[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 16:50:09 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 182 183 [184] 185 186 ... 1119
3661  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ‘รัฐมนตรีดิจิทัลฯ’ มอบหมาย Depa ผนึก BOI ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 100% สามปี ดึงดูดลงทุน ‘Smart Ci เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 22:27:19
‘รัฐมนตรีดิจิทัลฯ’ มอบหมาย Depa ผนึก BOI ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 100% สามปี ดึงดูดลงทุน ‘Smart City’
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 20:58</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เดินหน้าปั้นเมืองอัจฉริยะ ‘รัฐมนตรีดิจิทัลฯ’ มอบหมาย Depa ผนึก BOI ยกเว้นภาษีนิติบุคคล 100% สามปี ดึงดูดลงทุน ‘Smart City’ พร้อมให้สิทธิพิเศษลดหย่อนภาษีในการซื้อสินค้าและบริการ มุ่งสร้างการมีส่วนร่วม เปิดทาง ‘ชุมชน’ ร่วมออกแบบเมืองที่ตอบโจทย์สำหรับทุกคน </p>
<p> </p>
<p>20 พ.ย.2566 ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (20 พ.ย.) ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ ‘ผลักดันไทยสู่ Smart City’ ในงาน Post Today Smart City 2024  ณ ห้อง แกรนด์ บอลรูม โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอรำวัณ กรุงเทพฯ ว่า นโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงต่อรัฐสภานั้นให้ความสำคัญในการพัฒนาเมืองไปสู่การเป็นเมืองอัจฉริยะ โดยให้ความสำคัญกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคมและสิ่งแวดล้อมด้วยข้อมูลที่แม่นยำและทันสมัย รวมไปถึงการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ และสานต่อนโยบายด้าน ‘Carbon Neutrlity’ เพื่อให้ประเทศไทยเป็นผู้นำอาเซียนในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไอออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อสร้างข้อได้เปรียบให้กับผู้ผลิตสินค้าและบริการในประเทศสามารถเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ภายใต้กติกาใหม่ของโลกที่ให้ความสำคัญกับด้านสิ่งแวดล้อม </p>
<p>ประเสริฐ กล่าวว่า เมื่อเข้ามาบริหารงานกระทรวงดิจิทัลฯ ก็ได้นำนโยบายรัฐบาลมาสู่การปฏิบัติให้มีความสอดคล้องกัน โดยได้ริเริ่มโครงการ ‘The Growt Engine of ThaiLand’ ที่จะมี 3 เครื่องยนต์ในการขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญ โดยเครื่องยนต์ที่ 1 จะเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัล เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันของประเทศ เครื่องยนต์ที่ 2 การเพิ่มประสิทธิภาพด้านความมั่นคงและปลอดภัย ที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนและผู้ใช้งานทุกคน และเครื่องยนต์ที่ 3 จะเป็นการเพิ่มศักยภาพทุนมนุษย์ด้านดิจิทัลของประเทศ เพราะวันนี้บุคลากรเหล่านี้ในประเทศยังมีไม่มาก </p>
<p>“ในเครื่องยนต์ที่ 1 ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับขีดความสามารถของประเทศนั้น ได้มีการบรรจุแผนงานเรื่อง Smart City ไว้เป็นโครงการขนาดใหญ่ และเป็นกลไกสำคัญในการกระจายความเจริญในยังทุกพื้นที่ของประเทศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ การบริหารจัดการเมืองและสิ่งต่างๆ ซึ่งจะตอบโจทย์การนำไปสู่ Smart City ในทุกมิติ” </p>
<p>รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวต่อว่า เมืองอัจฉริยะหรือ Smart City จะมีตัวชี้วัดอยู่ 7 ด้าน ได้แก่ 1.การเดินทางขนส่งอัจฉริยะ 2.พลังงานอัจฉริยะ 3.เศรษฐกิจอัจฉริยะ 4.พลเมืองอัจฉริยะ 5.การใช้ชีวิตอัจฉริยะ 6.การบริหารจัดการภาครัฐอัจฉริยะ และ 7.สิ่งแวดล้ออัตฉริยะ ซึ่งกระทรวงฯ ได้ให้ความสำคัญโดยจะต้องเป็นหัวข้อบังคับขั้นต่ำสำหรับเมืองอัจฉริยะทุกเมืองที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ก็คือเรื่องของนโยบาย Carbon Neutrlity </p>
<p>ประเสริฐ กล่าวว่า เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเป็น Smart City จึงได้มีการส่งเสริมใน 3 ด้านสำคัญ คือ 1. สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Depa ได้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI ในการพัฒนามาตรการดึงดูดนักลงทุนในพื้นที่ Smart City ด้วยมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้กับนักลงทุนในเมืองอัจฉริยะสูงสุดถึง 100% ของเงินลงทุน ระยะเวลาสูงสุด 3 ปี จากเดิมที่นักลงทุนสามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีกรณีลงทุนด้านดิจิทัลใน Smart City สูงสุด 50%  โดย 2. ได้มอบโจทย์ให้กับทาง Depa ไปประสานงานต่อกับ BOI เพื่อให้นักลงทุนใน Smart City ที่ซื้อสินค้าและบริการในบัญชีบริการดิจิทัล จะได้รับการลดหย่อนเพิ่มเติมอีก 50% และ 3. กระทรวงดิจิทัลฯ มีมาตรการการพัฒนาข้อมูล โดยส่งเสริมการให้บริการแพลตฟอร์มข้อมูลเมืองที่เป็นหัวใจในการยกระดับเมืองสู่เมืองอัจฉริยะที่ยั่งยืน สามารถติดตาม ประเมินและยกระดับเมืองต่อไปได้ </p>
<p>“หัวใจของการยกระดับจากชุมชนเมืองสู่เมืองอัจฉริยะนั้น เรื่องสำคัญคือชุมชนจะต้องมีส่วนร่วม ต้องมีการสร้างความเข้าใจกับชุมชนว่า Smart City แบบไหนที่ชุมชนต้องการ และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของแต่ละชุมชนแล้วจึงออกแบบเมืองให้สอดคล้องกับความต้องการและมีการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมีความเหมาะสม และไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน เพราะแต่ละเมืองมีความแตกต่างกัน ปัญหาของคนในแต่ละเมืองก็แตกต่างกันและแต่ละเมืองก็เอกลักษณ์ของตัวเอง ดังนั้นแนวคิดการเป็น Smart City จึงมีความแตกต่างกัน อาทิ กรุงเทพมหานครอาจต้องการเมืองอัจฉริยะที่มีเทคโนโลยีในการป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม หรือแก้ไขปัญหาจราจร หรือ เชียงใหม่อาจเป็น Smart City เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 หรือตัวอย่างในต่างประเทศ เช่นเมืองซานฟรานซิสโก เป็นเมืองที่มุ่งเน้นเน้นที่จะลด Carbon Footprint โดยเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนและวางระบบการคมนาคมขนส่งอัจฉริยะ รวมไปถึงในอัมสเตอร์ดัม ที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อมและเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ดังนั้นทุกฝ่ายจึงต้องช่วยกันออกแบบขึ้นมา” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมกล่าวย้ำ </p>
<p>ประเสริฐ กล่าวว่า บทบาทของกระทรวงดิจิทัลฯ เพื่อขับเคลื่อนด้านสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญ วันนี้มีการพูดถึง IoT Sensor เพื่อบริหารจัดการมลภาวะและทรัพยากรต่างๆ หรือการพูดถึง Big Data และ AI ในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์อย่างแม่นยำเพื่อวางแผนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงการพูดถึง Carbon Cradit Trading Platform ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญและเป็นปัจจัยในการผลักดันการยอมรับในภาครัฐและผู้ประกอบการต่างๆ ในการนำเสนอสินค้าและบริการไปสู่ต่างประเทศ และเรื่อง Blockchain Technology ในการพัฒนาด้านต่างๆ ซึ่งเราจำเป็นต้องทำและเป็นข้อบังคับของ Smart City ทุกเมืองที่จะต้องดำเนินการด้านสิ่งแวดล้อม </p>
<p>รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ย้ำว่า เป้าหมายและสิ่งที่คาดหวังจาก Smart City นั้นคือการจะต้องมีการพัฒนาอย่างยั่งยืน มีความต่อเนื่องและอยู่กับเมืองนั้นตลอดไป โดยไม่จำเป็นจะต้องทำตามกระแสและจะต้องอยู่ในบริบทที่ประเทศไทยจะต้องได้รับประโยชน์ นอกจากนี้ยังต้องลดความเหลื่อมล้ำหรือ Smart For All ทุกคนจะต้องได้รับบริการที่สะดวกสบายอย่างเท่าเทียมกัน รวมไปถึงจะต้องเน้นให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาเมือง ลดค่าใช้จ่าย ใช้ชีวิตที่มีค่าอย่างสะดวกสบาย ซึ่งจะทำให้เราได้เห็นเมืองที่มีอัตลักษณ์ของตัวเอง เราจะได้เห็นเมืองแห่งความสุข ที่มีความสะดวกสบายและได้เห็นรอยยิ้มของทุกคนในชุมชน </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106897
 
