[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
27 เมษายน 2567 05:58:30 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 2 [3] 4 5
41  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / แกงส้มยอดมะพร้าว-ไข่ปลาเรียวเซียว เมื่อ: 12 กรกฎาคม 2556 10:58:24














ใส่กุ้งแห้งป่นลงไป









กินคู่กับ ปลาทอด ปลาสลิดทอด
42  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: วิธีทำ ยำหมูย่าง สูตรรสเด็ด-เด็กรุ่นใหม่ เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 19:19:29
ไม่อยากลองทำ  แต่ขอลองชิมเลยได้ปะคะ  ตกหลุมรัก เย้
43  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:49:42



เมนูนี้ ถือได้ว่าอาหารเป็นยา ใบปอ ผักยอดนิยมของคนจีน ผัดทานกับข้าวต้มร้อนๆหรือข้าวสวยก็อร่อย หากเคยทานแบบผัดกับหมูสับมานาน ลองมาเพิ่มเนื้อกุ้งก็อร่อยมากขึ้น นอกจากนั้นใบปอเป็นพืชที่มีเส้นใยธรรมชาติสูงช่วยเรื่องระบบย่อย และเชื่อว่ามีสรรพคุณระงับพิษ และขับไขมันที่ตกค้างในร่างกาย เพราะมีสาร Glycoside นั่นเอง


สูตรใบปอผัดหมูสับ

เตรียม 10 นาที ปรุง 15 นาที
สำหรับ 2-3 ท่าน

วัตถุดิบใบปอผัดหมูสับ

1. ใบปอ (ลวกแล้ว) 1 ถ้วย
2. เนื้อหมูสับ 1/2 ถ้วย
3. กุ้งกุลาดำ ขนาดกลาง 5 ตัว
4. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
5. กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
6. เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ
7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
8. น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำใบปอผัดหมูสับ

1. ล้างใบปอด้วยน้ำสะอาด 2-3 ครั้ง บีบน้ำออก พักให้แห้ง
2. ล้างกุ้ง แกะปลือกผ่าหลัง ดึงเส้นดำออก
3. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมัน นำ กระเทียมที่แบ่งไว้ลงเจียวพอเหลืองหอมตักออก พักไว้
4. ใส่กระเทียมที่เหลือลงกระทะอีก ใส่ใบปอลงผัดใส่หมูสับ และกุ้งลงผัด ปรุงรสด้วยเต้าเจี้ยว น้ำตาลทราย ผัดคลุกเคล้าให้ทั่วจนใบปอพอแห้ง
5. ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวลงไปคลุกอย่างเร็วอีกครั้ง คนให้เข้ากัน จนหอม
6. โรยด้วยกระเทียมเจียว ตักเสิร์ฟ พร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ข้อแนะนำ

1. ใบปอแช่น้ำเกลือหาซื้อได้ที่เยาวราช และ ห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆบางแห่ง
2. ควรล้างน้ำ หลายๆครั้งให้หายเค็ม แล้วคลี่ใบออกผึ่งแห้ง เพราะเวลาผัดใบปอต้องแห้ง
44  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:46:30




อาหารว่างของชาวจีน ยังหาซื้อได้แถวเยาวราช ลักษณะเป็นแป้งที่นำมาหนึ่งในถ้วยเล็กๆ หน้าจะเป็นรูบุ๋มตรงกลาง เวลาทานราดหน้าด้วยไชโป๊วผัดกับกระเทียม ราดน้ำจิ้มซีอิ๊วเปรี้ยว เค็ม หวาน เพิ่มรสเผ็ดด้วยน้ำส้มพริกตำ ปัจจุบันมีการใส่หมูสับ และเห็ดเพิ่มที่ตัวไส้โรยหน้าเพื่อรสชาดให้อร่อยยิ่งขึ้น


สูตรอาหารจุ๋ยก๊วย

ระยะเวลา 40 นาที ไม่รวมหมักแป้ง 4- 6 ชม.
ประมาณ 20 ถ้วย (ถ้วยชาขนาดเล็ก)

วัตถุดิบจุ๋ยก๊วย

ตัวแป้ง
1. แป้งข้าวเจ้า 1 1/2 ถ้วย
2. แป้งท้าวยายม่อม 1/4 ถ้วย
3. แป้งมัน 1/4 ถ้วย
4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
5. น้ำ 1 1/2 ถ้วย

