[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
22 มิถุนายน 2568 00:28:34 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: a hearsay from the reporter  (อ่าน 11046 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:05:04 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 64px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.flash-mp3-player.net/medias/player_mp3_maxi.swf?mp3=http://www.mahaparamita.com/music.mp3&amp;width=250&amp;showstop=1&amp;showinfo=1&amp;showvolume=1&amp;volumewidth=35&amp;sliderovercolor=ff0000&amp;buttonovercolor=ff0000" width="800px" height="64px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" autoplay="false" autostart="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.mahaparamita.com/music.mp3" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.mahaparamita.com/music.mp3</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>



ก้าวแรกที่เดินเข้า สู่อาคารหลังนั้น ความรู้สึกแรกเห็น ก็คิดว่า มันกว้างขวางดี ผมเข้าไปทางประตูหน้า ตรงกลางเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่ทางด้านซ้ายมือหลายห้องเป็นที่ฆ่าหมู ทางด้านขวาไว้ฆ่าแพะ ทางขวามือเยื้องไปหน่อย คือที่ฆ่าวัว ตอนกลางวันจะฆ่าวัว ตอนกลางคืนก็ฆ่าควาย
แล้วหมูหละ ? ก็เหมือนกัน ฆ่าตอนกลางคืน ตอนที่ผมเพิ่งมาถึง พอดีมีรถบรรทุกขนหมูส่งเข้ามา เสียงร้องครวญในขณะ ที่มันกำลังโดนฉุดกระชากลากเข้าเล้าฟังแล้วบาดเข้าไปถึงใจ........พอดีวันนั้นอากาศก็ครึ้ม ๆ ยิ่งเพิ่มความหดหู่ใจให้กับผมเป็นยิ่งนัก
ผ มองไปทางด้านขวามือ บนพื้นเต็มไปด้วยหัวแพะนองเลือด และเครื่องในที่เพิ่งชำแหละออกมา กลิ่นคาวเลือดที่โชยมา ทำให้แทบอยากอ๊วก ผมเดินวนไปมาใกล้ ๆ กับบ่อน้ำ ยืนทื่ออยู่ซักพักหนึ่ง สุดท้ายก็ดึงความกล้าหาญออกมา  เดินไปทางโถงฆ่าแพะ ก็พอดีเห็นเลือดแพะที่วางเป็นถัง ๆ ที่ยังมีกลิ่นไออุ่นโชยมา ศพไร้หัวของแพะแต่ละตัว วางกองอยู่บนเลือดที่นองพื้น ยังมีแพะไร้หัวอีกหลายตัว ที่ถูกแขวนแล้วถูกแร่หนัง แขวนอยู่บนราวเหล็ก
ดินผ่านเส้นทางเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยหัวแพะและเครื่องใน ผมเดินไปทางโถงฆ่าวัว ภายในนั้นมีคนฆ่าวัวอยู่ 20 - 30 คนแต่ละคนมีมีดยาวเป็นฟุตอยู่ในมือกันทั้งนั้น ขาทั้งคู่ยืนอยู่บนสายเลือดที่นองเต็มพื้น มีบางคนกำลังแร่หนังวัวอยู่ บางคนกำลังกรีดหน้าอกวัว บ้างก็ชำแหละเครื่องใน หรือไม่ก็ใช้เลื่อยกำลังเลื่อยซี่โครงวัวอยู่ บางคนกำลังเงื้องขวานที่อยู่ในมือ หวังจะฟันคอวัวให้ขาด ! ผมมองเข้าไปด้านใน เห็นยังมีวัวอีกสามตัว ที่มีน้ำตานองหน้ายังไม่ถูกเชือด
ยืนทื่อ ๆ อยู่กับที่ มองดูพวกพ้องตัวเองที่กองอยู่บนเลือดและหนึ่งในนั้นขาของมันสั่นไม่หยุดเหมือนกับหมดแรงแม้แต่จะพยุงตัวให้ยืนความรู้สึกและอารมณ์อันแสนสลดใจและหมองมัวนั้นตั้งแต่เกิดมาผมก็เพิ่งเคยได้เห็น.......................................

