[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
26 มิถุนายน 2568 01:52:00 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๓ วันลูกผี ๔ วันลูกคน  (อ่าน 1607 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6098


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 29 มีนาคม 2558 09:36:28 »

.




สำนวน ๓ วันลูกผี ๔ วันลูกคน ตอนนี้ดูจะไม่มีใครใช้พูดกันแล้ว ถึงพูดก็ไม่รู้ความหมาย อย่างไรกันแน่

ม.จ.หญิง พูนพิศมัย ดิศกุล ทรงพระนิพนธ์ เรื่องไว้ ทำขวัญ ๓ วัน ไว้ในหนังสือ พิธีของทุกคน (สำนักพิมพ์เขษมบรรณกิจ) ว่าเป็นประเพณีที่เชื่อถือกันมาแต่เดิม

ในสมัยที่เชื่อผี เชื่อกันว่ามนุษย์ที่เกิดมานี้ ผีเป็นผู้ปั้นรูปร่างลักษณะ แล้วคอยดักจับวิญญาณใส่ ให้มีชีวิต ก่อนส่งเข้าครรภ์มารดา ด้วยเหตุนี้ จึงเชื่อกันว่า ผีเป็นเจ้าของลูกมาก่อน

ฉะนั้น เมื่อถึงวันเกิด จึงเอาเด็กใส่กระด้งแกว่ง ถามว่า
“๓ วันลูกผี ๔ วันลูกคน ลูกของใคร มาเอาไปเน้อ”
แล้วก็จัดให้มีหญิงแก่คนหนึ่งเอาเบี้ย (ในสมัยนั้นใช้เบี้ยแทนสตางค์) เข้ามาเป็นผู้รับซื้อ
“ฉันรับซื้อ เป็นลูกของฉันเอง”

ผู้รับซื้อ จึงมีชื่อว่า “แม่ซื้อ” คือคนที่รับซื้อเด็กนั้นมาจากผีแล้ว ภายหลังเข้าใจปะปนกันไปว่า แม่ซื้อคือผีเอง
เมื่อยกกระด้งเด็กขึ้นวางบนเตียงเรียบร้อย ก็จุดเทียนขนาด ๑ ฟุต ปักในเชิงเทียน วางในขันนํ้าพานรอง (กันไฟลุก) ตั้งไว้ทางหัวนอนเด็ก คอยจุดไฟไว้ให้เทียนครบ ๑ เดือน
เทียนนี้เรียกว่า เทียนกะละเม็ด

เทียนนี้เป็นสิ่งแสดงว่า เราได้ประเพณีนี้มาจากศาสนาพราหมณ์ คือพระคัมภีร์เก่าของพุทธศาสนา การบูชาเพลิงก็ด้วยถือว่าไฟเป็นสิ่งที่ให้ความสว่าง ความอบอุ่น เป็นเครื่องแผดเผาเชื้อโรคทั้งหลาย และเป็นเครื่องหุงต้มอาหาร อันเป็นสิ่งที่ยังชีวิตมนุษย์ให้มีอยู่  ด้วยเหตุนี้ มนุษย์ทุกคนจึงต้องมีไฟคนละดวง เป็นสิ่งสำคัญประจำชีพ ไปจนตลอดอายุ กล่าวคือ จุดประจำมอบให้แต่วันเกิด เป็นต้นมา เมื่อถึงวันตาย จึงนำมาจุดอีกและใช้ไฟประจำชีพดวงนี้ เป็นเพลิงจุดเผาศพ อันเป็นที่สุดแห่งสังขาร

ไฟนี้ถือกันว่า ต้องจุดด้วยแว่นขยาย ส่องรับจากดวงอาทิตย์ จึงจะเป็นไฟจากฟ้า ในระหว่าง ๓ วันนี้ เป็นอันว่าเด็กอยู่ในเขตอันตราย เพราะการรักษาพาใจในครั้งกระนั้น ยากที่พาให้เด็กรอดได้ จึงนับว่าอยู่ในเขตของลูกผี ไม่แน่ว่าผีจะให้ไว้หรือไม่

