[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 เมษายน 2567 08:15:22 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก เวบบอร์ด ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

  แสดงกระทู้
หน้า:  1 ... 233 234 [235] 236 237 ... 1117
4681  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เผาแล้ว "ตะวัน" เหยื่อเด็ก 14 ยิงดับที่พารากอน เปิดฝาโลงสวมแว่นตาให้ครั้งสุดท้ เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 16:20:52
เผาแล้ว "ตะวัน" เหยื่อเด็ก 14 ยิงดับที่พารากอน เปิดฝาโลงสวมแว่นตาให้ครั้งสุดท้าย
         


เผาแล้ว "ตะวัน" เหยื่อเด็ก 14 ยิงดับที่พารากอน เปิดฝาโลงสวมแว่นตาให้ครั้งสุดท้าย" width="75" height="75
  เผาแล้ว "ตะวัน" เหยื่อยิงกลางห้างพารากอน แม่ร่ำไห้เห็นหน้าลูกครั้งสุดท้ายก่อนเป็นลม ขณะพี่น้องชาวปะโอร่วมแสดงความอาลัย
         

https://www.sanook.com/news/9065134/
         
4682  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กต.แถลงข้อมูลไม่เป็นทางการ แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ยังไม่รู้สภาพ ต้ เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 15:00:55
กต.แถลงข้อมูลไม่เป็นทางการ แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ยังไม่รู้สภาพ ต้องรออิสราเอล ยืนยัน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-08 14:29</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>ภาพปก: ที่มา: กระทรวงการต่างประเทศ </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>รมว.กต. แถลงความคืบหน้าเหตุความรุนแรงในอิสราเอล ข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการเผยมีแรงงานไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 8 ราย ถูกจับเป็นตัวประกัน 11 ราย ยังไม่รู้สภาพ รอทางการอิสราเอลยืนยัน เจ้าตัวระบุไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่ประณามเหตุความรุนแรง และสิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวไทย ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์</p>
<p> </p>
<p>8 ต.ค. 2566 เพจเฟซบุ๊ก "กระทรวงการต่างประเทศ" ถ่ายทอดสดวันนี้ (8 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. ปานปรีย์ มหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความคืบหน้าสถานการณ์ของคนไทยที่ทำงานในอิสราเอล หลังจากที่วานนี้ (7 ต.ค.) ตามเวลา ณ ประเทศไทย กองกำลังติดอาวุธเพื่อช่วงชิงดินแดนคืนจากอิสราเอล "ฮามาส" ได้ยิงขีปนาวุธจรวดเข้ามาในกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล จำนวนกว่า 5,000 ลูก ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe allow="autoplay; clipboard-write; encrypted-media; picture-in-picture; web-share" allowfullscreen="true" frameborder="0" height="314" scrolling="no" src="https://www.facebook.com/plugins/video.php?height=314&amp;href=https%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2FThaiMFA%2Fvideos%2F679982937406237%2F&amp;show_text=false&amp;width=560&amp;t=0" style="border:none;overflow:hidden" width="560"></iframe></p>
<p>ปานปรีย์ เปิดเผยว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ และกระทรวงการต่างประเทศ ติดตามสถานการณ์เรื่องนี้อย่างใกล้ชิด มีการสั่งการสถานทูตกรุงเทลอาวีฟ ให้รายงานสถานการณ์เรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ติดต่อประสานงานกับทางการอิสราเอล และติดต่อกับแรงงานไทยทุกคน</p>
<p>สำหรับผลกระทบต่อแรงงานไทย ฝ่ายแรงงานประจำสถานทูต ระบุว่า มีแรงงานไทยได้รับบาดเจ็บรวม 8 คน รอการช่วยเหลือจากทางการไทย 3 คน และเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลโซโรกา (Soroka) จำนวน 5 คน มีผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย และถูกกลุ่มกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว 11 ราย มีการพยายามติดต่อทางการอิสราเอล เพื่อยืนยันข้อมูลดังกล่าว แต่ทางฝ่ายอิสราเอล ยังเข้าพื้นที่ไม่ได้ จึงยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขหรือข้อมูลอย่างเป็นทางการได้ </p>
<p>ปานปรีย์ ระบุต่อว่า ทางกระทรวงการต่างประเทศยังไม่ประสงค์เปิดเผยชื่อของแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากเหตุความรุนแรงครั้งนี้ เพราะทางการต้องการติดต่อญาติมิตรของแรงงานให้ได้รับทราบก่อน และไม่ได้อยากให้รับทราบข่าวจากสื่อเป็นที่แรก เพื่อไม่ให้ญาติและสมาชิกครอบครัวเกิดความตระหนกตกใจ </p>
<p>รมว.กต. ระบุต่อว่า เรื่องการช่วยเหลือ และอพยพชาวไทยออกจากอิสราเอล เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้มีการประสานไปยังกองทัพอากาศ เตรียมความพร้อมในเรื่องเครื่องบิน เพื่อเตรียมอพยพคนไทยในอิสราเอล ออกมา แต่ท่าอากาศยานในอิสราเอลไม่เปิด ประเทศไทยจึงยังไม่สามารถทำการอพยพในตอนนี้ และตอนนี้อิสราเอลได้ประกาศภาวะสงครามแล้ว จึงมีการประกาศแจ้งห้ามประชาชนออกจากเคหะสถาน ประชาชนจะต้องลงหลุมหลบภัยเป็นระยะๆ ซึ่งเป็นแนวทางที่คนไทยในอิสราเอลได้รับการอบรมและมีความตระหนักรู้ในแนวทางต่างๆ อยู่แล้ว</p>
<p>ทั้งนี้ ในเวลา 13.00 น. ศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉิน จะมีการประชุมที่กรมการกงศุล ระหว่างทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ ฝ่ายทหาร กองทัพอากาศ สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงแรงงาน รวมทั้งแพทย์ เพื่อประสานเตรียมการภารกิจต่างๆ ให้มีการดำเนินการได้อย่างราบรื่นเรียบร้อย ขอให้วางใจว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก และจะดำเนินการทุกอย่างอย่างเต็มที่ในการดูแลช่วยเหลือประชาชนไทยในอิสราเอล ทางสถานทูตในอิสราเอล ก็ได้มีการประสานงานกับทางการอิสราเอล และทุกฝ่าย อย่างต่อเนื่องเพื่อช่วยเหลือชาวไทย</p>
<p>ปานปรีย์ กล่าวว่า ทางการไทยไม่เห็นด้วย และขอประณามการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบ กระทรวงการต่างประเทศจะได้ออกแถลงการณ์ตั้งแต่เมื่อวานนี้ นายกรัฐมนตรี และตนเอง ได้แสดงท่าทีเรื่องนี้แล้ว รัฐบาลขอเรียกร้องทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องยุติความรุนแรง และปล่อยตัวผู้บริสุทธิ์ในทันที </p>
<p>หลังจากนั้น กระทรวงต่างประเทศได้ติดต่อทางไกลไปยังพรรณนภา จันทรารมย์ เอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อรายงานสถานการณ์ที่ประเทศอิสราเอล โดยพรรณนภา ระบุว่า เบื้องต้น สถานการณ์ในอิสราเอล ยังมีการสู้รบอย่างต่อเนื่อง ทหารอิสราเอลพยายามยึดคืนพื้นที่ แต่ยังคืนมาได้ 2 ส่วน แต่พื้นที่ดังกล่าวยังไม่ใช่พื้นที่ที่แรงงานไทยถูกจับเป็นตัวประกัน และขอยืนยันว่าผู้ถูกจับเป็นตัวประกันไม่ได้มีเฉพาะแรงงานไทย มีทั้งคนอิสราเอล และแรงงานชาติอื่นๆ ตอนนี้สถานทูตไม่ได้นิ่งนอนใจ และจะเร่งรีบให้ความช่วยเหลือแรงงานไทย </p>
<p>พรรณนภา ระบุว่า แรงงานไทยไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่ฮามาส จะทำร้ายร่างกาย เพียงแต่อยู่ในพื้นที่ที่กลุ่มฮามาสบุก ทำให้ถูกจับเป็นตัวประกัน </p>
<div style="text-align: center;"><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53241532002_d56afc2b0c_b.jpg" /></div>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">พรรณนภา จันทรารมย์</span></p>
<p>พรรณนภา ระบุต่อว่า พยายามติดต่อฝ่ายแรงงาน แต่ติดต่อได้เฉพาะแรงงานที่บาดเจ็บบางราย แต่แรงงานที่ถูกจับเป็นตัวประกันนั้นยังไม่สามารถติดต่อได้ เพราะพวกเขายังอยู่ในพื้นที่ที่กลุ่มกองกำลังติดอาวุธฮามาส ยึดครอง ต้องรอฝ่ายอิสราเอลเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน </p>
<p>พรรณนภา ระบุต่อว่า เรื่องอุปสรรคการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังมีการติดต่อประสานกับหน่วยงานที่ใกล้ชิด แต่ยังไม่มีใครสามารถยืนยันข้อมูลได้ว่าสถานการณ์จริงๆ เป็นอย่างไร </p>
<p>ปานปรีย์ กล่าวต่อว่า มีคำถามมาเยอะมากสำหรับสถานการณ์ในอิสราเอล แต่สิ่งที่รัฐบาลเป็นห่วงสูงสุดคือพี่น้องประชาชนชาวไทย และเราจะต้องดูแลผู้เสียชีวิต ในเรื่องการเยียวยา และผู้ที่บาดเจ็บ และจับตัว จะพยายามหาช่องทางอย่างเต็มที่ ในการช่วยเหลือให้ชาวไทยได้รับการปล่อยตัว</p>
<p>นอกจากนี้ กองทัพอากาศ ได้ประสานตั้งแต่เริ่มต้นเหตุการณ์ และทางกองทัพอากาศได้ให้ความร่วมมือเต็มที่ ตอนนี้เหลือเพียงรอสัญญาณว่าจะได้เข้าไปอพยพคนไทยเมื่อไร แต่อย่างที่รายงานข้างต้น ตอนนี้อิสราเอล เข้าสู่ภาวะสงคราม และน่านฟ้ายังปิดอยู่ สำหรับผู้บาดเจ็บ สถานทูต ได้เข้าไปดูแล้ว </p>
<p>"ย้ำว่ายังไม่ทราบข้อเท็จจริงในทางการเมืองระหว่างประเทศว่าเกิดอะไรขึ้น เรายังไม่ได้ประณามฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราประณามความรุนแรงที่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นกับชาวไทยที่เป็นผู้บริสุทธิ์ ตรงนี้เราไม่สามารถรับได้" ปานปรีย์ กล่าว </p>
<p>ข้อมูลจากกระทรวงแรงงาน ระบุว่า ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot, Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน</p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2564 กลุ่มนักรบฮามาส เคยใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการโจมตีอิสราเอล โดยยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่อิสราเอล ราว 4,000 ลูก และในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีชาวไทยได้เสียชีวิต 2 ราย </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106274
 
4683  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "กาย-ฮารุ" ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ บอกรักมาก สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง สวยและน่าอยู่สุ เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 13:50:39
"กาย-ฮารุ" ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ บอกรักมาก สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง สวยและน่าอยู่สุดๆ
         


