[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 มีนาคม 2567 21:39:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 66 67 [68] 69 70 ... 1091
1341  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “ปิยบุตร” จวกก้าวไกล ออกอาการหงอ ลบนโยบายแก้ ม.112 บนเว็บพรรค เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 17:14:54
“ปิยบุตร” จวกก้าวไกล ออกอาการหงอ ลบนโยบายแก้ ม.112 บนเว็บพรรค
         


“ปิยบุตร” จวกก้าวไกล ออกอาการหงอ ลบนโยบายแก้ ม.112 บนเว็บพรรค" width="100" height="100  “ปิยบุตร” จวกก้าวไกลออกอาการหงอ หลังลบนโยบายแก้ ม.112 บนเว็บพรรค ทั้งที่ไม่มีในคำสั่งศาล
         

https://www.sanook.com/news/9212226/
         
1342  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - มีอยู่จริง! "โรคกลัวกระจก" เกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร อันตรายไหม? เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 16:51:49
มีอยู่จริง! "โรคกลัวกระจก" เกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร อันตรายไหม?
         


มีอยู่จริง! "โรคกลัวกระจก" เกิดจากอะไร อาการเป็นอย่างไร อันตรายไหม?" width="100" height="100  ทำความรู้จัก โรคกลัวกระจก หรือ Catoptrophobia เป็นโรคโฟเบียชนิดหนึ่ง มีอาการกลัวเงาสะท้อนต่างๆ กลัวพื้นผิวที่มีเงาสะท้อน


         

https://www.sanook.com/news/9212542/
         
1343  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘อนุ กก.หลักประกันสุขภาพท้องถิ่น’ ถกเพิ่มประสิทธิภาพ กปท.- ดูแลผู้ป่วยติดเตียง- เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 16:42:27
‘อนุ กก.หลักประกันสุขภาพท้องถิ่น’ ถกเพิ่มประสิทธิภาพ กปท.- ดูแลผู้ป่วยติดเตียง-กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 13:26</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>คณะอนุกรรมการสนับสนุนการดำเนินการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ประชุดนัดแรก เห็นชอบแนวทางสนับสนุน อปท. “ดูแลระบบหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น” ตาม ม. 47 พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมตั้ง 2 คณะทำงานด้านกฎ ระเบียบ-สุขภาพชุมชน ด้านมหาดไทยรับพร้อมทำเต็มที่ สอดรับพันธกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข”</p>
<p>2 ก.พ. 2567 ทีมสื่อ สปสช. รายงานต่อสื่อมวลชนว่า ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสนับสนุนการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ภายใต้คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) ซึ่งมีสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยประธานคณะอนุกรรมการ เป็นประธานการประชุม มีมติเห็นชอบแนวทางสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ ตามที่ นพ.เติมชัย เต็มยิ่งยง ผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กำกับดูแลกลุ่มภารกิจสนับสนุนการจัดระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นเสนอ</p>
<p>สำหรับแนวทางสนับสนุนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดำเนินงานระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการกองทุนและค่าบริการสาธารณสุข อันได้แก่ 1. กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นหรือพื้นที่ (กปท.) 2. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (LTC) 3. กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัด (กองทุนฟื้นฟูจังหวัด) ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด</p>
<p>นอกจากนี้ ที่ประชุมยังได้เห็นชอบคณะทำงานอีก 2 ชุด เพื่อจัดทำข้อเสนอดำเนินการตามบทบาทหน้าที่ของอนุกรรมการฯ ได้แก่ 1. คณะทำงานด้านกฎ ระเบียบ กฎหมาย โดยมี ศาสตราจารย์ บรรเจิด สิงคะเนติ เป็นประธานคณะทำงาน และ 2.  คณะทำงานด้านสุขภาพชุมชนและวิชาการ โดยมี นพ.ประทีป  ธนกิจเจริญ เป็นประธานคณะทำงาน</p>
<p>สุทธิพงษ์ เปิดเผยว่า หน้าที่หนึ่งของกระทรวงมหาดไทยคือการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข และดูแลประชาชนตั้งแต่จากครรภ์มารดาถึงเชิงตะกอน สอดคล้องกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ฉะนั้นจึงอยากจะขับเคลื่อนการดูแลสุขภาพของประชาชน ภายใต้การขับเคลื่อนของคณะอนุกรรมการสนับสนุนฯ ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งกระทรวงมหาดไทยจะทำเต็มที่</p>
<p>“ที่ผ่านมากรมการปกครองก็ช่วยเก็บข้อมูลครัวเรือนของประชาชน ทั้งปัญหาสุขภาพ และปัญหาความเดือนร้อนในด้านต่างๆ ตรงนี้จะเป็นอีกส่วนที่อยากให้บอร์ดชุดนี้ได้ใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจจะโยงกับฐานข้อมูลเพื่อใช้ในงานสุขภาพได้” สุทธิพงษ์ กล่าว</p>
<p>ด้าน นพ.เติมชัย กล่าวว่า คณะอนุกรรมการสนับสนุนฯ เป็นไปตามคำสั่งแต่งตั้งจากบอร์ด สปสช. ในการประชุมครั้งที่ 12/2566 เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2566 เพื่อสนับสนุนและประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการดำเนินงาน และบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่ได้ตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการเพื่อสร้างหลักประกันสุขภาพแห่งชาติให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545</p>
<p>อย่างไรก็ดี สำหรับอำนาจและหน้าที่ของคณะอนุกรรมการสนับสนุนฯ ได้แก่ 1. จัดทำหรือทบทวนกฎ การกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ อปท. เป็นผู้ดำเนินงานบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ เสนอต่อบอร์ด สปสช. 2. สนับสนุน และประสาน อปท. ในการดำเนินงาน และบริการระบบหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นฯ สนับสนุนกระบวนการมีส่วนร่วม ให้องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน และภาคเอกชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ดำเนินงานและบริหารจัดการเงินกองทุนในระดับท้องถิ่นฯ  ตามความพร้อม ความเหมาะสม และความต้องการของประชาชนในท้องถิ่น</p>
<p>3. จัดทำข้อเสนอสิทธิประโยชน์ระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ เพื่อเสนอต่อบอร์ด สปสช. 4. ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานและบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่นฯ และจัดทำข้อเสนอการพัฒนาที่ต่อเนื่อง 5. แต่งตั้งคณะทำงานตามความจำเป็น และเหมาะสมสำหรับการขับเคลื่อนประเด็นข้อ 1-4 และ 6. ปฏิบัติหน้าที่ตามที่ บอร์ด สปสช. มอบหมาย</p>
<p>นพ.เติมชัย กล่าวว่า การดำเนินการตามมาตรา 47 แห่ง พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพฯ นั้น ที่ผ่านมา มีการก็ได้มีการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อให้ท้องถิ่นดำเนินการ และบริหารจัดการกองทุนและค่าบริการสาธารณสุข ได้แก่ 1. กองทุนหลักประกันสุขภาพในระดับท้องถิ่น หรือพื้นที่สำหรับเทศบาล และองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) 2. ค่าบริการสาธารณสุขสำหรับผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงในชุมชน (LTC) สำหรับพื้นที่เทศบาล และ อบต. และ3. กองทุนฟื้นฟูสมรรถภาพระดับจังหวัดสำหรับผู้พิการ และผู้ที่มีภาวะพึ่งพิงที่ดูแลโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)</p>
<p>“ที่ผ่านมามีคณะทำงานที่ดูแลที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาดูแลกองทุนอยู่แล้ว แต่การจัดตั้งคณะอนุกรรมการชุดนี้ขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการดำเนินการตาม ม. 47 จะมีบทบาท และหน้าที่ในการสนับสนุนที่ชัดเจนขึ้น” นพ.เติมชัย ระบุ</p>
<p>อนึ่ง ที่ประชุมคณะอนุกรรมการสนับสนุนฯ ยังได้มีมติเห็นชอบ และมอบให้คณะทำงานแก้ไขปัญหา และอุปสรรคที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการการตามประกาศ บอร์ด สปสช. เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์เพื่อสนับสนุนให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ดำเนินงาน และบริหารจัดการระบบหลักประกันสุขภาพ กทม. พ.ศ. 2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107885
 