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:24:35 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:11:00 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกคนนึงเดินเข้ามา ลากวัวตัวหนึ่งให้ไปยืนตรงกลางลานกว้าง มือเชือดสองสามคนจับหัววัวให้เชิดขึ้น อีกคนนึงถือค้อนยืนอยู่ข้างหลัง แล้วฟาดลงไปเต็มแรงโป้ง ! ! ดังกังวาลวัวตัวนั้นก็ล้มลงไปกองกับพื้นทันที อีกคนนึงก็ถือมีดด้ามยาวเดินเข้ามา จ้วงเข้าไปทางคอหอย ดันลึกเข้าไปถึงหัวใจ ใช้แรงหมุนด้ามมีดให้หมุนวนอยู่สองสามรอบแล้วดึงออกมาเลือดแดง ๆ ก็กระฉูดออกมาทันที มือเชือดก็รีบเอาถังมารองเลือด
วัวที่ไหลออกมาไม่หยุดเวลานี้ ขาทั้งสี่ข้างของวัวตัวนั้น ก็ยังชักกระตุกไม่หยุด ตาทั้งสองเหลือกโพลน ปากยังคงส่งเสียงครวญไม่หยุดผมดูมาถึงตรงนี้
แทบจะน้ำตาร่วง แม้แต่จะหายใจก็ยังรู้สึกลำบาก
มือเชือดอีกคนหนึ่งไม่รีรอที่จะ เฉือนหน้าอกวัว ทั้งลำไส้ ทั้งกระเพาะ ต่างก็ทะลักออกมากองอยู่กับพื้นเลื่อยไร้วิญญาณยังคงเชือดเฉือนร่างที่ยังคงชักกระตุกอยู่อย่างไร้เยื่อใย เริ่มจากเครื่องใน ต่อมาก็หัวแล้วก็ขาร่างของมันโดนหั่นท่อนต่อหน้าต่อตาผมเวลานี้ ก็มีวัวอีกตัวหนึ่ง ที่โดนลากเข้ามาด้วยน้ำตานองหน้าผมไม่สามารถระงับอารมณ์ภายในใจได้อีกต่อไปแล้ว วิ่งผลุนผลันออกไปจากที่นั่น แม้หางตาก็ไม่เหลียวมามองอีกเลย
เรื่องนี้มันก็ผ่านไปนานแล้ว แต่ภาพที่เต็มไปด้วยความเหิว้ยมโหดนั้น ยังคงติดตาผมมาตลอด ผมคิดอยู่เสมอว่า วัฒนธรรมของมนุษย์นั้นก่อรากจากอะไร  ทำไมพวกเราถึงมีการกระทำที่แสนอำมหิตไร้ความกรุณากับเพื่อนร่วมโลกที่ไร้แรงขัดขืนได้ถึงขนาดนั้นมนุษย์ที่ยกย่องตนเองว่าประเสริฐ ควรจะภูมิใจหรือละอายใจ ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:19:18 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:16:50 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter



..............................จะกินเนื้อวัวจำเป็นต้องอำมหิตขนาดนั้นหรือ ?..................................



ทั่วทั้งโลก มีคนจำนวนไม่น้อย ที่กินเนื้อวัว แต่คงไม่มีที่ใด ที่จะใช้วิธีเหี้ยมโหดมากระทำต่อวัวได้เท่ากับไต้หวันการกระทำนั้น ๆ รวมด้วย
1.ใช้ห่วงเหล็กหนา ๆ คล้องไว้ที่จมูกวัวเพื่อที่จะสะดวกต่อการฉุดลาก และการกรอกน้ำใส่ปาก เมื่อรถบรรทุกวัวมาถึง ก็จะใช้ห่วงเหล็กนั้นคล้องจมูกแล้วฉุดดึงไม่เพียงแค่เพิ่มความตื่นตระหนกหวาดกลัว ยังเพิ่มความเจ็บปวดด้วยแผลที่จมูก มีทั้งเลือดไหล มีทั้งน้ำหนอง
2.เทวัวเหมือนเทผัก บังคับให้วัวกระโดดลงจากรถ อุปกรณ์ในการขนส่งขึ้นลงจากรถบรรทุกนั้น ไม่เหมาะสมต่อการเคลื่อนตัวของสัตว์เลยซักนิดแต่ใช้อุปกรณ์และวิธีเทข้าวของจากรถ มาเทวัวแต่ละตัวบนรถ บวกกับสถานที่ ๆ ไม่มีที่ทางจะขนส่งวัวอย่างถูกมาตรฐาน เมื่อเวลาที่จะถ่ายเทวัวจากรถ
มักจะไม่สนใจความตื่นตระหนกหวาดกลัวของวัวที่อาจจะมีต่อทางลาด คนงานนั้นเพียงแค่ใช้ทุกวิธี ผลัก ดึง ฉุด ตี ที่จะบังคับให้วัวลงจากกระบะหลังรถที่สูงพอ ๆ กับครึ่งตัวคนบางที่ยังใจดำถึงขนาดไม่ยอมลงแรง ใช้วิธีผูกเชือกวัวไว้กับตอไม้ แล้วขับรถออกไปปล่อยให้วัวที่อยู่บนรถเหล่านั้นตกลงจากรถเอง ทำให้ขาหักก่อนที่จะถูกประหารก็ถูกทารุณก่อนเสียแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:25:05 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:24:22 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