ไส้โรยหน้า
6. กระเทียมสับ 1/2 ถ้วย
7. ไชโป๊วเค็มหรือหวาน (ล้างบีบน้ำทิ้ง 2-3 น้ำแล้วสับละเอียด) 1 ถ้วย
8. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
9. ซิอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
11. เกลือ 1 ช้อนชา
12. พริกไทย 1 ช้อนชา

น้ำราด
13. ซีอิ๊วดำเค็ม 1/2 ถ้วย
14. น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
15. น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
16. น้ำ 1 ถ้วย
17. เกลือ 1/8 ช้อนชา

วิธีทำจุ๋ยก๊วย

1. แป้ง - อ่างใส่แป้งข้าวเจ้า แป้งท้าว แป้งมัน เกลือ เคล้าให้เข้ากัน เติมน้ำทีละน้อย แล้วนวด จนส่วนผสมให้เข้ากัน พักไว้ 4- 6 ชม. (หรือทิ้งไว้ 1 คืน ทำให้แป้งเหนียวหยุ่นตัว มีรอยบุ๋มตรงกลางกว้าง)
2. เรียงถ้วยตะไลลงในลังถึง นึ่งถ้วยในน้ำเดือดให้ถ้วยร้อนจัด แล้วตักแป้งหยอดให้เต็มถ้วยตะไลปิดฝา นึ่งประมาณ 8 - 10 นาที พอสุกตัวหน้าจะบุ๋มมีรูตรงกลาง พักไว้ให้เย็นตัวแล้วแกะออกจากพิมพ์
3. ไส้โรยหน้า – กะทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟอ่อนถึงกลาง ใส่กระเทียม เจียวให้เหลืองหอม ใส่ไชโป๊วสับ ผัดสักพัก ปรุงรสด้วยซีอิ้วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำตาล เกลือ ให้ออกรสเค็มและหวาน ผัดจนสุกและแห้งทั่วกันดี ตักใส่ภาชนะพักไว้
4. น้ำราด – หม้อใส่น้ำ ซีอิ้วดำเค็ม น้ำส้มสายชูหมัก น้ำตาลทราย ตั้งไฟ ดูน้ำตาลละลายรอให้เดือด แล้วยกลงทิ้งไว้ให้เย็น

45  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:44:20






กระทงทองอาหารว่างไทยโบราณที่หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี ด้วยความสวยงามของตัวกระทงที่ทอดแล้วออกเป็นสีทอง และไส้กระทง ที่ทำมาจากเนื้อไก่ผัดกับเครื่องต่างๆ ทานเป็นของว่างหรือนำไปจัดเสริฟในงานเลี้ยง เมนูนี้น่าจะถูกใจผู้ชอบของว่างไทยๆครับ


สูตรอาหารกระทงทอง

ระยะเวลา 50 นาที

เครื่องปรุงกระทงทอง

กระทงทอง
1. แป้งสาลี (บัวแดง) 2 + 1 ถ้วย + ชตพูน
2. ไข่แดง 1 ฟอง
3. เกลือป่น 2 ช้อนชา
4. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
5. น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ
6. น้ำปูนใส 1/2 ถ้วย
7. น้ำ 1 1/2 ถ้วย

ไส้ไก่
8. เนื้ออกไก่ล้วน (สับละเอียด) 1 ถ้วย
9. ถั่วลันเตา เม็ดข้าวโพด แครอท 1 ถ้วย
10. รากผักชี กระเทียม (โขลก) 2 ช้อนโต๊ะ
11. พริกไทย 15 เม็ด
12. เกลือ 2 ช้อนชา
13. น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
14. นมข้นจืด 1/2 ถ้วย

วิธีทำกระทงทอง

• ส่วนกระทง
1. กะละมังใส่แป้งสาลี ไข่แดง นวดเคล้าให้เข้ากัน ใส่เกลือ น้ำตาล น้ำมัน นวดให้เข้ากันสักพัก คลายแป้งด้วยน้ำ น้ำปูนใส (สังเกตจากเมื่อชุบแล้วแป้งเคลือบติดมือแสดงว่าใช้ได้ เพราะถ้าไม่ติดอาจจะต้องเพิ่มแป้ง) พักแป้งไว้สัก 20-30 นาที

• ส่วนไส้ไก่
2. เนื้ออกไก่ – ล้าง สับละเอียด โขลก รากผักชี กระเทียม พริกไทย ใส่กะทะตั้งไฟ ผัดให้หอม ใส่หอมใหญ่ เนื้อไก่ ดูให้เนื้อไก่สุก ใส่ถั่วลันเตา ข้าวโพด แครอท ผัดเคล้าให้เข้ากัน ใส่นมข้นจืด ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ ชิมรสให้ออก หวาน-มัน-เค็ม ผัดจนน้ำเริ่มงวด ปิดไฟ ใส่ภาชนะพักให้เย็นตัว