1344  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กมธ.เศรษฐกิจ ดึง สตง.-ปปช. ให้ข้อมูล ร่วมสอบโครงการเขื่อนปากแบง บนแม่น้ำโขง เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 15:09:07
กมธ.เศรษฐกิจ ดึง สตง.-ปปช. ให้ข้อมูล ร่วมสอบโครงการเขื่อนปากแบง บนแม่น้ำโขง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 14:30</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>รายงาน: สำนักข่าวชายขอบ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กมธ.เศรษฐกิจ ดึง สตง. และ ปปช. ร่วมสอบสัญญาโครงการเขื่อนปากแบง บนแม่น้ำโขง ประเทศลาว ด้าน กฟผ. ระบุตนเองปฏิบัติตามนโยบายด้านพลังงานเท่านั้น เมื่อให้ซื้อก็จำเป็นต้องทำตามนโยบายสั่งการ</p>
<p> </p>
<p>เมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ณ ห้องประชุม CA314 อาคารรัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร โดยมี สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานกรรมาธิการฯ ทำหน้าที่ประธาน ซึ่งมีวาระพิจารณาเรื่อง "โครงการพลังน้ำจากเขื่อนปากแบง" ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล อาทิ ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย องค์กรแม่น้ำนานาชาติ เลขาคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย (สทนช.) และตัวแทนภาคประชาชน</p>
<p>สิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธาน กมธ. กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมเกี่ยวกับกรณีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและผลกระทบต่อชุมชนจากการทำสัญญาโครงการไฟฟ้าพลังงน้ำเขื่อนปากแบง สืบเนื่องจากประชาชนในพื้นที่ได้ยื่นร้องเรียนมาขอให้มีการตรวจสอบ จึงเชิญหน่วยงานต่างๆ และตัวแทนภาคประชาชน มาเพื่อให้ข้อมูล ข้อเสนอและหาทางออกร่วมกัน </p>
<p>ไพรินทร์ เสาะสาย เจ้าหน้าที่รณรงค์ลุ่มน้ำโขง องค์กรแม่น้ำนานาชาติ กล่าวว่า โครงการเขื่อนปากแบง ที่จะก่อสร้างอยู่บนแม่น้ำโขง ที่เมืองปากแบง ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) มีกำลังการผลิตติดตั้ง 912 เมกะวัตต์ โดยได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. เมื่อวันที่ 13 ก.ย. 2566 เป็นระยะเวลา 29 ปี ท่ามกลางความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบข้ามพรมแดนในเขตประเทศไทย ที่ตั้งอยู่ห่างจากชายแดน 97 กิโลเมตร (กม.) ตลอด 7 ปีที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่และภาคประชาสังคมได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้มีการตรวจสอบผลกระทบข้ามพรมแดนและความไม่จำเป็นของการซื้อไฟฟ้าจากโครงการนี้อย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม หน่วยงานรัฐกลับเดินหน้าเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าอย่างไม่เป็นธรรม และเป็นเหตุให้ประชาชนต้องร้องเรียนต่อ กมธ. เพื่อให้มีการตรวจสอบความชัดเจนและหามาตรการแนวทางในการป้องกันและแก้ไขร่วมกันต่อไป </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ข้อกังวลผลกระทบข้ามแดน</span></h2>
<p>มนตรี จันทวงศ์ ผู้เชี่ยวชาญแม่น้ำโขงจากกลุ่ม The Mekong Butterfly กล่าวว่า ข้อมูลความไม่ชัดเจนเกี่ยวกับผลกระทบนั้นนับว่าเริ่มตั้งแต่กับกระบวนปรึกษาหารือล่วงหน้า ตามข้อตกลงแม่น้ำโขง (PNPCA) โดยเฉพาะภาวะน้ำท่วมเท้อต่อพื้นที่ชายแดน และเกาะแก่ง พื้นที่เก็บไก สาหร่ายแม่น้ำโขง พื้นที่วางไข่ของนกอพยพ และปัญหาการอพยพของปลาต่างๆ รวมถึงพื้นที่ทำการเกษตรในพื้นที่ราบลุ่มริมแม่น้ำสาขาของแม่น้ำโขง ทั้งลุ่มน้ำงาว และลุ่มน้ำอิง ซึ่งมีพื้นที่ขนาดใหญ่ และกรณีพื้นที่แก่งผาได บริเวณชายแดนไทยลาว ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากภาวะน้ำเท้อที่อาจจะสูงขึ้นตลอดทั้งปีหากมีการสร้างเขื่อนปากแบง ขณะที่ปัจจุบันไม่มีการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดน</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53504211605_a8bcb3a261_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">(ที่มา: สำนักข่าวชายขอบ)</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ราคารับซื้อสูง สร้างภาระประชาชนระยะยาว</span></h2>
<p>ชื่นชม สง่าราศีกรีเซ่น นักวิชาการอิสระด้านพลังงาน กล่าวว่า หากดูไทม์ไลน์การทำสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ต.ค. 2563 มีการอนุมัติแผนพัฒนาพลังไฟฟ้า PDP revised มีการอนุมัติความต้องการใช้ไฟฟ้าที่มีตัวเลขค่อนข้างสูง ค่าพยากรณ์เปรียบเทียบการใช้ไฟสูงสุดที่เกิดขึ้นจริง ที่ผ่านมาการพยากรณ์มักจะสูงเกินจริง ปี 2563 มีปริมาณไฟฟ้าสำรอง (reserve margin) สูงมากถึง 62% และการพยากรณ์มีความทยานขึ้นสูง ช่วงที่มีการออกแผนฉบับนี้ ความต้องการใช้ไฟต่ำกว่า 4,095 เมกะวัตต์ จากค่าพยากรณ์ได้มีการบรรจุความต้องการไฟฟ้าในแผน โดยมีแผนจะซื้อไฟจากต่างประเทศ 3,500 เมกะวัตต์ และไม่ได้ระบุชื่อโครงการและแหล่งที่มาจากประเทศใด เมื่อ 8 พ.ย. 2564 ได้มีการขยายกรอบ MOU รับซื้อไฟฟ้าจากลาว จาก 9,000 เป็น 10,500 เมกะวัตต์ มีการระบุเรื่องการทำ Tariff MOU 3 เขื่อน และ 5 เดือนต่อมา มีการเร่งลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และไม่มีการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขการซื้อขายไฟฟ้าต่อสาธารณะ  ผลการวิเคราะห์ของนักลงทุนและแผนพีดีพีที่อนุมัติแล้ว จะเห็นว่าการซื้อไฟฟ้าจาก 3 แห่งจาก สปป.ลาว พบว่าราคาการซื้อไฟจากลาว ซื้อ 2.79 -2.29 บาท ต่อหน่วย พบว่าเป็นราคารับซื้อที่สูงมากเมื่อเปรียบเทียบกับโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และการลงทุนนี้จะก่อภาระที่ไม่จำเป็นให้กับประชาชนไทย ที่จะกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบทั้งในเชิงด้านสิ่งแวดล้อมและค่าไฟในระยะยาวต่อไป กล่าวได้ว่าการซื้อไฟถูกขับเคลื่อนเป็นการดำเนินการโดยบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ทางกรรมาธิการตรวจสอบในการวางแผนและการผลักดันโครงการดังกล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เสี่ยงน้ำเท้อกลับมา </span></h2>
<p>ดร.วินัย วังพิมูล ผู้แทน สนนช. กล่าวว่าภายหลังกระบวน PNPCA มีการศึกษาโดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาทางภูมิศาสตร์ เพื่อดูระดับน้ำและมีการปักเสาระดับ 340 ม.รทก. เพื่อวิเคราะห์พื้นที่มีโอกาสเสี่ยงกรณีจะมีน้ำเท้อกลับเข้ามาจากกรณีเขื่อนปากแบง แม้จะสิ้นสุดกระบวนการ PNPCA และมีการออกแผนปฏิบัติการร่วมของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (Joint Action Plan) ยังอยู่ในขั้นระดับที่ 1 เป็นการเตรียมการ และทราบว่า บริษัทต้าถัง (จีน) ได้คุยกับผู้นำชุมชนที่อยู่ในลาว เป็นการเตรียมการในประเทศลาวเท่านั้น ส่วนของประเทศไทย ยังไม่ได้มีการดำเนินการใดๆ ส่วนของไทยจะต้องระยะที่ 2 ที่จะเป็นขั้นตอนการออกแบบเขื่อนตามมาตรฐานของ MRC ซึ่งขณะนี้ในพื้นที่ยังไม่มีการก่อสร้าง</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">กฟผ. มีที่หน้าที่ปฏิบัติตามนโยบายสั่งการ</span></h2>
<p>สุรชัย สุรเมธี  ผู้แทน กฟผ. กล่าวว่า กฟผ. เป็นเพียงหน่วยงานฝ่ายปฏิบัติที่ทำตามนโยบายด้านพลังงานกรณีโครงการเขื่อนปากแบงทางการลาว ได้เสนอขายไฟฟ้าตั้งแต่ มิ.ย. 2560 และมีการเซ็นสัญญาซื้อขายใช้เวลาประมาณ 6 ปี โดยจะเริ่มผลิตไฟฟ้าเชิงพานิชย์ (COD) ปี 2576 การเซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้า กฟผ.มีหน้าที่ปฏิบัติตามหน่วยงานกำกับทางนโยบาย ให้ซื้อก็เลยจำเป็นต้องทำตามนโยบายสั่งการ และในสัญญาได้ระบุว่ามีการนำข้อมูลกังวลด้านผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมและสังคม (EIA) บรรจุเข้าไปยังสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ให้ทางผู้พัฒนาโครงการได้ส่งรายงานการศึกษาผลกระทบข้ามพรมแดนทุกปี โดยกำหนดระยะแรกที่จะต้องส่ง คือ ภายในวันที่ 1 พ.ย. 2567 และมีการจัดตั้งกองทุนเยียวยา 45 ล้านบาท </p>
<h2><span style="color:#2980b9;">สผผ. และ ปปช. ร่วมเข้ามาตรวจสอบการทำสัญญาซื้อขายไฟ เขื่อนปากแบง</span></h2>
<p>วทัญญู มุ่งหมายกลาง รองเลขาธิการฯ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน (สผผ.) กล่าวว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินได้รับเรื่องร้องเรียนของภาคประชาชนได้จัดเวทีรับฟังข้อมูลและลงพื้นที่อำเภอเชียงของเมื่อวันที่ 24 ม.ค. 2567 ประเด็นสำคัญคือมีการลงนามซื้อขายไฟไปแล้ว แต่กว่าจะก่อให้เกิดผลกระทบจริงๆ อาจจะสัก 10 ปีข้างหน้า และมาตรการที่ผูกอยู่กับสัญญาของไฟ ที่ระบุว่ากองทุนเยียวยา 45 ล้านบาท เป็นข้อกังวลของชาวบ้านว่าถ้าเกิดความเสียหาย ทั้งน้ำเท้อ และวิถีชีวิต จะดำเนินการอย่างไร และโครงการนี้ซื้อไฟยาว 29 ปี ถ้าผลกระทบมีจำนวนมาก กรณีการตรวจสอบหากพบว่า การลงนามสัญญาที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล และอยู่ในอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน และประชาชนเดือดร้อน ก็จะเสนอต่อฝ่ายนโยบายและนายกรัฐมนตรีต่อไป</p>
<p>ผู้แทน ปปช. กล่าวว่า อำนาจหน้าที่การตรวจสอบหน้าที่ของหน่วยงานรัฐ การตรวจสอบเรื่องร้องเรียนการละเมิดการกระทำของหน่วยงานรัฐและการให้สินบน ขณะนี้กรณีเขื่อนปากแบง ยังไม่มีการร้องเรียนแต่อย่างไร แต่ต้องขอข้อมูลจากภาคประชาชน หากเกิดกรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐที่เกี่ยวข้อง หรืองบประมาณที่ปฏิบัติไม่ชอบ หรือมีสินบน ให้ร้องเรียนเข้ามา</p>
<p>ทั้งนี้ ในที่ประชุมได้มีการสอบถามเกี่ยวกับ การตรวจรับรายงานการศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมข้ามพรมแดนที่ กฟผ.ระบุในสัญญาว่ามีขั้นตอนอย่างไร โดยผู้แทน กฟผ. ตอบว่าได้ระบุว่ามีเงื่อนไขว่า หากส่งรายงานแล้วจะสามารถตรวจสอบและส่งกลับไปภายใน 60 วัน โดยจะต้องส่งกลับไปให้รัฐบาล และเนื่องจากไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม ทาง กฟผ.ก็อาจจะส่งให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติให้ความเห็นและต้องส่งกลับไปให้รัฐบาลลาว โดยไม่มีอำนาจหน้าที่ในการปรับปรุงแก้ไขหรือบังคับใช้มาตรการใดๆ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107886
 
1345  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - รู้หรือไม่? ทำไมที่พักในญี่ปุ่น ทุกห้องต้องมี “ไฟฉาย” อยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตาเ เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 14:20:32
รู้หรือไม่? ทำไมที่พักในญี่ปุ่น ทุกห้องต้องมี “ไฟฉาย” อยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตาเสมอ
         


รู้หรือไม่? ทำไมที่พักในญี่ปุ่น ทุกห้องต้องมี “ไฟฉาย” อยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตาเสมอ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ไขข้อข้องใจ ทำไมโรงแรมในญี่ปุ่น มักขาด “ไฟฉาย” ไปไม่ได้ แถมต้องวางในตำแหน่งที่เห็นชัดกระแทกตา!


         