&quot;กาย-ฮารุ&quot; ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ บอกรักมาก สร้างด้วยน้ำพักน้ำแรง สวยและน่าอยู่สุดๆ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;กาย ฮารุ ทำบุญขึ้นบ้านใหม่ สวยและน่าอยู่ทุกมุมเลยจริงๆ
         

https://www.sanook.com/news/9065094/
         
4684  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - เผยอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก สร้างงานถึง 13.7 ล้านตำแหน่งทั่วโลกเมื่อปี 2565 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 13:30:38
เผยอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก สร้างงานถึง 13.7 ล้านตำแหน่งทั่วโลกเมื่อปี 2565
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-08 11:57</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>รายงานร่วมของ ILO-IRENA ฉบับใหม่ พบการจ้างงานในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกขยายตัวภายใต้วิกฤตและความท้าทาย ชี้นโยบายอุตสาหกรรมที่ส่งเสริมอุตสาหกรรมนี้ จะสามารถสร้างห่วงโซ่อุปทานในท้องถิ่นได้มากขึ้น</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="https://www.ilo.org/wcmsp5/groups/public/---dgreports/---dcomm/documents/image/wcms_895496.jpg" />
ที่มาภาพ: Bureau of Land Management Nevada (อ้างใน ILO)</p>
<p>8 ต.ค. 2566 การจ้างงานทั่วโลกในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือกมีถึง 13.7 ล้านคน ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 1 ล้านคน จากปี 2564 และเพิ่มขึ้นจากทั้งหมด 7.3 ล้านคน จากปี 2555 ตามรายงาน Renewable Energy and Jobs: Annual Review 2023 โดยองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) และสำนักงานพลังงานทดแทนระหว่างประเทศ (IRENA)</p>
<p>รายงานพบว่าพลังงานทางเลือกดึงดูดการลงทุนมากขึ้น นำไปสู่การสร้างงานจำนวนที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับในปี 2564 โดยรวมแล้วงานส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในบางประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนที่จ้างงานคิดเป็นสัดส่วน 41% ของตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมนี้ทั้งหมดทั่วโลก นอกจากนี้ประเทศที่มีการจ้างงานสูง ได้แก่ บราซิล ประเทศในสหภาพยุโรป (EU) อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศที่กล่าวมานั้น มีการลงทุนด้านพลังงานทางเลือกค่อนข้างสูง รวมทั้งมีบทบาทสำคัญในการผลิตอุปกรณ์ ออกแบบด้านวิศวกรรม และการให้บริการที่เกี่ยวข้อง</p>
<div class="more-story">
<p><strong>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</strong></p>
<ul>
<li>เผยอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก สร้างงานถึง 12.7 ล้านตำแหน่งทั่วโลกเมื่อปี 2564</li>
<li>เผยอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก สร้างงานถึง 12 ล้านตำแหน่งทั่วโลกเมื่อปี 2563</li>
</ul>
</div>
<p>รายงานฉบับนี้ยังชี้ว่าภาคพลังงานแสงอาทิตย์ (PV) กลับมาเป็นภาคที่จ้างงานมากสุดถึง 4.9 ล้านตำแหน่ง มากกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนคนทำงานทั้งหมดในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก ไฟฟ้าพลังน้ำและเชื้อเพลิงชีวภาพมีจำนวนการจ้างงานใกล้เคียงกันกับในปี 2564 ประมาณ 2.5 ล้านตำแหน่ง รองลงมาคือพลังงานลม 1.4 ล้านตำแหน่ง</p>
<p>ฟรานเชสโก ลา คาเมรา (Francesco La Camera) ผู้อำนวยการทั่วไปของ IRENA ตั้งข้อสังเกตว่า "ปี 2565 ถือเป็นปีที่โดดเด่นอีกปีหนึ่งสำหรับพลังงานทางเลือก ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้น การสร้างงานหลายล้านตำแหน่งจะต้องอาศัยการลงทุนในเทคโนโลยี การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น เมื่อต้นเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา ผู้นำ G20 ตกลงที่จะเร่งความพยายามในการเพิ่มกำลังการผลิตพลังงานทางเลือกทั่วโลก 3 เท่าภายในปี 2573 ซึ่งสอดคล้องกับคำแนะนำของ IRENA  ก่อนการประชุม COP28 ที่ได้เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายทุกคนใช้แรงผลักดันนี้เป็นโอกาสใช้นโยบายเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงระบบที่จำเป็น"</p>
<p>กิลเบิร์ต เอฟ. ฮุงโบ (Gilbert F. Houngbo) ผู้อำนวยการใหญ่ ILO กล่าวว่า "เพื่อคว้าโอกาสสำคัญในการบรรลุการจ้างงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน ในช่วงการเปลี่ยนผ่านที่ซับซ้อนเหล่านี้ มีความจำเป็นต้องพัฒนาและดำเนินนโยบายเฉพาะ สำหรับการเติบโตทางเศรษฐกิจมหภาคที่ครอบคลุม วิสาหกิจที่ยั่งยืน การพัฒนาทักษะ การคุ้มครองทางสังคม ความปลอดภัยและอาชีวอนามัย และสิทธิอื่นๆ ในที่ทำงาน รวมทั้งค้นหาแนวทางแก้ไขใหม่ๆ ผ่านการเจรจาทางสังคม”</p>
<p>คุณภาพของงานมีความสำคัญพอๆ กับปริมาณงาน รายงานฉบับนี้ยังระบุว่าเพื่อพัฒนาความยุติธรรมทางสังคม การเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตพลังงานที่สะอาดกว่า จะต้องมีความเป็นธรรมและครอบคลุมสำหรับทุกคน คนทำงาน วิสาหกิจ และชุมชน ดังนั้น กรอบการทำงานที่บูรณาการกันจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ โดยมุ่งเน้นไปที่ค่าจ้าง ความปลอดภัยในการทำงาน อาชีวอนามัย และสิทธิในการทำงาน ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเจรจาทางสังคมที่มีประสิทธิผล แนวทางของ ILO สำหรับการเปลี่ยนแปลงอย่างยุติธรรม ไปสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมสำหรับทุกคน ถือเป็นแหล่งข้อมูลสำหรับการกำหนดนโยบายและการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงที่ยุติธรรม ที่รัฐบาลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ สามารถนำมาใช้ได้</p>
<p>การเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานที่ยุติธรรมและครอบคลุม จะต้องติดตามการพัฒนาบุคลากรและความหลากหลายด้วย รายงานฉบับนี้ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการขยายการศึกษาและการฝึกอบรม เพิ่มโอกาสในการทำงานสำหรับคนหนุ่มสาว ชนกลุ่มน้อย และกลุ่มชายขอบ ความเท่าเทียมทางเพศที่มากขึ้นก็เป็นสิ่งจำเป็นเช่นกัน ในขณะนี้ ตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมพลังงานทางเลือก ยังคงมีการกระจายไม่เท่ากันระหว่างชายและหญิง ปัจจุบันงานในภาคพลังงานแสงอาทิตย์ มีความสมดุลทางเพศที่ดีที่สุดเมื่อเทียบกับภาคส่วนอื่นๆ โดย 40% ของคนทำงานในภาคนี้เป็นผู้หญิง</p>
<p>หลายประเทศแสดงความสนใจมากขึ้นในการปรับห่วงโซ่อุปทานให้เหมาะกับท้องถิ่น และการสร้างงานภายในประเทศ หากได้รับการสนับสนุนจากนโยบายอุตสาหกรรมที่เหมาะสม สิ่งนี้สอดคล้องกับความมุ่งมั่นที่จะลดความไม่มั่นคงในการจัดหาพลังงาน จีนประสบความสำเร็จในการดำเนินนโยบายอุตสาหกรรมต่างๆ เหล่านี้มาเป็นเวลาหลายปี เมื่อเร็วๆ นี้ สหภาพยุโรป อินเดีย ญี่ปุ่น แอฟริกาใต้ และสหรัฐอเมริกา ได้ประกาศโครงการริเริ่มเพื่อกระตุ้นการผลิตในประเทศ อย่างไรก็ตาม ประเทศต่างๆ จะต้องค้นหาวิธีผสมผสานความพยายามในระดับท้องถิ่นเข้ากับความร่วมมือระดับโลกอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
Renewables jobs nearly doubled in past decade, soared to 13.7 million in 2022 (ILO, 28 September 2023)</p>
<p> </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106273
 
4685  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - รมว.แรงงาน อัปเดตแรงไทยถูกจับในอิสราเอล 6 คน บาดเจ็บ 7 คน เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 12:00:21
รมว.แรงงาน อัปเดตแรงไทยถูกจับในอิสราเอล 6 คน บาดเจ็บ 7 คน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-08 10:56</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>ช่วงเช้าวันที่ 8 ต.ค. รมว.แรงงาน อัปเดตแรงไทยถูกจับในอิสราเอล 6 คน บาดเจ็บ 7 คน ระบุขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสาน หากมีความคืบหน้า ก.แรงงาน จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง</p>
<p>8 ต.ค. 2566 Thai PBS รายงานว่าเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.กระทรวงแรงงาน เผยมีแรงงานไทยได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตี #อิสราเอล เบื้องต้นยืนยัน 6 คน ถูกจับตัว ส่วนอีก 7 คนบาดเจ็บ ในจำนวนนี้ 1 คน อาการหนักอยู่โรงพยาบาล เร่งประสานเจ้าหน้าที่ช่วยเกาะติดสถานการณ์</p>
<p>• แรงงานที่ถูกควบคุมตัว 6 คน
นายเกียรติศักดิ์ พาที
นายมณี จิราชาติ
นายคมกฤษ ชมบัว
นายพงษ์ธร ไม่ทราบนามสกุล
นายอนุชา อังแก้ว
นายณัฐพร อ่อนแก้ว</p>
<div class="more-story">
<p><strong>ข่าวที่เกี่ยวข้อง</strong></p>
<ul>
<li>กระทรวงแรงงาน อัพเดทแรงงานไทยบาดเจ็บ 1 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล</li>
<li>อิสราเอลประกาศ 'ภาวะสงคราม' และตอบโต้กลับ หลังฮามาสโจมตีครั้งใหญ่</li>
</ul>
</div>
<p>• ผู้ได้รับบาดเจ็บ รอทหารเข้าช่วยเหลือ 3 คน
นายชาตรี ชาศรี โดนยิงที่ขา
นายอธิวัฒน์ พวงศรี บาดเจ็บเล็กน้อย
นายธีรพร ถาวงศ์กลาง บาดเจ็บน้อย</p>
<p>• รักษาตัวที่โรงพยาบาล Beer Sheva 4 คน
นายสมมา แซ่จ๊ะ บาดเจ็บเล็กน้อย
นายกรัชกร พุทธสอน บาดเจ็บเล็กน้อย
นายมาโนช สีทอง อาการหนัก
นายวิมาน วงค์จำปา บาดเจ็บเล็กน้อย</p>
<p>นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการประสาน ซึ่งถ้าหากมีความคืบหน้ากระทรวงแรงงาน จะรายงานให้ทราบอีกครั้ง และในวันนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงแรงงานไปประชุมที่ศูนย์อำนวยการบริหารสถานการณ์ ที่กระทรวงการต่างประเทศด้วย</p>
<h2><span style="color:#3498db;">"ภูมิธรรม" สั่งทูตประเมินผลกระทบการค้า </span></h2>
<p>ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ได้ขอให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมขอให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์และอธิบดีทุกกรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ขอให้ทูตพาณิชย์ในอิสราเอล รายงานสถานการณ์และความเสียหายที่ส่งผลต่อภาคธุรกิจของไทยใอิสราเอล </p>
<p>นอกจากนี้ ขอให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์และประเมินผลกระทบที่อาจส่งผลทางการค้าของไทยจากกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ วิเคราะห์ผลกระทบต่อแผนความร่วมมือการเปิดเจรจาความตกลงการค้าเสรี หรือเอฟทีเอ ไทย–อิสราเอล
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106272
 
4686  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - นายกฯ เผยล่าสุด ฮามาสโจมตีอิสราเอล คนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกจับหลายราย เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 11:20:36
นายกฯ เผยล่าสุด ฮามาสโจมตีอิสราเอล คนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกจับหลายราย
         


นายกฯ เผยล่าสุด ฮามาสโจมตีอิสราเอล คนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกจับหลายราย" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;นายกฯ เผยล่าสุด ฮามาสโจมตีอิสราเอล คนไทยเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ถูกจับหลายราย น่านฟ้าปิดยังอพยพไม่ได้
         

https://www.sanook.com/news/9065018/
         
4687  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - "ศรีสุวรรณ" ร้อง ปธ.สภาฯ คัดค้านการแต่งตั้ง "ส.ส.จั่วไพ่" นั่ง กมธ.ปปช. เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 11:16:28
"ศรีสุวรรณ" ร้อง ปธ.สภาฯ คัดค้านการแต่งตั้ง "ส.ส.จั่วไพ่" นั่ง กมธ.ปปช.
         


