. อนุภาคพระเจ้ามีจริงไหม?ผู้อ่านท่านหนึ่งถามว่า อนุภาคพระเจ้ามีจริงหรือเปล่า? ขอเรียนว่า ก่อนหน้า พ.ศ. 2555 เราก็คิดว่า ‘อนุภาคพระเจ้า’ เป็นแค่เรื่องจินตนาการ แต่ในการประชุมใหญ่ประจำปีของนักฟิสิกส์อนุภาคจากทั่วโลก เมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 ศาสตราจารย์โจ อินแคนเดลา โฆษกประจำสถานีตรวจวัดอนุภาคซีเอ็มเอส ประกาศการค้นพบอนุภาคใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับอนุภาคฮิกส์ หรือ Higgs boson หรืออนุภาคพระเจ้า
เมื่อศาสตราจารย์โจ อินแคนเดลาประกาศเสร็จ เสียงปรบมือก็ดังกึกก้องห้องประชุม เสียงร้องตะโกนเชียร์ดังอื้ออึง คนที่มาร่วมชุมนุมสุมศีรษะกันในวันนั้น เป็นอภิพญามหานักฟิสิกส์อนุภาคชั้นนำทั่วโลก ทุกคนทราบดีว่า สิ่งที่ศาสตราจารย์อินแคนเดลาแถลง เป็นความจริงของแท้แน่นอน และทุกคนก็จินตนาการได้ว่า ต่อไปในอนาคต โลกเราจะเปลี่ยนแปลงความเชื่อ และจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีอะไรขึ้นมาใหม่ๆ อีกบานเบอะเยอะแยะตามมา
พ.ศ.2507 นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ นายปีเตอร์ ฮิกส์ ออกมาบอกว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดบิ๊กบัง เอ้ย บิ๊กแบงนั้น มหาวิศวโลกานุโลกอันไพศาลมีเพียงอนุภาคพื้นฐาน ไม่มีมวลที่เคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็วแสง
เมื่อเกิดบิ๊กแบงขึ้นในช่วงระยะเวลา 1 ในล้านล้านส่วนของวินาที อนุภาคฮิกส์ก่อให้เกิดสนามพลังงานชนิดหนึ่งขึ้น เรียกว่า สนามพลังงานฮิกส์ ซึ่งไม่เพียงดึงอนุภาคต่างๆเข้ามา แต่ยังก่อให้เกิดปฏิกิริยากับอนุภาคเหล่านั้น ทำให้แต่ละอนุภาคมีมวล หรือมีน้ำหนักขึ้น แต่ละอนุภาคจะมีปฏิกิริยากับสนามพลังงานที่ว่านี้แตกต่างกันออกไป ทำให้มวลของอนุภาคบางอย่าง เช่น โฟตอน ไม่ทำปฏิกิริยากับสนามพลังงาน โฟตอนจึงไม่มีมวลและยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสงต่อไป
แถลงข่าวเสร็จ ศาสตราจารย์ปีเตอร์ ฮิกส์ ผู้ที่คิดกลไกของอนุภาคฮิกส์ หรือสนามพลังฮิกส์คนแรกของโลกถึงกับน้ำตาไหล และแสดงความยินดีกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในความสำเร็จ ท่านบอกว่า ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของตัวท่านเอง
แม้แต่นักวิทยาศาสตร์ ก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงความเชื่อ อย่างเมื่อก่อน นักวิทยาศาสตร์จำนวนไม่น้อยปฏิเสธทฤษฎีบิ๊กแบง แต่พอมีการค้นพบรังสีไมโครเวฟพื้นหลังของจักรวาลใน พ.ศ. 2507 นักวิทยาศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ไม่สามารถปฏิเสธทฤษฎีบิ๊กแบงได้
บิ๊กแบงหมายถึงการระเบิดครั้งใหญ่ เป็นแบบจำลองของการกำเนิดและวิวัฒนาการของเอกภพในจักรวาลวิทยา ที่ตอนนี้ได้รับการสนับสนุนจากหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และจากการสังเกตการณ์ที่แตกต่างเป็นจำนวนมาก ถ้าทฤษฎีบิ๊กแบงเป็นความจริง เราก็รู้การกำเนิดของโลกและจักรวาล
พ.ศ.1893 ก็คือเมื่อ 663 ปีที่แล้ว ขณะที่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ทรงสถาปนาอาณาจักรอยุธยาขึ้นเป็นราชธานี หากมีเด็กสักคนหนึ่งพูดว่า อนาคต เราจะเห็นเรือเหล็กขนาดใหญ่บรรทุกผู้คนจำนวนหลายร้อย เหาะเหินเดินทางไปในอากาศด้วยความเร็ว เผลอแผล็บแว็บเดียว ใช้เวลาเพียงไม่ถึงวัน ก็สามารถเดินทางได้เป็นระยะทางหลายหมื่นเส้น พูดอย่างนี้ เด็กคนนั้นก็คงถูกผู้ใหญ่กล่าวหาว่าเป็นบ้า เอาเรื่องอะไรไร้สาระมาเล่า
ทว่าทุกวันนี้ มนุษย์มีเครื่องบิน ที่พาเราเหาะไปไหนมาไหนได้ทั้งโลก
หากท่านติดตามงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด ก็จะทราบว่า ขณะนี้ นักวิทยาศาสตร์พบอะไรหลายอย่างที่เรานึกไม่ถึง โดยเฉพาะหลายเรื่องที่สมัยก่อนตอนโน้น เราคิดว่าเป็นไสยศาสตร์หรือเป็นเรื่องเวทมนตร์คาถาของพวกมดถ่อหมอผี แต่ไปๆ มาๆ กลับเป็นเรื่องที่สามารถอธิบายขยายความได้ในทางวิทยาศาสตร์ ถ้าเอามาเขียนรับใช้ในตอนนี้ ผู้อ่านท่านก็ต้องหาว่า ผมผู้เขียนเป็นโรคบ้าไปอีกคน
ผมอ่านเอกสารทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้น จึงพอจะเข้าใจว่า การย่นระยะทาง การหายตัว กายทิพย์ จิตญาณ ทิพยานุภาพ นิรันตสุข บุพเพสันนิวาส ปาฏิหาริย์ ทักษิณานุประทาน ปฏิสนธิจิต ฯลฯ อะไรพวกนี้ ในอนาคต ก็อาจมีโอกาสที่จะได้รับการอธิบายอย่างแจ่มแจ้งในทางวิทยาศาสตร์ได้ด้วยเช่นกัน
ก่อนจบ ขอตอบอีกครั้งว่า
อนุภาคพระเจ้า มีจริงโดยได้รับการยืนยันอย่างเป็นทางการในการประชุมใหญ่ประจำปีของนักฟิสิกส์อนุภาคจากทั่วโลก เมื่อ 5 กรกฎาคม พ.ศ.2555 ครับ
...คุณนิติ นวรัตน์