[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
19 เมษายน 2567 10:38:45 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  1 ... 8 9 [10]
 91 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 22:51:55 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
แทบไม่มีที่ยืน! คนแน่นศาลพ่อปู่-แม่ย่า ขอเลขงวดสงกรานต์ น้ำตาเทียนสีแดงได้เลข 3 ตัว
         


แทบไม่มีที่ยืน! คนแน่นศาลพ่อปู่-แม่ย่า ขอเลขงวดสงกรานต์ น้ำตาเทียนสีแดงได้เลข 3 ตัว" width="100" height="100  วันมหาสงกรานต์ คนแน่นหน้าศาลพ่อปู่ศรีสุทโธ และแม่ย่าศรีประทุมมา แทบไม่มีที่ยืนส่วนคอหวยพลาดไม่ได้


         

https://www.sanook.com/news/9327538/
         

 92 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 21:11:06 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
อ่านสถาปัตยกรรมอำนาจผ่านการออกแบบรัฐสภา | หมายเหตุประเพทไทย EP.518
 


<span>อ่านสถาปัตยกรรมอำนาจผ่านการออกแบบรัฐสภา | หมายเหตุประเพทไทย EP.518</span>
<span><span>user8</span></span>
<span><time datetime="2024-04-14T19:16:36+07:00" title="Sunday, April 14, 2024 - 19:16">Sun, 2024-04-14 - 19:16</time>
</span>

            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p class="text-align-center"><iframe width="720" height="415" src="https://www.youtube.com/embed/RnxNXxeM5lU?si=u7Ulge2l57diikFx" title="YouTube video player" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" referrerpolicy="strict-origin-when-cross-origin" allowfullscreen></iframe></p><p>หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ ต่อศักดิ์ จินดาสุขศรี พูดคุยกับ ชานันท์ ยอดหงษ์ ตั้งประเด็นรัฐสภาไทยแห่งใหม่ "สัปปายะสภาสถาน" ที่ประชาชนผู้ไปติดต่อรัฐสภาต่างสะท้อนถึงรูปร่างหน้าตาของรัฐสภาที่ใหญ่โตโอ่อ่า แต่กลับเข้าถึงยาก</p><p>พร้อมชวนพิจารณาการออกแบบที่ประชุมรัฐสภาในที่ต่างๆ ทั่วโลก ว่ามีผลกับพฤติกรรม และการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา รวมทั้งรูปแบบการปกครอง และความสัมพันธ์เชิงอำนาจอย่างไร ทั้งหมดนี้ติดตามได้ในรายการหมายเหตุประเพทไทย</p><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>ความรุนแรงทางการเมือง และการเมืองเรื่องความทรงจำ | หมายเหตุประเพทไทย EP.517</li><li>หอยนางรมในวรรณกรรมกับจริยศาสตร์สิ่งแวดล้อม | หมายเหตุประเพทไทย EP.516</li></ul></div><p>&nbsp;</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53647066793_9a368c730d_k.jpg" width="1920" height="1080" loading="lazy"></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" hreflang="th">สังคhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">วัฒนธรรhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2" hreflang="th">หมายเหตุประเพทไทhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2" hreflang="th">มัลติมีเดีhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2" hreflang="th">รัฐสภhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99" hreflang="th">สัปปายะสภาสถาhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/04/108832
 

 93 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 20:08:10 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"กรณ์ ณรงค์เดช" หล่อ รวย ฮอตมาก! จัดทริปอย่างหรู คงคอนเซปต์ #คู่รักหมื่นล้าน
         


&quot;กรณ์ ณรงค์เดช&quot; หล่อ รวย ฮอตมาก! จัดทริปอย่างหรู คงคอนเซปต์ #คู่รักหมื่นล้าน" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;"กรณ์ ณรงค์เดช" หล่อ รวย ฮอตมาก! จัดทริปอย่างหรู พร้อมโชว์สวีท "ศรีริต้า เจนเซ่น" คงคอนเซปต์ #คู่รักหมื่นล้าน
         

https://www.sanook.com/news/9327406/
         

 94 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 19:39:43 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
อ่านสถาปัตยกรรมอำนาจผ่านการออกแบบรัฐสภา | หมายเหตุประเพทไทย EP.518
 


<span>อ่านสถาปัตยกรรมอำนาจผ่านการออกแบบรัฐสภา | หมายเหตุประเพทไทย EP.518</span>
<span><span>user8</span></span>
<span><time datetime="2024-04-14T19:16:36+07:00" title="Sunday, April 14, 2024 - 19:16">Sun, 2024-04-14 - 19:16</time>
</span>

            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>หมายเหตุประเพทไทยสัปดาห์นี้ ต่อศักดิ์ จินดาสุขศรี พูดคุยกับ ชานันท์ ยอดหงษ์ ตั้งประเด็นรัฐสภาไทยแห่งใหม่ "สัปปายะสภาสถาน" ที่ประชาชนผู้ไปติดต่อรัฐสภาต่างสะท้อนถึงรูปร่างหน้าตาของรัฐสภาที่ใหญ่โตโอ่อ่า แต่กลับเข้าถึงยาก พร้อมชวนพิจารณาการออกแบบที่ประชุมรัฐสภาในที่ต่างๆ ทั่วโลก ว่ามีผลกับพฤติกรรม และการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภา รวมทั้งรูปแบบการปกครอง และความสัมพันธ์เชิงอำนาจอย่างไร ทั้งหมดนี้ติดตามได้ในรายการหมายเหตุประเพทไทย</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53647066793_9a368c730d_k.jpg" width="1920" height="1080" loading="lazy"></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" hreflang="th">สังคhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1" hreflang="th">วัฒนธรรhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%97%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2" hreflang="th">หมายเหตุประเพทไทhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2" hreflang="th">มัลติมีเดีhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2" hreflang="th">รัฐสภhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99" hreflang="th">สัปปายะสภาสถาhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/04/108832
 

 95 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 18:06:47 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
นักวิชาการชี้กู้เงิน ธกส. 1.7 แสนล้าน แจกดิจิทัลวอล คลังต้องชดเชยอย่างน้อยปีละ 4-5 หมื่นล้าน
 


<span>นักวิชาการชี้กู้เงิน ธกส. 1.7 แสนล้าน แจกดิจิทัลวอล คลังต้องชดเชยอย่างน้อยปีละ 4-5 หมื่นล้าน</span>
<span><span>auser15</span></span>
<span><time datetime="2024-04-14T16:53:30+07:00" title="Sunday, April 14, 2024 - 16:53">Sun, 2024-04-14 - 16:53</time>
</span>