3. หม้อใส่น้ำมันทอดเกือบครึ่งหม้อ จุ่มพิมกระทงทองแช่ทิ้งไว้ให้ร้อน ยกขึ้นซับน้ำมัน นำไปจุ่มแป้งเกือบถึงขอบพิมพ์ นำลงทอด สังเกตดูว่าแป้งพองอยู่ตัว ใช้ส้อมหรือไม้ปลายแหลมเขี่ยให้แป้งหลุดจากพิมพ์ ดูสีเหลืองทองจึงตักขึ้นวางใส่กระดาษซับน้ำมัน
4. จัดจาน – ตักไส้ต่างๆ ใส่ถ้วยเล็กวางบานจานใหญ่ ตัวกระทงจัดเรียงบนจาน กรณียังไม่ทานเลย ซ้อนกระทงใส่ถุงพลาสติกรัดไว้ เพื่อไม่ได้ลมเข้าและคงความกรอบไว้ 

46  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:41:43


ขนมไทยโบราณที่ทำจากแป้งสองชนิดมาผสมกับผงลูกจันทน์ป่น กะทิ ไข่ ผสมกัน ใช้เวลาในการกวนจนสามารถปั้นเป็นรูปได้ ลักษณะขนมคล้ายลูกจันทร์


สูตรขนมเสน่ห์จันทร์ (ขนมไทยโบราณ)

ระยะเวลา 4-5 ชม.
ประมาณ 20 - 25 ชิ้น

ส่วนผสมเสน่ห์จันทร์ (ขนมไทยโบราณ)

1. แป้งข้าวเหนียว 1/4 ถ้วย
2. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วย
3. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
4. กะทิ-กล่อง (แยก 1/2 ถ้วยไปผสมไข่แดง) 1 1/2 ถ้วย
5. ไข่แดงไข่ไก่ (ผสมกะทิ 1/2 ถ้วย) 1 ฟอง
6. ผงลูกจันทน์ป่น 1 ช้อนชา
7. ผงโกโก้ 1 ช้อนชา
8. ผ้าขาวบาง ถาดใส่ผ้าชุมน้ำวางข้างกะทะที่กวนขนม

วิธีทำเสน่ห์จันทร์ (ขนมไทยโบราณ)

1. อ่างใส่แป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวเจ้า น้ำตาล ผงจันทน์ เคล้าให้เข้ากัน ใส่กะทิ 1 ถ้วย (ค่อยๆ ใส่) ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลละลาย ใส่ไข่แดงผสมกะทิ 1/2 ถ้วย) คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าข้าวบางเทใส่กะทะทอง ตั้งๆไฟ (อ่อนมากๆ) กวนช้าๆ เป็นวงกลม พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น กวนแบบชักไปขึ้นลงช้าๆ (ไม่กระชาก)
2. การกวนขนม – ใช้มือแต่ข้างกะทะทองเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ ถ้าร้อนเกินมือจับได้ ยกลงวางบนถาดที่มีผ้าเปียกน้ำ กวนขนมต่อไป จนรู้สึกว่ากะทะเริ่มเย็นตัวลง ยกขึ้นตั้งไฟใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลากวนประมาณ 1 1/2 ชม ดูแป้งข้นเหนียว แบ่งแป้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ ผสมผงโกโก้ (ทำเป็นขั้วจุก) นำส่วนที่เหลือไปกวนต่อเล็กน้อย ยกลงจากเตา ปั้นเป็นก้อนกลม บุ๋มเล็กน้อยตรงกลาง ส่วนที่ผสมโกโก้เป็นเป็นขั้วจุกสามแฉกใส่ตรงกลางลูก หรือปั้นเป้นเส้นเล็กๆ แล้วขดเป็นวงกลมแปะด้านบนก็ได้ จัดใส่จาน อาจอบควันเทียนในรังถึงเพิ่มความหอม
3. ลักษณะเนื้อขนมด้านๆ เป็นเนื้อทราย คล้ายๆ ทองเอก