&quot;ศรีสุวรรณ&quot; ร้อง ปธ.สภาฯ คัดค้านการแต่งตั้ง &quot;ส.ส.จั่วไพ่&quot; นั่ง กมธ.ปปช." width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9065034/
         
4688  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - ครบรอบ 2 ปี ‘สืบชะตาแม่น้ำแม่ลาหลวง สู่การคัดค้านเหมืองแร่ฟลูออไรต์’ เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 10:29:51
ครบรอบ 2 ปี ‘สืบชะตาแม่น้ำแม่ลาหลวง สู่การคัดค้านเหมืองแร่ฟลูออไรต์’
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sun, 2023-10-08 10:07</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'ภาคีเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำลา' จัดงาน ครบรอบ 2 ปี “สืบชะตาแม่น้ำแม่ลาหลวง สู่การคัดค้านเหมืองแร่ฟลูออไรต์” หวังสร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชนและเครือข่ายรักษ์ลุ่มแม่น้ำลา ย้ำคนแม่ลาน้อยไม่ต้องการเหมืองแร่ฟลูออไรต์</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53242552540_20100dd31a_o_d.jpg" /></p>
<p>ภาคีเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำลา แจ้งข่าวว่าเมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ภาคีเครือข่ายรักษ์ลุ่มน้ำลา ร่วมกันจัดงาน ครบรอบ 2 ปี “สืบชะตาแม่น้ำแม่ลาหลวง สู่การคัดค้านเหมืองแร่ฟลูออไรต์” ณ พื้นที่ป่าจิตวิญญาณ บริเวณพื้นที่ขอสัมปทานเหมืองแร่ฟลูออไรต์ บ้านห้วยมะกอก ต.สันติคีรี อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อปกป้องสายน้ำ ปกป้องผืนป่าและปกป้องทรัพยากรธรรมชาติไม่ให้ถูกทำลายจากการทำเหมืองแร่ฟลูออไรต์ เพราะแม่น้ำแม่ลาหลวงและแม่น้ำลาเป็นแม่น้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนให้พื้นที่และยังเป็นต้นน้ำที่สำคัญของแม่น้ำหลายสาย อาทิ แม่น้ำยวม แม่น้ำเมย ก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำสาละวิน หากเกิดเหมืองแร่ขึ้นในพื้นที่ก็จะส่งผลกระทบต่อสายน้ำผู้คนที่อยู่ลุ่มน้ำแม่ลา</p>
<p>โดยในงานมีมวลชนในจังหวัดแม่ฮ่องสอนและภาคีเครือข่ายในภาคเหนือกว่า 300 คน  มาร่วมกิจกรรม เพื่อเป็นสักขีพยานและแสดงพลังร่วมกันคัดค้านเหมืองแร่ฟรูออไรต์ ผ่านกิจกรรมต่างๆ เริ่มด้วย พิธีกรรมสืบชะตาแม่น้ำแม่ลา ตามพิธีกรรมทางความเชื่อของชุมชนทั้งสี่ ความเชื่อ ได้แก่ ศาสนาคริสต์คาทอลิกและโปรเตสแตนต์ ศาสนาพุทธ และความเชื่อดั้งเดิม</p>
<p>นพวิทย์ โชติเกษตรกุล ตัวแทนเยาวชนในพื้นที่แม่ลาน้อย กล่าวว่า ตนรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่พี่น้องหลายๆที่มาร่วมงานในวันนี้ รวมถึงพี่น้องเครือข่ายภาคีต่างๆ ในงานวันนี้เป็นการจัดงานครบรอบ 2 ปีสืบชะตา มีจุดประสงค์ 3 ข้อดังนี้ </p>
<p>1. เพื่อสร้างความสามัคคีให้กับคนในชุมชนและเครือข่ายรักษ์ลุ่มแม่น้ำลา </p>
<p>2. เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรพื้นที่ป่าไม้และพื้นที่แม่น้ำแม่ลาหลวง พื้นที่เหมืองแร่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมซึ่งมันตรงข้ามกับความเป็นจริงที่มันอุดมสมบูรณ์ และเต็มไปด้วยป่านานาชนิด หากมีการทำเหมืองแร่เราจะได้รับผลกระทบทั้งหมู่บ้านพื้นที่ลุ่มน้ำ </p>
<p>3. เพื่อแสดงออกถึงว่าคนแม่ลาน้อยไม่ต้องการเหมืองแร่ฟลูออไรต์ ซึ่งเหมืองเคยทำเมื่อ 20 ปีที่แล้ว ถ้ามันดีจริงพวกเราคงไม่ออกมาคัดค้าน  </p>
<p>ต่อมาในเวทีเสวนา “เหมืองแร่ฟลูออไรต์กับวิถีชีวิตคนลุ่มแม่น้ำลาหลวง สะท้อนประเด็นการต่อสู้ของพี่น้องแม่ลาน้อยผ่านมุมมองแต่ละส่วนดังนี้</p>
<p>นายจวน สิทธิจา สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาหลวง  ซึ่งเป็นผู้นำในการนำพี่น้อง กล่าวว่า เป็นผู้นำต้องมีความกล้า เพื่อยืนยันเราต้องสู้เพราะทรัพยากรเป็นของคนแม่ฮ่องสอน น้ำมีความอุดมสมบูรณ์หล่อเลี้ยงพี่น้องแม่ลาหลวง แม่ลาน้อย รวมถึงพี่น้องแม่สะเรียง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต เราในฐานะประชาชนไม่มีอาวุธไปต่อสู้กับภาครัฐ และไม่มีการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น เราสู้ในฐานะมวลชน ภาครัฐเอื้อแต่นายทุน เราต้องระดมทุน แม้ว่ารัฐจะไปไกลแล้วแต่เราก็ไม่ย่อท้อ </p>
<p>วิชัย หยกรุ่งทิวากร พ่อหลวงบ้านสันติสุข กล่าวว่าตลอดเวลา 1-2 ปีที่ผ่านมาก็ได้เห็นถึงความเดือดร้อน ความทุกข์ใจของพี่น้อง จึงได้ขอความร่วมมือและความคิดเห็นพี่น้องแต่ละในพื้นที่เพื่อเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่ได้แบ่งว่าใครเป็นพี่น้องต้นน้ำหรือปลายน้ำ เพราะทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกัน ถ้าเราไม่สู้พื้นที่แห่งนี้อาจจะเป็นป่าทรุดโทรม ป่าต้นน้ำก็ไม่สามารถเป็นแหล่งน้ำให้เราไปใช้ในแม่น้ำลา จึงอยากเป็นตัวแทนกลุ่มรักษ์แม่น้ำลาขอบคุณพี่เลี้ยงที่คอยเคียงข้างเรา และผู้นำแต่ละคนที่โดนกดดันจากภาครัฐเพื่อเป็นตัวหลักในการต่อสู้และขอบคุณพี่น้องที่อยู่เคียงข้างกันไป ไม่ใช่พี่น้องหัวลา พี่น้องห้วยมะกอก แต่เราทุกคนต้องสู้ไปด้วยกัน</p>
<p>อุดม สุจา กำนันตำบลแม่ลาหลวง กล่าวว่าสายน้ำก็เหมือนสายเลือด ที่หล่อเลี้ยงชีวิตเรา ไม้ไผ่หลายอันรวมกันก็เป็นกอไผ่ที่แข็งแรง เราไม่สามารถทำเองได้ ควรที่จะร่วมมือร่วมใจกัน</p>
<p>สะท้าน วิชัยพงษ์ ตัวแทนสมาคมฟื้นฟูและพัฒนาลุ่มน้ำสาละวิน กล่าวว่าในฐานะพี่น้องปกาเกอะญอแม่ฮ่องสอน ถ้าเราไม่รักกันใครจะมารัก ถ้าเรามีพลังชัยชนะก็จะได้มา เราจะสู้ตามวิถี สันติวิธี เพราะรู้ว่าพื้นที่ป่าเคยถูกทำลาย หอมและกระเทียมจากแม่ลาหลวง และหัวลาเป็นที่ต้องการของตลาด ถ้าเกิดอะไรขึ้นในพื้นที่สิ่งเหล่านี้คงจะหายไป ผมเลยสู้ทั้งเรื่องเหมือง และเรื่องป่า พื้นที่ทำกิน เราเข้าร่วมทั้งนโยบายของรัฐแม่กระทั่งคทช.แต่ท้ายที่สุดก็ถูกยึด ไม่ว่ายังเราก็จะสู้ด้วยกันเพื่อให้ลูกหลานมีกินมีใช้ มีศักดิ์ศรีไปพร้อมๆกัน เราจะอยู่ที่นี่ ตายที่นี่</p>
<p>นายสุมิตรชัย หัตถสาร ผอ.ศูนย์พิทักษ์และฟื้นฟูสิทธิชุมชนท้องถิ่น เสนอการต่อสู้ในเชิงกฎหมายว่า “ทำอย่างไรให้รัฐปลดพื้นที่ตรงนี้ออกจากพื้นที่ทำเหมืองได้ ซึ่งรัฐมันต้องประกาศว่าเป็นพื้นที่เหมืองแร่ก่อนมันถึงจะสามารถขอสัมปทานเหมืองแร่ได้ ถ้าเราสามารถทำได้จะเป็นการยกระดับในการต่อสู้ให้เห็นว่าเราจะไม่สามารถยกให้ใครมาทำลายพื้นที่ตรงนี้”  </p>
<p>นอกจากนี้ยังเสนอว่าเราต้องดึงอำนาจในการมีส่วนร่วมกลับมาสู่ชุมชน ต้องถามคนแม่ลาน้อยยก่อนว่า มันควรที่จะเป็นเหมืองแร่หรือไม่ ให้กระบวนการมันหยุดชะงักเพื่อรอกระบวนการตัดสินใจจากเราก่อน นอกจากนี้เราต้องสู้ตามสิทธิที่เรามี สิทธิชุมชนเป็นสิทธิที่ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญว่าเรามีสิทธิจะกำหนดชีวิตของตัวเอง เสรีภาพในการรวมกลุ่มอย่างกลุ่มรักษ์แม่น้ำลา หรือสิทธิที่จะรณรงค์เราต้องไปเดินรณรงค์ซึ่งมันเป็นสิทธิเสรีภาพของเราเพื่อให้ภาครัฐต้องฟังเราว่าเรามีสิทธิในชุมชน อยากให้พี่น้องเขื่อมั่นว่าเรามีอำนาจในการต่อกรอำนาจที่มันไม่ชอบธรรม</p>
<p>เลาฟั้ง บัณฑิตเทอดสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวว่าในเชิงกฎหมายนโยบายเราสามารถตรวจสอบได้ว่าการประกาศเป็นเหมืองแร่ถูกต้องหรือไม่ สามารถเสนอตรวจสอบได้ว่ากระบวนการทำเหมืองแร่มันถูกต้องหรือไม่อำนาจนี้สามารถเรียกหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาชี้แจง และให้พี่น้องเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งผมพยายามใช้บทบาท สส.ในการต่อสู้เรียกร้องสิทธิ์ </p>
<p>ในอีกประเด็นเวลงเราได้ยินคำว่าเวลาจะทำเหมืองแร่เพื่อที่จะพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งมันเป็นการพัฒนาแบบเก่าที่ต้องทำโครงการใหญ่ๆ การพัฒนาแบบนี้เป็นตามแผนพัฒนา 2504  ที่เราไม่สามารถอยู่กับป่าได้ การพัฒนาเหมืองแร่จริงๆมันตกไม่ถึงชาวบ้าน ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านทำได้จริงๆ คือยาม คนขุดในเหมือง เราจะได้จริงๆ หรือ </p>
<p>สิ่งที่เรามีที่นี้คือป่า มีเศรษฐกิจอย่างหอมและกระเทียม ถ้ามีการทำเหมืองน้ำ ส่วนเรื่องการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น ในประเทศที่เจริญแล้ว จะมีการกระจายอำนาจในการพัฒนา ท้องถิ่นเข้ามามีอำนาจในการตัดสิน รวมถึงอำนาจการตัดสินใจในทรัพยากรธรรมชาติ ยกตัวอย่างเรื่องเหมือง  อำนาจตัดสินใจต้องอยู่ที่ชาวบ้าน เช่น ผลกระทบแบบนี้เราจะรับยังไง ถ้ามีผลประโยชน์ถ้าเราจะเอาก็ต้องยอมรับผลกระทบที่ตามมา แต่ในระบบกฎหมายมันยังไม่ถึงขนาดนั้น ชาวบ้านได้รับแค่ผลกระทบ ยังไม่มีอำนาจตัดสินใจ </p>
<p>อีกอย่างที่อยากเสนอคือการต่อสู้แค่ชุมชนเดียวมันไม่พอ เพราะเราไม่มีเครื่องมือไปสู้กับนายทุนใหญ่ ในโซนนี้อย่างน้อย 3 พื้นที่อย่างเหมืองแร่แม่ลาหลวง โครงการผันน้ำ เหมืองแร่แม่สะเรียง แม้ว่าจะอยู่คนละที่แต่มันคือความเป็นธรรมในการจัดการทรัพยากรที่รัฐกำลังเอาไปประเคนให้นายทุน คิดว่าคนที่โดนเหมือนกันต้องต่อสู้ร่วมกันมันไม่ใช่แค่ที่ใดที่หนึ่งแต่เป็นประเด็นร่วมกัน</p>
<p>ต่อมาคือกิจกรรม ร่วมพูดคุยให้กำลังใจพี่น้องมาลาน้อยให้ยังคงยืนหยัดต่อสู้อย่างเข้มแข็ง</p>
<p>สองแก้ว ประจักเมธี ผู้ช่วยสส. ต.แม่ลาหลวง กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่เห็นพลังของพี่น้อง เราจะต้องช่วยกันไม่มีใครรักเราเท่าพวกเราเอง ถ้าเราไม่มาแสดงด้วยกันในการต่อต้าน โอกาสที่เราจะพ่ายแพ้นั้นสูง ยิ่งพวกเรามีกำลังมากเท่าไหร่ เราก็จะคัดค้านได้มากเท่านั้น ต้องตัดไฟตั้งแต่ต้นลม และเป็นกำลังใจให้ทุกคนมีกำลังต่อสู้ต่อไป</p>
<p>กมลศักดิ์ ซาววงศ์ นายกอบต.สันติคีรี กล่าวว่าผมเกิดสันติคีรี ตายสันติคีรี เราไม่ต้องกลัว เราต้องสู้เพื่อตำบลของเรา ยังไงก็จะสู้ด้วยกัน </p>
<p>ตัวแทนแกนนำชุมชนแม่สะเรียงกล่าวว่า ถ้าพวกเรารวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียวก็จะไม่มีใครสามารถมาทำอะไรพวกเราได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด </p>
<p>พรชิตา ฟ้าประทานไพร ตัวแทนกะเบอะดิน กล่าวว่า บ้านตนเองเป็นพื้นที่ต่อสู้เหมืองแร่ถ่านหินมา 4 ปีแล้ว เราก็ยังยืนยันว่าจะไม่เอา พื้นที่แม่ฮ่องสอนเป็นพื้นที่ที่มีพื้นที่ป่าเยอะที่สุดในประเทศเรา สิ่งหนึ่งที่เรายังไม่มีคือไฟฟ้า ประปา แต่เราต้องเสียสละพื้นที่ในบ้านของเราซึ่งมันสร้างผลกระทบมากมาย มาที่นี่ก็รู้สึกว่าอุดมสมบูรณ์มากๆ เราต้องร่วมกันเพื่อที่จะให้พื้นที่ตรงนี้ออกจากพื้นที่เหมืองแร่ให้ได้</p>
<p>ลิขิต พิมานพนา ตัวแทนจากกลุ่ม ชาติพันธุ์ปลดแอกกล่าวว่า คนที่กำลังเจอปัญหาร่วมกันยังมีอีกเยอะมากๆ อยากให้พี่น้องหาพันธมิตร ซึ่งมันเป็นปัญหาหาเรื่องใหญ่เรื่องเดียวกัน การที่เราจะสู้ได้เราต้องร่วมมือกันกับการต่อสู้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ตราบใดที่พี่น้องยังจะสู้ผมและพี่น้องทักคนในเครือข่ายก็ยืนยันว่าจะเคียงข้างในการต่อสู้ไปด้วยกัน</p>
<p>และกิจกรรมสุดท้ายของวันนี้คือการ การอ่านคำประกาศเจตนารมณ์ โดยน้องเยาวชนในพื้นที่แม่ลาน้อย</p>
<p>หลังจบกิจกรรมบนเวทีเสร็จแล้วมวลชนที่เข้าร่วมงานได้ร่วมกันปลูกกล้าไม้บริเวณพื้นที่ขอประทานบัตรเหมืองแร่ฟรูออไรต์และปล่อยปลาลงแม่น้ำแม่ลา เพื่อแสดงถึงการปกป้องอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและผืนดินผืนป่าสายน้ำแห่งนี้สืบทอดให้ลูกหลานต่อไปในอนาคต
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106268
 