https://www.sanook.com/news/9212254/
         
1346  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'ปิยบุตร' มอง 'ก้าวไกล' ลบแก้ ม.112 พ้นเว็บ ไม่ช่วย แนะต้องประคับประคองเสรีภา เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 13:38:16
'ปิยบุตร' มอง 'ก้าวไกล' ลบแก้ ม.112 พ้นเว็บ ไม่ช่วย แนะต้องประคับประคองเสรีภาพ ยืนยันในหลักการต่อ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 13:19</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ปิยบุตร แสงกนกกุล</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ปิยบุตร' มองพรรคก้าวไกล ลบนโยบายแก้มาตรา 112 ทั้งที่ศาลไม่ได้สั่ง กำลังสร้างบรรยากาศความกลัวในสังคม ถ้าเขาจะยุบ ให้ถอยตอนนี้เขาก็ยุบอยู่ดี เสนออยากให้ช่วยประคับประคองเสรีภาพ และยันในหลักการต่อไป </p>
<p> </p>
<p>2 ก.พ. 2567 ปิยบุตร แสงกนกกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และอดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ออกมาให้ความเห็นผ่านโซเชียลมีเดีย ต่อกรณีที่พรรคก้าวไกลลบนโยบายแก้ไข มาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์ของพรรค ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิจฉัยให้การใช้นโยบายแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 หาเสียงของพรรคก้าวไกล เข้าข่ายใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง และถูกสั่งให้ยุติการกระทำดังกล่าว</p>
<p style="text-align: center;"> </p>
<blockquote class="twitter-tweet"><p dir="ltr" lang="th" xml:lang="th">พึ่งทราบข่างจากเพจข่าวสดว่าพรรคก้าวไกลนำนโยบายแก้ไข 112 ออกจากเว็บไซต์ของพรรค</p>
<p>ทำไมแหยและหงออย่างนี้ครับ?</p>
<p>ในคำวินิจฉัยไม่ได้สั่งให้เอาออกเลย</p>
<p>และต่อให้เอาออก แล้วยังไง ศาลก็วินิจฉัยไปแล้ว?</p>
<p>ตกลงพรรคก้าวไกลจะร่วมสร้างบรรยากาศความกลัวให้กับสังคมในเรื่องนี้ด้วยหรือ?… pic.twitter.com/pLEe8PKrQa</p>
<p>— Piyabutr Saengkanokkul (@Piyabutr_FWP) February 1, 2024</p>
<script async="" src="https://platform.twitter.com/widgets.js" charset="utf-8"></script><p> </p>
<p>ต่อมา เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ และธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพุทธอิสระ ได้ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้พิจารณายุบพรรค และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคก้าวไกล</p>
<p>ปิยบุตร ถามท่าทีของพรรคก้าวไกล ทำไมมาถอยเอาตอนนี้ โดยประเด็นแรก ปิยบุตร ชี้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้มีความเห็นให้พรรคก้าวไกลต้องเอาลบนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์ และต่อให้เอาออกตอนนี้ ก็ไม่น่าจะทันแล้ว เพราะว่าศาลมีคำวินิจฉัยไปแล้ว </p>
<p>ปิยบุตร กล่าวถึงคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นได้ว่าศาลฯ มีคำสั่งดังนี้ หนึ่ง สั่งการให้พรรคก้าวไกลและพิธา เลิกแสดงความเห็น เพื่อให้มีการยกเลิก 112 สอง ไม่ให้มีการแก้ไข 112 ด้วยวิธีการซึ่งไม่ใช่กระบวนการทางนิติบัญญัติโดยชอบ ซึ่งคำนี้น่าจะอนุมานจากคำวินิจฉัยนี้ได้ว่า ห้ามแก้ใน 3 ประเด็นที่ศาลบอกว่าเป็นการล้มล้างฯ ได้แก่ ห้ามย้ายหมวด ห้ามกำหนดเหตุยกเว้นความผิด เหตุยกเว้นโทษ ห้ามกำหนดให้ยอมความได้ และห้ามกำหนดให้สำนักพระราชวังเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ</p>
<p>"ตรงไหนที่ศาลสั่งให้เอานโยบายออกจากเว็บ" </p>
<p>"ตกลงพรรคก้าวไกลจะร่วมสร้างบรรยากาศความกลัวให้กับสังคมในเรื่องนี้ด้วยหรือ" ปิยบุตร ระบุบนโพสต์เฟซบุ๊ก</p>
<p>ปิยบุตร มองว่า ตอนนี้เราต้องหาทางประคับประคองเสรีภาพ และยืนหยัดบทหลักการให้ได้ แต่กลับช่วยกันขีดวงเสรีภาพให้มันหดแคบลง</p>
<p>"ผมคิดว่าต้องหาจุดสมดุลประคับประคองไปให้ได้ ไม่ควรออกอาการกลัวลนลานขนาดนี้ มิเช่นนั้น ถ้าจะทำ ก็แถลงสาธารณะไปเลยว่าต้องทำ เพราะกลัวโดนยุบพรรค โดนจริยธรรม ขอให้เข้าใจด้วย</p>
<p>ปิยบุตร มองด้วยว่า ถ้าพรรคก้าวไกลจะถอยเรื่องการแก้ไขมาตรา 112 น่าจะถอยไปตั้งแต่จัดตั้งรัฐบาล และมองด้วยว่า ต่อให้มีการถอยเรื่องนโยบายแก้ไขมาตรา 112 จริง ถ้าฝั่งผู้มีอำนาจจะยุบ เขาก็จะยุบอยู่ดี</p>
<p>"ส่วนตัวผมเห็นว่าถ้าเขาจะยุบ จะตัด ต่อให้ลบออกหมด เขาก็ยุบได้ และเมื่อไรที่กลับมาทำเรื่องพรรค์นี้อีกเมื่อไร ก็โดนอยู่ดี เว้นแต่จะประกาศให้พวกเขารู้ว่าพร้อมจะเป็นเด็กดีของระบอบแล้ว" ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมาย ระบุ</p>
<p>ทั้งนี้ หลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเมื่อวันที่ 31 ม.ค.ที่ผ่านมา ปิยบุตร โพสต์โซเชียลมีเดีย ได้ทำข้อเสนอเพิ่มต่อฝ่ายนิติบัญญัติ ต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญด้วย</p>
<p>1. แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ตีกรอบอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ให้รวมถึงการใช้อำนาจของรัฐสภาและการเสนอร่างกฎหมาย </p>
<p>2. แก้รัฐธรรมนูญ กำหนด ห้ามมิให้ศาลรัฐธรรมนูญเข้าแทรกแซง สกัดขัดขวาง กระบวนการนิติบัญญัติ เว้นแต่กรณีการตรวจสอบว่าร่างพ.ร.บ.ขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่ ภายหลังจากรัฐสภาให้ความเห็นชอบและยังไม่ทูลเกล้าฯ</p>
<p>3. แก้รัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ตีกรอบและจำกัดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ </p>
<p>4. แก้ พ.ร.ป.ศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลรัฐธรรมนูญ </p>
<p>5. แก้รัฐธรรมนูญ เปลี่ยนองค์ประกอบและที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ </p>
<p>6. แก้รัฐธรรมนูญ ยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญ และกำหนดให้องค์กรอื่นทำหน้าที่พิทักษ์รัฐธรรมนูญแทน</p>
<p>7. หากอ่านจากคำบังคับของศาลรัฐธรรมนูญ จะเห็นได้ว่า ศาลไม่ได้บังคับสั่งห้ามแก้ไข 112 โดยเด็ดขาด ยังคงเสนอแก้ไขมาตรา 112 และประเด็นอื่นๆ ได้ เช่น การลดโทษจำคุก การยกเลิกโทษขั้นต่ำ 3 ปี แยกฐานความผิดหมิ่นประมาท ดูหมื่น แสดงความอาฆาตมาดร้ายออกจากกัน กำหนดให้นายกรัฐมนตรี หรือ คณะกรรมการพิเศษ ทำหน้าที่ร้องทุกข์กล่าวโทษคดี 112 และอื่นๆ </p>
<p>ทั้งนี้ กรณีการลบนโยบายแก้ไขมาตรา 112 ออกจากเว็บไซต์พรรคก้าวไกล สืบเนื่องจาก 'ข่าวสด' รายงานวานนี้ (1 ก.พ.) บนเว็บไซต์ https://election66.moveforwardparty.org ที่มีข้อมูล “เลือกตั้ง 66” ของพรรคก้าวไกล 3 ส่วน ได้แก่ 1.ข้อมูล สส.เขตทุกคนทั่วประเทศ 2.ข้อมูล สส.บัญชีรายชื่อทุกคน และ 3.ข้อมูลนโยบายพรรคกว่า 300 นโยบาย</p>
<p>นโยบายแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งเคยปรากฏอยู่ในลิงก์ https://election66.moveforwardparty.org/policy/detail/policy_21 ได้หายไป และไม่ปรากฏข้อความอื่นใด ที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ในเว็บไซต์นี้ด้วยเช่นกัน</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'เรืองไกร' ยื่น กกต.ชงยุบ 'ก้าวไกล'-หลังศาล รธน.ชี้เสนอแก้ ม.112 เป็นการใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง</li>
</ul>
</div>
<p>คาดว่าเป็นผลมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ระบุว่า "พรรคผู้ถูกร้องที่ 2 นำเสนอนโยบายดังกล่าว ให้แก่คณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อใช้เป็นนโยบาย ในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2566 และปัจจุบันยังปรากฏเป็นนโยบายการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อยู่บนเว็บไซต์ของพรรค ผู้ถูกร้องที่ 2</p>
<p>การที่ผู้ถูกร้องทั้งสองใช้การเสนอแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นนโยบายของพรรคผู้ถูกร้องที่ 2 ในการหาเสียงเลือกตั้ง แม้ไม่มีร่างที่จะแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ให้เห็นว่าจะแก้ไขในประเด็นใด เสนอมาพร้อมนโยบายพรรคผู้ถูกร้องที่ 2</p>
<p>แต่ตามเว็บไซต์ของผู้ถูกร้องที่ 2 กล่าวถึงการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กลับมีเนื้อหาที่จะแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ทำนองเดียวกับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญาฉบับที่ … พ.ศ. แก้ไขเกี่ยวกับความผิดหมิ่นประมาท เมื่อวันที่ 25 มี.ค 64 ที่ยื่นต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร"</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ชัยธวัช' ตอบลบนโยบายผ่านเว็บตามคำแนะนำฝ่าย กม. แต่ สส.ยังแสดงความเห็น ม.112 ได้เหมือนเดิม</span></h2>
<p>วานนี้ (1 ก.พ.) ที่อาคารรัฐสภา The Reporters รายงานว่า ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมร่วม สส.พรรคก้าวไกล ต่อกรณีที่เว็บไซต์พรรค ลบนโยบายแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ออก </p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="830" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FTheReportersTH%2Fposts%2Fpfbid0B3cBor6xLPQ9nk4KVUjcKTs1gmL74qvtd6k5K4r3gY4U49XZ9d9umT2m3eSC21a1l&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>ชัยธวัช กล่าวว่า เนื่องจากฝ่ายกฎหมายเห็นว่าเป็นประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญหยิบขึ้นมาอยู่ในคำวินิจฉัยด้วยว่า การที่ยังมีนโยบายเรื่องนี้อยู่ในเว็บไซต์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่นำไปสู่บทสรุปว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งความจริงเราไม่คิดว่าจะเป็นประเด็นสาระสำคัญ </p>
<p>ส่วนที่ สส.หรือสมาชิกพรรคยังมีความเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมาย ม.112 ในสื่อโซเชียลมีเดียนั้น ชัยธวัช กล่าวว่า คำวินิจฉัยไม่ได้บอกว่า สส.จะเสนอแก้ไขปรับปรุง ม.112 ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น สส.พรรคไหน ซึ่งตนได้ย้ำในการแถลงข่าวเมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) แล้วว่า ม.112 ยังเป็นปัญหาอยู่ เพราะฉะนั้นการที่สมาชิกพรรคบางส่วนยังมีความเห็นว่าควรแก้ไขมาตรานี้ ก็ยังสามารถทำได้ เพียงแต่ต้องดูว่าอะไรคือการเสนอกฎหมายโดยชอบตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ </p>
<p>สื่อถามว่าการประชุมในวันนี้เป็นการระดมความเห็นของ สส.หรือทีมกฎหมายของพรรคมีแนวทางปฏิบัติมาก่อนแล้ว ชัยธวัช กล่าวว่า ยังหรอก เพราะเมื่อวานเราฟังคำวินิจฉัยกัน แล้วยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกันจริงๆ เพราะต้องรีบเตรียมการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ในวันนี้ก่อนที่ทุกคนจะแยกย้ายกันในช่วงสุดสัปดาห์จึงถือโอกาสพูดคุยกันในวันนี้ เชื่อว่า สส.คงมีความเห็น และข้อเสนอให้ได้แลกเปลี่ยนกัน</p>
<p>ส่วนที่มีอดีต สส.พรรคก้าวไกล อาทิ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา กัญจน์พงศ์ สุทธนามณี เข้าร่วมประชุมด้วย เพราะเป็นหนึ่งใน 44 รายชื่อ ที่ยื่นแก้ไขกฎหมายเมื่อปี 2564 หรือไม่ ชัยธวัช กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจ แต่คิดว่าน่าจะมาประชุมคณะกรรมาธิการ ไม่ใช่วาระที่จะคุยกับกลุ่ม สส. 44 คนตนยังไม่แน่ใจ </p>
<p>สำหรับข้อกังวลหากถูกร้องจริยธรรม ซึ่งอาจมีโทษถึงการตัดสิทธิ์ทางการเมือง ชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องจริยธรรมเป็นคนละเรื่องกับเรื่องถูกร้องยุบพรรค เป็นคนละกระบวนการ และน่าจะใช้เวลามากกว่า ไม่ได้บอกว่าหากเป็นคดีจริยธรรม แล้วถูกตัดสินว่าผิด จะต้องถูกตัดสิทธิทางการเมืองตลอดชีวิต ขึ้นอยู่กับศาล ซึ่งส่วนนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคก็ได้เตรียมต่อสู้ไว้อยู่แล้ว เรายังคงต้องรอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะยังมีรายละเอียดทางกฎหมายอยู่</p>
<p>"ไม่ว่าจะโดนร้องเรื่องอะไร ตอนนี้สิ่งที่เรารอ คือ รอดูคำวินิจฉัยตัวเต็ม เพราะจะมีความสำคัญในทางข้อกฎหมาย" หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าว</p>
<p>ส่วนที่มีนักวิชาการให้ความเห็นว่าพรรคก้าวไกลควรยื่นให้องค์กรระหว่างประเทศตรวจสอบคำวินิจฉัยที่ละเมิดหลักสิทธิมนุษยชนสากลนั้น ชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่มีการพูดคุยกัน เพราะกลไกที่จะสามารถตรวจสอบการใช้อำนาจของตุลาการในประเทศไทยมีข้อจำกัดอยู่ ยกตัวอย่าง ว่าถ้าเราอยู่ในสหภาพยุโรปแล้วมีคำวินิจฉัยเช่นนี้จะไม่สามารถบังคับใช้ได้แน่นอน เพราะถือเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของพลเมือง ไม่สามารถห้ามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นได้อย่างแน่นอน แต่ว่านี่เป็นประเทศไทย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107884
 
1347  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ชาวพม่าเชียงใหม่รวมตัว รำลึกครบรอบ 3 ปี รัฐประหารพม่า ยืนหยัดต่อต้านและไม่ยอมพ เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 12:06:45
ชาวพม่าเชียงใหม่รวมตัว รำลึกครบรอบ 3 ปี รัฐประหารพม่า ยืนหยัดต่อต้านและไม่ยอมพ่ายแพ้
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 08:38</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ชาวพม่าในเชียงใหม่จัดงาน “UP AGAINST THE DICTATOR-SHIT” รำลึกครบรอบ 3 ปี การรัฐประหารในพม่า ยืนหยัดต่อต้านและไม่ยอมพ่ายแพ้ เรียกร้องนานาชาติยืนเคียงช้างประชาชนชาวพม่า คว่ำบาตรระบอบเผด็จการทหาร ตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและก๊าซพม่า</p>
<p> </p>
<p>2 ก.พ. 2567 เมื่อวันที่ 1 ก.พ. ที่ผ่านมา เวลา 17.00 – 19.00 น. ชาวพม่าในจังหวัดเชียงใหม่รวมตัวกันที่บริเวณลานท่าแพ จัดงาน “UP AGAINST THE DICTATOR-SHIT” เพื่อรำลึกครบรอบ 3 ปี การรัฐประหารในพม่า ภายในงานมีการแสดงนิทรรศการใบหน้าผู้นำเผด็จการในพม่าและการรัฐประหาร อ่านบทกวี และเปิดให้ผู้ร่วมงานกล่าวแสดงความร็สึกต่อการรัฐประหารที่เกิดขึ้น นอกจากนี้นักกิจกรรมชาวพม่าและชาวไทยได้ร่วมกันแสดง Performance Art รำลึกถึงความสูญเสียของประชากรจากการรัฐประหารในพม่า</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503355396_e0964d1f5f_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53502470412_78ef3f1869_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503662739_68dcd1a966_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503662729_5044298a10_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53502470342_006d8d7872_b.jpg" /></p>
<p>ทั้งนี้ นักกิจกรรมชาวไทยและชาวพม่าได้ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ “ต่อต้านและไม่ยอมพ่ายแพ้” ดังนี้ ช่วงเวลา 3 ปีตั้งแต่เกิดรัฐประหารพม่าในวันที่ 1 ก.พ. 2021 พวกเราขอร่วมรำลึก 3 ปีของการกระทำของเผด็จการทหารเมียนมาที่โหดเหี้ยมและเป็นอาชญกรรมต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพม่า ในช่วงเวลาที่ผ่านมามีผู้ถูกจับกุม 25,799 คน ในจำนวนนั้นมี 19,911 กำลังถูกกักขังและตัดสินคดี และมีพลเรือนกว่า 4,341 คนเสียชีวิต จากข้อมูลโดยสมาคมช่วยเหลือ นักโทษการเมือง (AAPP) มีประชาชนกว่า 2.3 ล้านคนถูกทำให้พลัดถิ่นตั้งแต่เกิดรัฐประหาร และมีคน 18.6 ล้านคนที่ต้องการความช่วยเหลือทางมนุษยธรมอย่างเร่งด่วน ในจำนวนนี้มีเด็ก 6 ล้านคนรวมอยู่ด้วย</p>
<p>กองทัพพม่าใช้การโจมตีทางอากาศกว่า 600 ครั้งตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 ถึง มกราคม 2023 ซึ่งพื้นที่สะกายได้รับผลกระทบมาก ที่สุดโดยถูกทิ้งระเบิดกว่า 90 วัน รวมถึงรัฐคะจิ่น รัฐคะเนนี และรัฐกะเหรี่ยงที่ถูกโจมตีทางอากาศเป็นจำนวนมากเช่นกัน ตัวเลขเหล่านี้เน้นให้เห็นถึงผลกระทบในวงกว้างของความขัดแย้งที่กระทบในพื้นที่ 7 รัฐชาติพันธุ์ และ 7 แคว้นของประเทศเมียนมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์รัฐประหารเป็นต้นมา เมื่อใดก็ตามที่ประเทศพม่าประสบกับความขัดแย้งและเกิดความไม่มีเสถียรภาพทางการเมือง ประเทศ เพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศไทยและประเทศอินเดียกลายเป็นพื้นที่ลี้ภัยสำหรับชาวพม่า ประเทศไทยที่มีชายแดนและประวัติศาสตร์ร่วมกับพม่าและมีบทบาทสำคัญกับประชาธิปไตยพม่า อีกทั้งยังเป็นผู้ลงทุนมากเป็นอันดับที่ 3 ในประเทศพม่า ดังนั้นความมีเสถียรภาพและพัฒนาการของประเทศไทยจึงเกี่ยวข้องกับความสำเร็จของพม่าโดยตรง</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503507833_a6dccfd664_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503357551_46c45e340c_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503790350_b19a18843a_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503672714_a2f1d36656_b.jpg" /></p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53502482637_df2b273601_b.jpg" /></p>
<p>นอกจากนี้ความเกี่ยวข้องด้านวัฒนธรรมก็ยิ่งทำให้ความสัมพันธ์นี้แข็งแกร่งขึ้นที่ผ่านมาองค์กรนอกภาครัฐ องค์กรภาคประชาสังคม และองค์กรนานาชาติได้จับตามองสถานการณ์ที่ชายแดนอย่างใกล้ชิดและได้ให้การสนับสนุนความช่วยเหลือที่สำคัญ ซึ่งประเทศไทยทำหน้าที่เป็นพื้นที่กันชนที่สำคัญเอื้อให้เกิดพื้นที่เชิงยุทธศาสตร์และเป็นที่หลบภัยสำหรับผู้ต้องการลี้ภัยจากความขัดแย้งในพม่าโดยรองรับผู้ลี้ภัยมากกว่า 90,000 คน ตั้งแต่กลางทศวรรษที่ 80 ทั้งนี้ความสัมพันธ์กับประเทศไทยใด้เพิ่มมากขึ้น ด้วยการรับผู้ลี้ภัยเพิ่มเติมกว่า 45,000 คนหลังการรัฐประหารเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.2564 เป็นต้นมา ความเอาใจใส่และช่วยเหลือเร่งด่วนจากนานาชาติจึงเป็นที่จำเป็นเพื่อจัดการวิกฤตมุนษยธรรมในภูมิภาคที่สำคัญนี้ พวกเรานักกิจการรมชาวไทยและพม่าขอประณามการรัฐประหารและความโหดเหี้ยมโดยระบอบเผด็จการทหารในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าจะมีความกดดันจากนานาชาติแต่ระบอบเผด็จการทหารยังคงดำเนินการกระทำอันโหดเหี้ยมต่อไปเสมือนเชื่อว่าสามารถทำได้โดยปราศจากความรับผิดชอบ</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503355401_36ea4f0294_b.jpg" /></p>
<p> </p>
<p>พวกเราขอเรียกร้องให้หน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย เช่น นายกรัฐมนตรี ประธานสภาผู้แทนราษฎร เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับชายแดน คณะกรมมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ซาติและการปฏิรูปประเทศ ให้ปฏิบัติดังนี้</p>
<p>1. ต้องยอมรับและสนับสนุนความช่วยเหลือที่เพียงพอแก่ผู้ลี้ภัยชาวพม่าที่เกิดจากความขัดแย้งและปัญหาการเมือง โดยเคารพในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์</p>
<p>2. ขอให้ยืนยันในหลักสิทธิมนุษยชนและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้พลัดถิ่นจากพม่า</p>
<p>3. ดำเนินการเชิงรุกผ่านการทำงานร่วมกับประชาคมอาเซียนและประชาคมนานาชาติ โดยการสร้างความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บรรลุผลได้อย่างแท้จริง</p>
<p>4. สนับสนุนและปกป้องสิทธิของผู้อพยพรวมถึงผู้ที่ทำงานในประเทศไทยด้วยการขยายมาตรการช่วยเหลือและ ปกป้องที่ครอบคลุมรอบด้าน</p>
<p>5. สร้างพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์กับองค์กรภาคประชาสังคมและองค์กรชุมชนโดยใช้เครือข่ายเหล่านี้เพื่ออำนวย ความสะดวกของความช่วยเหลือต้านมนุษยธรรมข้ามชายแดน เพื่อร่วมกันจัดการอุปสรรคที่กำลังบีบคั้นอยู่</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53503518528_4c6cbfde91_b.jpg" /></p>
<p>พวกเราขอเรียกร้องประชาคมนานาชาติให้ดำเนินการดังนี้</p>
<p>1. ยืนยันว่าผู้นำเผด็จการทหารและผู้มีส่วนร่วมก่ออาชญากรรมทั้งหมดต้องรับผิดชอบกับอาชญากรรมที่ได้ก่อ ขึ้น</p>
<p>2. เพิ่มความพยายามในการคว่ำบาตรต่อระบอบเผด็จการทหารรวมถึงมาตรการตัดความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและก๊าซพม่า (Myanmar Oll and Gas Enterprise: MOGE)</p>
<p>3. หยุดการส่งออกและขายน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานให้กับทหารพม่า</p>
<p>4. สนับสนุนความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้กับผู้ประสบความเดือดร้อนโดยเฉพาะผู้ที่พลัดถิ่นจากความ เสี่ยงทางการเมืองและความขัดแย้ง</p>
<p>5. ให้การยอมรับและทำงานร่วมกับผู้ที่มีบทบาทต่างๆด้วยความชอบธรรมและให้มีอำนาจควบคุมพื้นที่อย่าง เพียงพอ</p>
<p>สุดท้ายพวกเราขอเรียกร้องทุกฝ่ายให้แสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวพม่า เพื่อแสดงความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้ากับความสำเร็จของการปฏิวัติ เพื่อทำลายระบอบเผด็จการทหารและเพื่อยืนเคียงช้างประชาชน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107881
 