3.เชือกที่ผูกสั้นเกินไปทำให้วัวไม่สามารถย่อตัวลงนอนพักผ่อนได้แต่ยืนเป็นเวลาหลาววันติดกัน วัวต่าง ๆ เมื่อถูกขนส่งมายังโรง
ฆ่าโดยส่วนมากจะไม่ได้ถูกฆ่าในวันนั้นเลยจะต้องปล่อยทิ้งไว้หลายวันแต่เนื่องจากไม่มีสถานที่มาตรฐานวัวถูกเจาะจมูก ผูกเชือกแล้วจำต้องยืน
เบียดเสียดกันตัวต่อตัวทับ ๆ กันไปโดนผูกไว้บนราวไม่สามารถวางตัวลงนอนได้เชือกที่ใช้นั้นสั้นมาก 10 - 20 เซ็นติเมตร วัวแต่ละตัวก็ต้องเชิด
หัวขึ้นตลอดเวลา บางตัวก็คอยจะดิ้นรนให้หลุดพ้นจากเชือกผูกจมูก ทำให้เลือดไหลไม่หยุดบางตัวก็ได้แต่รอการตายที่จะมาเยือนอย่างสิ้นหวัง
4.ไม่ได้กินอะไรเป็นเวลา 3 - 4 วันคนฆ่าวัวขังวัวไว้เป็นเวลาหลายวัน ไม่ให้อาหารหรือแม้แต่น้ำก็ไม่ให้กินแม้แต่นมวัวที่ไม่สามารถให้นมได้แล้วเนื้อหนังก็ยังมีราคา
5.ไม่ได้ให้น้ำกินธรรมดาแต่ใช้วิธีกรอกปากเวลาปกติไม่ให้อาหารหรือน้ำกินแต่อีกทางนึงภายในไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงเวลาเชือด คนฆ่าวัวจะใช้ท่อเหล็กที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 2 เซ็นติเมตร ยาว 240 เซ็นติเมตรยัดเข้าใส่ปากวัวทะลุยาวไปถึงกระเพาะทุก ๆ ครั้งในการกรอกน้ำก็จะใช้เวลานานประมาณ 10 - 15 นาที  วันละ 3 - 4 ครั้ง เนื่องจากว่าการย่อยอาหารของวัวนั้นช้ามาก เมื่อวัวถูกกรอกน้ำก็จะอาเจียนออกมาจากเดิมที่ตื่นตระหนก หรือป่วยอยู่แล้วถึงกับโดนกรอกจนตายคาที่ก็มีแต่สำหรับคนฆ่าวัวนั้น เรื่องอย่างนี้กลับดูเหมือนไม่มีอะไรยังคงกรอกปากต่อไปแล้วค่อยจัดการเชือดในยามกลางคืน
6.ใช้ขวานฟันคอคร่าชีวิตบางตัวยังต้องถูกทุบหัวด้วยค้อน 5 - 6 ครั้งอันที่จริงการเชือดฆ่าสัตว์ทั้งหลายควรที่จะใช้วิธีที่เร็วที่สุดที่จะทำให้สัตว์นั้น ๆ สิ้นสติแล้วค่อยเชือดลำคอปล่อยเลือด แต่โรงฆ่าวัวบางที่กลับใช้ค้อนทุบหัววัวให้ล้มลงแล้วค่อยเชือดคอปล่อยเลือดสำหรับคนที่มีประสบการณ์มากพอก็อาจจะทุบเพียงครั้งเดียวก็ทำให้วัวหมดสติไปได้แต่เนื่องจากว่าแรงคนไม่เท่ากันหรืออาจจะเป็นมือเชือดนายใหม่หรืออาจจะเป็นเพราะวัวตื่นตระหนกแล้วส่ายตัวไปมาส่วนมากไม่สามารถทำให้สิ้นสติได้ด้วยการทุบหัวเพียงครั้งเดียวบางครั้งต้องทุบ 5 - 6 ครั้งจึงจะฆ่าวัวตัวนั้นได้ ในขณะที่วัวกำลังถูกทุบหัวครั้งต่อครั้งก็ยังคงดิ้นรนยืนหยัดไม่ยอมที่จะล้มลงไปสู่หนทางแห่งความตายง่าย ๆ
7.ถูกเชือดคอปล่อยเลือดทั้งเป็น ๆ ถ้าหากเป็นผู้มีประสบการณ์ก็สามารถทำให้วัวสิ้นสติได้ด้วยการทุบหัวเพียงครั้งเดียวแต่อันที่จริงแล้วถึงแม้ว่าวัวจะถูกทุบหัวล้มลงก็ใช่ว่าจะหมดสติไปจนหมดยังคงมีความรู้สึกดูได้จากเปลือกตาและการหายใจอย่างมีจังหวะในเวลานี้มือเชือดก็จะใช้มีดแทงเข้าไปที่คอหอย ความเจ็บปวดที่วัวได้รับคงจะไม่ต้องบอกกัน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:20:16 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:37:11 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


