จากฟุตบอลนักเรียนศตวรรษก่อน สู่ “จตุรมิตรสามัคคี” โรงละครแห่งศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 16:11</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>การสิ้นสุดลงของวังหน้า การขยายอาณาเขตสนามหลวง และการตัดถนนราชดำเนินเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว มาพร้อมกับภูมิทัศน์แบบสมัยใหม่ใจกลางกรุง ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้เกิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนักเรียนขึ้นเมื่อปี 2444 ครั้งแรกประกอบด้วยทีมทั้งหมด 9 โรงเรียน คือ โรงเรียนแผนที่ (ก่อตั้งปี 2425<a href="#_ftn1" name="_ftnref1" title="" id="_ftnref1">[1][/url]), โรงเรียนสวนกุหลาบ (ไทย), โรงเรียนสวนกุหลาบ (อังกฤษ) (ก่อตั้งปี 2425)<a href="#_ftn2" name="_ftnref2" title="" id="_ftnref2">[2][/url], โรงเรียนวัดมหรรณพาราม) (ก่อตั้งปี 2427<a href="#_ftn3" name="_ftnref3" title="" id="_ftnref3">[3][/url]), โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ (ก่อตั้งปี 2435<a href="#_ftn4" name="_ftnref4" title="" id="_ftnref4">[4][/url]), โรงเรียนกล่อมพิทยากร (ก่อตั้งปี 2435)<a href="#_ftn5" name="_ftnref5" title="" id="_ftnref5">[5][/url], โรงเรียนสายสวลี (ก่อตั้งปี 2437)<a href="#_ftn6" name="_ftnref6" title="" id="_ftnref6">[6][/url] และโรงเรียนราชวิทยาลัย (ก่อตั้งปี 2439<a href="#_ftn7" name="_ftnref7" title="" id="_ftnref7">[7][/url])โรงเรียนราชการ (ก่อตั้งปี ราวปี 2442 <a href="#_ftn8" name="_ftnref8" title="" id="_ftnref8">[8][/url]) โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนสำคัญที่อยู่แวดล้อมกับอำนาจการศึกษาและกลไกการปฏิรูปประเทศ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง ไกลที่สุดก็น่าจะเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัยที่อยู่บริเวณจวนเดิมของสมเด็จเจ้าพระยาบรมศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) แถบฝั่งธนบุรีฝั่งตรงข้ามกับปากคลองตลาด-วัดราชบูรณะ การเล่นฟุตบอลและการแข่งขันถือว่าเป็นหนึ่งในการสร้างความเป็นชายและใช้ขัดเกลาความเป็นสุภาพบุรุษ</p>
<p>สนามแข่งขันรายการฟุตบอลแต่แรกยังไม่มีสนามกลางตายตัว มีการเลือกใช้สนามของโรงเรียนที่ร่วมแข่งขันบางแห่ง และท้องสนามหลวงบ้าง หากพิจารณาตามชื่อโรงเรียนที่ส่งเข้าแข่งขัน จะเห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอำนาจรัฐของโรงเรียนต่างๆ ในยามที่รัฐต้องการผลิตบุคลากรมาป้อนระบบราชการให้เพียงพอกับระบบการปกครองที่พยายามขยายองคาพยพให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ตัวละครไม่น้อยที่ได้รับการบันทึกในฐานะนักเรียนนักฟุตบอล ได้กลายเป็นข้าราชการสำคัญ เช่น นายบุญจ๋วน บุญยะปานะแห่งประถมสามจีนใต้ ต่อมาคือ พระยาธรรมบัณฑิตสิทธิศฤงคาร (2436-2506) นายบุญชู ศีตะจิตต์แห่งมัธยมพิเศษเทพศิรินทร์ ต่อมาเป็นพระเชฏฐไวทยาการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในปี 2490-2497 (2435-2516) นายจร โชติกเสถียรแห่งราชวิทยาลัย ต่อมาเป็นหลวงจรเนาวิเทศ สังกัดกระทรวงการคลัง นายส่าน โชติเสถียร ต่อมาเป็นพระวุฒิศาสตร์เนติญาณ กระทรวงเศรษฐการ<a href="#_ftn9" name="_ftnref9" title="" id="_ftnref9">[9][/url]</p>
<p>การแข่งขันของโรงเรียนต่างๆ จึงมิได้เป็นการส่งทีมเข้าร่วมเฉยๆ แต่แสดงให้เห็นถึงการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับรัฐ หรืออาจกล่าวได้ว่า การแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนได้เผยให้เห็นเครือข่ายทางการศึกษาที่เป็นฐานอำนาจทางการเมืองของรัฐในยุคนั้นไปด้วย</p>
