[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 02:09:47 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ๓๓. สัมโมทมานชาดก ว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน  (อ่าน 423 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1238


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 13 มีนาคม 2568 15:11:56 »



ขุททกนิกายภาค ๑  เอกนิบาต ๔.กุลาวกวรรค
๓๓. สัมโมทมานชาดก ว่าด้วยพินาศเพราะทะเลาะกัน

พระศาสดาเมื่อเสด็จเข้าไปอาศัยพระนครสาวัตถี ประทับอยู่ใน นิโครธาราม ทรงปรารภการทะเลาะกันแห่งพระญาติ จึงตรัสพระธรรมเทศนา นี้ดังนี้.

การทะเลาะแห่งพระญาตินั้น จักมีแจ้งในกุณาลชาดก ก็ในกาลนั้น พระศาสดาตรัสเรียกพระญาติทั้งหลายมาแล้วตรัสว่า มหาบพิตรทั้งหลาย ชื่อ ว่าการทะเลาะกันและกันแห่งพระญาติทั้งหลาย ไม่สมควร จริงอยู่ ในกาล ก่อนในเวลาสามัคคีกัน แม้สัตว์เดียรัจฉานทั้งหลายก็ครอบงำปัจจามิตร ถึงความสวัสดี ในกาลใดถึงการวิวาทกัน ในกาลนั้นก็ถึงความพินาศใหญ่หลวง ผู้อันราชตระกูลแห่งพระญาติทั้งหลายทูลอ้อนวอนแล้ว จึงทรงนำอดีตนิทานมาแสดงดังต่อไปนี้

ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัตครองราชสมบัติในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์บังเกิดในกำเนิดนกกระจาบมีนกกระจาบหลายพันเป็นบริวารอยู่ในป่า ในกาลนั้นพรานล่านกกระจาบคนหนึ่ง ไปยังที่อยู่ของนกกระจาบเหล่านั้น ทำเสียงร้องเหมือนนกกระจาบ รู้ว่านกกระจาบเหล่านั้นประชุมกันแล้ว จึงทอดตาข่ายไปข้างบนนกกระจาบเหล่านั้น แล้วกดที่ชายรอบ ๆ กระทำให้นกกระจาบทั้งหมดมารวมกัน แล้วบรรจุเต็มกระเช้าไปเรือน ขายนกกระจาบเหล่านั้นเลี้ยงชีพด้วยมูลค่านั้น

อยู่มาวันหนึ่ง พระโพธิสัตว์กล่าวกะนกกระจาบเหล่านั้นว่า นายพรานนกนี้ทำพวกญาติของเราทั้งหลายให้ถึงความพินาศ เรารู้อุบายอย่างหนึ่งอันเป็นเหตุให้นายพรานนกนั้นไม่อาจจับพวกเรา นับแต่บัดนี้ไปเมื่อ นายพรานนกนี้ทอดข่ายลงเบื้องบนพวกเรา ท่านทั้งหลายแต่ละตัว จงสอดหัวเข้าในตาของตาข่ายตาหนึ่ง ๆ พากันยกตาข่ายขึ้นแล้วพาบินไปยังที่ที่ต้องการ แล้วพาดลงบนพุ่มไม้มีหนาม เมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเราจักหนีไปทางส่วนเบื้องล่าง นกกระจาบเหล่านั้นทั้งหมดพากันรับคำแล้ว

ในวันที่ ๒ เมื่อพรานนกทอดข่ายลงเบื้องบน ก็พากันยกข่ายขึ้นโดยนัยที่พระโพธิสัตว์กล่าวแล้ว นั่นแหละ แล้วพาดลงบนพุ่มไม้มีหนามแห่งหนึ่ง ส่วนตนเองหนีไปทางเบื้องล่าง เมื่อพรานนกมัวปลดข่ายจากพุ่มไม้อยู่นั่นแหละ ก็เป็นเวลาพลบคํ่า นายพรานนกนั้นจึงได้เป็นผู้มีมือเปล่ากลับไป แม้นับแต่วันรุ่งขึ้น นกกระจาบเหล่านั้นก็กระทำอย่างนั้นนั่นแหละ ฝ่ายนายพรานนกนั้นเมื่อปลดเฉพาะข่ายอยู่ จนกระทั่งพระอาทิตย์อัสดง ไม่ได้อะไร ๆ เป็นผู้มีมือเปล่าไปบ้าน ลำดับนั้น ภรรยาของเขาโกรธพูดว่า ท่านกลับมามือเปล่าทุกวัน ๆ เห็นจะมีที่ที่ท่านจะต้องเลี้ยงดูข้างนอกแห่งอื่นเป็นแน่ นายพรานนกกล่าวว่า นางผู้เจริญ เราไม่มีที่ที่จะเลี้ยงดูแห่งอื่น ก็อนึ่งนกกระจาบเหล่านั้นมันพร้อมเพรียงกันเที่ยวไป พอเราเหวี่ยงลง พากันเอาข่ายไปพาดบนพุ่มไม้มีหนาม แต่พวกมันจะไม่ร่าเริงอยู่ได้ตลอดกาลทั้งปวงดอก เจ้าอย่าเสียใจ เมื่อใดพวกมันถึงการวิวาทกัน เมื่อนั้นเราจักพาเอาพวกมันทั้งหมดมา ทำหน้าของเธอให้ชื่นบานเถิด นายพรานนกปลอบโยนภรรยาด้วยประการดังกล่าวมาฉะนี้.

