[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 เมษายน 2567 14:33:27 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 77 78 [79] 80 81 ... 1118
1561  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - รวมโมเมนต์คู่รักคนดังวันวาเลนไทน์ ทั้งช็อตเปิดตัว ช็อตเซอร์ไพรส์ ช็อตหวานซึ้ง เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2567 02:30:54
รวมโมเมนต์คู่รักคนดังวันวาเลนไทน์ ทั้งช็อตเปิดตัว ช็อตเซอร์ไพรส์ ช็อตหวานซึ้ง
         


รวมโมเมนต์คู่รักคนดังวันวาเลนไทน์ ทั้งช็อตเปิดตัว ช็อตเซอร์ไพรส์ ช็อตหวานซึ้ง" width="100" height="100  วันวาเลนไทน์ รวมโมเมนต์คู่รักคนดังสาดความหวานออกสื่อ ทั้งช็อตเปิดตัว ช็อตเซอร์ไพรส์และช็อตหวานซึ้ง


         

https://www.sanook.com/news/9231714/
         
1562  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - ผู้ว่าฯ กทม. ขอความร่วมมือ WFH 15-16 ก.พ. หลังฝุ่น PM 2.5 พุ่งสีแดง 20 เขต เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2567 02:02:13
ผู้ว่าฯ กทม. ขอความร่วมมือ WFH 15-16 ก.พ. หลังฝุ่น PM 2.5 พุ่งสีแดง 20 เขต
         


ผู้ว่าฯ กทม. ขอความร่วมมือ WFH 15-16 ก.พ. หลังฝุ่น PM 2.5 พุ่งสีแดง 20 เขต" width="100" height="100  ผู้ว่าฯ กทม. ประกาศ Work From Home 15-16 กุมภาพันธ์ ขอภาครัฐ-เอกชน หลังค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่ง สีแดง 20 เขต
         

https://www.sanook.com/news/9231530/
         
1563  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กวีประชาไท: AmnestyPeople ,Please Repeat. เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2567 01:24:36
กวีประชาไท: AmnestyPeople ,Please Repeat.
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 23:46</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ฝุ่นเมืองลุง</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="poet-box">
<p> </p>
<p> </p>
<p>ปลดพันธนาการอันอยุติธรรม
ซึ่งรุกล้ำกำจัดสิทธิบิดกฎหมาย
กดข่มให้ล่มจมถล่มจนแพ้พ่าย
ให้โดดเดี่ยวเดียวดายใต้ #ฟ้าเดียวกัน</p>
<p>สวมบท #ปีศาจร้าย ทุกรายละเอียด
แล้วยัดเยียดความผิดให้ทุกความใฝ่ฝัน
“เสื้อครุย” กับ “เครื่องแบบ” มันอิงแอบกัน
รู้เห็นเป็นใจ ? นับแต่ครั้งนั้นเป็นต้นมา</p>
<p>ประชาราษฎร์ไม่ใช่อาชญากร
แต่ถูกกวาดต้อนให้ยืนหยุดจนสุดหน้าผา
อย่าผลักไสให้ใครตายลงต่อหน้าต่อตา
ฤานี่คือความก้าวหน้าครั้งสุดท้าย ?</p>
<p>#ก่อนนิรโทษจะเป็นนิรนาม
เถิด ! ยุติกระบวนความตามกฎหมาย
#ทุกข้อหาทุกคดีทุกสีทุกฝ่าย
ได้โปรดนิรโทษกรรม์สามัญชน</p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทคhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108071
 
1564  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กวีประชาไท: ในนามของความรัก เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2567 01:24:35
กวีประชาไท: ในนามของความรัก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 23:56</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>นิติพงษ์ สำราญคง</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53529271373_db3de09aaf_c_d.jpg" style="width: 400px; height: 533px;" /></p>
<div class="poet-box">
<p> </p>
<p> </p>
<p>คุณเขียนถึง 'ความรัก' ได้ไพเราะ
คนเปราะบางทาง 'ความรัก' ยังอยากรัก
เคยเจ็บเจียนตายเพราะอกหัก
ปรารถนาเจ็บหนักๆ ช้ำอีกสักหลายครั้ง</p>
<p>ถ้อยคำของคุณเปี่ยมชีวิต
กระทั่งอาจชำระจิตวิญญาณคลุ้มคลั่ง
แต่ละคำ - แต่ละคำ, ล้วนทรงพลัง
คุณถ่ายทอดมันราวกับคนตกหลุมรักครั้งแรก</p>
<p>ชีพจรเต้นเร่ากับเลือดเนื้ออุ่นร้อน
พิษรักมีแต่ถ่ายถอนด้วยรัก, แม้ใจแหลก
มัคคุเทศก์ของคนเหงา - คนแปลกแยก
เราจะพบแมกไม้ - ลำธาร ตลอดจนพายุ คุในดวงตาคนรักของเรา</p>
<p>คุณเขียนถึง 'ความรัก' อย่างคนเข้าใจรัก
ต่อให้ปลายทางดักรอด้วยความเศร้า
แต่จะเป็นไรไปหากหัวใจอ่อนเยาว์
'ความรัก' ไพศาลเหลือที่คนโฉดเขลาเข้าใจ</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ต่อให้ 'ความรัก' ที่คุณเขียนแสนไพเราะ
กลุ่มคำเกาะรวมตัวเป็นประโยคยิ่งใหญ่
ทว่า 'ความรัก' สำหรับตัวอักษรกลับผิดแผกไป
เมื่อคุณนำออกมาอ่านใช้ในชีวิตจริง</p>
<p>คุณปฏิเสธรักจากสมรสที่เท่าเทียม และคุณเหี้ยมพอที่จะเชียร์ '112'
คุณคนเดียวกันนั่นแหละ แสยะยิ้มมองใครหลายคนโดนขัง - ถูกยิง
คุณ - คนเขียนถึง 'ความรัก', คุณ - ผู้โอบกอดสรรพสิ่ง
ที่แท้กลับชิงชัง 'ความรัก'.
 </p>
</div>
<div class="note-box">
<p>เขียน 2023 / อ่าน : 12.2.2024
<strong>#นิรโทษกรรมประชาชน #ยกเลิก112 </strong></p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทควhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108072
 
1565  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - แม่ไม่สบายใจ ลูกชาย 3 ขวบ เดินแปลกๆ คิดว่าป่วย เฉลยความจริงขำแห้ง เมื่อ: 15 กุมภาพันธ์ 2567 00:00:29
แม่ไม่สบายใจ ลูกชาย 3 ขวบ เดินแปลกๆ คิดว่าป่วย เฉลยความจริงขำแห้ง
         


แม่ไม่สบายใจ ลูกชาย 3 ขวบ เดินแปลกๆ คิดว่าป่วย เฉลยความจริงขำแห้ง" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;รู้สาเหตุก่อนพาไปหาหมอ ที่แท้เลียนแบบสิ่งที่เห็นอยู่ทุกวัน!
         

https://www.sanook.com/news/9231718/
         
1566  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - “เพื่อไทย-ก้าวไกล-เป็นธรรม” ออกมารับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 23:52:37
“เพื่อไทย-ก้าวไกล-เป็นธรรม” ออกมารับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 22:06</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>“เพื่อไทย-ก้าวไกล-เป็นธรรม” ออกมารับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ปิดแคมเปญคนร่วมลงชื่อ 35,905 รายชื่อ “ขัตติยา” ย้ำที่มี กมธ.หวังให้เกิดการพูดคุยไม่อยากให้การนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่เห็นแสงที่ปลายทาง “ชัยธวัช” ย้ำพรรคพร้อมหนุนร่างประชาชน</p>
<p>14 ก.พ.2567 14 ก.พ.2567 ที่ลานประชาชน หน้ารัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จัดงาน “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” มีตัวแทนจากพรรคการเมืองมาร่วมรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนที่สามารถรวบรวมรายชื่อเสนอร่างเข้าสภาได้ 35,905 รายชื่อ โดยพรรคที่มาร่วมวันนี้มีพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล และพรรคเป็นธรรม</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53529189384_cd2341a893_b.jpg" /></p>
<p>พูนสุข พูนสุขเจริญ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน กล่าวในฐานะตัวแทนเครือข่ายฯ กล่าวว่า 14 วันของกิจกรรม มี 107 จุดลงชื่อใน 31 จังหวัด เครือข่ายสามารถรวมรายชื่อได้ 35,905 รายชื่อ จำนวนดังกล่าวสะท้อนถึงคนที่รู้สึกเดือดร้อน รู้สึกว่าคดีทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้นและดำรงอยู่ในสังคมไทย แต่ไม่ว่าจะมีจำนวนรายชื่อเท่าไหร่แต่ที่จำนวนที่สำคัญที่สุดคือ3 คนที่ต้องอดอาหารเพื่อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรม  จำนวน 18 วันคือวันที่บุ้ง เนติพรอดอาหาร จำนวน 40 คือผู้ต้องขังทางการเมือง จำนวน 263 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ตั้งแต่ 2563</p>
<p>พูนสุขกล่าวต่อว่า 1947 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตลอดตั้งแต่ 2563 และ 5027 คือจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตั้งแต่ 2549 แต่จำนวนเหล่านี้ยังไม่ได้รวมผู้บาดเจ็บหลักพัน ผู้เสียชีวิตหลักร้อยระหว่างทางของความขัดแย้งทางการเมือง ความขัดแย้งที่ดำเนินมายาวนานไม่จบลงโดยง่ายจนถึงวันนี้ก็ยังเห็นความขัดแย้ง แต่เราก็อยากหยุดความขัดแย้ง ปลดพันธนาการคืนความยุติธรรมและคืนความปกติให้แก่ประชาชนและกลับมาพูดคุยกันอย่างมีวุฒิภาวะ ไม่ใช้กฎหมายปิดปากประชาชน ไม่ใช้กระบวนการยุติธรรมเพื่อจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน</p>
<p>ตัวแทนเครือข่ายกล่าวต่อว่า หวังว่าพรรคการเมืองที่มีที่มาโดยชอบธรรมจากประชาชน จะยอมรับว่าสังคมนี้มีปัญหาอะไร แล้วแก้ไขอย่างความขัดแย้งอย่างระมัดระวัง ไม่เลือกปฏิบัติไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เหตุของความขัดแย้งในปัจจุบันที่อาจรุนแรงมากขึ้นในอนาคตควรได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที</p>
<p>พูนสุขกล่าวทิ้งท้ายว่า ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกหนึ่งในการคลี่คลายความขัดแย้ง พวกเราเครือข่ายนิรโทษกรรมพร้อมยืนเคียงข้างพรรคการเมืองที่ยืนเคียงข้างประชาชน</p>
<p>ขัตติยา สวัสดิผล ตัวแทนจากพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ในที่สุดสังคมไทยก้มีการพูดเรื่องนิรโทษกรรมอีกครั้งหนึ่ง จากที่เคยมีการพูดกันไปก่อนหน้านี้กว่าสิบปีที่แล้วและการพูดครัง้นั้นเป้นเงื่อนไขให้เกิดการรัญประหารในเวลาต่อมา ดังนั้นสิบปีผ่านไปเมื่อมีการพูดอีกครั้งและมีการเสนอร่างกฎหมายจากหลายพรรคการเมือง แล้ววันนี้ยังผู้ร่วมเสนอร่างกฎหมายอีก 35,905 รายชื่อ ซึ่งจะเห็นถึงความแตกต่างของร่างกฎหมายที่แต่ละฝ่ายเสนอเข้ามา จึงเป็นเหตุที่พรรคเพื่อไทยเสนอให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาการออกกฎหมายนิรโทษกรรม</p>
<p>ตัวแทนพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า จุดหมายปลายทางของการตั้ง กมธ.ชุดนี้ขึ้นมาคือการหาแนวทางที่เป็นสารตั้งต้นให้หลายพรรคการเมืองและหลายฝ่ายได้ไปร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมขึ้นมาเพื่อไม่ให้นำไปสู่ความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นอีกในอนาคต และ กมธ.ชุดนี้ได้มีการประชุมนัดแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว และจะมีการประชุมอีกครั้งในวันพรุ่งนี้ โดยตั้งใจที่จะพูดคุยกับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายที่อยากให้มีการนิรโทษกรรมเกิดขึ้นรวมถึงฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย และยังรวมไปถึงการจะนิรโทษกรรมคดีใดบ้าง การพูดคุยรับฟังความเห็นทุกฝ่าย เพราะไม่อยากให้การนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายทางและเพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งในอนาคต</p>
<p>ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวว่าถึงร่างกฎหมายเท่าที่มีอยู่ตอนนี้อาจจะมีจุดที่ยังเห็นไม่ตรงกันอยู่ทั้งเนื้อหาและกรบวนการวิธีการ ก็หวังว่า กมธ.ที่ตั้งขึ้นมาที่สภาตั้งมาจะเป็นเวทีสำคัญในการรวบรวมความเห็นมาศึกษาเปรียบเทียบในการตัดสินใจของ สส.ได้</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลก็สนับสนุนการนิรโทษกรรมอยู่แล้วก็ใช้หลายโอกาสในการผลักดันเรื่องนี้ แต่ก็ยืนยันว่าการนิรโทษกรรมไม่ได้หมายความว่าต้องการสร้างบรรทัดฐานที่ผิด เพราะหลายคนอาจไม่เห็นด้วยแล้วมองว่าถ้าสนับสนุนการนิรโทษกรรมเท่ากับสนับสนุนคนให้ทำผิดไปเรื่อยๆ</p>
<p>“ผมยอมรับว่ามีคนกระทำผิดและคนที่ถูกกล่าวหาว่ากระทำผิด แต่ผมคิดว่าถ้าจะหาทางออกให้กับบ้านเมือง เราไม่สามารถมองคดีความเหล่านี้ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับความขัดแย้งทางการเมืองมีเหตุจูงใจทางการเมืองอย่างแยกไม่ออก เราไม่สามารถมองคดีเหล่านี้เป็นอาชญากรรมปกติได้ มันต้องมองว่าเป็นปัญหาทางการเมืองเป็นความขัดแย้งทางความคิด” ชัยธวัชกล่าวยืนยันว่าเขาสนับสนุนการนิรโทษกรรมในฐานะที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการคลี่คลายความขัดแย้งที่สืบเนื่องมา 2 ทศวรรษ</p>
<p>ชัยธวัชกล่าวอีกว่า วันแห่งความรักคือการเมืองที่อยู่บนฐานของการเข้าอกเข้าใจกันและความปรารถนาดีต่อส่วนรวมด้วยกันแม้ว่าเราจะไม่ได้เห็นตรงกันทุกเรื่อง และอยากให้ทุกฝ่ายสร้างความเปลี่ยนแปลงด้วยการสร้างวันแห่งความรัก และถ้าร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสภาก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนและพิจารณารวมกับอีกหลายร่าง แล้วก็หวังว่าเมื่อ กมธ.มีรายงานออกมาแล้วจะเห็นร่างของฝั่งรัฐบาลที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเสนอเข้ามาในสภาเพิ่มเติม</p>
<p>กัณวีร์ สืบแสง จากพรรคเป็นธรรมกล่าวว่าแม้พรรคจะไม่ได้อยู่ใน กมธ. แต่ก็จะขอฝากไว้การนิรโทษกรรมถือเป็นการเมืองในช่วงที่จะให้อภัยกันและเป็นการเปลี่ยนผ่านของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่เราต้องการ ก็ขอฝากไปถึง กมธ. ว่าจะต้องตั้งเป้าหมายปลายทางว่าการนิรโทษกรรมมีใครเป็นเป้าหมายที่จะนิรโทษกรรม ใครที่ทำผิดต้องรับผิดแต่ใครที่ไม่ผิดแต่ดดนบบังคับใช้กฎหมายไม่ถูกต้อง ต้องได้รับการปล่อยตัวออกมา</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108070
 
