[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 19:14:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ แหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก แห่งที่ ๗ ของไทย จ.เพชรบูรณ์  (อ่าน 318 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6096


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 09 กุมภาพันธ์ 2568 15:22:02 »






อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ
แหล่งมรดกโลก โดยองค์การฯ ยูเนสโก แห่งที่ ๗ ของประทศไทย
อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์


อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นแหล่งอารยธรรมสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ภายใต้การดูแลของกรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ตั้งอยู่บนที่ราบห่างจากแม่น้ำป่าสักไปทางทิศตะวันออกราว ๔ กิโลเมตร ในอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์  ครอบคลุมโบราณสถานในเมืองเก่าศรีเทพ พื้นที่ราว ๔.๗ ตารางกิโลเมตร (ประมาณ ๒,๙๐๐ ไร่) ประกอบด้วยชุมชนโบราณในลักษณะเมืองซ้อนเมืองขนาดใหญ่ และกลุ่มโบราณสถานสำคัญที่มีความโดดเด่นทั้งด้านศิลปกรรม สถาปัตยกรรม ศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งสะท้อนความเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องกันถึง ๓ ยุค ตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ตอนปลาย ยุคทวารวดีจนถึงยุคขอมเรืองอำนาจ ภายใต้ชื่อ เมืองโบราณศรีเทพ โดยเฉพาะวัฒนธรรมทวารวดีและเขมร ที่รุ่งเรืองนานกว่า ๘๐๐ ปี ก่อนจะทิ้งร้างไปด้วยโรคระบาดร้ายแรงหรือภัยแล้ง ในช่วงปลายพุทธศตวรรษที่ ๑๘ ถึงต้นพุทธศตวรรษที่ ๑๙ ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่วัฒนธรรมสุโขทัยและอยุธยาจะเจริญรุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่ ในบริเวณลุ่มแม่น้ำป่าสัก

มรดกโลกแห่งที่ ๗ ของไทย
กรมศิลปากร ใช้เวลาขุดตกแต่งและบูรณะเมืองโบราณศรีเทพนาน ๑๐ ปี แปรสภาพเนินเขากลางชุมชน กลายเป็นศาสนสถานขนาดใหญ่ อายุราว ๑,๕๐๐-๑,๗๐๐ ปี ซึ่งมีการประเมินว่ามีขนาดใหญ่เป็นอันดับ ๒ รองจากอินเดียเท่านั้น   ตามข้อมูลของกรมศิลปากร ระบุว่า อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ เป็นหนึ่งในอุทยานประวัติศาสตร์ ๑๐ แห่งของไทยที่จัดตั้งขึ้นโดยกรมศิลปากร ในปี พ.ศ.๒๕๒๗  และในวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖ อุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก

เมืองเก่าศรีเทพ เดิมมีชื่อว่า "เมืองอภัยสาลี" หรือ "เมืองไพศาลี"  ชื่อ “ศรีเทพ” เป็นการอนุโลมตามพระวินิจฉัยสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งวิชาประวัติศาสตร์และโบราณคดีไทย ที่ได้ทรงสันนิษฐานไว้ในคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลเพชรบูรณ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงมหาดไทยในปี ๒๔๔๗-๒๔๔๘








หลังจากจ่ายค่าธรรมเนียมการเข้าชมอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพแล้ว
จะมีรถนำเที่ยวซึ่งกรมศิลปากรเป็นผู้ให้บริการ พร้อมเล่าประวัติของโบราณสถานที่สำคัญต่างๆ ของเมืองโบราณศรีเทพ ซึ่งประกอบด้วยสถานที่ดังต่อไปนี้


----------------------------------

๑. อาคารหลุมขุดค้นทางโบราณคดี
จัดแสดงโครงกระดูกมนุษย์และโครงกระดูกช้าง ที่ขุดค้นพบทางโบราณคดีเมื่อปี ๒๕๓๑ สะท้อนการตั้งถิ่นฐานของชุมชน
ในระยะแรกเริ่มสมัยก่อนประวัติศาสตร์ภายในเมืองโบราณศรีเทพที่มีมากว่า ๒,๐๐๐ ปี ก่อนที่จะมีการพัฒนาขึ้นมาเป็น
สังคมเมือง โดยการรับวัฒนธรรมทวารวดีและเขมรตามลำดับ






๒. ปรางค์สองพี่น้อง
สถาปัตยกรรมในวัฒนธรรมเขมร มีลักษณะเป็นปราสาทที่ก่อด้วยอิฐสององค์ ตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงเดียวกัน
แม้ส่วนยอดพังทลายไปจนหมดสิ้น แต่องค์เล็กยังหลงเหลือทับหลังศิลาทรายจำหลักเป็นรูปอุมามเหศวร
ที่มีสภาพสมบูรณ์ประดับอยู่










ลักษณะทางสถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุ ทำให้อนุมานได้ว่าปรางค์สองพี่น้อง สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยเนื่องในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) ลัทธิไศวนิกายในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๗ แล้วต่อมาจึงได้ถูกเปลี่ยนแปลงเป็นศาสนสถานเนื่องในพุทธศาสนาลัทธิมหายานในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗ (พ.ศ.๑๗๒๔-๑๗๖๐)

