[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
06 กรกฎาคม 2568 00:37:25 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: [ข่าวมาแรง] - ตอบทุกข้อกังวล 10% ‘คาสิโน’ เติมภาพใหญ่ 90% โอกาส-ความหวัง เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็  (อ่าน 112 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
สุขใจ ข่าวสด
I'm Robot
สุขใจ บอทนักข่าว
นักโพสท์ระดับ 15
****

คะแนนความดี: +101/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Italy Italy

กระทู้: มากเกินบรรยาย


บอท @ สุขใจ


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 03 เมษายน 2568 03:51:48 »

ตอบทุกข้อกังวล 10% ‘คาสิโน’ เติมภาพใหญ่ 90% โอกาส-ความหวัง เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์
 


<span>ตอบทุกข้อกังวล 10% ‘คาสิโน’ เติมภาพใหญ่ 90% โอกาส-ความหวัง เอนเตอร์เทนเม้นต์คอมเพล็กซ์</span>
<span><span>admin666</span></span>
<span><time datetime="2025-04-02T20:47:12+07:00" title="Wednesday, April 2, 2025 - 20:47">Wed, 2025-04-02 - 20:47</time>
</span>

            <div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>ทีมเศรษฐกิจ</p></div>
     
            <div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><div class="summary-box"><ul><li aria-level="1">"ศึกษิษฏ์" บอกว่าปีนี้ไทยพลาดที่จะได้จัดคอนเสิร์ตใหญ่ไป 5 รายการเพราะชนกับเอเชี่ยนเกมส์ทำให้ไม่มีสเตเดียมใหญ่พอรองรับ</li><li aria-level="1">เขาพยายามอธิบายว่า “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์” เป็นคนละเรื่องกับ “พนันออนไลน์” และกฎหมายห้ามมีพนันออนไลน์ในพื้นที่ชัดเจน</li><li aria-level="1">นักลงทุนที่จะเข้ามาเน้นเป็นนักลงทุนรายใหญ่ที่ถูกกำกับดูแลจากหน่วยงานของประเทศอื่นอยู่ก่อนแล้วเพื่อเป็นกำแพงป้องกันนักลงทุนกลุ่มที่จะเข้ามาทำผิดกฎหมายในไทยอีกชั้น</li><li aria-level="1">เรื่องกองทุนฟื้นฟูผลกระทบต้องเอาออกไปเพราะ พ.ร.บ.การเงินการคลังกำหนดไว้ว่าห้ามตั้งกองทุนที่มีภารกิจซ้ำซ้อนกับกองทุนที่มีอยู่แล้วเช่น กองทุนแก้ปัญหาติดการพนันเป็นของ สสส.</li><li aria-level="1">เงื่อนไขคนไทยจะเล่นต้องมี 50 ล้านบาทในบัญชีมาจากกฤษฎีกาเป็นเพราะห่วงกังวลคนไทยจะเข้าไปเล่น แม้ว่าไอเดียตอนแรกจะต้องการให้คนไทยกลับเข้ามาเล่นภายในประเทศเพื่อไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศไปเข้ากระเป๋าสแกมเมอร์ จึงยังต้องรอดูว่าเรื่องนี้จะถูกแก้ไขหลังร่างกฎหมายผ่านชั้นรับหลักการแล้วหรือไม่</li><li aria-level="1">ศึกษิษฏ์บอกว่าความเร่งรีบทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดจากต้องการเอื้อประโยชน์ใคร แต่เป็นความต้องการแข่งขันเพราะหากช้ากว่านี้จะต้องเจอกับญี่ปุ่นที่กำลังจะเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แล้วสิงคโปร์ก็กำลังจะต่อสัญญาของตัวเอง หากช้ากว่านี้ยิ่งเสี่ยงที่ไทยจะเสียโอกาส</li></ul></div><p>ท่ามกลางกระแสต้านและคำถามจำนวนมากต่อ ‘เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์’ รัฐบาลยังคงพยายามเดินหน้าโปรเจ็คกระตุ้นเศรษฐกิจนี้อย่างไม่ลดละ หลัง ครม.มีมติรับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. .... ไปเมื่อ 27 มี.ค.2568 และกำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาในวันที่ 9 เม.ย.