47  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:14:58


เมนูอร่อยแซ่บที่น่าจะถูกใจคนชอบความเผ็ดร้อน เมนูนี้มีที่มาจากร้านอาหารแห่งหนึ่งในอยุธยา โดยใช้วัตถุดิบหลักเป็นกระดูกหมูอ่อน นำมาสับให้ละเอียด ผัดรวมกับเครื่องปรุงต่างๆ จนได้รสชาติเผ็ดร้อน ทานคู่กับเครื่องเคียง เช่น กระเทียมดองน้ำผึ้ง และใบยี่หร่า รับรองว่าอร่อยเด็ดจนต้องเติมข้าวอีกจานแน่นอนครับ


สูตรอาหารกระดูกหมูอ่อนสับผัดเผ็ด

เวลาในการทำ 30 นาที
ส่วนผสมสำหรับ 3-4 ที่

วัตถุดิบกระดูกหมูอ่อนสับผัดเผ็ด

1. กระดูกหมูอ่อน 250 กรัม
2. ตะไคร้อ่อน 2 ต้น
3. ใบยี่หร่า 15 ใบ
4. พริกขี้หนูแดง 15 เม็ด
5. กระเทียมกลีบเล็ก 10 กลีบ
6. น้ำตาลทราย 2 ชช.
7. ซีอิ๊วขาว 2 ชช.
8. ซีอิ๊วดำ 1 ชช.
9. ผงยี่หร่า 1 ชช.
10. น้ำมันถั่วเหลือง 5 ชต.

เครื่องเคียง
1. กระเทียมดองน้ำผึ้ง 2 ชต.
2. ใบยี่หร่า 20 ใบ

วิธีทำกระดูกหมูอ่อนสับผัดเผ็ด

1. ซอยใบยี่หร่าและสับพริกขี้หนูแดง กระเทียม ตะไคร้ให้ละเอียด จากนั้นสับกระดูกหมูอ่อนจนละเอียด พักไว้
2. ผัดพริก กระเทียม ตะไคร้กับน้ำมันจนหอมจึงค่อยเติมกระดูกหมูสับลงไป ผัดจนกระทั่งหมูเกือบสุก
3. ปรุงรสด้วยผงยี่หร่าซอยเป็นลำดับสุดท้าย ผัดต่ออีกเล็กน้อย เป็นอันเสร็จ จัดเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียง ได้แก่ใบยี่หร่า กระเทียมดองน้ำผึ้ง
48  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:11:54


อีกหนึ่งขนมไทยที่ปัจจุบันหาทานได้ยาก เนื่องจากขั้นตอนและการทำที่ใช้เวลานาน โดยส่วนผสมหลักของตัวขนม จะคล้ายๆ ขนมทองเอก ซึ่งประกอบไปด้วย แป้งสาลั ไข่ไก่ น้ำตาลและกะทิ แล้วตกแต่งด้วยเม็ดแตงโมที่ชุบน้ำตาลโดยรอบให้เป็นรูปมงกุฏ ในบางครั้งจะมีการประดับทองคำเปลวที่ทานได้ลงไปด้วย ในสมับโบราณจัดเป็นขนมมงคลและนิยมจัดเป็นเครื่องเสวยในราชสำนัก


สูตรขนมจ่ามงกุฎ (ขนมไทย)

ระยะเวลา 6-7 ชม.
ประมาณ 20-25 ชิ้น

ส่วนผสมจ่ามงกุฎ (ขนมไทย)

เม็ดแตง
1. เม็ดแตงโมแกะ
2. น้ำตาลทราย 1 ถ้วย
3. น้ำ 1/4 ถ้วย

ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
4. แป้งสาลี บัวแดง 1/2 ถ้วย
5. ไข่ไก่ (แยกเอาไข่แดง + กะทิ 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน) 6 ฟอง
6. น้ำตาลทราย 3/4 ถ้วย
7. กะทิ (กะทิกล่อง 3/4 ถ้วย + น้ำ 1 ถ้วย) 1 ถ้วย

ฐานมงกุฎ (กวน)
8. แป้งสาลี 1/2 ถ้วย
9. ไข่ไก่ (แยกไข่แดง) 1 ฟอง
10. น้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
11. น้ำเชื่อม (กาว) ถ้วยตะไล

วิธีทำจ่ามงกุฎ (ขนมไทย)