1567  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ปิดแคมเปญ “นิรโทษกรรมประชาชน” ได้ 35,905 รายชื่อ เชียงใหม่ร่วมจัดงานส่งท้าย เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 22:18:55
ปิดแคมเปญ “นิรโทษกรรมประชาชน” ได้ 35,905 รายชื่อ เชียงใหม่ร่วมจัดงานส่งท้าย
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 21:01</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เชียงใหม่ร่วมจัดงานส่งท้ายปิดแคมเปญ “นิรโทษกรรมประชาชน” สรุปยอดรายชื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนได้ที่ 35,905 รายชื่อ ภายใน 14 วัน จาก 107 จุดลงชื่อทั่วประเทศและทางออนไลน์ กระบวนการหลังจากนี้ทางเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจะยื่นรายชื่อทั้งหมดต่อสภา เพื่อบรรจุเป็นวาระพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป</p>
<p> </p>
<p>14 ก.พ. 2567 เวลา 17.00 – 21.00 น. คณะก่อการล้านนาใหม่ (Neo Lanna) จัดกิจกรรม “นิรโทษกรรมประชาชน” ขึ้นที่ลานประตูท่าแพ ร่วมส่งท้ายปิดแคมเปญ “นิรโทษกรรมประชาชน” 14 วัน ตั้งแต่วันที่ 1 – 14 ก.พ. 2567 มีประชาชนร่วมลงชื่อทั้งหมด 35,905 รายชื่อ ภายในกิจกรรมที่จังหวัดเชียงใหม่มีการเปิดเวทีให้นักศึกษาและประชาชนที่ถูกหรือเคยถูกดำเนินคดีทางการเมืองออกมาเล่าประสบการณ์ให้ผู้ที่มาร่วมงานฟัง ก่อนจะมีการอ่านบทกวี และแสดง performance art</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53528875218_dd12df7ae8_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53528876323_13b0cc5856_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53528694951_b06bf86b18_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53529138595_e6c1837850_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53528880363_b8673547a7_b.jpg" /></p>
<p>โดยในวันนี้ (14 ก.พ. 2567) ที่ลานประชาชน สัปปายะสภาสถาน รัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจัดกิจกรรม “ส่งรักให้ถึงสภา ถามหาความยุติธรรม เพื่อนิรโทษกรรมประชาชน” โดยไฮไลท์สำคัญอยู่ที่การสรุปรายชื่อจากเว็บไซต์และจากเครือข่ายที่เปิดจุดตั้งโต๊ะทั่วประเทศ  มีการสรุปยอดรายชื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนที่ 35,905 รายชื่อ โดยมีตัวแทนจากพรรคการเมืองสามพรรคมารับรายชื่อได้แก่ ขัตติยา สวัสดิผล ตัวแทนพรรคเพื่อไทย ชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล และกัณวีร์ สืบแสง ตัวแทนพรรคเป็นธรรม </p>
<p>การตั้งโต๊ะล่ารายชื่อในแคมเปญ “นิรโทษกรรมประชาชน” ครั้งนี้มีการตั้งโต๊ะกว่าร้อยจุดทั่วประเทศ ได้ทั้งหมด 35,905 รายชื่อ จากขั้นต่ำ 10,000 รายชื่อตามกฎหมาย พูนสุข พูนสุขเจริญ ตัวแทนเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนกล่าวต่อตัวแทนพรรคการเมืองว่า “กว่า 14 วัน 107 จุดลงชื่อ 41 อีเวนท์สาธารณะ เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนรวบรวมรายชื่อได้มากกว่า 35,905 รายชื่อ จำนวนดังกล่าวสะท้อนถึงคนที่รู้สึกเดือดร้อนรู้สึกว่า คดีความทางการเมืองไม่ควรเกิดขึ้น ไม่ควรดำรงอยู่ในสังคมไทย อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะสามหมื่นรายชื่อ ไม่ว่าจะสามแสนรายชื่อตัวเลขที่สำคัญที่สุดคือเลข 3 18 40 263 1,947 5,027 และสามคือ จำนวนคนที่ประกาศอดอาหารเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมคือ บุ้ง ตะวันและแฟรงค์ 18 คือ จำนวนวันที่บุ้งอดอาหาร วันนี้เป็นวันที่ 18 แล้วที่อดอาหารเพื่อเรียกร้องต่อกระบวนการยุติธรรม 40 คือจำนวนผู้ต้องขังทางการเมืองที่วันนี้ตะวันและแฟรงค์เป็นรายล่าสุดที่เข้าสู่เรือนจำ 263 เป็นจำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีมาตรา 112 ตั้งแต่ปี 2563  1,947 คือจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีทางการเมืองตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2563 5,027 คือ จำนวนคนที่ถูกดำเนินคดีตั้งแต่ปี 2549 ยังไม่นับรวมผู้บาดเจ็บหลักพันและผู้เสียชีวิตหลักร้อยระหว่างความขัดแย้งทางการเมือง”</p>
<p>ส่วนกระบวนการหลังจากนี้ทางเครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนก็จะยื่นรายชื่อทั้งหมด 35,905 รายชื่อต่อสภาเพื่อบรรจุเป็นวาระพิจารณาในสภาผู้แทนราษฎรต่อไป โดยในปัจจุบันมีกฎหมายนิรโทษกรรมจากพรรคการเมืองสามฉบับที่ยื่นต่อสภาแล้ว หากกระบวนการยื่นรายชื่อเสร็จเรียบร้อย ร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของภาคประชาชนก็จะได้รับการพิจารณาพร้อมกับร่างกฎหมายอีกสามฉบับ</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108068
 
1568  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ลูกวัย 8 เดือน มีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำไม่หาย ไปหาหมอถึงรู้เป็น "โรค" เพราะลืมล้างส เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 21:26:45
ลูกวัย 8 เดือน มีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำไม่หาย ไปหาหมอถึงรู้เป็น "โรค" เพราะลืมล้างส่วนนั้น
         


ลูกวัย 8 เดือน มีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำไม่หาย ไปหาหมอถึงรู้เป็น &quot;โรค&quot; เพราะลืมล้างส่วนนั้น" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ลูกสาววัย 8 เดือน ร่างกายมีกลิ่นแปลกๆ อาบน้ำเท่าไหร่ไม่หาย แม่อุ้มไปหาหมอถึงรู้ ที่แท้เป็น "โรค" เพราะลืมล้างส่วนนั้น
         