3662  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สภาพัฒน์ฯ เปิด GDP ไตรมาส 3/66 ขยายตัว 1.5% คาดปี 67 ขยาย 2.7 – 3.7% เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 20:56:48
สภาพัฒน์ฯ เปิด GDP ไตรมาส 3/66 ขยายตัว 1.5% คาดปี 67 ขยาย 2.7 – 3.7%
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 19:32</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="summary-box">
<ul>
<li>สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลข GDP ไตรมาส 3/66 ขยายตัว 1.5% รวม 9 เดือนแรกของปี 66 เศรษฐกิจไทยขยายตัว 1.9% แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 66 คาดว่าจะขยายตัว 2.5% ต่อเนื่องจากการขยายตัว 2.6% ในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ 1.4% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.0 ของ GDP</li>
<li>แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวในช่วง 2.7 – 3.7% จากการกลับมาขยายตัวของการส่งออก การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ของภาคการท่องเที่ยวสําหรับอัตราเงินเฟ้อ ทั่วไปคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ในช่วง 1.7 - 2.7% และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 1.5% ของ GDP</li>
</ul>
</div>
<p>20 พ.ย.2566 สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาสที่สามของปี 2566 และแนวโน้มปี 2566 - 2567 โดยมีรายละเอียด ดังนี้</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5</span></h2>
<p>เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่สามของปี 2566 ขยายตัวร้อยละ 1.5 ต่อเนื่องจากการขยายตัวร้อยละ 1.8 ในไตรมาสที่สองของปี 2566 (%YoY) และเมื่อปรับผลของฤดูกาลออกแล้ว เศรษฐกิจไทยในไตรมาส ที่สามของปี 2566 ขยายตัวจากไตรมาสที่สองของปี 2566 ร้อยละ 0.8 (%QoQ_SA) รวม 9 เดือนแรกของ ปี 2566 เศรษฐกิจไทยขยายตัวร้อยละ 1.9</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53344479009_2b6cccc557_b.jpg" /></p>
<p>ด้านการใช้จ่าย การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวในเกณฑ์สูง การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว ต่อเนื่อง ส่วนการส่งออกสินค้า การอุปโภคของรัฐบาล และการลงทุนภาครัฐปรับตัวลดลงต่อเนื่อง</p>
<p>การอุปโภคบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวในเกณฑ์สูงต่อเนื่องร้อยละ 8.1 เร่งขึ้นจากร้อยละ 7.8 ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส ตามการขยายตัวดีขึ้นของการใช้จ่าย ในเกือบทุกหมวด สอดคล้องกับการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องของการจ้างงานและความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น โดยการใช้จ่ายหมวดบริการขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ 15.5 ต่อเนื่องจากร้อยละ 13.9 ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 4 ไตรมาส ตามการขยายตัวในเกณฑ์ดีต่อเนื่องของการใช้จ่าย ในกลุ่มโรงแรมและภัตตาคาร และกลุ่มบริการทางการเงินร้อยละ 36.9 และร้อยละ 10.6 ตามลําดับ การใช้จ่าย หมวดสินค้าไม่คงทนขยายตัวร้อยละ 4.2 เท่ากับไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวของการใช้จ่าย กลุ่มอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ การใช้จ่ายหมวดสินค้ากึ่งคงทนขยายตัวร้อยละ 1.0 ต่อเนื่องจาก ร้อยละ 0.7 ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวของการใช้จ่ายกลุ่มเสื้อผ้าและรองเท้า ส่วนการใช้จ่ายในหมวดสินค้าคงทนทรงตัว เทียบกับการขยายตัวร้อยละ 3.2 ในไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการชะลอตัวของยอดขายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล และการลดลงของยอดขายรถยนต์เชิงพาณิชย์ สําหรับดัชนีความเชื่อมั่น ผู้บริโภคเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ระดับ 51.7 เพิ่มขึ้นจากระดับ 50.3 ในไตรมาสก่อนหน้า และเป็น ระดับความเชื่อมั่นที่สูงสุดในรอบ 15 ไตรมาส การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคของรัฐบาล ลดลงร้อยละ 4.9 ต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 5 ตามการลดลงของรายจ่ายการโอนเพื่อสวัสดิการทางสังคมที่ไม่เป็นตัวเงินสําหรับสินค้าและ บริการในระบบตลาดร้อยละ 38.6 ขณะที่ค่าตอบแทนแรงงาน (ค่าจ้าง เงินเดือน) และค่าซื้อสินค้าและบริการ ขยายตัวร้อยละ 0.2 และร้อยละ 0.5 ตามลําดับ อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจําอยู่ที่ร้อยละ 20.5 เทียบกับร้อยละ 24.3 ในไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 21.4 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือนแรก ของปี 2566 การอุปโภคบริโภคภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 7.3 ขณะที่การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภครัฐบาลลดลง ร้อยละ 5.2</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53344151381_1804221f99_b.jpg" /></p>
<p>การลงทุนรวม ขยายตัวร้อยละ 1.5 เร่งขึ้นจากร้อยละ 0.4 ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการเร่งขึ้นของ การลงทุนภาคเอกชนร้อยละ 3.1 เทียบกับการขยายตัวร้อยละ 1.0 ในไตรมาสก่อนหน้า โดยการลงทุน เครื่องจักรเครื่องมือขยายตัวร้อยละ 3.1 เร่งขึ้นจากร้อยละ 0.8 ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนการลงทุนก่อสร้าง ขยายตัวร้อยละ 3.6 ต่อเนื่องจากร้อยละ 2.0 ในไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่การลงทุนภาครัฐลดลงร้อยละ 2.6 รัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 3.4 และร้อยละ 1.4 ตามลําดับ อัตราการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน อยู่ที่ร้อยละ 20.9 เทียบกับร้อยละ 19.0 ในไตรมาสก่อนหน้าและร้อยละ 21.2 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การลงทุนรวมขยายตัวร้อยละ 1.7 โดยการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 2.2 ขณะที่การลงทุนภาครัฐขยายตัวร้อยละ 0.3 เทียบกับการลดลงร้อยละ 6.5 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน</p>
<p>ด้านการค้าระหว่างประเทศ การส่งออกสินค้า มีมูลค่า 70,405 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 2.0 เทียบกับการลดลงร้อยละ 5.6 ในไตรมาสก่อนหน้า โดยปริมาณส่งออกลดลงร้อยละ 3.1 ขณะที่ราคาส่งออก เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.1 กลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกลดลง เช่น น้ําตาล (ลดลงร้อยละ 3.7) ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (ลดลงร้อยละ 2.7) ผลิตภัณฑ์โลหะ (ลดลงร้อยละ 3.9) อาหาร (ลดลงร้อยละ 6.2) ยางพารา (ลดลงร้อยละ 33.8) เคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี (ลดลงร้อยละ 12.7) และชิ้นส่วนและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ (ลดลงร้อยละ 32.7) เป็นต้น กลุ่มสินค้าที่มีมูลค่าส่งออกเพิ่มขึ้น เช่น ชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า (ร้อยละ 40.6) ทุเรียน (ร้อยละ 87.8) แผงวงจรรวมและชิ้นส่วน (ร้อยละ 16.4) รถยนต์นั่ง (ร้อยละ 20.9) ชิ้นส่วนและอุปกรณ์สําหรับยานยนต์ (ร้อยละ 6.3) และรถกระบะและรถบรรทุก (ร้อยละ 14.0) เป็นต้น เมื่อหักการส่งออกทองคําที่ยังไม่ขึ้นรูปออกแล้ว มูลค่าการส่งออกสินค้าลดลงร้อยละ 1.8 และเมื่อคิดในรูปของเงินบาท มูลค่าการส่งออกสินค้าลดลงร้อยละ 5.3 ส่วนการนําเข้าสินค้า มีมูลค่า 65,012 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 10.7 ต่อเนื่องจากการลดลงร้อยละ 5.0 ในไตรมาสก่อนหน้า สอดคล้องกับการลดลงของการผลิตสาขาอุตสาหกรรมและการส่งออก โดยปริมาณ และราคานําเข้าลดลงร้อยละ 10.4 และร้อยละ 0.3 ตามลําดับ ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 5.4 พันล้าน ดอลลาร์ สรอ. (191.8 พันล้านบาท) รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การส่งออกสินค้ามีมูลค่า 210,473 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 4.1 ส่วนการนําเข้ามีมูลค่า 199,982 ล้านดอลลาร์ สรอ. ลดลงร้อยละ 4.8 ส่งผลให้ดุลการค้าเกินดุล 10.5 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (371.3 พันล้านบาท)</p>
<p>ด้านการผลิต สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร และสาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า ขยายตัวในเกณฑ์สูง สาขาเกษตรกรรม สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ และสาขาการก่อสร้างขยายตัว ส่วนสาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรมลดลงต่อเนื่อง</p>
<p>สาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมง ขยายตัวร้อยละ 0.9 ชะลอลงจากร้อยละ 1.2 ในไตรมาส ก่อนหน้า ตามการลดลงของผลผลิตหมวดพืชผลสําคัญ โดยเฉพาะปาล์มน้ํามัน มันสําปะหลัง ข้าวเปลือก และ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ขณะเดียวกันผลผลิตหมวดปศุสัตว์และหมวดประมงชะลอลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยดัชนี ผลผลิตสินค้าเกษตรที่เพิ่มขึ้น เช่น กลุ่มไม้ผล (ร้อยละ 5.6) สุกร (ร้อยละ 10.3) และกุ้งขาวแวนนาไม (ร้อยละ 4.6) เป็นต้น ส่วนดัชนีผลผลิตสินค้าเกษตรสําคัญที่ลดลง เช่น ปาล์มน้ํามัน (ลดลงร้อยละ 16.8) มันสําปะหลัง (ลดลงร้อยละ 22.9) และข้าวเปลือก (ลดลงร้อยละ 3.2) เป็นต้น ส่วนดัชนีราคาสินค้าเกษตรลดลงต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 3 ร้อยละ 1.8 ตามการลดลงของดัชนีราคาสินค้าเกษตรสําคัญ ๆ เช่น สุกร (ลดลงร้อยละ 32.4) ยางพารา (ลดลงร้อยละ 14.6) ปาล์มน้ํามัน (ลดลงร้อยละ 13.2) และไก่เนื้อ (ลดลงร้อยละ 8.3) เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ราคาสินค้าเกษตรสําคัญ ๆ หลายรายการปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น ราคาข้าวเปลือก (ร้อยละ 21.6) และราคากลุ่มไม้ผล (ร้อยละ 4.4) เป็นต้น การลดลงของดัชนีราคาสินค้าเกษตร ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกร โดยรวมลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 0.9 รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การผลิตสาขาเกษตรกรรม การป่าไม้ และการประมงเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.0 เทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.0 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน</p>
<p>สาขาการผลิตสินค้าอุตสาหกรรม ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ร้อยละ 4.0 ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.2 ในไตรมาสก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเป็นผลจากฐานที่สูงในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการลดลงของ ทุกกลุ่มการผลิต โดยเฉพาะกลุ่มการผลิตเพื่อส่งออกที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศ คู่ค้าสําคัญ สอดคล้องกับการลดลงของดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมร้อยละ 6.2 โดยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม กลุ่มการผลิตเพื่อส่งออก (สัดส่วนส่งออกมากกว่าร้อยละ 60) ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ร้อยละ 14.7 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนการส่งออกในช่วงร้อยละ 30 - 60 ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ร้อยละ 6.5 และดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมกลุ่มการผลิตเพื่อบริโภคภายในประเทศ (สัดส่วนส่งออกน้อยกว่า ร้อยละ 30) ลดลงต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 4 ร้อยละ 1.0 สําหรับอัตราการใช้กําลังการผลิตเฉลี่ยในไตรมาสนี้ อยู่ที่ร้อยละ 58.01 สูงกว่าร้อยละ 57.64 ในไตรมาสก่อนหน้า แต่ต่ํากว่าร้อยละ 62.76 ในไตรมาสเดียวกัน ของปีก่อน ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสําคัญ ๆ ที่ลดลง เช่น คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่อพ่วง (ลดลงร้อยละ 29.0) ชิ้นส่วนและแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (ลดลงร้อยละ 14.9) และยานยนต์ (ลดลงร้อยละ 5.1) เป็นต้น ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมสําคัญ ๆ ที่เพิ่มขึ้น เช่น น้ําตาล (ร้อยละ 36.6) สายไฟฟ้าและเคเบิลสําหรับ งานไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ (ร้อยละ 22.3) และพลาสติกและยางสังเคราะห์ขั้นต้น (ร้อยละ 3.2) เป็นต้น รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 สาขาการผลิตอุตสาหกรรมลดลงร้อยละ 3.4 เทียบกับการเพิ่มขึ้น ร้อยละ 2.3 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตราการใช้กําลังการผลิตเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 59.83 เทียบกับร้อย ละ 63.57 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน</p>
<p>สาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหาร ขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ 14.9 ต่อเนื่องจากร้อยละ 15.1 ในไตรมาสก่อนหน้า โดยมีนักท่องเที่ยวต่างประเทศที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยประมาณ 7.1 ล้านคน ส่งผลให้มูลค่าบริการรับด้านการท่องเที่ยวในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.48 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 9 ร้อยละ 76.8 ส่วนการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวไทย จํานวน 59.44 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ร้อยละ 18.2 สร้างรายรับจากนักท่องเที่ยวชาวไทยทั้งสิ้น 1.89 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 7 ร้อยละ 19.9 ส่งผลให้รายรับรวมจากการท่องเที่ยว อยู่ที่ 4.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 46.7 สําหรับอัตราการเข้าพักเฉลี่ยในไตรมาสนี้อยู่ที่ร้อยละ 66.16 ต่ํากว่า ร้อยละ 66.93 ในไตรมาสก่อนหน้า แต่สูงกว่าร้อยละ 49.96 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การผลิตสาขาที่พักแรมและบริการด้านอาหารขยายตัวร้อยละ 21.0 เทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 43.1 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยนักท่องเที่ยวต่างประเทศมีจํานวน 20.0 ล้านคน และอัตราการเข้าพักเฉลี่ย อยู่ที่ร้อยละ 67.78 สาขาการขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์ เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เป็นไตรมาสที่ 10 ร้อยละ 3.3 ต่อเนื่องจากร้อยละ 3.4 ในไตรมาสก่อนหน้า ตามการขยายตัวในเกณฑ์ดีของ การใช้จ่ายภาคครัวเรือนและภาคบริการด้านการท่องเที่ยว รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การผลิตสาขา การขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์และจักรยานยนต์เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.1 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน สาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 8 ร้อยละ 6.8 แต่ชะลอลงเมื่อเทียบกับการขยายตัวร้อยละ 7.4 ในไตรมาสก่อนหน้า รวม 9 เดือนแรกของปี 2566 การผลิตสาขาการขนส่งและสถานที่เก็บสินค้าขยายตัวร้อยละ 8.9 เทียบกับการเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.1 ในช่วงเดียวกันของปีก่อน</p>
<p>เสถียรภาพทางเศรษฐกิจ อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.99 ต่ําสุดในรอบ 15 ไตรมาส และ ต่ากว่าร้อยละ 1.06 ในไตรมาสก่อนหน้า และร้อยละ 1.23 ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อัตราเงินเฟ้อทั่วไป เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.5 และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 0.8 ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 3.3 พันล้านดอลลาร์ สรอ. (118.5 พันล้านบาท) เงินทุนสํารองระหว่างประเทศ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 อยู่ที่ 2.1 แสนล้านดอลลาร์ สรอ. และหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนกันยายน 2566 มีมูลค่าทั้งสิ้น 11,131,634.20 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62.1 ของ GDP</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53344151401_37ca4126be_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">แนวโน้มเศรษฐกิจไทย ปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5</span></h2>
<p>แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.5 ต่อเนื่องจากการขยายตัวร้อยละ 2.6 ในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อคาดว่าจะอยู่ที่ร้อยละ 1.4 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 1.0 ของ GDP </p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53344605380_67f5959fc0_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.7 – 3.7</span></h2>
<p>แนวโน้มเศรษฐกิจไทยปี 2567 คาดว่าจะขยายตัวในช่วงร้อยละ 2.7 – 3.7 (ค่ากลางของ การประมาณการอยู่ที่ร้อยละ 3.2) โดยมีปัจจัยสนับสนุนสําคัญจาก (1) การกลับมาขยายตัวของการส่งออก (2) การขยายตัวในเกณฑ์ดีของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน และ (3) การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ของภาคการท่องเที่ยว ทั้งนี้ คาดว่าการอุปโภคบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนขยายตัวร้อยละ 3.2 และ ร้อยละ 2.8 ตามลําดับ มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปดอลลาร์ สรอ. ขยายตัวร้อยละ 3.8 สําหรับอัตราเงินเฟ้อ ทั่วไปคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ในช่วงร้อยละ 1.7 - 2.7 และดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลร้อยละ 1.5 ของ GDP</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">รายละเอียดของการประมาณการเศรษฐกิจในปี 2567 ในด้านต่าง ๆ</span></h2>
<p>มีดังนี้</p>
<p>1. การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค ประกอบด้วย (1) การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภค ภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.2 ชะลอลงจากการขยายตัวในเกณฑ์สูงร้อยละ 7.0 ในปี 2566 โดยมี ปัจจัยสนับสนุนสําคัญจากตลาดแรงงานที่ยังคงแข็งแกร่ง ความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่สูงขึ้น และแรงกดดันด้าน เงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ํา และ (2) การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคภาครัฐบาล คาดว่าจะกลับมาขยายตัวร้อยละ 2.2 จากการลดลงร้อยละ 4.2 ในปี 2566 สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกรอบงบประมาณรายจ่ายประจํา ภายใต้งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 วงเงิน 2,762,800 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 จากกรอบวงเงิน 2,569,219 ล้านบาท ในปีงบประมาณ 2566</p>
<p>2. การลงทุนรวม คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 1.6 ต่อเนื่องจากการขยายตัวร้อยละ 1.3 ในปี 2566 โดย (1) การลงทุนภาคเอกชน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.8 เร่งขึ้นจากร้อยละ 2.0 ในปี 2566 ตามแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้าและการผลิตภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องของมูลค่า</p>
<p>โครงการขอรับการส่งเสริมการลงทุนและออกบัตรส่งเสริมการลงทุน และ (2) การลงทุนภาครัฐ คาดว่าจะ ลดลงร้อยละ 1.8 ต่อเนื่องจากการลดลงร้อยละ 0.8 ในปี 2566 เนื่องจากความล่าช้าของกระบวนการ งบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 ที่จะส่งผลให้การเบิกจ่ายมีความล่าช้า</p>
<p>3. มูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินดอลลาร์ สรอ. คาดว่าจะกลับมาขยายตัวร้อยละ 3.8 เทียบกับ การลดลงร้อยละ 2.0 ในปี 2566 โดยคาดว่าปริมาณการส่งออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 เทียบกับการลดลง ร้อยละ 3.1 ในปี 2566 และราคาส่งออกจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.0 - 1.0 เทียบกับร้อยละ 1.1 ในปี 2566 เมื่อรวมกับการส่งออกบริการคาดว่าปริมาณการส่งออกสินค้าและบริการในปี 2567 จะขยายตัวร้อยละ 6.2 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 ในปี 2566</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ประเด็นการบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในปี 2567</span></h2>
<p>การบริหารนโยบายเศรษฐกิจมหภาคในช่วงที่เหลือของปี 2566 และในปี 2567 ควรให้ความสําคัญ กับ (1) การดําเนินนโยบายการเงินการคลังอย่างเหมาะสมสอดคล้องกับเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ ของประเทศที่กําลังอยู่ในช่วงฟื้นตัว ท่ามกลางความเสี่ยงจากความผันผวนในระบบเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูงและแรงกดดันทางด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นมาก โดยควรให้ความสําคัญต่อการเพิ่ม พื้นที่ในการดําเนินนโยบาย (Policy space) ให้มีความเพียงพอเพื่อรองรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในระยะ ต่อไป (2) การเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบและใช้ประโยชน์จากความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการขยายตัวของความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การชะลอตัว ของประเทศเศรษฐกิจหลัก และความผันผวนในตลาดเงินตลาดทุนโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรให้ ความสําคัญต่อมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบจากความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางในปัจจุบันที่ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ ที่สําคัญ ทั้งด้านแรงงาน ความผันผวนของราคาพลังงานและ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ และต้นทุนภาคเกษตร</p>
<p>(3) การขับเคลื่อนภาคการส่งออกสินค้าให้กลับมาขยายตัวได้ อย่างต่อเนื่อง โดย (i) การเร่งรัดการส่งออกสินค้าไปยังตลาดที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวดี และการสร้างตลาดใหม่ (ii) การขับเคลื่อนการส่งออกสินค้าที่มีศักยภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก (iii) การใช้ประโยชน์จาก กรอบความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ควบคู่ไปกับการเร่งรัดการเจรจาความตกลง การค้าเสรี (iv) การอํานวยความสะดวกและลดต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการส่งออก (V) การป้องกันและแก้ไข ปัญหากีดกันทางการค้าโดยเฉพาะมาตรการที่ไม่ใช่มาตรการทางทางภาษี (vi) การส่งเสริมให้ภาคธุรกิจ บริหารจัดการความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน (vii) การยกระดับขีดความสามารถในการ แข่งขันของการผลิตสินค้า และ (vi) การเร่งรัดการพัฒนาอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิตวัตถุดิบและ สินค้าขั้นกลางในประเทศ (4) การสร้างความเชื่อมั่นและสนับสนุนการขยายตัวของการลงทุนภาคเอกชน โดย (1) การขับเคลื่อนการส่งออกให้สามารถกลับมาขยายตัว (ii) การเร่งรัดให้ผู้ประกอบการได้รับอนุมัติ และออกบัตรส่งเสริมการลงทุนในช่วงปี 2564 - 2566 ลงทุนจริง และเร่งอนุมัติโครงการที่เสนอขอรับ การส่งเสริมการลงทุน (iii) การเร่งรัดให้ผู้ประกอบการโรงงานที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน ให้เริ่มประกอบกิจการได้เร็วขึ้น (iv) การแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่สําคัญต่อการลงทุนและการประกอบธุรกิจ (V) การดําเนินมาตรการส่งเสริมการลงทุนเชิงรุกผ่านยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุน 5 ปี (vi) การส่งเสริม การลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และการขับเคลื่อนพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ และ (vi) การขับเคลื่อนการลงทุนพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานให้เป็นไปตามแผนที่กําหนด (5) การสนับสนุนการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและบริการเกี่ยวเนื่อง โดย (1) การจัดกิจกรรมส่งเสริม การท่องเที่ยวและสร้างการรับรู้ต่อมาตรการ LTR (ii) การประเมินผลมาตรการการยกเว้นการตรวจลงตรานักท่องเที่ยว (ii) การกระจายตลาดนักท่องเที่ยวให้สมดุล (iv) การส่งเสริมการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวให้มากขึ้น (v) การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง และ (vi) การส่งเสริมการพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูง</p>
<p>(6) การดูแล การผลิตภาคเกษตรและรายได้เกษตรกร โดย (1) การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้ง (ii) การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแก่เกษตรกรผ่านระบบประกันภัยพืชผล (ii) การเพิ่มส่วนแบ่งให้เกษตรกรมีรายได้จากการจําหน่าย ผลผลิตขั้นสุดท้าย (iv) การส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมเพื่อยกระดับมูลค่าเพิ่มและผลิตภาพในการผลิต และ (v) การส่งเสริมให้เกษตรกรผลิตและใช้ปุ๋ยและวัตถุดิบที่ผลิตในประเทศ และ (7) การรักษาแรงขับเคลื่อน การขยายตัวทางเศรษฐกิจจากการใช้จ่ายและการลงทุนภาครัฐ โดย (1) การเร่งรัดเบิกจ่ายจากงบประมาณ รายจ่ายเหลื่อมปีและงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในช่วงที่พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจําปี 2567 ยังไม่มีผล บังคับใช้ (ii) การเร่งรัดกระบวนการงบประมาณรายจ่ายประจําปีงบประมาณ 2567 (iii) การเตรียมโครงการให้ มีความพร้อมสําหรับการจัดซื้อจัดจ้างและการเบิกจ่ายได้โดยเร็ว และ (iv) การติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ</p>
<p> </p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข่https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106896
 
