14 มิถุนายน 2568 23:58:30
ยินดีต้อนรับคุณ,
บุคคลทั่วไป
กรุณา
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
1 ชั่วโมง
1 วัน
1 สัปดาห์
1 เดือน
ตลอดกาล
เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
หน้าแรก
เวบบอร์ด
ช่วยเหลือ
ห้องเกม
ปฏิทิน
Tags
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
ห้องสนทนา
[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
สุขใจในธรรม
จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
.:::
บทสนทนาระหว่าง กิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ
:::.
หน้า: [
1
]
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: บทสนทนาระหว่าง กิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ (อ่าน 3511 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0
บทสนทนาระหว่าง กิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ
«
เมื่อ:
09 กันยายน 2553 21:22:25 »
Tweet
*
ภาพกิมย้ง ปราชญ์ หนังจีนกำลังภายใน
กิมย้งกับเหตุแห่งความเป็นพุทธมามกะ
ที่มา
:
หนังสือบทสนทนาระหว่างกิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ
โดย สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยปักกิ่ง
พิมพ์ปี
1998
เดือน ธันวาคม
กิมย้ง
( 1924-
ยังมีชีวิตอยู่
):
นักประพันธ์นิยายกำลังภายในชาวจีน ชื่อจริง จาเหลียงยง หรือรู้จักในโลกตะวันตกว่า
Louis Cha
นิยายที่เป็นที่รู้จักกันดีได้แก่ มังกรหยก แปดเทพอสูรมังกรฟ้า ฯลฯ
อ่านประวัติเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Jin_Yong
ไดซากุ อิเคดะ
( 1928-
ยังมีชีวิตอยู่
):
ประธานโซคางักไกนานาชาติ
อ่านประวัติพอสังเขปที่นี่ครับ
http://en.wikipedia.org/wiki/Daisaku_Ikeda
เกริ่นนำ
บทสนทนานี้ ได้ถอดความจากส่วนเล็กๆในหนังสือที่อ้างด้านบน เนื่องจากผมเห็นว่าน่าสนใจในเชิงเนื้อหา อีกทั้งแฟนๆของกิมย้งในเมืองไทยก็ไม่น้อย การได้รู้มุมมองในพุทธศาสนาของท่าน คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย
ส่วนตัวของผู้แปลนับถือพุทธศาสนาแบบเถรวาทอย่างซื่อตรง พร้อมทั้งศึกษาคัมภีร์พุทธศาสนาพากย์จีนเป็นส่วนเสริม
(
ทั้งนิกายเริ่มแรกและมหายาน
)
อีกทั้ง เมื่อยังเด็ก มีความหลงไหลในนิยายกำลังภายในของกิมย้ง
(
ทั้งภาพยนต์ และ หนังสือ
)
อยู่พอควร
หลังจากได้อ่านบทสนทนาชิ้นนี้แล้ว รู้สึกชื่นชมในการเลือกอ่านพระสูตรของกิมย้ง โดยเฉพาะการสนใจในพุทธดั้งเดิมตั้งแต่เริ่มศึกษาพระพุทธศาสนา
(
อนึ่ง ปัจจุบันกระแสการเรียนรู้คัมภีร์บาลีในหมู่ชาวจีนมีมากขึ้น อีกทั้งมักจะนำไปเทียบเคียงกับพระสูตรใกล้เคียงที่เหลืออยู่ในพากย์จีน โดยเฉพาะชุดที่เรียกว่า “อาคม
4” )
แล้วจึงศึกษามหายานเพิ่มเติมภายหลัง ส่งผลให้มีมุมมองที่ลึกซึ้งในพุทธธรรม
ในส่วนของสมาคมโซคางักไกนั้น เป็นที่ทราบว่าถือคัมภีร์สัทธรรมปุณฑริกสูตรเป็นพระสูตรหลัก
ในความเห็นของผู้แปล ถึงแม้ว่าตัวกิมย้งเอง ในบทสนทนาดูจะมีความคล้อยตามคู่สนทนาในบางจุดเกี่ยวกับพระสูตรมหายาน ทว่าในส่วนของคัมภีร์มหายานพากย์จีน จริตท่านกลับมาลงรอยในเรื่องปรัชญามาธยมิก หรือ หลักสุญญตาของท่านนาคารชุนที่ดูจะใกล้เคียงกับเรื่องอนัตตาในพุทธเถรวาทของเรา
(
เ
ช่นเดียวกัน อ
.