1. เม็ดแตง
1.1 น้ำเชื่อม – หม้อใส่น้ำกับน้ำตาล คนเล็กน้อย ตั้งไฟให้เดือดประมาณ 5 นาที (ไม่คน) ใส่ชาม (ที่เอามือจุ่มได้) พักไว้พออุ่น
1.2 ติดเตาถ่าน 2-3 ก้อน หรือเตาแก๊สต้อง ใช้ไฟอ่อนสุด - กะทะทองใส่เม็ดแตง ตั้งไฟ ใช้มือกวาดไปมา คั่วเม็ดแตงให้สุก ประมาณ 30 นาที (ถ้าใช้ไฟแรง เม็ดแตงจะพองแตก หรือไหม้ได้)
1.3 ปลายนิ้วจุ่มในน้ำเชื่อมพอเคลือบนิ้ว (ถ้าน้ำเชื่อมชุ่มไปสะบัดออก เพราะจะทำให้เป็นการเคลือบน้ำตาลเมด็แตง) กวาดไปมากับเม็ดแตงในกะทะ อีกมือจับกะทะประคองให้ตั้งเอียงไว้ คอยสังเกตดูถ้าเม็ดแตงแห้ง เอามือจุ่มน้ำเชื่อม กวาดเม็ดแตง ถ้ากระทะร้อนเกินไปจนมือเราทนไม่ได้ กลับกะทะอีกด้าน (เปลี่ยนด้าน และเมื่อก้นกะทะเลอะมีเศษน้ำตาลเกาะ ใช้ผ้าชุ่มน้ำหมาดๆ เช็ดให้แห้ง เช็ดให้สะอาดทั่วกระทะ เพราะก้นกระทะสะอาด กระทะจะลื่น ทำให้กวาดเม็ดแตงได้) แต่มือก็ยังกวาดไปมาต่อไป ทำต่อไปเรื่อย ๆ แบบนี้ซ้ำไปซ้ำมา ใช้เวลากวาดเม็ดแตงจนขึ้นหนามใช้เวลาประมาณ 2 1/2 – 3 ชม. (ถ้านานเกินหนามอาจหักหมด) เก็บเม็ดแตงใส่ถุงไว้ ส่วนน้ำเชื่อมเก็บไว้เพื่อใช้เป็นกาวในการประกอบขนม
2. ตัวมงกุฎ (ทองเอก)
2.1 อ่างใส่แป้งสาลี น้ำตาล กะทิ1/2 ถ้วย (ค่อยๆ ใส่) ใช้พายยางคนให้เข้ากัน ให้น้ำตาลละลาย ใส่ไข่แดงที่ผสมในกะทิ 1/2 ถ้วย คนให้เข้ากัน กรองด้วยผ้าข้าวบางเทใส่กะทะทอง คนก่อนขึ้นตั้งไฟทุกครั้ง (ส่วนผสมนอนก้น) ใช้ไฟอ่อนที่สุด กวนช้าๆ เป็นวงกลม พอส่วนผสมเริ่มข้นขึ้น กวนแบบชักขึ้นลงไปมาช้าๆ (ไม่กระชาก เพราะจะทำให้แตกมัน)
2.2 การกวนขนม – ใช้มือแต่ข้างกะทะทองเพื่อตรวจดูอุณหภูมิ ถ้าร้อนเกินมือจับได้ ยกลงวางบนถาดที่มีผ้าเปียกน้ำ กวนขนมต่อไป จนรู้สึกว่ากะทะเริ่มเย็นตัวลง ยกขึ้นตั้งไฟใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ใช้เวลากวนประมาณ 1 1/2ชม ดูแป้งข้นเหนียว ยกลงจากเตาพักไว้ (แป้งที่เหลือใช้จากการทำจ่ามงกุฎ นำไปอัดในพิมพ์ทองเอกได้ (แป้งเหมือนกัน)
3. ฐานมงกุฎ - อ่างใส่แป้งสาลี (ไข่แดงที่คนผสมกับน้ำ) ค่อยๆ ใส่ทีละนิด ดูอย่าให้เหลวเกินไป (ถ้าเหลวเติมแป้งเพิ่ม) นวดเคล้าพอเป็นก้อน คลึงบนไม้กระดานให้เป็นแผ่นหนา 0.1 ซม. ใช้พิมพ์กด วางใส่ในก้นถ้วยตะไล ใช้ไม้จิ้มฟันเจาะให้เป็นรู นำเข้าอบ (350องศา) ดูให้เหลืองกรอบ
4. การประกอบขนม - ฐาน (ถาด)ที่อบสุกแล้ว นำเม็ดแตงโมขนาดเท่าๆกัน (ที่กวาดหนามแล้ว) ติดรอบฐานด้วยน้ำเชื่อม (6-7 เม็ด ถาดเล็ก 8-9เม็ด) ทิ้งให้แห้ง ตัวมงกุฎ (แป้งทองเอกที่กวนไว้) ปั้นเป็นก้อนกลม กะขนาดพอวางบนฐาน ใช้สันมีดคว้านบั้ง (เหมือนสัญลักษณ์ดอกจันทร์) ทำให้เป็น 6 กลีบ ปั้นแป้งอีกส่วนเป็นวงกลมเล็กติดตรงกลางเป็นยอด (ถ้าไม่ติดใช้น้ำมันทาเล็กน้อย) ใช้ปลายมีดเขี่ยทองคำเปลว ติดตรงกลางส่วนยอดอีกที วางใส่จาน นำไปอบควันเทียนในรังถึง