1348  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - อนุโมทนา "แน๊ต เกศริน" ขอลาทางโลก เพื่อปฏิบัติธรรม! เข้าวัดป่า 1 เดือนเต็ม เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 11:50:18
อนุโมทนา "แน๊ต เกศริน" ขอลาทางโลก เพื่อปฏิบัติธรรม! เข้าวัดป่า 1 เดือนเต็ม
         


อนุโมทนา &quot;แน๊ต เกศริน&quot; ขอลาทางโลก เพื่อปฏิบัติธรรม! เข้าวัดป่า 1 เดือนเต็ม" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ชีวิตอีกมุม ของ"แน๊ต เกศริน" ประกาศขอลาทางโลกชั่วคราว เพื่อปฏิบัติธรรม! เข้าวัดป่า 1 เดือนเต็มๆ
         

https://www.sanook.com/news/9210710/
         
1349  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - เผยโฉม "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ทนายความนักร้อง ผู้ยื่นฟ้อง "ก้าวไกลล้มล้างการป เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 11:13:03
เผยโฉม "ธีรยุทธ สุวรรณเกษร" ทนายความนักร้อง ผู้ยื่นฟ้อง "ก้าวไกลล้มล้างการปกครอง"
         


เผยโฉม &quot;ธีรยุทธ สุวรรณเกษร&quot; ทนายความนักร้อง ผู้ยื่นฟ้อง &quot;ก้าวไกลล้มล้างการปกครอง&quot;" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เปิดประวัติ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” ทนายความผู้ยื่นร้องคดี กล่าวหา “พรรคก้าวไกล” ล้มล้างการปกครองจากนโยบายแก้ ม.112 พร้อมเปิดผลงานของนักยื่นคำร้อง อดีตทนายของพุทธอิสระ

         

https://www.sanook.com/news/9210442/
         
1350  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ทหารพม่าทั้งกองพัน แปรพักตร์ไปเข้ากับ 'กองกำลังกะเหรี่ยงแดง' KNDF เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 10:34:01
ทหารพม่าทั้งกองพัน แปรพักตร์ไปเข้ากับ 'กองกำลังกะเหรี่ยงแดง' KNDF
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 09:33</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพ The Irrawaddy</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ทหารฝ่ายเผด็จการพม่าทั้งกองพั<wbr></wbr>นในรัฐกะยาแปรพักตร์ไปอยู่ข้างฝ่ายต่<wbr></wbr>อต้าน กองกำลังป้องกันแห่<wbr></wbr>งชาติกะเหรี่ยงแดง (KNDF) ทันที หลังจากที่ KNDF มีการบรรลุข้อตกลงกับกลุ่มผู้บั<wbr></wbr>ญชาการของฝ่ายเผด็จการทหาร</p>
<p> </p>
<p>2 ก.พ. 2567 กองกำลังป้องกันแห่งชาติกะเหรี่<wbr></wbr>ยงแดง (KNDF) เปิดเผยเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ที่ผ่านมาว่า หลังจากที่พวกเขาบรรลุข้อตกลงกั<wbr></wbr>บผู้บัญชาการกองพันฝ่ายเผด็<wbr></wbr>จการในพื้นที่รัฐกะยา (กะเรนนี) ได้สำเร็จ ทางกองพันดังกล่าวนี้ก็พากั<wbr></wbr>นแปรพักตร์ทั้งกองทัพ และกลุ่มผู้แปรพักตร์เหล่านี้<wbr></wbr>จะหันมารับใช้รัฐบาลปฏิวัติต่<wbr></wbr>อต้านเผด็จการแทนโดยที่ยังคงได้<wbr></wbr>รับตำแหน่งเดิมแบบเดียวกับตอนรั<wbr></wbr>บใช้เผด็จการทหาร</p>
<p>KNDF ระบุว่ากลุ่มปฏิวัติและกลุ่ม "รัฐบาลของประชาชน" จะเป็นฝ่ายคอยให้เบี้ยเลี้ยงพิ<wbr></wbr>เศษแก่ผู้ที่แปรพักตร์ โดยให้เป็<wbr></wbr>นไปตามแผนแนวทางการแปรพักตร์<wbr></wbr>ตามที่ร่างเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ KNDF ยังเรียกร้องให้กองกำลังเผด็<wbr></wbr>จการพม่าที่เหลือให้แปรพักตร์ด้<wbr></wbr>วย</p>
<p>โฆษก KNDF กล่าวว่า "ถึงแม้ว่าพวกเขา (กองกำลังเผด็จการพม่า) จะกำลังสละชีพตัวเองในการสู้รบ พวกเขาก็ไม่ได้รับกำลังเสริมหรื<wbr></wbr>อเสบียงใดๆ และบางครั้งพวกเขาก็ถูกยิงถล่<wbr></wbr>มจากกองทหารของตัวเองที่อยู่<wbr></wbr>ในแนวหลัง"</p>
<p>"ด้วยเหตุนี้เอง ทหารของกองทัพเผด็จการพม่าและผู้<wbr></wbr>บัญชาการของกองกำลังต่างๆ จึงเริ่มเข้าใจสถานการณ์ว่<wbr></wbr>าพวกเขาถูกบีบให้ต้องตายอย่<wbr></wbr>างไร้ความหมาย" โฆษก KNDF กล่าว</p>

<p>โฆษกของ KNDF บอกว่า นั่นคือเหตุผลว่าทำไมมันถึงมี<wbr></wbr>การหารือกันและการตกลงกันระหว่<wbr></wbr>างกลุ่มต่อต้านกับผู้นำกองกำลั<wbr></wbr>งต่างๆ ของเผด็จการทหารที่วางกำลังอยู่<wbr></wbr>ในรัฐกะยา (กะเรนนี) รวมถึงกับเจ้าหน้าทีกองพันฝ่<wbr></wbr>ายเผด็จการที่อยู่ในรัฐดังกล่าว เพื่อให้พวกเขาทำการแปรพักตร์ ซึ่งทาง KNDF ไม่ได้เปิดเผยตัวเลขว่ามี<wbr></wbr>กองกำลัง กองพัน และผู้บัญชาการ รวมแล้วจำนวนเท่าไหร่ที่แปรพั<wbr></wbr>กตร์</p>
<p>"พวกเราจะไม่บังคับให้พวกเขา (ผู้แปรพักตร์) สู้รบกับเผด็จการทหาร พวกเขาจะมีอิสระที่จะเลือกได้ว่<wbr></wbr>าพวกเขาจะต้องการสู้กลับ (ต่อเผด็จการทหาร) หรือไปอยู่กับครอบครัวของตั<wbr></wbr>วเองอย่างสงบสุข พวกเราจะเคารพในความต้<wbr></wbr>องการของพวกเขา พวกเราจะช่วยให้<wbr></wbr>พวกเขาทำตามความฝันของตัวเองได้ รวมถึงการช่วยเหลือย้ายถิ่<wbr></wbr>นฐานสำหรับผู้ต้<wbr></wbr>องการออกนอกประเทศ" โฆษกของ KNDF กล่าว</p>

<p>ก่อนหน้านี้ KNDF เคยระบุไว้ในแถลงการณ์ว่<wbr></wbr>าพวกเขาได้ออกมาตรการที่เข้<wbr></wbr>มงวดให้มีการกำจัดกองกำลังฝ่<wbr></wbr>ายเผด็จการทุกกองโดยสิ้นเชิงที่<wbr></wbr>ก่ออาชญากรรมสงครามในรัฐกะเรนนี เช่น การสังหารหมู่ประชาชน การวางเพลิง และการทำลายบ้านเรือนพลเรือน</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ทาง KNDF ก็ระบุในแถลงการณืว่<wbr></wbr>าพวกเขาจะปฏิบัติ<wbr></wbr>ตามกฎหมายนานาชาติว่าด้วยการปฏิ<wbr></wbr>บัติต่อเชลยศึก</p>
<p>การใช้กำลังอาวุธต่อต้านเผด็<wbr></wbr>จการทหารพม่าในรัฐกะเรนนีเกิดขึ้<wbr></wbr>นตั้งแต่เดือน พ.ค. 2564 สามเดือนหลังการรัฐประหารครั้<wbr></wbr>งล่าสุด ในตอนนั้นกลุ่มคนหนุ่<wbr></wbr>มสาวชาวกะเรนนีเป็นกลุ่มแรกๆ ที่เริ่มจับอาวุธขึ้นสู้รวมถึ<wbr></wbr>งอาวุธที่ทำขึ้นเองด้วย ในขณะที่กองทัพเผด็จการกำลังสั<wbr></wbr>งหารประชาชนหลายร้<wbr></wbr>อยคนจากการปราบปรามการประท้วงต่<wbr></wbr>อต้านรัฐประหารอย่างสันติทั่<wbr></wbr>วประเทศ</p>
<p>ในวันที่ 11 พ.ย. 2566 กลุ่ม KNDF ร่วมกับกลุ่มกองกำลังกะเรนนีอื่<wbr></wbr>นๆ และกองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) หลายกลุ่มร่วมกันปฏิบัติการรุ<wbr></wbr>กคืบต่อเป้าหมายที่เป็นกองทั<wbr></wbr>พเผด็จการทหารทั่วรัฐกะเรนนี ในชื่อปฏิบัติการว่า "ปฏิบัติการ 1111"</p>
<p>นับตั้งแต่ที่มีปฏิบัติการดั<wbr></wbr>งกล่าวนี้ กลุ่มต่อต้านชาวกะเรนนีก็<wbr></wbr>สามารถยึดฐานทัพของกองทัพเผด็<wbr></wbr>จการพม่าได้หลายสิบแห่ง สังหารทหารของเผด็จการพม่าได้<wbr></wbr>หลายร้อยนาย กลุ่มต่อต้านได้ทำการยึดพื้นที่<wbr></wbr>ส่วนใหญ่ของรัฐกะเรนนีเอาไว้ได้<wbr></wbr>ถึงแม้ว่าจะยังคงมีการสู้รบเกิ<wbr></wbr>ดขึ้นในหลายส่วนของเมืองหลวงรั<wbr></wbr>ฐกะเรนนีคือ เมืองลอยก่อ</p>
<p>มีกองกำลังฝ่ายเผด็<wbr></wbr>จการทหารหลายสิบกองในรัฐกะเรนนี<wbr></wbr>ที่ยอมแปรพักตร์มาอยู่ฝ่ายต่อต้<wbr></wbr>านแล้ว</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p><strong>เรียบเรียงจาก</strong></p>
<p>Entire Military Battalions of Myanmar’s Junta Have Agreed to Defect in Karenni State: KNDF, The Irrawaddy, 25-01-2024</p>
<p><a href="https://www.irrawaddy.com/news/war-against-the-junta/entire-military-battalions-of-myanmars-junta-have-agreed-to-defect-in-karenni-state-kndf.html" target="_blank">https://www.irrawaddy.com/<wbr></wbr>news/war-against-the-junta/<wbr></wbr>entire-military-battalions-of-<wbr></wbr>myanmars-junta-have-agreed-to-<wbr></wbr>defect-in-karenni-state-kndf.<wbr></wbr>html[/url]</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107882
 