3663  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เผยชีวิต "แอนโทเนีย" ที่โคราช ก่อนประกวดนางงาม ครอบครัวเตรียมเมนูโปรดไว้ต้อน เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 20:56:47
เผยชีวิต "แอนโทเนีย" ที่โคราช ก่อนประกวดนางงาม ครอบครัวเตรียมเมนูโปรดไว้ต้อนรับ
         


เผยชีวิต &quot;แอนโทเนีย&quot; ที่โคราช ก่อนประกวดนางงาม ครอบครัวเตรียมเมนูโปรดไว้ต้อนรับ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เผยความน่ารัก "แอนโทเนีย" ตั้งแต่ก่อนประกวดนางงาม ครอบครัวเตรียมแก้บนย่าโม และเตรียมเมนูโปรดไว้ต้อนรับ


         

https://www.sanook.com/news/9111550/
         
3664  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กก.บห.ไทยภักดี ถูกแจ้ง 112 ปมยื่นหนังสือกรมราชทัณฑ์ค้านขออภัยโทษ 'ทักษิณ' เป็นก เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 19:26:31
กก.บห.ไทยภักดี ถูกแจ้ง 112 ปมยื่นหนังสือกรมราชทัณฑ์ค้านขออภัยโทษ 'ทักษิณ' เป็นกรณีพิเศษ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 18:15</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p><span style="color:null;">ภาพปก: อานันต์ สาครเจริญ (ที่มา: </span><span style="color:null;">พรรคไทยภักดี</span><span style="color:null;">)</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'วรงค์' เผย กก.บห.พรรคไทยภักดี ถูกทนาย 'ส้ม' แจ้ง ม.112 ปมยื่นหนังสือ 'ราชทัณฑ์' ค้านขอพระราชทานอภัยโทษให้ 'ทักษิณ' เป็นกรณีพิเศษ แปลกใจปกป้องเบื้องสูงมาโดยตลอด แต่ถูกแจ้ง 112 แถมตำรวจรับแจ้ง-สอบปากคำ</p>
<p> </p>
<p>20 พ.ย. 2566 เพจเฟซบุ๊ก วรงค์ เดชกิจวิกรม ผู้ก่อตั้งพรรคการเมืองไทยภักดี โพสต์ข้อความเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2566 ระบุว่า อานันต์ สาครเจริญ กรรมการบริหารพรรคไทยภักดี โดนแจ้งความ 112 หลังเดินไปยื่นหนังสือกับกรมราชทัฑณ์ เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 คัดค้านการขอพระราชทานอภัยโทษของทักษฺิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งปัจจุบัน ถูกคุมขังอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="223" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/post.php?href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Ftherealwarong%2Fposts%2Fpfbid034dA7jjFV8naJSJdBq6xenkYKRMAUNadjK7XLHYq2B4ovSqGLmwQjNG36GDimqi4Kl&amp;show_text=true&amp;width=500" style="border:none;overflow:hidden" width="500"></iframe></p>
<p>ต่อมา เฟซบุ๊กของ วรงค์ เดชกิจวิกรม โพสต์ข้อความวันนี้ (20 พ.ย.) เมื่อเวลา 9.04 น. ชี้แจงรายละเอียดเหตุการณ์เพิ่มเติมว่า พรรคไทยภักดีส่งคนไปยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ แสดงความไม่เห็นด้วยกรณีกรมราชทัณฑ์จะดำเนินการเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษนักโทษชายเป็นกรณีพิเศษ และตอนที่ร้องเรียนที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้มีหนังสือตอบกลับมาที่พรรคไทยภักดีว่าจะดำเนินการตามกฎหมาย และปฏิบัติกับนักโทษทุกคนอย่างเท่าเทียม  </p>
<p>โพสต์ของวรงค์ ระบุต่อว่า แต่อย่างไรก็ตาม ได้ถูกทนายความ ‘ส้ม’ คนหนึ่งไปร้องกองปราบว่าเข้าข่ายผิดมาตรา 112 หรือไม่ และตนแปลกใจคือกองปราบก็รับเรื่อง เพื่อสอบปากคำ ทั้งนี้ โพสต์ของวรงค์ไม่ได้เปิดเผยว่าทนายความคนดังกล่าวคือใคร หรือชี้แจงว่าทำไมต้องทนายความ ‘ส้ม’</p>
<p>โพสต์ของวรงค์ ระบุต่อว่า ตนข้องใจเพราะว่าพรรคไทยภักดียึดมั่นอุดมการณ์ปกป้องสถาบันเบื้องสูง และไม่มีความคิดที่จะหมิ่นประมาทอาฆาตมาดร้ายสถาบันเบื้องสูงเหมือนบางฝ่าย แต่วันนี้กลับถูกฝ่ายที่ต้องการล้มสถาบันฯ แจ้งมาตรา 112 </p>
<p>"วันนี้สังคมไทยคงแปลกมาก ปล่อยให้ฝ่ายล้มล้าง มาร้องฝ่ายปกป้องว่าล้มล้าง ปล่อยให้ฝ่ายโดนคดี 112 มาร้องฝ่าย#save112 ว่าผิดมาตรา112 ที่ยิ่งแปลกมากๆ คือเจ้าหน้าที่รัฐก็รับลูกด้วย" โพสต์ของวรงค์ ระบุ</p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53344277723_0f8806c0dd_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">อานันต์ สาครเจริญ (ที่มา: พรรคไทยภักดี)</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106894
 
3665  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - มท.เตรียมเปิดสอบ ปลัดอำเภอรุ่นใหม่ วัดความรู้ประวัติศาสตร์ ต้องภูมิใจในความเป็ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 19:25:42
มท.เตรียมเปิดสอบ ปลัดอำเภอรุ่นใหม่ วัดความรู้ประวัติศาสตร์ ต้องภูมิใจในความเป็นไทย
         


มท.เตรียมเปิดสอบ ปลัดอำเภอรุ่นใหม่ วัดความรู้ประวัติศาสตร์ ต้องภูมิใจในความเป็นไทย" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;กรมการปกครอง รับลูก มท.1 สอบปลัดอำเภอรุ่นใหม่ ต้องวัดความรู้วิชาประวัติศาสตร์ มีความภูมิใจในความเป็นไทย
         

https://www.sanook.com/news/9108858/
         
3666  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "ปิ่น เก็จมณี" มาแหวกแนว! ถ่ายรูปยิ้มร่าเริงคู่ถังขยะ แฟนๆ แห่คอมเมนต์เพียบ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 18:25:08
"ปิ่น เก็จมณี" มาแหวกแนว! ถ่ายรูปยิ้มร่าเริงคู่ถังขยะ แฟนๆ แห่คอมเมนต์เพียบ
         


&quot;ปิ่น เก็จมณี&quot; มาแหวกแนว! ถ่ายรูปยิ้มร่าเริงคู่ถังขยะ แฟนๆ แห่คอมเมนต์เพียบ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ปิ่น เก็จมณี ภาพนี้ทำแฟนๆ แห่เข้ามาคอมเมนต์เพียบเลย
         

https://www.sanook.com/news/9111290/
         
3667  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กวีประชาไท: ฤดูกฐิน VS ยังเถียงกันไม่จบเรื่อง"วิกฤติ' ?! เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 17:56:27
กวีประชาไท: ฤดูกฐิน VS ยังเถียงกันไม่จบเรื่อง"วิกฤติ' ?!
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 14:49</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ธุลีดาวหาง</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><div class="poet-box">
<p> </p>
<p> </p>
<p> </p>
<p>ข่าวชาวบ้านฟังก่อนนอนดิจิตอล วอลเล็ต
วางแผนยังไม่เสร็จมองหาขนหน้าแข้ง
หมกเม็ดหรือไม่ในผลงานการแสดง
ความจะแจ้งเข้าตามตรอกออกทางประตู</p>
<p>คนตกงานกลายเป็น"นัก"เก็บผักบุ้ง
กินลงพุงเห็นซี่โครงยาวโยงอยู่
ขบวนกฐินมาถึงทอดจอดวัดรู้
เข้าฤดูซ่อมโบสถ์วิหารศาลาการเปรียญ</p>
<p>ผู้รับเหมาควบรถคันเก่าเข้ามาหา
เป็นทีมช่างทาสีไม่มีเกษียณ
กระเพาะครากมากมายคล้ายวิงเวียน
แค่คลื่นเหียนเคยชินกลิ่นเหล้าขาว</p>
<p>วัดเหนือบ้านขานยอดเงินจะเกินล้าน
วัดท้ายบ้านทอดก่อนตาร้อนผ่าว
ได้แค่หกแสนเองใจไม่เกรียวกราว
ผู้รับเหมาตาวาวก้าวตามไป</p>
<p>ราษฎรตัวละครเอกเบรคจักรยาน
ดีใจงานเรียกถามความวัดไหน
โบสถ์วัดราษฎร์ธานีทาสีใหม่
ศาลาหลังใหญ่ชำรุดอยู่ทรุดโทรม</p>
<p>ข่าวคนงานพม่าเขาพามาทิ้ง
กะรุ่งกะริ่งหญิงชายพ่ายทุกข์โถม
เก็บผักบุ้งทุ่งนามาประโลม
ร้าวรานโหมหาญห้าวความร้าวราน</p>
<p>ข่าวที่ร้ายกว่าพม่าเขาฆ่าใคร !?
คนงานไทยหลายสิบไม่ ได้กลับบ้าน
อยู่หว่างกลางความขัดแย้งแห่งดักดาน
วิกฤติการณ์ไทยตายเกลื่อนเป็นเพื่อนกัน!?</p>
<p>เรื่องทำมาหากินทั้งสิ้นนี้
มีกดขี่ขูดรีดคอยขีดขั้น
รู้บวกลบคูณหารการแบ่งปัน 
แต่ตีบตันเพราะอะไรใช่เห็นแก่ตัว?</p>
<p>โลกกว้างใหญ่ใจคนแคบแสบสันต์เศร้า
ความโง่เขลาเข้ารุมคลุมเงาหัว
กว่าจะเข้าใจเขลาอันเมามัว
แบ่งขั้วพลั่วจอบเสียมเตรียมฝังกัน!</p>
<p>ฤดูทอดกฐินเลิกกินผักบุ้ง
ข่าวชาวทุ่งทอดกฐินดินแดนฉัน
ทั่วประเทศเงินสะพัดมหัศจรรย์
สุวรรณภูมิชอุ่มวัดลืมผัดผักบุ้งเลย.</p>
<p>                </p>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทควhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106890
 
