บอร์ด สปสช. เพิ่มประสิทธิภาพฉีดวัคซีนป้องกันโปลิโอเป็น 2 เข็ม ในเด็กแรกเกิด
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-02-26 14:29</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>บอร์ด สปสช. เห็นชอบ ‘ขยายขอบเขตสิทธิประโยชน์บริการวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด IPV’ จาก 1 เข็มเป็น 2 เข็ม ดูแลเด็กไทยแรกเกิดทุกคนทุกสิทธิ เพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโปลิโอ พร้อมอนุมัติ ‘แผนจัดหาวัคซีน IPV’ ปีงบฯ 67 รวมวงเงินงบประมาณ 146 ล้านบาท</p>
<p><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53553092398_2c4e8bdf31_k_d.jpg" /></p>
<p>26 ก.พ. 2567 นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เปิดเผยว่า ในการประชุมบอร์ด สปสช. เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2567 ที่ผ่านมา ได้มีการพิจารณาและเห็นชอบ “ข้อเสนอการขยายขอบเขตสิทธิประโยชน์ บริการวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอชนิดฉีด (IPV)” จาก 1 เข็มเป็น 2 เข็ม และแผนการจัดหาวัคซีน IPV เพิ่มเติมในปีงบประมาณ 2567” ที่นำเสนอโดย รศ.ประสบศรี อึ้งถาวร ประธานคณะอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตในการให้บริการสาธารณสุข และ นางวราภรณ์ สุวรรณเวลา รองเลขาธิการ สปสช.</p>
<p>นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เดิมสิทธิประโยชน์บริการวัคซีนป้องกันโรคโปลิโอ ซึ่งอยู่ภายใต้บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค (PP) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ หรือ บัตรทอง 30 บาท ที่ครอบคลุมการให้บริการเด็กไทยแรกเกิดทุกคน ทุกสิทธิหลักประกันสุขภาพ จะเป็นการให้บริการด้วยวัคซีนชนิดฉีด 1 เข็ม และชนิดหยอด (OPV) 5 ครั้งตามช่วงอายุที่กำหนด</p>
<p>ในช่วงที่ผ่านมา กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้เสนอให้ขยายขอบเขตวัคซีนชนิดฉีด IPV เป็น 2 เข็ม เนื่องจากพบว่าสามารถเพิ่มภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่ 2 และเตรียมพร้อมรองรับการระบาดของโปลิโอจากสายพันธุ์วัคซีนกลายพันธุ์ สายพันธุ์ที่ 2 (VDPV2) รวมถึงในหลายประเทศมีการใช้การฉีดวัคซีน IPV 2 เข็ม และตามด้วยชนิดหยอด OPV อีก 2 ครั้ง ทว่า ในขณะนั้นยังคงมีความเห็นต่างในเรื่องความจำเป็น ความพร้อมของระบบบริการ รวมทั้งภาระงบประมาณ จึงดำเนินการในรูปแบบของการนำร่องบริการในปี 2566 และจากการติดตามผลบริการพบว่า มีผลตอบรับที่ดี</p>
<p>ฉะนั้น กรมควบคุมโรคจึงได้นำเรื่องนี้กลับมาเสนออีกครั้งที่เป็นไปตามมติของคณะอนุกรรมการสร้างเสริมสุขภาพภูมิคุ้มกันโรค โดยมีเหตุผลสำคัญคือประสิทธิผลและประสิทธิภาพที่ดีในการป้องกัน รวมทั้งสอดคล้องกับคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)ที่ปรับเพิ่มเติม และจากการพิจารณาในวันนี้ บอร์ด สปสช. ก็ได้เห็นชอบตามข้อเสนอ</p>
<p>ด้าน นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ด้วยการเพิ่มวัคซีน IPV เป็น 2 เข็ม ส่งผลให้ต้องจัดหาวัคซีนนี้เพิ่มเป็นจำนวนประมาณ 1 ล้านเข็มต่อปี ซึ่งบางส่วนได้จัดหาแล้วตามแผนความต้องการและการจัดหาวัคซีนที่คณะกรรมการได้เห็นชอบแล้ว ดังนั้นจึงต้องจัดหาเพิ่มอีก 5.2 แสนเข็ม ซึ่งต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีก 145.86 ล้านบาท โดยในส่วนงบประมาณนี้ สปสช. จะใช้งบประมาณที่ประหยัดได้จากการจัดซื้อร่วมตามแผนการจัดซื้อยาปีงบประมาณ 2567 มาดำเนินการ เพื่อให้เป็นไปตามแผนการฉีดวัคซีนฯ </p>
<p>“การขยายสิทธิประโยชน์บริการวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) เพิ่ม 1 เข็ม (รวมเป็น 2 เข็ม) ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้เป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก และในระหว่างการจัดหาวัคซีนเพิ่มเติมให้เพียงพอสำหรับการฉีด 2 เข็ม มีคำแนะนำให้นำวัคซีน IPV ที่มีอยู่มาใช้กับเด็กอายุ 2 เดือนก่อนเป็นอันดับแรก จากเดิมที่กำหนดให้วัคซีนชนิดฉีด 1 เข็มในเด็กอายุ 4 เดือน และ สปสช.จะเสนอประธานลงนามประกาศสิทธิประโยชน์ที่ปรับเพิ่มเติมดังกล่าว และจะแจ้งให้หน่วยบริการรับทราบต่อไป” เลขาธิการ สปสช. กล่าว</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/02/108225 