1351  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ไวรัลทั่วโลก เด็กนักเรียนไทยถือปืนขู่ลิง วันธรรมดาในลพบุรี ตลกร้ายของคนพื้นที เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 09:18:44
ไวรัลทั่วโลก เด็กนักเรียนไทยถือปืนขู่ลิง วันธรรมดาในลพบุรี ตลกร้ายของคนพื้นที่
         


ไวรัลทั่วโลก เด็กนักเรียนไทยถือปืนขู่ลิง วันธรรมดาในลพบุรี ตลกร้ายของคนพื้นที่" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ไวรัลทั่วโลก นักเรียนไทยถือปืนขู่ลิง ชาวเน็ตไทยนิยามเป็นวันธรรมดาในลพบุรี ตลกร้ายของคนในพื้นที่
         

https://www.sanook.com/news/9211826/
         
1352  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ยื่นแก้ กม.ประชามติ หวังแก้ปมเสียงข้างมาก 2 ชั้น เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 09:02:25
'เพื่อไทย-ก้าวไกล' ยื่นแก้ กม.ประชามติ หวังแก้ปมเสียงข้างมาก 2 ชั้น
 


<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-02-01 17:46</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>พรรคเพื่อไทย-พรรคก้าวไกล ยื่นร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ หวังแก้ปมเสียงข้างมาก 2 ชั้น เพิ่มความยืดหยุ่น กกต. จัดประชามติวันเดียวกับวันเลือกตั้งได้ ขณะที่ 'พริษฐ์' กาง 3 ข้อเสนอก้าวไกล แก้กติกาออกเสียงประชามติให้เป็นธรรม-มีประสิทธิภาพ-ทันสมัย มากขึ้น</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53502027786_91c00b30f4_b.jpg" /></p>
<p>1 ก.พ.2567 สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่า วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร รับยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 จำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยพรรคเพื่อไทยเป็นผู้เสนอ และฉบับจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน โดยพรรคก้าวไกลเป็นผู้เสนอ ประธานสภาฯ ระบุว่า จะนำร่างทั้ง 2 ฉบับนี้ส่งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามขั้นตอน ก่อนบรรจุเป็นระเบียบวาระการประชุม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จโดยเร็ว เนื่องจากสภาฯ มีเวลาในสมัยประชุมนี้อีกไม่นาน ประมาณ 2 เดือนกว่าเท่านั้น</p>
<p>ชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า สส. พรรคเพื่อไทย 129 คน ร่วมกันลงชื่อ เพื่อขอแก้ไข พ.ร.บ.ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ. 2564 มาตรา 13 การออกเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติในเรื่องที่จัดทำประชามติ ต้องมีผู้มาใช้สิทธิออกเสียงเป็นจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียงและมีจำนวนเสียงเกินกึ่งหนึ่งของผู้มาใช้สิทธิออกเสียงในเรื่องที่จัดทำประชามตินั้น หรือเสียงข้างมาก 2 ชั้น (Double majority) ซึ่งสุ่มเสี่ยงหากประชาชนไม่ออกมาใช้สิทธิหรือไม่ประสงค์ใช้สิทธิจะทำให้การออกเสียงประชามติเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต โดยเห็นว่าควรให้ใช้เสียงข้างมากตามหลักทั่วไป แต่ให้เกินเสียงของผู้ไม่ประสงค์จะใช้สิทธิออกเสียง เพื่อความถูกต้องชอบธรรม</p>
<p>ชูศักดิ์ กล่าวด้วยว่า ยังมีอีก 3 ประเด็นที่ควรแก้ไขไปพร้อมกัน คือ การออกเสียงลงคะแนนที่ต้องใช้งบประมาณราว 3,000 ล้านบาท จึงคิดว่าหากการออกเสียงประชามติใกล้เคียงกับวันเลือกตั้งทั่วไปหรือวันเลือกตั้งท้องถิ่น สมควรจะจัดพร้อมกันในวันเดียวได้ เพื่อประหยัดงบฯ และประชาชนก็ไม่ต้องออกมาใช้สิทธิหลายครั้ง ส่วนอีกประเด็นเห็นว่าควรใช้เทคโนโลยีมาพัฒนาวิธีการออกเสียงลงมติ เช่น การส่งไปรษณีย์ การลงมติผ่านทางออนไลน์ เป็นต้น นอกจากนี้ ควรมีการรณรงค์เรื่องการออกเสียงประชามติ โดยบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรรัฐธรรมนูญว่าด้วยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง รวมถึงเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยมาแสดงความคิดเห็นได้โดยเสมอภาค ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับทราบเรื่องการออกเสียงประชามติในเรื่องนั้น ๆ</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'พริษฐ์' กาง 3 ข้อเสนอก้าวไกล แก้กติกาออกเสียงประชามติให้เป็นธรรม-มีประสิทธิภาพ-ทันสมัย มากขึ้น</span></h2>
<p>ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนด้วยว่า พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล แถลงข่าวยื่นร่าง พ.ร.บ. ประชามติ เข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร ซึ่ง ประธานรัฐสภา เป็นผู้รับเอกสาร โดยพริษฐ์กล่าวว่า วันนี้ตนเป็นตัวแทนของพรรคก้าวไกล ยื่นร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับของพรรคก้าวไกล เข้าสู่สภาฯ ร่วมกับพรรคเพื่อไทย ซึ่งมีร่าง พ.ร.บ.ประชามติ ฉบับของพรรคเพื่อไทยเช่นกัน </p>
<p>เวลาพูดถึงการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ หลายคนอาจมองไปถึงความเชื่อมโยงกับกระบวนการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ต้องมีการทำประชามติอย่างน้อย 2 ครั้ง แต่ความจริงแล้ว การเสนอปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ. ประชามติ ครั้งนี้ เป็นการปรับปรุงกติกาเรื่องการออกเสียงประชามติให้ “เป็นธรรม” “มีประสิทธิภาพ” และ “ทันสมัย” มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดประชามติเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือการจัดประชามติเกี่ยวกับหัวข้ออื่นๆ ในอนาคต</p>
<p>พริษฐ์กล่าวว่า ประเด็นที่พรรคก้าวไกลเสนอให้มีการแก้ไขใน พ.ร.บ. ประชามติ มี 3 ประเด็นหลัก </p>
<p>ประเด็นแรก คือทำให้กฎหมายประชามติ “เป็นธรรม” ขึ้น ผ่านการแก้ไขกติกา “เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 2 ชั้น” (Double Majority) เป็น “เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 1 ชั้น” เนื่องจากปัจจุบัน ประชามติจะได้ข้อยุติทางใดทางหนึ่ง ต่อเมื่อผ่าน 2 เกณฑ์ คือ ชั้นที่ 1 ผู้ที่ลงคะแนนเสียงทางใดทางหนึ่ง มีจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิออกเสียง และชั้นที่ 2 ผู้ที่ออกมาใช้สิทธิออกเสียง มีจำนวนเกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิออกเสียง</p>
<p>ปัญหาคือ แม้การวางเกณฑ์ชั้นที่ 2 เรื่องสัดส่วนการออกมาใช้สิทธิ มีเจตนาที่ต้องการจะให้ประชามติมีผล ต่อเมื่อคนให้ความสนใจกับประเด็นดังกล่าวอย่างมีนัยสำคัญ แต่การวางเกณฑ์ดังกล่าว อาจเปิดช่องให้ฝ่ายที่ไม่ต้องการให้ประชามติผ่าน เลือกใช้วิธีนอนอยู่บ้านและไม่ออกมาใช้สิทธิ เพื่อหวังคว่ำประชามติ โดยการกดสัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิลง แม้ฝ่ายตนเองจะมีจำนวนน้อยกว่าฝ่ายที่ต้องการให้ประชามติผ่านก็ตาม</p>
<p>ทั้งหมดนี้อาจทำให้กติกาถูกมองว่าไม่เป็นธรรม เพราะไม่ว่าหัวข้อประชามติจะเป็นเรื่องอะไร ฝ่ายที่อยากคว่ำประชามติ ทำได้ด้วยยุทธศาสตร์ “นอนอยู่บ้าน” แม้ฝ่ายที่ไม่อยากให้ประชามติผ่าน มีน้อยกว่าฝ่ายที่อยากให้ประชามติผ่าน ดังนั้นข้อเสนอคือ เปลี่ยนเป็นเกณฑ์ “เสียงเกินกึ่งหนึ่ง 1 ชั้น” กล่าวคือ ประชามติจะผ่าน หากผู้ที่ลงคะแนนเสียงให้ผ่าน มีมากกว่ากึ่งหนึ่งของผู้ออกมาใช้สิทธิ</p>
<p>ประเด็นที่สองที่พรรคก้าวไกลเสนอให้แก้ไขใน พ.ร.บ. ประชามติ คือการทำให้กฎหมายประชามติ “มีประสิทธิภาพ” มากขึ้น โดยการปลดล็อกเรื่องการจัดประชามติพร้อมกับการเลือกตั้งอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชน และ ประหยัดงบประมาณ</p>
<p>เมื่อปลายปี 2565 พรรคก้าวไกลเคยเสนอให้จัดประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญพร้อมกับการเลือกตั้ง สส. ตอนในเดือนพฤษภาคม 2566 แต่ สว. และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เคยแสดงความกังวลโดยให้เหตุผลว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีอุปสรรคหลายอย่างทางกฎหมาย ในเชิงภาคปฏิบัติ</p>
<p>ข้อเสนอของเราคือการปรับกฎหมายเพื่อให้ ในมุมหนึ่ง กกต. จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้นในการจัดประชามติพร้อมกับวันเลือกตั้ง เช่น กรอบเวลาในการกำหนดวันออกเสียง เขตออกเสียง หน่วยและที่ออกเสียง และผู้ปฏิบัติหน้าที่ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เราจะปิดช่องและป้องกันไม่ให้ ครม. หรือ กกต. ใช้เรื่องการจัดประชามติวันเดียวกับวันเลือกตั้ง มาเป็นเหตุผลในการถ่วงเวลาเรื่องการทำประชามติออกไปนานเกินควร</p>
<p>และประเด็นที่สามที่พรรคก้าวไกลเสนอให้แก้ไขใน พ.ร.บ. ประชามติ คือทำให้กฎหมายประชามติ “ทันสมัย” มากขึ้น โดยการรับประกันสิทธิของประชาชน ในการเข้าชื่อ 50,000 รายชื่อ เพื่อเสนอประชามติ ผ่านช่องทางออนไลน์ เนื่องจากแม้ปัจจุบันประชาชนมีสิทธิเข้าชื่อเสนอให้จัดประชามติ แต่การเข้าชื่อจะต้องทำผ่านเอกสารที่พิมพ์ออกมา (print) ออกมาเท่านั้น อย่างที่เราเห็นในแคมเปญ conforall เมื่อเดือนสิงหาคม 2566</p>
<p>ข้อเสนอของก้าวไกล คือปรับให้ พ.ร.บ. ประชามติ รับรองให้ประชาชนเข้าชื่อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ เหมือนกับที่ พ.ร.บ. เข้าชื่อเสนอกฎหมาย รับรองให้ประชาชนเข้าชื่อเพื่อยื่นร่างแก้ไขกฎหมายหรือร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านช่องทางออนไลน์ได้</p>
<p>พริษฐ์กล่าวว่า 2 ใน 3 ประเด็นของพรรคก้าวไกล น่าจะสอดคล้องกับประเด็นของพรรคเพื่อไทย ส่วนที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้เพิ่มช่องทางในการออกเสียงผ่านไปรษณีย์หรือทางเทคโนโลยี และที่เสนอให้ กกต. ต้องเปิดโอกาสให้ฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยรณรงค์ได้อย่างทัดเทียมกัน ทางพรรคก้าวไกลเห็นด้วยกับหลักการอยู่แล้ว โดยจะขอรอดูรายละเอียดว่าข้อเสนอของเพื่อไทยจะรับประกันใน 2 ประเด็นดังกล่าว มากกว่าที่มีอยู่แล้วใน พ.ร.บ.ประชามติ ปัจจุบันอย่างไร</p>
<p>พริษฐ์กล่าวว่า วันนี้ดีใจที่พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทย มายืนแถลงร่วมกันในการเสนอร่างกฎหมาย ที่เราเห็นไปในทิศทางเดียวกัน ตนหวังว่าวันนี้จะเป็นตัวอย่างและนิมิตหมายที่ดี ว่าแม้เราจะนั่งอยู่กันคนละฝั่งในสภาฯ ในฐานะรัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่อะไรที่เราเห็นตรงกัน เราก็พร้อมจะร่วมมือกันผลักดัน อะไรที่เราเห็นต่างกัน เราก็พร้อมจะแข่งกันเต็มที่ ซึ่งแนวทางในการร่วมมือและแข่งขันกันแบบนี้ จะเป็นแนวทางที่ทำให้ประโยชน์สูงสุดตกอยู่กับประชาชน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107873
 
1353  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - อัพเดทอาการ 'บุ้ง - เนติพร' อดอาหาร-น้ำมา 6 วัน อาการไม่สู้ดี เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 07:29:28
อัพเดทอาการ 'บุ้ง - เนติพร' อดอาหาร-น้ำมา 6 วัน อาการไม่สู้ดี
 