49  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 16:08:20


แกงเห็ดเผาะกับยอดมะขาม นอกจากแกงกะทิแล้วยังมีแกงแบบที่คนภาคเหนือรู้จักกันเป็นอย่างดีอีกชามนึง เป็นแกงเห็ดเผาะกับยอดมะขามแกงที่มีเครื่องย่างโขลกใส่ลงไป ทำให้น้ำซุปหอมเข้มข้น หน้าตาอาจจะดูไม่สวยหรูอะไรแต่เชื่อว่ารสชาติเข้าถึงคนภาคอื่นๆได้ไม่ยาก ต้องลองครับ


สูตรแกงเห็ดเผาะกับยอดมะขาม

สำหรับ 1-2 ท่าน
เวลา 25 นาที

วัตถุดิบแกงเห็ดเผาะกับยอดมะขาม

1. เห็ดเผาะ(หรือเห็ดผอบ) 1/2 ถ้วยตวง
2. ซี่โครงหมู 6 ชิ้น
3. ใบมะขามอ่อน 1/4 ถ้วยตวง
4. กระเทียมไทยย่าง 15 กลีบ
5. พริกขี้หนูย่าง 15 เม็ด
6. หอมแดงไทยย่าง 7 หัว
7. กะปิย่าง 1 ช้อนโต๊ะ
8. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
9. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
10. น้ำ 2 ถ้วยตวง

วิธีทำแกงเห็ดเผาะกับยอดมะขาม

1. ตั้งหม้อต้มน้ำกับซี่โครงหมูจนเดือนแล้วเบาไฟลงไฟกลาง เคี่ยวต่อจนสุกหรือเปื่อยได้ที่
2. โขลกส่วนผสมในข้อ 4-7 จนเข้ากันดี แล้วใส่ลงไปในหม้อใช้ไฟกลาง ล้างเห็ดถอบให้ดีแล้วใส่ตามลงไป ปรับเป็นไฟกลางค่อนข้างแรง แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสคร่าวๆ รอจนเห็ดถอบร้อนถึงข้างในดีแล้ว ใส่ใบมะขาม ปิดไฟ เติมน้ำมะนาวแล้วชิมรสชาติอีกครั้ง ตักใส่ชามได้เลย
50  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 15:52:08




















51  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 15:03:54


















[imghttp://topicstock.pantip.com/food/topicstock/2007/09/D5802806/D5802806-8.jpg][/img]
52  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 13:00:03




จานนี้ เป็นลูกครึ่งระหว่างไก่ผัดเม็ดมะม่วง กับ ผัดโหงวก้วยที่นิยมเสริฟบนโต๊ะจีน เคล็ดลับการทำอาหารผัดแบบจีนๆ คือการที่ต้องทำให้เนื้อสัตว์สุกก่อน ที่จะนำไปผัดกับเครื่องอื่นๆ และปรุงรส เพราะเนื้อสัตว์ดิบเมื่อ โดนความร้อนจะคายน้ำออกมา ทำให้ อาหารที่ทำสำเร็จมีน้ำขลุกขลิก ซึ่งอาหารผัดของจีนไม่นิยมน้ำขลุกขลิก


สูตรไก่ผัดธัญพืช (อาหารชุดธัญพืช)

สำหรับ 2-3 ที่
ใช้เวลาประมาณ 20 นาที

ส่วนผสมไก่ผัดธัญพืช (อาหารชุดธัญพืช)