8.มองดูเพื่อนพ้องถูกฆ่าเมื่อมือเชือดตีวัวสิ้นสติแทงคอหอยปล่อยเลือดแล้วชำแหละกันบนพื้น ณ. ที่ตรงนั้นเลยนอกจากจะไม่อนามัยแล้ว  ยังทำให้วัวที่ยังคงถูกผูกไว้ข้าง ๆ ได้เห็นชัด ๆ เต็มตาทุกกระบวนการเมื่อถึงคิวของตนก็จะพยายามดิ้นรนหลีกหนี
นอกเหนือจากนี้แล้ว เนื้อวัวทั้งหลายที่ถูกวางขายตามตลาดเรามิอาจรู้ได้เลยว่าจะเป็นวัวที่ป่วยตายมีเชื้อโรคหรือไม่เพราะพ่อค้าจะไม่แยแสกับปัญหาเหล่านี้
ทุกชีวิตบนโลกนี้ ก็มีชีวิตจิตญาณไม่ใช่แค่วัวหรือแพะที่จะรู้จักเจ็บปวดอย่างเช่นการฆ่าปลา ถึงแม้จะควักตับไตไส้พุงมันออกมาแล้วจับมันโยนลงน้ำมันก็ยังคงว่ายไปว่ายมาถึงแม้จะตัดหัวมันขาดออกจากลำตัวแล้วหั่นเป็นท่อน ๆ มันก็ยังคงกระตุกอยู่อย่างนั้นเวลาที่ปรุงปลาไหลอยู่นั้นเมื่อจับมันโยนลงในหม้อน้ำเดือด ๆ เสียงที่มันพยายามดิ้นรนเสียงฝาหม้อที่เปิด ๆ ปิด ๆ ด้วยแรงดิ้นช่างเป็นเสียงที่น่าเวทนายิ่งนักเวลาที่นึ่งปูจัดการจับขามันผูกไว้แล้วจับนึ่งมันอยากตายก็ตายไม่ได้มันอยากหนี ก็หนีไม่พ้นได้แต่พยายามดิ้นรนอยู่ภายในกระทะอย่างหวาดผวาที่สุดของความเจ็บปวดที่สุดของความอาคาต มันเป็นเช่นนี้เอง
ลองดูคนทั่วไปที่ใช้มีดสับคีบปูเป็นสองท่อนทั้งเป็น ๆ คีบนั้นก็ยังคงคีบมีดเล่มนั้นไว้แน่นไม่ปล่อยความอาคาตแค้นพยาบาทมีให้เห็นชัดเจนยิ่งบางคนเห็นการฆ่ากบ ถึงแม้ว่าหัวมันจะโดนสับออกมาแล้วร่างของมันยังคงตะเกียกตะกายขาของมันยังคงขวนขวายไปหาส่วนที่ๆ ควรจะมีหัวอยู่ ! แต่พยายามเท่าไรก็ไม่มีอะไรให้จับต้องแล้วเมื่อกบถูกถลกหนังทั้งตัวของมันก็ยังคงขยับอยู่ อีกทั้งรูปร่างนั้นเหมือนคนยิ่งนักแล้วจะใจดำกินได้ลงได้อย่างไรบางคนชอบกินกุ้งเต้นเมื่อเขาแกะเปลือกกุ้งออกทั้งเป็น ๆ แล้วจับใส่ปากขบเคี้ยวกล้ามเนื้อของมันก็ยังคงกระตุกอยู่
คงเคยได้ยินอาหารจานหนึ่ง ที่มีชื่อว่า ปลาสองแผ่นดิน วิธีปรุงก็คือ พ่อครัวจะใช้ผ้าซับน้ำห่อหัวปลาเอาไว้แล้วนำปลาตัวนั้นไปทอดแค่ช่วงลำตัวในน้ำมันร้อน ๆ แล้วราดด้วยน้ำปรุงรสที่หางปลาเสร็จสรรพจึงยกขึ้นโต๊ะเมื่อพนักงานทำการแกะผ้าผืนนั้นออกก็จะเห็นปากปลาที่ยังพะงาบ ๆ ตาปลาที่ยังเกลือกกลิ้งบรรดาพ่อค้าต่างก็ใช้วิธีนี้ให้ผู้รับประทานได้เห็นว่า ปลาเป็น ๆ สด ๆ คนเหล่านั้นต่างก็แย่งกันคีบแย่งกันกินแต่ไม่เคยรู้เลยว่าความอาคาตพยาบาทที่หนักที่สุดอยู่ที่นี่เอง.............................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:20:38 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:44:35 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