บริเวณทางเดินรูปกากบาทด้านหน้าปรางค์สองพี่น้อง มีการค้นพบเทวรูปพระอาทิตย์หรือสุริยเทพผู้เป็นเทพแห่งแสงสว่างและความอบอุ่น สลักจากศิลาทรายที่มีกำหนดอายุอยู่ในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓ ซึ่งนับเป็นหลักฐานสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อในศาสนาฮินดูที่เคารพนับถือในพระอาทิตย์หรือสุริยเทพ และมีพิธีกรรมบางอย่างที่เกี่ยวเนื่องกับประเพณีมหาสงกรานต์ที่มีการพบเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยปัจจุบัน




๓. ปรางค์ศรีเทพ
สถาปัตยกรรมเนื่องในวัฒนธรรมเขมร  เป็นปราสาทที่ก่อด้วยอิฐตั้งอยู่บนฐานศิลาแลงขนาดใหญ่   อนุมานได้ว่าคงสร้างขึ้น
เพื่อเป็นเทวาลัยเนื่องในศาสนาฮินดู (พราหมณ์) ลัทธิไศวนิกายในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ ต่อมามีการพยายามซ่อมแซม
ดัดแปลงแต่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อใช้เป็นศาสนสถานเนื่องในพุทธศาสนาลัทธิมหายานในรัชสมัยของพระเจ้าชัยวรมันที่ ๗






สระน้ำโบราณ ใกล้โบราณสถานปรางค์ศรีเทพ



๔. โบราณสถานเขาคลังใน
เขาคลังใน (Khao Klang Nai)
เป็นศาสนสถานโบราณสถานสำคัญประจำเมืองที่มีขนาดใหญ่ในวัฒนธรรมทวารวดี
ตั้งอยู่กลางพื้นที่เมืองในของเมืองโบราณศรีเทพ




ปูนปั้นรูปคนแคระแบกที่เขาคลังใน ซึ่งใช้บ่าและท่อนแขนตอนบนรองรับฐานเจดีย์




ชื่อ “เขาคลังใน” มีที่มาจากความเชื่อของคนในท้องถิ่นว่าเป็นคลังสมบัติ หรือคลังอาวุธ  ผลการศึกษาทางโบราณคดีพบว่า เขาคลังในเป็นสถูปหรือวิหารขนาดใหญ่ในพุทธศาสนาที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองโบราณศรีเทพ สร้างขึ้นพร้อมกับสมัยแรกสร้างเมือง อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๒ หรือราว ๑,๕๐๐ ปีมาแล้ว

เขาคลังในเป็นสถาปัตยกรรมแบบทวารวดี ก่อด้วยศิลาแลงฉาบปูน อยู่ในผังสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาดความกว้าง ๒๘ เมตร ยาว ๔๔ เมตร สูงประมาณ ๑๒ เมตร บันไดทางขึ้นอยู่ทางด้านทิศตะวันออก ด้านบนของโบราณสถานเป็นลานกว้าง มีร่องรอยของอาคารหรือสถูปก่อด้วยอิฐและศิลาแลง ส่วนฐานด้านล่างประดับปูนปั้นลายพันธุ์พฤกษา ลายเรขาคณิต และคนแคระแบก  นอกจากโบราณสถานหลักภายในกำแพงแก้ว ยังมีเจดีย์ราย วิหาร และฐานอาคารขนาดเล็กอีกหลายแห่ง

สันนิษฐานว่าเมื่อแรกสร้าง เขาคลังในเป็นศาสนสถานเนื่องในพุทธศาสนานิกายเถรวาท เนื่องจากขุดค้นพบพระพุทธรูปอิทธิพลศิลปะอินเดียแบบคุปตะ และหลักฐานจารึกคาถาในพุทธศาสนาแบบเถร ต่อมาราวพุทธศตวรรษที่ ๑๔ ได้เปลี่ยนเป็นพุทธสถานในนิกายมหายาน เห็นได้จากการพบพระโพธิสัตว์สำริดหลายองค์ และคงความสำคัญเรื่อยมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ ๑๖-๑๗ จากนั้นจึงถูกทิ้งร้างในในราวพุทธศตวรรษที่ ๑๘




ธรรมจักรศิลาขนาดใหญ่อายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๓-๑๔  ชี้ให้เห็นว่าชุมชนเมืองศรีเทพโบราณนับถือศาสนาพุทธ




ทางเดืนสมัยโบราณ






ร้านกาแฟสดในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ


ประติมากรรมพระสุริยะเมืองศรีเทพ สูงราว ๔๒ เซนติเมตร เป็นเทวรูปศิลปะแบบอินเดียสมัยจักรวรรดิคุปตะ
ในท่าประทับยืนตรง สวมหมวกทรงกระบอกสี่เหลี่ยม สวมกุณฑล [ตุ้มหู] ทรงกลมและกรวยศอ เบื้องหลัง
พระเศียรมีประภามณฑลทรงกลม พระกรทั้งสองข้างและพระบาทหัก มีอายุราวพุทธศตวรรษที่ ๑๐
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ที่มาข้อมูล/ภาพ)


พระสุริยเทพ พบที่เมืองเก่าศรีเทพ
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (ที่มาข้อมูล/ภาพ)

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.982 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 12 ชั่วโมงที่แล้ว