นี้</p><p>ประเด็นของการต่อต้านคือ ‘คาสิโน’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยในร่างกฎหมายล่าสุดก็ล็อกไว้ที่ 10% ของพื้นที่ทั้งหมด แต่ดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะถูกขยายจนเต็มพื้นที่ในสายตาคนที่ไม่เห็นด้วย นอกจากแง่มุมศีลธรรมและศาสนาแล้ว ยังมีข้อห่วงกังวลถึงปัญหาการติดพนันของคนไทย รวมถึงจะกลายเป็นแหล่งหากินของทุนเทาต่างๆ</p><p>สำหรับ ‘ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ’ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองผู้มีส่วนสำคัญในการผลักดันเรื่องนี้และได้เข้าไปร่วมพิจารณาในคณะกรรมการกฤษฎีกาด้วย ดูจะมีภาพฝันที่ต่างออกไป เขาเห็นว่าปัญหาต่างๆ นั้นสามารถแก้ไขจัดการได้ และมองเห็นเรื่องนี้เป็นโอกาสสำคัญที่ไทยล่าช้ามานาน เพราะเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่ได้มีแค่ ‘คาสิโน’ 10% แต่ยังรวมถึงโอกาสใหม่ๆ ที่จะปิดช่องว่างโลว์ซีซั่นการท่องเที่ยวไทย การได้มีพิพิธภัณฑ์ล้ำๆ ให้เยาวชน สเตเดียมรองรับคอนเสิร์ตระดับโลกที่เคยเสียไปเพราะความไม่พร้อมด้านสถานที่ของไทยเอง</p><p>แต่โอกาสต่างๆ เหล่านั้นอาจไม่คุ้มค่านักในสายตานักลงทุน หากไม่มี 10% นี้อยู่</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54398588491_7b55f9295c_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ</p><p>(หมายเหตุ – ประชาไทสัมภาษณ์ก่อนที่ ครม.จะมีมติรับร่างกฎหมายเมื่อ 27 มี.ค.ที่ผ่านมา)</p><h2>เรื่องที่คนมักเข้าใจผิด</h2><p>ศึกษิษฏ์เริ่มจากการเล่าถึงเรื่องที่เขามักต้องตอบเกี่ยวกับเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ นั่นคือ ความชัดเจนในข้อกฎหมายต่างๆ และมาตรการป้องกันการฟอกเงิน มาตรการเยียวยาผลกระทบทางสังคม มาตรการป้องกันปัญหาการติดพนัน และคนมักเข้าใจว่าทำเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ขึ้นมาเพื่อเป็นคาสิโนอย่างเดียว ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วต้องการลงทุนขนาดใหญ่ในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แล้วให้มีคาสิโนเป็นส่วนหนึ่งในนั้น</p><p>ประเด็นแรกเรื่องกฎหมาย เขาอธิบายว่า กระบวนการร่างกฎหมายที่ต้องเขียนกรอบกว้างไว้ เพราะถ้าเขียนลงรายละเอียดมากเกินไปในกฎหมายระดับพระราชบัญญัติ เช่น ค่าเข้าสถานที่ สัดส่วนภาษี หรือมาตรการเยียวยา จะทำให้การแก้ไขกฎหมายแต่ละครั้งจะใช้เวลานาน จึงเขียนพระราชบัญญัติเป็นกรอบแล้วให้อำนาจคณะกรรมการนโยบายที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานสามารถออกระเบียบที่เป็นกฎหมายลูกได้ ซึ่งจะทำให้เกิดความคล่องตัวกว่า แต่มาตรการต่างๆ ก็คิดเตรียมไว้หมดแล้ว</p><p>“กฎหมายให้อำนาจนายกฯ ในการนั่งเป็นคณะทำงานนโยบาย ซึ่งมีอำนาจในการให้ใบอนุญาต พิจารณาเรทภาษี แล้วก็ออกมาตรการต่างๆ ที่ผู้ประกอบการต้องทำ ทำไมถึงเป็นนายกฯ เพราะเรามองว่าการให้นายกฯ นั่งเป็นประธานคือการแสดงว่าเรามีความรับผิดชอบในระดับสูงสุด ซึ่งก็คือหัวหน้ารัฐบาลเลย ถ้าเกิดมีอะไรที่มันดูไม่โปร่งใส ไม่ชัดเจน นายกรัฐมนตรีก็เป็นคนรับผิดชอบ”</p><p>ส่วนเรื่องจะศึกษาผลกระทบนั้น ยังไม่มีอำนาจทางกฎหมายที่จะไปออกมาตรการว่าผู้ประกอบการจะต้องทำมาตรการเยียวยาผลกระทบทางสังคม เพราะกฎหมายนี้ออกมาเพื่อจัดตั้งสำนักงานควบคุมการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร เมื่อสำนักงานตั้งขึ้นมาได้แล้ว มาตรการควบคุมต่างๆ ก็จะตามออกมา แต่ก็มีการดูไว้แล้วบางเรื่อง เช่นเรื่องสถานที่ตั้ง</p><p>ศึกษิษฏ์บอกว่า เรื่องสถานที่ตั้งศึกษากันมาบ้างในชั้นกรรมาธิการ มีอยู่ 2-3 โมเดล ทั้งกรณีที่สร้างไว้ไกลจากเมือง เช่น ลาสเวกัสที่สร้างก่อนแล้วค่อยพัฒนาสร้างโครงสร้างพื้นฐานตามไป อีกโมเดลเป็นแบบอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวที่เข้าถึงได้จากการอยู่ใกล้กับระบบการจราจรขนส่ง ไม่ไกลจากสนามบินนานาชาติเกิน 100 กิโลเมตร เบื้องต้นในชั้นกรรมาธิการก็ชี้ว่าโมเดลที่อยู่ใกล้สถานท่องเที่ยวน่าจะมีประโยชน์กว่า เพราะการลงทุนจะเข้ามาค่อนข้างสูงกว่า แล้วรัฐบาลไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานอยู่แล้ว เกิดเป็นผลพลอยได้ตามมา</p><p>“คุณตั้งอยู่ในที่ที่ไกลเลย กลายเป็นว่าถ้าไปเที่ยวก็ต้องไปอยู่ในเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ไปไหนต่อไม่ได้ อีกอย่างหนึ่งคือกลายเป็นว่ารัฐบาลก็ต้องลงทุนสร้างโครงสร้างพื้นฐาน สร้างรถไฟ&nbsp; สร้างสนามบินอีก ถ้าทำอย่างนั้น มองไปในมุมกลับก็จะถูกกล่าวโทษว่าเราไปเอื้อประโยชน์ให้กับผู้ลงทุนคนนี้เป็นพิเศษหรือเปล่า”</p><p>ศึกษิษฏ์ยังเล่าถึงเรื่องที่ไปศึกษาการจัดเก็บภาษีของสิงคโปร์ว่า เขามีการเก็บภาษีที่เรียกว่า&nbsp;gross gaming revenue&nbsp;เป็นภาษีภาษีที่ได้จากการเล่นพนัน มีแบ่ง&nbsp;2 ระดับคือระดับลูกค้า VIP&nbsp;และลูกค้าทั่วไป กลุ่ม VIP จะเก็บเงินค่าเข้า<strong>น้อยกว่า</strong>กลุ่มคนทั่วไป เพราะเขาต้องการให้เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ดึงลูกค้า&nbsp;VIP เข้ามาเล่นแล้วตอนนี้สัดส่วนคนที่เข้ามาเล่นครึ่งหนึ่งก็เป็นลูกค้า&nbsp;VIP และเป็นรายได้ที่เกิดขึ้น และเป็นความต้องการของรัฐบาลที่จะดึงดูดลูกค้าที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายเข้ามา เราจะเห็นว่ากฎเกณฑ์ภาษีก็เป็นกลไกที่เอามาป้องกันกลุ่มเปราะบางจากการเข้าถึงและการชักจูงของเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ได้</p><img src="https://live.staticflickr.com/7842/33709183398_d3fa43e6a0_b.jpg" width="1024" height="609" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ส่วนของคาสิโนในมารินาเบย์แซนด์สิงคโปร์ ภาพโดย Ted McGrath&nbsp;</p><p>สำหรับเรื่องมาตรการการเยียวยา ศึกษิษฏ์เล่าว่า จากการไปศึกษาบริษัทต่างๆ เขาจะมีมาตรการที่เรียกว่า&nbsp;Responsible Gaming&nbsp;หรือ หลักการแสดงความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคและสังคม ของผู้ให้บริการเกมเสี่ยงโชค โดยเขายกตัวอย่างการนำกล้องวงจรปิดในพื้นที่การเล่นพนันที่เคยใช้แค่รักษาความปลอดภัยมาใช้เพื่อจับตาพฤติกรรมการเล่นพนันของลูกค้าว่าเริ่มมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะเล่นหนักขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่ เช่น ทิ้งไพ่แรงขึ้น เพิ่มเงินหนักขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เล่นเสียเยอะก็จะให้ที่ปรึกษาหรือนักจิตวิทยาเข้าไปหยุด คอยให้คำปรึกษา หรือจะมีการทำ&nbsp;Negative list คือ รายชื่อที่ให้ครอบครัวหรือตัวผู้เล่นเองมาลงทะเบียนแบนตัวเองหรือคนในครอบครัวที่ติดพนันเพื่อไม่ให้เข้า ไปจนถึงใส่ชื่อนักการเมืองระดับสูง เป็นต้น</p><p>ส่วนมาตรการป้องกันการฟอกเงินและเพื่อให้ตอบโจทย์กับโมเดลในแผน จึงเน้นให้เกิดการลงทุนขนาดใหญ่ที่ผู้ลงทุนจะต้องมีทุนจดทะเบียนอย่างน้อย 10,000 ล้านบาท และเข้ามาลงทุนอย่างน้อย 100,000 ล้านบาท เช่นในกรณีสิงคโปร์ มูลค่าการลงทุน 2 แห่งก็ประมาณ 300,000 ล้านบาท เราต้องการเอามาตรฐานระดับโลกเข้ามาเพื่อให้เกิดเป็นกำแพงสองชั้น</p><ul><li>ชั้นแรก ระดับการกำกับดูแลในระดับพื้นที่ คือ คณะกรรมการที่มีนายกฯ เป็นประธาน เพื่อให้เกิดการรับผิดชอบสูงสุด และยังมี ป.ป.ง.อยู่ในคณะกรรมการด้วย</li><li>ชั้นที่สอง เมื่อเป็นการลงทุนขนาดใหญ่มากระดับเมกะไซส์ ก็จะนำเอาธรรมาภิบาลระดับสากลเข้ามาด้วย เพราะบริษัทระดับสากลพวกนี้หากละเมิดกฎหมายประเทศหนึ่งจะไม่ได้โดนลงโทษแค่ในระดับประเทศนั้นเท่านั้น หากมีการฟ้องร้องกัน บริษัทก็จะโดนยึดใบอนุญาตในที่อื่นด้วย</li></ul><p>“ตรงนี้ก็มีทั้งสองทางเพื่อเพิ่มความสบายใจเป็นกำแพงสองชั้น”</p><h2>ถ้าไม่มีคาสิโน ยังทำได้หรือไม่ ?