<p>รัชสมัยต่อมาก็ได้มีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยมีสนามแข่งหลักๆ อยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์และสวนกุหลาบวิทยาลัย ในช่วงนี้เริ่มมีการแบ่งการแข่งขันเป็นรุ่นอายุ แต่ก็ยังเป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก<a href="#_ftn10" name="_ftnref10" title="" id="_ftnref10">[10][/url] การแข่งขันต่อเนื่องจากปี 2454-2475 น่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนต่างๆ ด้านฟุตบอลก่อตัวขึ้นมาอย่างแน่นแฟ้นนำไปสู่การแข่งขันจตุรมิตรสามัคคีในเวลาต่อมา หลังปฏิวัติ 2475 กรมพลศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการจัดแข่งขันฟุตบอลนักเรียน และเริ่มมีโรงเรียนนอกกรุงเทพฯ มาร่วมแข่งขัน แต่ก็หยุดชะงักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในระดับสูงกว่านั้นเริ่มมีการแข่งขันฟุตบอลประเพณีระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ธรรมศาสตร์และการเมืองเมื่อปี 2477 ในช่วงแรกได้จัดการแข่งขัน ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย<a href="#_ftn11" name="_ftnref11" title="" id="_ftnref11">[11][/url] ก็ย่อมสะท้อนถึงเครือข่ายด้านฟุตบอลและสถาบันการศึกษาที่โยงใยถึงกันด้วย</p>
<p>ในที่สุดโรงเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพฯทั้ง 4 แห่ง ได้ริเริ่มจัดฟุตบอลที่ชื่อว่า "จตุรมิตรสามัคคี" เมื่อปี 2507 ในนามของการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างครู อาจารย์ และนักเรียน ทั้งฝ่ายนักกีฬาและฝ่ายกองเชียร์ ว่ากันว่าเกิดจากการประสานงานของอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ได้เชื้อเชิญโรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนอัสสัมชัญมาแข่งขันฟุตบอลร่วมกัน<a href="#_ftn12" name="_ftnref12" title="" id="_ftnref12">[12][/url]</p>
<p>นับได้ว่าทั้ง 4 โรงเรียนนี้ นับเป็นโรงเรียนชั้นนำของประเทศในระดับมัธยมศึกษาในขณะนั้น และยังเป็นโรงเรียนที่มีความเก่าแก่ระดับร้อยปี สำหรับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยและเทพศิรินทร์ ไม่เป็นเพียงโรงเรียนของรัฐแต่ยังมีอัตลักษณ์ที่ผูกอยู่กับเจ้านายสยามอย่างชัดเจน ขณะที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และอัสสัมชัญเป็นตัวแทนของโรงเรียนคริสต์ที่เก่าแก่ที่เคยมีความโดดเด่นในฐานะเป็นของชาวตะวันตกและมีจุดเด่นที่การสอนภาษาอังกฤษ และทั้งคู่ก็เป็นตัวแทนของทั้งนิกายโปรเตสแตนท์และโรมันคาทอลิก</p>
<p>การแข่งขันใช้สนามศุภชลาศัยเป็นสนามแข่งขัน และหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพทุกปี โดยโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในครั้งแรก แต่ได้ช่วงที่เว้นการจัดงานก็คือ ปี 2509 และ 2510 เนื่องจากสนามไม่ว่างเพราะถูกเลือกเป็นสถานที่ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ และกีฬาแหลมทอง ช่วงต่อมาคือ ปัญหาการเมืองในช่วงหลัง 14 ตุลาคม 2516 และ6 ตุลาคม 2519 ทำให้ไม่มีการแข่งขันในปี 2518-2520 แต่น่าสงสัยว่าปี 2523-2524 ไฉนจึงไม่มีการแข่งขัน นับตั้งแต่ปี 2528 เป็นต้นมา จะเป็นการแข่งขันปีเว้นปี อุปสรรคมาอีกครั้งเมื่อถึงปี 2554 ที่ต้องงดแข่งเพราะประสบปัญหามหาอุทกภัยในช่วงดังกล่าว<a href="#_ftn13" name="_ftnref13" title="" id="_ftnref13">[13][/url] ในปี 2559 เป็นปีที่ต้องเลื่อนไปอีกปี เพราะยังอยู่ในช่วงถวายอาลัยช่วงสวรรคตของรัชกาลที่ 9 เช่นเดียวกับช่วงโควิด 19 ที่ทำให้การแข่งขันถูกระงับเมื่อปี 2564 และเลื่อนการแข่งขันในครั้งล่าสุดปี 2566 จะเห็นได้ว่า ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีได้วางอยู่ในบริบทสังคมการเมืองไทยแบบที่ว่า หากจะทำหนังประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองฟุตบอลจตุมิตรฯ ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ</p>