4689  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - "เป๊ก สัณณ์ชัย" ถอดเขี้ยวเล็บเพื่อลูกสาว พูดครั้งแรก! สาเหตุที่บวชพระ 5 ครั้ง เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 08:49:59
"เป๊ก สัณณ์ชัย" ถอดเขี้ยวเล็บเพื่อลูกสาว พูดครั้งแรก! สาเหตุที่บวชพระ 5 ครั้ง
         


&quot;เป๊ก สัณณ์ชัย&quot; ถอดเขี้ยวเล็บเพื่อลูกสาว พูดครั้งแรก! สาเหตุที่บวชพระ 5 ครั้ง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;พ่อบ้านใจกล้า "เป๊ก สัณณ์ชัย" ถอดเขี้ยวเล็บเพื่อลูกสาว "ลียา" พร้อมเผยเหตุผลทำไมบวชพระ 5 ครั้ง?


         

https://www.sanook.com/news/9064498/
         
4690  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ดูกันหรือยัง? คลิป 3 หมาต่อคิวกินน้ำ ฉลาดจนมนุษย์อ้าปากค้าง เซอร์ไพรส์วิธีเปิด-ป เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 06:16:12
ดูกันหรือยัง? คลิป 3 หมาต่อคิวกินน้ำ ฉลาดจนมนุษย์อ้าปากค้าง เซอร์ไพรส์วิธีเปิด-ปิดก๊อก
         


ดูกันหรือยัง? คลิป 3 หมาต่อคิวกินน้ำ ฉลาดจนมนุษย์อ้าปากค้าง เซอร์ไพรส์วิธีเปิด-ปิดก๊อก" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เซอร์ไพรส์สุดๆ แก๊งน้องหมาแสนรู้ ยืนเข้าคิวเป็นระเบียบ เปิดก๊อกกินน้ำเองไม่ง้อใคร
         

https://www.sanook.com/news/9063710/
         
4691  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - โพลระบุปัญหา 'ข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง' ทำคนไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตั เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 05:53:09
โพลระบุปัญหา 'ข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง' ทำคนไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 12:22</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กรุงเทพโพล สำรวจ 1,080 คน เรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาส 3/2566” พบเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตลดลงจากไตรมาส 2 จาก 61.5% ลงเหลือ 53.2% ส่วนใหญ่ 52.5% เห็นว่าปัญหาข้าวของราคาแพง ค่าครองชีพสูง เป็นสาเหตุที่ทำให้ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเอง</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53240206549_bbd2a422f5_o_d.png" />
    
7 ต.ค. 2566 กรุงเทพโพลร่วมกับคณะการสร้างเจ้าของธุรกิจและการบริหารกิจการ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “คนไทยคิดอย่างไรกับโอกาสในการเป็นเจ้าของธุรกิจ ประจำไตรมาส3/2566 ”โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,080 คน พบว่า</p>
<p>การสำรวจความเห็นเกี่ยวกับจิตวิญญาณของการเป็นผู้ประกอบการ (เจ้าของธุรกิจ) ประจำไตรมาส 3/2566  โดยได้ทำการเปรียบเทียบกับการสำรวจครั้งที่ผ่านมา (ช่วงเดือน มิ.ย. 2566) ในประเด็นต่างๆ พบว่า ประชาชนเห็นโอกาสหรือความพร้อมสำหรับการริเริ่มธุรกิจในอนาคตมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 53.2 (โดยลดลงร้อยละ 8.3) รองลงมาคือ ตนเองมีความรู้ความสามารถรวมถึงทักษะและประสบการณ์ที่จำเป็นในการที่จะเริ่มทำธุรกิจใหม่ คิดเป็นร้อยละ  45.2  (ลดลงร้อยละ 3.6 ) และมีความตั้งใจที่จะประกอบธุรกิจ ในอนาคตข้างหน้า คิดเป็นร้อยละ 41.9 (ลดลงร้อยละ 13.7) และ ขณะที่เห็นว่าไม่อยากลงทุนทำธุรกิจเพราะกลัวความล้มเหลว คิดเป็นร้อยละ 63.5 (ลดลง ร้อยละ 4.7) </p>
<p>ทั้งนี้สาเหตุที่ไม่กล้าเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองมากที่สุดคือ ปัญหาข้าวของราคาแพง  ค่าครองชีพสูง  คิดเป็นร้อยละ 52.5 รองลงมาคือ ไม่มีเงินทุนมากพอ คิดเป็นร้อยละ 51.7 น้ำมันเชื้อเพลิงต่างๆ ราคาสูงขึ้นคิดเป็นร้อยละ 48.0  กลัวล้มเหลว กลัวขาดทุน คิดเป็นร้อยละ 43.0 และนโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ คิดเป็นร้อยละ 30.9    
    
สุดท้ายเมื่อถามว่าหลังได้ ครม. นายกฯ เศรษฐา  มีผลมากน้อยเพียงใดต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่พบว่า ส่วนใหญ่ร้อยละ 71.4 เห็นว่ามีผลค่อนข้างน้อยถึงน้อยที่สุด ขณะที่ร้อยละ 28.6 เห็นว่ามีผลค่อนข้างมากถึงมากที่สุดต่อการตัดสินใจเริ่มต้นธุรกิจใหม่ 
 </p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106255
 
4692  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - “เศรษฐา” ไม่หวั่นแม้มีคนต้านแจกเงินดิจิทัล ย้ำคำมั่นกับประชาชน ต้องทำแน่นอน เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 05:11:32
“เศรษฐา” ไม่หวั่นแม้มีคนต้านแจกเงินดิจิทัล ย้ำคำมั่นกับประชาชน ต้องทำแน่นอน
         


“เศรษฐา” ไม่หวั่นแม้มีคนต้านแจกเงินดิจิทัล ย้ำคำมั่นกับประชาชน ต้องทำแน่นอน" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9064758/
         
4693  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - 'คำนูณ' ย้ำต้องชี้แจงที่มาของงบประมาณเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ชัดเจน เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 04:22:22
'คำนูณ' ย้ำต้องชี้แจงที่มาของงบประมาณเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ชัดเจน
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 12:55</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'คำนูณ สิทธิสมาน' สมาชิกวุฒิสภา ย้ำรัฐบาลต้องชี้แจงที่มาของงบประมาณดำเนินโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้ชัดเจน และหากจำเป็นต้องใช้เงินนอกงบประมาณปี 2567 ก็ต้องเปิดเผยสัญญาที่จะทำกับธนาคารออมสิน และธนาคาร ธ.ก.ส. ให้ประชาชนรับทราบด้วย</p>
<p><img alt="" src="https://live.staticflickr.com/65535/53239868871_cf06a1c9d6_o_d.png" /></p>
<p>7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์สถานีวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา รายงานว่านายคำนูณ  สิทธิสมาน สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ขอปรึกษาหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนผ่านที่ประชุมวุฒิสภาไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง โครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) 10,000 บาท”  ว่า เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้นำนโยบายดังกล่าวใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งเมื่อเดือน เม.ย.66 และได้แจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ว่า นโยบายดังกล่าวจะต้องใช้งบประมาณสูงถึง 560,000 ล้านบาท พร้อมทั้งระบุด้วยว่า จะใช้การบริหารจัดการงบประมาณ และการบริหารจัดการระบบภาษีในการดำเนินการ กล่าวคือ เป็นเงินงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 แต่เนื่องจากปฏิทินงบประมาณเปลี่ยนแปลงไปทำให้ พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 อาจประกาศใช้ประมาณปลายเดือน เม.ย.67 ดังนั้น จึงไม่มีความเป็นไปได้ที่โครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” จะปรากฏอยู่ในกฎหมายงบประมาณ ปี 2567 แต่รัฐบาลได้ประกาศว่าจะเริ่มโครงการ “กระเป๋าเงินดิจิทัล” ในปีงบประมาณ 2567 (1 ก.พ.67 หรือ 1 มี.ค.67) ซึ่งหมายความว่าจะมีการจ่ายเงิน จำนวน 560,000 ล้านบาท พร้อมกัน โดยรัฐบาลอาจใช้วิธีเงินนอกงบประมาณ กล่าวคือ ให้ธนาคารของรัฐ อาทิ ธนาคารออมสิน เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าวไปก่อนแล้วรัฐบาลจะตั้งงบประมาณคืนให้ในภายหลังโดยทยอยใช้เป็นรายปี เช่นเดียวกับโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งจะทำให้เงินจำนวนดังกล่าวไม่อยู่ในงบประมาณฯ แต่อาจอยู่เฉพาะเงินส่วนที่ต้องคืนให้ในงวดแรก และทยอยคืนในปีต่อไปอีกหลายปี ทั้งนี้ ตนได้ตั้งคำถามไปยังรัฐบาลในวันที่รัฐบาลแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 11 ก.ย.66 แต่ก็ยังไม่ได้รับคำชี้แจงเกี่ยวกับแนวทางการใช้เงินที่จะให้ธนาคารของรัฐดำเนินการตามมาตรา 28 แห่ง พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561</p>
<p>นายคำนูณ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอให้รัฐบาลชี้แจงรายละเอียดของโครงการดังกล่าวว่า ในกรณีที่รัฐบาลใช้ธนาคารออมสินดำเนินการ จะมีการตั้งงบประมาณใช้คืนธนาคารออมสินจำนวนกี่ปี และจ่ายคืนปีละเท่าไร และหากรวมโครงการพักหนี้เกษตรกร ซึ่งต้องใช้เงินนอกงบประมาณจากจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตามมาตรา 28 เช่นเดียวกัน จะตั้งงบประมาณสำหรับการชำระหนี้โดยนำเงินจากโครงการกระเป๋าเงินดิจิทัล มารวมด้วยหรือไม่ และจะทยอยใช้คืนจำนวนกี่ปี ดังนั้น รัฐบาลต้องเปิดเผยสัญญาที่จะทำกับธนาคารออมสิน และธนาคาร ธ.ก.ส. หรือไม่ เพราะประชาชนจำเป็นต้องทราบจำนวนดอกเบี้ยใช้คืน ค่าบริหารจัดการ และค่าบริการของธนาคารว่าเป็นเงินเท่าใด ขณะเดียวกัน ในภาวะดอกเบี้ยสูง รัฐบาลมีต้นทุนสำหรับการตั้งงบประมาณคืนให้ธนาคารของรัฐเพิ่มขึ้นหรือไม่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 57 ที่กำหนดให้ทุกนโยบายที่มีการใช้จ่ายเงินต้องทำเป็นรายการชี้แจง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ประกอบด้วยวงเงินที่ต้องใช้และที่มาของเงินที่จะใช้ดำเนินการ ความคุ้มค่าและประโยชน์ในการดำเนินนโยบาย และผลกระทบและความเสี่ยงในการดำเนินนโยบาย ดังนั้น จึงขอหารือไปยัง กกต. ว่าเมื่อพรรคการเมืองชี้แจงข้อมูลตามที่กำหนดแล้ว เมื่อได้รับเลือกเป็นรัฐบาลก็ไม่จำเป็นต้องทำตามที่ชี้แจงไว้ก็ได้ ใช่หรือไม่ หากเป็นเช่นนี้จะมีประโยชน์อันใด</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106257
 
