26 มิถุนายน 2568 03:48:18
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
กระบวนการ NEW AGE
.:::
จิตที่ระแวงย่อมหวั่นไหว
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: จิตที่ระแวงย่อมหวั่นไหว (อ่าน 1510 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
จิตที่ระแวงย่อมหวั่นไหว
«
เมื่อ:
13 มิถุนายน 2553 13:56:48 »
Tweet
โดย
ศ.สุมน อมรวิวัฒน์
หนังสือพิมพ์มติชน ฉบับประจำวันที่ 14 สิงหาคม 2547
โฆษณาเรื่องหนึ่ง ชาวผิวดำท่าทางน่ากลัวปีนเสาขึ้นไปเก็บลูกโป่งสีสวยลงมาให้เด็กน้อย แม่ของเด็กเห็นเข้าก็รีบมาคว้าลูกสาวไปด้วยความหวาดกลัว
แม่ระแวงว่าลูกจะถูกชายผู้นั้นหลอกจับเอาไป เพราะเขามีรูปลักษณ์ที่น่าเกลียด ไม่น่าไว้ใจ
คู่รักระแวงกันและกันว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะไม่จริงใจ
นายจ้างระแวงลูกจ้างจะขโมยของ จึงใส่กุญแจห้องทุกห้อง คอยสอดส่องดูว่าลูกจ้างจะแอบหยิบฉวยอะไรออกไป
ครูระแวงว่าลูกศิษย์จะโกงการสอบ แม้ในระดับมหาวิทยาลัยก็ต้องมีผู้คุมสอบทั้งหน้าห้อง หลังห้อง นั่งจ้องดูพฤติกรรมตาไม่กระพริบ
ตัวอย่างที่ยกมา ๓-๔ เรื่องนี้แสดงว่า คนในสังคมปัจจุบันขาดความสุข ชีวิตแต่ละคน แต่ละวันต้องคอยป้องกันตัว หลบหลีก ควบคุม เข้มงวดกวดขัน ในที่สุดก็มีแต่ความเครียดอยู่ทุกเวลาทุกแห่งหน ความระแวงเช่นนี้ ถ้ามีระดับรุนแรง ก็จำเป็นต้องพึ่งจิตแพทย์
ความระแวงเกิดจากอะไร
เมื่อวิเคราะห์สภาวะของจิต ความระแวงเกิดจากการรับรู้ ประสบการณ์ ความรู้สึกรวมถึงวิธีคิดที่ใช้ตนเองเป็นศูนย์กลาง
การรับรู้ว่าตนเองถูกต้อง คนรอบข้างไม่ถูกต้อง มีท่าทีไม่พึงประสงค์
[/SIZE]
ความเข้าใจว่าตนเองและคนอื่นในองค์กรไม่ใช่ฝ่ายเดียวกัน
[/SIZE]
ประสบการณ์สอนให้ตนเองไม่ไว้วางใจผู้อื่น และตนเองก็ไม่เป็นที่ไว้วางใจของผู้อื่น
[/SIZE]
ความไม่มั่นใจในสถานภาพ ความสามารถและอำนาจของตนเอง
ยังมีสาเหตุอื่นอีกมากมายที่ทำให้คนในครอบครัว ในองค์กร และในสังคม ขาดศรัทธาต่อกัน ระแวงว่าตนเองจะถูกหักหลัง ถูกลอบทำร้าย ความคิดของคนช่างระแวงจึงวนเวียนอยู่กับตนเอง
คนเราเมื่อจิตมีสภาวะหวั่นไหว ฟุ้งซ่านเช่นนี้ ย่อมต้องหาเวลาที่จะหยุดนิ่ง สงบ แสวงหากัลยาณมิตรเพื่อคิดไตร่ตรอง ซึ่งตามพุทธธรรมเรียกว่าการฝึกสติและเจริญปัญญา
การฝึกจิตให้นิ่งและใช้ปัญญาหาเหตุผล เป็นหนทางนำไปสู่การค้นพบความจริง ซึ่งช่วยลดความถือตัวลงได้
เราจะทำอย่างไรจึงรู้ว่าความจริงอยู่ที่ไหน เราจะเข้าใจกันได้ด้วยวิธีใด
ขอให้เราพบกัน หันหน้าเข้าหากัน เมื่อได้มองเห็นหน้าตาท่าทางของกันและกัน เราจะรับรู้อารมณ์กันได้
พบกัน แล้วพูดจากัน ใช้เหตุผล และถือหลักวจีสุจริต ๔ ประการ คือ พูดความจริงโดยไม่หวังประโยชน์เฉพาะตน พูดสร้างสามัคคี พูดสุภาพ และพูดมีสาระประโยชน์แท้จริง ถูกกาละเทศะ
พูดกันแล้วอาจมีประเด็นขัดแย้งและขัดใจกันบ้าง ก็ต้องขัดใจตนเอง ลบความขุ่นมัวในหัวใจ ขัดเอาความมานะถือตัวออกไปจากใจเสียก่อน ทำใจให้เป็นกลาง ถ้าสามารถขัดเกลาเอากิเลสที่จับเขรอะออกจากใจเสียบ้าง คู่ครองจะคิดเอาแต่ใจตัวน้อยลง หัวหน้าก็จะลดการวางอำนาจข่มลูกน้อง เพื่อนก็จะเห็นใจเพื่อน