https://www.sanook.com/news/9231686/
         
1569  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - นักปรัชญาชายขอบ: ว่าด้วยความรัก เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 20:38:15
นักปรัชญาชายขอบ: ว่าด้วยความรัก
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 19:45</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>นักปรัชญาชายขอบ</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>มนุษย์เป็นสัตว์ที่พูดถึง "ความรัก" มากที่สุด ทุกศาสนาพูดถึงความรัก, ปรัชญา, วรรณกรรมและศิลปะต่างๆ ก็พูดถึงคุณค่าของความรัก และโศกนาฏกรรมเกี่ยวกับความรัก แต่อีกด้านหนึ่งในสายธารประวัติศาสตร์จวบจนปัจจุบันมนุษย์ก็ขัดแย้งกัน ทำร้ายกัน เข่นฆ่ากัน กระทั่งทำสงครามกันเพราะความรัก ตั้งแต่ความรักฉันชู้สาว ความรักชาติ ศาสนา กษัตริย์ ความรักพระเจ้า รักธรรมะ ฯลฯ</p>
<p>ไม่ว่าความรักจะเป็นสิ่งสร้างขึ้นโดยวัฒนธรรมของสังคมหนึ่งๆ, เป็นผลผลิตของอารยธรรมมนุษยชาติ, เป็นอารมณ์ความรู้สึกตามธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตที่เป็นไปตามกลไกทางชีววิทยา หรือเป็นอะไรก็ตาม ที่แน่ๆ คือความรักเป็นสิ่งที่เรารับรู้ได้ และรู้สึกได้ชัดแจ้งเมื่อเรามีความรัก แต่ถ้าถามว่า “ความรักคืออะไร” ก็มักจะตามมาด้วยคำอธิบายมากมายหลายแง่มุม เหมือนคำอธิบายว่าศาสนาคืออะไร ปรัชญาคืออะไร และสิ่งพวกนี้เกี่ยวข้องกับชีวิต และสังคมมนุษย์อย่างไร</p>
<p>แต่ความจริงหนึ่งที่เรารับรู้ได้อย่างชัดแจ้งคือ “ความรักเป็นเรื่องของความสัมพันธ์” ระหว่างตัวเรากับสิ่งอื่น, สัตว์อื่น, คนอื่น ฯลฯ เช่น ผมรักรถที่เพิ่งถอยออกมาใหม่ๆ เพราะมีความรู้สึกชอบมันมาก เฝ้ามองมัน คอยปัดฝุ่น และแทบจะนอนกับมัน ผมรักแมวเพราะผูกพันกับมัน ชอบแววตาที่มันมองผม รู้สึกดีเวลาที่มันมาคลอเคลีย ผมรักใครบางคนเพราะผมมีความสัมพันธ์บางอย่างกับเขาจนทำให้รู้สึกผูกพัน ยิ่งเรามีความสัมพันธ์ในแบบนั้นๆ ลึกซึ้งมากเพียงใด ความผูกพันและปรารถนาดีต่อกันยิ่งลึกซึ้งแนบแน่นมากเพียงนั้น </p>
<p>เรานึกไม่ออกเลยว่า ความรักที่ปราศจากความสัมพันธ์และความผูกพันเกิดขึ้นได้อย่างไร ลองนึกภาพเด็กคนหนึ่งถูกพ่อแม่ทิ้งตั้งแต่แรกเกิด แต่โชคดีที่ได้รับการเลี้ยงดูจากคนอื่นที่ไม่ใช่ญาติ วันหนึ่งเมื่อยายุ 20 ปี เขาได้พบพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด เขาจะรู้สึกรักเหมือนรักผู้ที่เลี้ยงดูตนเองมาได้ไหม ก็ไม่น่าจะรู้สึกเช่นนั้นได้ ยกเว้นว่าจะสามารถสร้างความสัมพันธ์ฉันพ่อแม่ลูก จนทำให้เกิดความรู้สึกผูกพันขึ้นมาได้ แต่ช่วงเวลาที่ขาดความสัมพันธ์ไป 20 ปี ก็คือ “ความว่างเปล่า” หรืออาจเป็น “บาดแผล” ที่ยากจะลบเลือน ในแง่นี้การไม่ถูกรักจากบางคนที่เราคาดหวัง ก็กลายเป็นปมปัญหาสำคัญในชีวิตคนเราได้</p>
<p><strong>แต่เวลาที่ศาสนาและปรัชญาต่างๆ พูดถึง “ความรักสากล” เช่น ความรักสรรพสัตว์ ความรักมนุษยชาติ หมายความว่าอย่างไร ความรักเช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้อย่างไร เช่น ผมจะรักคนที่ผมไม่รู้จักอีกทั้งยังขับรถปาดหน้าผมได้งั้นหรือ มิพักต้องพูดถึงว่าผมจะสามารถมี “ความรักและให้อภัยแก่ศัตรู” ได้หรือไม่ ฯลฯ</strong></p>
<p>ก็อาจเป็นไปได้ที่จะมีเรื่องราวของบางคนที่เปลี่ยนจากศัตรูมาเป็นมิตร (หรือเปลี่ยนจากมิตรเป็นศัตรู) นั่นก็เป็นเพราะ “ความสัมพันธ์” เปลี่ยนไป จากความสัมพันธ์แบบศัตรูกลายเป็นความสัมพันธ์แบบมิตร สิ่งที่เรียกว่า “ความรักสากล” ก็น่าจะอยู่ในรูปแบบความสัมพันธ์บางอย่าง ไม่ใช่ “ความรักบริสุทธิ์” ที่เป็น “อิสระ” จากเงื่อนไขของความสมัพันธ์ใดๆ ที่มีอยู่อย่างเป็นภววิสัยรอให้เราค้นพบ ตรงกันข้าม ความรักสากลอาจเป็นความรักที่เกิดจากความเข้าใจความสัมพันธ์อันซับซ้อนของมนุษย์ จนกระทั่งมองเห็นความจริงว่า แม้มนุษย์จะแตกต่างกันมากเพียงใด แต่ก็มีภาวะบางอย่างที่เรียกว่า “ความเป็นมนุษย์” (human being) ที่เชื่อมโยงความเป็นหนึ่งเดียวระหว่างตัวเรากับทุกคน  </p>
<p>เช่น ในแง่ปัจเจกบุคคล เราแต่ละคนมีอัตลักษณ์แตกต่างกันมาก ตั้งแต่อุปนิสัย รสนิยม เพศ วัย ผิวพรรณ ภาษา ศาสนา ชาติพันธุ์ สถานภาพ บทบาทหน้าที่ และอื่นๆ แต่ความแตกต่างเหล่านั้นเป็นเพียง “เปลือกผิว” เท่านั้นเองหรือไม่ หากเทียบกับธรรมชาติของ “ความเป็นมนุษย์” ที่เรามีร่วมกัน เช่น เรามีเสียงหัวเราะเหมือนกัน ร้องไห้มีหยดน้ำตาเหมือนกัน มีอารมณ์ความรู้สึกรัก ปรารถนา อิจฉา โกรธ เกลียด มีด้านที่เข้มแข็งและเปราะบางคล้ายๆ กัน เราเกลียดความเจ็บปวด และปรารถนาความสุขเหมือนกัน เราต้องการเสรีภาพ ความเป็นธรรม และไม่ยอมรับที่ใครๆ จะมาดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นคนของเราเช่นกัน ฯลฯ ด้วยเหตุนี้เราจึงสามารถสื่อสารอารมณ์ความรู้สึก ความคิด เหตุผล และอื่นๆ ข้ามภาษา วัฒนธรรม และกำแพงความแตกต่างใดๆ ได้  </p>
<p><strong>มีบางมุมมอง เช่น มุมมองแบบพุทธปรัชญามองว่า มนุษย์เราแม้จะแตกต่างกัน แต่ทุกคนมี “พุทธภาวะ” หรือ “ความเป็นพุทธะ” ภายในตัวเองเหมือนกัน ความเป็นพุทธะคือธรรมชาติที่แท้จริงของความเป็นมนุษย์ของเราทุกคน ความรักสรรพสัตว์ หรือความรักมนุษยชาติจึงเป็นไปได้ เพราะความรักเช่นนั้นเป็นความสัมพันธ์ที่ผูกพันเรากับคนอื่นๆ และสรรพชีวิตเข้าด้วยกัน</strong> </p>
<p>จากความคิดพื้นฐานข้างบน บางคนมองว่า การปฏิบัติธรรมคือการฝึกจิตเพื่อค้นพบความเป็นพุทธะ จากมุมมองนี้ความเป็นพุทธะคือ “เป้าหมาย” การปฏิบัติธรรมคือการเดินทางไปสู่เป้าหมายนั้น แต่บางคนมองว่า ในเมื่อเรามีธรรมชาติความเป็นพุทธะภายในตัวเองอยู่แล้ว ความเป็นพุทธะจึงไม่ใช่เป้าหมายที่เราต้องบรรลุถึง สิ่งที่เราควรทำคือ “ใช้ความเป็นพุทธะของเราที่มีอยู่แล้วสัมพันธ์กับตัวเอง และกับคนอื่นๆ ชีวิตอื่นๆ สิ่งอื่นๆ สรรพสัตว์ หรือมนุษยชาติ” แต่จะเป็นไปได้อย่างไร</p>
<p>ผมคิดว่ามีมุมองทางปรัชญาที่คล้ายกันนี้ที่ชี้แนะให้เราใช้ธรรมชาติพื้นฐานของความเป็นมนุษย์รองรับความสัมพันธ์กับตัวเองและทุกคน เช่น ปรัชญาสายคานท์ (Kantianism) มองว่าธรรมชาติพื้นฐานของเราทุกคนคือ “ความเป็นมนุษย์ผู้มีเหตุผล เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีในตัวเอง” ดังนั้น การใช้ชีวิตของเราเอง, ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนอื่นๆ ทุกคน รวมทั้งการสร้างหลักการและกฎทางศีลธรรมและทางสังคมการเมือง ต้องอยู่บนพื้นฐานของการเคารพความเป็นมนุษย์ดังกล่าว การใช้อำนาจเผด็จการรูปแบบใดๆ ที่ละเมิดความมีเหตุผล เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีของมนุษย์จึงเป็นสิ่งที่ผิด</p>
<p>ปรัชญาสายคานท์ไม่ได้เรียกร้องให้เรารักกัน แต่เรียกร้องให้เราเคารพความเป็นมนุษย์ที่มีเหตุผล เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีในตัวเองของกันและกัน เราจะคิดต่างกัน ไม่รักกัน หรือโกรธ เกลียดกันก็ได้ แต่สังคมมนุษย์จะมีสันติภาพได้ ถ้าหากมวลมนุษย์มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันบนหลักการและกติกาที่เคารพความเป็นมนุษย์ของเราทุกคน และนั่นคือ “ความเป็นธรรม” (fairness) ความรักรูปแบบใดๆ จะมีความหมาย ก็ต่อเมื่อเป็นความรักที่เคารพความเป็นมนุษย์ของกันและกัน ในทางกลับกัน ความรักใดๆ ก็อาจเป็นอันตรายได้ หากเป็นความรักที่ไม่เคารพความเป็นมนุษย์หรือความรักที่นำไปสู่การละเมิดเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเองและคนอื่น</p>
<p><strong>ดังนั้น ในมุมมองปรัชญาสายคานท์ ความรักคืออาการป่วยอย่างหนึ่ง หากเป็นความรักที่ไม่เคารพความเป็นมนุษย์ เช่น ความรักพระเจ้า ธรรมะ รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ฯลฯ แล้วปกป้องสิ่งที่เรารัก ด้วยการใช้ความรุนแรงและกฎหมายอยุติธรรมต่อคนที่คิดต่าง</strong></p>
<p>กลับมาที่มุมมองแบบพุทธปรัชญา เมื่อเราใช้ “ความเป็นพุทธะ” อันเป็นธรรมชาติที่มี “อิสรภาพ” โดยพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ของเราไปสัมพันธ์กับคนอื่นๆ ก็คือการที่เราใช้อิสรภาพทางปัญญาและกรุณาในความสัมพันธ์กับคนอื่นๆ และ/หรือมนุษยชาติ </p>
<p>ปัญญาคือความเข้าใจตามเป็นจริงว่า ในความเป็นมนุษย์ของเราทุกคนมีความเป็นพุทธะเป็นอิสรภาพพื้นฐาน และเข้าใจตามเป็นจริงด้วยว่าในฐานะที่เป็นมนุษย์เราต่างก็มีอารมณ์ความรู้สึกสุข ทุกข์ สมหวังผิดหวัง เห็นแก่คนอื่น และเห็นแก่ตัว มีความเข้มแข็งและเปราะบาง ฯลฯ ปัญญาที่เข้าใจความจริงเช่นนี้ จะทำให้เรามีจิตใจกรุณา คือมีความเห็นอกเห็นใจและเกื้อกูลกันและกัน ส่วนเมตตาคือความรัก ความปรารถนาดี หรือความเป็นมิตรระหว่างกัน </p>
<p>บทสนทนาในภาพยนตร์เรื่องหนึ่งบอกว่า “เราควรจะเป็นมิตรมากกว่าที่จะเป็นศัตรูกัน เพราะทุกคนต่างก็ดิ้นรน” ความเข้าใจเช่นนี้ไม่จำเป็นว่าต้องมาจากคำสอนศาสนา, ศาสดาผู้สูงส่ง หรือปรัชญาที่ลึกซึ้งใดๆ แต่อาจมาจากจิตใจของคนธรรมดาทั่วๆ ไปที่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในชีวิตประจำวัน ซึ่งอาจไม่ได้ถูกบันทึกในคัมภีร์ หรือวรรณกรรม    </p>
<p>อย่างไรก็ตาม เราไม่ควรสรุปว่าความรักคือ “คำตอบ” มากไปกว่า “คำถาม” บางทีเราจำเป็นต้องตั้งคำถามกับความรักมากขึ้นว่าคืออะไร ถูกสร้างขึ้นอย่างไร และเพื่อใคร หรือความรักนั้นๆ สัมพันธ์กับความเป็นมนุษย์ของเราอย่างไร พ่อ แม่ ครูอาจารย์อ้างได้อย่างสมเหตุสมผลด้วยหรือว่าต้องเผด็จการกับลูกและลูกศิษย์เพราะรักพวกเขา ชนชั้นปกครองอ้างโง่ๆ ได้อย่างไรว่า “รักประชาชนทุกคนเหมือนลูก” ในเมื่อเขาทำทุกวิถีทางเพื่อรักษาอำนาจเผด็จการของตนเอง</p>
<p>อีกคำถามหนึ่งที่เราถามซ้ำๆ มานานคือทำไมผู้คนในสังคมเรามองไม่เห็น “ช้างในห้อง” หรือ “แสร้ง” มองไม่เห็น? ยิ่งกว่านั้น ศาสนจักรและบรรดานักบวชยังประกอบพิธีกรรมบูชาและปิดทองช้างในห้องให้กลายเป็น “ช้างศักดิ์สิทธิ์” ที่ประชาชนต้องกราบกรานขอพึ่งบารมี และให้ประชาชนรักและภักดีต่ออำนาจที่อยู่เหนือเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเอง  </p>
<p>ที่น่าเศร้าคือ ความรักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ถูกสร้างขึ้นหรือปลูกฝังกันมาอย่างไรจึงทำให้สังคมเราตกอยู่ในอาการป่วยมายาวนาน ด้วยการใช้ความรุนแรงและกฎหมายอยุติธรรมปกป้องสิ่งที่เรารัก หรือด้วยความรักและการปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ทำไมเรามองไม่เห็นและไม่เคารพ “ความเป็นมนุษย์” ของนักโทษคดี 112 และคดีอื่นๆ ทางการเมือง ทำไมการนิรโทษกรรมพวกทำรัฐประหารที่อ้างปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์จึงทำได้ง่ายดายครั้งแล้วครั้งเล่า แต่การนิรโทษกรรมประชาชนที่สู้เพื่อเสรีภาพและประชาธิปไตยกลับยากเย็นแสนเข็ญ </p>
<p><strong>นั่นเป็นเพราะความรักชาติ รักศาสนา รักกษัตริย์ที่สังคมเราโหมประโคมทุกช่องทางอย่างต่อเนื่องมายาวนาน ไม่ใช่ “ความรักที่สัมพันธ์กับความเป็นมนุษย์ของเราทุกคน” ใช่หรือไม่ มันจึงไม่ใช่ความรักที่เคารพเสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของเราทุกคน และไม่ใช่ความรักที่เคารพความเป็นพุทธะอันเป็นธรรมชาติพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ของเรา เพราะปัญญาและกรุณาที่มาจากความเป็นพุทธะของเราใม่อนุญาตให้เราใช้ความรุนแรงและกฎหมายที่อยุติธรรมต่อคนคิดต่างแน่ๆ  </strong></p>
<p>บางคนอาจไม่เห็นด้วยที่ผมนำพุทธปรัชญากับปรัชญาสายคานท์มาเปรียบเทียบกัน เพราะทั้งสองแนวคิดต่างกันมาก แต่ผมกลับคิดเหมือนนักปรัชญาอย่างจอห์น รอลส์, ชาร์ลส์ เทย์เลอร์ เป็นต้น ที่มองว่าความคิดทางศาสนาและปรัชญาต่างๆ ในโลกนี้ เช่น เทวนิยม, อเทวนิยม, อไญยนิยม, สุญนิยม, สากลนิยม, สัมพัทธนิยม, สมัยใหม่นิยม, หลังสมัยใหม่นิยม, ปรัชญาคานท์, ประโยชน์นิยม, พุทธปรัชญา, ศาสนาอื่นๆ กระทั่งความเชื่อชนเผ่าต่างๆ แม้จะต่างกันมากในรายละเอียด แต่มีสาระสำคัญที่ “เหลื่อมซ้อน” (overlap) กันอยู่ สังคมมนุษย์ขัดแย้งกันเพราะแทนที่เราจะมองหาแง่มุมที่เหลื่อมซ้อนหรือสอดคล้องไปกันได้ (compatible) แต่กลับเน้นด้านที่แตกต่างมาเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้งและความรุนแรง </p>
<p>ความคิดของประชาชนฝ่ายที่รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์กับฝ่ายที่รักเสรีภาพและประชาธิปไตยก็ย่อมมีแง่มุมที่เหลื่อมซ้อนกันหรือสอดคล้องไปกันได้ โดยเฉพาะในแง่สำคัญที่สุดคือ ทุกฝ่ายต่างก็มี “ความเป็นมนุษย์” เหมือนกัน ปัญหาคือทำอย่างไรจึงจะทำให้ความรักในสิ่งที่ต่างกันนั้นเป็นความรักที่สัมพันธ์เชื่อมโยงหรือเคารพความเป็นมนุษย์ที่มีเหตุผล เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีในตัวเองของเราทุกคน </p>
<p><strong>พูดอย่างถึงที่สุด ในเมื่อความรักไม่ได้เป็นอิสระจากความสัมพันธ์ หรือความสัมพันธ์เป็นสิ่งกำหนดความหมายและคุณค่าของความรัก ดังนั้น ความรักแบบใดๆ ที่ไม่สัมพันธ์กับความเป็นมนุษย์ ไม่เคารพความเป็นมนุษย์ที่มีเหตุผล เสรีภาพ ความเสมอภาค และศักดิ์ศรีในตัวเอง หรือไม่เคารพความเป็นมนุษย์ที่มีความเป็นพุทธะที่ใช้ปัญญาและกรุณาเชื่อมโยงให้เราเกื้อกูลกันและกัน ความรักนั้นๆ ก็คืออาการป่วยที่กลับมาทำร้ายตัวเราเอง และทำร้ายกันและกัน ดังที่เป็นมาและเป็นอยู่ </strong></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทคhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108066
 