            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>นักวิชาการคาดวิกฤตเศรษฐกิจจีนกระทบไทยและอาเซียน เงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังสูงชะลอลดดอกเบี้ย หากเศรษฐกิจไทยโตต่ำกว่าศักยภาพมาก คาดรัฐบาลอาจต้องขยับเพดาน ภาระผูกพันตาม ม. 28 เป็น 35% ของงบประมาณในอนาคตหากต้องใช้มาตรากึ่งการคลังดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม กู้เงิน 1.7 แสนล้านธนาคาร ธกส. หนุนแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเกษตรกร มีสภาพคล่องเพียงพอ แต่คลังต้องมีแผนชดเชยให้ชัดเจนอย่างน้อยปีละ 4-5 หมื่นล้าน เสนอแนวทางและเงื่อนไข 5 ประการบริหารความเสี่ยงและทำให้บรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้งมิติการเติบโต มิติความเป็นธรรม และการควบคุมความเสี่ยงฐานะทางการคลัง</p><p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/53329324535_286bf19b9a_k_d.jpg" width="2047" height="1071" loading="lazy">
&nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;
14 เม.ย. 2567 รศ.ดร.อนุสรณ์ ธรรมใจ อดีตกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ กระทรวงการคลัง และอดีตกรรมการและประธานกรรมการบริหารความเสี่ยง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) &nbsp;เปิดเผยว่าสถานการณ์วิกฤตการณ์ภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการเงินของจีนได้ลุกลามสู่ธุรกิจอุตสาหกรรมอื่นๆ แม้นทางการจีนจะใช้ทั้งมาตรการผ่อนคลายทางการเงินและผ่อนคลายทางการคลังก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้เพียงช่วยบรรเทาปัญหาวิกฤตไม่ให้ลุกลามไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำรุนแรงและภาวะเรื้อรังของภาวะเงินฝืด ภาวะวิกฤตในภาคอสังหาริมทรัพย์และภาคการเงินของจีนนั้นเป็นผลจากการลงทุนเกินขนาด มีภาวะอุปทานส่วนเกินอยู่จำนวนมาก มีการเก็งกำไรปั่นฟองสบู่ราคาอสังหาริมทรัพย์ให้สูงเกินจริง ขณะที่อุปสงค์หดตัวอย่างรุนแรงช่วงการแพร่ระบาดของโควิดและการล็อคดาวน์อย่างเข้มงวด รัฐบาลจีนได้ควบคุมบรรดาผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ก่อหนี้เกินตัวและพฤติกรรมเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 เป็นต้นมา แต่การดำเนินล่าช้าเกินไปสถานการณ์ฟองสบู่เก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์และปัญหาหนี้เสียที่ซ่อนอยู่ในสถาบันการเงินและธนาคารเงาได้ลุกลามเกินเยียวยาด้วยมาตรการตามปกติแล้ว</p><p>ในที่สุด บริษัทผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ต่างผิดนัดชำระหนี้ และเข้าสู่กระบวนการล้มละลายตั้งแต่ “เอเวอร์แกรนด์” ไปจนถึง “คันทรี การ์เดน” และล่าสุด ไชน่า อาวหยวน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกว่างโจว มีรายการหนี้สินในต่างประเทศทั้งหมดราว 6,000 ล้านดอลลาร์ (กว่า 2 แสนล้านบาท) ผิดนัดชำระหนี้และเข้าสู่กระบวนการล้มละลายโดยยื่นขอพิทักษ์ศาลล้มละลายในสหรัฐอเมริกา ยอดขายอสังหาริมทรัพย์ยังคงดิ่งลงต่อเนื่อง ปัญหาการล้มละลายของภาคอสังหาริมทรัพย์ได้กดดันให้ภาคการเงินและตลาดการเงินของจีนอ่อนแอลง และ ผลกระทบต่อเนื่องมายังอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง อุตสาหกรรมเหล็ก อุตสาหกรรมซีเมนต์ คาดว่าการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ของจีนนั้นปรับตัวลดลงมากกว่า 20% ในปีนี้จากบรรษัทข้ามชาติจำนวนมากพิจารณากระจายความเสี่ยงด้านห่วงโซ่อุปทานและการดำเนินการเพื่อลดการพึ่งพาฐานการผลิตในจีนจากผลกระทบของสงครามการค้าและมาตรการกีดกันทางการค้า จีนต้องเลือกใช้มาตรการปฏิรูปและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่สามารถพึ่งพานโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจแบบที่เคยใช้ได้ผลในอดีตได้อีกต่อไป</p><p>ผลของการปฏิรูปและปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ การทุ่มตลาดของสินค้าจีน การขยายห่วงโซ่อุปทานของจีนในอาเซียน ล้วนส่งผลต่อเศรษฐกิจไทยและภูมิภาคทั้งทางบวกและทางลบอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ประกอบกับ ยังไม่มีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบายในประเทศไทยในขณะนี้ แต่คาดว่าทั้งปี น่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายโดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของแบงก์ชาติอย่างน้อย 1-2 ครั้ง ดัชนีราคาผู้บริโภคเดือนมีนาคมของสหรัฐอเมริกายังคงปรับตัวสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 3.5% ทำให้โอกาสของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯในเดือนมิถุนายนมีความเป็นไปได้น้อยลง ส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยดอลลาร์สหรัฐฯและอัตราดอกเบี้ยบาทจึงไม่ได้เป็นปัจจัยที่กำหนดการเคลื่อนย้ายเงินทุนแต่อย่างใดโดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ ปัจจัยผลตอบแทนจากการลงทุนที่ปรับความเสี่ยงแล้ว ปัจจัยคุณภาพของทุนมนุษย์ ปัจจัยความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ ปัจจัยเชิงสถาบัน และเสถียรภาพของระบบการเมืองมีความสำคัญกว่าส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจไทย เศรษฐกิจอาเซียน เศรษฐกิจจีนเป็นห่วงโซ่อุปทานเดียวกันและพึ่งพาอาศัยกันในสัดส่วนสูง เมื่อเศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างมาก ย่อมส่งผลกระทบต่อไทยและภูมิภาค ปัจจัยนี้จะสร้างแรงกดดันต่อการฟื้นตัวและอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยในที่สุด</p><p>คาดรัฐบาลอาจต้องขยับเพดาน ภาระผูกพันตามมาตรา 28 เป็น 35% ของงบประมาณในอนาคตหากต้องใช้มาตรากึ่งการคลังดูแลเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพราะการใช้สภาพคล่องและกู้เงินจาก ธกส. เพื่อใช้ในโครงการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาทจะทำให้ ภาระผูกพันตามมาตรา 28 แตะเพดาน 32% ของงบประมาณอันเป็นเพดานที่ขยับลงมาจากระดับ 35% ก่อนหน้านี้ &nbsp;สัดส่วนที่คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐกำหนดไว้ที่ไม่เกินร้อยละ 35 ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2565 ได้ถูกขยับลงมาหลังจากรัฐบาลชุดที่แล้วได้จัดสรรเงินงบประมาณ ชำระคืนภาระยอดคงค้างตามมาตรา 28 จำนวน 104,472 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 3.28% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยภายในการสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 จะต้องมียอดหนี้คงค้างตามมาตรา 28 ไม่เกิน 32% ตามที่คณะกรรมการกำหนด หากย้อนกลับไปปลายปี พ.ศ. 2565 รัฐบาลประยุทธ์ได้มีการขยายเพดานหนี้ในมาตรา 28 ตาม พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของภาครัฐ ในส่วนการก่อหนี้ภาครัฐต่อสัดส่วนงบประมาณจากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 30% เป็น 35% เป็นเวลาชั่วคราว 1 ปี ก่อนที่จะปรับลงมาเป็น 32% แต่ ตนคาดว่า หากเศรษฐกิจไทยไม่สามารถขยายตัวได้เต็มศักยภาพในระดับ 5-6% รัฐบาลเศรษฐาอาจจำเป็นต้องขยับเพดานไปที่ระดับ 35% อีกครั้งหนึ่งเพื่อใช้ก่อภาระผูกพันนำเงินนอกงบประมาณหรือมาตรการกึ่งการคลังไปดูแลเศรษฐกิจในอนาคต &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp;</p><p>รศ.ดร.อนุสรณ์ กล่าวว่า ธกส. เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่ต้องปฏิบัติตามพันธกิจที่กำหนดไว้ตามกฎหมายและตอบสนองต่อนโยบายของรัฐบาลที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ในแต่ละช่วงเวลา ธกส. เป็นองค์กรสนับสนุนมาตรการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายประกันรายได้ จำนำสินค้าเกษตร สนับสนุนกองทุนต่างๆเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามนโยบายของรัฐบาลหลายชุดมาอย่างต่อเนื่อง การใช้สภาพคล่องที่เหลืออยู่ของ ธกส. ในการสนับสนุบโครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเลต หรือ กู้เงิน 1.7 แสนล้านจาก ธกส. เพื่อดำเนินการในมาตรการดังกล่าว สามารถทำได้บนเงื่อนไขดังต่อไปนี้</p><p>ประการแรก ต้องมีความมั่นใจว่า ธกส. มีสภาพคล่องเพียงพอในการสนับสนุนโครงการดังกล่าวโดยไม่กระทบต่อสภาพคล่องของ ธกส. ในการดำเนินงานตามพันธกิจสำคัญ</p><p>ประการที่สอง ต้องทำให้เกิดความมั่นใจต่อการดำเนินงานของ ธกส. และไม่มีการถอนเงินฝากหรือสภาพคล่องออกจาก ธกส. มากกว่าปกติ</p><p>ประการที่สาม มีการบันทึกบัญชีแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ระหว่าง บัญชีดำเนินการตามปรกติ และ บัญชีดำเนินการเพื่อสนับสนุนนโยบายของรัฐโดยเฉพาะนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาท</p><p>ประการที่สี่ มีการทำแผนการชำระเงินคืนและชดเชยรายได้จากการดำเนินการแจกเงินดิจิทัลให้เกษตรกร โดยกำหนดให้กระทรวงการคลังต้องจัดสรรงบประมาณจ่ายชดเชยและชำระคืนให้ ธกส. อย่าง ชัดเจนอย่างน้อยปีละ 4-5 หมื่นล้าน หากสามารถดำเนินการสนับสนุนการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้เป็นไปตามกฎหมายและมีการบริหารจัดการความเสี่ยงได้ดี ก็จะไม่มีปัญหาใดๆต่อฐานะทางการเงินของ ธกส. และสามารถดำเนินการสนับสนุนนโยบายดังกล่าวได้ เป้าหมายของจัดตั้ง ธกส. ก็เพื่อให้มีสถาบันการเงินช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกร หรือสหกรณ์การเกษตร ฉะนั้น เงินที่เกษตรกรได้รับแจกไปจาก ธกส. ควรต้องเป็นเงินที่นำไปประกอบอาชีพเพื่อเพิ่มรายได้ นำไปพัฒนาความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรือพัฒนาความรู้ หรือ นำไปลงเพื่อประกอบอาชีพอื่นเพื่อเพิ่มรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง</p><p>ประการที่ห้า การแจกเงินดิจิทัลวอลเลต ผ่านการใช้สภาพคล่อง ธกส. เป็นการดำเนินการมาตรการกึ่งการคลังและก่อภาระผูกพันผ่านหน่วยงานของรัฐ ซึ่งการดำเนินการในลักษณะดังกล่าวต้องอยู่ในกรอบมาตรา 28 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ อันเป็นมาตราที่กำหนดไว้เพื่อ ควบคุมไม่ให้รัฐบาลใช้จ่ายเงินเกินตัว รัฐบาลสามารถขยับเพดานหนี้และภาระผูกพันตามมาตรา 28 กฎหมายวินัยการเงินการคลังจาก 32% เป็น 35% ของงบประมาณได้ หากมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงินนอกงบประมาณในการดูแลประชาชนหรือแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ แต่พึงตระหนักว่า ภาระผูกพันเหล่านี้จะกลายเป็นหนี้สาธารณะได้หากรัฐบาลไม่สามาถเก็บภาษีหรือหารายได้เพิ่มขึ้นได้ในอนาคต</p><p>รศ.ดร.อนุสรณ์ ได้เสนอความเห็นเพิ่มเติมว่าการให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ ทำกิจกรรม มาตรการ หรือสนับสนุนนโยบายรัฐ แล้วทยอยตั้งงบประมาณมาชดเชยค่าใช้จ่ายและรายได้ให้กับรัฐวิสาหกิจในภายหลังตามมาตรา 28 นี้ถือเป็น "เงินนอกงบประมาณ" เป็น “มาตรการกึ่งการคลัง” (quasi-fiscal Measures) จึงไม่นับวงเงินที่ใช้เข้ามารวมอยู่ในหนี้สาธารณะในครั้งแรก อาจก่อให้เกิดการประเมินหนี้สาธารณะต่ำกว่าความจริงได้ ปลายปี 2567 นี้รัฐบาลจะให้ ธกส. ดูแลกลุ่มประชาชนที่เป็นเกษตรกรจำนวน 17 ล้านคน ผ่านกลไกมาตรา 28 ของปีงบประมาณ 2568 สามารถเดินหน้าดำเนินการได้แต่ แนวทางและเงื่อนไข 5 ประการในบริหารความเสี่ยงภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี (Good Governance) ที่ได้เสนอไปจะทำให้มาตรการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้งมิติการเติบโต มิติความเป็นธรรมและไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงทางการคลังมากขึ้นในอนาคต</p><p>&nbsp;</p></div>
      <div class="node-taxonomy-container">
    <ul class="taxonomy-terms">
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" hreflang="th">ข่าhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือhttp://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%A9%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%88" hreflang="th">เศรษฐกิhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A1" hreflang="th">สังคhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C-%E0%B8%98%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88" hreflang="th">อนุสรณ์ ธรรมใhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%98%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%AB%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%95%E0%B8%A3" hreflang="th">ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตhttp://prachatai.com/category/%E0%B8%98%E0%B8%81%E0%B8%AA" hreflang="th">ธกส.[/url]</li>
          <li class="taxonomy-term"><a href="http://prachatai.com/category/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95" hreflang="th">ดิจิทัลวอลเล็http://prachatai.com/category/%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8%95-10000-%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%97" hreflang="th">ดิจิทัลวอลเล็ต 10000 บาhttps://prachataistore.net</div>
     