<p>การที่ฟุตบอลนักเรียนได้รับสิทธิ์ให้ใช้สนามกีฬาแห่งชาติเช่นนี้ ย่อมสะท้อนความไม่ธรรมดาของเครือข่ายที่พวกเขามีไปด้วย นั่นหมายถึงว่า สนามกีฬาอันโอ่อ่าเช่นนี้มีสนามมาตรฐาน พร้อมกับแสตนด์เชียร์ที่ล้อมรอบทั้ง 4 ฝั่ง มีรั้วรอบขอบชิดปิดกั้น สามารถจุผู้ชมนับหมื่น ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ฝั่งคบเพลิง อันอยู่ตรงข้ามอัฒจันทร์ประธาน ที่สามารถจะใช้สำหรับแปรอักษรแสดงข้อความและภาพต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ฟุตบอลจตุรมิตร จึงไม่ได้เป็นการแข่งขันไปตามความสะดวกของโรงเรียนแบบเดิมๆ อีกแล้ว</p>
<p>นอกจากนั้นฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีได้เก็บค่าผ่านประตู โดยรายได้ส่วนหนึ่งของการแข่งขันจะนำทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย<a href="#_ftn14" name="_ftnref14" title="" id="_ftnref14">[14][/url] ดังนั้น ฟุตบอลจตุรมิตรฯ จึงแสดงให้เห็นถึง 3 มิติ ก็คือ การแข่งขันกีฬาที่มีมิติแบบกีฬาการกุศล การอิงอยู่กับชนชั้นนำ และการสร้างพื้นที่ของเครือข่ายทางสังคมในหมู่โรงเรียนชั้นนำในกรุงเทพฯ</p>
<p>มากไปกว่านั้น รายการฟุตบอลนี้ยังได้รับแอร์ไทม์จากสถานีโทรทัศน์เพื่อทำการถ่ายทอดสดอีกด้วย แม้จะเป็นเพียงแค่การแข่งขันฟุตบอลระดับนักเรียนและเป็นเพียงฟุตบอลของโรงเรียนเพียง 4 โรงเรียนในกรุงเทพฯ เช่น ปี 2534 มีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง 9 อ.ส.ม.ท.<a href="#_ftn15" name="_ftnref15" title="" id="_ftnref15">[15][/url] ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในความควบคุมของรัฐบาล และปีนั้นเกิดการรัฐประหารขึ้น ข้อสังเกตคือ หัวหน้าผู้ทำรัฐประหารครั้งนั้นคือ สุนทร คงสมพงษ์ ศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย ผู้ยึดอำนาจจากนายกรัฐมนตรีชาติชาย ชุณหะวัณ ศิษย์เก่าเทพศิรินทร์</p>
<p>ฟุตบอลรายการนี้ยังดำรงอยู่คู่สังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะแสดงถึงศักยภาพของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ฟุตบอลรายการนี้ยังแสดงให้เห็นถึงศูนย์กลางอำนาจและเครือข่ายการเมือง-เศรษฐกิจระดับครีมของสังคมไทย ก่อนที่นักเรียนในโรงเรียนเหล่านี้จะก้าวขึ้นสู่อภิสิทธิ์ชนในอนาคตไม่ว่าจะในตำแหน่งนักการเมืองระดับชาติ นายกรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหารระดับสูง หรือกระทั่งผู้ทำการรัฐประหาร ด้วยชื่อเสียงของพวกเขา จึงไม่แปลกที่ 2 โรงเรียนดังจะมีโรงเรียนสาขาหรือแฟรนไชส์ขยายออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัดเช่น สวนกุหลาบวิทยาลัย และเทพศิรินทร์<a href="#_ftn16" name="_ftnref16" title="" id="_ftnref16">[16][/url] (แตกต่างจากโรงเรียนในเครือเซนต์คาเบรียล-อัสสัมชัญ และเครือสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทยที่มีระบบบริหารอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีสาขาเช่นกันในต่างจังหวัด)</p>
<p>เว็บไซต์รัฐบาลไทยได้ทำประวัตินายกรัฐมนตรีไว้ เมื่อสืบค้นจะพบว่าเคยศึกษาในโรงเรียนใดมาบ้าง ผู้เขียนลองจำแนกเฉพาะผู้ที่เคยศึกษาในเครือ จตุรมิตรฯ เราจะนับได้ถึง 12 คน ดังนี้<a href="#_ftn17" name="_ftnref17" title="" id="_ftnref17">[17][/url]</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p style="margin-left: 40px;">พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) : สวนกุหลาบวิทยาลัย, อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">ควง อภัยวงศ์ : เทพศิรินทร์, อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">ทวี บุณยเกตุ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">เสนีย์ ปราโมช : อัสสัมชัญ, เทพศิรินทร์, สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ : เทพศิรินทร์</p>
