25 มิถุนายน 2568 11:28:54
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
.:::
ประวัติ และ มหาปณิธาน 48 ประการของพระอมิตาภพุทธะ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ประวัติ และ มหาปณิธาน 48 ประการของพระอมิตาภพุทธะ (อ่าน 2581 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7886
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 130.0.0.0
ประวัติ และ มหาปณิธาน 48 ประการของพระอมิตาภพุทธะ
«
เมื่อ:
14 พฤศจิกายน 2567 13:05:22 »
Tweet
พระอมิตาภพุทธะ
พระอมิตาภพุทธะ (สันสกฤต: अमिताभ बुद्ध) เป็นพระธยานิพุทธะที่ประทับในแดนสุขาวดี
ซึ่งเป็นพุทธเกษตรแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก พระองค์มีรูปกายเป็นสีแดง
นับถือกันมากในนิกายสุขาวดี ควบคู่กับพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์หรือเจ้าแม่กวนอิม
ประวัติ
มหาสุขาวตีวยูหสูตรระบุว่าก่อนจะตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า พระอมิตาภะเคยเกิดเป็นกษัตริย์ชื่อ "พระเจ้าธรรมกร"
ต่อมาผนวช และได้แสดงปณิธาน 48 ประการเฉพาะพระพักตร์พระโลเกศวรราชพุทธะว่า
ขอให้มีพระองค์ได้มีพุทธเกษตรแห่งหนึ่งเป็นโลกธาตุดินแดนบริสุทธิ์ไว้ช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์มีชื่อว่าสุขาวดี
อมิตาพุทธสูตรยังระบุว่าพระอมิตาภะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าเมื่อสิบกัปที่แล้ว หลังจากปรินิพพานจึงประทับ ณ สุขาวตีพุทธเกษตรนั้น
ซึ่งเป็นที่ใช้ในประกาศพระธรรม ไม่มีอบายภูมิ มีแต่โพธิสัตวภูมิ เพื่อเป็นการสงเคราะห์สรรพสัตว์ให้เข้าสู่นิพพานต่อไป
เชื่อกันว่าเมื่อพระอมิตาภพุทธะเสด็จปรินิพพานแล้ว พระอวโลกิเตศวรจะทรงบรรลุเข้าเป็นพระพุทธเจ้าในแดนสุขาวดีแทน
พระองค์มีหลายพระนาม เช่น อมิตายุส (อ่านว่า ยุส - สะ) แปลว่า พระผู้มีอายุกาลไม่มีประมาณ
และอมิตาภะ แปลว่า พระผู้มีแสงส่องสว่างไม่มีประมาณ เป็นพระธยานิพุทธะ 1 ใน 5 พระองค์ ประทับอยู่ทางตะวันตกของพุทธมณฑล
พระกายสีแดงก่ำ เป็นต้นตระกูลของพระโพธิสัตว์ตระกูลปัทมะ หมายถึงปัญญาที่ทำให้มนุษย์รู้จักผิดชอบชั่วดี และเลือกปฏิบัติในทางที่ถูก
สัญลักษณ์คือดอกบัว พระพุทธเจ้าในตระกูลนี้ทั่วไปใช้บัวแดง พระโพธิสัตว์ปางดุใช้บัวขาว
ภาพวาดของพระองค์มักวาดให้พระหัตถ์ยาวหมายถึงความสามารถที่จะเอื้อมพาสรรพสัตว์เข้าสู่แดนสุขาวดี
มีพระชิวหายาวตระหวัดได้รอบโลกหมายถึงความสามารถในการแสดงธรรมได้ทั่วโลก
ทรงนกยูงเป็นพาหนะนับถือส่วนใหญ่ในพุทธศาสนานิกายมหายาน ควบคู่กับพระอวโลกิเตศวรหรือเจ้าแม่กวนอิมในภาษาไทย
ท่านเป็นพระพุทธเจ้าในสุขาวดีพุทธภูมิห่างจากโลกมนุษย์ ทางทิศตะวันตกสิบล้านล้านกิโลเมตร ใช้เวลาสร้าง 5 กัป
จึงสำเร็จเป็นอาณาจักรหนึ่ง ชื่อ แดนสุขาวดี (เก็กลกซือไก) จุดประสงค์ในการสร้าง เพื่อเป็นที่อยู่ของสัตว์โลกที่สำเร็จธรรม
ขอเพียงมีปณิธานแน่วแน่จริงใจและสวดคำว่า อามีทอฝอ (แต้จิ๋ว: อานีทอฮุก) อยู่เสมอ ยามใกล้จะสิ้นใจจะปรารถนาที่จะลาโลกไป
พระอมิตาภพุทธะ พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ และพระมหาสถามปราปต์โพธิสัตว์ จะเสด็จมารับไปยังแดนสุขาวดี
ดังเช่นหลวงจีนในนิกายมหายานนิยมท่องกัน
เพราะเป็นความเชื่อส่วนนิกาย ไม่ได้บันทึกไว้ในพระไตรปิฏก และไม่พบในนิกายเถรวาท
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7886
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 130.0.0.0
Re: ประวัติ และ มหาปณิธาน 48 ประการของพระอมิตาภพุทธะ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
14 พฤศจิกายน 2567 13:11:33 »
ตามอรรถาธิบายของจีนได้กล่าวสรุปความพระมหาปณิธานของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