</h2><p>ศึกษิษฏ์เล่าถึงสิ่งที่เขาฝันอยากจะเห็นในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ อินดอร์สเตเดียมระดับจุคนได้เกินครึ่งแสน แต่เขามองว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้ถ้าไม่มีคาสิโนอยู่ในนั้น และจะเป็นได้แค่ห้างสรรพสินค้า</p><p>เขาอธิบายว่า ถ้าอยากได้สเตเดียมระดับขนาด 50,000 ถึง 80,000 ที่นั่ง หรือพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่ล้ำมากๆ เพื่อให้เด็กและเยาวชนเข้าถึงได้ง่ายโดยตัวมันเองไม่ได้เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้&nbsp; หรือกระทั่งสวนสนุกแบรนด์ดังอย่างของยูนิเวอร์เซิลหรือดิสนีย์ก็ไม่เข้ามาตั้งในไทย เพราะกำลังซื้อคนไทยเองไม่สูงพอและไม่คุ้มทุน แต่ถ้ามีเงินจากตรงส่วนของคาสิโนที่เป็นแค่ส่วนน้อยของพื้นที่มาช่วยเลี้ยงก็จะเปิดโอกาสในการลงทุนในส่วนที่ไม่ค่อยมีเหตุผลให้นักลงทุนอยากไปลงทุนทำเท่าไหร่นัก</p><p>ส่วนตัวแล้วศึกษิษฏ์เองอยากได้อินดอร์สเตเดียมมาก แต่เขาก็เห็นข้อจำกัดของสเตเดียมเท่าที่มีอยู่ในไทยอย่าง สเตเดียมที่จุระดับ 50,000 คนได้อย่างราชมังคลาฯ หรือสนามศุภฯ ที่จะได้ประมาณ 20,000 คน นอกจากความเก่าแล้วทั้งสองที่ก็ต้องแบ่งไปใช้กับการจัดกีฬาอย่างฟุตบอลหรืองานใหญ่อย่างเอเชี่ยนเกมด้วย แล้วก็ยังมาเจอกับสภาพอากาศของไทยที่ทั้งร้อนทั้งฝนกินเวลายาวไป 8-9 เดือนอีก ทำให้งานใหญ่ๆ ที่จะจัดได้เหลืออยู่แค่ไตรมาสสุดท้ายของปี ยังไม่นับว่าจุฬาฯ ก็อยากได้ที่สนามศุภฯ กลับไปด้วย</p><p>“ปีนี้ปีเดียว เรามีแข่งเอเชี่ยนเกมเราเสียคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ไป 5 งานที่มาจัดไม่ได้&nbsp;แต่ละงานมูลค่าการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติหรือแม้กระทั่งคนไทยที่จะเข้าถึงงานศิลปินระดับโลกมันหายไปจำนวนมาก ถ้าเราได้อินดอร์สเตเดียมไปจะสามารถช่วยชดเชยช่วงโลว์ซีซั่น ประเทศเราจะมีปัญหาตรงอย่างนึงท่องเที่ยวเราจะพีคหัวปีท้ายปีกลางปีมันก็จะแผ่วลงเพราะว่าฝนมันตกแล้วมันก็ร้อนทำอะไรก็ไม่ได้”</p><p class="text-align-center"><iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/S_EREX_hgPE?si=DRMZR1c7JvtIXXIO&amp;start=5404" title="YouTube video player" frameborder="0" allow="accelerometer; autoplay; clipboard-write; encrypted-media; gyroscope; picture-in-picture; web-share" referrerpolicy="strict-origin-when-cross-origin" allowfullscreen></iframe></p><p class="picture-with-caption">ทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟท์ที่สิงคโปร์ปี 2024 ที่เป็นประเด็นให้สวิฟตี้ชาวไทยเปิดประเด็นกันว่าทำไมไทยถึงไม่สามารถจัดงานใหญ่แบบนี้ได้</p><p>ศึกษิษฏ์เห็นว่าถ้าไทยมีสถานที่ใหญ่พอจัดคอนเสิร์ตขนาดใหญ่ได้ทุกๆ เดือนในช่วงโลว์ซีซั่นก็จะดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาได้มหาศาล เขายกตัวอย่างคอนเสิร์ตเทเลอร์ สวิฟท์ตอนไปจัดที่สิงคโปร์ถึงกับทำให้จีดีพีช่วงนั้นเพิ่มขึ้นมาได้ แล้วล่าสุดเลดี้ กาก้าก็ไปจัดที่สิงคโปร์อีก</p><h2>นักลงทุนยักษ์มีไม่กี่เจ้า ไทยน่าดึงดูดแค่ไหน?</h2><p>ตามแผนศึกษิษฏ์บอกว่าอยากได้นักลงทุนรายใหญ่ในระดับสากล แต่นักลงทุนกลุ่มนี้ก็มีอยู่ไม่กี่เจ้า บางเจ้าก็มาลงทุนในประเทศเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์ไปแล้ว มาเก๊าก็ไม่ไกลจากไทย ญี่ปุ่นก็กำลังจะเปิดที่โอซาก้าในปี 2570 ก่อนไทยไม่กี่ปี เท่ากับไทยเจอทั้งคู่แข่งใกล้บ้าน แล้วกำลังจะเจอคู่แข่งที่มีความพร้อมทั้งโครงสร้างพื้นฐานและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทำให้มีคำถามตามมาว่าไทยจะเหลือความน่าดึงดูดแค่ไหนในสายตานักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้</p><p>ประเด็นนี้เขามองว่า ถ้าไทยสามารถเปิดได้ตามแผนคือ 2572 ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นการเร่งรัดเพราะผลประโยชน์ทับซ้อน แต่ที่จริงแล้วก็เพื่อให้ไทยเปิดได้หลังจากโอซาก้าไม่นานนักหรือสูสีกันก่อนที่ญี่ปุ่นจะดำเนินการอย่างเต็มที่ อย่างน้อยไทยก็ยังพอมีความได้เปรียบในการแข่งขันอยู่ แต่หากของไทยเปิดได้ช้าหลังจากที่ญี่ปุ่นเปิดไปนานแล้ว ไทยก็จะยิ่งดึงดูดนักลงทุนเข้ามาได้ยากขึ้น</p><p>“เราไม่ได้คิดไปเองว่านักลงทุนจะมา นักลงทุนวิ่งเข้ามาหาเราเองแล้วก็แสดงความความสนใจเองว่า ต่อให้โอซาก้าขึ้นก็ตาม ต่อให้สิงคโปร์มีอยู่แล้วก็ตามเขาก็ยังอยากได้ประเทศไทย แล้วก็ต้องการที่จะลงทุน