4694  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - ได้ผลชะงัด! คลิปแก้เผ็ดข้างห้อง ดึกๆ ดื่นๆ ร้องกระเส่าแทบขาดใจ เคาะ 2 ที เสียงเงีย เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 03:38:14
ได้ผลชะงัด! คลิปแก้เผ็ดข้างห้อง ดึกๆ ดื่นๆ ร้องกระเส่าแทบขาดใจ เคาะ 2 ที เสียงเงียบกริบ
         


ได้ผลชะงัด! คลิปแก้เผ็ดข้างห้อง ดึกๆ ดื่นๆ ร้องกระเส่าแทบขาดใจ เคาะ 2 ที เสียงเงียบกริบ" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;ต้องขออภัยที่ทำให้กิจกรรมชะงัก แต่จำเป็นต้อง "เคาะ" จริงๆ
         

https://www.sanook.com/news/9064926/
         
4695  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 1-7 ต.ค. 2566 เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 02:42:25
สถานการณ์แรงงานประจำสัปดาห์ 1-7 ต.ค. 2566
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 13:47</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p><strong>เครือข่ายแรงงานวอนรัฐบาลเศรษฐา ‘เลิกจ้างงานไม่เป็นธรรม-รับรองอนุสัญญา ILO 87,98 – หยุดแปรรูปรัฐวิสาหกิจ</strong></p>
<p>7 ต.ค. 2566 สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) เครือข่ายขับเคลื่อนอนุสัญญาไอแอลโอ 87, 98 นำโดยนายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย นำเครือข่ายแรงงาน จัดกิจกรรม เนื่องในวัน “วันงานที่มีคุณค่าสากล : World Day for Decent Work โดยมีการเดินขบวนแรงงานจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ไปยังสำนักงาน UN เพื่ออ่านแถลงการณ์ เนื่องในวันงานที่มีคุณค่าสากล พร้อมยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล โดยระบุว่า ขณะนี้ประเทศไทยได้มีรัฐบาลใหม่เข้ามาแล้ว จึงหวังว่ารัฐบาลที่นำโดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมตรี และรมว.การคลัง รวมถึงนายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน คนใหม่ จะเห็นความสำคัญของผู้ใช้แรงงาน มีการรับฟังข้อเสนอของเรา โดยเฉพาะการรับรองปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน องค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับ ที่ 87 และ 98 สนับสนุนให้มีเสรีภาพรวมตัว เจรจต่อรอง ได้รับความคุ้มครองโดยรัฐ เพื่อให้มีการแบ่งปันผลประโยชน์ที่เป็นธรรม ทั้งนี้เพื่อเป็นของขวัญแก่คนทำงาน</p>
<p>สำหรับข้อเรียกร้องที่ยื่นต่อรัฐบาล มีทั้งหมด 3 ข้อ คือ 1.การยกเลิกการจ้างงานที่ไม่มั่นคง ซึ่งการจ้างงานในปัจจุบันเป็นการจ้างงานแบบการจ้างระยะสั้น เช่น เหมาค่าแรง เหมางาน จ้างงานบางช่วงเวลา การจ้างงานนักศึกษาฝึกงาน ตามชิ้นงาน หรือ จ่ายรายวัน ซึ่งการจ้างงานดังที่กล่าวมาได้แพร่ระบาดไปทั่ว ทั้งภาคเอกชน รัฐวิสาหกิจ ไม่เว้นแม้กระทั่งหน่วยงานราชการ บางแห่งจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าที่กฎหมายกำหนด เช่น ลูกจ้างในภาครัฐในทุกกระทรวง</p>
<p>2.ขอให้รัฐบาลเร่งรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 ค.ศ.1948 ว่าด้วยสิทธิในการรวมตัว ฉบับที่ 98  ค.ศ.1949 ว่าด้วยการเจรจาต่อรองร่วม ซึ่งขบวนการแรงงานเห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของคนงานทั่วโลกที่บัญญัติไว้ในกฎเกณฑ์ระหว่างประเทศ เช่น องค์การสหประชาชาติ(UN) ที่กำหนดไว้ในปฏิญญาสากล ILO  และรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับที่มีมา แต่ที่ผ่านมารัฐบาลยังไม่ให้สัตยาบันอนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ จึงเป็นเหตุให้คนงานต้องเผชิญกับความยากลำบากในการรวมตัวเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง ทำให้ประเทศไทยถูกจัดลำดับให้เป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำสูงสุดแซงหน้าทุกประเทศในโลกนี้ และส่งผลกระทบต่อสังคม การเมือง และระบอบประชาธิปไตย</p>
<p>3.ให้รัฐบาลหยุดแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะกิจการที่เกี่ยวข้องกับการบริการสาธารณะ เช่น เรื่องพลังงานน้ำมัน ก๊าซ ไฟฟ้า น้ำประปา การขนส่ง การธนาคาร การสื่อสารโทรคมนาคม รัฐควรดำเนินการเองเพื่อกำหนดราคาไม่ให้ราคาแพง เพราะจะเป็นการลดต้นทุนการผลิต ลดรายจ่ายประชาชน ทำให้ระบบเศรษฐกิจขับเคลื่อนได้ เกิดการผลิต การจำหน่าย เกิดการจ้างงาน ประชาชนมีกำลังซื้อ ลดหนี้ครัวเรือนที่มีแนวโน้มสูงอย่างต่อเนื่องเกือบเท่าจำนวนผลิภัณฑ์มวลรวมของประเทศ(GDP) โดยขอให้รัฐบาลใหม่พิจารณาร่างกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ พ.ศ…..ฉบับสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจเพื่อเป็นกรอบแนวทางในการพัฒนารัฐวิสาหกิจแทนการแปรรูป</p>
<p>ที่มา: เดลินิวส์, 7/10/2566</p>
<p><strong>รมว.แรงงาน เชิญนายจ้าง ผู้ประกันตน ใช้สิทธิเลือกตั้ง คกก.ประกันสังคม</strong></p>
<p>6 ต.ค. 2566 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน กล่าวถึงการดำเนินการจัดการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งกำหนดจัดการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 24 ธ.ค. 66 เวลา 08.00-16.00 น. โดยกำหนดให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คือ ผู้ประกันตนมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 และนายจ้างที่ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประกันสังคม โดยลูกจ้าง 1 คน และนายจ้าง 1 คน สามารถลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทนได้ฝ่ายละ 7 คน พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์ตามคุณสมบัติผู้มีสิทธิเลือกตั้ง คือ</p>
<p>ผู้ประกันตน ต้องมีสัญชาติไทย ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกันตนติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนเดือนที่มีการประกาศให้มีการเลือกตั้ง (มี.ค.-ส.ค. 66) จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนที่ประกาศเลือกตั้ง)  </p>
<p>นายจ้าง มีสัญชาติไทย ขึ้นทะเบียนเป็นนายจ้างติดต่อกันไม่น้อยกว่า 6 เดือน ก่อนเดือนที่มีประกาศให้มีการเลือกตั้ง (มี.ค.-ส.ค.66) จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมไม่น้อยกว่า 3 เดือน (ภายใน 6 เดือนก่อนเดือนที่ประกาศเลือกตั้ง) กรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลผู้จะใช้สิทธิต้องอยู่ในฐานะผู้มีอำนาจ/กรณีเป็นผู้มีอำนาจในนิติบุคคลมากกว่า 1 นิติบุคคลต้องเลือกใช้สิทธิได้เพียงแห่งเดียว</p>
<p>รมว.แรงงาน กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมจะเปิดให้นายจ้าง และผู้ประกันตนที่มีคุณสมบัติเป็นผู้มีสิทธิเลือกตั้งต้องลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้ง ทางเว็บไซต์ www.sso.go.th หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ตั้งแต่วันที่ 12-31 ต.ค. 66 และจะประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ในวันที่ 10 พ.ย. 66 ผมจึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวนนายจ้าง ผู้ประกันตน ลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 24 ธ.ค. 66</p>
<p>ด้าน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจัดการเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นกรรมการในคณะกรรมการประกันสังคม (ศอ.กต.นจ.ผปต.) กล่าวถึงพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2558 ได้กำหนดให้คณะกรรมการประกันสังคม ซึ่งเป็นผู้แทนฝ่ายนายจ้าง และผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตน ฝ่ายละ 7 คน มาจากการเลือกตั้ง ซึ่งมีบทบาทอำนาจหน้าที่ในการเสนอความคิดเห็นเพื่อกำหนดนโยบายการบริหารงานของกองทุนประกันสังคม และวางระเบียบการรับจ่ายเงินและจัดหาผลประโยชน์ของกองทุนฯ ดังนั้น วิธีการได้มาซึ่งคณะกรรมการประกันสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง เพื่อรักษาผลประโยชน์อันสูงสุดของลูกจ้างผู้ประกันตน และความมั่นคงของระบบประกันสังคมไทย เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคมได้กำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้แทนฝ่ายนายจ้างและผู้แทนฝ่ายผู้ประกันตนเป็นคณะกรรมการประกันสังคมว่า</p>
<p>"จะต้องมีสัญชาติไทย มีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปีบริบูรณ์ นับถึงวันปิดสมัครรับเลือกตั้ง ส่งเงินสมทบติดต่อกันไม่น้อยกว่า 36 เดือน นับถึงวันสมัครรับเลือกตั้ง ไม่เป็นคนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เป็นบุคคลล้มละลายหรือเคยเป็นบุคคลล้มละลายทุจริต ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ ไม่เคยต้องคำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ำรวยผิดปกติหรือทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออกหรือเลิกจ้างจากหน่วยงานของรัฐหรือสถานประกอบกิจการของเอกชนเพราะทุจริตต่อหน้าที่ ไม่เป็นคู่สัญญาหรือมีประโยชน์ได้เสียในกิจการที่เป็นคู่สัญญาหรือมีธุรกิจเกี่ยวข้องกับสำนักงานไม่ว่าทางตรงและทางอ้อม ไม่เป็นหรือเคยเป็นข้าราชการการเมืองผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือกรรมการ ที่ปรึกษาของพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ของพรรคการเมืองเว้นแต่จะได้พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ซึ่งสำนักงานประกันสังคมจะเปิดรับสมัครให้ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในวันที่ 25-31 ต.ค. 66 ณ ที่ตั้งสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา และประกาศรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งและหมายเลขผู้สมัครในวันที่ 21 พ.ย. 66" </p>
<p>เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกตั้งคณะกรรมการประกันสังคม (บอร์ด สปส.) ที่จะเกิดขึ้นในระยะอันใกล้นี้ ขอให้นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน เชื่อมั่นในการดำเนินงานของสำนักงานประกันสังคมที่คำนึงถึงความประหยัด คุ้มค่า โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์สูงสุดกลับคืนไปสู่ลูกจ้าง ผู้ประกันตนเป็นสำคัญ</p>
<p>ที่มา: ไทยรัฐออนไลน์, 6/10/2566</p>
<p><strong>รมว.แรงงาน ถก 8 แกนนำสหภาพแรงงาน หารือ ฟื้นฟู เพิ่มรายได้ เพิ่มสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน</strong></p>
<p>วันที่ 4 ต.ค. นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้หารือ กับ 8 แกนนำสหภาพแรงงาน ตัวแทนภาคประชาชน นายสถิรยุทธ แสงสุวรรณ รองประธานบริษัทฝ่ายบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด และคณะ จำนวน 24 คน ประกอบด้วย บริษัท ออโต้อัลลายแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ยี่ห้อฟอร์ดและมาสด้า นิคมอุตสาหกรรมิสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง สหพันธ์แรงงานปิโตรเลียมและเคมีภัณฑ์แห่งประเทศไทย สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมกระจกแก้วและเคมีภัณฑ์แห่งประเทศไทย ภายใต้บริษัทเอจีซี แฟลทกลาส (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทผู้ผลิตกระจกรายแรกของประเทศไทย มีสาขาตั้งอยู่ที่ จ.สมุทรปราการ ชลบุรี และระยอง สหภาพแรงงานอุตสาหกรรมสิ่งทอไทย ภายใต้บริษัทไทยเรยอน จำกัด (มหาชน) บริษัทผู้ผลิตเส้นใยเรยอนแห่งแรกของประเทศไทย จ.อ่างทอง ชมรมผู้บริหารแรงงานสัมพันธ์ภาคตะวันออก และสำนักสนับสนุนสุขภาวะประชากรกลุ่มเฉพาะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)</p>
<p>ซึ่งเป็นกลุ่มสหภาพแรงงานตามโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในโอกาสเข้าพบเพื่อแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงแรงงาน นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายภุชงค์ วรศรี ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่ประจำกระทรวงแรงงาน นายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารระดับสูงกระทรวงแรงงาน ร่วมให้การต้อนรับ</p>
<p>โอกาสเดียวกันนี้ กลุ่มสหภาพแรงงานดังกล่าวยังได้หารือเกี่ยวกับนโยบายต่างๆ ด้านแรงงานเพื่อประสานความร่วมมือและการทํางานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานที่มุ่งเน้นให้แรงงานมีทักษะดี มีงานทํา หลักประกันทางสังคมเด่น เพิ่มสิทธิผู้ประกันตน เน้นขับเคลื่อนเศรษฐกิจ</p>
<p>โดยนายพิพัฒน์ ยังได้รับฟังข้อเสนอแนะด้านแรงงานของสหภาพแรงงานแต่ละแห่ง เพื่อเสริมสร้างการมีส่วนร่วมให้กลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตได้มีความเข้มแข็งได้รับการพัฒนาศักยภาพแรงงานในสถานประกอบการให้มีความรู้และทักษะด้านการจัดการสุขภาพกาย สุขภาพใจ และการเงิน รวมถึงพัฒนาทักษะด้านการประกอบอาชีพ เพื่อมีรายได้เพิ่มและนำไปสู่การบรรเทาหนี้ครัวเรือนให้ลดลง สอดคล้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตกลุ่มแรงงานในระบบภาคการผลิตที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อีกด้วย</p>
<p>ที่มา: มติชนออนไลน์, 4/10/2566</p>
<p><strong>เหตุบุกยิงที่พารากอน แรงงานเมียนมาเสียชีวิต กระทรวงแรงงานจ่ายชดเชย</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีเหตุบุกยิงที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน เมื่อช่วงเย็นวันที่ 3 ตุลาคม 2566 (เมื่อวาน) ว่า ทันทีที่ทราบข่าวว่าผู้เสียชีวิตจากการบุกยิง 2 ราย เป็นชาวเมียนมาและชาวจีน ได้สั่งการให้กรมต่าง ๆ ในกระทรวงแรงงาน ที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจสอบทันที</p>