3668  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - จากฟุตบอลนักเรียนศตวรรษก่อน สู่ “จตุรมิตรสามัคคี” โรงละครแห่งศูนย์กลางอำนาจท เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 16:25:38
จากฟุตบอลนักเรียนศตวรรษก่อน สู่ “จตุรมิตรสามัคคี”  โรงละครแห่งศูนย์กลางอำนาจทางการเมือง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 16:11</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>การสิ้นสุดลงของวังหน้า การขยายอาณาเขตสนามหลวง และการตัดถนนราชดำเนินเมื่อ 100 กว่าปีที่แล้ว มาพร้อมกับภูมิทัศน์แบบสมัยใหม่ใจกลางกรุง ในเวลาไล่เลี่ยกันก็ได้เกิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลนักเรียนขึ้นเมื่อปี 2444 ครั้งแรกประกอบด้วยทีมทั้งหมด 9 โรงเรียน คือ โรงเรียนแผนที่ (ก่อตั้งปี 2425<a href="#_ftn1" name="_ftnref1" title="" id="_ftnref1">[1][/url]), โรงเรียนสวนกุหลาบ (ไทย), โรงเรียนสวนกุหลาบ (อังกฤษ) (ก่อตั้งปี 2425)<a href="#_ftn2" name="_ftnref2" title="" id="_ftnref2">[2][/url], โรงเรียนวัดมหรรณพาราม) (ก่อตั้งปี 2427<a href="#_ftn3" name="_ftnref3" title="" id="_ftnref3">[3][/url]), โรงเรียนฝึกหัดอาจารย์ (ก่อตั้งปี 2435<a href="#_ftn4" name="_ftnref4" title="" id="_ftnref4">[4][/url]), โรงเรียนกล่อมพิทยากร (ก่อตั้งปี 2435)<a href="#_ftn5" name="_ftnref5" title="" id="_ftnref5">[5][/url], โรงเรียนสายสวลี (ก่อตั้งปี 2437)<a href="#_ftn6" name="_ftnref6" title="" id="_ftnref6">[6][/url]  และโรงเรียนราชวิทยาลัย (ก่อตั้งปี 2439<a href="#_ftn7" name="_ftnref7" title="" id="_ftnref7">[7][/url])โรงเรียนราชการ (ก่อตั้งปี ราวปี 2442 <a href="#_ftn8" name="_ftnref8" title="" id="_ftnref8">[8][/url]) โรงเรียนส่วนใหญ่เป็นโรงเรียนสำคัญที่อยู่แวดล้อมกับอำนาจการศึกษาและกลไกการปฏิรูปประเทศ ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลจากพระบรมมหาราชวัง ไกลที่สุดก็น่าจะเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัยที่อยู่บริเวณจวนเดิมของสมเด็จเจ้าพระยาบรมศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) แถบฝั่งธนบุรีฝั่งตรงข้ามกับปากคลองตลาด-วัดราชบูรณะ การเล่นฟุตบอลและการแข่งขันถือว่าเป็นหนึ่งในการสร้างความเป็นชายและใช้ขัดเกลาความเป็นสุภาพบุรุษ</p>
<p>สนามแข่งขันรายการฟุตบอลแต่แรกยังไม่มีสนามกลางตายตัว มีการเลือกใช้สนามของโรงเรียนที่ร่วมแข่งขันบางแห่ง และท้องสนามหลวงบ้าง หากพิจารณาตามชื่อโรงเรียนที่ส่งเข้าแข่งขัน จะเห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอำนาจรัฐของโรงเรียนต่างๆ ในยามที่รัฐต้องการผลิตบุคลากรมาป้อนระบบราชการให้เพียงพอกับระบบการปกครองที่พยายามขยายองคาพยพให้ครอบคลุมไปทั่วประเทศ ตัวละครไม่น้อยที่ได้รับการบันทึกในฐานะนักเรียนนักฟุตบอล ได้กลายเป็นข้าราชการสำคัญ เช่น นายบุญจ๋วน บุญยะปานะแห่งประถมสามจีนใต้ ต่อมาคือ พระยาธรรมบัณฑิตสิทธิศฤงคาร (2436-2506) นายบุญชู ศีตะจิตต์แห่งมัธยมพิเศษเทพศิรินทร์ ต่อมาเป็นพระเชฏฐไวทยาการ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขในปี 2490-2497 (2435-2516) นายจร โชติกเสถียรแห่งราชวิทยาลัย ต่อมาเป็นหลวงจรเนาวิเทศ สังกัดกระทรวงการคลัง นายส่าน โชติเสถียร ต่อมาเป็นพระวุฒิศาสตร์เนติญาณ กระทรวงเศรษฐการ<a href="#_ftn9" name="_ftnref9" title="" id="_ftnref9">[9][/url]</p>
<p>การแข่งขันของโรงเรียนต่างๆ จึงมิได้เป็นการส่งทีมเข้าร่วมเฉยๆ แต่แสดงให้เห็นถึงการสร้างเครือข่ายความสัมพันธ์กับรัฐ หรืออาจกล่าวได้ว่า การแข่งขันฟุตบอลโรงเรียนได้เผยให้เห็นเครือข่ายทางการศึกษาที่เป็นฐานอำนาจทางการเมืองของรัฐในยุคนั้นไปด้วย</p>
<p>รัชสมัยต่อมาก็ได้มีการจัดการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง โดยมีสนามแข่งหลักๆ อยู่ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์และสวนกุหลาบวิทยาลัย ในช่วงนี้เริ่มมีการแบ่งการแข่งขันเป็นรุ่นอายุ แต่ก็ยังเป็นการแข่งขันระหว่างโรงเรียนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลเป็นหลัก<a href="#_ftn10" name="_ftnref10" title="" id="_ftnref10">[10][/url] การแข่งขันต่อเนื่องจากปี 2454-2475 น่าจะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนต่างๆ ด้านฟุตบอลก่อตัวขึ้นมาอย่างแน่นแฟ้นนำไปสู่การแข่งขันจตุรมิตรสามัคคีในเวลาต่อมา หลังปฏิวัติ 2475 กรมพลศึกษาเป็นผู้รับผิดชอบการจัดแข่งขันฟุตบอลนักเรียน และเริ่มมีโรงเรียนนอกกรุงเทพฯ มาร่วมแข่งขัน แต่ก็หยุดชะงักในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ในระดับสูงกว่านั้นเริ่มมีการแข่งขันฟุตบอลประเพณีระหว่างจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กับ มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์ธรรมศาสตร์และการเมืองเมื่อปี 2477 ในช่วงแรกได้จัดการแข่งขัน ณ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย<a href="#_ftn11" name="_ftnref11" title="" id="_ftnref11">[11][/url] ก็ย่อมสะท้อนถึงเครือข่ายด้านฟุตบอลและสถาบันการศึกษาที่โยงใยถึงกันด้วย</p>
<p>ในที่สุดโรงเรียนมัธยมศึกษาในกรุงเทพฯทั้ง 4 แห่ง ได้ริเริ่มจัดฟุตบอลที่ชื่อว่า "จตุรมิตรสามัคคี" เมื่อปี 2507 ในนามของการแข่งขันฟุตบอลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 4 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน โรงเรียนเทพศิรินทร์ โรงเรียนอัสสัมชัญและโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โดยมีจุดประสงค์เพื่อเชื่อมความสามัคคีระหว่างครู อาจารย์ และนักเรียน ทั้งฝ่ายนักกีฬาและฝ่ายกองเชียร์ ว่ากันว่าเกิดจากการประสานงานของอาจารย์ใหญ่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน ได้เชื้อเชิญโรงเรียนเทพศิรินทร์ และโรงเรียนอัสสัมชัญมาแข่งขันฟุตบอลร่วมกัน<a href="#_ftn12" name="_ftnref12" title="" id="_ftnref12">[12][/url]</p>
<p>นับได้ว่าทั้ง 4 โรงเรียนนี้ นับเป็นโรงเรียนชั้นนำของประเทศในระดับมัธยมศึกษาในขณะนั้น และยังเป็นโรงเรียนที่มีความเก่าแก่ระดับร้อยปี สำหรับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยและเทพศิรินทร์ ไม่เป็นเพียงโรงเรียนของรัฐแต่ยังมีอัตลักษณ์ที่ผูกอยู่กับเจ้านายสยามอย่างชัดเจน ขณะที่โรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน และอัสสัมชัญเป็นตัวแทนของโรงเรียนคริสต์ที่เก่าแก่ที่เคยมีความโดดเด่นในฐานะเป็นของชาวตะวันตกและมีจุดเด่นที่การสอนภาษาอังกฤษ และทั้งคู่ก็เป็นตัวแทนของทั้งนิกายโปรเตสแตนท์และโรมันคาทอลิก</p>
<p>การแข่งขันใช้สนามศุภชลาศัยเป็นสนามแข่งขัน และหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพทุกปี โดยโรงเรียนสวนกุหลาบเป็นเจ้าภาพการแข่งขันในครั้งแรก แต่ได้ช่วงที่เว้นการจัดงานก็คือ ปี 2509 และ 2510 เนื่องจากสนามไม่ว่างเพราะถูกเลือกเป็นสถานที่ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ และกีฬาแหลมทอง ช่วงต่อมาคือ ปัญหาการเมืองในช่วงหลัง 14 ตุลาคม 2516 และ6 ตุลาคม 2519 ทำให้ไม่มีการแข่งขันในปี 2518-2520 แต่น่าสงสัยว่าปี 2523-2524 ไฉนจึงไม่มีการแข่งขัน นับตั้งแต่ปี 2528 เป็นต้นมา จะเป็นการแข่งขันปีเว้นปี อุปสรรคมาอีกครั้งเมื่อถึงปี 2554 ที่ต้องงดแข่งเพราะประสบปัญหามหาอุทกภัยในช่วงดังกล่าว<a href="#_ftn13" name="_ftnref13" title="" id="_ftnref13">[13][/url]  ในปี 2559 เป็นปีที่ต้องเลื่อนไปอีกปี เพราะยังอยู่ในช่วงถวายอาลัยช่วงสวรรคตของรัชกาลที่ 9 เช่นเดียวกับช่วงโควิด 19 ที่ทำให้การแข่งขันถูกระงับเมื่อปี 2564 และเลื่อนการแข่งขันในครั้งล่าสุดปี 2566 จะเห็นได้ว่า ฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีได้วางอยู่ในบริบทสังคมการเมืองไทยแบบที่ว่า หากจะทำหนังประวัติศาสตร์ผ่านมุมมองฟุตบอลจตุมิตรฯ ก็สามารถทำได้อย่างสบายๆ</p>
<p>การที่ฟุตบอลนักเรียนได้รับสิทธิ์ให้ใช้สนามกีฬาแห่งชาติเช่นนี้ ย่อมสะท้อนความไม่ธรรมดาของเครือข่ายที่พวกเขามีไปด้วย นั่นหมายถึงว่า สนามกีฬาอันโอ่อ่าเช่นนี้มีสนามมาตรฐาน พร้อมกับแสตนด์เชียร์ที่ล้อมรอบทั้ง 4 ฝั่ง มีรั้วรอบขอบชิดปิดกั้น สามารถจุผู้ชมนับหมื่น ขณะเดียวกันยังมีพื้นที่ฝั่งคบเพลิง อันอยู่ตรงข้ามอัฒจันทร์ประธาน ที่สามารถจะใช้สำหรับแปรอักษรแสดงข้อความและภาพต่างๆ อย่างยิ่งใหญ่อลังการ ฟุตบอลจตุรมิตร จึงไม่ได้เป็นการแข่งขันไปตามความสะดวกของโรงเรียนแบบเดิมๆ อีกแล้ว</p>
<p>นอกจากนั้นฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีได้เก็บค่าผ่านประตู โดยรายได้ส่วนหนึ่งของการแข่งขันจะนำทูลเกล้าฯ ถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย<a href="#_ftn14" name="_ftnref14" title="" id="_ftnref14">[14][/url] ดังนั้น ฟุตบอลจตุรมิตรฯ จึงแสดงให้เห็นถึง 3 มิติ ก็คือ การแข่งขันกีฬาที่มีมิติแบบกีฬาการกุศล การอิงอยู่กับชนชั้นนำ และการสร้างพื้นที่ของเครือข่ายทางสังคมในหมู่โรงเรียนชั้นนำในกรุงเทพฯ</p>
<p>มากไปกว่านั้น รายการฟุตบอลนี้ยังได้รับแอร์ไทม์จากสถานีโทรทัศน์เพื่อทำการถ่ายทอดสดอีกด้วย แม้จะเป็นเพียงแค่การแข่งขันฟุตบอลระดับนักเรียนและเป็นเพียงฟุตบอลของโรงเรียนเพียง 4 โรงเรียนในกรุงเทพฯ เช่น ปี 2534 มีการถ่ายทอดสดผ่านช่อง 9 อ.ส.ม.ท.<a href="#_ftn15" name="_ftnref15" title="" id="_ftnref15">[15][/url] ซึ่งขณะนั้นยังอยู่ในความควบคุมของรัฐบาล และปีนั้นเกิดการรัฐประหารขึ้น ข้อสังเกตคือ หัวหน้าผู้ทำรัฐประหารครั้งนั้นคือ สุนทร คงสมพงษ์ ศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย ผู้ยึดอำนาจจากนายกรัฐมนตรีชาติชาย ชุณหะวัณ ศิษย์เก่าเทพศิรินทร์</p>
<p>ฟุตบอลรายการนี้ยังดำรงอยู่คู่สังคมไทยมาจนถึงปัจจุบัน นอกจากจะแสดงถึงศักยภาพของโรงเรียนดังกล่าวแล้ว ฟุตบอลรายการนี้ยังแสดงให้เห็นถึงศูนย์กลางอำนาจและเครือข่ายการเมือง-เศรษฐกิจระดับครีมของสังคมไทย ก่อนที่นักเรียนในโรงเรียนเหล่านี้จะก้าวขึ้นสู่อภิสิทธิ์ชนในอนาคตไม่ว่าจะในตำแหน่งนักการเมืองระดับชาติ นายกรัฐมนตรี ข้าราชการพลเรือน ข้าราชการทหารระดับสูง หรือกระทั่งผู้ทำการรัฐประหาร ด้วยชื่อเสียงของพวกเขา จึงไม่แปลกที่ 2 โรงเรียนดังจะมีโรงเรียนสาขาหรือแฟรนไชส์ขยายออกไปในพื้นที่ต่างจังหวัดเช่น สวนกุหลาบวิทยาลัย และเทพศิรินทร์<a href="#_ftn16" name="_ftnref16" title="" id="_ftnref16">[16][/url] (แตกต่างจากโรงเรียนในเครือเซนต์คาเบรียล-อัสสัมชัญ และเครือสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทยที่มีระบบบริหารอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งมีสาขาเช่นกันในต่างจังหวัด)</p>
<p>เว็บไซต์รัฐบาลไทยได้ทำประวัตินายกรัฐมนตรีไว้ เมื่อสืบค้นจะพบว่าเคยศึกษาในโรงเรียนใดมาบ้าง ผู้เขียนลองจำแนกเฉพาะผู้ที่เคยศึกษาในเครือ จตุรมิตรฯ เราจะนับได้ถึง 12 คน ดังนี้<a href="#_ftn17" name="_ftnref17" title="" id="_ftnref17">[17][/url]</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p style="margin-left: 40px;">พระยามโนปกรณนิติธาดา (ก้อน หุตะสิงห์) : สวนกุหลาบวิทยาลัย, อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">ควง อภัยวงศ์ : เทพศิรินทร์, อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">ทวี บุณยเกตุ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">เสนีย์ ปราโมช : อัสสัมชัญ, เทพศิรินทร์, สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ถวัลย์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ : เทพศิรินทร์</p>
<p style="margin-left: 40px;">สัญญา ธรรมศักดิ์ : อัสสัมชัญ</p>
<p style="margin-left: 40px;">คึกฤทธิ์ ปราโมช : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ธานินทร์ กรัยวิเชียร :สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">เปรม ติณสูลานนท์ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">ชาติชาย ชุณหะวัณ : เทพศิรินทร์</p>
<p style="margin-left: 40px;">อานันท์ ปันยารชุน : กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย</p>
<p style="margin-left: 40px;">สุรยุทธ์ จุลานนท์ : สวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p>จะเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเคยศึกษาโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยมากที่สุด มีจำนวนถึง 7 จาก 12 คน รองลงมาเทพศิรินทร์คือ 5 คน น้อยที่สุดคือ กรุงเทพคริสเตียนวิทยาลัย แต่ในกรณีของเสนีย์ ปราโมช ถือว่ามีประสบการในโรงเรียนถึง 3 แห่ง นั่นคือ อัสสัมชัญ เทพศิรินทร์ และสวนกุหลาบวิทยาลัย</p>
<p>จึงไม่แปลกที่ในสูจิบัตรปี 2562 ระดับประธานองคมนตรี อย่างสุรยุทธ์ จุลานนท์ และผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุด อย่างพรพิพัฒน์ เบญญศรี ในนามศิษย์เก่าสวนกุหลาบวิทยาลัย ได้มี “สาร” ที่ตีพิมพ์เนื่องในพิธีเปิดการแข่งขัน ครั้งที่ 29<a href="#_ftn18" name="_ftnref18" title="" id="_ftnref18">[18][/url]</p>
