[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
28 มิถุนายน 2568 02:42:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หลักวิวัฒนาการของ "หน่วยองค์รวม" กับ ความจริงของจักรวาฬ  (อ่าน 2240 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0 MS Internet Explorer 6.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 08:45:55 »




หลักวิวัฒนาการของ "หน่วยองค์รวม" กับความจริงของจักรวาฬ



เราได้กล่าวไปแล้วว่า สิ่งต่างๆ ล้วนเป็น "หน่วยองค์รวม" หรือ โฮลอนของสิ่งอื่น ทุกๆ สิ่งล้วนแล้วแต่เป็นองค์รวม/ส่วนย่อยอยู่เช่นนั้นตลอดมา ในเมื่อจักรวาฬประกอบขึ้นมาจากหน่วยองค์รวม เพราะฉะนั้นถ้าหากเราสามารถเกาะกุมได้ว่า หน่วยองค์รวมทั้งหลายมีลักษณะร่วมกันอะไรบ้าง เราก็ย่อมสามารถที่จะทำความเข้าใจได้ว่า วิวัฒนาการในภูมิต่างๆ ของจักรวาฬมี ลักษณะร่วมกันอย่างไรได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกายภูมิ ชีวภูมิ เจตภูมิ และธรรมภูมิ


นี่คือหลักการข้อที่สองในการศึกษาวิวัฒนาการของจักรวาฬที่กล่าวว่า "โฮลอน (หน่วยองค์รวม) ทั้งปวงล้วนมีคุณลักษณะที่แน่นอนบางอย่าง" ซึ่งสืบทอดจากหลักการข้อแรกที่กล่าวว่า "ความจริงของจักรวาฬประกอบขึ้นมาจากโฮลอนต่างๆ หรือหน่วยองค์รวมต่างๆ"


เนื่องจากว่า แต่ละโฮลอนล้วนเป็นองค์รวม/ส่วนย่อยอยู่ในตัวเอง เพราะฉะนั้น โฮลอนแต่ละตัวจึงต้องมี "แนวโน้มสองอย่าง" อยู่ในตัวเพื่อรักษาความเป็นตัวของมันเอาไว้ คือรักษาความเป็นองค์รวม (wholeness) กับความเป็นส่วนย่อย (partness) ของตัวมันเอาไว้


แนวโน้มในการรักษา ความเป็นองค์รวมของตัวโฮลอน จึงหมายถึงการรักษาเอกลักษณ์ของตัวมัน และความเป็นตัวของตัวเอง (autonomy) ของตัวโฮลอน ถ้าโฮลอนล้มเหลวในการรักษาแนวโน้มนี้ ตัวมันเองก็ดำรงอยู่ไม่ได้ สิ่งนี้เป็นความจริงของโฮลอนทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นอะตอม เซลล์ อวัยวะ หรือไอเดียก็ตาม


แต่โฮลอน นอกจากจะเป็นองค์รวมในตัวของมันเองแล้ว มันยังเป็นส่วนย่อยของระบบอื่นหรือองค์รวมอื่นด้วยในเวลาเดียวกัน เพราะฉะนั้นโฮลอนแต่ละตัวนอกจากจะต้องรักษาความเป็นตัวของตัวเองเอาไว้แล้ว ขณะเดียวกัน มันก็ต้องสามารถปรับตัวหรือทำตัวให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อม หรือระบบอื่นที่เป็นโฮลอนที่ใหญ่กว่า ที่โฮลอนเป็นส่วนย่อยของมันด้วย ถ้าโฮลอนนั้นปรับตัวไม่ได้ มันก็ดำรงอยู่ไม่ได้เช่นกัน


ความสามารถในการรักษาความเป็นตัวของตัวเอง (ที่เป็นองค์รวม) กับความสามารถในการทำตัวให้เหมาะสม (ในฐานะที่เป็นส่วนย่อย) นี้เราเรียกว่า เป็นความสามารถตามแนวนอน (horizontal capacities) ของโฮลอน