<p>ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงกับสำนักงานประกันสังคม พบว่าชาวเมียนมาที่เสียชีวิตเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ในส่วนของผู้บาดเจ็บ อีก 5 ราย พบว่าเป็นผู้ประกันตน 4 ราย แบ่งเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นลูกจ้างชาวไทย จำนวน 2 ราย เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่เป็นลูกจ้างแรงงานสัญชาติลาว จำนวน 1 ราย และเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่เป็นลูกจ้างชาวไทย จำนวน 1 ราย</p>
<p>โดยชาวต่างชาติที่ทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และเป็นผู้ประกันตนตามกฎหมายประกันสังคม หากเสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีเสียชีวิตเป็นค่าทำศพ และเงินสงเคราะห์ ส่วนลูกจ้างที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเป็นลูกจ้างบริษัทรักษาความปลอดภัย และเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 33 นับเป็นการบาดเจ็บเนื่องจากการทำงาน จะได้รับเงินทดแทนร้อยละ 70 ของค่าจ้าง</p>
<p>“ขณะที่ลูกจ้างที่เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง โดยผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ สำนักงานประกันสังคมจะดูแลสิทธิในการรักษาพยาบาลจนสิ้นสุดการรักษาทุกราย และขณะนี้ สำนักงานประกันสังคมได้เข้าไปดูแลเรียบร้อยแล้ว” นายพิพัฒน์กล่าว</p>
<p>“ในนามของกระทรวงแรงงาน ซึ่งดูแลชาวต่างชาติที่ทำงานอยู่ในประเทศไทย ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียในครั้งนี้ เรามีความห่วงใยต่อชาวต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานอยู่ในประเทศไทย และขอให้เชื่อมั่นว่าเราจะดูแลและคุ้มครองแรงงานต่างชาติที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมายทุกคน</p>
<p>ให้เท่าเทียมกับแรงงานไทยทุกประการ ให้ความคุ้มครองตามหลักสิทธิมนุษยชน และสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย เพราะแรงงานต่างชาติทุกคนที่เข้ามาทำงานในประเทศไทย คือส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ” นายพิพัฒน์กล่าว</p>
<p>ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ, 4/10/2566</p>
<p><strong>มติ ครม.ขยายระยะเวลาแรงงานข้ามชาติพำนักในไทย ถึง 15 ก.พ. 2568 พร้อมข้อเสนอพิเศษลดค่าธรรมเนียมเหลือ 500 บาทหวัง อำนวยความสะดวกกลุ่มธุรกิจที่จำเป็น</strong></p>
<p>นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ ว่า มติการเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของประเทศจากแรงงานต่างด้าว จากประเทศเมียนมา ลาว กัมพูชา และเวียดนาม ซึ่งมีแรงงานทำงานในไทยกว่าล้านคน และสัญญาเข้ามาในการทำงานในประเทศจบลงแล้วแต่มีการผ่อนผัน ถึงวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา</p>
<p>แต่ปรากฏว่านายจ้างจำนวนไม่น้อย ยังทำเรื่องผ่อนผันไม่ทัน คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเมื่อวันที่ 5 ก.ค.ให้นายจ้างรีบดำเนินการขึ้นทะเบียนลูกจ้างในที่ประเทศได้รับสิทธิพิเศษจำนวนที่ 30 ก.ย.และงานทำเรื่องไม่ดังเสร็จขอให้รีบสรุปโดยด่วน โดยจะให้ระยะเวลาพิเศษให้อยู่ต่อได้ถึงวันที่ 15 ม.ค. 2567 โดยระหว่างนี้ยังจะได้รับสิทธิพิเศษ ทำงานอยู่ในไทยถึง 13 ก.พ. 2568</p>
<p>นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติ ค่าดำเนินการวีซ่าสำหรับแรงงานต่างด้าวทั้ง 4 ประเทศนี้ ให้ลดค่าธรรมเนียมลงเหลือ 500 บาท เพื่ออำนวยให้ธุรกิจที่จำเป็นการใช้แรงงานต่างด้าว</p>
<p>ที่มา: สำนักข่าวไอเอ็นเอ็น, 3/10/2566</p>
<p><strong>รมว.แรงงานลั่นปัญหาแรงงานเถื่อนต้องเร่งแก้ให้จบ ชี้ "ประมง" เป็นแพะรับบาปเรื่องค้ามนุษย์</strong></p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ปัญหาแรงงาน ที่เข้ามาทำงานแบบไม่ถูกต้อง หรือแรงงานเถื่อน ซึ่งมีถึง 1 ล้านคนนั้นเป็นเรื่องแรกๆ ของกระทรวงแรงงานที่ต้องทำให้ถูกต้อง เพราะนอกจากเป็นปัญหาของประเทศแล้ว ยังเป็นตราบาปของประเทศไทย ที่ต้องเร่งแก้ให้ถูกต้องโดยเร็ว เพราะประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้ามนุษย์ เราต้องกล้าพูดถึงข้อเท็จจริง ที่เกิดมานานแล้ว แต่การแก้ปัญหาก็ต้องให้ระยะเวลา ไม่ใช่ว่าทำได้วันนี้ พรุ่งนี้ ต้องมีเงื่อนของเวลา</p>
<p>"หลังจากนี้ จะมีการหารือกับเจ้าของกิจการ โดยเฉพาะสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรม ที่เป็นกลุ่มฝ่ายนายจ้างเพื่อขอความร่วมมือ เช่น ถ้าคุณมีแรงงานที่ไม่ถูกต้อง ก็ทำให้ถูกต้องเสีย ในลักษณะของการทำเอ็มโอยูก็ได้ เพื่อที่เราจะได้มีการผ่อนผัน ให้เป็นไปตามเงื่อนเวลา"</p>
<p>นายพิพัฒน์ กล่าวว่า เมื่อเราปลดล็อกจนไม่มีแรงงานเถื่อนในประเทศไทย เราก็จะหลุดจากเทียร์ 2 เป็นเทียร์ 1 ซึ่งในสมัยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ได้ทำให้ลดจากเทียร์ 3 มาเป็นเทียร์ 2 มาแล้ว และรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ต้องปลดล็อกเรื่องของแรงงานให้เป็นเทียร์ 1 ให้ได้ ตนจะพยายามให้ถึงที่สุด ที่จะทำให้ ปัญหาแรงงานเถื่อน ที่เป็นเงื่อนไขของต่างประเทศทำให้เป็นเทียร์ 1 ให้ได้ ถ้ารัฐบาลอยู่ครบเทอม</p>
<p>นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ในเรื่องของการค้ามนุษย์ กระทรวงแรงงาน ได้มีการร่วมมือกับกรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์อยู่แล้ว โดยข้อเท็จจริง เรื่องการค้ามนุษย์ไม่ได้มีปัญหาแค่เรือประมงเท่านั้น ในกิจการอื่นๆ ก็มีทุกจังหวัด แต่เรือประมงเป็นแพะรับบาป วันนี้เรามีการทำงานร่วมกันทั้ง 3 คือกระทรวงแรงงาน กรมประมง เรือประมง เราจะทำให้แรงงานในเรือประมงถูกต้องตามกฎหมาย เป็นเรื่องทำได้ไม่ยาก สำหรับแรงงานในเรือประมง เพราะเขาต้องทำงานอยู่ในเรือ</p>
<p>ในเรื่องของการนำแรงงานต่างชาติเข้ามา เราจะดำเนินการแบบวันสต็อปเซอร์วิส เพื่อให้จบในที่เดียวกัน ระหว่างกระทรวงแรงงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ทั้ง 4 หน่วยงาน ต้องมีการร่วมมือกัน หมายความว่า ศูนย์ซีไอ เมื่อแรงงานเข้ามาแล้วจะต้องจบในที่เดียวกัน โดยจะมีการประสานงานกับแรงงานงานต้นทาง ที่มาจากประเทศต่างๆ เช่น เมียนมา กัมพูชา ลาว เพื่อที่นายจ้างจะไม่ต้องเสียเวลา พาแรงงานไปติดต่อที่นั่น ที่นี้ ที่โน่น ที่เป็นการเสียเวลาและไม่สะดวกในการติดต่อประสานงาน</p>
<p>กระทรวงแรงงานเป็นกระทรวงสำคัญ ในด้านของการพัฒนาประเทศ การพัฒนาคน เพื่อให้เป็น แรงงานฝีมือ ที่เป็นที่ยอมรับของผู้เป็น นายจ้าง เป็นเรื่องที่เกี่ยวโยงกับ เศรษฐกิจของประเทศ และ คุณภาพชีวิตของผู้ใช้แรงงาน เราไม่ได้มุ่งหวังในการ พัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อทำงานในประเทศของเราเพียงอย่างเดียว แต่เรามีแผนในการส่งออกแรงงานไทยไปทำงานยังต่างประเทศ 100,000 ตำแหน่ง เพื่อนำเงินตราเข้าประเทศของเราด้วย</p>
<p>ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, 2/10/2566</p>
<p><strong>เบรกนำเข้าแรงงานท่องเที่ยว “พิพัฒน์” จ่อขึ้นค่าแรงปีใหม่</strong></p>
<p>นางมาริสา สุโกศล หนุนภักดี นายกสมาคมโรงแรมไทย (THA) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ก่อนหน้านี้ว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้แรงงานภาคการท่องเที่ยวออกจากอุตสาหกรรมจำนวนมาก เมื่อการท่องเที่ยวฟื้นตัวแรงงานบางส่วนไม่กลับเข้ามา ส่งผลให้ภาคการท่องเที่ยว โรงแรมและบริการขาดแคลนแรงงานอย่างหนัก และคาดว่าจะรุนแรงต่อเนื่องในฤดูกาลท่องเที่ยวที่กำลังจะมาถึงนี้</p>
<p>ซึ่งในส่วนของธุรกิจโรงแรมอาจต้องปรับตัวโดยการจ้างแรงงานรายวัน จ้างพนักงานพาร์ตไทม์ รวมถึงแรงงานต่างด้าว พร้อมเสนอให้รัฐบาลเปิดรับแรงงานต่างชาติมากขึ้น โดยอาจขยายกรอบความร่วมมือจากการรับแรงงานเพียงแค่ประเทศเพื่อนบ้านเป็นเปิดรับแรงงานจากประเทศฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย รวมถึงสร้างความมั่นใจให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษาไทย ให้มีความมั่นใจในเส้นทางของวิชาชีพธุรกิจโรงแรม</p>
<p>นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตนไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้เปิดรับแรงงานต่างชาติจากฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย เนื่องจากมองว่าปัจจุบันยังมีแรงงานในประเทศอีกจำนวนมากที่ไม่มีงานทำ ซึ่งเป็นกลุ่มที่ไม่มีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการท่องเที่ยวและบริการ จึงอยากให้พัฒนาศักยภาพและองค์ความรู้แรงงานกลุ่มนี้ให้เหมาะสมกับตำแหน่งงานเข้าสู่ตลาดแรงงานก่อน</p>
<p>ซึ่งกระทรวงแรงงานจะมีการร่วมมือระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) และกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อวางแผนพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษา เข้าสู่ตลาดแรงงาน และขณะนี้ได้หารือกันเรียบร้อยแล้ว และเตรียมลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ร่วมกันเร็ว ๆ นี้</p>
<p>“ผมเสนอแนวคิดว่าจะร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการส่งเสริมการค้นหาตัวตนของนักเรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกสายการเรียนหลังจากจบการศึกษาชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้ว่า สนใจเรียนต่อในสายการเรียนอาชีวะ หรือสามัญต่อไป แม้บางส่วนอาจเลือกเรียนสามัญและก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย ภาคบริการยังสามารถดึงดูดแรงงานในกลุ่มนี้ได้อยู่ เนื่องจากนักศึกษากลุ่มนี้มีความรู้ด้านภาษาอังกฤษ ดังนั้นจึงสามารถชักชวนให้นิสิตนักศึกษาเข้ารับการอบรมตามมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง และในส่วนของกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมให้ความร่วมมือการจัดอบรมอีกด้วย</p>
<p>“ก่อนหน้านี้ผมอยู่กระทรวงการท่องเที่ยวฯ พบว่าก่อนการระบาดของโควิด-19 ในปี 2562 ประเทศไทยมีแรงงานภาคท่องเที่ยวประมาณ 4 ล้านคน แต่ปัจจุบันพบว่ายังขาดแคลนแรงงานอยู่ประมาณ 25% หรือราว 1 ล้านคน ซึ่งตอนที่อยู่กระทรวงท่องเที่ยวฯก็เห็นด้วยกับการนำเข้าแรงงาน แต่ตอนนี้ผมมาดูกระทรวงแรงงาน และไม่เห็นด้วย กระทรวงแรงงานพร้อมทำหน้าที่ในการสนับสนุนเพื่อฝึกฝน เพิ่มพูน ทบทวนทักษะของแรงงาน โดยให้หน่วยงานที่มีความประสงค์แจ้งความต้องการมายังกระทรวงได้”</p>
<p>นายพิพัฒน์กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันหลายประเทศต้องการพลิกฟื้นเศรษฐกิจผ่านการกระตุ้นการท่องเที่ยว แต่ทุกประเทศต่างก็มีปัญหาคล้ายกันคือ ขาดแคลนแรงงานในภาคการท่องเที่ยว ดังนั้นเป้าหมายสำคัญของกระทรวงแรงงานจึงต้องโฟกัสผลิตแรงงานป้อนในประเทศไทยให้ได้ก่อน ซึ่งที่ผ่านมามีประเทศในแถบตะวันออกกลางประสานงานเพื่อให้ช่วยอบรมวิชาชีพให้กับแรงงานเขาเช่นกัน แต่จำเป็นต้องตอบปฏิเสธไปก่อน</p>
<p>สำหรับประเด็นการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำยืนยันว่าจะมีการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแน่นอน เบื้องต้นต้องมีการหารือร่วมคณะกรรมการค่าจ้างที่ประกอบไปด้วยภาครัฐ นายจ้าง และลูกจ้างก่อน อย่างไรก็ตาม อัตราค่าแรงที่ปรับขึ้นนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละจังหวัด ค่าแรงขั้นต่ำของแต่ละภาคอุตสาหกรรม รวมถึงปัจจัยภาวะเงินเฟ้อของประเทศและค่าครองชีพที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย</p>
<p>และท้ายที่สุดคือ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับทั้งฝั่งนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งจำเป็นต้องมีการหารือกับทุกฝ่ายเพื่อหาจุดร่วม และพิจารณาว่าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SMEs ที่มีการจ้างงานแรงงานเป็นจำนวนมาก จะได้รับผลกระทบมากแค่ไหน และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเดือนพฤศจิกายน 2566 จากนั้นประกาศเดือนธันวาคม และปรับขึ้นค่าแรงเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ในเดือนมกราคม 2567</p>
<p>“ส่วนอัตราค่าแรงขั้นต่ำนั้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะเป็นอัตรา 400 บาทต่อวันหรือไม่ เนื่องจากหากประกาศขั้นต่ำแล้วหมายความว่าทุกคนต้องได้ค่าแรงเท่าเทียมกันทั้งชาวไทยและชาวต่างด้าว ดังนั้นกระทรวงแรงงานจะหาแนวทางเพิ่มพูนทักษะ (Upskill) ให้แก่แรงงานคนไทย เพื่อให้ได้ค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาทให้เร็วที่สุด</p>
<p>อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าประเทศไทยยังต้องการแรงงานต่างชาติ เนื่องจากบางตำแหน่งงานคนไทยไม่ทำ แรงงานต่างชาติจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เช่นกัน เพราะมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจ และเชื่อว่าในอนาคตจะมีแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย” นายพิพัฒน์กล่าว</p>
<p>ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ, 1/10/2566</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ขhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106258
 