 

http://prachatai.com/journal/2024/04/108830
 

 96 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 17:44:16 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
"วิโรจน์" จับตา "ดิจิทัลวอลเล็ต" เม็ดเงินไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัว ห่วงโชห่วยล้มหายจากระบบ
         


&quot;วิโรจน์&quot; จับตา &quot;ดิจิทัลวอลเล็ต&quot; เม็ดเงินไหลเข้ากระเป๋าเจ้าสัว ห่วงโชห่วยล้มหายจากระบบ" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;
         

https://www.sanook.com/news/9326878/
         

 97 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 17:36:25 
เริ่มโดย สุขใจ ข่าวสด - กระทู้ล่าสุด โดย สุขใจ ข่าวสด
เคสช็อก! หนุ่มวัย 23 หลัง “ถอนฟัน” 2 ซี่ ต้องผ่าเปิดกะโหลก ดับสลดตั้งแต่อายุน้อย
         


เคสช็อก! หนุ่มวัย 23 หลัง “ถอนฟัน” 2 ซี่ ต้องผ่าเปิดกะโหลก ดับสลดตั้งแต่อายุน้อย" width="100" height="100&nbsp;&nbsp;หนุ่มอายุ 23 จู่ๆ ลมหมดสติหลังถอนฟัน โคม่าเนื่องจากเลือดออกในกะโหลกศีรษะ เสียชีวิตหลังผ่าตัดสมองฉุกเฉินได้ 14 วัน


         

https://www.sanook.com/news/9327270/
         

 98 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 16:55:01 
เริ่มโดย Maintenence - กระทู้ล่าสุด โดย Maintenence
.



          ภาพมุมสูงป่าแอมะซอน

          ป่าแอมะซอน

วันนี้เราจะมาว่ากันด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับ Amazon (แอมะซอน)  แต่อย่าพึ่งเข้าใจผิดไปว่าจะเป็นร้านกาแฟยี่ห้อดังที่เราคุ้นเคย เพราะแอมะซอนที่กำลังจะนำเสนอนี้ คือชื่อป่าสำคัญแห่งหนึ่งของโลกในทวีปอเมริกาใต้นั่นเอง ส่วนที่ว่าจะมหัศจรรย์ยังไง ติดตามอ่านกันได้เลย

ลักษณะทั่วไปทางภูมิศาสตร์
          แอมะซอน (Amazon) ป่ามหัศจรรย์ของโลกก็เนื่องมาจากลักษณะสำคัญต่างๆ อย่างมากมาย เช่น ความหลากหลายทางชีวภาพ ขนาดพื้นที่และอีกมากมาย นับเป็นป่าที่ถูกยกให้เป็นป่าลึกลับและเป็นปอดของโลก อันเนื่องมาจากเป็นป่าดิบชื้นเขตร้อนที่มีพื้นที่กว้างใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในโลก โดยมีอาณาเขตพื้นที่ประมาณ 5.5 ล้านตารางกิโลเมตร กินพื้นที่ประมาณ 9 ประเทศในทวีปอเมริกาใต้ คือ บราซิล เปรู โคลอมเบีย เวเนซุเอลา เอกวาดอร์ โบลิเวีย กายอานา ซูรินาม และเฟรนช์เกียนา โดย 60% ตั้งอยู่ในประเทศบราซิล และมีแม่น้ำที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลกไหลผ่าน คือ แม่น้ำแอมะซอน  ทิศตะวันตกของป่าคือภูเขาแอนดีส ส่วนทิศตะวันตกคือมหาสมุทรแอตแลนติก มีปริมาณน้ำตลอดปี เนื่องจากมีลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งขนาดใหญ่รวมถึงแม่น้ำใต้ดินที่ชื่อว่า แม่น้ำริโอแฮมซ่า ที่มีพืชและสัตว์หลากหลายสายพันธุ์

