เผ่า DOGON แห่งแอฟริกา

วัฒนธรรม Dogon เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของงานศิลปะและประเพณีของชนเผ่า
แต่ส่วนใหญ่รู้จักชาวเผ่า Dogon กันในเรื่องจักรวาลวิทยาที่เก่าแก่และแม่นยำ
และตำนานของบรรพบุรุษจากซิเรียส

เผ่า DOGON แห่งแอฟริกา

ชาวเผ่าโดกอน (Dogon) อาศัยอยู่ในพื้นที่ราบสูงตอนกลางของสาธารณรัฐมาลีเป็นหลัก เชื่อกันว่าพวกเขาสืบเชื้อสายมาจากชาวอียิปต์โบราณ และมีความรู้อย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับตำนานทางดาราศาสตร์และการจัดตำแหน่งของท้องฟ้าซึ่งย้อนกลับไปหลายพันปีจนถึงประมาณ 3,200 ปีก่อนคริสตกาล ชาวเผ่ามีความโดดเด่นด้วยการปฏิบัติทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ความเชื่อทางศาสนาที่สลับซับซ้อน และประเพณีอันยาวนาน ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานหลายศตวรรษ ต้นกำเนิดของพวกเขาจึงได้รับความสนใจอย่างมากจากนักวิชาการ ชาวเผ่าโดกอนพูดภาษาไนเจอร์-คองโกได้หลายภาษา โดยภาษา Dogon เป็นภาษาที่แพร่หลายที่สุด น่าสังเกตว่าหมู่บ้านต่างๆ มีภาษาถิ่นที่แตกต่างกัน ซึ่งบางครั้งก็ไม่เข้าใจกัน

ชาวเผ่าโดกอน มีชื่อเสียงในด้านความรู้ทางดาราศาสตร์ขั้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับระบบดาวซิเรียส รวมถึงดาวข้างเคียงที่มองไม่เห็น ซิเรียส บี จักรวาลวิทยาที่ซับซ้อนและการปฏิบัติทางศาสนามีศูนย์กลางอยู่ที่พระเจ้าผู้สร้างอัมมา และเทพีนอมโม การบูชาบรรพบุรุษเป็นส่วนสำคัญของโลกฝ่ายวิญญาณ ซึ่งมีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันและพิธีกรรมต่างๆ ศิลปะเชิงสัญลักษณ์ เช่น หน้ากากไม้ และสถาปัตยกรรมริมหน้าผา แสดงถึงลักษณะการแสดงออกทางวัฒนธรรม ตามเนื้อผ้า สังคมชาวเผ่าโดกอน จัดระเบียบตามหน่วยครอบครัวขยาย โดยผู้อาวุโสมีอำนาจสำคัญ อย่างไรก็ตาม พวกเขาเผชิญกับความท้าทายจากความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อม ความแห้งแล้ง และความไม่มั่นคงในภูมิภาค ซึ่งคุกคามวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของพวกเขา อย่างไรก็ตามชาวเผ่าโดกอน ก็ยังคงรักษามรดกทางวัฒนธรรม นักวิชาการที่น่าสนใจ และผู้มาเยือนเอาไว้

ความสำคัญของ Dogon เข้าสู่โลกตะวันตกในปี 1930 เมื่อนักมานุษยวิทยาชาวฝรั่งเศสได้ยินตำนานจากนักบวช Dogon เป็นครั้งแรก ตำนานเล่าสืบต่อกันมาหลายชั่วอายุคนและได้รับการบันทึกผ่านงานศิลปะ Dogon พูดถึงเผ่าพันธุ์นอกโลกจากระบบ Sirius Star System ซึ่งเรียกว่า Nommos ที่มาเยี่ยมพวกเขาบนโลก Nommos เป็นเผ่าพันธุ์สัตว์น้ำของสิ่งมีชีวิตที่คล้ายมนุษย์คล้ายกับนางเงือก สิ่งนี้น่าทึ่งมากที่ได้ยินเพราะเทพไอซิสแห่งบาบิโลนเป็นภาพนางเงือกและเกี่ยวข้องกับซิเรียส Dogon กล่าวว่า Nommos ลงมายังพื้นโลกจากสวรรค์ในเรือลำใหญ่พร้อมกับลมแรงและเสียงดัง Dogon อธิบายว่าระบบ Sirius มีดาวคู่ แต่ไม่สามารถมองเห็นได้จากโลกเนื่องจากความสว่างของ Sirius A

หลายปีต่อมาในปี 1970 ในที่สุดนักดาราศาสตร์ก็มีกล้องโทรทรรศน์ที่ดีพอที่จะซูมเข้าสู่ Sirius และพวกเขาก็ถ่ายภาพ Sirius B. The Dogon ถูกต้อง! พวกเขายังระบุดวงจันทร์ของดาวพฤหัสบดีและวงแหวนของดาวเสาร์โดยไม่ต้องใช้กล้องโทรทรรศน์ พวกเขารู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? ซิเรียสเอเป็นดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้าอยู่ห่างออกไปเพียง 8 ปีแสง ซิเรียสบีเป็นดาวแคระขาวที่มีน้ำหนักมากหนาแน่นและมีขนาดเล็กกว่าโลก แต่มีน้ำหนักมากกว่าดวงอาทิตย์ถึง 8 เท่า มันถูกผูกไว้ด้วยแรงโน้มถ่วงกับซิเรียส A และเป็นส่วนหนึ่งของระบบสุริยะเดียวกัน ดาวแคระขาวก่อตัวขึ้นเมื่อดาวฤกษ์หมดเชื้อเพลิง พวกมันเริ่มยุบตัวเองไม่ใหญ่พอที่จะซูเปอร์โนวา ย้อนกลับไปเป็นเวลาหลายร้อยปีนับตั้งแต่ที่ Nommos มาเยี่ยม Dogon พวกเขาได้จัดพิธีทุกๆ 50 ปีเพื่อเฉลิมฉลองการโคจรของ Sirius A และ Sirius B. (ใจความหลักของเนื้อหานี้ มันได้ทำให้เรารู้และเข้าใจความจิงของบรรพบุรุษของเรา ผู้ที่มาจากดวงดาวในจักรวาล มนุษย์ต่างดาวไม่ได้เป็นเพียงเรื่อเพ้อเจ้อ แต่ทั้งหมดทั้งมวลนั้นมันมีอยู่ใน DNA ของเรา

Dogon ในอารยธรรมที่ห่างไกลในภูมิภาคที่ราบสูงตอนกลางของสาธารณรัฐมาลี ในแอฟริกา
บรรพบุรุษของพวกเขาบันทึกไว้ว่า แหล่งที่มาของหลักฐานที่น่าทึ่งที่สุดแห่งหนึ่งของบรรพบุรุษของเราที่มาจากดวงดาว
คือประวัติศาสตร์ของเผ่า Dogon แห่งแอฟริกา มีอยู่ระหว่าง 400,000 ถึง 800,000 ก่อนคริสตกาล