4696  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กระทรวงแรงงาน อัพเดทแรงงานไทยบาดเจ็บ 1 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุกเข้าอิสรา เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 01:07:33
กระทรวงแรงงาน อัพเดทแรงงานไทยบาดเจ็บ 1 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 22:32</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>แก้ไขโปรย และพาดหัว พร้อมอัพเดทรายงานข่าวเมื่อ 8 ต.ค. 2566 เวลา 00.24 น. </p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และมีรายงานว่าอาจถูกจับตัวไป 2 ราย พร้อมขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวดกว่า 5,000 ลูก และบุกอิสราเอล นายกรัฐมนตรี ขอประณามการโจมตี เตรียมพร้อมอพยพคนไทย</p>
<p> </p>
<p>สืบเนื่องจาก กรุณา บัวคำศรี นักข่าวอาวุโส รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระบุว่า ที่ประเทศอิสราเอลเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย  </p>
<p>7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล โดยมีรายละเอียดดังนี้</p>
<p>ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้</p>
<p>รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว</p>
<p>ด้านเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ </p>
<p>นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ</p>
<p>พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot, Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน</p>
<p>"ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป" พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด</p>
<p>อย่างไรก็ตาม กาญจนา ภัทรโชค อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุกรณีที่มีสื่อมวลชนต่างประเทศบางสำนักนำเสนอข่าวแรงงานไทยถูกลักพาตัวระหว่างการโจมตีในอิสราเอลนั้นอาจมีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน จากการตรวจสอบกับทางการอิสราเอล ทางการอิสราเอลยังไม่สามารถยืนยันข้อมูลได้ และรับจะเร่งตรวจสอบให้ต่อไป  </p>
<p>ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทอ.เตรียมอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล</span></h2>
<p>เมื่อเวลา 22.27 น. เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีรายงานข่าวแรงงานไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังพยายามประสานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด มิได้นิ่งนอนใจ ทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลคนต่างชาติเทียบเท่าคนอิสราเอล ตอนนี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม ทางการอิสราเอลห้ามการเคลื่อนไหวของพลเรือนนอกเคหสถาน</p>
<p>นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่  และได้สั่งการให้ ทอ. เตรียมพร้อมอพยพคนไทย</p>
<p>พรุ่งนี้ (8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรมการกงสุล</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'เศรษฐา' ระบุขอให้อิสราเอลเช็กข้อมูลที่คนไทยถูกจับ ขอประณามการโจมตีอิสราเอล</span></h2>
<p><span style="color:null;">เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนบัญชี X "@Thavisin" ระบุว่า ขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</span></p>
<p style="text-align: center;"> </p>
<blockquote class="twitter-tweet"><p dir="ltr" lang="th" xml:lang="th">ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</p>
<p>ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง… https://t.co/ILnb0lH6HJ</p>
<p>— Srettha Thavisin (@Thavisin) October 7, 2023</p>
<script async="" src="https://platform.twitter.com/widgets.js" charset="utf-8"></script><p> </p>
<p><span style="color:null;">เศรษฐา ระบุต่อว่า ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ</span></p>
<p><span style="color:null;">"ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย" โพสต์เศรษฐา ระบุ</span></p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2564 <a href="http://‘กระทรวงแรงงาน’ อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง ‘ฮามาส’ ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล  กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และถูกจับตัวไป 2 ราย ขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ด้าน กต.ประณามเหตุความรุนแรง และขอให้อิสราเอลกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว    สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาสายๆ ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย    7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล  ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้  รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว  ด้านเว็บไซต์ ‘กระทรวงแรงงาน’ เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ   นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ  พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot , Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน  “ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป” พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด  ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)  ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2564 กลุ่มนักรบฮามาส เคยใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการโจมตีอิสราเอล โดยยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่อิสราเอล ราว 4,000 ลูก และในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีชาวไทยได้เสียชีวิต 2 ราย">กลุ่มนักรบฮhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106264
 
4697  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - เกิดอะไรขึ้นที่อิสราเอล เผยชนวนกลุ่มฮามาสโจมตีรัฐยิวสายฟ้าแลบ จนต้องเปิดสงคร เมื่อ: 08 ตุลาคม 2566 01:07:32
เกิดอะไรขึ้นที่อิสราเอล เผยชนวนกลุ่มฮามาสโจมตีรัฐยิวสายฟ้าแลบ จนต้องเปิดสงคราม
         


เกิดอะไรขึ้นที่อิสราเอล เผยชนวนกลุ่มฮามาสโจมตีรัฐยิวสายฟ้าแลบ จนต้องเปิดสงคราม" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;เกิดอะไรขึ้นที่อิสราเอล เผยสาเหตุที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสโจมตีอิสราเอลแบบสายฟ้าแลบ จนอีกฝ่ายต้องเปิดสงคราม
         

https://www.sanook.com/news/9064914/
         
4698  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวมาแรง] - กระทรวงแรงงาน อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุ เมื่อ: 07 ตุลาคม 2566 23:32:03
กระทรวงแรงงาน อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล
 