          ป่าแห่งนี้เป็นป่าที่ถือว่ามีระบบนิเวศที่สมบูรณ์สุดในตอนนี้ แหล่งรวมพืชพันธุ์นานาชนิด ทั้งชนิดที่หายากและชนิดที่ยังรอการสำรวจและค้นพบอีกมากมาย  จากข้อมูลการสำรวจและประมาณการของนักสำรวจ กล่าวว่า พบต้นไม้ประมาณ 390 พันล้านต้นและมีพันธุ์ไม้ประมาณ 16,000 ชนิด  พื้นที่ป่าส่วนใหญ่ปกคลุมด้วยป่าทึบ ต้นไม้สูงใหญ่จะมีใบขึ้นในส่วนที่สูงที่สุดของลำต้น ทำให้แสงอาทิตย์ไม่สามารถสอดส่องไปยังพื้นดินได้ ซึ่งคิดเป็นเปอร์เซ็นต์เพียง 1% เท่านั้น  ดินในผืนแห่งนี้จะมีลักษณะไม่หน่าแน่น ทำให้ต้นไม้ต้องหยั่งลึกรากลึกลงไปกินรัศมีในวงกว้าง

          พืชพรรณหายากสามารถหาได้จากผืนป่าแห่งนี้ เช่น ต้นไม้ระเบิด ที่เป็นต้นไม้ที่มีการขยายพันธุ์ที่โดยการระเบิดตัวเองกลายเป็นเม็ดพันธุ์ โดยสามารถขยายพันธุ์ด้วยแรงระเบิดไปได้ไกลถึง 150 ฟุต

          สัตว์ป่าหายากก็สามารถพบได้ที่ป่าแอมะซอนได้เช่นเดียวกัน ตัวอย่างสัตว์ที่พบในป่านี้เท่านั้นก็อย่างเช่น เคเมนหรือไคเมน สีขาว (Caiman) ซึ่งเป็นสัตว์เลื้อยคลานกลุ่มเดียวกับจระเข้

          ในป่าแห่งนี้จึงขึ้นชื่อว่าเป็นป่าที่รวบรวมสัตว์ดุร้าย รวมถึงมีพิษมากที่สุดในโลก เช่น มดหัวกระสุน ชื่อก็บอกถึงความเจ็บปวดราวกับถูกกระสุนปืนยิงได้เลย โดยความเจ็บนี้อาจเทียบได้ 30 เท่าเมื่อเทียบกับการถูกผึ้งต่อย  เสือจากัวร์ ที่มีความดุร้ายรุนแรงจนสามารถทำกะโหลกของสัตว์ที่เป็นเหยื่อแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ ได้ในพริบตา นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมายเช่น กบลูกศรพิษ ที่มีความสวยงามแต่มีพิษร้ายแรง รวมไปถึงสัตว์น่ากลัวที่เรารู้จักกันดีอย่าง อนาคอนด้างูยักษ์ และปลาที่ดุร้ายที่สุดอย่างปลาปิรันยา


แม่น้ำสายสำคัญ
          ป่าแอมะซอนมีแม่น้ำสำคัญหลายสายไหลผ่าน เช่น แม่น้ำแอมะซอน ซึ่งถือเป็นแม่น้ำที่มีความยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก โดยมีความยาวประมาณ 4,100 ไมล์ ซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญที่หล่อเลี้ยงชีวิตผู้คนและสัตว์ป่าในกลุ่มลุ่มแม่น้ำแอมะซอน


กลุ่มชาติพันธุ์
         จากข้อมูลนักสำรวจ ได้รายงานว่า ป่าแอมะซอนเป็นบ้านเกิดของกลุ่มคน 300 กลุ่ม รวมถึงยังมีหลายชนเผ่า ที่คงยังเป็นชนเผ่าที่ปิดตัวเองจากโลกภายนอก ไม่ติดต่อและรับคนต่างถิ่นเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด


https://www.scimath.org

 99 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 16:45:50 
เริ่มโดย Maintenence - กระทู้ล่าสุด โดย Maintenence



พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ ชลบุรี
จุลธรรมนำใจ ๒๕ กัณฑ์ที่ ๔๒๗  วันที่  ๗ สิงหาคม ๒๕๕๔


กายกับจิต แยกให้ออกจากกัน

เรื่องของจิตจึงเป็นเรื่องที่ลึกลับ ถ้าไม่ศึกษาไม่ปฏิบัติก็จะไม่รู้ เพราะหลงยึดติดกับร่างกาย ที่ต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย ว่าเป็นตัวเราของเรา ก็เลยว่าจิตเป็นสิ่งที่วิเศษ ไม่แก่ไม่เจ็บไม่ตาย แต่ถูกความหลงหลอกให้ไปยึดติดกับร่างกาย พอร่างกายเป็นอะไรจิตก็เป็นไปด้วย มีนิทานในสมัยพุทธกาล มีคนเลี้ยงม้าคนหนึ่งขาไม่ดี ขาเป๋ เดินกะเผลกๆ ม้าที่เลี้ยงก็เดินกะเผลกตามคนเลี้ยง ทั้งๆที่ขาม้าไม่ได้เป็นอะไร จิตเราก็เหมือนกัน พอได้ร่างกายมาครอบครอง ก็หลงคิดว่าร่างกายเป็นจิต พอร่างกายเป็นอะไรก็เป็นตามร่างกายไป ร่างกายแก่ก็แก่ตาม ร่างกายเจ็บก็เจ็บตาม เพราะไม่มีปัญญาแยกแยะจิตออกจากร่างกาย ไม่รู้ว่าร่างกายเป็นเพียงธาตุ ๔ เป็นตุ๊กตาตัวหนึ่ง ที่เกิดแก่เจ็บตาย ส่วนจิตเป็นผู้รู้ เป็นผู้ที่มีความรู้สึกนึกคิด ผู้สั่งให้ร่างกายทำอะไรต่างๆ จะลุกขึ้นได้ จิตต้องสั่งก่อน ว่าจะลุกถึงจะลุกได้ จะเดินจิตก็ต้องสั่ง จะมาที่นี่ได้จิตก็ต้องสั่งไว้ก่อน ว่าวันนี้จะมาที่นี่ พอถึงเวลาก็ออกเดินทางมากัน ร่างกายไม่รู้เรื่อง ร่างกายเป็นผู้ทำตามคำสั่งของจิต

พวกเราต้องศึกษาร่างกายกับจิต แยกให้ออกจากกัน อย่าให้เป็นคนเดียวกัน เพราะเป็นคนละคนกัน ใจเป็นเจ้าของร่างกาย ที่เป็นสมบัติชั่วคราว ที่จะต้องหมดสภาพไป ถ้าใจต้องอาศัยร่างกายทำประโยชน์ ก็ต้องรีบทำอย่างเต็มที่ คือปฏิบัติธรรมให้เต็มที่ เจริญสติให้เต็มที่ พอทำงานนี้เสร็จแล้ว ร่างกายจะเป็นอะไรก็จะไม่เป็นปัญหา ถ้าปฏิบัติไม่เสร็จแล้วร่างกายตายไป ก็ต้องรอให้ได้ร่างกายอันใหม่ ถึงจะปฏิบัติต่อได้ ก็จะเสียเวลาไป จึงควรเจริญมรณานุสติอยู่เรื่อยๆ ว่าเกิดมาแล้วต้องตายเป็นธรรมดา จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ จะตายวันนี้ก็ได้ ตายพรุ่งนี้ก็ได้ อีกสิบปีหรือยี่สิบปีข้างหน้าก็ได้ ไม่มีใครรู้ ถ้าจะไม่ประมาท ก็ต้องคิดว่าอาจจะต้องตายในวันนี้ ถ้าคิดอย่างนี้เวลาไม่สบายไปหาหมอ พอหมอบอกว่าเหลืออีก ๓ เดือน ก็จะดีใจ เพราะคิดว่าจะตายวันนี้ แต่หมอให้ตั้ง ๓ เดือน ถ้าไม่คิดอย่างนี้ พอหมอบอกว่าเหลือ ๓ เดือน ก็จะหมดกำลังใจ วันก่อนก็มีผู้หญิงคนหนึ่งมาบอกว่า หมอบอกว่าเป็นมะเร็งขั้นสุดท้าย เหลืออีกไม่กี่เดือน จะให้ทำอย่างไร เราก็บอกให้รีบปฏิบัติธรรมให้มากที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องไปคิดถึงความตายแล้ว เพราะรู้อยู่ตลอดเวลา ถ้าไปคิดก็จะไม่มีกำลังใจปฏิบัติ ต้องลืมเรื่องความตาย ให้พุ่งไปที่การปฏิบัติธรรมให้มากที่สุด เจริญสตินั่งสมาธิเจริญปัญญาให้มากที่สุด