1570  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - "ชาดา" ฉุนกึก! สส.โรม ยกภาพคู่กลุ่ม ศปปส. ลุกกร้าว อยู่เบื้องหลังจริงมันส์กว่าน เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 20:02:00
"ชาดา" ฉุนกึก! สส.โรม ยกภาพคู่กลุ่ม ศปปส. ลุกกร้าว อยู่เบื้องหลังจริงมันส์กว่านี้!
         


&quot;ชาดา&quot; ฉุนกึก! สส.โรม ยกภาพคู่กลุ่ม ศปปส. ลุกกร้าว อยู่เบื้องหลังจริงมันส์กว่านี้!" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;“ชาดา ” โมโห “โรม” ยกภาพ คู่กลุ่ม ศปปส.อ้างปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินจริง ถามจะสร้างความปลอดภัยได้อย่างไร เมื่อรัฐสร้างผีขึ้นมาเอง รีบลุกโต้เสียงสั่น ถ้าอยู่เบื้องหลังจริงมันกว่านี้ ลั่นอย่ามาเล่นใต้ดิน ยืนยันประเทศมีขบวนการล้มเจ้า ไล่รับไม่ได้ไปอยู่ประเทศอื่น
         

https://www.sanook.com/news/9231622/
         
1571  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'คนหนุ่มสาว' และการมีส่วนร่วมกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน' เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 19:02:43
'คนหนุ่มสาว' และการมีส่วนร่วมกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน'
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 17:11</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้จัดทำข้อมูลชี้วัดใหม่เกี่ยวกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน' (Work-Based Learning : WBL) และอาชีวศึกษา โดยนำเสนอข้อมูลเชิงสถิติเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของคนหนุ่มสาวจาก WBL รวมถึงการฝึกหัดอาชีพ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/49849588847_879291aad4_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Marcel Crozet/ILO</span></p>
<p>การเรียนรู้จากการทำงาน (WBL) มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะของคนทำงานให้สอดคล้องกับตลาดแรงงานที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยไม่ใช่แค่เส้นทางสำหรับคนหนุ่มสาวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงแรงงานในวัยอื่น ๆ ที่ต้องการยกระดับทักษะ (up-skill) หรือพัฒนาทักษะใหม่ (re-skill) อีกด้วย การส่งเสริมและเพิ่มโอกาสการเข้าถึงการฝึกหัดงานและการฝึกอบรมจากการทำงานอื่น ๆ สามารถช่วยลดอัตราการว่างงานของคนหนุ่มสาว, อำนวยความสะดวกในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ตลาดแรงงาน, เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการแข่งขันขององค์กร และช่วยให้แรงงานพัฒนาทักษะที่จำเป็นในโลกของการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว</p>
<p>เมื่อเร็ว ๆ นี้ ในการประชุมขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ได้รับรอง 'ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208)' ซึ่งเป็นแนวทางโดยละเอียดสำหรับประเทศสมาชิกในการส่งเสริมและกำกับดูแลแรงงานฝึกหัด</p>
<h2><span style="color:#3498db;">คนหนุ่มสาวที่อยู่ระบบการศึกษา การฝึกอบรม และผู้ที่ขาดโอกาส</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/49845919988_a6daac6871_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Marcel Crozet/ILO</span></p>
<p>การศึกษาที่มีคุณภาพและโอกาสเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้คนในสังคม นอกจากนี้ยังเป็นกุญแจสำคัญในการเปลี่ยนผ่านอย่างยุติธรรมไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ อย่างไรก็ตาม ทั่วโลกเพียงมีสัดส่วนคนรุ่นใหม่ (อายุ 15 ถึง 24 ปี) ประมาณครึ่งหนึ่งเท่านั้นที่อยู่ในระบบการศึกษาและการฝึกอบรม</p>
<p>มีความเหลื่อมล้ำอย่างมากระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยอัตราการเข้าร่วมในระบบการศึกษามีตั้งแต่เพียง 20% ไปจนถึงเกือบ 80% ในภูมิภาคต่าง ๆ อัตราการเข้าร่วมสูงสุดอยู่ในยุโรปและเอเชียกลาง คนหนุ่มสาวเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ มากกว่า 66% และต่ำสุดในแอฟริกาที่ 45%</p>
<p>แม้ว่าผู้หญิงวัยรุ่นจะมีแนวโน้มที่จะเรียนหนังสือหรือฝึกอบรมมากกว่าชายวัยรุ่นในทุกภูมิภาค ยกเว้นแอฟริกา แต่สิ่งนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะมีผลลัพธ์ด้านการจ้างงานที่ดีกว่า โดยทั่วโลก มีเพียง 48.6% ของหญิงวัยผู้ใหญ่ (อายุ 25 ปี ขึ้นไป) ที่ทำงานแบบได้รับค่าจ้าง เมื่อเทียบกับ 75.6% ของชายวัยผู้ใหญ่</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53524555673_1a1699d119_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">'อาชีวศึกษา' ยังคงมีคำถาม</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/51062675406_f0bbb2fb72_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Nisreen Bathish/ILO</span></p>
<p>อาชีวศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง แต่ทั่วโลกมีคนหนุ่มสาว (อายุ 15-24 ปี) เพียง 13.6% เท่านั้นที่จบการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษา โดยภูมิภาคที่มีสัดส่วนสูงสุด คือ ยุโรปและเอเชียกลาง ที่ 19.0% และต่ำสุดคือ แอฟริกา ที่ 9.2% ตัวเลขเหล่านี้ยังสะท้อนถึงสัดส่วนของประชากรวัยทำงาน (อายุ 15 ปีขึ้นไป) ที่สำเร็จการศึกษาด้านเทคนิคและอาชีวศึกษาอีกด้วย ซึ่งมีอัตราสูงสุดใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก บรูไนดารุสซาลัม ออสเตรีย และเซอร์เบีย โดยมีประชากรวัยทำงานมากกว่า 50% ที่สำเร็จการศึกษาด้านนี้</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53524843370_c4c596050f_o_d.png" /></p>
<p>ในประเทศส่วนใหญ่ (2 ใน 3 จากทั้งหมด 66 ประเทศ) อาชีวศึกษามีแนวโน้มแพร่หลายมากที่สุดในกลุ่มประชากรที่มีระดับการศึกษาระดับปานกลาง</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53524742439_1f84973fce_o_d.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">การเรียนรู้จากการทำงาน (Work-based learning) </span></h2>
<p>จากข้อมูลของ 85 ประเทศ คนหนุ่มสาวอายุ 15-24 ปี ประมาณ 25 คนจาก 1,000 คน เข้าร่วมโครงการฝึกงานหรือฝึกอบรม (เช่น แรงงานฝึกหัด หรือ นักศึกษาฝึกงาน) อย่างไรก็ตาม ตัวเลขนี้มีความแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ รวมถึงกลุ่มอายุด้วย</p>
<p>สวิตเซอร์แลนด์มีคนหนุ่มสาวมีส่วนร่วมกับ 'การเรียนรู้จากการทำงาน' (Work-based learning) สูงที่สุด (225 คน ต่อ 1,000 คน) รองลงมาคือ เซียร์ราเลโอเน (140 คน ต่อ 1,000 คน) ออสเตรีย (136 คน ต่อ 1,000 คน) และฝรั่งเศส (116 คน ต่อ 1,000 คน)</p>
<p>น่าสังเกตว่าวัยรุ่นชายมีโอกาสมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้จากการทำงานมากกว่าวัยรุ่นหญิงเกือบ 2 เท่า</p>
<p>นอกจากนี้ คำนิยามของการฝึกงานและฝึกอบรมในแต่ละประเทศยังมีความแตกต่างกันมาก ดังนั้นประสบการณ์การเรียนรู้จากการทำงานจริงจึงแตกต่างกันไป  ตั้งแต่การฝึกงานเพียงไม่กี่วันเพื่อสัมผัสกับสถานที่ทำงานจริง ไปจนถึงการฝึกงานในสถานประกอบการในแต่ละภาคเรียน เป็นต้น</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53524768784_3e0d81f320_o_d.png" /></p>
<p>แม้การเรียนรู้จากการทำงาน จะเป็นวิธีสำคัญในการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง แต่ตัวเลขกลับชี้ให้เห็นว่าคนทำงานวัยผู้ใหญ่ (อายุ 15-24 ปี) มีโอกาสเข้าร่วมน้อยกว่าคนหนุ่มสาว โดยมีผู้ใหญ่เพียง 14 คน ต่อคนหนุ่มสาว 1,000 คน เท่านั้นที่มีโอกาสมีส่วนร่วมกับการเรียนรู้จากการทำงาน</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53524469761_80c4275d0a_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">การขาดโอกาสในการเรียนรู้จากการทำงานที่ได้รับค่าตอบแทน</span></h2>
<p>ข้อมูลจาก 31 ประเทศที่แยกประเภทผู้เรียนรู้จากการทำงานระหว่างได้รับค่าตอบแทนและไม่ได้รับค่าตอบแทนในกลุ่มคนหนุ่มสาว (อายุ 15-24 ปี) แสดงให้เห็นว่า ผู้ฝึกงานส่วนใหญ่ในประเทศกำลังพัฒนาไม่ได้รับค่าตอบแทน ตัวอย่างเช่น ในกัมพูชา กานา มาซิโดเนียเหนือ เซียร์ราเลโอเน ติมอร์-เลสเต กินี-บิสซา ยูกันดา และซิมบับเว ผู้เรียนรู้จากการทำงานที่ได้รับค่าตอบแทนน้อยกว่า 10%</p>
<p>ในทางกลับกัน ผู้เรียนรู้จากการทำงานมากกว่า 95% ในออสเตรีย แคเมอรูน สวิตเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักรได้รับค่าตอบแทน</p>
<p>เกณฑ์สำคัญประการหนึ่งตาม 'ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208' คือ การฝึกหัดดังกล่าวต้องรวมถึง "ค่าจ้างหรือค่าตอบแทนทางการเงินอื่น ๆ"</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53523583767_b1dc6e6b98_o_d.png" /></p>
<h2><span style="color:#3498db;">บทสรุป</span></h2>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/51718320322_33cb4bf21f_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Berke Araklı /ILO</span></p>
<p>จาก ข้อแนะนำด้านงานฝึกหัดที่มีคุณภาพปี 2023 (ฉบับที่ 208) ฉบับใหม่ของ ILO และตัวชี้วัดใหม่ ๆ ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปรับปรุงนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่าการเรียนรู้จากการทำงานนั้นมีประสิทธิภาพและครอบคลุม 
 ซึ่งความเหลื่อมล้ำด้านวัยและเพศที่ยังมีอยู่นั้น ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการปฏิรูป</p>
<p>เพื่อลดช่องว่างเหล่านี้ ผู้กำหนดนโยบายควรให้ความสำคัญกับการเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้จากการทำงานอย่างเท่าเทียมกันในทุกกลุ่มประชากร ไม่เพียงแค่ในขั้นตอนการคัดเลือกแต่ตลอดการฝึกอบรม ประเมิน และการเปลี่ยนผ่านสู่การทำงาน สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ต้องการเพิ่มจำนวนหลักสูตรการศึกษาหรือโครงการที่มีอยู่เท่านั้น แต่ยังต้องปรับปรุงนโยบายเพื่อให้แน่ใจว่ามีการเข้าถึงได้อย่างครอบคลุม โดยคำนึงถึงความต้องการของกลุ่มประชากรที่เปราะบาง</p>
<p>ริเริ่มกิจกรรมที่มุ่งเน้นไปที่ชุมชนที่ถูกทอดทิ้ง พื้นที่ชนบท และผู้พิการ ควรได้รับความสำคัญ เพื่อส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ทุกคนมีโอกาสอย่างเท่าเทียมในการมีส่วนร่วมและประสบความสำเร็จในการเรียนรู้จากการทำงาน</p>
<p>นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาการเรียนรู้จากการทำงานโดยไม่ได้รับค่าตอบแทนเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลต้องมีนโยบายที่มั่นใจว่าสถานที่ทำงานสำหรับผู้เรียนมีความปลอดภัย ผู้เรียนได้รับสิทธิและการคุ้มครองทางสังคมเช่นเดียวกับคนทำงานประจำอื่น ๆ และได้รับค่าตอบแทนอย่างยุติธรรม</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
Insights into youth participation in work-based learning (Valentina Stoevska, ILOSTAT, 24 January 2024)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108064
 