โดยล่วงไป ๒ - ๓ วัน นกกระจาบตัวหนึ่งเมื่อจะลงยังพื้นที่หากิน ก็ไม่ได้กำหนดให้ดี จึงได้เหยียบหัวของนกกระจาบตัวอื่น นกกระจาบตัวที่ถูกเหยียบหัวโกรธว่า ใครเหยียบหัวเรา เมื่อนกกระจาบตัวนั้นแม้จะพูดว่า เราไม่ได้กำหนดจึงได้เหยียบ ท่านอย่าโกรธเลย นกกระจาบตัวที่ถูกเหยียบก็ยังโกรธอยู่นั่นแหละ นกกระจาบ เหล่านั้นเมื่อพากันกล่าวอยู่ซํ้า ๆ ซาก ๆ จึงกระทำการทะเลาะกันว่า เห็นจะมีแต่ท่านเท่านั้นกระมังที่ยกข่ายขึ้นได้ เมื่อนกกระจาบเหล่านั้นทะเลาะกัน พระโพธิสัตว์คิดว่า ขึ้นชื่อว่าการทะเลาะกันย่อมไม่มีความปลอดภัย บัดนี้แหละ นกกระจาบเหล่านั้นจักไม่ยกข่าย แต่นั้นจักพากันถึงความพินาศใหญ่หลวง นายพรานนกจักได้โอกาส เราไม่อาจอยู่ในที่นี้ พระโพธิสัตว์นั้นจึงพาบริษัทของตนไปอยู่ที่อื่น

ฝ่ายนายพรานนก พอล่วงไป ๒ - ๓ วัน ก็มาแล้วร้องเหมือนเสียงนกกระจาบ ซัดข่ายไปเบื้องบนของนกกระจาบเหล่านั้นผู้มาประชุมกัน ลำดับนั้น นกกระจาบตัวหนึ่งพูดว่า เขาว่า เมื่อท่านยกข่ายขึ้นเท่านั้น ขนบนหัวจึงร่วง บัดนี้ ท่านจงยกขึ้น นกกระจาบอีกตัวหนึ่งพูดว่า ข่าวว่า เมื่อท่านมัวแต่ยกข่ายขึ้น จนขนปีกทั้งสองข้างร่วงไป บัดนี้ท่านจงยกขึ้น ดังนั้น เมื่อนกกระจาบเหล่านั้นมัวแต่พูดว่า ท่านจงยกขึ้น ท่านจงขึ้น นายพรานนกมารวบเอาข่าย ให้นกกระจาบเหล่านั้นทั้งหมดมารวมกันแล้วใส่เต็มกระเช้า ได้ไปเรือน ทำให้ภรรยาร่าเริงใจ.

พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนมหาบพิตรทั้งหลาย ชื่อว่าความทะเลาะแห่ง พระญาติทั้งหลายไม่ควรอย่างนี้ เพราะความทะเลาะเป็นมูลเหตุแห่งความพินาศถ่ายเดียว แล้วทรงประชุมชาดกว่า

นกกระจาบตัวที่ไม่เป็นบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็นพระเทวทัต

ส่วนนกกระจาบตัวที่เป็นบัณฑิตในครั้งนั้น ได้เป็นเราแล.

ที่มา วัดโพรงจระเข้ จ.ตรัง

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 5.2 วินาที กับ 30 คำสั่ง

Google visited last this page วานนี้