<p>การแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรเป็นที่สนใจอย่างกว้างขวาง ภายใต้ความสนใจในด้านบวกแล้ว ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะหลังจากความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ที่ตั้งคำถามกับระบบการศึกษา โรงเรียนในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีความไม่น่าไว้วางใจเนื่องด้วยเป็นสถาบันที่มีโอกาสจะใช้ความรุนแรงไม่ว่าจะประสบการณ์ร่วมกัน จากการร้องเรียน หรือการเป็นข่าวในพื้นที่สื่อ ล่าสุด สัญญา คุณากร พิธีกรชื่อดังก็ออกมาโพสต์โซเชียลเพื่อแสดงความเห็นเกี่ยวกับดราม่า การขึ้นแสตนด์เชียร์ในนามของศิษย์เก่าสวนกุหลาบซึ่งมีนัยตอบโต้ ธิษะณา ชุณหะวัณ ส.ส.ก้าวไกลที่ออกมาต่อต้านการแปรอักษรในการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีโดยเขาโพสต์ว่า</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p><span style="color:#2980b9;">“ผมเป็นคนไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่ทำไมผมมีความรู้สึกว่า ประโยคที่ได้ยินจากเรื่องนี้มันตรงกับที่รู้สึก ว่า “…(คุณ)อย่า…(มาหาเรื่อง) กับโรงเรียนของ…(ผม)เลย” คุณไม่เคยรับรู้ถึงเกียรติภูมิ ของโรงเรียน ความอดทน ความเสียสละ การภาคภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของโรงเรียนที่จะสร้างเยาวชน ที่มีเกียรติ มีรากเหง้า มีกำลังสติปัญญา และมีความเป็นมนุษย์ … ทั้งหมดต้องถูกหล่อหลอมโดยหลายช่องทาง หลายกิจกรรม…มีทั้งยาก และง่าย ทั้งเหน็ดเหนื่อย…และลำบาก โปรดรับรู้ว่า นักเรียนสวนกุหลาบ จะรักษาความถูกต้องจากการแอบแฝงผลใดๆ และจะรักษาเกียรติของโรงเรียนเสมอไป  #ผมคือนักเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย” </span><a href="#_ftn19" name="_ftnref19" title="" id="_ftnref19"><span style="color:#2980b9;">[19]</span>[/url]</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p><strong>ตรงกันข้ามกับฟุตบอลนักเรียนระดับชาติที่ได้รับการสนับสนุนน้อยอย่างน่าใจหาย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ดังที่มีผู้เขียนข้อเสนอสะท้อนไว้ในวันก่อนกรณีการแข่งขันฟุตบอล 7 สี เปรียบเทียบกับ ฟุตบอลชิงแชมป์ฤดูหนาวของนักเรียนญี่ปุ่น<a href="#_ftn20" name="_ftnref20" title="" id="_ftnref20">[20][/url] การแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคีเพียง 4 โรงเรียน กลับมีพื้นที่สื่อและการสนับสนุนจากทุนและรัฐอย่างน่าจับตา มันจึงสะท้อนถึงโอกาสการเข้าถึงทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมกันซึ่งไม่ใช่แค่ด้านกีฬา แต่มันหมายถึง โอกาสทางการศึกษาของโรงเรียนในต่างจังหวัดที่อยู่บนความเหลื่อมล้ำมาอย่างยาวนาน เช่นเดียวกับการรวมศูนย์กลางของโอกาสอยู่ที่เมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ ไปด้วย.</strong></p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p class="MsoNoSpacing" style="text-align:justify; margin:0in"> </p>
<p><strong>อ้างอิง   </strong></p>
<div>
<div id="ftn1">
<p><a href="#_ftnref1" name="_ftn1" title="" id="_ftn1">[1][/url]  เจมส์ เอฟ. แมคคาร์ธีผู้ทำการสำรวจและจัดทำแผนที่สยาม ที่เข้ามาตั้งแต่ปี 2523 มีบทบาทจัดตั้งโรงเรียนแผนที่ฝึกสอนชาวสยาม โดยนำเอานายทหารรักษาพระองค์ 30 นายเข้าเป็นนักเรียนรุ่นแรก แมคคาร์ธีเป็นครูใหญ่ สอนบริเวณตึกแถวกองมหาดเล็ก ข้างประตูพิมานไชยศรีในพระบรมมหาราชวัง ดูใน กรมแผนที่ทหาร.  “ประวัติ”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก https://bit.ly/2xf88qW</p>
</div>
<div id="ftn2">
<p><a href="#_ftnref2" name="_ftn2" title="" id="_ftn2">[2][/url] เดิมเรียกว่า โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ ตั้งขึ้นเพื่อฝึกหัดหม่อมเจ้าและหม่อมราชวงศ์โดยเฉพาะให้เป็นทหารมหาดเล็ก ต่อมาได้ขยายให้ผู้สมัครจากภายนอกมากขึ้น และใช้บริเวณพระตำหนักสวนกุหลาบที่เคยเป็นคลังที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ จึงตั้งโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบในปี 2425 แต่แรกมีการฝึกหัดอย่างทหารและแบบสามัญตามโรงเรียน เมื่อมีผู้สมัครเรียนเกินจำนวนตำแหน่งทหารมหาดเล็กจึงเปลี่ยนจากนักเรียนทหารมาเป็นนักเรียนพลเรือน จนต้องสร้างตึกยาวทางพระราชวังด้านให้ใช้เป็นที่เล่าเรียน ต่อมาปี 2436 ได้ขยายไปนอกพระบรมมหาราชวัง และเป็นจุดเริ่มต้นของโรงเรียนสวนกุหลาบที่ได้แยกเป็น 2 แห่งได้แก่ โรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบฝ่ายไทยและฝ่ายอังกฤษ ฝ่ายไทยได้ย้ายไปที่วัดมหาธาตุส่วนหนึ่งและที่โรงเรียนมหาดเล็กหลวงในพระบรมมหาราชวังอีกที่หนึ่ง สวนกุหลาบฝ่ายไทยมีความสัมพันธ์กับกระทรวงธรรมการอย่างน่าสนใจ เนื่องจากเมื่อกระทรวงธรรมการสร้างอาคารใหม่บริเวณวังหน้าเดิม ก็ได้ให้สวนกุหลาบฝ่ายไทยไปใช้ตึกในนั้นด้วย แต่อย่างไรก็ตามสวนกุหลาบฝ่ายไทยยังได้ย้ายไปอีกหลายแห่ง เช่น วัดมหาธาตุฝั่งใต้, โรงเลี้ยงเด็กริมคลองมหานาค และในที่สุดก็ไปที่ตึกแถวหลังยาววัดราชบูรณะที่จะกลายเป็นกลับมารวมกันอีกครั้งของฝ่ายอังกฤษ ส่วนฝ่ายอังกฤษนั้น ไม่ได้ย้ายออกนอกพระบรมมหาราชวัง แต่ว้ายไปที่ริมพระที่นั่งสุทธัยสวรรค์ ต่อมาได้ย้ายออกไปแถบบริเวณสตรีสวนสุนันทาลัย ปากคลองตลาด จนได้ชื่อว่า โรงเรียนสวนกุหลาบสุนันทาลัย ต่อมาสมเด็จพระราชินีได้ขอพระราชทานที่ดินดังกล่าวเพื่อปรับปรุงเป็นโรงเรียนราชินี จึงได้ย้ายมารวมกับโรงเรียนเทพศิรินทร์ ไปอยู่ร่วมกับตึกแม้นนฤมิตร จึงได้ชื่อว่าโรงเรียนสวนกุหลาบแม้นนฤมิตร ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนสวนกุหลาบอังกฤษเทพศิรินทร์ จนในปี 2454 โรงเรียนสวนกุหลาบฝ่ายไทยและอังกฤษก็ได้มารวมกันอีกครั้งในปี 2454 ปีเดียวหลังรัชกาลที่ 5 เสด็จสวรรคต   ดูใน โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย นนทบุรี.  “ประวัติโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก http://www.skn.ac.th/skn/index.php/2016-09-07-14-40-46/536-2016-09-07-14-26-50</p>
</div>
<div id="ftn3">
<p><a href="#_ftnref3" name="_ftn3" title="" id="_ftn3">[3][/url] ตั้งขึ้นในปี 2427 ดูใน โรงเรียนวัดมหรรณพาราม. “ประวัติโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก http://www.watmahannapharam.ac.th/datashow_46915</p>
</div>
<div id="ftn4">
<p><a href="#_ftnref4" name="_ftn4" title="" id="_ftn4">[4][/url] ตั้งขึ้นในปี 2435 บริเวณโรงเลี้ยงเด็ก ต.สวนมะลิ ถ.บำรุงเมือง ต่อมาย้ายมาที่บริเวณวังจันทรเกษม ถ.ราชดำเนิน มีบทบาทหน้าที่ผลิตครู ปี 2461 เปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนฝึกหัดครู และปีเดียวกันนั้นเปิดสอนหลักสูตรประโยคครูประถม (ป.ป.) รับนักเรียนจบม.6 และประกาศนียบัตรครูมูล ส่วนครูมัธยมนั้นส่งไปสมทบกับโรงเรียนมัธยมเบื้องปลายที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ และโรงเรียนมัธยมวัดปทุมคงคา ปี 2499 ย้ายจากวังจันทรเกษมไปบริเวณอ.บางเขน หลังวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ในเวลาต่อมายกระดับเป็นวิทยาลัยครูพระนคร ปี 2509 ดูใน มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร. “ประวัติมหาวิทยาลัย”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก https://www.pnru.ac.th/index.php?op=detail&amp;opid=69</p>
</div>
<div id="ftn5">
<p><a href="#_ftnref5" name="_ftn5" title="" id="_ftn5">[5][/url]  แต่แรกชื่อโรงเรียนวัดพระเชตุพน ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงเรียนกล่อมพิทยากร และโรงเรียนอุดรพิทยาคม ต่อมาในปี 2442 ได้มีการสร้างอาคารเรียนใหม่และรวมเป็นโรงเรียนเดียวในชื่อโรงเรียนกล่อมพิทยากร ดูใน โรงเรียนวัดพระเชตุพน.  “ประวัติโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก http://school.bangkok.go.th/watprachetuphon/history.html</p>
</div>
<div id="ftn6">
<p><a href="#_ftnref6" name="_ftn6" title="" id="_ftn6">[6][/url] โรงเรียนสายสวลีสัณฐาคาร สร้างขึ้นบริเวณถนนบำรุงเมือง ตำบลสวนมะลิ ริมคลองมหานาค เดิมเป็นโรงเลี้ยงเด็ก ดูใน สวัสดิ์ เลขยานนท์, ศตวรรษแห่งการกีฬา (กรุงเทพฯ โรงพิมพ์พระจันทร์,  2520), หน้า 18</p>
</div>
<div id="ftn7">
<p><a href="#_ftnref7" name="_ftn7" title="" id="_ftn7">[7][/url] สร้างขึ้นบนที่ดินจวนของสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) ตั้งขึ้นในปี 2439 ชาวบ้านนิยมเรียกว่าโรงเรียนฟากขะโน้น หรือโรงเรียนบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ต่อมาได้ย้ายไปบริเวณตำบลไผ่สิงโต ปทุมวัน ข้างสระปทุมวัน ดูใน โรงเรียนมัธยมสาธิต มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา. “ประวัติการก่อตั้งโรงเรียน”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก http://mattayom.bsru.ac.th/index.php/strory</p>
</div>
<div id="ftn8">
<p><a href="#_ftnref8" name="_ftn8" title="" id="_ftn8">[8][/url] ไม่แน่ใจนักว่าโรงเรียนราชการดังกล่าวใช่โรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาข้าราชการพลเรือนที่ก่อตั้งในปี 2442 หรือไม่ ซึ่งต่อมาจะกลายเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดูใน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย . “ประวัติจุฬาฯ”. สืบค้นเมื่อ 8 เมษายน 2563 จาก https://www.chula.ac.th/about/overview/history/</p>
</div>
<div id="ftn9">
<p><a href="#_ftnref9" name="_ftn9" title="" id="_ftn9">[9][/url] สวัสดิ์ เลขยานนท์, เรื่องเดียวกัน, หน้า 159-160, 167</p>
</div>
<div id="ftn10">
<p><a href="#_ftnref10" name="_ftn10" title="" id="_ftn10">[10][/url] สุนทร แม้นสงวน, พัฒนาการการแข่งขันกีฬานักเรียนในประเทศไทย ตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถึงสมัยปัจจุบัน วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาพลศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2533, หน้า 37-38, 41, 43, 45-46, 48-49, 52, 55-56, 59, 61, 64-65, 70, 77-78, 82-83, 87-88, 90-91, 95-96, 101, 104 และ 108  และสิทธิ รัตนราษี, การศึกษากีฬาฟุตบอลอาชีพในประเทศไทย วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต ภาควิชาพลศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2540, หน้า17, 18</p>
</div>
<div id="ftn11">
<p><a href="#_ftnref11" name="_ftn11" title="" id="_ftn11">[11][/url] สิทธิ รัตนราษี, เรื่องเดียวกัน, หน้า 33</p>
</div>
<div id="ftn12">
<p><a href="#_ftnref12" name="_ftn12" title="" id="_ftn12">[12][/url] สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 28-29</p>
</div>
<div id="ftn13">
<p><a href="#_ftnref13" name="_ftn13" title="" id="_ftn13">[13][/url] สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 28-29</p>
</div>
<div id="ftn14">
<p><a href="#_ftnref14" name="_ftn14" title="" id="_ftn14">[14][/url] สิทธิ รัตนราษี, เรื่องเดียวกัน, หน้า 40-41</p>
</div>
<div id="ftn15">
<p><a href="#_ftnref15" name="_ftn15" title="" id="_ftn15">[15][/url] Yak136. จตุรมิตรฯครั้งที่ 16 นัดชิง BCC vs AC. Youtube. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.youtube.com/watch?v=xhW1aSR8Gv8 (3 เมษายน 2555)</p>
</div>
<div id="ftn16">
<p><a href="#_ftnref16" name="_ftn16" title="" id="_ftn16">[16][/url] ดูการอภิปรายเรื่องโรงเรียนแฟรนไชส์ได้ใน ภิญญพันธุ์ พจนะลาวัณย์. “ชื่อเสียง ‘โรงเรียนแฟรนไชส์’ การเดินสวนทางกับการกระจายอำนาจทางการศึกษา”. ไทยรัฐพลัส. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก https://plus.thairath.co.th/topic/politics&amp;society/101992 (23 สิงหาคม 2565)</p>
</div>
<div id="ftn17">
<p><a href="#_ftnref17" name="_ftn17" title="" id="_ftn17">[17][/url] รัฐบาลไทย. “ทำเนียบนายกรัฐมนตรี”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566 จาก https://www.thaigov.go.th/aboutus/history/index</p>
</div>
<div id="ftn18">
<p><a href="#_ftnref18" name="_ftn18" title="" id="_ftn18">[18][/url] สูจิบัตรการแข่งขันฟุตบอลจตุรมิตรสามัคคี ครั้งที่ 29 พ.ศ.2562, หน้า 14-15</p>
</div>
<div id="ftn19">
<p><a href="#_ftnref19" name="_ftn19" title="" id="_ftn19">[19][/url] ผู้จัดการออนไลน์. “ “ดู๋ สัญญา” ลั่นไม่ชอบมีเรื่องกับใคร แต่อย่ามาหาเรื่องกับโรงเรียนผมเลย”. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566. จาก <a href="https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000102528 (15 พฤศจิกายน 2566)">https://mgronline.com/entertainment/detail/9660000102528 (15 พฤศจิกายน 2566)[/url]</p>
</div>
<div id="ftn20">
<p><a href="#_ftnref20" name="_ftn20" title="" id="_ftn20">[20][/url] มฤคย์ ตันนิยม. “ชิงแชมป์ฤดูหนาวญี่ปุ่น : บอล 7 สียังขาดอะไรถึงจะมีศักยภาพเทียบเท่ารายการนี้ ”. Think Curve. สืบค้นเมื่อ 16 พฤศจิกายน 2566. จาก https://thinkcurve.co/chingaechmprduuhnaawyiipun-b-l-7-siiyangkhaad-aairthuengcchamiisakyphaaphethiiybethaaraaykaarnii/ (6 พฤศจิกายน 2566)</p>
</div>
</div>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">บทควhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106891
 