ยังมีเมนูอีกจานนึงใช้ลูกหนูที่เพิ่งคลอดได้ไม่นานเมื่อจับมันขึ้นมามันก็จะร้อง จี๊ดดด หนึ่งเสียง เมื่อราดตัวมันด้วยเครื่องปรุงรส
มันก็จะร้องอีกเสียงเมื่อจับมันใส่ปากขบเคี้ยวมันก็จะร้องอีกเสียงด้วยน้ำเสียงแห่งความเจ็บปวดเมื่อมันไหลผ่านหลอดอาหารลงไปถึงกระเพาะอาหารมันก็ยังคงดิ้นไปดิ้นมา คนที่กินก็ยังคงหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับรสชาติของ อาหารสวรรค์บนดิน ชีวิตน้อย ๆ นี้ก็ตายอย่างไร้ค่า
อาหารเลื่องชื่ออีกอย่างนึงคือเป็ดย่างเป็ดเหล่านั้นจะถูกขังอยู่ในกรงด้านล่างจะจุดไฟเอาไว้เป็ดเหล่านั้นยืนอยู่ในกรงที่เริ่มร้อนขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะวิ่งวุ่นไปรอบ ๆ กรงเมื่อวิ่งไปวิ่งมาก็เริ่มร้อน เริ่มกระหายน้ำมันก็จะไปดื่มกินน้ำปรุงรสที่เทอยู่รอบด้านยิ่งกินก็ยิ่งกระหายยิ่งกระหายก็ยิ่งกินก็กินจนกระทั่งทั่วทั้งตัวมันเต็มไปด้วยน้ำปรุงรสสุดท้ายก็ถูกทรมานจนตายส่วนบรรดาลูกค้าเขาก็สนใจกันเพียงว่าเป็ดย่างจานนั้นอร่อยหรือไม่แต่จะไม่สนใจว่ามันปรุงมาด้วยวิธีใด
การกินสมองลิงเป็น ๆ ที่ได้ยินกันมาคือการจับลิงที่ยังกระโดดโลดเต้นอยู่มัดไว้ใต้โต๊ะที่สั่งทำเป็นพิเศษให้หัวมันโผล่ขึ้นมาตรงรูกลางโต๊ะบรรดานักกินก็จะนั่งคุยกันไปพลางอย่างเริงร่ารอลิ้มรสชาดอาหารจานเด็ดหลังจากนั้นพนักงานก็จะถือเลื่อยและค้อนเดินมาด้วยประสบการณ์ด้วยอารมณ์ทีท่างามสง่าเลื่อยหัวกระโหลกของลิงตัวนั้นออกลิงตัวน้อยที่น่าสงสารก็ได้แต่นั่งตัวสั่นดิ้นรนแต่นักกินผู้มีราศีทั้งหลายต่างก็ไม่สนใจรอจนเวลาที่พนักงานใช้ค้อนเคาะ
กระโหลกสมองออกมาสมองสด ๆ ก็วางอยู่ให้เห็นตรงหน้าแต่เรื่องมันยังไม่จบแค่นี้ บรรดานักกินที่อดใจรอกันแทบไม่ไหวก็จะเริ่มใช้อุปกรณ์การกินที่ทำพิเศษต่างตักต่างกินควักสมองลิงออกมาทีละช้อน ๆ เสียงหัวเราะเสียงชมเชยรสชาด มีมาไม่หยุด ภายในแฝงไว้ซึ่งเสียงแห่งความทรมานของลิงตัวนั้นทนรับความเจ็บปวดที่อำมหิตที่สุด ลูกตาเหลือกโพลนทั้งตัวดิ้นรนแม้แต่โต๊ะยังขยับเขยื้อน คดีอาจชญากรรมที่โหดร้ายที่สุดก็เกิดขึ้นบนโต๊ะอาหารนี่เอง
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:21:00 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 20:53:54 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