ถ้าไม่เห็นความตายก็จะไม่รีบขวนขวาย จึงต้องอยู่ใกล้เหตุการณ์จริง จะได้กระตือรือร้นปฏิบัติและบรรลุธรรมได้ อย่างพระราชบิดา ก็ทรงบรรลุ ๗ วันก่อนเสด็จสวรรคต เพราะเห็นความจริง เห็นความตาย กิเลสที่อยากจะอยู่ก็จะหายไป เพราะรู้ว่าอยากอย่างไรก็อยู่ไม่ได้ ก็เลยไม่มีกิเลสมาคอยขัดขวาง ไม่ให้ตั้งใจปฏิบัติ ความห่วงใยความกังวล กับเรื่องสมบัติข้าวของเงินทอง กับบุคคลต่างๆ ตอนนั้นไม่สนใจแล้ว สนใจอยู่ที่ว่าจะทำอย่างไรไม่ให้ทุกข์กับความตาย ที่จะตามมาในระยะอันใกล้นี้ ถ้ามีคนสอนวิธีให้ทำจิตให้สงบ ก็จะทำได้อย่างรวดเร็ว พอจิตสงบแล้วร่างกายจะเป็นอะไรก็จะไม่เดือดร้อน ต้องไปดูศพไปงานศพอยู่เรื่อยๆ ไปอยู่ในสถานที่ที่ท้าทายกับความเป็นความตาย ก็จะทำให้ไม่ประมาท จะรีบขวนขวาย จะเห็นว่าสิ่งต่างๆในโลกนี้ไม่มีความหมายเลย ช่วยไม่ได้เลยเวลาใกล้เป็นใกล้ตาย สมบัติเงินทองต่างๆช่วยไม่ได้เลย มีแต่การปฏิบัติธรรมเท่านั้นที่จะช่วยได้ ถ้ามีสติมีสมาธิมีปัญญา ก็เหมือนมีอาวุธไว้ต่อสู้กับศัตรู ที่จะสร้างความทุกข์ต่างๆให้เกิดขึ้นตอนใกล้ตาย จะไม่หวั่นไหวเดือดร้อน จะปล่อยวางร่างกาย ใจก็จะสงบ.

 100 
 เมื่อ: 14 เมษายน 2567 16:41:16 
เริ่มโดย Maintenence - กระทู้ล่าสุด โดย Maintenence



ตัวโกรธ
ถาม : วันหนึ่งลูกนั่งสมาธิเสร็จแล้ว ได้ข่าวว่าคนที่รู้จักเสียชีวิต ก็เลยคิดไปว่า ถ้าเราโกรธเขาอยู่ พอเขาตายไป เรายังโกรธเขาอยู่หรือไม่ ถ้าไม่โกรธ แสดงว่าเราโกรธกายเขาใช่หรือไม่ กายเขาตายไป เราถึงได้หยุดโกรธ แต่ถ้าเราโกรธใจเขา เราน่าจะโกรธข้ามชาติไป ชาติหน้าโกรธอีก โกรธไปเรื่อยๆ ถ้าเราหยุดโกรธก็ไม่น่าจะโกรธใจ ก็เลยวนมาคิดว่า หรือว่าเราโกรธการกระทำ ถ้าเราโกรธการกระทำนั้นแปลว่าอะไร แปลว่าการกระทำนั้นมันน่าโกรธ ถ้าใจเราเป็นตัวโกรธ มันก็ไม่ใช่การกระทำ มันเป็นที่ใจ ก็หยุดคิดไปดื้อๆ ทั้งๆที่กำลังคิดเพลินดี ยังอยากคิดต่อ แต่ก็ไม่คิดต่อ หยุดไปเฉยๆ

พระอาจารย์ : เกือบจะได้คำตอบแล้ว เข้าไปถึงจุดแล้ว คือใจที่ไม่ชอบการกระทำของเขา พอเขาทำเราก็โกรธ ถ้าเราไม่มีความไม่ชอบ เขาจะทำอะไรเราก็จะไม่โกรธ ตรงประเด็นกับวันนี้ที่เทศน์ว่า อย่าไปแก้ที่เขา ต้องแก้ที่ใจเรา แก้ความโกรธที่เกิดจากความอยาก พอไม่ได้ดังใจก็โกรธ อยากให้เขาดี พอเขาไม่ดีก็โกรธ เกือบจะได้คำตอบแล้ว แต่หยุดเสียก่อน.


ไม่มีของทำบุญก็รักษาศีลไป
ถาม : มีญาติโยมคนหนึ่งต้องแอบซื้อของมาทำบุญ เพราะญาติไม่ให้มา

พระอาจารย์ : เพราะมีจิตใจใฝ่บุญใฝ่ธรรม จะแอบทำก็ไม่เป็นไร เพราะไม่ต้องการให้ผู้อื่นคิดไม่ดี แต่อย่าแอบเอาของของคนอื่นมาทำบุญ เพราะจะขาดทุนมากกว่ากำไร ถ้าไม่มีของทำบุญก็รักษาศีลไป จะได้บุญมากกว่า  บุญที่ได้จากการให้ทานเป็นเหมือนแบงก์ ๒๐ แบงก์ ๕๐ บุญที่ได้จากการรักษาศีลเป็นเหมือนแบงก์ ๑๐๐ บุญที่ได้จากการนั่งสมาธิเป็นเหมือนแบงก์ ๕๐๐ บุญที่ได้จากการเจริญปัญญาเป็นเหมือนแบงก์ ๑๐๐๐   ถ้าทำบุญให้ทานไม่ได้ เพราะไม่มีเงินหรือมีคนขัดขวาง ไม่ต้องทำก็ได้ รักษาศีลนั่งสมาธิเจริญปัญญาจะได้บุญมากกว่า.


ปล่อยวางร่างกายชั่วคราว
ถาม : เวลานั่งไปถึงตรงที่จิตแยกออกจากกาย ควรดึงกลับมาหรือควรจะเฉยๆ ปล่อยเขาไป
 
พระอาจารย์ : เวลาจิตสงบจะปล่อยวางร่างกายชั่วคราว ตอนนั้นไม่ต้องทำอะไร

ถาม : ปล่อยให้เขาแยกหรือคะ

พระอาจารย์ : ให้เขาอยู่ตามลำพัง ปล่อยวางร่างกายชั่วคราว ปล่อยตาหูจมูกลิ้นกาย ปล่อยรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ เวลาทำสมาธิจะดึงกระแสของจิต ที่ไปเกาะติดอยู่กับรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ให้เข้ามาข้างในจิต เหมือนเดินเข้าไปในถ้ำ จะปล่อยวางเหตุการณ์ต่างๆที่อยู่นอกถ้ำ พอเข้าไปถึงก้นถ้ำแล้ว จะไม่รับรู้กับเหตุการณ์ต่างๆที่อยู่นอกถ้ำ จะพักอยู่ในนั้น เพราะเป็นที่เย็นสบาย มีความสุขมาก จนกว่ากำลังของสติจะอ่อนลง กระแสของกิเลสก็จะผลักออกมา ออกมารับรู้รูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะต่อไป

ถาม : ไม่ดึงออกมา

พระอาจารย์ : ไม่ต้องดึงออกมา ทำแทบเป็นแทบตายเพื่อให้จิตเข้าไป พอเข้าไปแล้วก็อย่าดึงออกมา ปล่อยให้อยู่ในความสงบจนกว่าจะออกมาเอง ที่ออกมาก็เพราะยังไม่ได้เข้าไปถึงที่ ถ้าถึงที่แล้วจะไม่อยากออกมา เพราะมีความสุขมาก เบาสบายมาก.