ที่เคยทรงประกาศไว้เฉพาะเบื้องพระพักตร์แห่งพระโลเกศวรราชาพุทธเจ้าตอนเสวยพระชาติ
เป็นธรรมากรภิกษุทั้ง ๔๘ ประการดังนี้
๑. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากในโลกธาตุของเราหากมีนรก เปรต เดรัจฉานแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุ ภายหลังที่สิ้นชีพลงแล้ว ยังตกสู่อบายภูมิทั้ง ๓ อีกไซร้ ก็จักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ทั้งหมดในโลกธาตุมิได้มีรูปกายดั่งสุวรรณบริสุทธิ์แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมีรูปลักษณ์ที่แตกต่างกัน ยังมีศุภลักษณ์และอัปลักษณ์อยู่ไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๕. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุไร้ซึ่งบุพเพนิวาสานุสติญาณ มิสามารถล่วงรู้ย้อนไปอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะ กัลป์ได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๖. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมิอาจบรรลุถึงทิพยจักษุ แล้วแลเห็นพุทธประเทศต่างๆจำนวนอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๗. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมิอาจบรรลุถึงทิพยโสต ได้สดับในพระพุทธวัจนะทั้งปวงจำนวนอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๘. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมิอาจบรรลุถึงเจโตปริยญาณ ได้ล่วงรู้ถึงความระลึกแห่งจิตของสรรพสัตว์ในพุทธประเทศจำนวนอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๙. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมิอาจบรรลุถึงอภิญญาฤทธิ์ โดยในชั่วขณะหนึ่งหากมิสามารถผ่านล่วงบรรดาพุทธประเทศจำนวนอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๐. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุเกิดสัญญาความยึดมั่น ยังละโมบมีแผนการณ์เพื่อสังขารแห่งตนแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๑. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุมิอาจธำรงมั่นในสมาธิตราบถึงพระนิพพานได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๒. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากรัศมีประภาสถูกจำกัดขอบเขตปริมาณ มิอาจฉายส่องไปยังพุทธประเทศจำนวนอย่างน้อยร้อยพันโกฏินยุตะแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๓. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากอายุกาลถูกจำกัดขอบเขตปริมาณ อยู่น้อยกว่าร้อยพันโกฏินยุตะกัลป์แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๔. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากสามารถคณนาซึ่งปริมาณของบรรดาสาวกในโลกธาตุได้ ฤๅสามารถคณนาถึงปริมาณสรรพสัตว์ในตรีสหัสมหาสหัสโลกธาตุที่ล้วนได้สำเร็จเป็นปัจเจกโพธิ หากด้วยอาศัยระยะเวลาหนึ่งร้อยกัลป์ในการคำนวณนับจนสามารถทราบถึงจำนวนทั้งหมดนั้นได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๕. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุไร้ซึ่งอายุกาลที่มิอาจประมาณได้ เว้นเสียแต่เป็นปณิธานที่จักย่นอายุกาลของตนเอง (เพื่อนิพพาน) เท่านั้น หากมิเป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๖. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุ ยังได้สดับยลยินถึงนามของอกุศลอยู่ไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๗. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากบรรดาพระพุทธเจ้าจำนวนอนันตะในทศทิศโลกธาตุ มิได้สรรเสริญสดุดีในนามของเราอย่างอุโฆษเลื่องลือแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๑๘. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากสรรพสัตว์ในทศทิศ ที่ยินดีในศรัทธาด้วยความเป็นที่สุดแห่งใจ ปรารถนาอุบัติยังโลกธาตุของเรา แม้นกระทั่งได้ระลึกถึงเรา ๑๐ วาระ แล้วมิได้ไปถืออุบัติแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ เว้นเพียงแต่ผู้ก่ออนันตริยกรรม และผู้ทำลายพระสัทธรรม