1572  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - น่ารักเกินปุยมุ้ย 9 หนุ่ม HEADLINER THAILAND เปิดโหมดละมุน วันวาเลนไทน์ เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 18:56:33
น่ารักเกินปุยมุ้ย 9 หนุ่ม HEADLINER THAILAND เปิดโหมดละมุน วันวาเลนไทน์
         


น่ารักเกินปุยมุ้ย 9 หนุ่ม HEADLINER THAILAND เปิดโหมดละมุน วันวาเลนไทน์" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;น่ารักเกินปุยมุ้ย 9 หนุ่มฮอตจาก HEADLINER THAILAND รวมตัวเปิดโหมดละมุน ต้อนรับวันวาเลนไทน์
         

https://www.sanook.com/news/9231590/
         
1573  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ผู้ร่วมเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนล่าสุด เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 17:32:24
“ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ผู้ร่วมเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชนล่าสุด 32,436 คนแล้ว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 17:03</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชนจัดกิจกรรม “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ปิดแคมเปญล่ารายชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน ล่าสุดมีคนลงชื่อแล้ว 32,436 คน 'ปดิพัทธ์' ให้กำลังใจประชาชนที่ร่วมลงชื่อ และขอให้ทุกฝ่ายสร้างบทสนทนาที่สันติ ไม่ใช่ยุคที่ถือใบอนุญาตฆ่ากัน</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="" frameborder="0" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/-KQSpSrn51w?si=ksIFmG76kVa6-Osq" title="YouTube video player" width="560"></iframe></p>
<p>14 ก.พ.2567 ที่ลานประชาชน หน้ารัฐสภา เกียกกาย เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน จัดงาน “ส่งรักถึงสภา นิรโทษกรรมประชาชน” ซึ่งเป็นกิจกรรมสุดท้ายของการรณรงค์ล่ารายชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมประชาชน  ที่ล่าสุดมีผู้ร่วมลงชื่อแล้ว 32,436 คน</p>
<p>ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ขึ้นกล่าวเปิดกิจกรรม ว่าพลังในการเสนอร่างกฎหมายของประชาชนที่ผ่านมาเหมือนเป็นการทำเป็นเชิงสัญลักษณ์หรือยังสร้างความเปลี่ยนแปลงไม่ได้ แต่ก็อยากบอกว่ากฎหมายภาคประชาชนได้รับการเสนอประกบกับร่างกฎหมายของ สส.ในวาระที่หนึ่ง ก็จะมีตัวแทนของภาคประชาชนเข้าไปร่วมประชุมในวาระที่สอง ซึ่งกระบวนการนี้ก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในการพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมฯ ในขณะนี้</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53528436576_3e87353c15_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ปดิพัทธ์ สันติภาดา</span></p>
<p>รองประธานสภาฯ กล่าวต่อว่า เมื่อมีประชาชนเข้าไปด้วยก็มีตัวแทนประชาชนเข้าไปร่วมถกเถียงในฐานะผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตัวจริง จึงไม่ใช่เพียงแค่ สส.ปิดห้องคุยกันแล้วมานั่งฟังความคิดเห็นของประชาชนไปเป็นไม้ประดับแต่เสียงของประชาชนจะได้ถูกนำไปถกเถียงกันในกรรมาธิการวิสามัญ ตนจึงอยากให้กำลังใจทุกคนที่เสนอร่างกฎหมายเข้ามาแม้ว่าร่างอาจจะถูกดองบ้างหรือถูกตีความว่าเป็นร่างกฎหมายการเงิน หรือว่าไม่ผ่านสภาบ้าง แต่เมื่อก็กฎหมายจากภาคประชาชนได้เสนอเข้าไปประชาชนก็จะได้ร่วมกันใช้อำนาจอธิปไตยในการตรากฎหมายด้วยตัวเอง จึงขอขอบคุณทุกคนที่ร่วมกันลงแรงล่ารายชื่อนี้</p>
<p>ปดิพัทธ์ส่วนเรื่องกรรมาธิการนิรโทษกรรมที่สภาตั้งขึ้นมาแล้วก็คงจะมีภาคส่วนต่างๆ เข้าไปแสดงความเห็นแล้วก็ร่างของภาคประชาชนก็คงจะถูกนำไปถกเถียงในกรรมาธิการเหมือนกัน</p>
<p>ทั้งนี้รองประธานสภาฯ ได้กล่าวถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนที่ยังคงไม่ต่างจากยุครัฐบาลประยุทธ์ และยังได้กล่าวถึงการถกเถียงกันในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรวันนี้ด้วยว่ามีการถกเถียงกันอย่างมาก มีการใช้คำพูดอย่าง “หนักแผ่นดิน” “ล้มล้าง”</p>
<p>“เราไม่เรียนรู้อะไรเลยจากผังล้มเจ้าที่เป็นใบอนุญาตให้ยิงคนตายจำนวนมาก” ปดิพัทธ์กล่าวและเขาได้แสดงความรู้สึกว่าเขารู้สึกเครียดกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ และขอให้นักเคลื่อนไหวได้ช่วยกันสร้างบทสนทนาที่จะสร้างสันติภาพให้ได้ไม่ว่าจะมีความขัดแย้งกันอย่างไรเพราะไม่รู้ว่ากลุ่มผู้มีอำนาจกำลังฝันเห็นถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ กันอยู่หรือไม่</p>
<p>นอจกากนั้นรองประธานสภาฯ ยังได้กล่าวฝากถึงทุกฝ่ายด้วยว่า ไม่ได้อยู่ในยุคที่ถือใบอนุญาตฆ่ากลางเมืองได้แล้ว เพราะฉะนั้นก็อยากให้ช่วยกันใช้พื้นที่ของลานประชาชนเรียกร้องสิ่งที่ต้องการไม่ว่าจะต้องการสิ่งใดด้วย ฝ่ายอนุรักษ์นิยมก็ขอมาใช้ได้เพื่อที่จะได้รับฟังเสียงกันมากขึ้น และทุกกลุ่มก็สามารถมาใช้ได้ไม่ว่าจะมีความคิดเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108063
 
1574  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ฟังแม่ "แจ็ค แฟนฉัน" อวยพรลูกชายลูกสะใภ้ในงานแต่ง ทั้งฮาทั้งซึ้ง! เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 16:23:05
ฟังแม่ "แจ็ค แฟนฉัน" อวยพรลูกชายลูกสะใภ้ในงานแต่ง ทั้งฮาทั้งซึ้ง!
         


ฟังแม่ &quot;แจ็ค แฟนฉัน&quot; อวยพรลูกชายลูกสะใภ้ในงานแต่ง ทั้งฮาทั้งซึ้ง!" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;ฟังแม่ "แจ็ค แฟนฉัน" อวยพรลูกชายลูกสะใภ้ในงานแต่งงาน ทั้งฮาทั้งซึ้ง!
         

https://www.sanook.com/news/9231522/
         
1575  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ศาลอนุญาตฝากขัง 'ตะวัน-แฟรงค์' คดีบีบแตรขบวนเสด็จ ทนายกำลังยื่นขอประกันตัว เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 16:02:19
ศาลอนุญาตฝากขัง 'ตะวัน-แฟรงค์' คดีบีบแตรขบวนเสด็จ ทนายกำลังยื่นขอประกันตัว
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 15:37</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขัง 'ตะวัน-แฟรงค์' 12 วัน ตั้งแต่วันนี้ 14 - 25 ก.พ. 2567 จากคดีบีบแตร #ขบวนเสด็จ ขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอประกันตัวของทนายความ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ดินแดง ที่ขึ้นเบิกความในฐานะผู้ร้องขอฝากขังยอมรับว่ามีการแจ้งข้อกล่าวหา ม.116 เพิ่มกับตะวันและแฟรงค์ในภายหลัง ทั้งที่คดีนี้เคยเป็นเพียงคดีลหุโทษมาก่อนที่จะมีการแจ้ง ม.116</p>
<p> </p>
<p>14 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานเมื่อเวลา 14.30 น. ศาลอาญาอนุญาตให้ฝากขัง "ตะวัน" ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ และ "แฟรงค์" ในข้อหา ม.116, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ จากกรณีบีบแตรขบวนเสด็จ  เป็นระยะเวลา 12 วัน นับตั้งแต่วันนี้ 14 - 25 ก.พ. 2567 ในขณะนี้อยู่ระหว่างยื่นขอประกันตัว</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>ตำรวจแสดงหมายจับหน้าศาลอาญา‘ตะวัน-แฟรง’ คดีบีบแตรขบวนเสด็จ ‘สายน้ำ’ คดีพ่นสีกำแพงวัง</li>
</ul>
</div>
<p>โดยในวันนี้ (14 ก.พ. 2567) เวลา 11.00 น. ทนายความได้รับแจ้งว่า “ตะวัน-แฟรงค์” ได้เดินทางถึงศาลอาญา รัชดาฯ แล้ว โดยตำรวจจะยื่นขอฝากขังทั้ง 2 คน ภายในเช้าวันนี้ และทนายได้เตรียมยื่นคัดค้านการฝากขัง พร้อมทั้งขอไต่สวนการคัดค้านฝากขังแล้ว</p>
<p>เวลา 12.06 น. การไต่สวนคัดค้านฝากขังของ “ตะวัน - แฟรงค์” เสร็จสิ้นแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. ดินแดงได้ขึ้นเบิกความในฐานะผู้ร้องขอฝากขัง จำนวน 2 ปาก มีข้อเท็จจริงโดยสรุปว่า คดีนี้เคยเป็นคดีลหุโทษมาก่อน ซึ่งเคยขอกับศาลแขวงดุสิต แต่ศาลไม่อนุญาต และเจ้าหน้าที่ตำรวจยอมรับว่าไม่เคยมีการแจ้งม116 กับผู้ต้องหาทั้งสองราย แต่ภายหลังการประชุมก็มีการแจ้งข้อกล่าวหา ม.116 เพิ่มกับตะวันและแฟรงค์ ในภายหลังจริง โดยเป็นการขอออกหมายจับกับศาลอาญา</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108062
 