บริกรรมพุทโธไปดีกว่า
ถาม : เวลานั่งสมาธิบริกรรมพุทโธ เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่านใช่ไหมคะ บางคนแนะนำให้พิจารณาความคิด ก็เลยสงสัยว่าแบบไหนจะถูก

พระอาจารย์ : ให้พิจารณา ถ้าไม่สามารถบริกรรมได้ ให้ใช้ปัญญาข่มใจแทน เช่นกำลังฟุ้งซ่านกับการเรียน วิตกกังวลว่าปีนี้จะผ่านหรือไม่ จิตไม่ยอมอยู่กับพุทโธ ก็ต้องวิเคราะห์ด้วยปัญญาดูว่า จะผ่านหรือไม่ผ่านก็อยู่ที่เหตุ เหตุก็คือ การเรียนการศึกษา ถ้าขยันศึกษาเต็มที่แล้ว จะผ่านไม่ผ่านก็แล้วแต่ ถ้ายังศึกษาไม่เต็มที่ ก็ควรศึกษาให้เต็มที่
ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาศึกษา ก็อย่าเพิ่งไปคิดถึงมัน บริกรรมพุทโธไปดีกว่า ใจก็จะปล่อยวาง ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเรียน กลับมาบริกรรมพุทโธได้ อย่างนี้เรียกว่า ปัญญาอบรมสมาธิ เป้าหมายของการนั่งสมาธิ ก็เพื่อหยุดความคิดปรุงแต่ง ถ้านั่งเฝ้าดูความคิดจะไม่มีวันหยุด  อย่างที่โยมพูดว่าปล่อยให้คิดให้พอ แล้วจะพอ ไม่มีวันพอหรอก จะทนนั่งไม่ได้ นั่งไปสักพักจะเจ็บ จะอึดอัด อยากจะลุกไปทำอย่างอื่น ถ้าไม่ได้คิดจะนั่งได้นาน ยิ่งสงบเท่าไหร่ยิ่งไม่อยากจะลุกไปไหน เพราะความสงบเป็นความสุขที่เลิศที่สุด เป็นความสุขที่แท้จริง ทดแทนความสุขต่างๆได้ เช่นอยากจะดื่มเป๊ปซี่ พอจิตสงบก็ไม่อยากจะดื่ม ไม่หิวกระหาย ถ้าไม่อยู่กับพุทโธ คิดแต่เป๊ปซี่เป๊ปซี่ ก็จะลุกขึ้นไปดื่มเป๊ปซี่จนได้.


เอาทีละอย่าง
ถาม : เวลาดูร่างกายว่าไม่เที่ยง แล้วต้องดูจิตด้วยหรือเปล่าคะ ว่าจิตเรานี้เดี๋ยวก็เปลี่ยนแปลง

พระอาจารย์ : เอาทีละอย่าง เอาร่างกายก่อน เอาให้หมดเป็นเรื่องๆไป จิตมันละเอียดยิ่งกว่าร่างกาย ถ้ายังเอาร่างกายไม่ได้ ก็จะเอาจิตไม่ได้ มันคนละขั้นกัน ต้องเอาขั้นร่างกายก่อน ละสักกายทิฐิละกามราคะก่อน แล้วค่อยไปละจิต.


ความกลัว
ถาม : บ้านพี่สาวมีคนตาย ก็กลัวเหมือนกัน ตั้งใจจะเข้าไปดู พอเข้าไปจริงๆเริ่มหวั่นนิดๆ

พระอาจารย์ : ตอนที่ไม่ตายไม่รู้สึกอะไร พอตายก็กลัวขึ้นมาทันที เวลาเป็นกับเวลาตายต่างกันตรงไหน ก็ต่างกันตรงที่หายใจกับไม่หายใจเท่านั้นเอง ทำไมต้องไปกลัวคนที่ไม่หายใจแล้ว

ถาม : พอไปเจอของจริง ก็รู้สึกกลัว วันแรกๆรู้สึกไม่ดี พอวันต่อๆไปก็พยายามฝืนตัวเอง เพราะต้องอยู่ตรงนั้น ก็ค่อยๆดีขึ้นมาทีละนิด แต่ก็ยังไม่หายกลัว

พระอาจารย์ : ต้องใช้สมาธิช่วย บริกรรมพุทโธๆไป เวลาเกิดความกลัวก็ให้พุทโธๆไป ถ้าไม่สามารถใช้ปัญญาพิจารณา ว่าเขากับเราก็เหมือนกัน เราก็เป็นผี เขาก็เป็นผี ทำไมไม่กลัวร่างกายของเรา ทำไมไปกลัวร่างกายของเขา ร่างกายของเขาก็มีอาการ ๓๒ เหมือนกัน มีผมขนเล็บฟันฯลฯเหมือนกัน  เหมือนอย่างที่หลวงตาเขียนไว้ในหนังสือปฏิปทาฯ เรื่องกลัวเสือ เสือมันมีอะไรที่เราไม่มี ก็พิจารณาไป มันมีขนเราก็มีขน มันมีเขี้ยวเราก็มีฟัน พิจารณาไปพิจารณามา ก็มีอย่างเดียวที่เราไม่มี ก็คือหาง อ้อเรากลัวหางมันเหรอ ต้องพิจารณาซากศพว่า เขามีอะไรที่เราไม่มีบ้าง เราไปกลัวผมเขาเหรอ แล้วเราไม่กลัวผมเราเหรอ ถ้าพิจารณาด้วยเหตุผลก็จะดับความกลัวได้ เพราะความกลัวเป็นอารมณ์ เป็นความหลง ไม่มีเหตุไม่มีผล ก่อนที่จะพิจารณาด้วยปัญญาได้ ต้องมีสมาธิก่อน ถ้ายังไม่มีสมาธิเวลากลัว ก็ต้องใช้การบริกรรมไปก่อน ให้จิตสงบ ไม่อย่างนั้นจะฟุ้งซ่าน จะเป็นบ้าได้ ถ้ามีสมาธิแล้ว ก็จะคิดด้วยเหตุด้วยผลได้ คิดเปรียบเทียบตามความเป็นจริง ก็จะเห็นว่าไม่มีอะไรน่ากลัว.


การปฏิบัติมีอยู่ ๓ ขั้น
ถาม : ถ้ารู้ว่าจิตเป็นอย่างไร รู้ว่าร่างกายกำลังนั่งอยู่อย่างนี้ ไม่ได้คิดอะไร อย่างนี้จะเกิดวิปัสสนาญาณไหมคะ

พระอาจารย์ : ไม่เกิด เป็นการเจริญสติเท่านั้นเอง การปฏิบัติมีอยู่ ๓ ขั้น คือสติสมาธิปัญญา เจริญสติแล้วก็ต้องนั่งสมาธิทำใจให้สงบ พอออกมาจากความสงบ ก็ต้องเจริญปัญญา พิจารณาไตรลักษณ์ อนิจจังทุกขังอนัตตา ถึงจะเกิดวิปัสสนาญาณ พิจารณาว่าร่างกายเกิดมาแล้วต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย  ร่างกายไม่สวยงามเป็นอสุภะ เป็นปฏิกูลสกปรก อย่างนี้ถึงจะเป็นวิปัสสนา.


ต้องให้เห็นว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด
ถาม : กลางคืนหลังจากสวดมนต์ทำวัตรแล้วก็นั่งภาวนาพุทโธๆ พอตื่นขึ้นมาตอนตีสองตีสาม จะพิจารณาได้ไหมคะ

พระอาจารย์ : ได้ พิจารณาว่าเกิดมาแล้วต้องแก่ ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย ต้องตายเป็นธรรมดา ต้องพลัดพรากจากกันเป็นธรรมดา พิจารณาทั้งตัวเราเองและคนอื่น ไม่ใช่ร่างกายของเราเท่านั้น คนที่เรารักที่เรารู้จักก็เป็นเช่นเดียวกัน คนที่เราไม่รักเราไม่รู้จักก็เป็นเช่นเดียวกัน ต้องให้เห็นว่าทุกคนเป็นเหมือนกันหมด เกิดมาแล้วต้องแก่ต้องเจ็บต้องตาย ควรเจริญสติและพิจารณาทางปัญญาในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่เจริญสติ ก็ควรพิจารณาทางปัญญา เห็นอะไรก็คิดว่าไม่เที่ยง อย่าไปอยากได้ ถ้าอยากได้ก็จะทุกข์ ก็จะตัดกิเลสได้.