<span class="submitted-by">Submitted on Thu, 2024-02-01 21:28</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ภาพการ์ตูนของเนติพร เสน่ห์สังคม (ที่มา: แมวส้มประชาไท)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศูนย์ทนายฯ อัพเดทอาการของ เนติพร อดอาหารและน้ำรวมระยะเวลา 6 วันแล้ว สุขภาพไม่สู้ดี ต้องให้คนช่วยกันพยุง 4 คน มีอาการเหนื่อยหอบ อาเจียน</p>
<p> </p>
<p>1 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน โพสต์ข้อความโซเชียลมีเดียวันนี้ (1 ก.พ.) อัพเดทอาการของเนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง นักกิจกรรมทางการเมือง หลังจากเธอถูกถอนประกันตัว และส่งตัวไปที่ทัณฑสถานหญิงกลาง เธอได้ตัดสินใจอดอาหาร และน้ำ (Dry Fasting) เริ่มวันแรกเมื่อ 27 ม.ค.-1 ก.พ. 2567 </p>
<p style="text-align: center;"> </p>
<blockquote class="twitter-tweet"><p dir="ltr" lang="th" xml:lang="th">Update #บุ้ง อดอาหารและน้ำประท้วง (Dry Fasting)
เข้าสู่วันที่ 6 (1 ก.พ. 2567)</p>
<p>▪️ บุ้งดูซีดอย่างเห็นได้ชัด อ่อนแรง
▪️ ตอนนี้น้ำหนักลดลงอยู่ที่ 76 กก.
▪️ ยังคงปัสสาวะออกน้อย ยังคงไม่ขับถ่ายต่อเนื่องเป็นวันที่ 6
▪️ มีอาการปวดท้องคล้ายกับกรดไหลย้อน… pic.twitter.com/M9N38me4H4</p>
<p>— TLHR / ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน (@TLHR2014) February 1, 2024</p>
<script async="" src="https://platform.twitter.com/widgets.js" charset="utf-8"></script><p> </p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>‘บุ้ง-เนติพร’ อดอาหารและน้ำในเรือนจำประท้วง ลั่นยอมตายแลกความอยุติธรรม</li>
</ul>
</div>
<p>ศูนย์ทนายฯ ระบุว่า เนติพร ดูซีดอย่างเป็นได้ชัด น้ำหนักลดลงไปเหลือ 76 กก. ปัสสาวะออกน้อย ยังคงไม่ขับถ่ายเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน มีอาการปวดท้องคล้ายกับกรดไหลย้อน ระหว่างที่คุย เนติพร ต้องสูดยาดม และใช้ผ้าชุบน้ำถือมาเช็ดใบหน้าและคอตลอด</p>
<p>ศูนย์ทนายฯ ระบุต่อว่า เนติพร มีอาการตาลอย ใบหน้าแสดงความเจ็บปวดตลอดเวลา หลายครั้งเนติพร หลับลงไปดื้อๆ ประมาณ 1-2 นาที เมื่อวานนี้ (31 ม.ค.) เนติพร อาเจียนเป็นฟองสีขาว รสเปรี้ยว และมีอาการแสบคอมาก </p>
<p>เนติพร ทิ้งท้ายถึงข้อเรียกร้องว่าต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม</p>
<p>ช่วงบ่ายทนายความเข้าเยี่ยมเนติพร อีกครั้ง สังเกตว่า เธออ่อนแรงมากกว่าหลายวันที่ผ่านมา จนต้องใช้ผู้ต้องขังอาสาช่วยดูแลถึง 4 คน เพื่อช่วยพยุงเนติพร ทั้งด้านหน้าและหลังในระหว่างการนั่งทรงตัว หรือเดินไปมา </p>
<p>ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ระบุต่อว่า เนติพร เหนื่อยหอบมาก อาเจียน สลับเหนื่อยหอบ บ่นพูดพึมพำฟังไม่ได้ศัพท์ และมีอาการตัวร้อน </p>
<p>สำหรับเมื่อ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา เนติพร ถูกศาลถอนประกันในคดีความเข้าร่วมการชุมนุมกดดัน สว.เลือกนายกรัฐมนตรีจากเสียงข้างมากประชาชนจากการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พ.ค. 2566 โดยศาลให้สาเหตุที่ทำให้เนติพร ถูกถอนประกันตัว คือการพ่นสเปรย์ใส่ธงสีฟ้าประจำพระองค์ของสมเด็จพระราชินี ซึ่งเป็นการกระทำผิดเงื่อนไขการประกันตัวที่ห้ามกระทำการในลักษณะเดียวกับที่ถูกกล่าวหานี้</p>
<p>ในวันเดียวกัน ศาลกรุงเทพใต้สั่งลงโทษเนติพร จำคุก 1 เดือน ไม่รอลงอาญา จากกรณีละเมิดอำนาจศาล เนื่องจากเมื่อ 19 ต.ค. 2566 ระหว่าง เนติพร และธนลภย์ ผลัญชัย เยาวชนอายุ 15 ปี ไปให้กำลังใจ สหรัฐ สุขคำหล้า ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ จนมีเหตุกระทบกระทั่งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจศาล </p>
<p>ต่อมา เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เนติพร ได้ตัดสินใจถอนประกันตัวเองทุกคดี และทำการอดอาหารและน้ำประท้วงกระบวนการยุติธรรม จนกว่าจะมีการปฏิรูปให้ดีขึ้น </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107877
 
1354  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เจ้าสาวปล่อยโฮ โดนแกล้งเละตั้งแต่เปิดตัว รู้ว่าฝีมือใครยิ่งเคือง ลุยสั่งสอนให เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 06:43:51
เจ้าสาวปล่อยโฮ โดนแกล้งเละตั้งแต่เปิดตัว รู้ว่าฝีมือใครยิ่งเคือง ลุยสั่งสอนให้หลาบจำ!
         


เจ้าสาวปล่อยโฮ โดนแกล้งเละตั้งแต่เปิดตัว รู้ว่าฝีมือใครยิ่งเคือง ลุยสั่งสอนให้หลาบจำ!" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;เจ้าสาวร้องไห้โฮ แต่งหน้าตั้งนาน เปิดตัวปุ๊บโดนแกล้งเละ ลุยเอาคืนให้เข็ดหลาบ!
         