เสถียร โพธินันทะ ที่ท่านได้กล่าวสรุปไว้ในหนังสือ “ปรัชญามหายาน” หน้า
299-300
ว่า “ข้าพเจ้าไม่เป็นพุทธศาสนิกชนสังกัดนิกาย ข้าพเจ้าเป็นสาวกของพระพุทธเจ้า มีพระพุทธองค์เป็นพระบิดาทางใจ เลื่อมใสได้ทุกนิกาย ข้าพเจ้าเป็นทั้งพุทธศาสนิกชนฝ่ายสาวกยานและมหายาน เวลาสวดมนต์ก็สวดทั้งพระสูตรบาลีและสันสกฤตของมหายาน ที่บูชาภายในบ้านของข้าพเจ้ามีพระพุทธรูปมหายาน และ พระโพธิสัตว์มหายานประดิษฐานไว้บูชาด้วย
แต่ในด้านความเลื่อมใสในหลักธรรมโดยส่วนตัวของข้าพเจ้าแล้ว ข้าพเจ้าเลื่อมใสหลักธรรมของฝ่ายเถรวาท ในทางมหายานข้าพเจ้าเลื่อมใสปรัชญาของนาคารชุน
และในทางเวทมนตร์ ช้าพเจ้าเลื่อมในธารณีของมนตรยาน พุทธศาสนิกชนไม่ควรยึดถือในเรื่องพรรค พวกนิกาย นี้เป็นคำสรุปของข้าพเข้า”
)
หวังว่าบทสนทนานี้ คงให้อรรถรสในการอ่านพอควร
ศริน
บันทึกการเข้า
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์
Thailand
กระทู้: 5162
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 6.0
Re: บทสนทนาระหว่าง กิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ
«
ตอบ #1 เมื่อ:
09 กันยายน 2553 21:22:56 »
*ภาพท่าน
ไดซากุ อิเคดะ ปราชญ์ชาวพุทธ มหายาน นิกายนิจิเรน
การเป็นพุทธมามกะกับปัญหาเรื่องความเกิดและความตาย
........
ไดซากุ อิเคดะ
:
เราพึ่งคุยถึงในประเด็นเรื่องพระพุทธศาสนา คุณกิมย้งก็เป็นผู้นับถือพุทธ อีกทั้งยังได้ผลในการปฏิบัติ ช่วยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับเหตุปัจจัยที่ทำให้คุณเป็นพุทธมามกะ
กิมย้ง
:
ที่ผมเข้ามานับถือพุทธนั้น ใช่ว่าได้รับคำแนะนำหรือโน้มน้าวจากพระภิกษุหรืออุบาสกอุบาสิกาท่านใดไม่ ทว่าเป็นเรื่องของประสบการณ์อันน่าพิศวง อีกทั้งการต้องข้ามผ่านความทุกข์สุดรำเค็ญในชีวิตด้วยตนเอง
ไดซากุ อิเคดะ
:
เชิญคุณเล่าแจ้ง
กิมย้ง
:
เมื่อเดือนตุลาคม ค
.
ศ
.1976 (
พ
.