เพราะว่าบ้านเรามี&nbsp;Sea Sand Sun&nbsp;Culture&nbsp;สารพัด สถานที่และอากาศดี มีพระอาทิตย์ อากาศไม่หนาว ทรัพยากรธรรมชาติสวยงาม มีวัฒนธรรมวัดวาอารามสวย”</p><p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54398818933_eb57579c9c_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy"></p><p>แม้ไทยจะมีสิ่งเหล่านี้รองรับการท่องเที่ยวอยู่แล้ว แต่ไทยก็ยังเสียการท่องเที่ยวไปให้กับประเทศอื่นอยู่ดี เพราะกิจกรรมหลายอย่างไทยไม่มี แต่เราก็จะสามารถเติมช่องว่างนี้ได้ในช่วงโลว์ซีซั่นถ้าไทยมีสถานที่จัดงานขนาดใหญ่อย่างเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และสิ่งนี้นักลงทุนเองก็มองเห็นโอกาสเช่นเดียวกันเพราะตอนนี้ไทยก็มีนักท่องเที่ยว 35 ล้านคน</p><p>“ถ้ามาเมืองไทยคุณมาที่นี่ คุณบินไปภูเก็ตต่อได้ คุณบินไปขึ้นเขาเชียงใหม่ต่อได้คุณไปตลาดน้ำได้ ไปวัดพระแก้วได้ มีปัจจัยหลายอย่างทำให้นักนักลงทุนสนใจมาก”</p><p>แต่ข่าวที่ออกมาก็ดูเหมือนว่านักลงทุนจะสนใจลงทุนทำกันอยู่แค่ในกรุงเทพฯ ความหวังที่เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ช่วยกระจายการท่องเที่ยวจะเป็นไปได้แค่ไหนนั้น</p><p>ศึกษิษฏ์บอกว่า แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้กำหนดเรื่องสถานที่และรัฐบาลเองก็ยังไม่รู้ว่าจะเปิดตรงไหนจนกว่ากฎหมายจะประกาศใช้ แล้วสำนักงานคณะกรรมการตามกฎหมายถึงจะเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ของแต่ละเมือง แล้วออกเป็นโมเดลออกมา อย่างเช่นถ้าเป็นเมืองใหญ่ก็เป็นกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หรือจะไปทำในเมืองรองแล้วจึงมาตัดสินใจ</p><p>อย่างไรก็ดี เขามีความเห็นว่าในสายตาของนักลงทุนก็คงคิดว่ากรุงเทพฯ เป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุด ในการลงทุนทำแล้วก็คงอยากได้กรุงเทพฯ มากที่สุดก่อนเพราะได้ผลตอบแทนกลับคืนแน่นอนและคุ้มค่าที่สุด แต่ถ้าศึกษาออกมาแล้วว่ากรุงเทพฯ คุ้มค่าสุด แต่เรามีนโยบายอยากให้กระจายความเจริญออกไปจะเชียงใหม่หรือขอนแก่นแทนก็เป็นไปได้</p><p>เมื่อมองไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมของไทยที่มีแค่เครื่องบิน ส่วนรถทัวร์รถไฟก็ใช้เวลาเดินทางนาน ความเป็นไปได้ที่จะเกิดการส่งต่อนักท่องเที่ยวออกจากเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพลกซ์ในกรุงเทพฯ ก็ยังดูทำได้ยาก</p><p>ประเด็นนี้ศึกษิษฏ์มองไปถึงเรื่องรถไฟความเร็วสูงไปโคราชที่ตามแผนน่าจะได้มาตอนปี 2572 ก็ทำให้ตอนนั้นจะมีศักยภาพพอที่จะไปตรงนั้นได้ หรือเส้น 3 สนามบินถ้าได้กลับมาทำก็จะทำให้เส้นทางนั้นมีความเป็นไปได้ขึ้นมาด้วย ดังนั้นก็ต้องเป็นสถานที่ที่รองรับทั้งคนไทยทั้งคนต่างประเทศที่มีศักยภาพในการใช้จ่ายที่ส่วนใหญ่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์จึงควรจะอยู่ในที่เดินทางไปเช้าเย็นกลับได้ ไม่อย่างนั้นจะจัดคอนเสิร์ตกันก็อาจจะยาก จึงควรที่จะอยู่ใกล้โครงสร้างพื้นฐานด้วย</p><p>“ผมอยากให้มองว่ามันไม่ใช่แค่คนต่างชาติมาลงทุน แล้วเราได้เม็ดเงินลงทุนอย่างเดียว มันมีอีกมุมหนึ่งก็คือคนไทยจะได้เข้าถึงโชว์ระดับโลกเข้าถึงมิวเซียมระดับโลก สวนสาธารณะที่สวยๆ หรือ&nbsp;Sphere&nbsp;ที่เขาสร้างที่มาริน่าเบย์แซนด์ หรือโมเดลที่ลาสเวกัสทุกอาทิตย์จะมีโชว์เซิร์ก ดู โซเลย์ (Cirque du Soleil) มีมายากลมีกายกรรม เราก็กำหนดนโยบายลงไปเลยว่าถ้าคนไทยอยากไปซื้อตั๋วอาจจะได้ตั๋วราคาถูก”</p><p>“มันเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยได้เข้าถึงโชว์ เด็กเยาวชนบางคนอาจจะไม่มีโอกาสได้บินไปเมืองนอก แต่อย่างน้อยได้มาประสบการณ์ตรงนี้ผมว่ามันเป็นอีกมุมหนึ่งที่เราอาจจะต้องมองด้วย”</p><img src="https://live.staticflickr.com/4852/44729873900_af4163dd93_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">พิพิธภัณฑ์ศิลปะวิทยาศาสตร์ส่วนหนึ่งของมาริน่าเบย์แซนด์ ภาพจาก <a href="https://www.flickr.com/photos/25802865@N08/44729873900/in/photostream/" rel="author" title="Go to Choo Yut Shing’s photostream" data-track="attributionNameClick">Choo Yut Shing[/url]</p><h2>คาดจะเกิดรายได้ 1.2-4 หมื่นล้าน จ้างงานอาจถึงหลักหมื่น</h2><p>ศึกษิษฏ์ประเมินว่ารายได้จากคาสิโนจะได้มาจาก 2-3 ส่วน</p><ol><li>ค่าธรรมเนียมใบอนุญาตตามบัญชีแนบท้ายของร่างกฎหมายตอนนี้กำหนดเพดานค่าใบอนุญาตไว้ว่า ปีแรก 5,000 ล้านบาท ปีถัดไป 1,000 ล้านบาท ซึ่งตรงนี้ตั้งเป็นเพดานสูงสุดไว้เพื่อให้นักลงทุนรู้ว่าค่าใบอนุญาตจะสุดอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อให้เป็นธรรมและเกิดความชัดเจนกับคนที่จะเข้ามาลงทุน</li><li>Gross Gaming Revenue ศึกษิษฏ์อธิบายเพิ่มตรงนี้ว่า ภาษีในส่วนนี้ก็จะมีภาษีมูลค่าเพิ่มหรือ&nbsp;VAT ที่จะเกิดขึ้นแล้วก็ภาษีจากรายได้ของบริษัทอีก 20 เปอร์เซ็นต์</li><li>ค่าเข้าคาสิโน</li></ol><p>“ที่คำนวณมาเบื้องต้นอย่างต่ำๆ 12,000-40,000 ล้าน รายได้เข้ารัฐนี่คือภาษีในรูปแบบต่างๆ เพราะฉะนั้นขนาดของเราจะใหญ่กว่าของสิงคโปร์ เราก็เชื่อว่ากิจกรรมภายในมันจะค่อนข้างเยอะกว่าเขา”</p><p>ศึกษิษฏ์ประเมินการจ้างงานที่จะเกิดขึ้นตามมาจะประมาณ 9,000 - 15,000 ตำแหน่งแล้วก็จะมีหลายช่วง ตั้งแต่ช่วงก่อสร้าง นอกจากการจ้างงานแล้ว วัสดุก่อสร้างอย่างคอนกรีต เหล็กที่เอามาใช้ก็จะเป็นสินค้าภายในประเทศด้วย นอกจากแรงงานก่อสร้างแล้วยังรวมไปถึงนักออกแบบสถาปัตยกรรมต่างๆ ทั้งตัวอาคารภายนอกและภายใน สร้างเสร็จแล้วก็จะมีทั้งส่วนพนักงานเซิร์ฟ ช่างซ่อมบำรุง ไปจนถึงคนดูแลระบบรักษาความปลอดภัยซึ่งเป็นงานค่าจ้างสูง</p><p>นอกจากนั้นยังมีกำหนดเรื่องการจ้างงานคนไทยไว้ในร่างกฎหมายชัดเจนด้วยว่านักลงทุนที่ยื่นขออนุญาตเข้ามาจะต้องยื่นแผนเรื่องสัดส่วนการจ้างงานคนไทยและจะพัฒนาศักยภาพแรงงานไทยอย่างไรด้วย เช่น นักลงทุนเสนอเข้ามาว่าจะสร้าง&nbsp;5 อย่างในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ก็ต้องระบุว่าจะจ้างงานคนไทยเป็นสัดส่วนกี่เปอร์เซ็นต์และตรงนี้เป็นแค่ในส่วนของตัวคาสิโนเท่านั้น แต่ยังมีส่วนที่อื่นๆ อีกทั้ง สเตเดียม หรือสวนสนุก ที่จะเป็นงานค่าแรงสูง</p><h2>ข้อจำกัดเงินฝาก 50 ล้านมีทำไม?</h2><p>พอถามว่าทำไมกฤษฎีกาใส่เรื่องนี้คนไทยต้องมีเงิน 50 ล้านบาทในบัญชีนาน&nbsp;6 เดือนเข้ามาในกฎหมาย ศึกษาฏ์ก็หัวเราะก่อนจะเริ่มอธิบาย</p><p>เขาเล่าว่าร่างกฎหมายเรื่องนี้ผ่านมา&nbsp;5 ร่างแล้ว ตั้งแต่ร่างของคณะรัฐมนตรี ร่างของกระทรวงการคลัง กฤษฎีกาปรับไปสองครั้งก็มีความกังวลว่าจะเกิดผลกระทบต่อกลุ่มเปราะบางเยอะ ฉะนั้นก็อยากให้กำแพงตัวนี้มันสูง แต่ร่างกฎหมายนี้ก็ยัง<strong>ไม่ใช่ร่างสุดท้าย&nbsp;</strong>แต่จะถูกพัฒนาร่างรอบสุดท้ายในชั้นกรรมาธิการในสภาซึ่งจะมีร่างกฎหมายของแต่ละพรรคส่งเข้ามาประกบ ก็จะต้องหาสมดุลกันให้ดี</p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54426208771_d5ed98d6f2_b.jpg" width="1024" height="576" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาพนำเสนอโครงการจากเพจไทยคู่ฟ้า</p><p>ศึกษิษฏ์ยกตัวอย่างของสิงคโปร์มีมุมมองว่า ด้านหนึ่งก็เก็บภาษีกับกลุ่มวีไอพีต่ำเพื่อดึงดูดเข้ามา แต่ก็ห้ามการโฆษณาเอาไว้ด้วย และอีกทางหนึ่งก็คือเก็บค่าเข้าประมาณ&nbsp;2,000 กว่าบาทด้วยวิธีคิดว่าถ้าสามารถจ่ายเงินประมาณเดียวกับค่าตั๋วเครื่องบินที่จะบินไปเที่ยวเล่นในมาเลเซียได้ก็มีเงินพอที่จะเข้ามาเล่นได้ และแนวคิดตอนแรกในร่างกฎหมายตั้งต้นของไทยเองก็มองอย่างนั้น แต่ทางกฤษฎีกาก็อาจจะมองว่าอาจจะต้องคุ้มครองกลุ่มเปราะบางมากเป็นพิเศษหรือเปล่า</p><p>“ปัจจุบันคนไทยไปบ่อนชายแดนเหมารถตู้ไป&nbsp;2-3 พันบาท ถ้าคุณเหมารถตู้ไปเล่นบ่อนพวกนั้น หนึ่งคือเงินคุณเอาไปให้คอลเซ็นเตอร์โทรหลอกคนในประเทศอยู่ดี สองคือเครื่องที่คุณเล่นโกงแน่นอน