<p style="margin-left: 40px;">สัญญา ธรรมศักดิ์ : อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">คึกฤทธิ์ ปราโมช : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ธานินทร์ กรัยวิเชียร :สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">เปรม ติณสูลานนท์ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ชาติชาย ชุณหะวัณ : เทพศิรินทร์</p>
<p style="margin-left: 40px;">อานันท์ ปันยารชุน : กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">สุรยุทธ์ จุลานนท์ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p>จะเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเคยศึกษาโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยมากที่สุด มีจำนวนถึง 7 จาก 12 คน รองลงมาเทพศิรินทร์คือ 5 คน น้อยที่สุดคือ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แต่ในกรณีของเสนีย์ ปราโมช ถือว่ามีประสบการในโรงเรียนถึง 3 แห่ง นั่นคือ อัสสัมชัญ เทพศิรินทร์ และสวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p>จึงไม่แปลกที่ในสูจิบัตรปี 2562 ระดับประธานองคมนตรี อย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ และผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุด อย่างพรพิพัฒน์ เบญญศรี ในนามศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้มี “สาร” ที่ตีพิมพ์เนื่องในพิธีเปิดการแข่งขัน ครั้งที่ 29<a href="#_ftn18" name="_ftnref18" title="" id="_ftnref18">[18][/url]</p>
<p>การแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ภายใต้ความสนใจในด้านบวกแล้ว ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ที่ตั้งคำถามกับระบบการศึกษา โรงเรียนในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความไม่น่าไว้วางใจเนื่องด้วยเป็นสถาบันที่มีโอกาสจะใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะประสบการณ์ร่วมกัน จากการร้องเรียน หรือการเป็นข่าวในพื้นที่สื่อ ล่าสุด สัญญา คุณากร พิธีกรชื่อดังก็ออกมาโพสต์โซเชียลเพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับดราม่า การขึ้นแสตนด์เชียร์ในนามของศิษย์เก่าสวนกุหลาบซึ่งมีนัยตอบโต้ ธิษะณา ชุณหะวัณ ส.ส.ก้าวไกลที่ออกมาต่อต้านการแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีโดยเขาโพสต์ว่า</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p>
<span style="color:#2980b9;">“ผมเป็นคนไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่ทำไมผมมีความรู้สึกว่า ประโยคที่ได้ยินจากเรื่องนี้มันตรงกับที่รู้สึก ว่า “…(คุณ)อย่า…(มาหาเรื่อง) กับโรงเรียนของ…(ผม)เลย” คุณไม่เคยรับรู้ถึงเกียรติภูมิ ของโรงเรียน ความอดทน ความเสียสละ การภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนที่จะสร้างเยาวชน ที่มีเกียรติ มีรากเหง้า มีกำลังสติปัญญา และมีความเป็นมนุษย์ … ทั้งหมดต้องถูกหล่อหลอมโดยหลายช่องทาง หลายกิจกรรม…มีทั้งยาก และง่าย ทั้งเหน็ดเหนื่อย…และลำบาก โปรดรับรู้ว่า นักเรียนสวนกุหลาบ จะรักษาความถูกต้องจากการแอบแฝงผลใดๆ และจะรักษาเกียรติของโรงเรียนเสมอไป #ผมคือนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” </span><a href="#_ftn19" name="_ftnref19" title="" id="_ftnref19"><span style="color:#2980b9;">[19]</span>[/url]</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p><strong>ตรงกันข้ามกับฟุตบอลนักเรียนระดับชาติที่ได้รับการสนับสนุนน้อยอย่างน่าใจหาย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ดังที่มีผู้เขียนข้อเสนอสะท้อนไว้ในวันก่อนกรณีการแข่งขันฟุตบอล 7 สี เปรียบเทียบกับ ฟุตบอลชิงแชมป์ฤดูหนาวของนักเรียนญี่ปุ่น<a href="#_ftn20" name="_ftnref20" title="" id="_ftnref20">[20][/url] การแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีเพียง 4 โรงเรียน กลับมีพื้นที่สื่อและการสนับสนุนจากทุนและรัฐอย่างน่าจับตา มันจึงสะท้อนถึงโอกาสการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันซึ่งไม่ใช่แค่ด้านกีฬา แต่มันหมายถึง โอกาสทางการศึกษาของโรงเรียนในต่างจังหวัดที่อยู่บนความเหลื่อมล้ำมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับการรวมศูนย์กลางของโอกาสอยู่ที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไปด้วย.</strong></p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p><strong>อ้างอิง </strong></p>
<div>
<div id="ftn1">
<p><a href="#_ftnref1" name="_ftn1" title="" id="_ftn1">[1][/url] เจมส์ เอฟ. แมคคาร์ธีผู้ทำการสำรวจและจัดทำแผนที่สยาม ที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2523 มีบทบาทจัดตั้งโรงเรียนแผนที่ฝึกสอนชาวสยาม โดยนำเอานายทหารรักษาพระองค์ 30 นายเข้าเป็นนักเรียนรุ่นแรก แมคคาร์ธีเป็นครูใหญ่ สอนบริเวณตึกแถวกองมหาดเล็ก ข้างประตูพิมานไชยศรีในพระบรมมหาราชวัง ดูใน กรมแผนที่ทหาร.
“ประวัติ”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
https://bit.ly/2xf88qW</p>
</div>
<div id="ftn2">
<p><a href="#_ftnref2" name="_ftn2" title="" id="_ftn2">[2][/url] เดิมเรียกว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ตั้งขึ้นเพื่อฝึกหัดหม่อมเจ้าและหม่อมราชวงศ์โดยเฉพาะให้เป็นทหารมหาดเล็ก ต่อมาได้ขยายให้ผู้สมัครจากภายนอกมากขึ้น และใช้บริเวณพระตำหนักสวนกุหลาบที่เคยเป็นคลังที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงตั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบในปี 2425 แต่แรกมีการฝึกหัดอย่างทหารและแบบสามัญตามโรงเรียน เมื่อมีผู้สมัครเรียนเกินจำนวนตำแหน่งทหารมหาดเล็กจึงเปลี่ยนจากนักเรียนทหารมาเป็นนักเรียนพลเรือน จนต้องสร้างตึกยาวทางพระราชวังด้านให้ใช้เป็นที่เล่าเรียน ต่อมาปี 2436 ได้ขยายไปนอกพระบรมมหาราชวัง และเป็นจุดเริ่มต้นของโรงเรียนสวนกุหลาบที่ได้แยกเป็น 2 แห่งได้แก่ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยและฝ่ายอังกฤษ ฝ่ายไทยได้ย้ายไปที่วัดมหาธาตุส่วนหนึ่งและที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงในพระบรมมหาราชวังอีกที่หนึ่ง สวนกุหลาบฝ่ายไทยมีความสัมพันธ์กับกระทรวงธรรมการอย่างน่าสนใจ เนื่องจากเมื่อกระทรวงธรรมการสร้างอาคารใหม่บริเวณวังหน้าเดิม ก็ได้ให้สวนกุหลาบฝ่ายไทยไปใช้ตึกในนั้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามสวนกุหลาบฝ่ายไทยยังได้ย้ายไปอีกหลายแห่ง เช่น วัดมหาธาตุฝั่งใต้, โรงเลี้ยงเด็กริมคลองมหานาค และในที่สุดก็ไปที่ตึกแถวหลังยาววัดราชบูรณะที่จะกลายเป็นกลับมารวมกันอีกครั้งของฝ่ายอังกฤษ ส่วนฝ่ายอังกฤษนั้น ไม่ได้ย้ายออกนอกพระบรมมหาราชวัง แต่ว้ายไปที่ริมพระที่นั่งสุทธัยสวรรค์ ต่อมาได้ย้ายออกไปแถบบริเวณสตรีสวนสุนันทาลัย ปากคลองตลาด จนได้ชื่อว่า โรงเรียนสวนกุหลาบสุนันทาลัย ต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ขอพระราชทานที่ดินดังกล่าวเพื่อปรับปรุงเป็นโรงเรียนราชินี จึงได้ย้ายมารวมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ ไปอยู่ร่วมกับตึกแม้นนฤมิตร จึงได้ชื่อว่าโรงเรียนสวนกุหลาบแม้นนฤมิตร ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนสวนกุหลาบอังกฤษเทพศิรินทร์ จนในปี 2454 โรงเรียนสวนกุหลาบฝ่ายไทยและอังกฤษก็ได้มารวมกันอีกครั้งในปี 2454 ปีเดียวหลังรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต ดูใน โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี.
“ประวัติโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก
http://www.skn.ac.th/skn/index.php/2016-09-07-14-40-46/536-2016-09-07-14-26-50</p>
</div>
<div id="ftn3">
<p><a href="#_ftnref3" name="_ftn3" title="" id="_ftn3">[3][/url] ตั้งขึ้นในปี 2427 ดูใน โรงเรียนวัดมหรรณพาราม.
“ประวัติโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
http://www.watmahannapharam.ac.th/datashow_46915</p>
</div>
<div id="ftn4">
<p><a href="#_ftnref4" name="_ftn4" title="" id="_ftn4">[4][/url] ตั้งขึ้นในปี 2435 บริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ต.สวนมะลิ ถ.บำรุงเมือง ต่อมาย้ายมาที่บริเวณวังจันทรเกษม ถ.ราชดำเนิน มีบทบาทหน้าที่ผลิตครู ปี 2461 เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู และปีเดียวกันนั้นเปิดสอนหลักสูตรประโยคครูประถม (ป.ป.) รับนักเรียนจบม.6 และประกาศนียบัตรครูมูล ส่วนครูมัธยมนั้นส่งไปสมทบกับโรงเรียนมัธยมเบื้องปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ และโรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา ปี 2499 ย้ายจากวังจันทรเกษมไปบริเวณอ.บางเขน หลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในเวลาต่อมายกระดับเป็นวิทยาลัยครูพระนคร ปี 2509 ดูใน มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร.
“ประวัติมหาวิทยาลัย”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
https://www.pnru.ac.th/index.php?op=detail&opid=69</p>
</div>
<div id="ftn5">
<p><a href="#_ftnref5" name="_ftn5" title="" id="_ftn5">[5][/url] แต่แรกชื่อโรงเรียนวัดพระเชตุพน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนกล่อมพิทยากร และโรงเรียนอุดรพิทยาคม ต่อมาในปี 2442 ได้มีการสร้างอาคารเรียนใหม่และรวมเป็นโรงเรียนเดียวในชื่อโรงเรียนกล่อมพิทยากร ดูใน โรงเรียนวัดพระเชตุพน.
“ประวัติโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
http://school.bangkok.go.th/watprachetuphon/history.html</p>
</div>
<div id="ftn6">
<p><a href="#_ftnref6" name="_ftn6" title="" id="_ftn6">[6][/url] โรงเรียนสายสวลีสัณฐาคาร สร้างขึ้นบริเวณถนนบำรุงเมือง ตำบลสวนมะลิ ริมคลองมหานาค เดิมเป็นโรงเลี้ยงเด็ก ดูใน สวัสดิ์ เลขยานนท์,
ศตวรรษแห่งการกีฬา (กรุงเทพฯ โรงพิมพ์พระจันทร์, 2520), หน้า 18</p>
</div>
<div id="ftn7">
<p><a href="#_ftnref7" name="_ftn7" title="" id="_ftn7">[7][/url] สร้างขึ้นบนที่ดินจวนของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ตั้งขึ้นในปี 2439 ชาวบ้านนิยมเรียกว่าโรงเรียนฟากขะโน้น หรือโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ต่อมาได้ย้ายไปบริเวณตำบลไผ่สิงโต ปทุมวัน ข้างสระปทุมวัน ดูใน โรงเรียนมัธยมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา.
“ประวัติการก่อตั้งโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
http://mattayom.bsru.ac.th/index.php/strory</p>
</div>
<div id="ftn8">
<p><a href="#_ftnref8" name="_ftn8" title="" id="_ftn8">[8][/url] ไม่แน่ใจนักว่าโรงเรียนราชการดังกล่าวใช่โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการพลเรือนที่ก่อตั้งในปี 2442 หรือไม่ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดูใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย .
“ประวัติจุฬาฯ”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก
https://www.chula.ac.th/about/overview/history/</p>
</div>
<div id="ftn9">
<p><a href="#_ftnref9" name="_ftn9" title="" id="_ftn9">[9][/url] สวัสดิ์ เลขยานนท์, เรื่องเดียวกัน, หน้า 159-160, 167</p>
</div>
<div id="ftn10">
<p><a href="#_ftnref10" name="_ftn10" title="" id="_ftn10">[10][/url] สุนทร แม้นสงวน,
พัฒนาการการแข่งขันกีฬานักเรียนในประเทศไทย ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงสมัยปัจจุบัน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาพลศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533, หน้า 37-38, 41, 43, 45-46, 48-49, 52, 55-56, 59, 61, 64-65, 70, 77-78, 82-83, 87-88, 90-91, 95-96, 101, 104 และ 108 และสิทธิ รัตนราษี, การศึกษากีฬาฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาพลศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540, หน้า17, 18</p>
</div>
<div id="ftn11">
<p><a href="#_ftnref11" name="_ftn11" title="" id="_ftn11">[11][/url] สิทธิ รัตนราษี, เรื่องเดียวกัน, หน้า 33</p>
</div>
<div id="ftn12">
<p><a href="#_ftnref12" name="_ftn12" title="" id="_ftn12">[12][/url]
สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 28-29</p>
</div>
<div id="ftn13">
<p><a href="#_ftnref13" name="_ftn13" title="" id="_ftn13">[13][/url]
สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 28-29</p>
</div>
<div id="ftn14">
<p><a href="#_ftnref14" name="_ftn14" title="" id="_ftn14">[14][/url] สิทธิ รัตนราษี, เรื่องเดียวกัน, หน้า 40-41</p>
</div>
<div id="ftn15">
<p><a href="#_ftnref15" name="_ftn15" title="" id="_ftn15">[15][/url] Yak136.
จตุรมิตรฯครั้งที่ 16 นัดชิง BCC vs AC. Youtube. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก
https://www.youtube.com/watch?v=xhW1aSR8Gv8 (3 เมษายน 2555)</p>
</div>
<div id="ftn16">
<p><a href="#_ftnref16" name="_ftn16" title="" id="_ftn16">[16][/url] ดูการอภิปรายเรื่องโรงเรียนแฟรนไชส์ได้ใน ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์.
“ชื่อเสียง ‘โรงเรียนแฟรนไชส์’ การเดินสวนทางกับการกระจายอำนาจทางการศึกษา”. ไทยรัฐพลัส. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก
https://plus.thairath.co.th/topic/politics&society/101992 (23 สิงหาคม 2565)</p>
</div>
<div id="ftn17">
<p><a href="#_ftnref17" name="_ftn17" title="" id="_ftn17">[17][/url] รัฐบาลไทย.
“ทำเนียบนายกรัฐมนตรี”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก
https://www.thaigov.go.th/aboutus/history/index</p>
</div>
<div id="ftn18">
<p><a href="#_ftnref18" name="_ftn18" title="" id="_ftn18">[18][/url]
สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 14-15</p>
</div>
<div id="ftn19">
<p><a href="#_ftnref19" name="_ftn19" title="" id="_ftn19">[19][/url] ผู้จัดการออนไลน์. “
“ดู๋ สัญญา” ลั่นไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่อย่ามาหาเรื่องกับโรงเรียนผมเลย”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566. จาก <a href="
https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000102528 (15 พฤศจิกายน 2566)">
https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000102528 (15 พฤศจิกายน 2566)[/url]</p>
</div>
<div id="ftn20">
<p><a href="#_ftnref20" name="_ftn20" title="" id="_ftn20">[20][/url] มฤคย์ ตันนิยม.
“ชิงแชมป์ฤดูหนาวญี่ปุ่น : บอล 7 สียังขาดอะไรถึงจะมีศักยภาพเทียบเท่ารายการนี้ ”. Think Curve. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566. จาก
https://thinkcurve.co/chingaechmprduuhnaawyiipun-b-l-7-siiyangkhaad-aairthuengcchamiisakyphaaphethiiybethaaraaykaarnii/ (6 พฤศจิกายน 2566)</p>
</div>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทคว
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/11/106891