ฟังมาถึงตรงนี้ทุกท่านคงจะคิดเช่นเดียวกันว่าคนเหล่านั้นช่างโหดร้ายอำมหิตนักเขาไม่ควรจะเหิว้ยมโหดกันอย่างนั้นแต่ลองนึกทบทวนกันซักนิดการกระทำของคนอื่นจะต่างไปจากคนเหล่านี้ซักเท่าไรเชียวข้อแตกต่างคงมีแค่ คนเหล่านั้นกินทั้งเป็นแต่คนกลุ่มอื่นทั่ว ๆ ไปนั้นให้มือเชือดฆ่าให้เสร็จสรรพจากโรงฆ่าสัตว์ก็เป็นการทรมานไก่เป็ดปลาเช่นกันคว้านท้องควักไส้ถลกหนังดึงเส้นเชือดตับเฉือนปอดหัวหางต่างกายปล่อยเลือดสูบไขหั่นท่อนห่อกล่องเขาเหล่านั้นก็แค่เดินเข้าตลาดอย่างอารมณ์ดีเลือกดูกล่องที่มันไม่มีคราบเลือดไม่เหลือลมหายใจไม่อาจลุกมาเดินได้เลือกซื้อเนื้อชั้นเยี่ยมกลบบ้านจากนั้นก็จัดการหั่นชิ้นปรุงรสทั้งทอดทั้งนึ่งสุดท้ายสัตว์ทั้งหลายที่ผ่านแดนประหารอันโหดร้ายละจากคมมีดขอบกระทะมาถึงโต๊ะอาหารส่วน
เรา ๆ ท่าน ๆ บรรดาพ่อแม่พี่น้องแก่เยาว์ที่ไร้สมองนึกคิดต่างก็ชื่นชมอาหารมื้อนี้ที่พระเจ้าประทานมาให้ชีวิตน้อย ๆ เหล่านั้นที่ไม่ได้มีความแค้นอะไรกับเราเลยก็ต้องมาตายไปอย่างไร้ค่าเป็นอาหารให้คนกินถูกฝังอยู่ในกระเพาะของคนแค้นอย่างไร ก็ยากจะเรียกร้องการกระทำอย่างนี้จะต่างจากการกลืนถลกหนังทั้งเป็นตรงไหน? สิ่งที่ต่างกันก็เพียงแค่ลงมือทำเอง หรือจ้างเขาทำ
เคยได้ยินเรื่องเล่าเรื่องหนึ่งในสมัยก่อนว่าครั้งหนึ่งเขากำลังต้มปลาไหลเมื่อต้มเสร็จเขาเปิดฝาหม้อก็ต้องตกใจเมื่อเห็นว่าปลาไหลตัวนั้นทั้งหัวและหางก็โดนต้มสุกแล้วแต่ส่วนลำตัวนั้น(คดงอ)ออกมานอกหม้อท่าทีการตายที่น่าพิสวงเขาถึงคว้านท้องมันออกมาดูจึงได้พบว่าทั้งท้องของมันเต็มไปด้วยไข่ปลาที่แท้ปลาไหลตัวนั้นต้องการปกป้องลูก ๆ ของมันยอมให้หัวและหางโดนต้มก็ไม่ยอมให้ลูก ๆ เป็นอะไรไป
พวกเราต่างก็รู้ว่าการเอาขอไปเกี่ยวปลานั้นโหดร้ายการถอนเขาของวัวกระทิง(งา)ของช้างพลายให้มันค่อย ๆ ตายไปเองนั้นเป็นการกระทำที่โหดร้าย และก็รู้ว่าการกินเนื้อสัตว์ป่าก็เป็นการกระทำที่ไม่ควรแต่ทำไมพวกเราไม่นึกกันบ้างว่าการกินเนื้อไก่เป็ดปลาที่ตั้งอยู่บนโต๊ะก็เป็นการกระทำอันไรมโนธรรมเช่นกันองค์การอนุรักษ์สัตว์ป่าทั่วโลกต่างก็รู้ว่าควรปกป้องอนุรักษ์ปลาวาฬ ปลาโลมาและสัตว์ใกล้สูญพันธ์ทุกชนิดอีกทั้งจัดทำการสื่อข่าวต่าง ๆ ใช้ประโยคที่ดุเดือดที่สุดมาต่อว่าการกระทำทารุณสัตว์ทั้งหลายแต่สิ่งที่เข้าใจยากก็คือเมื่อเขาเหล่านั้นเดินเข้าร้านอาหารทั้งโต๊ะก็ยังคงวางเต็มไปด้วยปลาเป็ดไก่เมื่อเขาใช้มีดใช้ส้อมในมือเฉือนเนื้อที่วางอยู่ในจานบนโต๊ะใช้สองมือฉีกเนื้อปีกไก่หรือน่องเป็ดมากินทำไมถึงไม่รู้สึกว่า
การกระทำอย่างนี้ก็เหี้ยมโหด ?
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:21:30 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 21:00:48 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter



.............................อย่าตัดสินใจกิน เจ เพียงเพราะว่ามันมีผลประโยชน์................................