1576  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ไม่รอลงอาญา คดี ม.112 'วุฒิ' ศาลพิพากษาจำคุก 36 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 12 ปี 72 เดือน เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 14:31:18
ไม่รอลงอาญา คดี ม.112 'วุฒิ' ศาลพิพากษาจำคุก 36 ปี รับสารภาพลดโทษเหลือ 12 ปี 72 เดือน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2024-02-14 13:50</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ศาลอาญามีนบุรีพิพากษาคดี ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ม. 14 (3) ของ “วุฒิ” ให้จำคุก 36 ปี จากการโพสต์จำนวน 12 ข้อความ ในช่วงปี 2564 แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 12 ปี 72 เดือน ไม่รอลงอาญา</p>
<p> </p>
<p>14 ก.พ. 2567 ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนรายงานศาลอาญามีนบุรีมีคำพิพากษาคดี ม.112 และพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 (3) ของ “วุฒิ” (นามสมมติ) ประชาชนอายุ 51 ปี ศาลพิพากษาให้จำคุก 36 ปี จากการโพสต์จำนวน 12 ข้อความ ในช่วงปี 2564 แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงจำคุก 12 ปี 72 เดือน ไม่รอลงอาญา</p>
<p>อย่างไรก็ตาม วุฒิเป็นผู้ต้องขังทางการเมืองที่ถูกคุมขังในชั้นพิจารณาคดีมานานตั้งแต่ปี 2566</p>
<div class="more-story">
<ul>
<li>‘วุฒิ’ กลับคำให้การยอมสารภาพคดีม.112 หลังศาลไม่ให้ประกันตัวมา 241 วัน</li>
</ul>
</div>
<p>ก่อนหน้านี้ ศูนย์ทนายฯ รายงานว่าภายหลังจากถูกฟ้องคดี ศาลอาญามีนบุรีไม่อนุญาตให้ประกันตัววุฒิเรื่อยมา ในคำสั่งไม่ให้ประกันตัวครั้งแรก ศาลอ้างว่าการกระทำที่ถูกฟ้องนั้นเป็นการกระทำหลายครั้งต่อเนื่องกัน โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย คดีมีอัตราโทษสูง หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจำเลยจะหลบหนี</p>
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2024/02/108058
 
1577  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - รมว.ยุติธรรม เผย "ทักษิณ" มีชื่อได้พักโทษ เข้าเกณฑ์เจ็บป่วย-อายุเกิน 70 ปี เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 14:01:16
รมว.ยุติธรรม เผย "ทักษิณ" มีชื่อได้พักโทษ เข้าเกณฑ์เจ็บป่วย-อายุเกิน 70 ปี
         


รมว.ยุติธรรม เผย &quot;ทักษิณ&quot; มีชื่อได้พักโทษ เข้าเกณฑ์เจ็บป่วย-อายุเกิน 70 ปี" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;รมว.ยุติธรรม เผย "ทักษิณ ชินวัตร" มีชื่อได้พักโทษ ชี้เข้าเกณฑ์ป่วยร้ายแรง-อายุเกิน 70 ปี
         

https://www.sanook.com/news/9228918/
         
1578  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "น้องเกล" วันนี้มาสายหวาน ใส่ชุดคู่ "แม่ชม" โพสท่าสู้กล้อง ส่งยิ้มได้น่ารั เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 13:48:28
"น้องเกล" วันนี้มาสายหวาน ใส่ชุดคู่ "แม่ชม" โพสท่าสู้กล้อง ส่งยิ้มได้น่ารักสุดๆ
         


&quot;น้องเกล&quot; วันนี้มาสายหวาน ใส่ชุดคู่ &quot;แม่ชม&quot; โพสท่าสู้กล้อง ส่งยิ้มได้น่ารักสุดๆ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;วาเลนไทน์ปีนี้ น้องเกล ก็มีคู่เหมือนกัน ใส่ชุดโบว์สีชมพูคู่ แม่ชม น่ารักสุดๆ
         

https://www.sanook.com/news/9231438/
         
1579  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - “ฟุตบอลไทย” จากกีฬาสู่การเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น (1) ทำไมทีมฟุตบอลไทยส่วนใหญ่จึ เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 11:28:05
“ฟุตบอลไทย” จากกีฬาสู่การเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น (1) ทำไมทีมฟุตบอลไทยส่วนใหญ่จึงขาดทุน?
 


<span class="submitted-by">Submitted on Tue, 2024-02-13 22:59</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>THE GLOCAL – ท้องถิ่นเคลื่อนโลก</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>วงการฟุตบอลอาชีพไทยนั้นมีเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนอยู่ก็จริง แต่กลับไม่สามารถสร้างธุรกิจที่ทำกำไรมากมายให้กับคนในวงการและนักลงทุนได้ ผลประกอบการของทีมฟุตบอลของไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาวะที่ขาดทุน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามก็ยังมีคนที่ยังอยู่ในวงการนี้ต่อไปหรือแม้แต่อาจจะมีหน้าใหม่เข้ามาอีกด้วย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น?</p>
<div class="note-box">
<p>รายงานตอนที่ 1 จาก 4 ตอน ของรายงานชุดพิเศษ “ฟุตบอลไทย: จาก ‘กีฬา’ สู่ “การเมืองระดับชาติ-ท้องถิ่น” ภายใต้โครงการสื่อเสริมสร้างธรรมาภิบาลท้องถิ่น [ท้องถิ่นสร้าง สื่อสอบ] สำรวจสถานะทางการเงินและเศรษฐกิจของวงการฟุตบอลไทยทั่วประเทศ ทั้งในเมืองหลวงและต่างจังหวัด</p>
</div>
<p>การลงทุนสร้างสโมสรฟุตบอลในไทยลีก ตั้งแต่ T1 (Tier 1) ถึง T4 (Tier 4) จำนวน 122 ทีม [
ณ ช่วงปี 2561] มีเม็ดเงินรวมกันมากกว่า 5,000 ล้านบาทในแต่ละปี และเป็นที่รับทราบกันว่าสโมสรเกือบทั้งหมด มีผลประกอบการขาดทุน ถ้าเป็นธุรกิจอื่น ๆ คงเลิกกิจการกันไปมากกว่าครึ่งแล้ว แต่สำหรับกิจการที่เรียกว่าฟุตบอลอาชีพ ผู้บริหารสโมสรทุกสโมสรยังคงมีหัวใจสู้อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แม้จะขาดทุนและเจ็บปวดแค่ไหนก็ยังสู้ และทำต่อไปด้วยความรัก ทั้งรักฟุตบอล รักบ้านเกิด และมีความหวังที่อยากเห็นฟุตบอลไทยเติบโตก้าวหน้าต่อไป - เนวิน ชิดชอบ</p>