แต่ทำไม่ได้
ถาม : ถ้าเอาปัญญามาคิดว่าเป็นดินน้ำลมไฟ

พระอาจารย์ : เป็นอนัตตา เราไปควบคุมบังคับไม่ได้ ถ้ายอมรับก็เป็นปัญญา ก็จะปล่อยวางได้ ก็จะไม่มีทุกข์ใจ เพราะไม่มีตัณหา ความอยากที่จะให้ความเจ็บของร่างกายหายไป

ถาม : จะดับทุกข์อย่างถาวรไหมคะ

พระอาจารย์ : จะดับอย่างถาวร ทุกครั้งที่เจอความเจ็บจะไม่เดือดร้อน จะเฉยๆ

ถาม : ความรู้สึกยินดีหรือไม่ยินดี

พระอาจารย์ : เป็นเหตุที่ทำให้เกิดความอยาก ถ้ายินดีก็อยากจะให้อยู่ไปนานๆ ถ้าไม่ยินดีก็อยากจะให้หายไปเร็วๆ ต้องตัดความยินดีและไม่ยินดี เพราะเป็นเหตุทำให้เกิดความอยากขึ้นมา ถ้าเฉยๆ จะอยู่จะไปก็ได้ ไม่เป็นปัญหา ต้องทำใจให้เป็นอุเบกขาให้ได้ คือไม่ยินดี ไม่ยินร้าย เฉยๆ อะไรก็ได้ เจ็บก็ได้ ไม่เจ็บก็ได้ ใจต้องเฉยๆ แต่ใจถูกกิเลสซุ่มสอนให้รัก ให้ชัง ให้กลัว ให้หลงอยู่ตลอดเวลา ใจมีอคติ ๔ อยู่ตลอดเวลา ต้องใช้ปัญญาดับอคติ ๔ ให้รู้ว่าสิ่งที่ไปรักไปชัง ไปกลัว ไปหลง ไม่ได้ให้คุณให้โทษกับใจเลย ใจไปหลงเอง  ถ้าคิดว่าจะเป็นคุณกับใจก็รัก ถ้าคิดว่าจะเป็นภัยก็ชังก็กลัว ความจริงไม่มีอะไรในโลกนี้สามารถให้คุณให้โทษกับใจเลย เพราะใจไม่ได้อยู่ในโลกนี้ ใจเพียงรับรู้สิ่งต่างๆผ่านทางร่างกาย ร่างกายเป็นเครื่องมือรับข้อมูลต่างๆไปให้ใจ ใจไม่ได้อยู่ในมิตินี้ อยู่ในอีกมิติหนึ่ง ถึงแม้โลกจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ใจจะไม่ถูกทำลายไปด้วย เพราะใจไม่ได้อยู่ในโลกนี้

ใจไม่ได้ไม่เสียกับสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดจะดับ ใจไม่ได้ไม่เสียด้วย แต่ใจไม่รู้ความจริงนี้ เพราะใจไปหลงยึดติดกับร่างกาย ไปคิดว่าใจกับร่างกายเป็นอันเดียวกัน ได้เสียไปกับร่างกาย เวลาร่างกายเจ็บ ใจก็จะเจ็บตามไปด้วย เวลาร่างกายสุข ใจก็จะสุขตามไปด้วย ต้องแยกใจออกจากร่างกายให้ได้ ให้ร่างกายเป็นเหมือนกับเครื่องบินที่ใช้วิทยุบังคับ ผู้ที่บังคับเครื่องบินไม่ได้อยู่ในเครื่องบิน เครื่องบินตกก็ไม่ได้ทำให้ผู้บังคับเครื่องบินเดือดร้อนแต่อย่างใด ร่างกายเป็นเหมือนหุ่นตัวหนึ่ง ที่ใจเป็นผู้บังคับ ด้วยการใช้กระแสจิต บังคับให้ร่างกายทำอะไรต่างๆ ใจไม่ได้ไม่เสียไปกับร่างกาย แต่ใจไปหลงคิดว่าได้เสียตามร่างกาย เวลาขึ้นเงินเดือนก็ดีใจ เวลาได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งก็ดีใจ เวลาถูกตัดเงินเดือนก็เสียใจ


อยู่ที่ความสามารถของสติ
ถาม : เวลาร่างกายตายไป จิตยังไม่เห็นหรือคะว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา

พระอาจารย์ : จิตไม่เห็น เพราะไม่มีสติปัญญา เวลาเจ็บไข้ได้ป่วยจิตจะหลง จิตไม่นิ่ง

ถาม : แล้วหลังจากที่ตายไปแล้ว

พระอาจารย์ : เหมือนคนที่สลบไสล ตายไปแล้วก็เหมือนนอนหลับฝันไป ถ้าฝันดีก็ขึ้นสวรรค์ ถ้าฝันร้ายก็ตกนรก จะมาตื่นก็ตอนที่มาเกิดใหม่ มาได้ร่างกายใหม่

ถาม : ถ้าบริกรรมพุทโธๆไปตลอด จะทันไหมคะ

พระอาจารย์ : ขึ้นอยู่กับความสามารถของสติ ถ้าทำได้ก็จะเป็นฌาน เป็นสมาธิ ก็จะไปเกิดบนพรหมโลก อย่างพระอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ๒ รูป ท่านชำนาญในการเข้าฌาน เวลาร่างกายท่านตายไป ท่านก็เข้าฌานไป ปล่อยวางร่างกายไปเข้าไปอยู่ในสมาธิ พอร่างกายตายไปจิตก็ไปสวรรค์ชั้นพรหม ถ้าฝึกบ่อยๆก็จะทำได้ ถ้าฝึกไม่บ่อย พอเกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ก็จะตกใจ ตื่น ลืมไปหมด ควรจะทำจิตให้สงบ กลับไม่ทำ กลับไปยึดติดกับร่างกาย ไม่ยอมให้ร่างกายตาย ก็เกิดความว้าวุ่นขุ่นมัวขึ้นมา จึงต้องซ้อมไว้ก่อน การปฏิบัติก็เป็นการซ้อมไว้ก่อน ก่อนที่จะเข้าห้องสอบ พวกเราทุกคนต้องเข้าห้องสอบ คือความเจ็บและความตาย ถึงต้องนั่งให้เจ็บ จะได้ทำใจให้ปล่อยวางความเจ็บ อย่าไปอยากให้ความเจ็บหาย หรืออยากจะหนีจากความเจ็บไป ให้อยู่กับความเจ็บให้ได้ รับรู้ความเจ็บให้ได้ ความเจ็บทำลายใจไม่ได้หรอก เราไปกลัวความเจ็บเอง

เหมือนดูหนังผี ผีอยู่ในจอ ออกมานอกจอไม่ได้ ทำร้ายคนดูไม่ได้ แต่คนดูต้องปิดตาไม่กล้าดู เพราะไม่มีปัญญา ไม่รู้ว่าเป็นเพียงหนัง ร่างกายเป็นเหมือนตัวละครในจอหนัง ส่วนใจเป็นคนดู แต่ใจไปติดอยู่กับตัวละคร พอตัวละครเป็นอะไรไปก็เป็นไปด้วย ไม่มีปัญญาแยกใจออกจากร่างกาย ไม่รู้ว่าร่างกายเป็นตัวละคร ใจเป็นคนดูละคร ไม่ดูเฉยๆ ไปแสดงด้วย ไปดีใจ ไปเสียใจ ไม่ดูเฉยๆ สักแต่ว่ารู้ เป็นอุเบกขา ถึงต้องทำสมาธิเพื่อให้เข้าถึงอุเบกขาก่อน พอเข้าถึงสักแต่ว่ารู้ ถึงอุเบกขาได้แล้ว เวลาออกจากสมาธิก็ใช้ปัญญาประคับประคองใจ ไม่ให้ออกจากอุเบกขาได้ เพราะเวลาออกมาเห็นอะไรก็จะชอบจะชัง จะหลุดจากอุเบกขา ก็ต้องใช้ปัญญาให้กลับเข้าไปในอุเบกขา ให้เฉยๆ ชอบก็เฉย ชังก็เฉย ถ้าไม่ใช้ปัญญาก็จะอยาก จะว้าวุ่นขุ่นมัว