ครั้น ๓ วันก็เป็นอันพ้นเขต เข้าเขตคำว่า “๔ วันลูกคน” จึงทำพิธีรับรองมิ่งขวัญ ว่าเป็นลูกมนุษย์แล้ว

พิธีทำขวัญ ๓ วัน เป็นพิธีเล็ก โดยมากทำกันในครอบครัว มี
๑. บายศรีปากชาม คือชามไม่มีฝางามๆ ๑ ใบ เอาใบตองทำกรวยใส่ข้าวสุกให้แน่น แล้วเอาคว่ำตั้งลงตรงกลางชามนั้น
    เหลาไม้แหลมเสียบไข่จืดต้มสุก แล้วลงบนยอดกรวย ปักพุ่มดอกไม้สดเป็นยอด เสียบลงในยอดกรวยอีกที
    ตัดใบตองเป็นรูปแมงดา ๓ ตัว ทำบายศรี ๓ ชั้น ๓ อัน วางรอบกรวยนั้น ขัดกันไปรอบชาม จัดกล้วยน้ำว้า แตงกวา
    ขนม (เช่นฝอยทอง) ลงเป็นกอง กองลงบนใบแมงดาในชามนั้น  เอาดอกไม้เสียบตามยอดบายศรี ๓ ชั้น ทุกชั้น
    แล้วเอาด้ายสายสิญจน์ เด็ดขนาดผูกมือได้ พาดตามนมบายศรีไว้ทุกอันครบแล้ว จึงเรียกว่า บายศรีปากชาม
๒. เทียนเล็กปักบนเชิงเทียนเล่มหนึ่ง
๓. โถกระแจะแป้ง สำหรับเจิมหน้า ใส่โถเล็ก มีพานรอง
๔. ขันเล็กใส่น้ำร้อนอุ่นกับช้อนเล็กๆ สำหรับให้เด็กกิน

ครั้นถึงเวลาทำขวัญ ผู้ใหญ่ในวงศ์ตระกูลก็จุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วสวดสัคเคฯ ประชุมเทวดาเพื่อขอความสวัสดี ยกชามบายศรีนั้นตั้งทางหัวเด็ก ซึ่งมีผู้อุ้มอยู่ในเบาะตรงหน้าผู้ทำขวัญ หยิบด้ายสายสิญจน์ขึ้นฟาดเคราะห์คือเอาด้ายนั้นลูบบนแขนและขาเด็กข้างละเส้น เพื่อเรียกสิ่งร้ายๆ ต่างๆ ให้ออกจากตัวเด็ก   เอาด้ายนั้นเผาไฟจากเทียน ที่จัดใส่เชิงเทียนไว้ทั้ง ๔ เส้น หยิบด้ายเส้นใหม่ขึ้นให้พร แล้วขมวดไว้ตรงกลางด้าย ผูกให้เด็กทั้งที่ข้อมือ และข้อเท้า  เจิมแป้งกระแจะไว้ที่หน้าผากเป็นมงคล เสร็จแล้วเอาช้อนเล็กตักน้ำในขันให้เด็กกิน ๓ ครั้ง เป็นเสร็จพิธี

ส่วนอาหารในชามบายศรี เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็นำไปเซ่นผี คือเทรวมใส่ในใบตอง แล้ววางไว้ในที่เห็นควร ส่วนเครื่องใบตอง คือบายศรีและแมงดา กรวยกับดอกไม้ เครื่องประดับต่างๆ นั้น เอาผ้าห่อวางไว้ใต้เบาะเด็ก ๓ วัน  แล้วจึงเอาไปลอยน้ำในวันที่ ๓
...นสพ.ไทยรัฐ ฉบับประจำวันอาทิตย์ที่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.54 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มิถุนายน 2568 09:17:08