<p>'เนวิน ชิดชอบ' ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด นักการเมืองใหญ่จากบุรีรัมย์ที่หันมาเอาดีทางด้านการทำทีมฟุตบอลได้เคยกล่าวเอาไว้ เช่นนั้น เมื่อช่วงปี 2561 หลังธุรกิจสโมสรฟุตบอลในไทยเริ่มส่งสัญญาณ "ขาลง" ทั้งที่ทศวรรษก่อนหน้านี้ (ทศวรรษ 2550) เพิ่งเกิดจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้การทำสโมสรฟุตบอลเป็นธุรกิจที่น่าจับตา จึงเกิดคำถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับวงการฟุตบอลไทย</p>
<p>นับตั้งแต่ยุคทศวรรษ 2560 เป็นต้นมา จำนวนผู้เข้าชมในสนามฟุตบอลได้ลดลงอย่างชัดเจน จากการเปรียบเทียบกับช่วงทศวรรษที่ 2550 (ข้อมูลระหว่างฤดูกาล 2552-2559) พบว่าแฟนบอลไทยเข้าชมการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดของประเทศเฉลี่ยนัดละ 5,131 คน ล่วงมาทศวรรษที่ 2560 (ข้อมูลระหว่างฤดูกาล 2560-2565/66) ตัวเลขนี้ลดลงเหลือ 4,150 คน แม้ว่าจะตัดตัวเลขช่วงโดนผลกระทบโควิด-19 โดยพิจารณาแค่ตัวเลขเฉลี่ยฤดูกาล 2560 กับ 2561 ก็เหลือแค่ 4,604 คน กับ 4,466 คน ซึ่งยังสู้ค่าเฉลี่ยช่วงทศวรรษ 2550 ที่ทะลุห้าพันคนไปแล้วไม่ได้</p>
<p>และหากเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลลีกสูงสุดในทวีปเอเชียด้วยกัน ค่าเฉลี่ยต่อนัดในฤดูกาล 2566/67 ของไทย (4,486 คนต่อนัด) นั้นอยู่ในอันดับที่ 12 ของเอเชีย ซึ่งประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงอย่างมาเลเซีย (5,238 คนต่อนัด) อินโดนีเซีย (5,795 คนต่อนัด) และเวียดนาม (6,675 คนต่อนัด) ต่างก็แซงไทยไปหมดแล้ว</p>
<div class="note-box">
<p><span style="color:#000000;"><strong>ตารางที่ 1. ยอดผู้ชมในสนามเฉลี่ยแต่ละนัดของการแข่งขันฟุตบอลลีกในเอเชียฤดูกาล 2023 หรือฤดูกาล 2023/24 (ข้อมูล ณ เดือนธันวาคม 2023)</strong></span></p>
<p>การแข่งขันฟุตบอลลีก (ประเทศ/เขตการปกครอง) / ยอดผู้ชมในสนามเฉลี่ยแต่ละนัด (คน)
1. Chinese Super League (จีน) 19,873 คน
2. J.League (ญี่ปุ่น) 18,993 คน
3. Indian Super League (อินเดีย) 12,266 คน
4. K League (เกาหลีใต้) 10,679 คน
5. Persian Gulf Pro League (อิหร่าน) 10,213 คน
6. Saudi Pro League (ซาอุดิอาระเบีย) 8,635 คน
7. A-League (ออสเตรเลีย) 8,038 คน
8. V.League (เวียดนาม) 6,675 คน
9. Liga 1 (อินโดนีเซีย) 5,795 คน
10. Malaysia Super League (มาเลเซีย) 5,238 คน
11. Uzbekistan Super League (อุซเบกิสถาน) 4,570 คน
12. Thai League (ไทย) 4,486 คน
13. Tajikistan Higher League (ทาจีกิสถาน) 2,928 คน
14. Cambodian Premier League (กัมพูชา) 2,139 คน
15. Hong Kong Premier League (ฮ่องกง) 674 คน</p>
<p>ที่มา: Reddit/IndianFootball เรียบเรียงข้อมูลจาก Wikipedia และ worldfootball.net ณ เดือนธันวาคม 2023</p>
</div>
<p>ในด้านผลประกอบการ ดังเช่นที่เนวินเคยกล่าวไปว่าสโมสรเกือบทั้งหมดมีผลประกอบการขาดทุน ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจสโมสรฟุตบอลขาดทุนมีดังนี้ </p>
<p><strong>1. ต้นทุนที่สูง</strong> ธุรกิจฟุตบอลมีต้นทุนที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าเหนื่อยนักเตะ ค่าจ้างโค้ช ค่าเช่าสนาม ค่าเดินทาง ค่าจัดการแข่งขัน และอื่น ๆ ต้นทุนเหล่านี้อาจทำให้สโมสรขาดทุนได้หากสโมสรไม่สามารถสร้างรายได้ให้เพียงพอ</p>
<p><strong>2. ไม่มีประสิทธิภาพในการหารายได้</strong> รายได้ของสโมสรฟุตบอลส่วนใหญ่มาจากค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน การขายของที่ระลึก รายได้จากผู้สนับสนุน และค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ซึ่งหากสโมสรไม่มีประสิทธิภาพในการหารายได้เหล่านี้ได้เพียงพอก็มักจะขาดทุน</p>
<p><strong>3. การบริหารที่ผิดพลาด</strong> การบริหารที่ผิดพลาดก็เป็นปัจจัยที่ทำให้สโมสรขาดทุนได้ เช่น การใช้จ่ายเงินเกินตัว การขาดการวางแผนระยะยาว หรือผิดพลาดในการตัดสินใจต่าง ๆ เป็นต้น</p>
<p>เป็นที่ทราบกันดีว่าการทำสโมสรฟุตบอลฟุตบอลในไทยมีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อพิจารณาข้อมูลงบการเงินปี 2565 ของนิติบุคคลสโมสรฟุตบอลที่อยู่ในการแข่งขันไทยลีก 1 ฤดูกาล 2565/66 พบว่าในรอบปี 2565 นั้นมีรายจ่ายตั้งแต่กว่า 14 ล้านบาท ไปจนถึงกว่า 460 ล้านบาทเลยทีเดียว</p>
<p>นอกจากนี้ยังพบว่ามีเพียง 4 สโมสรจากทั้งหมด 16 สโมสรเท่านั้นที่ทำกำไรได้ คือ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด, บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, พีที ประจวบ และเชียงราย ยูไนเต็ด แต่ตัวเลขกำไรก็อยู่ที่ประมาณ 6 ล้านบาท ถึงกว่า 48 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งหากเมื่อเปรียบเทียบกับตัวเลขทีมที่ขาดทุนอีก 12 ทีมนั้นอยู่ที่ระหว่าง 1.7 ล้านบาท ถึง 280 ล้านบาทเลยทีเดียว</p>
<p> </p>
<table class="MsoTableGrid" style="border-collapse:collapse;border:1pt solid windowtext;width:560pt;" width="614">
<tbody>
<tr>
<td colspan="5">
<p><strong>ตารางที่ 2. ข้อมูลงบการเงินปี 2565 ของนิติบุคคลสโมสรฟุตบอลที่อยู่ในการแข่งขันไทยลีก 1 ฤดูกาล 2565/66</strong></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>สโมสร</p>
</td>
<td>
<p>ชื่อนิติบุคคล</p>
</td>
<td>
<p>รายได้รวม (บาท)</p>
</td>
<td>
<p>รายจ่ายรวม (บาท)</p>
</td>
<td>
<p>กำไร(ขาดทุน) สุทธิ (บาท)</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">512,996,059.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">461,504,671.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">48,683,204.00</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>เชียงราย ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท เชียงราย ยูไนเต็ด คลับ จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">103,464,077.92</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">89,325,066.34</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">14,053,584.58</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>พีที ประจวบ</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สโมสรฟุตบอล พีที ประจวบ เอฟซี จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">104,490,868.28</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">96,972,531.71</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">6,013,251.37</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>บีจี ปทุม ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท บีจี สปอร์ตส์ จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">376,905,937.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">368,777,390.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">4,512,863.00</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>หนองบัว พิชญ</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สโมสรหนองบัวลำภู เอฟซี จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">8,236,976.98</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">9,972,406.76</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-1,735,429.78</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ลำปาง</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สโมสรฟุตบอลลำปางเอฟซี จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">3,066,563.29</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">14,470,219.99</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-11,403,656.70</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>นครราชสีมา มาสด้า</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท โคราช ยูไนเต็ด จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">58,975,325.51</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">70,289,351.78</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-12,511,460.08</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ขอนแก่น ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สโมสรขอนแก่นยูไนเต็ด จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">29,552,884.60</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">47,503,940.11</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-17,951,055.51</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ชลบุรี</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท ชลบุรี เอฟ.ซี. จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">84,033,687.21</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">105,246,635.31</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-21,795,704.15</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>สุโขทัย</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สุโขทัยฟุตบอลคลับ จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">49,813,316.63</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">72,409,407.64</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-22,687,816.65</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ลำพูน วอร์ริเออร์</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท สโมสรฟุตบอลลำพูน จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">13,190,595.76</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">38,615,272.68</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-25,424,676.92</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>โปลิศ เทโร</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท ดาวเงิน เอฟซี จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">41,622,595.71</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">62,894,456.92</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-25,831,024.67</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ราชบุรี</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท ราชบุรี เอฟ.ซี. จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">52,614,964.26</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">83,180,786.80</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-30,565,822.54</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>การท่าเรือ</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท การท่าเรือ เอฟ.ซี. จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">266,609,751.39</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">314,868,429.87</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-48,258,678.48</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>เมืองทอง ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท เมืองทอง ยูไนเต็ด จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">180,783,946.74</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">211,037,394.19</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-56,557,354.91</span></p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด</p>
</td>
<td>
<p>บริษัท ทรู ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ จำกัด</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">168,021,822.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;">433,495,409.00</p>
</td>
<td>
<p style="text-align: right;"><span style="color:#2c3e50;">-283,297,450.00</span></p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p><span style="color:#f39c12;">ที่มา: เรียบเรียงข้อมูลจากเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (เข้าถึงข้อมูลเมื่อ 12 ธันวาคม 2566)</span></p>
<p> </p>
<div class="more-story">
<p>เคว้งคว้างอยู่กลางเมืองใหญ่ด้วยสถานะของ ‘คนไร้บ้าน’, 10 ก.พ. 2567</p>
<p>สภาเด็กและเยาวชน? อะไร อย่างไร ทำไมไม่รู้ [ส่งเสริมวิถีประชาธิปไตยด้วยนะ รู้ยัง], 10 ก.พ. 2567</p>
<p>แม่ญิงสิเล่นการเมือง: ข้ามพ้นมายาคติทางเพศเพื่อสร้างพื้นที่ของผู้หญิงในภาคเหนือ, 27 ธ.ค. 2566</p>
</div>
<h3><span style="color:#2980b9;">ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับนักฟุตบอลที่เพิ่มขึ้น</span></h3>
<p>ดังที่กล่าวไปว่าค่าใช้จ่ายที่เกินตัว เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้สโมสรฟุตบอลไทยส่วนใหญ่ขาดทุน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับนักฟุตบอลไม่ว่าจะเป็นการซื้อตัว ค่าเซ็นต์สัญญา และค่าจ้าง ถือเป็นรายจ่ายสำคัญของแต่ละทีมเนื่องจากปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ประสบผลสำเร็จของกีฬาชนิดนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของนักฟุตบอลในทีม</p>
<p>จากการวิเคราะห์โดยศูนย์วิจัย EIC ธนาคารไทยพาณิชย์ เมื่อปี 2562 ระบุว่ามูลค่านักฟุตบอลไทยลีกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นและมักจะอยู่ในทีมที่มีอันดับที่ดี โดยมูลค่านักฟุตบอลชาวไทยในปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.16 แสนยูโร (ประมาณ 4 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่อยู่ที่ 9.97 หมื่นยูโร (ประมาณ 3.4 ล้านบาท) คิดเป็นการเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 16.3% ต่อปี ขณะที่มูลค่านักฟุตบอลชาวต่างชาติ (ไม่รวมชาติอาเซียน) ในปี 2562 เฉลี่ยอยู่ที่ 4.52 แสนยูโร (ประมาณ 15.6 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากปี 2558 ที่อยู่ที่ 3.61 แสนยูโร (ประมาณ 12.5 ล้านบาท) คิดเป็นการเพิ่มขึ้น 25.1% นอกจากนี้ค่าเฉลี่ยของการเลือกใช้นักฟุตบอลของทีมในไทยลีกมีลักษณะที่เปลี่ยนไป จากที่ทีมมักจะมีนักฟุตบอลที่แพงเกินคนอื่น ๆ ในทีมไม่กี่คน กลายมาเป็นลักษณะที่ทีมจะมีนักฟุตบอลที่มีมูลค่าใกล้เคียงกันมากขึ้นโดยเฉลี่ย ทำให้แต่ละทีมต้องใช้เงินลงทุนกับนักฟุตบอลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในการไล่ตามความสำเร็จ</p>