หากว่าคน ๆ หนึ่งคิดจะกิน เจ เพียงเพราะว่ามันมีผลประโยชน์ต่อร่างกายนั่นก็นับว่าเป็นการเห็นแก่ตัวอย่างยิ่งสิ่งที่สำคัญที่สุด คือการ เอาใจเขามาสู่ใจเราลองคิดในมุมมองของสรรพสัตว์ทั้งหลายใช้จิตใจแห่งเมตตามาตรึกตรองว่า มนุษย์ สมควรหรือไม่ที่จะกินปลากินเนื้อต่อไปลองมองดูเวลาที่คนกินเนื้อกินปลาเรากำลังสร้างความทุกข์ทรมานมากแค่ไหนให้กับเพื่อนร่วมโลกที่น่ารักเหล่านั้นหลายต่อหลายคนกินเนื้อสัตว์มานานหลายสิบปีบางที่ก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่นั่นเป็นเพราะว่าทุก ๆ ครั้งที่มีการ พบปะกับสัตว์เหล่านั้นล้วนอยู่บนโต๊ะอาหารทั้งนั้นรู้แต่เพียงว่าอาหารจานนั้นกำลังโชยกลิ่นหอมหวลชวนชิมแต่ไม่ค่อยจะไปนึกถึงว่าอาหารจานนั้นได้มาอย่างไร
ในฟาร์มสัตว์เรามักจะเห็นลูกวัวน่ารักที่เชื่องนักหนาและก็ยังได้เห็นภาพที่เจ้าของฟาร์มอยู่ร่วมกับลูกวัวเหล่านั้นอย่างอบอุ่นแต่ท่านอย่าได้หลงเชื่อภาพที่ท่านได้เห็นเพราะว่า เมื่อวัวน้อยเหล่านั้นเติบใหญ่แล้วเจ้าของก็จะขายมันให้กับพ่อค้าให้เขาฆ่าอย่างเลือดเย็นเมื่อลูกวัวคลอดออกมาแล้วก็จะถูกส่งไปยังสถานที่เหมาะกับการเลี้ยงดู....................................................
ในร้านอาหารหรูหราหลายแห่ง มีเมนูจานหนึ่งที่ลือชื่อใช้เนื้อวัวปรุงรสแม้ว่าราคามันก็สูงไม่น้อยก็ตามอาหารจานนี้ใช้วิธีปรุงรสอย่างพิเศษเมื่อลูกวัวคลอดออกมาแล้วก็จะถูกส่งไปยังกรงขังที่แคบเล็กพอดีตัวทำให้มันไม่สามารถขยับไปไหนได้ เพื่อที่จะให้เนื้อวัวนั้นอ่อนนุ่มหลังจากนั้นก็จะฉีดยาต่าง ๆ รวมไปถึงยาต้านทานให้ลูกวัวโตไวเพราะฉะนั้นไม่เพียงแค่ทำให้เนื้อวัวอ่อนนุ่ม ยังทำให้มีน้ำเนื้อหอมหวานเพราะว่าชั้นบนจะเป็นไขมันเสียส่วนใหญ่สีสันจึงเป็นสีอ่อนพ่อค้าก็บอกกับผู้บริโภคว่าเนื้อวัวสีนี้มีผลดีกับร่างกายคนเรายิ่งนักฉะนั้นผู้บริโภคจึงยอมที่จะจ่ายเงินราคาสูงเพื่อที่จะได้ลิ้มรส นับว่าเป็นการกระทำที่อำมหิตและโง่เง่ายิ่งนัก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:22:37 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 21:10:31 »

http://img39.imageshack.us/img39/3604/1242385602.jpg
a hearsay from the reporter


พูดถึงหมูและไก่ก็ล้วนมีชีวิตครอบครัวที่น่ารักและอบอุ่นทั้งนั้นพวกเราต่างก็รู้ว่าทั้งไก่และหมูก็ล้วนเป็นสัตว์ที่น่ารักอันที่จริงหมูอาจจะฉลาดยิ่งกว่าสุนัขเสียอีกในสมัยที่ยังทำฟาร์มทำนากันอยู่หมูล้วนเติบโตมาจากฟาร์มกว้างใหญ่อยู่อย่างอิสระเสรีมองดูแม่หมูและลูกหมูคลุกตัวอยู่ในโคลนแม่ไก่พาลูกไก่จิกหาอาหารตามพื้นช่างเป็นภาพแห่งความอบอุ่นของครอบครัวยิ่งนักพวกเขาเหล่านั้นนับว่าเป็นเพื่อนที่ใกล้ตัวมนุษย์ที่สุด
แต่ขณะนี้เขาเหล่านั้นกลับถูกจับมาฆ่าแกงด้วยวิธีอันทารุณต่าง ๆ กลายเป็นอาหารแต่ละจานบนโต๊ะลงไปอยู่ในกระเพาะคน
พวกเราต่างก็เคยเห็นไม่ว่าจะในหนังสือหรือในโทรทัศน์ว่าให้ถนอมรักษาชีวิตสัตว์ ควรจะมีเมตตารักต่อสัตว์แต่สิ่งที่แปลกก็คือความรักและเมตตานี้ ไม่อาจค้นพบได้ในตัวสัตว์เหล่านั้นสำหรับเจ้าของฟาร์มด้วยจุดมุ่งหมายที่จะได้กำไรให้มากที่สุดเขาจะใช้พื้นที่ที่น้อยที่สุดจับสัตว์ขังเข้าไปให้ได้มากที่สุดเมื่อเป็นเช่นนี้สัตว์เหล่านั้นก็ไม่สามารถมีชีวิตครอบครัวที่ดีได้อีก  แม้แต่การจะขยับตัวในกรงไก่ก็ยากนักหนาแต่มันยังคงใช้ขาปีนป่ายเกาะกรงอยู่ตลอดอย่างธรรมชาติของไก่คุ้ยเขี่ยและจิกกันไปจิกกันมาฉะนั้นผู้เลี้ยงจึงตัดปัญหาด้วยการตัดส่วนหนึ่งของขาไก่เพื่อที่จะลดโอกาสที่ไก่จะได้รับบาดแผลและเชื้อโรคจากการจิกระหว่างกันซึ่งจะทำให้ลดกำไรที่จะได้รับ
เป็ดบางตัวนั้นมีชะตาชีวิตที่ทุกข์ ทรมานยิ่งนัก ขาทั้งคู่จะถูกตรึงไว้กับพื้นด้วยตะปูไม่สามารถขยับไปไหนได้บวกกับยาต่าง ๆ ที่ฉีดเข้าไปเพื่อให้มันเจริญเติบโตไวกว่าปกติอย่างนี้จึงทำให้เนื้อนุ่มหอมหวานเป็ดเหล่านี้ไม่เคยได้ลิ้มรสชีวิตการอยู่กันอย่างครอบครัวทั้งชีวิตไม่รู้จักการเดินถูกฉีดยาฉีดวัคซีน ฮอร์โมนและยาต้านทานต่าง ๆ อย่างไม่มีหยุดก่อนที่จะถูกส่งไปยังโรงฆ่าสัตว์ทั้งชีวิตก็ถูกคนฉีดยาพิษเข้าร่างกายถูกทรมานอย่างทารุณแม้แต่โอกาสที่จะสูดดมอากาศบริสุทธิ์ก็ยังไม่มีสัตว์เหล่านี้เติบโตขึ้นทุกวันเมื่อโตได้ที่แล้วก็คือเวลาที่ชีวิตมันจะจบลงพวกมันจะถูกป้อนอาหารมื้อสุดท้ายเพื่อที่จะเพิ่มน้ำหนักตัวจากนั้นก็ทำการชั่งน้ำหนักรอจนเวลาที่เจ้าของของมันนับเงินในมือเสร็จก็ถูกหามขึ้นรถไปทีละตัว ๆ ในเวลานี้ มันก็จะเริ่มรับรู้ถึงความตายที่กำลังจะมาเยือนแต่ก็ไม่มีใครที่จะเห็นใจมันเลยซักคนรถบรรทุกวิ่งผ่านไปอย่างรวดเร็วบนท้องถนนในไม่ช้าพวกมันก็จะถูกส่งไปยังที่สุดท้ายของชีวิตโรงฆ่าสัตว์บางทีเขาอาจจะบอกคุณว่าสัตว์เหล่านั้นเป็นสัตว์ของการค้าขายเกิดมาให้คนกินฤๅการฆ่าสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์เป็นการกระทำอันเหิว้ยมโหดแต่การฆ่าสัตว์ของการค้าขายนั้นไม่เหี้ยมโหด ? ความเจ็บปวดของเขาที่ได้รับไม่เหมือนกันหรือ ? พูดเช่นนี้ผ่อนผันกันไปได้หรือ ? หรือจพูดว่าการฆ่าสัตว์ที่มีจำนวนน้อย คือการกระทำอันโหดร้ายการฆ่าแกงสัตว์จำนวนมากมากิน  จะไม่เป็นการกระทำอันโหดร้ายงั้นหรือ ?เป็นเช่นนั้นหรือมันคือหลักการอะไร ? หรือว่าความรักและเมตตาที่มนุษย์จะมีให้สรรพสัตว์ ต้องดูที่จำนวนของมันว่ามากหรือน้อย ?