๑๙. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากสรรพสัตว์ในทศทิศได้บังเกิดมีโพธิจิต ได้บำเพ็ญซึ่งสรรพกุศลมีปณิธานมุ่งมั่นยิ่งเป็นที่สุดแห่งใจ ปรารถนาไปอุบัติยังโลกธาตุของเรา แลเมื่อคราวายชนม์แล้ว สมมติว่าเราและบรรดามหาชนผู้แวดล้อมมิอาจไปปรากฏกายเบื้องหน้าของผู้นั้นได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๐. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากสรรพสัตว์ในทศทิศได้สดับนามของเรา มีจิตพันผูกระลึกถึงโลกธาตุของเรา เป็นผู้สั่งสมไว้ซึ่งกุศลมูลทั้งปวง แล้วมีจิตอุทิศเพื่อมุ่งไปอุบัติยังโลกธาตุของเราด้วยความเป็นที่สุดแห่งใจ หากมิอาจสำเร็จซึ่งผลนั้นแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๑. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุ มิได้สำเร็จบริบูรณ์ในทวัตติงสมหาบุรุษลักษณะทั้ง ๓๒ ประการแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๒. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาคณะโพธิสัตว์ทั้งปวงจากพุทธเกษตรอื่นๆ ที่มาถืออุบัติยังโลกธาตุของเรานั้น หากเป็นเอกชาติปฏิพันธ์โพธิสัตว์ แล้วไซร้(เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ) เว้นแต่จักเป็นผู้ที่มีมูลปณิธานดั้งเดิมของตนที่ยังจะสั่งสอนสรรพสัตว์ต่อไปเป็นเหตุ แลด้วยความตั้งใจนั้นอันเป็นคุณธรรมมูลฐานที่ตนได้สั่งสมไว้ด้วยความเหนื่อยยาก ในการโปรดสรรพสัตว์ให้หลุดพ้น เพื่อท่องเที่ยวไปในพุทธเกษตรทั้งปวงเพื่อบำเพ็ญโพธิสัตวจริยา เพื่อถวายสักการบูชาพระพุทธตถาคตเจ้าในทศทิศทั้งปวง เพื่ออนุศาสน์สอนสั่งสรรพสัตว์จำนวนอเนกอนันต์เท่าเม็ดทรายของคงคานทีหลวง เพื่อได้ตั้งมั่นในอนุตรสัมมาสัตยมรรคแล้วได้ก้าวพ้นออกจากจริยาแห่งภูมิทั้งปวง ได้ปรากฏสำแดงว่าได้บำเพ็ญซึ่งคุณธรรมแห่งพระสมันตภัทร หากมิเป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๓. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากด้วยอาศัยพุทธานุภาพในการถวายสักการบูชาพระพุทธเจ้าทั้งปวง แม้นในชั่วขณะภัตรกิจคราวเดียว หากมิอาจ(ถวายสักการะ)ไปได้ถ้วนทั่วถึงพุทธเกษตรจำนวนอสงไขยอนันตโกฏินยุตะแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๔. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากแม้นเมื่ออยู่เฉพาะพระพุทธพักตร์แล้ว ก็ย่อมจักสำแดงซึ่งการปลูกฝังกุศลมูล อันเครื่องสักการะบรรดาที่ต้องการใช้บูชานั้น หากมิสามารถได้ดั่งสมประสงค์แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๕. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากมิอาจกล่าวแสดง(ธรรม)ด้วยความเป็นสัพพัญญู(รู้แจ้งในสรรพสิ่งทั้งปวง)แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๖. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากมิได้บรรลุถึงวัชรนารายณกาย แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๗. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว เทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุหากในบรรดาสรรพสิ่งทั้งปวง อันบริสุทธิ์อลังการและสว่างสุกใส มีรูปลักษณ์อันวิเศษพิศดาร วิจิตรประณีตบรรจงซึ่งมิอาจกล่าวถึงปริมาณได้ แม้นบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลายนั้นจักได้บรรลุซึ่งทิพยจักษุแล้ว หากสามารถล่วงรู้ถึงนามและนับจำนวน(ของสรรพสิ่งอันวิเศษในโลกธาตุ)ได้หมดสิ้นแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๘. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุตราบถึงผู้ที่มีกุศลน้อย มิอาจได้รู้แลได้ประสบซึ่งโพธิพฤกษ์(แห่งตน) ว่ามีประภาวรรณะจำนวนอเนกอนันต์ และมีความสูงถึงสี่ล้านลี้ แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๒๙. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากสาธยายพระธรรมสูตร อ่านท่องกล่าวแสดงแล้ว หากมิได้บรรลุซึ่งปฏิภาณแลปัญญาญาณแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๐. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุหากมีปัญญาญาณแลปฏิภาณที่อาจหยั่งวัดถึงขอบเขตปริมาณได้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๑. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว อันความบริสุทธิ์แห่งโลกธาตุจักฉายส่องโชติช่วงไปยังบรรดาพุทธเกษตรจำนวนอสงไขย จำนวนอนันต์ จำนวนอจินไตยในทศทิศโดยทั่ว ประดุจกระจกที่สว่างใสที่ฉายส่องอยู่ตรงหน้า หากมิดุจฉะนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๒. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว อันพื้นพสุธาขึ้นไปเบื้องบนจรดความว่างเปล่าแห่งอากาศ พระตำหนักมณเฑียรสถาน พระวิหารแลหอทัศนา สระโบกขรณี พฤกษาแลมาลี อีกสรรพสิ่งบรรดามีในโลกธาตุ ให้ล้วนสำเร็จจากรัตนชาตินานาชนิดและเครื่องสุคนธานับร้อยพันประการมิมีประมาณ ซึ่งประกอบตบแต่งกันอย่างอลังการและวิจิตรพิศดารยิ่งกว่าของเทพยดาทั้งปวง อันกลิ่นสุรภีคันธมาลย์นั้นหอมหวนโชยระรื่นไปยังโลกธาตุทั่วทศทิศ โพธิสัตว์ผู้ได้สูดดมแล้ว ย่อมล้วนบำเพ็ญในพุทธจริยา หากมิเป็นดังประการนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๓. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาสรรพสัตว์หลากสายพันธุ์ในพุทธเกษตรทั้งหลายที่มีจำนวนอจินไตยและหาประมาณมิได้ตลอดทั้งทศทิศนั้น เมื่อผู้ที่กายนั้นได้สัมผัสต้องกับประภารัศมีแห่งเราแล้ว กายแลจิตจักได้อ่อนโยนยิ่งกว่าเทพและมนุษย์ หากมิได้เป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๔. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาสรรพสัตว์หลากสายพันธุ์ในพุทธเกษตรทั้งหลายที่มีจำนวนอจินไตยและหาประมาณมิได้ตลอดทั้งทศทิศนั้น เมื่อได้สดับนามของเรา แล้วมิได้บรรลุในอนุตปตติก ธรรมกษานติ และธารณีอันคัมภีรภาพทั้งปวงแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๕. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาพุทธเกษตรทั้งหลายที่มีจำนวนอจินไตยและหาประมาณมิได้ตลอดทั้งทศทิศนั้น ภายในนั้นหากจักมีอิสตรีที่ได้สดับนามของเรา แล้วปีติยินดีศรัทธาปสาทะได้บังเกิดโพธิจิต เอือมระอาอย่างหนักหนาในสตรีกาย เมื่อหลังจากชีวาดับสิ้นแล้วยังมีรูปลักษณ์เป็นสตรีอีกไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๖. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในพุทธเกษตรทั้งหลายที่มีจำนวนอจินไตยและหาประมาณมิได้ตลอดทั้งทศทิศนั้น เมื่อได้สดับนามของเรา แลเมื่อภายหลังที่วายชนม์แล้ว ย่อมจักบำเพ็ญในพรหมจริยาวัตรโดยนิจศิล ตราบจนสำเร็จพุทธมรรค หากมิได้เป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๗. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาประชากรชาวสวรรค์และมนุษย์ในพุทธเกษตรทั้งหลายที่มีจำนวนอจินไตยและหาประมาณมิได้ตลอดทั้งทศทิศนั้น เมื่อได้สดับนามของเรา แล้วจักกระทำเบญจางคประดิษฐ์อภิวาทนมัสการ จิตบังเกิดความปีติยินดีน้อมใจศรัทธา ได้มาบำเพ็ญในโพธิสัตวจริยาแล้ว อันบรรดาเทพแลมนุษย์โลกทั้งหลายจักมินอบน้อมยำเกรง(แก่ผู้ที่อภิวาทนมัสการนั้น)ก็หาไม่ หากมิเป็นดังประการฉะนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๘. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุ เมื่อต้องการพัสตราภรณ์แพรพรรณก็ย่อมได้ตามความระลึกนั้น ประดุจที่พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญในเครื่องนุ่งห่มอันเลิศที่สมธรรม อันจักอยู่บนกายได้เอง หากมีการย้อม เย็บ ซักและตากอยู่แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๓๙. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว หากบรรดาเทวดาและมนุษย์ในโลกธาตุ ได้เสวยซึ่งความสุขสวัสดีทั้งปวง มิดั่งเช่นภิกษุผู้เป็นพระขีณาสพผู้ปราศจากกิเลสาสวะแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๐. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุ เมื่อปรารถนาจักทอดทัศนาความวิสุทธิอลังการของพุทธเกษตรต่างๆจำนวนไม่มีประมาณในทศทิศ ใน เพลานั้นย่อมจักได้สมดังมโนรถ ด้วยในรัตนพฤกษ์ล้วนจักสำแดงปรากฏให้เห็นได้ ประดุจคันฉ่องสะอาดใสยังให้ประจักษ์อยู่เบื้องหน้า หากมิได้เป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๑. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ตราบจนได้บรรลุความเป็นพระพุทธะ (ในระหว่างนั้น)หากสรรพอินทรีย์เกิดอัปลักษณ์มิสมประกอบบริบูรณ์แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๒. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ให้ล้วนบรรลุถึงวิสุทธิวิมุตติสมาธิ เมื่อดำรงในสมาธินี้แล้ว ในชั่วขณะหนึ่งจักสามารถถวายสักการะบรรดาพระพุทธโลกนาถเจ้าทั้งหลายจำนวนอนันตอสงไขยได้ โดยจิตมิบกพร่องในสมาธินี้ หากมิเป็นดังประการนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๓. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเรา แลเมื่อวายชนม์แล้วในภายหลัง จักได้ไปบังเกิดยังตระกูลที่สูงส่ง หากมิเป็นเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๔. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ให้เกิดอุเพคาปีติจนโลมาลุกชัน ได้บำเพ็ญโพธิสัตวจริยา สมบูรณ์พร้อมในพีชะแห่งคุณธรรม หากมิประดุจฉะนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๕. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ล้วนแต่บรรลุในสมันตนุคตสมาธิ เมื่อดำรงในสมาธินี้แล้ว ตราบจนได้สำเร็จความเป็นพระพุทธะ ย่อมจักได้ประสบกับบรรดาพระพุทธเจ้าจำนวนอนันตอสงไขยทั้งปวงโดยนิจศิล หากมิเป็นไปดังเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๖. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว โพธิสัตว์ในโลกธาตุ ย่อมจักได้สดับพระธรรมกถาตามใจปรารถนา โดยจักได้สดับเฉพาะตน หากมิประดุจเช่นนี้แล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๗. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ยังเป็นผู้ที่มิบรรลุซึ่งความมิเสื่อมถอยย้อนกลับแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ
๔๘. เพื่อการเป็นพระพุทธะแล้ว บรรดาโพธิสัตว์ในโลกธาตุแดนอื่น เมื่อได้สดับนามของเราแล้ว ยังมิบรรลุในธรรมกษานติ ประการที่ ๑ ที่ ๒ และที่ ๓ แลในสรรพพุทธธรรม มิสามารถบรรลุถึงความเป็นผู้มิเสื่อมถอยย้อนกลับแล้วไซร้ เราจักมิขอสำเร็จพระสัมโพธิญาณ ด้วยประการฉะนี้แล
ที่มา :
- Wikepedia
- มหาปณิธาน ๔๘ ประการ ของพระอมิตาภะพุทธเจ้า
- อมิตาพุทธสูตร เก็บถาวร 2011-10-18 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน, หน้า 6
- ฉัตรสุมาลย์ กบิลสิงห์ ษัฏเสน. พระพุทธศาสนาแบบทิเบต.กทม.ศูนย์ไทยทิเบต.2538
- enlightenmentthangka.com (ภาพประกอบ)
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...