แต่ตัวโฮลอนนอกจากจะมีความสามารถตามแนวนอน (ในระดับเดียวกัน) แล้ว มันยังมีความสามารถตามแนวตั้ง (vertical capacities) (ในต่างระดับ) อีกด้วย ซึ่งความสามารถตามแนวตั้งนี้ก็มี 2 อย่างเช่นกันคือ ความสามารถในการข้ามพ้นตัวเอง (self-transcendence) กับความสามารถในการสลายตัวเอง (self-dissolution)


เรื่องนี้ต้องขยายความ ยกตัวอย่างเช่น


ถ้าหากโฮลอนหนึ่งล้มเหลวในการรักษาความเป็นองค์รวมและส่วนย่อยของมัน มันจะเริ่มล่มสลาย และเมื่อมันล่มสลาย มันจะแตกกระจายออกเป็นโฮลอนย่อย อย่างเช่น เซลล์แตกสลายเป็นโมเลกุล ซึ่งแตกสลายเป็นอะตอม นี่คือความสามารถในการสลายตัวเองของโฮลอน แต่ในขณะเดียวกัน โฮลอนก็มีความสามารถในการเสริมสร้างตัวมันด้วยการยกระดับ หรือก้าวข้ามตัวมันเองไปได้ในทิศทางที่ทวนกลับ ความสามารถในการสลายตัวเอง เหมือนอย่างเช่น โมเลกุลที่มารวมตัวกันเป็นเซลล์ นี่เป็นความสามารถในการข้ามพ้นตัวเองของโฮลอน อันเป็นกระบวนการที่ทำให้โฮลอนใหม่เผยตัวออกมาจากโฮลอนเดิมด้วยการข้ามพ้นโฮลอนเดิม


เพราะฉะนั้น กระบวนการวิวัฒนาการจึงไม่ใช่กระบวนการคัดสรรตามธรรมชาติ (natural selection) เหมือนอย่างที่ลัทธิดาร์วินเชื่อกันหรอก แต่วิวัฒนาการเป็นกระบวนการในการข้ามพ้นตัวเองของเหล่าโฮลอนต่างหาก ด้วยการเพิ่มองค์ประกอบใหม่ๆ เข้าไปในกระบวนการนั้น


จะว่าไปแล้ว แรงผลักดันที่ก่อให้เกิดการข้ามพ้นตัวเอง (self-transcending) นี้ก็มาจากตัวจักรวาฬเองที่ค่อยๆ เผยตัวออกมาอย่างเต็มรูปขึ้นเรื่อยๆ


แรงผลักดันในการข้ามพ้นตัวเองของจักรวาฬ นี้แหละที่ทำให้ "ชีวิต" ผุดโผล่ขึ้นมาจาก "วัตถุธาตุ" และก็ทำให้ "ใจ" (mind) ผุดโผล่ขึ้นมาจาก "ชีวิต" และยังทำให้ "จิตวิญญาณ" ผุดโผล่ขึ้นมาจาก "ใจ" ด้วย


นี่คือหลักการข้อที่สาม ในการศึกษาวิวัฒนาการของจักรวาฬที่กล่าวว่า "โฮลอนเป็นสิ่งที่ผุดโผล่ออกมา" และโฮลอนใหม่ๆ ที่ผุดโผล่ขึ้นมา จะนำความแปลกใหม่ ความสร้างสรรค์ สิ่งใหม่ๆ และรูปแบบใหม่ตามมาด้วย


พวกเราทั้งหลาย ล้วนดำรงชีวิตอยู่ในเอกภพที่การสร้างสรรค์ล้วนผุดเกิดอย่างไม่มีจบสิ้น


ธรรมจิต (Spirit) คือสุญตา คือการสร้างสรรค์ และคือตัวจักรวาฬเอง จากธรรมจิตหรือจากความว่าง ก่อให้เกิด "รูป" (form) และรูปใหม่ที่ผุดโผล่คือ โฮลอนใหม่ที่บังเกิด