หมายเหตุ............ในกระเพาะอาหารเราคือ ป่าช้าเคลื่อนที่วันหนึ่ง ๆ ฝังเข้าไปกี่ร้อยศพ


http://sunset-3155.blogspot.com/2010/04/wake-up-sermon.html
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08 เมษายน 2553 21:34:08 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #9 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 23:31:46 »




 ยิ้ม   ยิ้ม   ยิ้ม
บันทึกการเข้า
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« ตอบ #10 เมื่อ: 08 เมษายน 2553 23:39:12 »


<a href="http://www.youtube.com/watch?v=vJWxQz7GG0w&amp;feature=player_embedded" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.youtube.com/watch?v=vJWxQz7GG0w&amp;feature=player_embedded</a>


 รัก   รัก   รัก

เนื้อเพลง: ศรัทธา

ไม่มี ก็คงต้องมีสักวัน
ความฝันเป็นจริงต้องทนสู้ไป
ไม่นาน เราคงจะได้สมใจ
มุ่งมั่น ทุ่มเทเพียงใดกว่าจะได้มา

เส้นชัย ไม่มาต้องไปหามัน
รางวัล มีไว้ให้คนตั้งใจ
ขวากหนาม ทิ่มแทงก็ผ่านพ้นไป
โลกนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายดาย

ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ

ที่มา รู้ดีไม่รู้ที่ไป คนเรามันเลือกเกิดเองไม่ได้
แต่เราเลือกได้จะเป็นเช่นไร
เลือกได้จะทำตามใจด้วยตัวของเรา
หลายคน เชื่อในเรื่องโชคชะตา
บางคนเชื่อมั่นในตัวเอง
ชีวิต เรากำหนดของเราเอง
จะแพ้ชนะไม่เกรงจะสักเท่าไร

ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ

เรื่องราวมากมายที่ทำ ได้ใจโอบก็หวั่นไหว
แต่ก็มีเหตุผลสำคัญ ให้บางคนยอมถอดใจ เย.......

ใจสู้หรือเปล่า ไหวไหมบอกมา
โอกาสของผู้กล้า ศรัทธาไม่มีท้อ
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: 09 เมษายน 2553 08:43:11 »




ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 09 เมษายน 2553 08:57:01 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.274 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 09 มิถุนายน 2568 18:27:26