3669  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "สตาร์ทอัพ" คืออะไร แตกต่างจาก SME อย่างไร แล้วทำไมเด็กรุ่นใหม่อยากทำงานในแวดว เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 15:55:02
"สตาร์ทอัพ" คืออะไร แตกต่างจาก SME อย่างไร แล้วทำไมเด็กรุ่นใหม่อยากทำงานในแวดวงนี้
         


&quot;สตาร์ทอัพ&quot; คืออะไร แตกต่างจาก SME อย่างไร แล้วทำไมเด็กรุ่นใหม่อยากทำงานในแวดวงนี้" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;รู้จัก “สตาร์ทอัพ” กลุ่มธุรกิจของคนยุคใหม่ พร้อมทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่างสตาร์ทอัพกับ SME รวมถึงหาคำตอบว่าทำไมคนรุ่นใหม่ถึงอยากเข้ามาทำงานในแวดวงนี้กันเสียจริง

         

https://www.sanook.com/news/9111222/
         
3670  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ร้องนายกฯ รับรอง 14 ร่างกม.ก้าวไกลที่เกี่ยวด้วยการเงิน รวมยกเลิกเกณฑ์ทหาร-สิทธิ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 14:51:17
ร้องนายกฯ รับรอง 14 ร่างกม.ก้าวไกลที่เกี่ยวด้วยการเงิน รวมยกเลิกเกณฑ์ทหาร-สิทธิลาคลอด-กระจายอำนาจ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 13:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'พริษฐ์' เรียกร้องนายกฯ รับรอง 14 ร่างกฎหมายก้าวไกลที่เกี่ยวด้วยการเงิน รวมยกเลิกเกณฑ์ทหาร-สิทธิลาคลอด 180 วัน-กระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ให้เข้าสภาฯ ทันเปิดสมัยประชุม 12 ธ.ค.นี้ ชี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยกับเนื้อหา แต่เปิดโอกาส สส. แลกเปลี่ยนหาข้อสรุป พร้อมให้ข้อมูลเพิ่มถ้าต้องการรายละเอียด</p>
<p> </p>
<p>20 พ.ย. 2566 ทีมสื่อพรรคก้าวไกล รายงานต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้ (20 พ.ย.) พริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงข่าวถึงสถานะและความคืบหน้าของร่างกฎหมายที่ถูกเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรโดย สส. พรรคก้าวไกล ว่าแม้เป็นที่น่าเสียดายที่ในสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่หนึ่ง ระหว่างเดือน ก.ค. - ต.ค. 2566 สภาฯ ยังไม่ได้พิจารณาหรือให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายหรือ พ.ร.บ. สักฉบับ แต่ สส. พรรคก้าวไกล ได้เสนอร่างกฎหมายเข้าสู่กระบวนการของสภาฯ ไปแล้วทั้งหมด 31 ฉบับ ครอบคลุมวาระทางการเมือง-เศรษฐกิจ-สังคม เช่น การปลดล็อกท้องถิ่น การคุ้มครองแรงงาน การปฏิรูปที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ การปิดช่องทุนผูกขาด การป้องกันการทุจริต การยกระดับบริการสาธารณะ การยกระดับสวัสดิการ และการปฏิรูประบบภาษี</p>
<p>ในบรรดา 31 ร่าง ประกอบด้วย ร่างกฎหมายที่เป็นร่างที่ไม่เกี่ยวกับการเงินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 134 จำนวน 17 ฉบับ เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม พ.ร.บ.สุราก้าวหน้า พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารสาธารณะ พ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า จะเดินหน้าสู่การถูกบรรจุเข้าวาระการประชุมสภาผู้แทนฯ ซึ่งคาดว่าจะเรียงคิวเข้าสู่การพิจารณา อภิปราย และลงมติโดย สส. ในวาระที่ 1 เมื่อสภาฯ กลับมาเปิดตั้งแต่กลางเดือน ธ.ค. เป็นต้นไป</p>
<p>ในขณะที่ร่างกฎหมายที่ถูกวินิจฉัยว่าเป็นร่างการเงินตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 134 จำนวน 14 ร่าง จะยังไม่สามารถถูกบรรจุเข้าวาระการประชุมสภาฯ ได้ จนกว่าจะได้รับคำรับรองจากนายกรัฐมนตรี โดยประกอบด้วย</p>
<p>1. ร่าง พ.ร.บ.รับราชการทหาร (ยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร)
2. ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช. และคำสั่งหัวหน้า คสช. 
3. ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิก พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 (ยุบ กอ.รมน.)
4. ร่าง พ.ร.บ.กำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
5. ร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการเวนคืนและการได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์
6. ร่าง พ.ร.บ.ถนน
7. ร่าง พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตและการให้บริการแก่ประชาชน 
8. ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง
9. ร่าง พ.ร.บ.ภาษีที่ดินรวมแปลง 
10. ร่าง พ.ร.บ.ภาษีความมั่งคั่ง 
11. ร่าง พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อประชาชน 
12. ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (สิทธิลาคลอด 180 วัน)
13. ร่าง พ.ร.บ.บำนาญพื้นฐานถ้วนหน้า 
14. ร่าง พ.ร.บ.ส่งเสริมและคุ้มครองกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง </p>
<p>พริษฐ์กล่าวว่า โดยหลักการแล้ว การที่นายกฯ ให้คำรับรองกับร่างกฎหมายการเงิน ไม่ได้หมายความว่านายกฯ หรือรัฐบาล จะต้องเห็นด้วยกับร่างดังกล่าว แต่เป็นการเปิดโอกาสให้ร่างดังกล่าวถูกถกเถียงแลกเปลี่ยนกันในพื้นที่ของสภาฯ ที่มีตัวแทนจากทุกพรรคการเมืองและทุกชุดความคิด เพื่อเดินหน้าหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ตามกระบวนการรัฐสภา</p>
<p>หากย้อนไปดูสถิติจากสภาฯ ชุดที่แล้ว แม้นายกฯ ประยุทธ์ รับรองให้ 59% ของร่างกฎหมายการเงินที่ถูกเสนอโดยฝ่ายค้านเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ซึ่งเป็นสัดส่วนที่น้อยเมื่อเทียบกับนายกฯ ก่อนหน้า แต่ในที่สุด สส. รัฐบาล สมัยก่อน ไม่สนับสนุนร่างกฎหมายที่ถูกเสนอโดยฝ่ายค้านให้ผ่านความเห็นชอบของสภาฯ แม้แต่ฉบับเดียว ไม่นับร่างที่ถูกรวมร่างกับร่างของรัฐบาล</p>
<p>หรือหากนายกฯ มีความกังวลว่าร่างกฎหมายฉบับใดจะ (1) นำไปสู่การเพิ่มภาระงบประมาณที่ผูกมัดรัฐบาลมากจนเกินไป หรือ (2) ขัดกับหลักการสำคัญของนโยบายรัฐบาล นายกฯ ก็สามารถเปิดโอกาสให้ร่างดังกล่าวถูกพิจารณาในสภาฯ เพื่อให้ สส. รัฐบาล ซึ่งมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนฯ ได้ฟังเหตุผลและแลกเปลี่ยนมุมมองก่อนจะตัดสินใจลงมติว่าจะสนับสนุนหรือไม่</p>
<p>โฆษกพรรคก้าวไกลกล่าวอีกว่า ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากข้อกังวลที่นายกฯ อาจมีใน 2 ส่วน เราจะเห็นว่าร่างกฎหมายก้าวไกลหลายร่าง ไม่น่าจะสร้างความกังวลดังกล่าว</p>
<p>(1) ในส่วนของภาระงบประมาณ แม้ 14 ร่างจะถูกตีความว่าเป็นร่างการเงินตามกฎหมาย เพราะมีการโอนถ่ายงบประมาณระหว่างหน่วยงานรัฐ แต่มีหลายร่างที่ความจริงแล้วจะเป็นการลดภาระงบประมาณของรัฐ เช่น การยุบ กอ.รมน. การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีที่ดิน การจัดเก็บภาษีที่ดินรวมแปลงและภาษีความมั่งคั่ง</p>
<p>รวมถึงอีกหลายร่างที่ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะเพิ่มภาระงบประมาณ แต่เป็นเพียงการปรับเกณฑ์และกระบวนการจัดสรรงบประมาณ เช่น การเพิ่มอำนาจท้องถิ่นในการหารายได้ หรือ การปรับโครงสร้างบริหารราชการแผ่นดิน เช่น การลดความซ้ำซ้อนในการบริหารจัดการโครงข่ายถนนทั่วประเทศ</p>
<p>(2) ในส่วนของความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล แม้ 14 ร่างต่างมีรายละเอียดในส่วนที่รัฐบาลยังไม่เคยแสดงความเห็นอย่างชัดเจน แต่หลายร่างเป็นข้อเสนอที่สอดคล้องกับทิศทางภาพรวมของนโยบายที่รัฐบาลเคยประกาศ เช่น การมุ่งสู่การยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร การยกเลิกคำสั่ง-ประกาศ คสช. การกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น หรือการเปลี่ยน ส.ป.ก. เป็นโฉนดอย่างเป็นธรรม</p>
<p>พริษฐ์กล่าวว่า ตนและพรรคก้าวไกล จึงขอให้นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน พิจารณาให้คำรับรองกว่า 14 ร่างกฎหมายการเงิน ที่ถูกเสนอโดย สส. ก้าวไกลให้เข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนฯ ทันการเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในวันที่ 12 ธ.ค.2566</p>
<p>“ไม่ใช่เพราะว่านายกฯ จะต้องเห็นดีเห็นงามกับร่างกฎหมายทุกฉบับที่เสนอโดยพรรคก้าวไกล แต่เพราะนายกฯ พร้อมสร้างระบบการเมืองที่ให้ความสำคัญกับสภาผู้แทนราษฎร ในการเป็นพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนมุมมองที่แตกต่างและการหาข้อสรุปที่ทุกฝ่ายยอมรับและพร้อมเดินหน้าร่วมกัน หากนายกฯ ต้องการรายละเอียดส่วนใดเพิ่มเติม ผมและพรรคยินดีให้ข้อมูลดังกล่าวกับนายกฯ เพื่อประกอบการพิจารณา” พริษฐ์ทิ้งท้าย</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106887
 