ศ
.2519 )
ลูกชายคนโตของผม
(
ชื่อฉวนเสีย เป็นลูกที่เกิดกับภรรยาคนที่สอง โดยที่กิมย้งได้แต่งแล้วเลิกเลิกแล้วแต่ง จำนวน
3
ครั้ง
:
ผู้แปล
)
ที่อายุเพิ่ง
19
ได้กระทำอัตตวินิบาต
(
ฆ่าตัวตาย
)
ในขณะศึกษาที่มหาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ค เรื่องนี้ทำให้ผมประหนึ่งเสมือนถูกสายฟ้าฟาด สร้างความทุกข์ทางใจอย่างมากจนอยากจะฆ่าตัวตายตกตามไป ช่วงเวลานั้นในใจมีแต่วิจิกิจฉาอันร้อนเร่าว่า “ทำไมต้องทำร้ายตัวเอง ทำไมถึงรังเกียจการมีชีวิตถึงเพียงนี้” ผมอยากจะตามไปปรภพถามลูกชายด้วยตนเอง ให้เค้าตอบคำถามนี้กับผม
ไดซากุ อิเคดะ
:
นี่กลับเป็นครั้งแรกที่ผมได้ฟังเรื่องนี้ ภาวะจิตใจที่สูญเสียบุตรไป จะมีแต่พ่อแม่นี่แหละที่จะเข้าใจ ผมเองก็เช่นกัน เคยเสียบุตรคนที่สอง อาจารย์ของผม
(
โทดะ เซนไซ
)
ก็เช่นกัน ได้สูญเสียบุตรสาวไปก่อนวัยอันควรด้วยวัยเพียงหนื่งขวบ ซึ่งเป็นเรื่องก่อนที่เค้าจะมานับถือพุทธ ท่านรำลึกให้ฟังว่า “ตลอดทั้งคืน ผมกอดร่างบุตรสาวที่เย็นยะเยือกพร้อมทั้งร่ำไห้” ไม่นานหลังจากนั้น คู่ชีวิตก็ยังมาลาจากโลกไป เหตุการณ์เหล่านี้ เป็นเหตุให้ท่านจริงจังกับการพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับปัญหา “ความตาย”
กิมย้ง
:
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งปีเศษ ผมเพียรอ่านหนังสือจำนวนนับไม่ถ้วน พยายามค้นคว้าเกี่ยวกับความลึกลับในเรื่อง “ความเกิดและความตาย” ในระหว่างการเที่ยวหาอย่างพินิจพิเคราะห์นั้น ได้พบหนังสือภาษาอังกฤษที่ชื่อว่า “ผู้ข้องเกี่ยวกับความตาย”
( Man Concern with Death )
ในเนื้อหานั้น มีบทความยาวชิ้นหนึ่งของดอกเตอร์ทอยน์บี
( Arnold Joseph Toynbee )
ที่เนื่องด้วยความตาย บทความนี้มีความคิดเห็นที่จุดประกายจิตวิญญาณอยู่ไม่น้อย แต่ก็ยังไม่สามารถตอบคำถามเรื่องความเกิดและความตายที่ยังค้างคาอยู่ในใจไปได้ ผมจึงคิดได้ว่า ปัญหานี้ จริงแล้วจะหาคำตอบได้จากศาสนาเท่านั้น สมัยผมยังเรียนอยู่มัธยมปลาย ได้เคยอ่านพระคัมภีร์เก่าของคริสตศาสนา
(
หรือ พันธสัญญาเดิม
The Old Testament
:
ผู้แปล
)
ตั้งแต่ต้นจนจบ ขณะนั้นรำลึกย้อนกลับถึงเนื้อหา พร้อมพิจารณาทวนไปทวนมาในเนื้อความ เป็นที่แน่ว่าคริสตศาสนาไม่ถูกกับจริตของผม จากนั้นอยู่ๆ ผมกลับคิดถึง
(
หรือจะว่าความหวังลึกๆในใจ
)
เรื่องสภาวะวิญญาณที่ไม่ดับสูญหลังความตาย ดังนั้นจึงมุ่งไปสู่คลังหนังสือพระพุทธศาสนาเพื่อหาคำตอบ
ไดซากุ อิเคดะ
:
อาจารย์โทดะก็ได้หันไปนับถือศาสนาคริสต์หลังจากสูญเสียบุตรสาวและภรรยาได้ไม่นาน ทว่าท่านก็ยังมิถูกโน้มน้าวให้ก่อเกิดศรัทธาในเรื่องปัญหาเกี่ยวกับชีวิต อีกทั้งไม่สามารถสร้างความกระจ่างและคลายความสงสัยไปได้ เช่นกัน รู้สึกว่าไม่ถูกจริต โดยเฉพาะเหตุผลหลักคือ ไม่สามารถให้คำตอบในเรื่องความเกิดความตายได้แจ่มแจ้ง ในการพูดคุยครั้งนั้น เราทั้งสองก็ได้อ้างอิงถึง
.... (
ชื่อปราชญ์ท่านหนึ่ง หาคำแปลจากจีนไม่ได้จริงๆ
:
ผู้แปล
)....... “
สำหรับปรัชญาตะวันออก อุปมาการเกิดตายก็เหมือนหนังสือหนึ่งเล่ม ซี่งแต่ละหนึ่งหน้า เมื่อเปิดผ่านไป หน้าถัดมาก็แสดงตนขึ้นอีก จะว่าอีกนัยคือเรื่องการเกิดแล้วตาย ตายแล้วเกิด สลับไปมา” แต่สำหรับ “ปรัชญาตะวันตกแล้ว การเกิดเหมือนหนังสือทั้งเล่ม อ่านแต่ต้นจนจบ”
(
ชีวิตเดียว เกิดทีเดียวตายหนเดียว
:
ผู้แปล
)” “
นี้แสดงถึงความแตกต่างระหว่างปรัชญาทั้งสอง ในเรื่อง “ทัศนคติเกี่ยวกับความกิดและความตาย” คุณได้พยายามอย่างยิ่งยวดในการคิดตรึกตรอง แน่นอนว่าไม่มีทางที่ให้ความพอใจในการมองชีวิตที่แท้ได้จริงจากหนังสือเพียงหนึ่งเล่มได้
(
จากการเทียบปรัชญาตะวันออก
)”
ทว่าความกว้างใหญ่ไพศาลในเนื้อหาคัมภีร์พุทธ มิใช่เพียงรู้ได้ด้วยถ้อยคำ แต่ต้องใช้ความพยายามอย่างยิ่งยวดทั้งทางปริยัติและปฏิบัติ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย
กิมย้ง
:
ใช่ครับ คัมภีร์ในพระพุทธศาสนาของจีนมันช่างมากมายจนนับไม่ถ้วน ทว่าเพียงหยิบจับเล่มที่เป็นเบื้องต้น กลับรู้สึกว่าเต็มไปด้วยเรื่องงมงายและเพ้อฝัน ไม่เหมาะกับจริตผมที่มักจะมองโลกตามความเป็นจริง ทว่า ผมก็ยังฝืนที่จะหามาอ่านต่อ จนเมื่อมีโอกาสอ่าน สังยุกตาคม
<
จ๋าอาหัน
>
มัธยามาคม
<
จงอาหัน
>
ทีรฆาคม
<
ฉางอาหัน
> (
3
พระสูตรนี้ ถือได้ว่าเป็นพระสูตรที่มีเนื้อหาใกล้เคียงกับพระบาลีของเรา อันได้แก่ สังยุตตนิกาย มัชฌิมนิกาย และ ทีฆนิกาย ถือว่าเป็นพระสูตรในยุคต้นก่อนการก่อเกิดมหายาน โดย
2
พระสูตรแรกเป็นของนิกายสรวาสติวาทิน และสูตรสุดท้ายเป็นของนิกายธรรมคุปต์ อนึ่งคัมภีร์ต้นฉบับสันสกฤตปัจจุบัน “แทบจะ” เรียกได้ว่าไม่เหลือ ส่วนฉบับพากย์จีนได้รับการแปลในระยะ
800-1000
ปีหลังพุทธกาล
:
ผู้แปล
)
หลายเดือนที่แทบไม่หลับไม่นอน ใช้ความอุตสาหะในการอ่าน ตรึกตรองเนื้อหา ระหว่างนี้ เกิดความรู้สึกในใจว่า “ความจริงอยู่ที่นี่เอง จักต้องเป็นเช่นนี้แน่แล้ว” อย่างไรก็ตาม คัมภีร์พุทธภาคจีนมีความยากและลึกมาก เพราะในการใช้จีนภาษาโบราณที่แปลจากอินเดียนั้น บางครั้งตัวหนังสือเพียงตัวเดียวกลับแฝงนัยยะในความหมายที่ต่างไป ไม่มีทางที่จะเข้าใจได้กระจ่าง
(
ภาษาจีนเป็นรูปภาษาคำโดด
อีกทั้งรูปแบบอักษรเป็นแบบรูปภาพแทนการใช้พยัญชนะ ในขณะที่ภาษาบาลี
-
สันสกฤตเป็นรูปภาษามีวิภัติปัจจัย
