะปวดตลอดเวลาหรือเฉพาะเวลาทำงานก็ได้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของโรค ซึ่งในบางรายอาการอาจจะ
รุนแรงจนกระทั่งมีอาการชา หรือ ขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่มีอาการหดเกร็งไม่ได้

ที่มา & อ่านต่อ
http://www.chiromedbangkok.com/th/article2/article_id.php?article_id=28-myofacial-pain-syndrome