| | | ”◎ ฉันจดทำจำกรึกจารึกเขียน |
| สำหรับนักเลงนกทาได้หาเรียน | | จงจำเนียรทางไซร้แต่ไรมา |
| มีทั่วโลกาตรีบุรีภพ | | ก็ปรารภอยู่ด้วยรักซึ่งปักษา |
| เฝ้าเลี้ยงดูชูบำรุงสกุณนา | | จึงค่อยผาสุขภาพเจริญพร |
| อยู่วันหนึ่งสกุณีจะมีเหตุ | | ให้อาเพศเพื่อชีวังจะสังขร |
| โรคทั้งสี่มีตัวเข้ารานรอญ | | จะม้วยมรชีพสิ้นชีวาลัย |
| ให้บิดเบื่อโภชนาอาหาร | | ความสำราญสกุณีหามีไม่ |
| เป็นตานมูกตานแห้งทุกแห่งไป | | จะเหยียบยืนก็มิได้เหมือนเดิมมา |
| ต้องยืนเจ่าเท้าเดียวดูอนาถ | | ด้วยโรครุมเข้าพิฆาตจะสังขา |
| เหลือดำรงที่จะทรงซึ่งกา(ยา) | | สกุณนาเพียงพินาศจะขาดใจ |
| นายวงษาเศรษฐีผู้เจ้าของ | | ก็มัวหมองด้วยปักษาน้ำตาไหล |
| สู้เก็บยาหาเหยื่อเพื่อเจือใจ | | อยู่วันหนึ่งจึงได้ตำรามา |
| นายวงษาไพรสณฑ์คนฉลาด | | จึงพิฆาตทุเลาเบาโรคา |
| แสวงหาสิ่งทรัพย์ยามา | | ได้รักษาสกุณนัยก็หายพลัน |
| แม้นผู้ใดใคร่จะเลี้ยงนกทา | | ให้จดจำยายาขยัน |
| ตำรานี้มีมาช้านานครัน | | สำหรับกันแก้โรคสกุณนา |
| นกใดเป็นไข้ให้ขนพอง | | สยองทั่วโลมาปักษี |
| เอากระเทียมมะขามเปียกกะปิดี | | ทั้งยาดำบดขยี้เข้าด้วยกัน |
| เอาผักเป็ดเสร็จสรรพถ้วนห้าสิ่ง | | เป็น(ยิ่ง)ยอดอย่างทางขยัน |
| เราได้บดป้อนหายมลายครัน | | สำคัญมันจำไว้ให้จงดี |
| หนึ่งเป็นตานมูกจมูกกลัด | | หายใจคัดครึครอคอปักษี |
| เอาหัวหอมใบมะระกะปิดี | | รากผักชีใบกระเพรามาเท่ากัน |
| บดละลายด้วยน้ำปลาปากไห | | เผาถ่านกะลาใส่เป็นแม่นมั่น |
| แล้วอมพ่นสกุณีก็ดีครัน | | จมูกกลัดอัดอั้นก็หายไป |
| ตำรับนี้มีมาแต่ครั้งก่อน | | สำหรับผ่อนโรคร้ายให้หายได้ |
| จงมณสิการจำไว้ | | ท่านแต่งไว้เกิดกับสำหรับกัน |
| พาตานแห้งแต่งยาไว้เจ็ดสิ่ง | | ให้เอาขิงกับกระเทียมเป็นแม่นมั่น |
| ขมิ้นอ้อยใบพุดทราทั้งสองจันทน์ | | เป็นสำคัญคือยาใต้ใบ |
| เป็นยาสดบดละลายกระสายมูตร | | ปั้นเท่าเม็ดมะกรูดให้จงได้ |
| เจ็ดก้อนป้อนปั้นทันใจ | | เป็นยาประจำภายในสกุณนี |
| ถ้าเป็นไข้เศร้าใจศีรษะสั่น | | โลมาชันพองทั่วตัวปักษี |
| เอาพริกขิงกระเทียมกะปิดี | | บดป้อนสกุณนีเร็วไว |
| นกใดเป็นไข้กระแตเวียน | | ประจักษ์เจียนชีพม้วยตักษัย |
| เอารากมะอึกมาทันใด | | เอาแช่น้ำลงไว้หนัง(หัว)เกวียน |
| จึงเอายาแช่น้ำมาให้กิน | | ปักษินก็จะหายเวียนเศียร |
| ถ้าทิ้งไว้จะพินาศขาดเตียน | | ถ้าเป็นโรคกระแตเวียนสิบห้าวัน |
| นกใดเลี้ยงไว้ไม่ขันขึ้น | | ใจทะมึนขุ่นข้องไม่อยากขัน |
| ถึงขวบหนึ่งสองขวบประจวบกัน | | ไม่แขวกขวักปากขันสักเวลา |
| ท่านให้เอามะแว้งทั้งสอง | | ตำกรองเป็นผงอย่างว่า |
| รากมะเขือขื่นเล่าเอามา | | คุลีการประสมเข้าด้วยกัน |
| จึงประสมข้าวเปลือกบริสุทธิ์ | | แช่มูตรสามวันให้จงได้ |
| ให้นกกินขันขึ้นทันใด | | กำหนดให้แน่ในตำรา |
| ถ้านกใดใจดำไม่ขันขึ้น | | ให้ยักเอาขนานอื่นจงเร่งหา |
| ใบกระเพราเถาตำลึงแมงลักมา | | ยาดำมะเขียมเปียกเถ้าใจไฟ |
| บดละลายด้วยกระสายน้ำตำลึง | | แล้วจึงป้อนปั้นให้จงได้ |
| สิบห้าวันขันขึ้นทันใด | | จึงจัดจำทำไว้ในตำรา |
| นกใดยืนตื่นน่าสงสาร | | อย่าเนิ่นนานเร่งรัดให้จัดหา |
| ใบกะเม็งตานมอนคันทา | | ทั้งสามสิ่งสรรพยาเสมอกัน |
| จึงให้ตำตากแดดพอหมาดหมาด | | หนึ่งอย่าขาดดินปลวกจงแม่นมั่น |
| เผาเสียให้สุกแล้วคลุกกัน | | กับยานั้นใส่ให้สกุณนา |
| ถ้าทิ้งไว้ไม่นานจะมรณา | | โดยตำราว่าไว้เป็นใจความ |