1. เนื้ออกไก่หั่นลูกเต๋า 200 กรัม หมักกับ น้ำตาล ซ้อสถั่วเหลือง พริกไท น้ำมันพืช อย่างละ 1 ช้อนชา
2. น้ำมันกระเทียมเจียว 1.5 ช้อนโต๊ะ
3. น้ำตาลทรายไม่ฟอกสี 1 ช้อนชา
4. พริกไทป่น 1/4 ช้อนชา
5. ซีอิ้วขาว 2 ช้อนชา
6. น้ำมันหอย 2 ช้อนชา
7. น้ำมันพืชสำหรับรวนไก่ 3 ช้อนโต๊ะ
8. พริกแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
9. หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า 1/2 หัว
10. พุทราจีนเชื่อมหั่น 5 เม็ด
11. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอดแล้ว 2 ช้อนโต๊ะ
12. แปะก๊วย 2 ช้อนโต๊ะ
13. พริกตุ้มหั่น 3 ช้อนโต๊ะ
14. ต้นหอม เอาแต่ตรงก้าน 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำไก่ผัดธัญพืช (อาหารชุดธัญพืช)

1. ตั้งกระทะจนร้อน ใส่น้ำมันพืชสำหรับรวนไก่ ตั้งไฟจนร้อน นำไก่ลงไปรวนพอสุก
2. กรองเอาน้ำมันออก เอาไก่พักไว้
3. ใส่น้ำมันกระเทียมเจียวลงกระทะ ตามด้วยหอมใหญ่ และพริกแห้ง
4. ผัดหอมหอมนุ่ม และส่งกลิ่นหอม
5. ใส่ไก่ ที่รวนแล้ว ตามด้วย พุทราจีน แป๊ะก้วย
6. ปรุงรสด้วย พริกไท น้ำตาล น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว
7. ผัดจนแห้ง ใส่เม็ดมะม่วงหิมมะพาน และต้นหอม ปิดไฟ
8. จัดเสริฟ

 
53  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / Re: หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 09:15:27



สันในแกะย่างกับซอสมิ้นต์ Grilled Lamb Tenderloin with Mint Sauce เอาใจคนชอบทานแกะกันด้วยเมนูสันในแกะย่างครับ รสชาติหอมเฉพาะตัว บวกกับความนุ่ม ฉ่ำในเนื้อ ที่เรานำมาปรุงแบบเรียบง่าย ชูรสชาดให้เด่นด้วยซอสมิ้นที่เรียกได้ว่า เข้ากันดีที่สุดกับแกะครับ


สูตรสันในแกะย่างกับซอสมิ้นต์ Grilled Lamb Tenderloin with Mint Sauce

สำหรับ 1 ที่
เวลา 15-20 นาที

วัตถุดิบสันในแกะย่างกับซอสมิ้นต์ Grilled Lamb Tenderloin with Mint Sauce

1. สันในแกะ 1 เส้น
2. พริกชิชิโดะย่าง 3 เม็ด
3. กระเทียม 1 หัว
4. ข้าวเกรียบอินเดีย 1 แผ่น
5. ซอสมิ้นต์เจลลี่ 2 ช้อนโต๊ะ
6. ใบมิ้นต์ 1 หยิบมือ
7. Relish 1 ช้อนชา
8. มัสตาร์ดดิยง 1 ช้อนชา

วิธีทำสันในแกะย่างกับซอสมิ้นต์ Grilled Lamb Tenderloin with Mint Sauce

1. ตั้งกะทะให้ร้อนจัด ปรุงแกะด้วยเกลือ พริกไทย แล้วย่างด้วยน้ำมันมะกอก ให้ได้สีสวย ในขณะเดียวกันก็ผ่าครึ่งกระเทียมแล้วย่างลงในกะทะเดียวกันให้ได้สีเช่นกัน
2. อบแกะต่อในเตา 180 องศา ประมาณ 5 นาที แล้วพักเเกะเอาไว้สักครู่
3. จัดจานเลยครับลงมิ้นต์เจลลี่ซอส พร้อมทั้งเครื่องเคราต่างๆ ลงไป แล้วหั่นครึ่งแกะโชสีด้านใน แล้วจัดวางลงมาบนมิ้นต์ซอส ตกแต่งให้สวยงาม เท่านี้ก็พร้อมรับประทานแล้วครับผม

ข้อแนะนำสันในแกะย่างกับซอสมิ้นต์ Grilled Lamb Tenderloin with Mint Sauce

ทุกครั้งที่ทำเมนูเนื้อ อย่าลืมขั้นตอนการพักเนื้อครับ เพราะนี้คือเคล็ดลับที่ใครๆมักจะมองข้าม แต่สิ่งเล็กๆสิ่งนี้ ช่วยให้จานธรรมดาๆ กลายเป็นจาน

 
54  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ในครัว / หมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ) เมื่อ: 11 กรกฎาคม 2556 09:10:51