ฉะนั้น การแปลสันสกฤตเป็นจีน จึงเป็นปัญหามากสำหรับนักแปลในสมัยโบราณ เราจึงเห็นว่า คัมภีร์เดียวกัน หลังจากแปลเป็นพากย์จีนแล้ว การบัญญัติศัพท์มี่ความแตกต่างกันเสมอ ยกตัวอย่างการคงอรรถะอย่างคำเช่น ฉันทะ กับ ตัณหา ภาษาจีนใช้แทนคำว่า “อ้าย
(
แปลว่าความรักในภาษาปัจจุบัน
)”
ในคำๆเดียวกัน หรือ กระทั่งการแปลพระนามของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ก็มีความแตกต่างไปหลายสำนวน
:
ผู้แปล
)
ฉะนั้น ผมได้สั่งซื้อพระไตรปิฎกเถรวาทฉบับแปลอังกฤษจากสมาคมบาลีปกรณ์ของอังกฤษ
( Pali Text Society )
ซึ่งได้รับการยอมรับว่ามีความเก่าแก่ และ ใกล้เคียงกับที่พระศรีศากยมุนีได้แสดงธรรมไว้มากที่สุด เพราะได้ถูกรักษาไว้ในอินเดียใต้ จนถึงศรีลังกาฉะนั้นจึงเรียกว่า “พุทธแบบทักษิณนิกาย
(
หรือเถรวาทนิกาย
:
ผู้แปล
)”
ทว่า กลับถูกฝั่ง มหายาน และ มหายานนิกายต่างๆ เรียกอย่างดูถูกว่า “ฝ่ายหีนยาน
( “
ยานที่เลว ยานที่ด้อย” ปัจจุบัน ในวงพุทธศาสนานานาชาติจะเลี่ยงใช้ เนื่องจากแสดงถึงสถานะที่ดูแคลน อนึ่งเราสามารถใช้คำแทนด้วยคำว่า “พุทธเถรวาท” ทว่า บางท่านอาจจะให้รูสึกว่าความหมายแคบ โดยคิดว่า เถรวาท เป็นเพียงหนึ่งใน
18
นิกายต้นๆ หลังพุทธปรินิพพาน แต่จริงๆ คำนี้หลายท่านใช้ครอบคลุมถึง “พุทธแบบดั้งเดิม” ทั้งหมด ซึ่งรวมถึงนิกายย่อยต่างๆในเบื้องต้นด้วย
:
ผู้แปล
)”
สุดท้ายจึงเข้าใจได้ดังนี้
ไดซากุ อิเคดะ
:
สามารถเทียบเคียงระหว่างบาลีฉบับแปลอังกฤษและคัมภีร์ภาษาจีน ยิ่งลงลึกได้มากในการทำความเข้าใจ
กิมย้ง
:
ฉบับภาษาอังกฤษง่ายต่อการอ่านมากครับ พุทธแบบทักษิณนิกาย
(
หรือเถรวาทนิกาย
)
มีความธรรมดาและเข้าใจได้ง่าย อีกทั้งมีความเข้าถึงความจริงในชีวิตอย่างมาก สถานะความรู้อย่างผมทำความเข้าใจได้ดี เกิดการยอมรับ พร้อมทั้งน้อมนำให้เกิดศรัทธาปสาทะ เชื่อในการบรรลุธรรมและมรรคาในการดำเนินชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่นำมาสอนผู้คนในโลก ผมใช้เวลาในการไตร่ตรอง สอบทาน โต้แย้ง ค้นคว้าอย่างต่อเนื่อง สุดท้ายยอมรับด้วยใจจริงว่า พระพุทธศาสนาได้แก้ปมในใจ ตอบความสงสัย นำพาให้จิตใจเปี่ยมล้นไปด้วยปีติสุขอย่างไม่มีสิ้นสุด “ที่แท้เป็นเช่นนี้ ในที่สุดก็เข้าใจ” นับจากวันที่ทุกข์ที่สุดจนถึงการพบความสุขนี้ ต้องใช้เวลากว่าปีครึ่ง
ไดซากุ อิเคดะ
:
ผมยังอยากจะฟังภาวะจิตใจของคุณในครั้งนั้นต่อครับ
กิมย้ง
:
คล้อยหลังมา ผมกลับมาอ่านคัมภีร์มหายานต่างๆ เช่น วิมลเกียรตินิเทศสูตร สุรางคมนสูตร ปรัชญาปารามิตาสูตร ฯลฯ ความแคลงใจยังคงวนกลับมา เนื้อหาในคัมภีร์เหล่านี้กับพระไตรปิฏกฝ่ายใต้ ช่างแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง คัมภีร์มหายานช่างเต็มไปด้วยเรื่องเกินจริง เหนือธรรมชาติ พรรณาถึงเรื่องที่สุดหยั่งคิด สำหรับผมแล้ว ยากแก่การน้อมรับ กระทั่งได้มาอ่าน สัทธรรมปุณฑริกสูตร
(
พระสูตรสำคัญของทางฝ่ายมหายาน แปลเป็นไทยว่า “พระสูตรดอกบัวแห่งธรรมมหัศจรรย์” ปัจจุบันถึงแม้จะหลงเหลือฉบับสันสกฤต แต่ก็ไม่เก่าแก่ไปกว่าฉบับพากย์จีนที่แปลในยุคของท่านกุมารชีวะ ประมาณ
800
ปีหลังพุทธกาล ฉบับแปลเป็นไทยมีอยู่หลายสำนวน
:
ผู้แปล
)
ผ่านเวลาในการพิจารณาเป็นเวลานาน สุดท้ายหยั่งรู้ได้ว่า แท้จริงเนื้อหาหลักในคัมภีร์มหายานล้วนอยู่ในพระสูตรนี้ ภายในใช้เรื่องอุปมาอุปไมเป็นกุศโลบายในการสอน อธิบายธรรม เป็นเหตุให้ผู้ด้อยในปัญญินทรีย์ ผู้มีความสามารถในการเข้าใจธรรมต่ำ สามารถเข้าใจและรับได้ ในเนื้อหาของสัทธรรมปุณฑริกสูตร มีเรื่องอุปมาง่ายๆ เช่น บ้านที่ไฟใหม้ รถเทียม น้ำฝน ฯลฯ ในการอธิบายธรรม จุดประสงค์หลักก็เพื่อการเผยแผ่พระศาสนา
ไดซากุ อิเคดะ
:
สัทธรรมปุณฑริกสูตร เปี่ยมด้วยสุนทรียภาพเชิงศิลปะ มีความเป็นอมตะ มีโลกทัศน์และจักรวาลทัศน์อันกว้างขวาง ครอบคลุมในทุกสรรพสิ่ง มีหลายวจนะที่สวยงามที่แสดงถึงการกล่าวเตือนและผลกระทบต่างๆของการกระทำ หรือจะพูดได้ว่าเป็นภาพรวมที่ยิ่งใหญ่ที่แสดงถึงชีวทัศน์ทั้งมวล สามารถที่จะเปิดผ่านดูทุกหน้า แล้วประหนึ่งมีภาพชีวิตผ่านเข้ามา
กิมย้ง
:
ผมเองก็เข้าใจในคำสองคำนี้
(
คำจีน “เมี่ยวฝ่า” แปลตรงตัวเท่ากับ “ธรรมะมหัศจรรย์” ซึ่งในพากย์สันสฤตใช้คำว่า “สัทธรรม”
)
ภายหลังจึงไม่เกิดรู้สึกในการต่อต้านความเหนือจริงของคัมภีร์มหายาน จากความทุกข์ที่สุดจนถึงสุขที่สุด ผมใช้เวลาประมาณ
2
ปี
ไดซากุ อิเคดะ
:
สัทธรรมปุณฑริกสูตร เป็นคำสอนที่สมบูรณ์แบบ เรียกได้ว่าเป็นธรรมขั้นสูงสุดของพุทธมหายาน โดยที่พระสูตรอื่น พูดถึงความจริงในบางส่วน แต่ทุกพระสูตรล้วนแล้วแต่ลงเอยในความบริบูรณ์ของสัทธรรมปุณฑริกสูตร ดุจดังแม่น้ำทุกสายที่ต้องไหลลงทะเลฉันนั้น คุณเริ่มจากการอ่านพระสูตรของหีนยาน จากนั้นจึงศึกษาเพิ่มเติมของมหายาน สุดท้ายเข้าใจถึงความสำคัญของสัทธรรมปุณฑริกสูตร สิ่งนี้ได้สะท้อนถึงความจริงจังในการเสาะหาจิตวิญญาณของคุณจริง
กิมย้ง
:
ถึงตรงนี้ อยากจะให้คุณเล่าถึงครั้งที่เริ่มต้นองค์กร
(
สมาคมโซคางักไก
:
ผู้แปล
)
จุดริเริ่มในการรับพระพุทธศาสนา และการเดินทางของจิตวิญญาณ สำหรับผม
(
ตัวกิมย้ง
)
ถึงแม้ว่าแต่เด็กจะได้ยินคุณแม่สวด “ปรัชญาปารามิตาหฤทัยสูตร” “วัชรสูตร” และ “สัททธรรมปุณฑริกสูตร” ทว่า กลับต้องรอถึง
60