<p>Transfermarkt เว็บไซต์เกี่ยวกับตัวเลขสถิติในวงการฟุตบอล ได้ประมาณการต้นทุนค่าจ้างนักฟุตบอล 12 ทีมจากทั้งหมด 16 ทีม ในการแข่งขันไทยลีก ฤดูกาล 2565/66 พบว่าแต่ละทีมมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 52 ล้านกว่าบาท ถึง 166 ล้านกว่าบาท ส่วน Economic Research Institute (ERI) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่สำรวจและรวบรวมข้อมูลเงินเดือน ค่าครองชีพสำหรับภาคอุตสาหกรรม ได้ประเมินฐานรายได้นักฟุตบอลในไทยปี 2566 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 450,029 บาทต่อเดือน</p>
<h3><span style="color:#2980b9;">ฟองสบู่มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด</span></h3>
<p>เมื่อพิจารณาในด้านรายได้ นอกจากค่าตั๋วเข้าชมการแข่งขัน การขายของที่ระลึก และรายได้จากผู้สนับสนุนแล้ว ครั้งหนึ่ง ‘ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด’ เคยเป็นความหวังว่าจะช่วยให้ทีมฟุตบอลไทยมีกำไร โดยใช้ตัวอย่างการขายลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจากต่างประเทศโดยเฉพาะฟุตบอลอังกฤษ ทั้งนี้ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยที่เคยพุ่งขึ้นไปแตะถึงระดับ 1,000 ล้านบาท (รวมถึงมีการปั่นกระแสข่าวว่าจะมีการทุ่มซื้อวงเงิน 12,000 ล้านบาท แบ่งจ่าย 8 ปี) แต่ราคากลับลดฮวบลงมาเหลือเพียงประมาณ 50 ล้านบาท</p>
<p>ทั้งนี้มิใช่ว่าคนไทยจะไม่นิยมดูการถ่ายทอดสดการแข่งขัน เพราะในฤดูกาล 2564/65 มีการสำรวจเรตติ้งผู้ชมฟุตบอล พบว่าไทยลีกถือเป็นอันดับ 1 มีค่าเฉลี่ยเรตติ้งสูงสุดอยู่ที่ 0.887 ตามมาด้วยอันดับ 2 พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 0.792 และอันดับ 3 บุนเดสลีกาเยอรมนี 0.527 ส่วนในฤดูกาลฤดูกาล 2565/66 ทั้งถ่ายทอดสดและย้อนหลัง มียอดคนดูมากถึง 11.66 ล้านคน และยอดวิวรวม 1,001,352,000 วิว สูงสุดเป็นประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีก แต่ต่อมาคือฤดูกาล 2566/67 กลับมีการเสนอราคาลิขสิทธิ์ถ่ายทดสดเหลือเพียงแค่ 50 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งท้ายสุดก็ไม่มีใครกล้าสู้ราคานี้ จนสมาคมฟุตบอลให้สโมสรในไทยลีกเป็นผู้นำสัญญาณไปถ่ายทอดในช่องทางของสโมสรเอง จึงมีคำถามที่ว่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยในอดีตอาจมีมูลค่าสูงจริงเกินจริง และ ‘ปรากฏการณ์ฟองสบู่’ นี้ก็ได้แตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว</p>
<div class="note-box">
<p><span style="color:#000000;"><strong>ตารางที่ 3: มูลค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลไทยลีกฤดูกาล 2554 - 2566/67</strong></span></p>
<p>ฤดูกาล 2554-2556 ค่าลิขสิทธิ์ 600 ล้านบาท (3 ฤดูกาล เฉลี่ยฤดูกาลละ 200 ล้านบาท)</p>
<p>ฤดูกาล 2557-2559 ค่าลิขสิทธิ์ 1,800 ล้านบาท (3 ฤดูกาล เฉลี่ยฤดูกาลละ 600 ล้านบาท)</p>
<p>ฤดูกาล 2560-2563 ค่าลิขสิทธิ์ 4,200 ล้านบาท (4 ฤดูกาล เฉลี่ยฤดูกาลละ 1,050 ล้านบาท)</p>
<p>ฤดูกาล 2564/65 ค่าลิขสิทธิ์ 800 ล้านบาท</p>
<p>ฤดูกาล 2565/66 ไม่มีการเปิดเผยค่าลิขสิทธิ์</p>
<p>ฤดูกาล 2566/67 มีการเสนอราคาที่ 50 ล้านบาท แต่ท้ายสุดให้แต่ละสโมสรถ่ายทอดสดเอง</p>
<p>ที่มา: รวบรวมจากขอบสนามและ Brand Inside</p>
</div>
<h3><span style="color:#2980b9;">ช่องว่างระหว่างทีมเล็กกับทีมใหญ่</span></h3>
<p>จากตัวอย่างที่ยกมา จึงน่าเป็นห่วงว่าธุรกิจฟุตบอลไทยนั้นอาจกำลังเดินไปในทิศทางที่ผิด เพราะในปัจจุบันมีทีมใหญ่ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านการแข่งขันและผลประกอบการไม่กี่ทีม ส่วนทีมเล็ก ๆ ที่ต้องเผชิญกับภาวะขาดทุนอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งไม่ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน ก็ได้แต่หวาดผวาว่า ‘นายทุนของสโมสร’ (ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเมืองทั้งระดับชาติและท้องถิ่น) จะถอดใจและเลิกทำทีมเมื่อใด</p>
<p>จากข้อมูลงบการเงินปี 2565 ของนิติบุคคลสโมสรฟุตบอลที่อยู่ในการแข่งขันไทยลีก 1 ฤดูกาล 2565/66 พบว่าจากทั้งหมด 16 สโมสร ส่วนใหญ่ (10 ทีม) มีรายได้ไม่ถึงหลักร้อยล้านบาท ส่วนอีก 6 สโมสรที่มีรายได้หลักร้อยล้านบาทนั้นมี 2 เพียงสโมสรเท่านั้นที่มีรายได้ถึง 400 ล้านบาท</p>
<p>ข้อมูลนี้สอดคล้องกับคำกล่าวของ มิตติ ติยะไพรัช ประธานที่ปรึกษาสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด ทีมที่เคยได้แชมป์ลีกสูงสุด (ไทยลีก ฤดูกาล 2562 ) ทีมแรกของภาคเหนือ ที่เคยกล่าวไว้ว่า “วงการฟุตบอลไทยนั้น ช่องว่างระหว่างทีมเล็กกับทีมใหญ่กำลังห่างมากขึ้นในทุกปี”</p>
<p>ส่วนคนเคยทำทีมเล็ก ๆ ในระดับภูมิภาคอย่าง ชูเกียรติ หนูสลุง อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทยและอดีตประธานสโมสรมาแชร์ ชัยภูมิ (ซึ่งได้ยุติการทำทีมไปเมื่อ 2 ฤดูกาลที่แล้ว) ได้ออกมาเปิดเผยว่าการทำทีมในไทยลีก 3 ตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากลำบาก และถึงกับเสนอให้ฟุตบอลไทยในระดับภูมิภาคกลับไปเป็นแบบลีกสมัครเล่นที่ภาครัฐสามารถสนับสนุนได้อีกครั้ง</p>
<p>“ผมอยากฝากไปถึงสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ถ้าไทยลีก 3 ยังเป็นแบบนี้ เงินมีบ้างไม่มีบ้าง ก็คงยากที่จะเปรี้ยงปร้างเหมือนเดิม ถ้ามันไปไม่ไหวจริง ๆ ไทยลีก 3 ก็ควรจะกลับมาเป็นลีกสมัครเล่นที่ภาครัฐสามารถสนับสนุนได้ โอกาสอยู่รอดถึงจะมี แต่ถ้าเป็นนิติบุคคลแบบนี้ อนาคตไม่สดใสแน่” ชูเกียรติ กล่าวไว้กับสื่อ สยามสปอร์ต เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา</p>
<h3><span style="color:#2980b9;">ย้อนดู ‘ทศวรรษ 2550’ ยุคทองฟุตบอลไทย</span></h3>
<p>การแข่งขันฟุตบอลในไทยมีประวัติความเป็นมายาวนานเกิน 100 ปี ผ่านเหตุการณ์ทางการเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสำคัญ ๆ มาอย่างยาวนาน โดยสามารถแบ่งวิวัฒนาการฟุตบอลไทยคร่าว ๆ ได้เป็น 5 ยุค ได้แก่ ยุคที่ 1 ยุคแรกเริ่มภายใต้รัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (พ.ศ. 2443-2475) ยุคที่ 2 ยุคสองฟุตบอลสมัครเล่น (2475-2538) ยุคที่ 3 ยุคฟุตบอลสมัครเล่นสู่ลีกกึ่งอาชีพ (2539-2551) ยุคที่ 4 ยุคฟุตบอลอาชีพภายใต้การเป็นธุรกิจ (2552-2562) และ ยุคที่ 5 ยุคหลังโควิด-19 (ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา)</p>
<p>อาจจะกล่าวได้ว่าวงการฟุตบอลไทยเกิดจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในช่วงรอยต่อยุคที่ 3 และ 4 (ในช่วงปลายฟุตบอลสมัครเล่นสู่ลีกกึ่งอาชีพก้าวเข้าสู่ยุคฟุตบอลอาชีพภายใต้การเป็นธุรกิจ) โดยมีปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงคือ ‘การควบรวมลีก’ และ ‘การยกระดับฟุตบอลเป็นฟุตบอลอาชีพและการกดดันจาก AFC’</p>
<p>การควบรวมลีก การแข่งขันฟุตบอลก็มีประวัติยาวนานกว่า 100 ปี ตั้งแต่ปี 2443 และล้มลุกคลุกคลานมาจนมาถึงปี 2539 ได้มีการจัดการแข่งขันฟุตบอลอาชีพที่ใช้ระบบลีกเป็นครั้งแรก มีชื่อที่เปลี่ยนหลายครั้งตั้งแต่ ‘ไทยแลนด์ซอกเกอร์ลีก’ (Thailand Soccer League), ‘ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก’ (Thailand Premier League) ‘ไทยพรีเมียร์ลีก’ (Thai Premier League) จนมาถึง ‘ไทยลีก’ (Thai League) ในอดีตสโมสรฟุตบอลอาชีพมักกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล จนในปี 2542 การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้จัดแข่งขันฟุตบอลอาชีพระบบลีกในส่วนภูมิภาค โดยให้ชื่อว่า ‘โปรวินเชียลลีก’ (Provincial League) ในปี 2545 เปลี่ยนชื่อเป็น ‘โปรเฟสชันนัลลีก’ (Professional League) ต่อมาในปี 2549 สโมสรฟุตบอลชลบุรี และสโมสรฟุตบอลสุพรรณบุรี จากโปรเฟสชันนัลลีกได้เข้าร่วมแข่งในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก และในฤดูกาลปี 2550 ก็มีการควบรวม 'โปรเฟสชันนัลลีก' เข้ากับการแข่งขัน 'ไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก' และ 'ไทยลีกดิวิชัน 1' แทน</p>
<p>การยกระดับฟุตบอลเป็นฟุตบอลอาชีพและการกดดันจาก AFC ในปี 2551 สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (Asian Football Confederation หรือ AFC) ออกระเบียบว่าด้วยความเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างสมบูรณ์แบบ เป็นผลให้สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ต้องดำเนินการจัดตั้งนิติบุคคลเพื่อบริหารลีกและจัดการแข่งขันแทนที่ โดยได้มีการจัดตั้ง 'บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด' ขึ้น (ปัจจุบันคือบริษัท ไทยลีก จำกัด) และออกระเบียบให้ผู้บริหารสโมสรฟุตบอลอาชีพต้องจัดตั้งในรูปนิติบุคคล (บริษัท) เพื่อดำเนินการบริหารสโมสร</p>
<p>ช่วงทศวรรษ 2550 (พ.ศ.2550-2559) ถือว่าเป็นยุคทองของฟุตบอลไทยโดยแท้ ฟุตบอลไทยได้รับความสนใจเป็นอย่างมากเมื่อพิจารณาในปริมาณคนดู ในอดีตจวบจนถึงฤดูกาล 2551 มีเพียงบางสโมสรเท่านั้นที่มีผู้ชมจำนวนอยู่ในหลักพันคน ก็ได้เกิดปรากฏการณ์เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดระหว่างฤดูกาล 2552 ที่ในช่วงต้นฤดูกาล (มีนาคม -มิถุนายน) ยังมีผู้ชมเพียงเฉลี่ยนัดละ 1,936 คน ขณะที่ปลายฤดูกาล (กันยายน - ตุลาคม) ยอดผู้ชมพุ่งสูงขึ้นเป็นเฉลี่ยนัดละ 4,904 คน ทั้งนี้ตลอดช่วงทศวรรษ 2550 กระแสความนิยมฟุตบอลไทยพุ่งถึงจุดสูงสุดในฤดูกาล 2558 เมื่อการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก มียอดคนดูสูงสุดเท่าที่มีการเก็บข้อมูลมา (ฤดูกาล 2552 ถึง 2565-66) คือมีจำนวนผู้เข้าชมรวมทั้งฤดูกาลที่ 1,926,278 คน เฉลี่ยที่ 6,295 คนต่อนัด</p>
<p><span style="color:#000000;"><strong>ตารางที่ 4. จำนวนผู้ชมฟุตบอลลีกสูงสุดของไทย ฤดูกาล 2552 ถึง 2565/66</strong></span></p>
<table>
<tbody>
<tr>
<td>
<p>ฤดูกาล</p>
</td>
<td>
<p>จำนวนทีม</p>
</td>
<td>
<p>ยอดผู้ชมรวมทั้งฤดูกาล
(คน)</p>
</td>
<td>
<p>ยอดผู้ชมเฉลี่ยต่อนัด (คน)</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2552</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>984,000*</p>
</td>
<td>
<p>4,100*</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2553</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,132,057*</p>
</td>
<td>
<p>4,717*</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2554</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,396,584</p>
</td>
<td>
<p>4,564</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2555</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,475,769</p>
</td>
<td>
<p>4,823</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2556</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,657,887</p>
</td>
<td>
<p>6,095</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2557</p>
</td>
<td>
<p>20 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,911,020</p>
</td>
<td>
<p>5,029</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2558</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,926,278</p>
</td>
<td>
<p>6,295</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2559</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,503,600</p>
</td>
<td>
<p>5,428</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2560</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,399,728</p>
</td>
<td>
<p>4,604</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2561</p>
</td>
<td>
<p>18 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,366,497</p>
</td>
<td>
<p>4,466</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2562</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,367,681</p>
</td>
<td>
<p>5,699</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2563/64</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>509,764</p>
</td>
<td>
<p>3,166</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2564/65</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>538,231</p>
</td>
<td>
<p>2,539</p>
</td>
</tr>
<tr>
<td>
<p>ไทยลีก ฤดูกาล 2565/66</p>
</td>
<td>
<p>16 ทีม</p>
</td>
<td>
<p>1,063,328</p>
</td>
<td>
<p>4,431</p>
</td>
</tr>
</tbody>
</table>
<p><span style="color:#f39c12;">หมายเหตุ * สถิติผู้ชมไทยพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2552 และ 2553 เป็นค่าประมาณการ
ที่มา: เรียบเรียงข้อมูลจาก Wikipedia และ Positioning Magazine</span></p>
<p>จากทั้งหมดที่กล่าวมาคงจะช่วยอธิบายได้ส่วนหนึ่งว่า วงการฟุตบอลนั้นมีเม็ดเงินมหาศาลหมุนเวียนอยู่ก็จริง แต่กลับไม่สามารถสร้างธุรกิจที่ทำกำไรมากมายให้กับคนในวงการและนายทุนได้ ผลประกอบการของทีมฟุตบอลของไทยส่วนใหญ่อยู่ในภาวะที่ขาดทุน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามก็ยังมีคนที่ยังอยู่ในวงการนี้ต่อไปหรือแม้แต่อาจจะมีหน้าใหม่เข้ามาอีกด้วย ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
1580  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "น้ำหวาน" โพสท่ายาก! นอนยกขา กระโปรงผ่าสูงถึงเอว เห็นบอดี้แซ่บเต็มเฟรม เมื่อ: 14 กุมภาพันธ์ 2567 11:17:42
"น้ำหวาน" โพสท่ายาก! นอนยกขา กระโปรงผ่าสูงถึงเอว เห็นบอดี้แซ่บเต็มเฟรม
         


&quot;น้ำหวาน&quot; โพสท่ายาก! นอนยกขา กระโปรงผ่าสูงถึงเอว เห็นบอดี้แซ่บเต็มเฟรม" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;"น้ำหวาน รักษ์ณภัค" เปิดโหมดแซ่บเต็ม 10 ไม่หัก โชว์ท่ายากนอนยกขา ท่อนล่างมีแค่ถุงน่อง สวยสะท้านรับวันวาเลนไทน์
         

https://www.sanook.com/news/9231306/
         
หน้า:  1 ... 77 78 [79] 80 81 ... 1118
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.589 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 21 สิงหาคม 2566 04:08:00