ต้องมีสมาธิก่อน เพื่อเราจะได้พบจุดยืนของจิต คือสักแต่ว่ารู้ หรืออุเบกขา ไม่รักไม่ชัง ไม่ยินดียินร้าย รู้เฉยๆ พอออกจากสมาธิแล้ว กิเลสจะลากจิตให้ออกจากจุดนี้ ให้ไปรักไปชัง ไปกลัวไปหลง ต้องใช้ปัญญาสกัด ด้วยการพิจารณาว่าทุกอย่างเป็นไตรลักษณ์ ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ ไม่อยู่ภายใต้คำสั่ง อย่าไปอยากเลย บางทีก็ได้ บางทีก็ไม่ได้ ได้มาแล้วก็ต้องเสียไปอยู่ดี ถ้าอยากแล้วไม่ได้ ก็จะเสียใจ ไม่นิ่ง ไม่สงบ ต้องใช้ปัญญาหลังจากออกจากสมาธิมาแล้ว การเจริญปัญญาก็เจริญได้ ๒ ลักษณะ ถ้ายังไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นจริงก็ซ้อมไปก่อน ถ้าอยู่ในเหตุการณ์จริง เช่นเราทำงาน พบคนพูดดีบ้างไม่ดีบ้าง ก็ต้องรักษาใจไม่ให้ยินดียินร้าย ถ้าทำไม่ได้ก็ต้องไปซ้อมก่อน ไปอยู่วัดสักพัก ไปพิจารณาเตรียมตัวไว้ก่อน ซ้อมไว้ก่อน พิจารณาว่าห้ามเขาไม่ได้ เป็นเหมือนฝนตกแดดออก แต่ห้ามใจเราได้ ห้ามไม่ให้ไปยินดียินร้าย รักษาอุเบกขาไว้ เป็นจุดที่ปลอดภัยที่สุดของใจ.


ไม่เกิน ๗ ชาติ
ถาม : ถ้าบรรลุโสดาบันแล้ว ต้องกลับมาเกิดอีกหรือเปล่า

พระอาจารย์ : ต้องกลับมาเกิดอีก แต่ไม่เกิน ๗ ชาติ ในพระคัมภีร์แสดงไว้อย่างนี้ ถ้าขยับขึ้นไปเป็นพระสกิทาคามี ก็จะกลับมาเกิดอีกชาติเดียว ถ้าเป็นพระอนาคามีก็ไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป เพราะท่านตัดกามตัณหาได้หมดแล้ว ได้เจริญอสุภกัมมัฏฐานจนเบื่อหน่าย ในรูปร่างหน้าตาของคน ไม่เห็นว่าสวยงาม เหมือนตอนที่ยังไม่ได้เจริญอสุภกัมมัฏฐาน พอพิจารณาเห็นอวัยวะต่างๆ ที่อยู่ภายใต้ผิวหนัง เห็นสิ่งปฏิกูลต่างๆ ที่มีอยู่ภายในร่างกาย ที่ถูกขับออกมาทางทวารต่างๆ ก็เกิดความขยะแขยง แทนที่จะกำหนัดยินดี กลับขยะแขยง ไม่อยากจะเข้าใกล้ ถ้าพิจารณาจนเห็นเป็นซากศพ ก็จะไม่อยากร่วมหลับนอนด้วยเลย ความกำหนัดยินดีคือราคะตัณหา ได้หมดไปจากใจของพระอนาคามี ท่านก็เลยไม่ต้องกลับมาเกิดเป็นมนุษย์อีกต่อไป เพราะท่านมีความสุขที่เหนือกว่า คือความสุขสงบของใจที่เรียกว่า ฌาน ท่านก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นพรหม และบรรลุเป็นพระอรหันต์ในสวรรค์ชั้นพรหม

นี่คือเรื่องของภพชาติที่จะน้อยลงไปเรื่อยๆ เป็นผลจากการได้บรรลุอริยมรรคอริยผล ถ้าปฏิบัติเพียงทานศีลและสมาธิ จะไม่ได้อริยมรรคอริยผล ตายไปก็ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดเหมือนเดิม เช่นพระอาจารย์ของพระพุทธเจ้า ๒ องค์ที่ได้ฌาน หลังจากที่ท่านตายไปแล้ว ก็ไปเกิดในสวรรค์ชั้นพรหม แต่เป็นสวรรค์ชั้นพรหมที่ต้องเสื่อม เพราะขึ้นไปด้วยกำลังของสมาธิ ไม่ได้ขึ้นไปด้วยกำลังของปัญญา เช่นของพระอนาคามี พระอนาคามีได้ชั้นพรหมด้วยการชำระกิเลส ที่ทำใจไม่ให้สงบ พอชำระกามราคะออกไปจากใจได้ ใจก็สงบเป็นธรรมชาติ เป็นฌานโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องบริกรรมพุทโธเพ่งกสิณให้จิตสงบ ฌานแบบนี้ไม่มีวันเสื่อม

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าน่าเสียดาย ที่ไม่มีโอกาสได้สอนพระอาจารย์ทั้ง ๒ รูป วิธีทำฌานไม่ให้เสื่อม ไม่ต้องกลับมาเกิดอีก เพราะท่านตายไปก่อน ถ้าท่านยังไม่ตาย และพระพุทธเจ้าได้ทรงแสดง เรื่องอริยมรรคอริยผลให้ฟังรับรองได้ว่าจะสามารถบรรลุเป็นพระโสดาบัน เป็นพระอรหันต์ได้ในขณะที่ฟังเลย เช่นพระปัญจวัคคีย์ผู้ติดตามรับใช้พระพุทธเจ้า พอทรงแสดงธรรมครั้งแรกก็มีพระรูปหนึ่งบรรลุโสดาบันทันที หลังจากนั้นทรงแสดงพระธรรมอีกครั้งสองครั้ง ก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์พร้อมกันทั้งหมด ๕ รูปเลย เป็นอำนาจของพระธรรมคำสอน ของพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่จะทำได้ ไม่มีใครสามารถทำได้ เพราะปัญญาระดับนี้ต้องเป็นของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่จะทำได้ ที่จะเห็นอนิจจังทุกขังอนัตตา เห็นพระอริยสัจ ๔

พวกเราได้มาเกิดเป็นมนุษย์ ได้พบกับพระพุทธศาสนาแล้ว อย่าปล่อยให้พระอริยสัจ ๔ อย่าปล่อยให้อนิจจังทุกขังอนัตตา ห่างไกลไปจากใจ ต้องเจริญอยู่เรื่อยๆ พิจารณาอยู่เรื่อยๆ เพื่อจะได้ปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง จะได้เสร็จงานนี้ได้อย่างรวดเร็ว ดังที่ทรงพยากรณ์ไว้ว่า ๗ วัน หรือ ๗ ปี ถ้าปฏิบัติกันอย่างเต็มที่ เจริญสติอย่างเต็มที่ พิจารณาไตรลักษณ์ พิจารณาอริยสัจ ๔ อย่างเต็มที่ ไม่เกิน ๗ ปีเป็นอย่างมาก ถ้าฉลาดมาก ๗ วันก็สามารถบรรลุได้ ไม่ทรงปฏิเสธว่าคนนั้นคนนี้บรรลุไม่ได้ มีแต่พวกเราที่ไปปฏิเสธกันเอง ว่าบรรลุไม่ได้ ไปพูดกันเองต่างหากว่าเราเป็นไปไม่ได้เอง ทำไมไปปฏิเสธตัวเราเอง ทั้งๆที่พระพุทธเจ้าไม่ทรงปฏิเสธเลย ทรงตรัสว่ามีสิทธิมีความสามารถเท่ากันหมด.

หน้า:  1 ... 8 9 [10]
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.253 วินาที กับ 24 คำสั่ง

Google visited last this page 29 สิงหาคม 2562 13:47:48