https://www.sanook.com/news/9211202/
         
1355  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สส.เพื่อไทย เสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการออก กม.นิรโทษกรรม 'ก้าวไกล' หนุน พร้อม เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 05:43:18
สส.เพื่อไทย เสนอตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการออก กม.นิรโทษกรรม 'ก้าวไกล' หนุน พร้อมขออย่าปิดประตู 112
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 00:15</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ขัตติยา สส.เพื่อไทย เสนอญัตติตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาการออก กม.นิรโทษกรรม  ด้าน สส.ก้าวไกล หนุนตั้ง กมธ.วิสามัญศึกษาแนวทางร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ย้ำจะเป็นจุดเริ่มต้นสร้างความสมานฉันท์-ลดความขัดแย้ง ชี้ไม่ใช่การทำผิดให้เป็นถูก แต่เป็นการคืนความปกติให้สังคมไทย ขออย่าเพิ่งปิดประตูนิรโทษกรรม ม.112 เพราะจะยุติความขัดแย้งไม่ได้</p>
<p> </p>
<p>1 ก.พ.2567 สำนักข่าวไทย รายงานว่า ช่วงบ่ายวันนี้ (1ก.พ.) มีวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุม  ได้พิจารณาญัตติด่วน เรื่องขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ที่เสนอ โดย ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย</p>
<p>ขัตติยา กล่าวว่าปัจจุบันสังคมไทยมีความขัดแย้งทางความคิดมาหลายปี ทำให้มีนักศึกษาและประชาชน ต้องคดีทางการเมืองเป็นจำนวนมาก ซึ่งแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ส่วนหนึ่งคือการตรากฎหมายนิรโทษกรรม อย่างไรก็ตาม กฎหมายนิรโทษกรรมถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของฝ่ายยึดอำนาจ ที่มานิรโทษให้ตนเอง ผ่านสภาที่แต่งตั้งขึ้นมา แต่ล่าสุดได้มีการเสนอให้นำกฎหมายนิรโทษกรรมพาประเทศกลับสู่สภาวะปกติ ในคดีที่มีปัจจัยทางความผิดเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่ปัญหาคือควรมีคดีใดบ้างที่ควรได้รับการนิรโทษกรรม เพื่อนำมาสู่ความสมานฉันท์ปรองดอง และไม่สร้างความขัดแย้งครั้งใหม่ ซึ่งควรมีการศึกษาพิจารณาหลักเกณฑ์ให้เป็นที่ยุติเสียก่อน จึงจะมีการตราเป็นกฎหมาย</p>
<p>สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวต่อไปว่า โจทย์ของสังคมที่มีอารยะ คือทำให้ผู้คนอยู่กับความขัดแย้งได้ ขัดแย้งแต่ไม่ต้องฆ่ากัน หรือทำร้าย ทำลายกัน ไม่ต้องจำกัดสิทธิเสรีภาพของกันและกัน และไม่ถูกคุกคามให้เกิดความกลัว เพราะมีความคิดเห็นที่แตกต่าง จึงต้องออกแบบสภาพสังคมที่ปลอดภัย ให้พลเมืองสามารถตั้งคำถาม วิพากษ์วิจารณ์อำนาจรัฐได้ โดยไม่ต้องกลัวการถูกเล่นงาน ซึ่งในความขัดแย้งทางการเมืองหลายระลอก ได้มีผู้ออกมาชุมนุมประท้วง และถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ ถูกคุมคามเป็นสิ่งที่นักวิชาการเรียกว่า ’นิติสงคราม‘ ส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมาก เป็นนักโทษทางการเมือง หรือต้องลี้ภัย</p>
<p>“ในความเห็นของดิฉัน การออกพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพาสังคมไทยเดินต่อไปข้างหน้า โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง และสร้างบรรทัดฐานใหม่ ว่าเราทุกคนสามารถทะเลาะ เห็นต่าง และขัดแย้งกันได้ ภายในกรอบกติกา โดยที่ไม่ต้องหวาดกลัว ว่าจะถูกคุกคาม หรือถูกปิดปากด้วยกฏหมายอีกต่อไป” ขัตติยา กล่าว</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'ก้าวไกล' หนุนตั้ง ย้ำจะเป็นจุดเริ่มต้นสร้างความสมานฉันท์-ลดความขัดแย้ง </span></h2>
<p>ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนด้วยว่า  สส.พรรคก้าวไกลร่วมอภิปรายหลายคน เริ่มต้นที่ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายว่า การนิรโทษกรรมไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับสังคมไทย เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วกว่า 22 ครั้งในอดีต อย่างไรก็ตาม โอกาสในการรับนิรโทษกรรมที่ผ่านมามักผูกขาดอยู่กับเฉพาะคณะรัฐประหาร หรือคนที่จะคิดจะล้มล้างการปกครองเพียงฝ่ายเดียว โดยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 มาจนถึงปี พ.ศ. 2557 มีเพียงการนิรโทษกรรมในปี พ.ศ. 2521 ครั้งเดียวเท่านั้นที่เป็นการนิรโทษกรรมให้แก่ประชาชนในการชุมนุมที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นอกเหนือจากนั้นเป็นการนิรโทษกรรมผู้กระทำการยึดอำนาจการปกครองประเทศในฐานะกบฏทั้งสิ้น</p>
<p>พิธากล่าวต่อไปว่า ต้องยอมรับกันก่อนว่าเราอยู่ในช่วงความขัดแย้งทางการเมืองไทยอย่างน้อยนับตั้งแต่การทำรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 ที่สร้างบาดแผลอย่างร้าวลึกในสังคมไทย นำไปสู่ 10 กว่าปีที่สูญหาย การเมืองไทยผ่านนายกรัฐมนตรีมา 7 คน ไม่นับรักษาการนายกรัฐมนตรี 2 คน พบกับการรัฐประหาร 2 ครั้ง รัฐธรรมนูญ 4 ฉบับ การชุมนุมใหญ่ต่อต้านรัฐบาล 9 ระลอก รวมถึงการปะทะ ปราบปราม สลายการชุมนุมจนคนล้มตายนับร้อย บาดเจ็บนับพัน เศรษฐกิจเสียหายหลายแสนล้านบาท</p>
<p>เพราะฉะนั้น การนิรโทษกรรมจึงไม่ใช่แค่เรื่องของการทำให้คนพ้นผิดทางกฎหมาย แต่เป็นโอกาสในการสร้างความยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในสังคม กล่าวคือ สังคมต้องหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงและความไม่เป็นธรรมทางการเมืองเกิดขึ้นอีก โดยเสาะแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ในอดีต ทำให้เกิดความโปร่งใส นำผู้กระทำผิดมาลงโทษและแสดงความรับผิดชอบต่อสาธารณะ เพื่อไม่ให้เกิดวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวล หากทำได้เช่นนี้ ความปรองดองและความสมานฉันท์จะเกิดขึ้นได้จริงในสังคม</p>
<p>“นี่เป็นโอกาสดีที่สังคมไทยจะสามารถก้าวไปให้ไกลกว่าแค่เรื่องการนิรโทษกรรม เพราะนี่เป็นแค่จุด ๆ หนึ่งเท่านั้นในการที่จะทำให้ความขัดแย้งทางการเมืองของประเทศไทยน้อยลงและมีเสถียรภาพ มีสมาธิพอที่จะใช้พลังของพวกเราไปกับการแก้ไขปัญหาเรื่องอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา” พิธากล่าว</p>
<p>นอกจากนี้ การนิรโทษกรรมต้องไม่คิดถึงเฉพาะคนที่ถูกทำรัฐประหาร หรือคนที่ออกมาเรียกร้องทางการเมือง แต่ต้องรวมถึงคนที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาลที่สืบทอดอำนาจมาจากการรัฐประหารด้วย ไม่ว่าจะเป็นคดีทวงคืนผืนป่าที่มีคนต้องถูกดำเนินคดีกว่า 80,000 คดี คดีการทำประมงที่ผิดกติกา IUU รวมถึงคดีที่รัฐฟ้องปิดปากประชาชน</p>
<p>พิธากล่าวทิ้งท้ายว่า ในขณะที่สภาฯ กำลังพิจารณาศึกษาแนวทางการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม กระดุมเม็ดแรกที่รัฐบาลสามารถดำเนินการได้เลยทันที คือการสั่งให้ตำรวจและอัยการชะลอการดำเนินคดีทั้งหมดไว้ก่อน เพื่อยุติบาดแผลและผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน</p>
<p>ต่อมา ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ เขต 11 (สายไหม) พรรคก้าวไกล ได้ร่วมอภิปรายว่า ในฐานะอดีตทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนที่เคยช่วยเหลือนักเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อสู้คดีความมากว่า 10 ปี ตนเชื่อเสมอว่าทุกความเห็นต่างล้วนมีความหวังดีต่อประเทศชาติ ตนได้สบตากับนักโทษคดีการเมืองมาแล้วไม่ต่ำกว่าร้อยคน พวกเขาเหล่านี้คือคนธรรมดาที่ออกมาต่อสู้เรียกร้องเพียงแค่หวังว่าประเทศนี้จะเปลี่ยนแปลงได้ โดยขณะนี้ยังมีผู้ต้องหาคดีทางการเมืองจำนวนไม่น้อยถูกทอดทิ้งอยู่ในเรือนจำ หลายคนกำลังรอการพิจารณาคดี ซึ่งมีบางคนที่หากถูกตัดสินว่าผิด อาจต้องโทษจำคุกไม่ต่ำกว่า 100 ปี</p>
<p>“เพียงเพราะเขาเชื่อและฝันว่าประเทศนี้เปลี่ยนแปลงได้ จึงถูกสิ่งที่เรียกว่าอำนาจในประเทศนี้เฆี่ยนตี ถูกอดีตที่กลัวการมาเยือนของอนาคตล่ามโซ่เอาไว้ หวังว่าจะต่อเวลาชีวิตของพวกเขาอีกสักนิดไม่ให้เวลาเดินไปถึงวันพรุ่งนี้ ดิฉันต้องการจะยืนยันในหลักการอย่างหนักแน่นว่า การนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่ใช่การช่วยเหลือคนที่ทำผิด ไม่ใช่การทำผิดให้เป็นถูก แต่เป็นการคืนความยุติธรรม คืนความปกติให้กับสังคม ให้กับประเทศของเรา ให้แก่ผู้ที่แสดงความเห็นทางการเมือง ให้พวกเขาได้กลับมาใช้ชีวิตในฐานะประชาชนคนหนึ่งในระบอบประชาธิปไตย” ศศินันท์กล่าว</p>
<p>ด้วยเหตุนี้ ศศินันท์จึงอยากชวนทุกคนให้มองกลับไปยังประชาชน โดยไม่ต้องแปะป้ายว่าพวกเขาใส่เสื้อสีอะไร เลือกพรรคอะไร มีความคิดการเมืองแบบใด ต่อสู้เรื่องอะไร แต่พวกเขาเหล่านั้นคือประชาชนที่มีความเชื่อและความกล้าที่จะพูดว่าประเทศเราเปลี่ยนแปลงได้ นำเสนอแนวคิดทางการเมืองด้วยความกล้าหาญ และแลกด้วยชีวิตของพวกเขา เพราะพวกเขาคือเหตุผลที่ทำให้ สส.ทุกคนมีที่ยืนในสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้</p>
<p>ในส่วนของ รังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่วมอภิปรายว่า ความขัดแย้งทางการเมืองเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนหน้านี้เรามักจะเห็นคนที่มีอายุออกมาเรียกร้องความยุติธรรมและถูกดำเนินคดี แต่วันเวลาผ่านไปความขัดแย้งทางการเมืองก็ยังไม่สิ้นสุด สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือการที่คนหนุ่มสาวจำนวนมากถูกดำเนินคดี</p>
<p>ประเทศไทยได้อะไรจากการนำคนนับพันไปขังไว้ในเรือนจำ ต้องยอมรับว่าถ้าจะแก้ปัญหาวิกฤตแบบนี้ มันไม่มีหนทางอื่น เพราะถ้ายังใช้ระบบกฎหมายที่เป็นอยู่ในวันนี้ สิ่งที่เราจะเห็นก็คือลูกหลานของเราต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ ไม่ได้รับความเป็นธรรม เชื้อไฟก็จะไม่มีทางหมดไป จะมีการชุมนุมประท้วงและการเรียกร้องต่อไปเรื่อยๆ </p>
<p>รังสิมันต์กล่าวต่อไปว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะมีผู้คนออกมาชุมนุมประท้วง แต่เพราะมีความไม่ยุติธรรมเกิดขึ้นในสังคม ดังนั้นสิ่งแรกที่เราจะต้องติดกระดุมให้ถูกต้องเกี่ยวกับการนิรโทษกรรม คือ ไม่ควรเริ่มต้นด้วยการจำกัดว่าถ้าทำความผิดกฎหมายอาญามาตรา 112 แล้วไม่ควรจะได้รับการนิรโทษกรรม เพราะสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาก็คือจะมีคนจำนวนมากที่ไม่ได้รับความยุติธรรมต่อไป</p>
<p>ต้องยอมรับว่าผลคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวานนี้ได้ทำให้พื้นที่การหาทางออกทางการเมืองยากขึ้น แต่ตนก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่า อย่างน้อยสภาฯ แห่งนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะถอนฟืนออกจากกองไฟ ซึ่งอาจจะไม่ได้แก้ปัญหาวิกฤตทั้งหมด แต่อย่างน้อยที่สุด เรากำลังจะคืนคนหนุ่มสาวที่ออกไปเรียกร้องประชาธิปไตย ซึ่งไม่ควรจะเป็นความผิดทางอาญา ให้กลับคืนสู่ความปกติ และนี่คือสิ่งที่กลไกของสภาฯ ควรจะทำหน้าที่</p>
<p>“การนิรโทษกรรมจะต้องอาศัยเจตจำนงทางการเมือง และในบางครั้งการแสวงหาเจตจำนงทางการเมืองเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา บางข้อหา บางมาตรา อย่างเช่นมาตรา 112 ถ้าไม่คุยกัน คนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ก็คงจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม แต่อย่างน้อยถ้าเรามีประตูบานที่ใหญ่พอ ให้เวลาเพียงพอ เราก็อาจจะหาทางออกได้ แต่ขอร้อง อย่ารีบปิดประตูนี้” รังสิมันต์กล่าว</p>
<p>ด้วยเหตุนี้ พรรคก้าวไกลจึงได้นำเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมีหลักการ 2 ข้อที่อยากให้คณะกรรมาธิการวิสามัญที่จะตั้งขึ้นนำไปพิจารณาด้วย คือ ประการแรก ไม่ควรมีการกำหนดว่าความผิดมาตราใดมาตราหนึ่งจะไม่เข้าข่ายการได้รับนิรโทษกรรม หากจะมีการจำกัดจริง ๆ ก็ควรเป็นความผิดที่มีลักษณะร้ายแรง เช่น เป็นบุคคลที่ก่อการรัฐประหาร หรือเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่ควบคุมการชุมนุม แต่กลับไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน เช่น ไปสั่งให้เจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ชุมนุม กระทำการเกินกว่าเหตุ หรือนำไปสู่ความสูญเสียในชีวิต</p>
<p>และประการที่สอง ความขัดแย้งทางการเมืองที่มีมาอย่างยาวนานอาจจะไม่สามารถนิรโทษกรรมแบบเหมาเข่งทั้งหมดได้ จึงมีความจำเป็นต้องคัดกรองว่ากรณีแบบใดที่สมควรได้รับการนิรโทษกรรม ดังนั้น พรรคก้าวไกลจึงเสนอว่าควรจะมีการตั้งคณะกรรมการพิจารณากลั่นกรอง ประกอบด้วยตัวแทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ เพื่อชี้ขาดว่าใครและกรณีใดบ้างที่สมควรจะได้รับการนิรโทษกรรม ซึ่งองค์ประกอบแบบนี้จะไม่นำไปสู่การเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตนเข้าใจดีว่ามีหลายคนที่อาจจะเชื่อมั่นในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม และคิดว่าไม่อยากจะเข้าสู่กระบวนการของการนิรโทษกรรม เราก็จะเปิดช่องให้สามารถสละสิทธิ์ได้</p>
<p>รังสิมันต์กล่าวทิ้งท้ายว่า สิ่งเหล่านี้เป็นหลักการสำคัญที่อยากจะให้คณะกรรมาธิการวิสามัญที่จะจัดตั้งขึ้นได้พิจารณา และตนหวังว่าจะมีรายงานศึกษาที่ออกมาเป็นประโยชน์ต่อประเทศและประชาชนอย่างแท้จริง อย่าให้เขาว่าได้ว่ามีแต่ทหารและคณะรัฐประหารที่สามารถนิรโทษกรรมได้</p>
<p>สุดท้าย ชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ร่วมอภิปรายปิดท้ายญัตติว่า ตนเห็นด้วยกับสมาชิกที่มองเป้าหมายตรงกันว่า การนิรโทษกรรมในครั้งนี้ต้องคลี่คลายความขัดแย้งและสร้างความสมานฉันท์ให้สังคมไทย อย่างไรก็ตาม ต้องย้ำว่าการนิรโทษกรรมไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายและไม่ใช่กระบวนการเดียวในการยุติความขัดแย้งของสังคมไทย แต่จะเป็นประตูบานแรก ๆ ที่สำคัญมากในการคลี่คลายความขัดแย้ง และหาฉันทามติครั้งใหม่ให้กับสังคมไทย</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า หลายคนมองว่าประเทศไทยไม่มีคดีการเมือง แต่เป็นการไม่เคารพกฎหมาย และการนิรโทษกรรมจะสร้างบรรทัดฐานที่ผิด อย่างไรก็ตาม คดีการเมืองไม่ว่าจะเกิดจากความขัดแย้งหรือมีแรงจูงใจทางการเมืองไม่ควรถูกมองว่าเป็นอาชญากรรม เพราะหลายคนเชื่อว่าตัวเองทำในสิ่งที่ถูกต้อง ผลักดันสิ่งที่ดีกว่าให้กับประเทศ หลายคนถูกดำเนินคดีเพราะการแสดงออกในรูปแบบต่าง ๆ หรือเพียงเพราะมีความคิดที่รัฐไม่อนุญาตให้คิด ดังนั้น หลายคดีจึงเกิดขึ้นจากการใช้กฎหมายโดยไม่ชอบธรรมของรัฐ เป็นรูปแบบหนึ่งของการใช้ความรุนแรงโดยรัฐต่อประชาชน การนิรโทษกรรมที่จะมีการพูดคุยผ่านคณะกรรมาธิการวิสามัญในครั้งนี้ จึงมีทั้งมิติของการให้อภัยต่อกัน และการคืนความยุติธรรมให้ประชาชนจากความขัดแย้งทางการเมือง</p>
<p>ตนทราบดีว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่เรายังมีความเห็นไม่ตรงกัน ทั้งวิธีการ ขอบเขต และข้อจำกัดที่เหมาะสม ดังนั้น การนิรโทษกรรมครั้งนี้ต้องระมัดระวังไม่สร้างให้เกิดความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหม่ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องระมัดระวังไม่ให้การนิรโทษกรรมในครั้งนี้ เป็นไปอย่างไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงทางการเมือง จนไม่สามารถนำไปสู่การคลี่คลายความขัดแย้ง สร้างความสมานฉันท์ และการถอดสลักระเบิดเวลาของสังคมไทยในอนาคตได้</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวต่อไปว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่าบ้านเมืองเรายังไม่ปกติ พื้นที่ในระบบรัฐสภาดูเหมือนจะถูกจำกัดลงเรื่อย ๆ สูญเสียโอกาสในการเป็นพื้นที่แสวงหาข้อยุติต่อความเห็นที่แตกต่างกัน เป็นกลไกทางประชาธิปไตยที่จะหาข้อยุติความขัดแย้ง และหาทางออกอย่างมีวุฒิภาวะ แต่ก็ยังพอเห็นโอกาสอยู่บ้าง</p>
<p>“ผมหวังว่าท่ามกลางพื้นที่ที่จำกัดลงเรื่อย ๆ พวกเราจะร่วมมือกันถอดหัวโขนทางการเมืองออก หันหน้ามาพูดคุยกันเพื่อใช้พื้นที่สภาผู้แทนราษฎรที่แต่งตั้งขึ้นโดยประชาชนแห่งนี้ ใช้โอกาสนี้พูดคุยกันเพื่อแสวงหาทางออกในการนิรโทษกรรมทางการเมือง ใช้เป็นประตูบานแรกในการเปลี่ยนการเมืองแห่งความเกลียดชัง เคียดแค้น ชิงชัง ไม่เข้าใจกัน เป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างการเมืองแห่งความรัก ความเข้าอกเข้าใจและความปรารถนาดีต่อกัน เพื่อให้เรามีระบบการเมืองและระเบียบสังคมที่เราอยู่ร่วมกันได้ แม้ไม่มีทางเห็นด้วยตรงกันทุกเรื่องทั้งหมด” ชัยธวัชกล่าว</p>
<p>ท้ายที่สุด ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตราพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ประกอบด้วยกรรมาธิการจำนวน 35 คน มีระยะเวลาการพิจารณา 60 วัน โดยกรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคก้าวไกลมีจำนวน 8 คน ได้แก่ 1) ชัยธวัช ตุลาธน 2) รังสิมันต์ โรม 3) ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ 4) อังคณา นีละไพจิตร 5) หม่อมหลวงศุภกิตต์ จรูญโรจน์ 6) ผศ.ดร.จันจิรา สมบัติพูนศิริ 7) ผศ.ดร.เข็มทอง ต้นสกุลรุ่งเรือง และ 8) ชญานิษฐ์ พูลยรัตน์</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107878
 
1356  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - ไกล่เกลี้ยสําเร็จ! "สุเทพ" ถอนฟ้อง "สุทิน" อภิปรายโฮปเวลล์ ทำรัฐเสีย 2.6 หมื่น เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 05:11:42
ไกล่เกลี้ยสําเร็จ! "สุเทพ" ถอนฟ้อง "สุทิน" อภิปรายโฮปเวลล์ ทำรัฐเสีย 2.6 หมื่นล้าน
         


ไกล่เกลี้ยสําเร็จ! &quot;สุเทพ&quot; ถอนฟ้อง &quot;สุทิน&quot; อภิปรายโฮปเวลล์ ทำรัฐเสีย 2.6 หมื่นล้าน" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ไกล่เกลี้ยสําเร็จ “สุเทพ” ถอนฟ้อง “สุทิน” คดีหมิ่นประมาท อภิปรายพาดพิงโครงการโฮปเวลล์ทำรัฐเสียหาย 2.6 หมื่นล้าน