ครอบครัวมีสุข ทุกคนก็เป็นสุข องค์กรเป็นหนึ่งเดียว ทุกคนในองค์กรก็มีกำลังใจ สังคมที่มุ่งประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง ความขัดแย้งส่วนตัวลดลง สังคมก็เข้มแข็ง
ที่สาธยายโทษของความหวาดระแวงมาทั้งหมดนี้ มิได้หมายความว่าจะจูงใจให้เราดำเนินชีวิตอย่างหละหลวม ขาดความรอบคอบระมัดระวัง มิได้ชักชวนให้หลงเชื่อคนง่าย และมิได้ทำลายกฎเกณฑ์กติกาที่กำหนดไว้เป็นปทัสถาน
แท้จริงแล้ว ชีวิตส่วนตัวและการทำงานในสังคมมีแง่มุมต่างๆ ที่เราต้องปรับตัว เรียนรู้ และก้าวไปแต่ละย่างก้าวอย่างไม่ประมาท คำนึงถึงระเบียบชีวิต ระเบียบสังคม และระเบียบขององค์กร
ฝึกจิตฝึกตนให้เดินสายกลางระหว่างความเป็นเจ้าระเบียบกับความไร้ระเบียบ รู้จักผ่อนคลายจนใจปลอดโปร่งโล่งเบา
มีกัลยาณมิตร เกิดศรัทธาต่อกันและใช้ปัญญาร่วมกัน
ขั้นแรกของการฝึกจิตที่ระแวงหวั่นไหว คือการทำตนให้นิ่ง สงบ อยู่กับความเงียบ เพราะว่าท่ามกลางความเงียบ เราจะได้ยินเสียงภายในของตนเอง
เสียงแห่งจิตสำนึก แสวงหาความจริงที่ประจักษ์ในตน ซึ่งเป็นเสียงก้องอยู่ในใจ ต่อจากนั้นจงฟังอย่างตั้งใจ ฟังตนเอง ฟังความเคลื่อนไหวอื่นๆ ที่ส่งเสียงอยู่ล้อมรอบ
เราจะได้ยินเสียงของสรรพสิ่งทั้งที่มีชีวิตและไม่มีชีวิต เริ่มตระหนักว่า แท้จริงแล้ว โลกนี้ช่างกว้างใหญ่หลากหลาย มีความแตกต่างเปลี่ยนแปลงไปไม่รู้จบ ตัวเรานี้ช่างเล็กนิดเดียว เป็นเพียงอณูน้อยนิดในจักรวาล
ถึงจุดนี้ เมื่อตัวตนเล็กลง จิตสำนึกใหม่ก็เกิดขึ้นจากความรู้ ประสบการณ์ที่ได้ผ่านพบมา เป็นความรู้ภายในตนที่มีคุณค่า เพราะกลั่นกรองจากกรณีตัวอย่างทั้งสุขทั้งทุกข์ที่ได้พบได้เผชิญ เราเคยคิดถูกคิดผิด ทำได้สำเร็จและหลายครั้งก็ล้มเหลวไม่เป็นท่า
ความรู้ภายในตน ช่วยชี้แนวทางเราว่าจะมัวระแวงกันอยู่ทำไม ตัวเราเองก็ใช่จะอยู่ค้ำฟ้า ทุกคนทุกฝ่ายต่างก็เป็นเพื่อนร่วมทุกข์อยู่ด้วยกันทั้งสิ้น
เมื่อเกิดความรู้ภายในตน จิตของเราหนักแน่นขึ้น พร้อมกันนั้นเริ่มรู้สึกผ่อนคลาย
นิ่ง ฟัง คิด และรู้ เช่นนี้ ศรัทธา และความเป็นกัลยาณมิตรต่อกันก็ผุดบังเกิด ความระแวงต่อกันลดลง ความหวั่นไหวก็ลบเลือน ครอบครัวที่เครียดจะเริ่มมีรอยยิ้ม องค์กรที่ร้อนเริ่มเย็นลง สังคมที่ขัดแย้งก็จะมองเห็นทางประนีประนอมเพื่อนำไปสู่สันติภาพ
ไม่มีใครวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วยาวนานโดยไม่เคยพลาดล้ม ไม่มีใครยิ่งใหญ่อย่างยั่งยืนจนลืมวันตกต่ำ ทุกชีวิตไม่ได้เกิดมาเพื่อแพ้หรือชนะ หากแต่เป็นส่วนเล็กๆ ส่วนหนึ่งที่ก่อประโยชน์หรือโทษต่อโลกตามพืชพันธุ์และเผ่าพันธุ์ที่เราเป็น
รู้เช่นนี้แล้ว ยังไม่รู้จักรักกันอีกหรือ ?
วันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2547 at ที่
13:23 น.
by knoom
ป้ายกำกับ:
บทความมติชน
,
สุมน อมรวิวัฒน์
|
0 ความคิดเห็น
บันทึกการเข้า
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...