มันคงไม่ได้ตั้งมาให้คุณชนะง่ายๆ ถูกไหม สามคือต่อให้คุณชนะมาเผลอๆ คุณโดนลักพาตัวหายไปอีก เพราะฉะนั้นถ้ามันมีคนที่จะไปเล่นอยู่แล้วในมุมมองตอนแรกคิดว่าเอามาเล่นในระบบดีกว่า”&nbsp;ศึกษิษฏ์เล่าถึงไอเดียในร่างกฎหมายที่ตอนแรกคิดคล้ายกับของสิงคโปร์เพื่อที่จะทำให้สามารถดูแลใกล้ชิดได้เพื่อไม่ปล่อยให้คนเล่นจนหมดตัว</p><p>เมื่อได้แลกเปลี่ยนกันว่า ในรายงานของ ‘คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (ENTERTAINMENT COMPLEX) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ’ สภาผู้แทนราษฎรเองก็ดูเหมือนจะให้ความสำคัญกับเรื่องที่คนไทยจะไปเล่นตามแนวชายแดนอยู่ เพราะผลการศึกษาของกรรมสรรพสามิตที่ปรากฏในรายงานมีการยกตัวเปรียบเทียบสัดส่วนคนไทยเข้าไปเล่นในบ่อนในปอยเปตมีถึง 80% แต่การกำหนดเงินในบัญชีขั้นต่ำ&nbsp;50 ล้านบาทนี้สุดท้ายก็กลายเป็นว่าผลักคนไทยกลับไปบ่อนชายแดนหรือไม่&nbsp;เพราะคนที่มีเงินจำนวนนี้มีอยู่ราวๆ&nbsp;16,000 คนเท่านั้น</p><p>ศึกษิษฏ์ก็มองเห็นประเด็นนี้ แต่เขาก็บอกว่าตอนผลักดันร่างกฎหมายออกมาก็รับฟังความเห็นของทุกหน่วยงานเข้ามา แล้วก็ออกมาเป็นแบบนี้ แต่ในชั้นกรรมาธิการพรรคเพื่อไทยก็จะยื่นร่างกฎหมายประกบ และเขาก็เชื่อว่าพรรคประชาชนก็คงยื่นประกบเหมือนกัน ถึงตอนนั้นก็มาลองดูว่าจุดสมดุลจะอยู่ตรงไหน แต่เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าสุดท้ายแล้วเรื่อง ‘50 ล้าน’ นี้จะไปอยู่ในกฎหมายที่จะออกมาหรือไม่</p><h2>กองทุนฟื้นฟูหายไปไหน?</h2><p>เรื่องหนึ่งที่เป็นข้อกังวลของสังคมก็คือเรื่องผลกระทบจากการพนันและการฟื้นฟูเยียวยาผลกระทบ ถ้าดูในร่างกฎหมายที่มาจาก กมธ.ศึกษาของสภาจะเห็นว่ามีเรื่องกองทุนฟื้นฟูผลกระทบจากการพนันไว้อยู่ด้วย แต่เมื่อเวลาผ่านไป ร่างกฎหมายที่ปรับแก้ไปมาเรื่องนี้กลับหายไปจากร่างร่างแรกของ ครม.จนกระทั่งร่างที่ผ่านกฤษฎีกาก็ไม่มีเรื่องกองทุนนี้</p><p>ศึกษิษฏ์มีคำตอบว่า เป็นปัญหาของข้อกฎหมายเนื่องจาก พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง ล็อกไว้&nbsp;2&nbsp;เรื่อง คือ</p><ol><li>หน่วยงานไม่สามารถตั้งกองทุนขึ้นมาด้วยเงินนอกงบประมาณ เพราะตอนแรกที่คิดกันคือ มองว่าจะเอาเงินจากใบอนุญาตหรือภาษีจากส่วนนี้ใส่เข้ามาในกองทุน ตามกฎหมายก็ต้องเก็บเข้าคลังก่อนแล้วให้คลังจ่ายออกมา</li><li>ตั้งกองทุนที่มีภารกิจซ้ำซ้อนกับกองทุนอื่นที่มีอยู่แล้วไม่ได้ ซึ่งเรื่องการแก้ไขผลกระทบจากการพนันอยู่ในกองทุนของ สสส.อยู่แล้ว&nbsp;และมีกองทุนกีฬาที่ให้เงินด้านกีฬาอยู่แล้ว ไปจนถึงมีกองทุน&nbsp;SME ที่ให้กับธุรกิจรายย่อยอยู่แล้ว</li></ol><p>“ถ้าตั้งกองทุนนี้มา เราก็ไม่สามารถไปทำภารกิจนั้นได้ อาจจะทำให้กองทุนที่เราได้มานี้ทำอะไรไม่ได้เลย เพราะจริงๆ แล้วนอกจากการเยียวยา เราอาจจะช่วยทุนการศึกษาก็ได้ ช่วยพัฒนาระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ก็ได้ กลายเป็นว่ามันไปทับซ้อนกัน มันก็เลยไม่เกิด”</p><p><img src="https://live.staticflickr.com/65535/54397696652_a5684c662e_b.jpg" width="1024" height="683" loading="lazy"></p><p>ศึกษิษฏ์บอกว่า ตอนนี้ที่ออกแบบไว้ก็คือ เงินค่าใบอนุญาตที่เข้าสำนักงานคณะกรรมการฯ ส่วนที่เหลือมีเท่าไหร่ก็คืนคลังไป ทีนี้ไอเดียที่คิดไว้คือทำเหมือนกับกองทุนของสำนักงาน แล้วบอร์ดบริหารก็สามารถอนุมัติโครงการออกไปเพื่อทำการเยียวยาได้ สมมติว่าสนับสนุนมูลนิธิต่อต้านการพนันเพื่อไปจัดตั้งระบบเยียวยาก็ได้ หรือจะให้สาธารณสุขเพื่อไปทำโครงการเยียวยาผู้ติดการพนันก็ได้ แต่ให้เป็นค่าใช้จ่ายของสำนักงานไป</p><p>“มันไม่ได้ติดที่เราไม่อยากทำ มันติดที่ข้อกฎหมาย&nbsp;พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังจริงๆ ก็เลยออกมาเป็นรูปแบบนี้ แต่ว่าก็จะมีบอร์ดบริหาร คณะกรรมการนโยบายก็สามารถมอบนโยบายได้ว่าสำนักงานนอกจากจะทำการกำกับดูแลแล้วให้มีการสนับสนุนโครงการที่เกี่ยวกับการศึกษาด้วย