ไม่มีศาสตร์แขนงไหนที่กล้าปฏิเสธว่า การข้ามพ้นตัวเองเป็นที่มาของวิวัฒนาการทั้งปวงของจักรวาฬ ศาสตร์ต่างๆ ไม่ว่าศาสตร์ไหนล้วนพูดถูก (เป็นบางส่วน) จากมุมมองของมันที่เข้าไปศึกษาค้นคว้าความจริงของจักรวาฬ


โอกาสที่ลิงชิมแปนซีตัวหนึ่งที่พิมพ์ดีดอย่างสะเปะสะปะ แล้วจะสามารถพิมพ์บทละครของเชกสเปียร์ออกมาได้มีเท่ากับหนึ่งใน 10 ยกกำลัง 40 ถ้าหากมันจะเกิดขึ้นก็คงกินเวลาถึงแสนล้านล้านปี ขณะที่จักรวาลเพิ่งถือกำเนิดมาได้แค่สิบหกพันล้านปีเท่านั้น เวลาแค่สิบหกพันล้านปีนี้ ยังไม่พอแม้แต่จะผลิตสารเอนไซม์ตัวหนึ่งออกมาโดยบังเอิญ! (จากการคำนวณของนักวิทยาศาสตร์เอง)


เพราะฉะนั้น แม้แต่นักวิทยาศาสตร์เองก็เริ่มคล้อยตามแล้วว่า การสร้างสรรค์ (creativity) ที่ไม่ใช่ความบังเอิญนี้ต่างหาก ที่เป็นผู้สร้างจักรวาฬขึ้นมาจาก "ความว่าง" (Emptiness) อย่างมี "เจตนารมณ์" ที่ชัดเจนอันหนึ่งที่สามารถรับรู้ได้จากการคลี่คลาย ผุดบังเกิดโฮลอนใหม่ๆ ออกมาอย่างเป็นระบบ อย่างมีโครงสร้างในท่ามกลางกระบวนการแห่งวิวัฒนาการของตัวจักรวาฬเอง


นี่คือหลักการข้อที่สี่ในการศึกษาวิวัฒนาการของจักรวาฬที่กล่าวว่า "โฮลอนผุดโผล่ออกมาอย่างมีโครงสร้างเป็นลำดับชั้น (holarchically)"


คำว่า โครงสร้างเป็นลำดับชั้นแบบโฮลอน (holarchy) เป็นคำผสมระหว่างคำว่า hierachy กับคำว่า holon จริงอยู่ที่ปัญญาชนในยุคโพสต์โมเดิร์นมีทัศนะในเชิงลบ ต่อคำว่า hierachy ที่มีตัวแทนที่โดดเด่นคือรัฐกับบรรษัทขนาดใหญ่ เพราะเป็นโครงสร้างเป็นลำดับชั้นที่มีลักษณะครอบงำบงการผู้คน แต่เราก็ต้องไม่ลืมว่า มันยังมีโครงสร้างเป็นลำดับชั้นตามธรรมชาติ (natural hierachy) ที่ดำรงอยู่อย่างเป็นโฮลอนอย่างนั้นอยู่แล้ว อย่างเช่น อนุภาค/อะตอม/โมเลกุล/เซลล์ หรืออักษร/คำ/ประโยค/บท hierachy แบบนี้ เราไม่ควรต่อต้านหรือปฏิเสธ และเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสน เราจึงใช้คำว่า holarchy แทน natural hierachy เพื่อที่จะได้แยกแยะออกจาก dominator hierachies อย่างระบบราชการ พรรคการเมือง บรรษัทขนาดใหญ่ และวิจารณ์พฤติกรรมของมันได้