เมนูอาหารว่างของไทยอีกหนึ่งเมนูที่ชื่อไม่คุ้นเคยกันซักเท่าไหร่ เมนูที่ทำจากหมูบดละเอียดมาผสมเครื่องปรุงรส พันด้วยเส้นหมี่ซั่ว เหมือนลูกตระกร้อหรือก้อนไหมพรมแล้วนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ทานกับน้ำจิ้ม นับได้ว่าเป็นอาหารว่างที่หน้าตาน่ารับประทานและรสชาติยังอร่อยอีกด้วยครับ เป็นอีกหนึ่งเมนูที่แนะนำครับ


สูตรอาหารหมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ)

ระยะเวลา 50 นาที

วัตถุดิบหมูโสร่ง

1. เนื้อหมูบดละเอียด 200 กรัม
2. รากผักชี (หั่น-โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา
3. กระเทียม (หั่น-โขลกละเอียด) 2 ช้อนชา
4. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
5. เกลือ 1/4 ช้อนชา
6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
7. ไข่ไก่ 1 ฟอง
8. น้ำมันสำหรับทอด 3 ถ้วย
9. เส้นหมี่ซั่วขาว (ชนิดเส้นไม่เค็ม) จุ่มน้ำพอชุ่ม ผึงใส่ตะแกรง คลุมผ้าขาวบาง 100 กรัม

วิธีทำหมูโสร่ง (อาหารว่างไทยโบราณ)

1. อ่างใส่หมูบด เครื่องปรุงทั้งหมด คลุกนวดให้เหนียว
2. เส้นหมี่ซั่ว 4-5 เส้น ใส่หมูเล็กน้อย พันให้เป็นก้อนกลม (เหมือนลูกตะกร้อ ก้อนไหมพรม) เรียงใส่ถาด คลุมด้วยผ้าขาวบาง
3. กะทะใส่น้ำมัน ตั้งไฟอ่อนกลาง ใส่ก้อนหมูที่พันเส้นแล้ววางใส่ตะแกรงทอดกดๆ พอให้เต็ม ยกตะแรกงลงทอด ให้น้ำมันท่วม ใช้ตะหลิวตักน้ำมันราดให้ทั่ว ทิ้งไว้ พออยู่ตัวค่อยเกลี่ยออกจะตะแกรง ทอดต่อในกะทะ ดูสีน้ำตาลทองๆ ก่อนเอาขึ้นเร่งไฟอีกครั้งไม่ให้อมน้ำมัน ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมัน
4. ทานคู่กับน้ำจิ้ม (น้ำจิ้มปอเปี๊ยะ)

ข้อแนะนำ

เส้นหมี่ซั่วที่นำมาใช้ต้องเป็นชนิดไม่เค็ม เพราะถ้าชนิดเค็ม หมูโสร่งจะออกมามีรสชาติเค็มมาก กรณีหาเส้นแบบไม่เค็มไม่ได้ให้ลดจำนวนเกลือและน้ำปลาลง


55  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: กับข้าวเย็นนี้ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:40:27











56  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: กับข้าวเย็นนี้ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:32:14
http://i882.photobucket.com/albums/ac25/Kan_ry/229106-12.jpg


น้ำเอ๋ยน้ำพริก
เห็นแล้ว ระริก ระรี่ใส่
มือหยิบ จานข้าว ตักเร็วไว
นั่งลง ทันใด เปิบทันที

มากมาย สารพัด จัดวางผัก
ชอบใจ ยิ่งนัก ผักเสี้ยนผี
รสชาด เปรี้ยวหนอ ช่างพอดี
กับข้าว เย็นนี้ ถูกใจเอย.











อยากเอ๋ยอยากกิน
อร่อยลิ้นปลาเผาเข้าเคียงข้าง
น้ำพริกปรุงรสแซบผักแซมวาง
เหลือไว้บ้างนะครูหนูหิวจัง

...วันนี้มีคนรวยเพราะหวยออก
หน้าปากตรอกเป็นพรวนหนูชวนนั่ง
คงไม่ต้องกังวลคนจ่ายตังค์
หม่ำไม่ยั้งหวังชิมสักอิ่มเอย

57  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: กับข้าวเย็นนี้ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:27:07


[imghttp://board.postjung.com/data/564/564679-topic-ix-4.JPG]http://[/img]

















58  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: เสื้อ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:11:27









59  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: เสื้อ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:08:47








60  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ตลาดสด / Re: เสื้อ เมื่อ: 28 มิถุนายน 2556 16:04:47



หน้า:  1 2 [3] 4 5
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.121 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 13 กุมภาพันธ์ 2567 09:15:49