3671  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - มาแน่! หลังปีใหม่ “เศรษฐา” ได้ฤกษ์ นอนทำเนียบ แย้มข่าวดี ให้สื่อตามได้ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 13:22:53
มาแน่! หลังปีใหม่ “เศรษฐา” ได้ฤกษ์ นอนทำเนียบ แย้มข่าวดี ให้สื่อตามได้
         


มาแน่! หลังปีใหม่ “เศรษฐา” ได้ฤกษ์ นอนทำเนียบ แย้มข่าวดี ให้สื่อตามได้" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9109230/
         
3672  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - แม่เด็กอุเทน ร่ำไห้ รับศพลูกชาย รอคุยครอบครัวไม่เผาศพ จนกว่าจะจับคนร้ายได้ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 13:22:53
แม่เด็กอุเทน ร่ำไห้ รับศพลูกชาย รอคุยครอบครัวไม่เผาศพ จนกว่าจะจับคนร้ายได้
         


แม่เด็กอุเทน ร่ำไห้ รับศพลูกชาย รอคุยครอบครัวไม่เผาศพ จนกว่าจะจับคนร้ายได้" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;แม่เด็กอุเทน ร่ำไห้ เข้ารับศพลูกชาย ลั่นไม่ขออโหสิมือปืน รอคุยครอบครัวว่าจะไม่เผาศพ จนกว่าจับคนร้ายได้

         

https://www.sanook.com/news/9111010/
         
3673  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ผู้ชายญี่ปุ่น 1 ใน 10 คน ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 13:19:29
ผู้ชายญี่ปุ่น 1 ใน 10 คน ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
 


<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 11:24</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ข้อมูลจากรายงานสมุดปกขาวโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคม ของญี่ปุ่น พบว่าคนทำงานเพศชาย 1 ใน 10 คน ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/52281024034_8912526a22_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: Robert Moranelli (CC BY-NC-ND 2.0)</span></p>
<p>จากรายงานสมุดปกขาวโดยกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการสังคม ของญี่ปุ่น ที่เผยแพร่เมื่อช่วงเดือน ต.ค. 2023 ที่ผ่านมา พบว่าคนทำงานเพศชาย 1 ใน 10 คน ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ </p>
<p><img alt="" src="https://www.nippon.com/en/ncommon/contents/japan-data/2486385/2486385.png" /></p>
<p>รายงานสมุดปกขาวยังพบว่าเวลาทำงานเฉลี่ยต่อสัปดาห์ของผู้ชายนั้นยาวนานกว่าผู้หญิง โดยมีผู้ชาย 10.1% ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เมื่อเทียบกับผู้หญิง 4.2% การจำแนกตามกลุ่มอายุแสดงให้เห็นว่าผู้ชายที่ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นั้น สูงที่สุดอยู่ในกลุ่มวัยสี่สิบปี (13.2%) และวัยกลุ่มห้าสิบปี (11.6%)</p>
<p>รายงานสมุดปกขาวยังพบว่าผู้ประกอบอาชีพอิสระทำงานนานที่สุด โดยมีผู้หญิง 7.8% และผู้ชาย 15.4% ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ </p>
<p><img alt="" src="https://www.nippon.com/en/ncommon/contents/japan-data/2486400/2486400.png" /></p>
<p>เวลาทำงานที่ยาวนานขึ้นกำลังนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของความเมื่อยล้าและภาวะซึมเศร้า โดย 26.8% ของผู้ที่ทำงานเกิน 60 ชั่วโมงต่อสัปดาห์รายงานว่าพวกเขาสงสัยว่าอาจมีอาการซึมเศร้าหรือวิตกกังวลบางประเภท</p>
<p><img alt="" src="https://www.nippon.com/en/ncommon/contents/japan-data/2486391/2486391.png" /></p>
<p> </p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
White Paper on State of Overwork in Japan Highlights Links to Depression (nippon.com, 30 October 2023)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106886
 
3674  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "น้องเกล" ปลอบป้าๆ หลัง "แอนโทเนีย โพซิ้ว" พลาดมง Miss Universe 2023 เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 10:51:29
"น้องเกล" ปลอบป้าๆ หลัง "แอนโทเนีย โพซิ้ว" พลาดมง Miss Universe 2023
         


&quot;น้องเกล&quot; ปลอบป้าๆ หลัง &quot;แอนโทเนีย โพซิ้ว&quot; พลาดมง Miss Universe 2023" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เอ็นดูมาก คำพูดของ น้องเกล ปลอบป้าๆ หลัง แอนโทเนีย โพซิ้ว พลาดมง Miss Universe 2023
         

https://www.sanook.com/news/9110714/
         
3675  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - โลกกลมมาก เจอเพื่อนที่ยืมเงินเมื่อ 22 ปีก่อน ควักคืนทันที แลกเป็นเงินไทยเกือบครึ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 08:16:55
โลกกลมมาก เจอเพื่อนที่ยืมเงินเมื่อ 22 ปีก่อน ควักคืนทันที แลกเป็นเงินไทยเกือบครึ่งล้าน
         


โลกกลมมาก เจอเพื่อนที่ยืมเงินเมื่อ 22 ปีก่อน ควักคืนทันที แลกเป็นเงินไทยเกือบครึ่งล้าน" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;โลกกลมเหลือเกิน เพื่อนยืมเงินไปเมื่อ 22 ปีที่แล้ว สมัยอยู่นิวยอร์ก บังเอิญเจอที่ไทย ควักคืนให้ทันที แลกเป็นเงินไทยเกือบครึ่งล้าน
         

https://www.sanook.com/news/9110578/
         
3676  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - กู้มาแจกทำลายวินัยการคลัง! “ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง ผู้ว่าฯสตง.ใช้ ม.245 สอบปมกู้มาแจก เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 07:22:02
กู้มาแจกทำลายวินัยการคลัง! “ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง ผู้ว่าฯสตง.ใช้ ม.245 สอบปมกู้มาแจก
         


กู้มาแจกทำลายวินัยการคลัง! “ศรีสุวรรณ” จ่อร้อง ผู้ว่าฯสตง.ใช้ ม.245 สอบปมกู้มาแจก" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9109326/
         
3677  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เกาหลีใต้เตรียมออก กม. ห้ามกินเนื้อสุนัข พร้อมชดเชยผู้ประกอบการ เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 07:12:11
เกาหลีใต้เตรียมออก กม. ห้ามกินเนื้อสุนัข พร้อมชดเชยผู้ประกอบการ
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-11-19 11:40</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>สื่อ VOA รายงานเกาหลีใต้เตรียมออกกฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัข แม้จะมีการบริโภคมาอย่างยาวนานแต่ก็ได้รับเสียงต่อต้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งจากในและนอกประเทศ พร้อมชดเชยผู้ประกอบการ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53341082836_2eb5019815_o_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพ: veganaloha</span></p>
<p>19 พ.ย. 2566 VOA รายงานว่าพรรครัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศเมื่อวันศุกร์ (17 พ.ย.) เตรียมออกกฎหมายพิเศษยกเลิกการกินเนื้อสุนัข ซึ่งแม้จะมีการบริโภคมาอย่างยาวนาน แต่ก็ได้รับเสียงต่อต้านเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทั้งจากในและนอกประเทศ</p>
<p>ยู อุยดง หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคพลังประชาชน (พีพีพี) กล่าวระหว่างการพบกันของเจ้าหน้าที่รัฐและนักกิจกรรมด้านสิทธิสัตว์ว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะหยุดความขัดแย้งในสังคมในเรื่องการบริโภคเนื้อสุนัข ผ่านการออกกฎหมายพิเศษเพื่อหยุดมัน”</p>
<p>ยูกล่าวว่า กฎหมายจะมีการเสนอโดยรัฐบาลและพรรคแกนนำรัฐบาลในปีนี้ และคาดว่าจะได้รับการสนับสนุนจนผ่านกระบวนการในรัฐสภาได้</p>
<p>ชอง ฮวางกึน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเกษตร กล่าวในการประชุมดังกล่าวว่ารัฐบาลจะดำเนินการอย่างรวดเร็ว และจะมีมาตรการสนับสนุนอย่างเต็มที่เท่าที่จะทำได้สำหรับผู้ประกอบการที่จะต้องปิดกิจการลง</p>
<p>การกินสุนัขถือเป็นสิ่งที่มีมานานแล้วบนคาบสมุทรเกาหลี โดยเชื่อว่าเนื้อสุนัขมีสรรพคุณคลายความร้อนในฤดูร้อน แต่ในเกาหลีใต้ การกินเนื้อสุนัขไม่เป็นที่เห็นกันทั่วไปอย่างที่เคย แต่บางภัตตาคารก็ยังมีเมนูเนื้อสุนัข และยังมีผู้สูงอายุบางคนที่ยังคงกินเนื้อสัตว์สี่เท้านี้อยู่</p>
<p>คิม กอนฮี สตรีหมายเลขหนึ่งของเกาหลีใต้ เป็นผู้ที่เป็นกระบอกเสียงในการวิพากษ์วิจารณ์การบริโภคเนื้อสุนัข ไม่เพียงเท่านั้น ประธานาธิบดียูน ซุก-ยอล ผู้เป็นสามี ยังรับเลี้ยงสุนัขจรจัดอีกด้วย</p>
<p>ที่ผ่านมา กฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัขไม่ได้รับการรับรองเนื่องจากการประท้วงจากวงการอุตสาหกรรมเนื้อสุนัข และประเด็นข้อกังวลเรื่องความเป็นอยู่ของผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรม เช่น ฟาร์มสุนัขและร้านอาหาร</p>
<p>กฎหมายห้ามกินเนื้อสุนัขจะมีเวลาผ่อนผันการบังคับใช้สามปี และมีการสนับสนุนทางการเงินแก่ธุรกิจที่จะต้องเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น</p>
<p>Humane Society International ซึ่งเป็นกลุ่มองค์กรด้านสิทธิสัตว์ ระบุในแถลงการณ์ว่ากฎหมายดังกล่าวคือ “ฝันที่เป็นจริงสำหรับสำหรับพวกเราทุกคนที่รณรงค์กันอย่างหนักเพื่อหยุดความโหดร้ายทารุณนี้”</p>
<p>ในส่วนของภาพกว้างของอุตสาหกรรมเนื้อสุนัขนั้น ข้อมูลจากทางการระบุว่า มีฟาร์มเพาะพันธุ์สุนัขจำนวนราว 1,150 แห่ง โรงเชือด 34 แห่ง บริษัทกระจายสินค้า 219 แห่ง และมีร้านอาหารราว 1,600 แห่งที่มีเนื้อสุนัขอยู่ในเมนู</p>
<p>การสำรวจของแกลลัพโพลของเกาหลีเมื่อปีที่แล้วระบุว่ามีผู้ตอบแบบสอบถาม 64% คัดค้านการบริโภคเนื้อสุนัข และมีผู้ตอบแบบสอบถาม 8% เท่านั้นที่ได้กินเนื้อสุนัขในช่วงปีที่ผ่านมา น้อยกว่าเมื่อปี 2015 ที่อยู่ที่ 27%</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106876
 
3678  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - รู้จัก 1 ในกรรมการ Miss Universe 2023 เจ้าของคำถาม แอนโทเนีย หน้าวีนจนกลายเป็นมีม เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 05:46:02
รู้จัก 1 ในกรรมการ Miss Universe 2023 เจ้าของคำถาม แอนโทเนีย หน้าวีนจนกลายเป็นมีม
         


รู้จัก 1 ในกรรมการ Miss Universe 2023 เจ้าของคำถาม แอนโทเนีย หน้าวีนจนกลายเป็นมีม" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ทำความรู้จัก 1 ในกรรมการ Miss Universe 2023 เจ้าของคำถาม แอนโทเนีย โพซิ้ว จากไวรัลหน้าวีน จนกลายเป็นมีม
         