ในเมื่อโฮลอนเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในจักรวาฬ และโครงสร้างเป็นลำดับชั้นแบบโฮลอน หรือ holarchy ก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่พ้น เพราะฉะนั้น เราจึงอาจกล่าวได้ว่า รูปแบบการพัฒนาและวิวัฒนาการทั้งปวง จะต้องขับเคลื่อนไปโดยการทำให้เป็นโครงสร้างอย่างเป็นลำดับชั้นแบบโฮลอน (holarchization) ซึ่งเป็นกระบวนการที่เพิ่มความเป็นองค์รวม ด้วยการผุดโผล่โฮลอนใหม่ และหลอมรวมโฮลอนเก่าเข้าไว้ด้วย นี่เป็นหลักการข้อที่ห้า ในการศึกษาวิวัฒนาการของจักรวาฬที่กล่าวว่า "โฮลอนที่ผุดโผล่ขึ้นมาแต่ละอันจะก้าวข้าม แต่ก็จะหลอมรวมโฮลอนก่อนหน้านั้นเอาไว้ด้วย"
ยกตัวอย่างเช่น เซลล์ย่อมก้าวข้ามโมเลกุลของมัน แต่ก็รวมโมเลกุลอยู่ในตัวภายใต้โครงสร้างเป็นลำดับชั้นแบบโฮลอน


นี่เป็นความเข้าใจที่สำคัญมากในการศึกษา วิวัฒนาการของสรรพสิ่งที่แลเห็นว่า โฮลอนทั้งหลายเป็นองค์รวม/ส่วนย่อย โดยที่ในฐานะที่เป็นองค์รวมมันก้าวข้าม แต่ในฐานะที่เป็นส่วนย่อยมันถูกหลอมรวมวิวัฒนาการของจักรวาฬ จึงมิใช่สิ่งใดอื่น นอกจากการก้าวข้ามและหลอมรวม...การก้าวข้ามและหลอมรวมเท่านั้น


ในกระบวนการก้าวข้ามและหลอมรวมของวิวัฒนาการของจักรวาฬนี้ จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องพูดถึงเรื่อง "ความสูงกว่า" กับ "ความต่ำกว่า" ของภูมิต่างๆ ในจักรวาฬ ชีวภูมิก้าวข้ามแต่หลอมรวมกายภูมิ ดังนั้น ชีวภูมิย่อม "สูงกว่า" กายภูมิในเชิงของโครงสร้างตามลำดับชั้นแบบโฮลอน กายภูมิซึ่งต่ำชั้นกว่าชีวภูมิ จึงมีความเป็นพื้นฐานมากกว่าชีวภูมิ ในความหมายที่ว่าต่อให้สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ตายหมด โลกในฐานะที่เป็นกายภูมิก็ยังดำรงอยู่ได้ แต่ถ้ากายภูมิถูกทำลาย โฮลอนชั้นที่สูงกว่าไม่ว่าชีวภูมิหรือเจตภูมิก็อยู่ไม่ได้


ในทำนองเดียวกัน เจตภูมิสูงชั้นกว่าชีวภูมิ หากชีวภูมิหรือระบบนิเวศน์ถูกทำลาย จิตมนุษย์ที่อยู่ในเจตภูมิก็ไม่อาจดำรงอยู่ได้ เพราะชีวภูมิเป็นส่วนย่อยของเจตภูมิที่เป็นโฮลอนที่สูงกว่า นี่เป็นความจริงของจักรวาฬที่เหล่ามนุษยชาติผู้กำลังเผชิญกับวิกฤตสิ่งแวดล้อมโลกในปัจจุบัน ไม่อาจมองข้ามเป็นอันขาด


http://www.dragon-press.com/content-หลักวิวัฒนาการของหน่วยองค์รวมกับความจริงของจักรวาฬ2482547-4-5617-83285-1.html

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
United Kingdom United Kingdom

กระทู้: 7886


• Big Bear •

ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 8.0.552.215 Chrome 8.0.552.215


ไม่มี ไม่ใช้ ไม่รู้
ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« ตอบ #1 เมื่อ: 18 ธันวาคม 2553 17:06:40 »

ขอบคุณครับ อ.มด
บันทึกการเข้า

B l a c k B e a r : T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.288 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 23 พฤศจิกายน 2567 22:45:40