         

https://www.sanook.com/news/9210898/
         
1357  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'เรืองไกร' ยื่น กกต.ชงยุบ 'ก้าวไกล'-หลังศาล รธน.ชี้เสนอแก้ ม.112 เป็นการใช้สิท เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 04:10:59
'เรืองไกร' ยื่น กกต.ชงยุบ 'ก้าวไกล'-หลังศาล รธน.ชี้เสนอแก้ ม.112 เป็นการใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 00:55</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'เรืองไกร' สมาชิก พปชร. ยื่นคำร้อง กกต. ขอยุบพรรคก้าวไกล หลังศาล รธน.ชี้เสนอแก้ไขมาตรา 112 เป็นการใช้สิทธิล้มล้างการปกครอง เปรยพร้อมร้องทุกพรรคการเมืองที่เคยหาเสียงแก้มาตรา 112 หากมีข้อมูลเพียงพอ </p>
<p> </p>
<p>1 ก.พ. 2567 เว็บไซต์ มติชนออนไลน์ รายงานวันนี้ (1 ก.พ.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ยื่นคำร้องเพื่อขอให้ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมือง กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า มีนโยบายหาเสียงยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ถือเป็นการกระทำที่เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 ศาลจึงสั่งให้ยุติการกระทำ เพราะพิจารณาแล้วเห็นว่าการยกเลิกมาตรา 112 เป็นการกระทำที่ไม่ควร อีกทั้งการแก้ไขกฎหมายก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติจึงถือเป็นกระบวนการที่ไม่ชอบ</p>
<p>เรืองไกร กล่าวว่า ที่มาในวันนี้เนื่องจากเมื่อวาน (31 ม.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคำร้องของผู้ร้องตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 โดยมีผู้ถูกร้อง 2 ราย ประกอบด้วย พิธา และพรรคก้าวไกล ซึ่งผู้ร้องใช้สิทธิตามมาตรา 49 เห็นว่ามีบุคคลใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ โดยศาลระบุชัดเจนว่าผู้ถูกร้องทั้งสอง ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองฯ ตามมาตรา 49 อย่างไรก็ตามการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้น ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 49 ศาลรัฐธรรมนูญสั่งได้อย่างเดียวคือให้เลิกการกระทำ และวินิจฉัยว่าให้เลิกการกระทำอย่างไร โดยตนเข้าใจว่าห้ามยกเลิกมาตรา 112 และอีกข้อหนึ่งที่เข้าใจคือ การจะแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือกฎหมายอื่นๆเป็นอำนาจของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่จะตรากฎหมายใหม่แก้ไขเพิ่มเติม หรือยกเลิก สามารถทำได้แต่ต้องชอบด้วย</p>
<p>เรืองไกร กล่าวว่า ดังนั้นถ้าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามมาตรา 49 แล้ว คำว่าล้มล้างการปกครองฯอยู่ใน พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2) ที่อาจเป็นปฏิปักษ์ ซึ่งในกรณีนี้มีพรรคเดียวที่เคยโดนคือ 'พรรคไทยรักษาชาติ' ดังนั้นแล้ว ตนจึงยื่นเรื่องขอให้ กกต.นำผลคำวินิจฉัยดังกล่าวของศาล ไปยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัยยุคพรรคก้าวไกล ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 92 (1) (2) อย่างไรก็ตามคำวินิจฉัยในคดีดังกล่าว จะผูกพันถึงกกต. ที่ต้องทำตามหน้าที่ เพราะถือเป็นความปรากฏ ส่วนองค์กรที่ 2 คือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ผู้ถูกร้องเป็น สส. 44 คน ว่าใช้สิทธิและเสรีภาพ ชอบด้วยรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนได้เคยยื่นเรื่องไปแล้วเมื่อปี 2564</p>
<p>"ซึ่งนี่เป็นการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง และพยานหลักฐานไม่ได้มีความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบ หรือนำความเห็นส่วนตัวมาร้องแต่อย่างใด" เรืองไกร กล่าว</p>
<p>เมื่อถามว่าคำวินิจฉัยนี้จะส่งผลต่อพรรคการเมืองๆ อื่นๆ ที่เคยใช้การแก้ไขมาตรา 112 ในการหาเสียงเลือกตั้งหรือไม่ เรืองไกร กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเก็บรวบรวมข้อมูลอยู่ ฉะนั้นไม่ต้องเป็นห่วง หากมีน้ำหนักพอก็จะยื่นเรื่องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการ ทั้งนี้ รวมถึงกรณี เศรษฐา ทวีสิน และ แพรทองธาร ชินวัตร ที่เคยหาเสียงในประเด็นแก้ไขมาตรา 112</p>
<p>เมื่อถามอีกว่า พรรคก้าวไกลจะถูกยุบหรือไม่ เรืองไกร กล่าวว่าไม่น่าจะรอด เพราะศาลวินิจฉัยว่าเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งก็จะส่งผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคก้าวไกลถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี</p>
<p>ทั้งนี้ ระหว่างที่ เรืองไกร ให้สัมภาษณ์ ได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ของ อรวรรณ ภู่พงษ์ และทานตะวัน ตัวตุลานนท์ เรียกร้องให้ศาลไคฟง ซึ่งเป็นศาลของผู้พิพากษาชาวจีนชื่อดัง ‘เปาบุ้นจิ้น’ ให้นำตัวเธอไปประหาร เนื่องจากวานนี้ (31 ม.ค.) ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่า การที่พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ติดสติกเกอร์ที่โพลที่มีคำถามว่า "มาตรา 112 ควรแก้ไขหรือยกเลิก" ของทานตะวัน และอรวรรณ เป็นหนึ่งในการกระทำที่ล้มล้างการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข</p>
<div class="more-story">
<p>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</p>
<ul>
<li>'ตะวัน-แบม' เยือน กกต. ขอให้ 'เปาบุ้นจิ้น' นำตัวไปประหาร เหตุทำโพล 'ยกเลิก 112' เลวกว่าทำ รปห.</li>
</ul>
</div>
<p>ต่อมา เพจเฟซบุ๊กของบีบีซีไทย รายงานด้วยว่า ธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความของอดีตพระพุทธอิสระ และเป็นผู้ร้องศาล รธน. จนนำมาสู่คำวินิจฉัยเมื่อวานนี้ ได้นำคำร้องพร้อมเอกสารมายื่นต่อ กกต. เช่นกัน </p>
<p>"เดิมแค่ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญยสั่งให้หยุดการกระทำ... แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้นั่งอ่านคำวินิจฉัยของศาลอย่างละเอียด เห็นว่า เมื่อศาลได้โปรดพิจารณาวินิจฉัยให้แล้ว   ในขณะที่เราอยู่ในฐานะผู้ร้องก็เห็นว่า มีความผูกพันตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นโดยตรง กระบวนการต่อไปก็ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามที่วินิจฉัยนั้น" ธีรยุทธ กล่าว</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="846" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FBBCnewsThai%2Fposts%2Fpfbid022ykUQPvHmcSM9j2yhqZ2E97QK2zeGnJvWTBbVDQqqEpRX29Q5q6DWQTXSJzHfD8hl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107879
 
1358  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ต๊ะ ยมทูต เสียชีวิตแล้ว เจ้าของวลีดัง "เซ็ตหย่อ สูดต่อ ซูดผ่อ สี่หม่อ สองห่อ ใส่ เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 04:10:58
ต๊ะ ยมทูต เสียชีวิตแล้ว เจ้าของวลีดัง "เซ็ตหย่อ สูดต่อ ซูดผ่อ สี่หม่อ สองห่อ ใส่ไข่"
         


ต๊ะ ยมทูต เสียชีวิตแล้ว เจ้าของวลีดัง &quot;เซ็ตหย่อ สูดต่อ ซูดผ่อ สี่หม่อ สองห่อ ใส่ไข่&quot;" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9211146/
         
1359  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ประชุมนัดแรก กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ เคาะถ่ายทอดสดเป็นครั้งคราว เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 02:26:03
ประชุมนัดแรก กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ เคาะถ่ายทอดสดเป็นครั้งคราว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Fri, 2024-02-02 01:31</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กมธ.ถ่ายโอนธุรกิจกองทัพ ประชุมนัดแรก 'ก้าวไกล' เสนอถ่ายทอดสดการประชุม สุดท้ายเคาะถ่ายทอดสดเป็นครั้งคราว 'เบญจา' รองประธานคนที่ 1 เผยประชุมครั้งต่อไป เชิญ สตง. ให้ข้อมูลตรวจสอบรายได้ธุรกิจกองทัพส่วนใดบ้าง</p>
<p>1 ก.พ.2567 ทีมสื่อพรรคก้าวไกลรายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (1 ก.พ.) เบญจา แสงจันทร์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยผลการประชุมครั้งแรกของคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจต่าง ๆ ของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่าวาระสำคัญของการประชุมนัดแรก คือการกำหนดวันประชุม กำหนดตำแหน่งใน กมธ. และกำหนดกรอบการทำงาน ซึ่งได้ข้อสรุปว่า กมธ. จะประชุมทุกวันอังคาร เวลา 9:30 - 12:00 น. ประธาน กมธ. คือ จิรายุ ห่วงทรัพย์ ส่วนตนเป็นรองประธานคนที่ 1 ขณะที่ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกลคนอื่นๆ ขอไม่รับตำแหน่ง</p>
<p>สำหรับกรอบการทำงานนั้น ตนเสนอว่าต้องกำหนดให้ชัด ด้วยระยะเวลา 90 วันอาจไม่เพียงพอ เนื่องจากไม่มีใครทราบว่าธุรกิจกองทัพมีจำนวนมากเท่าไร พร้อมกันนี้ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกล เสนอให้มีการถ่ายทอดสดการประชุม เพราะธุรกิจกองทัพเป็นประเด็นที่อยู่ในความสนใจของประชาชน การทำทุกอย่างให้โปร่งใสจะเป็นผลดีต่อกองทัพเอง</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ในที่ประชุมมีความเห็นแตกต่างกัน หลายคนไม่เห็นด้วยกับการถ่ายทอดสดเพราะกังวลเกี่ยวกับการกล่าวถึงบุคคลภายนอก อาจทำให้ถูกฟ้องร้อง แต่ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกลยืนยันว่าควรถ่ายทอดสด เพราะนอกจากเป็นประเด็นที่สังคมสนใจแล้ว แม้แต่การประชุม กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ก็มีระบบถ่ายทอดสดที่สื่อมวลชนสามารถดึงข้อมูลออกไปได้ ดังนั้น ทุกคนในที่ประชุมต้องใช้ความระมัดระวังและรับผิดชอบร่วมกัน ท้ายที่สุดหลังหารือ ประธาน กมธ. อนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมได้เป็นครั้งคราว </p>
<p>เบญจากล่าวต่อว่า ในการประชุมครั้งถัดไป ประธาน กมธ. ยืนยันว่าต้องการนำเรื่องที่เคยศึกษาไว้แล้วขึ้นมาก่อน คือการให้บริหารกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือในพื้นที่อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี แต่ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกลเสนอว่าระยะเวลา 90 วันนั้นกระชั้นชิด ธุรกิจกองทัพมีจำนวนมาก กมธ. ควรเข้าถึงข้อมูลรายได้มากกว่านี้ เพื่อให้เห็นภาพรวมว่ามีธุรกิจกองทัพเท่าไรกันแน่ </p>
<p>สุดท้าย ประธาน กมธ. ยืนยันให้พิจารณาเรื่องกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือฯ เป็นประเด็นแรก เราก็ไม่ขัดข้อง อยากเห็นบรรยากาศการทำงานที่พูดคุยกันได้ทุกฝ่าย </p>
<p>ดังนั้นในการประชุมครั้งถัดไป จะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเพื่อพิจารณาเรื่องดังกล่าว และอีกครึ่งชั่วโมง เพื่อวางกรอบการทำงานว่าจะแบ่งการพิจารณาธุรกิจกองทัพออกเป็นกี่กลุ่ม เช่น ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจวิทยุโทรทัศน์ ธุรกิจที่ใช้ที่ราชพัสดุในการประกอบกิจการ ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการกองทัพ ซึ่งส่วนนี้น่าจะมีความใหญ่โตอย่างมาก เราอยากเห็นข้อมูลเปิดออกมาทั้งหมด โดยจะเชิญสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายได้ของหน่วยงานต่างๆ มาเป็นที่ปรึกษาประจำ กมธ. เพื่อให้ข้อมูลว่า สตง. ตรวจสอบรายได้ของธุรกิจกองทัพในส่วนใดบ้าง</p>
<p>ทั้งนี้ กมธ. สัดส่วนพรรคก้าวไกล 6 คน ประกอบด้วย (1) เบญจา แสงจันทร์ (2) เชตวัน เตือประโคน สส.ปทุมธานี เขต 6 (3) จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา เขต 4 (4) กิตติพงษ์ ปิยะวรรณโณ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ (5) รศ. พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ (6) ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/107880
 
1360  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - หมอเตือน ชีวิตประจำวัน 2 สิ่งที่ไม่ควรทำหลัง 4 ทุ่ม ในวันที่อากาศหนาวจัด อันตรายถ เมื่อ: 02 กุมภาพันธ์ 2567 01:37:09
หมอเตือน ชีวิตประจำวัน 2 สิ่งที่ไม่ควรทำหลัง 4 ทุ่ม ในวันที่อากาศหนาวจัด อันตรายถึงชีวิต!
         


หมอเตือน ชีวิตประจำวัน 2 สิ่งที่ไม่ควรทำหลัง 4 ทุ่ม ในวันที่อากาศหนาวจัด อันตรายถึงชีวิต!" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;หมอเตือนแล้วนะ! ในวันที่อากาศหนาว ไม่ควรอาบน้ำ-ออกกำลังกายหนัก หลัง 4 ทุ่ม เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต


         

https://www.sanook.com/news/9211302/
         
หน้า:  1 ... 66 67 [68] 69 70 ... 1091
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.907 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 23 มกราคม 2566 06:30:51