[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
15 มิถุนายน 2568 01:09:41 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตัดต่อเวร  (อ่าน 1647 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1920


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.63 Chrome 16.0.912.63


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 02 มกราคม 2555 16:55:11 »







เวรที่ยืดเยื้อ เริ่มต้นจากเวรที่อภัยได้แล้วไม่อภัย !

ถ้ามีประสบการณ์ทำนองนี้นะครับ
ประมาณว่ามีเรื่องนิดเดียว
แต่รู้สึกผูกใจเจ็บเหลือเกิน อภัยกันไม่ได้
มองหน้ากันไม่ติดถาวร
กรณีแบบนี้สันนิษฐานได้ว่ามีเหตุอยู่สองแบบ

แบบแรกคือรู้จักกันไม่เท่าไหร่แต่คาดหวังมากไปหน่อย
พอผิดหวังแบบทำให้เสียความรู้สึก
ความรู้สึกที่เสียไปเลยถอนความคาดหวังไปทั้งยวง
เกิดอาการสวิงจากคาดหวังมากเป็นผิดหวังมาก
แปรความรู้สึกบวกเป็นอารมณ์ลบอย่างแรงต่อกันไปเลย

แบบที่สองมีเบื้องหลังที่ลึกลับ
อธิบายด้วยเหตุผลธรรมดาไม่ได้ด้วยวิธีใด ๆ
แค่สบตากันเหมือนมีไฟนรกประทุ
ทำให้นึกถึงคำว่าแค้นข้ามชาติขึ้นมาได้
หลังจากนั้น ไม่ว่าฝ่ายไหนจะทำอะไร
อีกฝ่ายเป็นต้องรู้สึกขัดหูขัดตา ไม่ชอบใจไปหมด

ถ้าเจอประสบการณ์แบบที่สองนะครับ
คุณอาจเจอ "เวรที่ยืดเยื้อ" ของจริงเข้าให้แล้ว
ประเภทสบตาปุ๊บเป็นศัตรูกันปั๊บนี่
ยากเหมือนกันครับที่จะหาเหตุดี ๆ มาทำให้รู้สึกเป็นมิตรกันได้
ต่างฝ่ายต่างลืมไปแล้วว่าเคยผูกใจเจ็บแค้นเรื่องใดกันมา
จึงไม่ทราบจะย้อนกลับไปอภัยกันให้ถูกเรื่อง ถูกประเด็น
เห็นแต่ว่าเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆในชาตินี้ก็เป็นชนวนให้อยากตีกันแล้ว

เมื่อเกิดเวร รีบตัดเวรเสียแต่เนิ่นๆแหละดี
เพราะเวรเป็นของสั่งสมกำลังให้พอกพูนได้
เริ่มจากเรื่องขี้หมา พัฒนาเป็นศึกชนช้างได้ทันในช่วงชีวิตเดียว

หลายคนมักบ่นว่าให้อภัยแล้ว
แต่ช่วยไม่ได้ที่ใจมันอาฆาตไม่เลิก
อันนี้ก็อาจเอาปัญญาทางพุทธเข้ามาช่วย
เห็นให้ได้ว่าโดยความรู้สึกแล้ว
เราอาจเหมือนมีสองใจสู้กันเอง
ใจหนึ่งพยายามคิดอภัย
แต่อีกใจกลับอยากผูกอาฆาตไม่เลิก

ตรงนี้ให้บอกตัวเองว่า "จิตไม่ใช่ตัวตนของเรา"
ถ้าเป็นตัวตนของเรา เราคงบังคับได้
เมื่อมองอย่างนี้บ่อยเข้า ผ่านเดือนผ่านปีจนรู้สึกเห็นจริงเห็นจัง
ก็จะเลิกโทษตัวเอง
เห็นเป็นเรื่องของจิตที่ต้องเป็นกุศลบ้าง อกุศลบ้าง
ตามธรรมดาของอนัตตา

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มกราคม 2555 18:01:20 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1920


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 16.0.912.63 Chrome 16.0.912.63


ดูรายละเอียด
« ตอบ #1 เมื่อ: 02 มกราคม 2555 16:57:42 »





จากนั้น เพียรเพิ่มเหตุให้จิตใส และลดละเหตุให้จิตขุ่น
การอภัยไม่ใช่เหตุเดียวที่ทำให้จิตใส
ตรงข้าม การกัดฟันฝืนอภัยดื้อๆในหลายครั้งอาจเป็นเหตุให้ขุ่นขึ้น
เพราะฝืนใจแล้วไม่รู้สึกว่าเหลือใจให้ฝืน

ตอนโกรธจัดๆอาจต้องหาเครื่องช่วยบ้าง
ก่อนออกจากบ้านเอาทุนไว้ก่อนด้วยการท่องอิติปิโส
ทำให้ใจผูกอยู่กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ออกนอกบ้านแล้วก็เลี้ยงความสุขไว้ด้วยการท่องพุทโธ
ซึ่งเข้ากันได้กับใจอันเป็นไปในอิติปิโส
โกรธเมื่อไหร่ก็พุทโธๆๆแบบนึกถึงความสุขเข้าไว้
ให้เกิดสุขแทนที่ความทุกข์ความร้อนอันเกิดแต่โทสะ
นี่แหละกำลังหนุนให้มีแก่ใจอยากอภัย

เมื่ออภัยให้ใครได้ จะเหมือนม่านหมอกบางอย่างหายไป
และรู้สึกเป็นจริงเป็นจังว่าถ้าผูกใจเจ็บ
ก็เท่ากับผูกตัวไว้กับโรคอะไรโรคนหนึ่งจริง ๆ
จิตเดิมผ่องใสอยู่ดี ๆ
พอมีอาการผูกใจเจ็บเข้ามาครอบงำ
ก็กลายเป็นโรคเศร้า โรคหม่น
โรคหมองเปล่า ๆ ปลี้ ๆ เสียอย่างนั้น

การ "ก่อเวร" เกิดจากเจตนาเบียดเบียนก่อน
การ "ต่อเวร" เกิดจากเจตนาไม่เลิกรา
การ "ตัดเวร" เกิดจากเจตนาไม่เอาเรื่อง
สรุปคือเวรจะก่อตัว จะต่อติด หรือจะตัดขาด
ก็เริ่มต้นจากกรรมทางใจ
ผลของกรรมทางใจทอดยาวไปแค่ไหนไม่มีใครรู้

อนึ่ง.........การอภัยไม่ได้เป็นประกันว่าเรื่องราวทุกอย่างจะยุติ
แต่เป็นประกันว่าใจเราจะเบาลง และไม่ต้องก่อกรรมเพิ่ม
พูดง่าย ๆ คือถึงเรื่องฝั่งเขาไม่ยุติ ขอให้กรรมฝั่งเรายุติก็แล้วกัน
ชาติหน้าถ้าต้องเจออีก ไฟแห่งเวรจะได้ไหม้เขาคนเดียว
ไม่ต้องมาพลอยไหม้เราด้วยครับ..........................




จากนิตยสาร ธรรมะใกล้ตัวโดย......ดังตฤณ ธันวาคม ๕๔

<a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" target="_blank">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma</a>
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 02 มกราคม 2555 17:48:30 โดย 時々Sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: ดังตฤณ 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.629 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 19 ธันวาคม 2567 23:26:42