เกี่ยวกับการเยียวยาด้านการพนันด้วยเกี่ยวกับสุขภาพจิตด้วย ก็สามารถมอบนโยบายแล้วบอร์ดบริหารก็เอาไปจัดการต่อได้”</p><p>ส่วนเรื่องมาตรการป้องกันก็เป็นอีกประเด็นที่ถูกตั้งคำถามว่าทำไมร่างกฎหมายของไทยถึงไม่มีเรื่องนี้อยู่ตรงๆ แต่เป็นภารกิจของคณะกรรมการนโยบายที่จะออกมาตรการป้องกันผลกระทบ</p><p>ศึกษิษฏ์อธิบายเรื่องนี้ว่า เกณฑ์ขั้นต่ำอย่างเรื่องอายุก็มีอยู่แล้ว คือ ห้ามคนที่อายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าส่วนที่เปิดให้เล่นการพนัน แต่ส่วนข้อห้ามอื่นๆ ก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการนโยบายจะใส่เข้าไปเพิ่มว่าจะห้ามใครอีกบ้าง เช่น นักการเมืองหรือข้าราชการทั้งหมดเลยหรือไม่</p><p>อย่างไรก็ตาม เขามองว่ากฎหมายที่จะออกมาไม่ได้มีแค่รัฐบาลนี้ใช้ ถ้ามีรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาแล้วต้องการเปลี่ยนนโยบายบางอย่าง เช่นการกำหนดประเภทคนที่ห้ามเข้าใหม่ แต่ถูกล็อกไว้ด้วยตัวกฎหมายระดับ พ.ร.บ.ก็จะไม่เป็นธรรมกับรัฐบาลใหม่ที่เข้ามาบริหารต่อ&nbsp;แล้วการแก้ไขกฎหมายแต่ละครั้งก็ใช้เวลานาน 1-2 ปีไม่ทันกับบริบทที่เปลี่ยนไปในอนาคตที่ยังไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรด้วย</p><p>“เราคิดไว้แล้วว่าจะต้องมีอะไรบ้าง แต่เราก็ยังพูดไม่ได้ เพราะ พ.ร.บ.ยังไม่ผ่าน ถ้า พ.ร.บ.ผ่านเราก็ออกมาทยอยพูดได้ กฎหมายลูกเราก็เตรียมไว้หมดแล้ว อย่างคลังจะต้องทำอะไรบ้าง มหาดไทยจะต้องทำอะไรบ้าง ก็แค่รอให้กฎหมายมันผ่านก่อน”</p><h2>ห้ามพนันออนไลน์ มีมาตรการรับมือฟอกเงิน</h2><p>“อันนี้ห้ามมีพนันออนไลน์ เป็นคนละเรื่อง เราไม่อนุญาต เขียนในกฎหมายเลยห้ามพนันออนไลน์ แต่สมมุติว่านั่งอยู่ตรงนี้ในเขตเกมมิ่งดูจอแล้วจอถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์ลีกอยู่อันนี้ได้ แต่ว่าไม่ให้มาเล่นในมือถือ ต้องเป็นเครื่องที่เขาเซตอัพมาให้เท่านั้น”</p><p>ศึกษิษฏ์ยืนยันว่า <strong>เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เป็นคนละเรื่องกับพนันออนไลน์</strong>และในร่างกฎหมายห้ามไว้ชัดเจน เขาย้ำด้วยว่าห้ามทั้งนักลงทุนในเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เปิดเองและไม่ให้ปล่อยเช่าสถานที่เพื่อเปิดบ่อนพนันออนไลน์ด้วย นอกจากนั้นยังห้ามทำธุรกิจจังเก็ตด้วย (Junket นายหน้าจัดหาลูกค้าวีไอพีซึ่งอาจรวมถึงรับเปิดบัญชีผ่านบริษัทนายหน้า) พื้นที่ส่วนที่เป็นคาสิโนก็ต้องปิดมิดชิด</p><p>“แล้วก็ยังมีข้อกังวลเรื่องการให้เครดิต มีข้อนึงที่เขียนว่าให้หนี้ที่เกิดจากการพนันในนี้บังคับได้ตามกฎหมาย (enforceable) อันนี้อาจจะฟังดูแย่ แต่ว่าในความเป็นจริงเราสามารถกำหนดไปในนี้ได้ว่า เราให้เฉพาะลูกค้าวีไอพี&nbsp; ทีนี้คำถามที่ตามมาแล้วทำไมต้องให้เป็นหนี้ด้วย ทำไมถึงไม่ให้เขาถือเงินสดเข้ามา การที่คุณปล่อยให้ลูกค้าถือเงินสดเข้ามาอันนั้นคือความเสี่ยงด้านการฟอกเงินสูงมาก คุณถือเงินสดกระเป๋าเจมส์บอนด์เข้ามา 100 ล้านน่ะ คุณหาที่มาไม่ได้ คุณถามไม่ได้นี่ว่าตังค์เขามาจากไหน แต่ถ้าคุณต้องกู้ ต้องทำเครดิตคุณต้องทำ&nbsp;KYC (ยืนยันตัวลูกค้า) คุณต้องบอกว่าแหล่งเงินคุณมาจากไหน อะไรมาจากไหนถูกไหม เราไม่ต้องการให้มันเป็นเงินสด”</p><p>แต่ศึกษิษฏ์ก็บอกว่า สำหรับลูกค้าทั่วไปจะเล่นเท่าไหร่ก็ถือเงินสดเข้ามาได้ แต่ถ้าระดับ 10 ล้าน 100 ล้านบาท ก็ต้องเอะใจตรวจสอบแล้ว</p><p>นอกจากมุมลูกค้าแล้ว อีกมุมที่คนก็กังวลก็คือนักลงทุนจะเป็นผู้ฟอกเงินเสียเอง เพราะมีข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้นักลงทุนในมาเก๊ารายหนึ่งที่

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

นักข่าวหัวเห็ด แห่งเวบสุขใจ
อัพเดตข่าวทันใจ ตลอด 24 ชั่วโมง

>> http://www.SookJai.com <<
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.383 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 02 กรกฎาคม 2568 07:55:19