https://www.sanook.com/news/9109938/
         
3679  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - นักวิชาการชี้ 'แลนด์บริดจ์' เครื่องยนต์ขับเคลื่อนความรุ่งเรืองรอบใหม่ แต่ต เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 05:41:34
นักวิชาการชี้ 'แลนด์บริดจ์' เครื่องยนต์ขับเคลื่อนความรุ่งเรืองรอบใหม่ แต่ต้องทำประชาพิจารณ์
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-11-19 18:50</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>นักวิชาการชี้ 'แลนด์บริดจ์' เครื่องยนต์ขับเคลื่อนความรุ่งเรืองรอบใหม่ ต้องทำประชาพิจารณ์ผลกระทบชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจฐานเดิม ระวังวาทกรรมต่อต้านการลงทุนขนาดใหญ่</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53328677331_8428ef4b62_o_d.png" /></p>
<p>19 พ.ย. 2566 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ และอาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่าภาคการลงทุนต่างประเทศนั้นมีความสำคัญต่อการเติบโตของไทยและยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน ในระยะยาว นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการแบ่งปันที่เป็นธรรมลดความเหลื่อมล้ำได้หากมีกำหนดยุทธศาสตร์ให้ถูกทิศทางตั้งแต่แรก ข้อตกลงการเข้ามาลงทุนในประเทศไทยดีลสองแสนล้านบาทของ Google และ Microsoft จะเสริมความเข้มแข็งของเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย และ สร้างฐานเศรษฐกิจฐานข้อมูลขนาดใหญ่ โดย Microsoft จะเน้นการลงทุนเกี่ยวกับ “ดาต้าเซ็นเตอร์” และ “พลังงานสะอาด” คาดว่าจะมีการลงทุนเฟสแรก 100,000 ล้านบาท และ ควรส่งเสริมให้มีการเพิ่มการลงทุนในเฟสต่อๆไปเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างและพัฒนากลไกและกระบวนการให้เกิดการถ่ายทอดทางเทคโนโลยี รวมทั้งทำให้ กลุ่มทุนธุรกิจไทยสามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองได้ การที่จะเกิดสิ่งนี้ได้ ประเทศต้องมีระบบการศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้มแข็ง มีการลงทุนทางด้านการวิจัยและนวัตกรรมไม่น้อยกว่า 5% ของจีดีพี  จุดพลิกโฉมเศรษฐกิจไทยอยู่ที่การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการพัฒนาเทคโนโลยีของตัวเองให้ได้ ขณะที่ Google สนใจเข้ามาลงทุนในกิจการระบบ Cloud และ AI </p>
<p>แนวโน้มการลงทุนโดยตรงของต่างชาติ (Foreign Direct Investment – FDI) ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น โดย 9 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2566 มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น 44.8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการลงทุนของ “บีโอไอ” โดยเฉพาะการลงทุนในอุตสาหกรรมนวัตกรรมสูงนั้น ต้องอาศัยทรัพยากรมนุษย์คุณภาพสูง ทักษะและความสามารถสูง ที่สังคมไทยยังคงขาดแคลนอยู่ การประกาศเป็นศูนย์กลางลงทุนของภูมิภาค (Regional Hub) 5 ด้าน ได้แก่ Tech Hub, BCG Hub, Talent Hub, Logistic&amp;Business Hub, Creative Hub นั้น จำเป็นต้องเปลี่ยนบทบาท “บีไอโอ” จากผู้ให้สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการลงทุน มาเป็น ผู้บูรณาการ อำนวยความสะดวกและเชื่อมโยงการลงทุนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการกระจายผลประโยชน์จากการลงทุนของต่างชาติ “บีโอไอ” ควรทำงานร่วมกับหน่วยงานเกี่ยวกับการส่งเสริม SMEs ทั้งหลาย ทำให้ SMEs ไทยเชื่อมโยงกับเครือข่ายการผลิตและการบริการข้ามชาติมากยิ่งขึ้น</p>
<p>การทำงานผ่านเครือข่ายออนไลน์ การสื่อสารผ่านช่องทางดิจิทัลที่ง่ายดาย ทำให้บริษัทไฮเทคและบรรษัทข้ามชาติทั้งหลายสามารถทำงานเชื่อมโยงข้ามประเทศได้ง่ายขึ้น สะดวกขึ้น ต้นทุนต่ำลง โดยสามารถใช้ทรัพยากรในแต่ละประเทศมาส่งเสริมการทำงานแบบเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาตรการดึงดูดแรงงานทักษะสูงและผู้เชี่ยวชาญทางเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการพัฒนาต่อยอดของการลงทุนของบริษัทไฮเทคในประเทศไทย การดึงดูดผู้มีความสามารถสูงเข้ามาตั้งถิ่นฐานในไทยเป็นหลักประกันความสำเร็จของ “ดาต้าเซ็นเตอร์” “ระบบ Cloud” “การพัฒนา AI ในภาคส่วนต่างๆ” “ การทำ Digital Transformatio” นอกจากนี้ ไทยควรพัฒนาความร่วมมือระหว่างประเทศขนาดใหญ่ผ่านเครือข่ายผู้เชี่ยวชาญเทคโนโลยีและผู้ประกอบการจึงสามารถยกระดับธุรกิจอุตสาหกรรมของไทย ที่ไม่ใช่ของต่างชาติ เทียบชั้น ธุรกิจอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวันและ สิงคโปร์ได้  
รศ. ดร. อนุสรณ์ ธรรมใจ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเศรษฐกิจดิจิทัล การลงทุนและการค้าระหว่างประเทศ และ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวต่อว่า ส่วนโครงการแลนด์บริดจ์นั้นจะเป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความรุ่งเรืองใหม่ได้ อย่างไรก็ตาม ต้องทำประชาพิจารณ์ผลกระทบชุมชน สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจฐานเดิม การทำประเมินผลกระทบของนโยบายของการลงทุนขนาดใหญ่ (Policy Impact Assessment of Megaprojects) ก่อนเดินหน้าการดำเนินการตามนโยบาย จำเป็นจะต้องมีกลไกคณะกรรมการร่วมที่มีภาควิชาการ ภาคศึกษาวิจัยนโยบายอย่างรอบด้าน ร่วมกับภาคประชาสังคมเข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ใช้ Open Data ในการส่งเสริมการออกแบบกระบวนการนโยบายที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง (Inclusive Policy Design) การดำเนินการโครงการแลนด์บริดจ์จะต้องเน้นให้ความสำคัญต่อกระบวนการและเป้าหมายไปพร้อมกัน หากเราสนใจแต่เป้าหมาย สุดท้ายจะเป็นการรับรองกระบวนการแบบอำนาจนิยมหรือบนลงล่าง หากเราต้องการการพัฒนาและการเติบโตแบบยั่งยืน เราต้องใช้กระบวนการประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วม กระบวนการประชาธิปไตยแบบยั่งยืนนี้จะเน้นเอาความเป็นธรรมและกำกับการพัฒนาแบบไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ไม่ซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมที่รุนแรงอยู่แล้วในไทย 
 
นอกจากนี้ รัฐบาล นักลงทุน หรือ ผู้สนับสนุนโครงการแลนด์บริดจ์ พึงตระหนักถึงแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ผลกระทบต่อพื้นที่และวิถีชีวิตและเศรษฐกิจดั้งเดิม ซึ่งภาวะดังกล่าวมีลักษณะเป็นความยั่งยืนแบบ Productive ต่อสังคมโดยรวม แต่บางครั้ง การพัฒนาอย่างยั่งยืน อาจถูกใช้เป็นเพียง วาทกรรม (Discourse) เพื่อต่อต้านการลงทุนขนาดใหญ่ซึ่งสภาพดังกล่าวเป็นการถ่วงการพัฒนา และมีลักษณะเป็น Counter-Productive การยืนยันในหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ไม่ใช่เพียงวาทกรรม ความต่อเนื่องและเจตจำนงทางการเมืองของรัฐบาลเป็นปัจจัยสำคัญในการทำให้ “โครงการลงทุนขนาดใหญ่” ที่มีผลกระทบอันซับซ้อนเกิดขึ้นได้ และ เกิดประโยชน์ต่อประเทศโดยรวมในระยะยาว </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106881
 
3680  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ทีมไทยแลนด์บินด่วนไปคุนหมิง ช่วยคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย เมื่อ: 20 พฤศจิกายน 2566 03:58:21
ทีมไทยแลนด์บินด่วนไปคุนหมิง ช่วยคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-11-19 19:54</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ปฏิบัติการทีมไทยแลนด์บินด่วนไปคุนหมิง สมทบอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศช่วยเหลือคนไทยจากเมืองเล้าก์ก่าย ประเทศเมียนมา กลับสู่มาตุภูมิ</p>
<p>19 พ.ย. 2566 สำนักข่าวไทย รายงานว่าเวลาประมาณ 09.30 น. ทีมสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้รับคำสั่งด่วนจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.(มค)/ผอ.ศพดส.ตร. นำโดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ สัจจพันธุ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศพดส.ตร., พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย รอง ผบช.ทท., พ.ต.อ.ณรงค์ เทศน์วิบูลย์ รอง ผบก.ปคม., พ.ต.อ.ทรงเอก พัชรวิชญ์ รอง ผบก.ตท., พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร กงสุลฝ่ายตำรวจ ประจำสถานกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง สาธารณรัฐประชาชนจีน, พ.ต.อ.พงศ์ธร พงศ์รัชตนันทน์ ผกก.ตม.จว.สงขลา และ พ.ต.ต.หญิง รพีพร แซ่ลี้ สว.สอบสวน กก.3 บก.ปคม. ในฐานะชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. พร้อมด้วย พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิส หัวหน้ากลุ่มฉุกเฉินทางการแพทย์ กรมการแพทย์ พว.สุพัฒศิริ ทศพรพิทักษ์กุล พยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลราชวิถี กรมการแพทย์ บินด่วนเที่ยวบินแอร์เอเชีย FD582 มุ่งหน้าเมืองคุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสมทบกับนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และทีมกงสุลใหญ่ ณ นครคุนหมิง เพื่อร่วมภารกิจในการให้ความช่วยเหลืออพยพคนไทยจำนวน 258 คน (ข้อมูลจากการร้องขอความช่วยเหลือ) จากเมืองเล่าก์ก่าย ประเทศเมียนมา ผ่านทางชายแดนประเทศจีน ทางด่านหนานส่าน เพื่อเดินทางมายังเมืองคุนหมิง และใช้เครื่องบินเช่าเหมาลำที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดเตรียมไว้ เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย ปลายทางสนามบินดอนเมือง</p>
<p>ต่อมาเวลา 16.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ณ เมืองคุนหมิง พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ฯ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้นำทีมร่วมประชุมกับนายรุจ ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกงสุล และข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ณ สถานกงสุลใหญ่ประเทศไทย ณ เมืองคุนหมิง มณฑลยูนนาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้ข้อสรุปว่า ปฏิบัติการอพยพคนไทยจะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย. 66 เวลา 07.00 น. ที่ทางการเมียนมาจะขนย้ายคนไทยมาส่งที่ชายแดน ณ ด่านหนานส่าน โดยจะมีกงสุลใหญ่ไทยรอรับ และ พ.ต.อ.ธัชพงศ์ สารวนางกูร กงสุลฝ่ายตำรวจ เป็นผู้นำเอกสารเดินทางเร่งด่วนของคนไทยทั้งหมด ไปมอบให้ เพื่อประกอบพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และคาดว่าคนไทยทั้งหมดจะเดินทางถึงสนามบินเมืองคุนหมิง ในเวลาประมาณ 17.00 น. และคาดว่าในเวลาประมาณ 21.20 น. จะขนย้ายคนไทยทั้งหมดขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดไว้จำนวน 2 ลำ โดยแต่ละลำนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองเดินทางมาพร้อมด้วยจากเมืองไทย ลำละ 2 นาย และในเที่ยวบินขากลับทีมตำรวจไทย จำนวน 6 นาย นำโดย พล.ต.ท.ภาคภูมิภิภัทฒ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะบินพาประชาชนไทยทั้งหมดบินกลับประเทศไทยด้วยตนเอง</p>
<p>เมื่อเดินทางถึงประเทศไทย ทีมสหวิชาชีพที่ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร ขสมก. จะร่วมมือกันดำเนินการตามกระบวนการกลไกส่งต่อระดับชาติ หรือ NRM ต่อไป ซึ่งพี่น้องประชาชนที่เป็นญาติสามารถตรวจสอบรายชื่อคนไทยที่ได้รับการช่วยเหลือได้ผ่านสายด่วน 1191 ของ บก.ปคม. และ 1300 ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์</p>
<p>ขณะอีกฟากฝั่งหนึ่งของประเทศไทย บริเวณด่านชายแดนจังหวัดเชียงราย ที่ติดต่อกับประเทศเมียนมา ในวันเสาร์ที่ 18 พ.ย.66 เวลาประมาณ 12.30 น. ทางการเมียนมา นำโดย พ.อ.ตู๋ล่า ส่อวินโว ผบ.บก.ยศ.ท่าขี้เหล็ก, นายตั้นสิ่น ผกก.ตม.จว.ท่าขี้เหล็ก, นายอ่องตวินอู ผกกก.ตม.เชียงตุง ได้นำคนไทยจำนวน 41 คน ที่อพยพมาจากเมืองเล่าก์ก่าย มาส่งมอบให้กับทางการไทยบริเวณชายแดน โดยมี พล.ต.ประพัฒน์ พบสุวรรณ ผบ.กองกำลังผาเมือง และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.จว.เชียงราย และ ตม.จว.เชียงราย ให้การรับตัวคนไทยและขนย้ายไปพักที่ค่ายพญาเม็งราย เพื่อเข้าสู่กระบวนการคัดกรองและคัดแยกเหยื่อในกระบวนการ NRM ต่อไป ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย รอง จตร./ชุดปฏิบัติการ ศพดส.ตร. เข้ากำกับดูแลกระบวนการ NRM ด้วยตนเอง</p>
<p>ต่อมาในวันอาทิตย์ที่ 19 พ.ย. 66 เวลาประมาณ 11.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น กงสุลใหญ่ไทย ประจำนครคุนหมิง และกงสุลฝ่ายตำรวจไทย ประจำนครคุนหมิง พร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน ร่วมเปิดด่านรับการอพยพคนไทยจากประเทศเมียนมา โดยมีคนไทยอพยพมาครั้งนี้จำนวนทั้งสิ้น 266 คน พร้อมคนฟิลิปปินส์ 4 คน และคนสิงคโปร์ 1 คน โดยจะใช้เวลาเดินทางจากชายแดนเข้าสู่สนามบินเมืองคุนหมิง อีกประมาณ 5-6 ชั่วโมง จึงจะได้ขึ้นเครื่องบินกลับประเทศไทยต่อไป โดยทางการไทยเห็นพ้องในการรับคนฟิลิปปินส์และคนสิงคโปร์ทั้ง 5 คน โดยต่อมาในเวลาประมาณ 23.30 น. ได้รับรายงานว่าเมื่อคนไทยทั้งหมดเดินทางถึงสนามบินเมืองคุนหมิง ได้ทำการอพยพคนไทยทั้งหมดขึ้นเครื่องบินไทยแอร์เอเชีย และเครื่องบินไทยไลออนแอร์ รวม 2 ลำ ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดไว้ บินตรงสู่สนามบินดอนเมือง ซคาดว่าจะถึงสนามบินดอนเมืองในห้วงเวลาประมาณหลังเที่ยงคืนไปแล้วตามเวลาในประเทศไทย</p>
<p>ความสำเร็จในครั้งนี้ถือว่าเริ่มต้นจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ที่ประสานความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายกับรัฐบาลจีน ผ่านกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ หรือ MPS มาโดยตลอด ทั้งจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญที่ทางการจีนต้องการตัว โดยเดินทางเข้าพบรัฐมนตรี และรองรัฐมนตรี และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงทั้งในประเทศจีนและประเทศไทยมาอย่างต่อเนื่อง และเมื่อถึงเวลาที่ทางการไทยจำเป็นต้องร้องขอความช่วยเหลือในการอพยพคนไทยครั้งนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ไม่รีรอที่จะแจ้งทางการจีนผ่านกระทรวง MPS ให้รับทราบและเร่งรัดการดำเนินการให้ทางการไทย พร้อมทั้งได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงการต่างประเทศ ทั้งท่านปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านอธิบดีกรมกางกงสุล ให้ช่วยดำเนินการทางการทูตควบคู่กันไป เมื่อการอพยพสำเร็จสำนักงานตำรวจแห่งชาติยังประสานความร่วมมือกับหน่วยงานรัฐและเอกชนต่างๆ เพื่อทำให้กระบวนการ NRM นั้นมีประสิทธิภาพสูงสุด และยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/11/106882
 
หน้า:  1 ... 182 183 [184] 185 186 ... 1119
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.159 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 04 กันยายน 2566 07:21:57