<span class="submitted-by">Submitted on Sat, 2023-10-07 22:32</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>อัพเดทรายงานข่าวเมื่อ 7 ต.ค. 2566 เวลา 22.57 น.</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และถูกจับตัวไป 2 ราย ขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด หลัง 'ฮามาส' ถล่มจรวดกว่า 5,000 ลูก และบุกอิสราเอล ด้าน กต.ร่วมประณามเหตุความรุนแรง และขอให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว</p>
<p> </p>
<p>สืบเนื่องจาก กรุณา บัวคำศรี นักข่าวอาวุโส รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. ระบุว่า ที่ประเทศอิสราเอลเมื่อช่วงเวลาเช้าตรู่ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูตไทย ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย  </p>
<p>7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล โดยมีรายละเอียดดังนี้</p>
<p>ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้</p>
<p>รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว</p>
<p>ด้านเว็บไซต์กระทรวงแรงงาน เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ </p>
<p>นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ</p>
<p>พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot, Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน</p>
<p>"ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป" พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด</p>
<p>ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ทอ.เตรียมอพยพคนไทยออกจากอิสราเอล</span></h2>
<p>เมื่อเวลา 22.27 น. เฟซบุ๊กกระทรวงการต่างประเทศ รายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีรายงานข่าวแรงงานไทยในอิสราเอลถูกกองกำลังติดอาวุธจับกุมตัว สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ กำลังพยายามประสานกับทุกหน่วยงานอย่างใกล้ชิด มิได้นิ่งนอนใจ ทางการอิสราเอลรับปากว่าจะดูแลคนต่างชาติเทียบเท่าคนอิสราเอล ตอนนี้ อิสราเอลอยู่ในสภาวะสงคราม ทางการอิสราเอลห้ามการเคลื่อนไหวของพลเรือนนอกเคหสถาน</p>
<p>นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สถานเอกอัครราชทูตฯ ติดตามอย่างเต็มที่  และได้สั่งการให้ ทอ. เตรียมพร้อมอพยพคนไทย</p>
<p>พรุ่งนี้ (8 ต.ค.) จะมีการประชุมศูนย์ประสานงานสถานการณ์ฉุกเฉินที่กรมการกงสุล</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">'เศรษฐา' ระบุขอให้อิสราเอลเช็กข้อมูลที่คนไทยถูกจับ ขอประณามการโจมตีอิสราเอล</span></h2>
<p><span style="color:null;">เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความบนบัญชี X "@Thavisin" ระบุว่า ขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</span></p>
<p style="text-align: center;"> </p>
<blockquote class="twitter-tweet"><p dir="ltr" lang="th" xml:lang="th">ผมขอประณามการโจมตีอิสราเอล การโจมตีที่ไร้มนุษยธรรมที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาลและประชาชนอิสราเอล เหตุการณ์นี้ไม่สมควรเกิดขึ้น และผมขอร่วมกับประชาคมโลกประณามการกระทำดังกล่าว</p>
<p>ผมได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง… https://t.co/ILnb0lH6HJ</p>
<p>— Srettha Thavisin (@Thavisin) October 7, 2023</p>
<script async="" src="https://platform.twitter.com/widgets.js" charset="utf-8"></script><p> </p>
<p><span style="color:null;">เศรษฐา ระบุต่อว่า ได้สั่งการให้กองทัพอากาศเตรียมพร้อมเครื่อง Airbus A340 และ C-130 อพยพคนไทยออกจาก อิสราเอลทันที ทาง พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) รับทราบและพร้อมปฏิบัติการ</span></p>
<p><span style="color:null;">"ผมติดตามสถานการณ์ร่วมกับกระทรวงต่างประเทศอย่างใกล้ชิด และมีความกังวลใจที่เห็นรายงานเข้ามาว่ามีแรงงานไทยถูกจับไป 2 คน หรือมากกว่า ตอนนี้กำลังยืนยันข้อมูลจากทางการอิสราเอลอยู่ ทางกองทัพและหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเตรียมความพร้อม ผมต้องการให้คนไทยทุกคนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย" โพสต์เศรษฐา ระบุ</span></p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2564 <a href="http://‘กระทรวงแรงงาน’ อัพเดท มีชาวไทย บาดเจ็บ 1 ราย ถูกจับ 2 ราย หลัง ‘ฮามาส’ ถล่มจรวด บุกเข้าอิสราเอล  กระทรวงแรงงานอัพเดท มีแรงงานบาดเจ็บ 1 ราย และถูกจับตัวไป 2 ราย ขอให้ชาวไทยปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด ด้าน กต.ประณามเหตุความรุนแรง และขอให้อิสราเอลกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว    สืบเนื่องจากเมื่อช่วงเวลาสายๆ ตามเวลาในประเทศไทย กลุ่มฮามาส (ได้ออกมาแสดงตัวรับผิดชอบ) จากการยิงจรวดราว 5,000 ลูก เข้ามาในอิสราเอล ก่อนส่งนักรบบุกฝ่าพรมแดนความมั่นคงของประเทศอิสราเอล เข้ามายึดหมู่บ้าน และชุมชนหลายแห่งทางตอนใต้ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงงานไทยอาศัย อยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ทางสถานทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล ประกาศเตือนให้คนไทยในอิสราเอลอยู่ในที่ปลอดภัย    7 ต.ค. 2566 เว็บไซต์ กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ประเทศไทย รายงานวันนี้ (7 ต.ค.) เมื่อ 18.44 น. ออกแถลงการณ์ของไทยต่อสถานการณ์การโจมตีอิสราเอล  ในนามของรัฐบาลและประชาชนคนไทย กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อรัฐบาล และประชาชนอิสราเอล สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด ซึ่งก่อให้เกิดการสูญเสียชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และความเสียหายต่อทรัพย์สิน ฝ่ายไทยขอแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้บาดเจ็บ โดยเฉพาะคนไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงและการโจมตีที่ไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมในครั้งนี้  รัฐบาลไทยขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการกระทำใดๆ ที่จะสร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้น และขอร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการประณามการใช้ความรุนแรงและการโจมตีในครั้งนี้ รวมทั้งขอแสดงความหวังให้รัฐบาลอิสราเอลสามารถควบคุมสถานการณ์ให้กลับคืนสู่ปกติโดยเร็ว  ด้านเว็บไซต์ ‘กระทรวงแรงงาน’ เผยแพร่ข่าวเมื่อเวลา 20.57 น. ระบุว่า พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยแรงงานไทยที่ทำงานในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีของกลุ่มฮามาส และสั่งการให้อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอล เร่งตรวจสอบและดูแลแรงงานอย่างใกล้ชิดทันที ซึ่งจากรายงานของ กิตติ์ธนา ศรีสุริยะ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เบื้องต้นพบว่ามีแรงงานไทยถูกยิงที่ขาได้รับบาดเจ็บแล้ว 1 ราย ทราบชื่อคือ นายชาตรี ชาศรี อายุ 38 ปี เดินทางโดยกรมการจัดหางานจัดส่งไปทำงานเกษตรมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จังหวัดนครพนม จากการตรวจสอบของกรมการจัดหางาน พบว่าเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ   นอกจากนี้ ยังพบว่ามีแรงงานไทยอีก 2 ราย ซึ่งเป็นสามีภรรยาถูกจับตัวไว้ ทราบชื่อคือ บุญถม พันธ์ฆ้อง อายุ 39 ปี และ ศศิวรรณ พันธ์ฆ้อง อายุ 36 ปี ทั้งคู่มีภูมิลำเนาอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ส่วนรายละเอียดอื่นๆ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ  พิพัฒน์ กล่าวต่อว่า ในส่วนของการดำเนินการที่ประเทศไทยตนได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดนครพนม และจังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เป็นภูมิลำเนาของแรงงานไทยที่บาดเจ็บ 1 ราย และแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไว้ 2 ราย ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อแจ้งข้อมูลข่าวสารสร้างขวัญกำลังใจ พร้อมชี้แจงการให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่พึงได้รับตามกฎหมายให้แก่ญาติทราบในทันที อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันมีแรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในประเทศอิสราเอลรวมทั้งสิ้นประมาณ 29,900 คน โดยเป็นแรงงานที่อยู่อาศัยบริเวณเมือง Netivot , Sderot, Ashkelo และพื้นที่ใกล้เคียง ประมาณ 5,000 คน  “ขอให้ญาติของแรงงานไทยที่ไปทำงานในประเทศอิสราเอล อย่าเพิ่งตื่นตระหนก ขอให้มั่นใจว่า รัฐบาลไทยทั้งสถานทูต และกระทรวงแรงงานจะให้การคุ้มครอง ดูแล อย่างดีที่สุด และจะเร่งติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอให้แรงงานไทยที่ทำงานอยู่ในอิสราเอลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าวปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และแจ้งข้อมูลมายังฝ่ายแรงงาน ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ เพื่อจะได้วางแผนในการให้ความช่วยเหลือต่อไป” พิพัฒน์ กล่าวท้ายสุด  ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ออกประกาศเตือนคนไทยในอิสราเอล โดยขอให้คนไทยเข้าห้องหลบภัยทันทีที่ได้ยินเสียงไซเรน หากไม่ทัน ให้หมอบราบลงกับพื้น ไม่ถ่ายรูป ไม่วิ่งไปที่โล่ง ปฏิบัติตามมาตรการของทางการอิสราเอลอย่างเคร่งครัด และขอให้ทุกคนโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยในเขตภาคใต้ใกล้เคียงฉนวนกาซา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทลอาวีฟ ไม่ออกจากที่พักอาศัย สำหรับคนไทยที่ได้รับผลกระทบโปรดติดต่อได้ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ หมายเลขโทรศัพท์ (+972) 5 4636 8150 กองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ หมายเลข 0 2575 1047-51 ฝ่ายแรงงานไทย ประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ โทร : +972 544693476 What app ID : 0544693476 Line ID : 0544693476 (ตลอด 24 ชั่วโมง)  ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2564 กลุ่มนักรบฮามาส เคยใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการโจมตีอิสราเอล โดยยิงจรวดเข้ามาในพื้นที่อิสราเอล ราว 4,000 ลูก และในเหตุการณ์ครั้งนั้น มีชาวไทยได้เสียชีวิต 2 ราย">กลุ่มนักรบฮhttps://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์ https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
 

https://prachatai.com/journal/2023/10/106264
 
4699  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [การเมือง] - "บิ๊กโจ๊ก" ปัดข่าวสั่งสลายม็อบหน้าทำเนียบ ยันจะไม่ใช้กำลังแน่นอน ย้ำ รบ.เข้า เมื่อ: 07 ตุลาคม 2566 23:01:55
"บิ๊กโจ๊ก" ปัดข่าวสั่งสลายม็อบหน้าทำเนียบ ยันจะไม่ใช้กำลังแน่นอน ย้ำ รบ.เข้าใจประชาชน
         


&quot;บิ๊กโจ๊ก&quot; ปัดข่าวสั่งสลายม็อบหน้าทำเนียบ ยันจะไม่ใช้กำลังแน่นอน ย้ำ รบ.เข้าใจประชาชน" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;บิ๊กโจ๊ก ปฏิเสธข่าวสั่งสลายม็อบกลุ่ม P-move หน้าทำเนียบ ย้ำชัดรัฐบาลเข้าใจความเดือดร้อนของประชาชน

         

https://www.sanook.com/news/9064806/
         
4700  นั่งเล่นหลังสวน / สุขใจ ร้านน้ำชา / [ข่าวเด่น] - จุกอก พ่อเด็ก 14 ก้มกราบเท้า แม่เหยื่อลูบหัวปลอบ บอกไม่โกรธ แต่ไม่ขอรับเงินในซอง เมื่อ: 07 ตุลาคม 2566 22:36:23
จุกอก พ่อเด็ก 14 ก้มกราบเท้า แม่เหยื่อลูบหัวปลอบ บอกไม่โกรธ แต่ไม่ขอรับเงินในซอง
         


จุกอก พ่อเด็ก 14 ก้มกราบเท้า แม่เหยื่อลูบหัวปลอบ บอกไม่โกรธ แต่ไม่ขอรับเงินในซอง" width="75" height="75
&nbsp;&nbsp;พ่อเด็ก 14 ก้มกราบเท้า แม่สาวเมียนมาลูบหัวปลอบ บอกไม่โกรธ เข้าใจหัวอกพ่อแม่ เสียใจไม่แพ้กัน แต่ไม่ขอรับซอง "เงินในซองนี้ไม่สามารถเทียบค่ากับชีวิตของลูกสาวได้"


         

https://www.sanook.com/news/9064910/
         
หน้า:  1 ... 233 234 [235] 236 237 ... 1117
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.471 วินาที กับ 26 คำสั่ง

Google visited last this page 18 ธันวาคม 2559 00:05:38