ปี จึงผ่านความทุกข์ในการสำรวจและค้นหา กว่าจะได้เข้ามาในเขตแดนของพุทธธรรม อนึ่งสำหรับนิกายต่างๆ ในพุทธศาสนาของจีน จิตวิญญาณภายในของผมใกล้เคียงกับ นิกายปรัชญา
(
หรือมีชื่อเรียกอีกหลายแบบเช่น มาธยมิกศาสตร์ ตรีศาสตร์ หรือว่าที่เรู้จักกันมากที่สุด คือหลักสุญญตาของท่านนาคารชุน
:
ผู้แปล
)
มากที่สุด
http://www.oknation.net/blog/siran/2007/10/24/entry-1
บันทึกการเข้า
ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
หมีงงในพงหญ้า
ยืนงงในดงตีน
ผู้ก่อตั้งเวบฯ
นักโพสท์ระดับ 15
คะแนนความดี: +62/-0
ออฟไลน์
เพศ:
United Kingdom
กระทู้: 7886
• Big Bear •
ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 7.0
Re: บทสนทนาระหว่าง กิมย้ง และ ไดซากุ อิเคดะ
«
ตอบ #2 เมื่อ:
09 กันยายน 2553 21:42:14 »
ทำยังไงเราถึงจะรับมือได้
พรรคสุริยันจันทรา ฤ จะมาอวสานเช่นนี้
55555555555555555
บันทึกการเข้า
B l a c k B e a r
: T h e D i a r y
คำค้น:
หน้า: [
1
]
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
จากใจถึงใจ
-----------------------------
=> หน้าบ้าน สุขใจ
===> สุขใจ ป่าวประกาศ (ข้อความจากทีมงาน)
===> สุขใจ เสนอแนะ (ข้อความจากสมาชิก)
===> สุขใจ ให้ละเลง (มุมทดสอบบอร์ด)
-----------------------------
สุขใจในธรรม
-----------------------------
=> พุทธประวัติ - ประวัติพระสาวก
===> พุทธประวัติ แห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
===> ประวิติพระอรหันต์ พระสาวก ในสมัยพุทธกาล
===> ประวัติพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ในยุคปัจจุบัน
===> นิทาน - ชาดก
=====> ชาดก พระเจ้า 500 ชาติ
=> ธรรมะทั่วไป ธารธรรม - ธรรมทาน
===> ธรรมะจากพระอาจารย์
===> เกร็ดครูบาอาจารย์
=> ห้องวิปัสสนา - มหาสติปัฏฐาน 4
=> สมถภาวนา - อภิญญาจิต
=> จิตอาสา - พุทธศาสนาเพื่อสังคม
=> เสียงธรรมเทศนา - เอกสารธรรม - วีดีโอ
===> เอกสารธรรม
===> เสียงธรรมเทศนา
=====> ธรรมะจาก สมเด็จโต
=====> ธรรมะจาก หลวงปู่มั่น
=====> เสียงบทสวดมนต์
=====> เพลงสวดมนต์
=====> เพลงเพื่อจิตสำนึก แด่บุพการี
=====> ธรรมะ มิวสิค (เพลงธรรมทั่วไป)
===> ห้อง วีดีโอ
=> เกร็ดศาสนา
=> กฏแห่งกรรม - ท่องไตรภูมิ
=> ไขปัญหาโลก ธรรม และความรัก
=> บทสวด - คัมภีร์ คาถา - วิชา อาคม
=> พุทธวัจนะ - ภาษิตธรรม
===> พุทธวัจนะ ในธรรมบท
===> พุทธศาสนสุภาษิต
===> คำทำนายภัยพิบัติที่จะเกิด
===> รวมข่าวภัยพิบัติ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน
===> รู้ เพื่อ รอด (การเตรียมการ)
=> ห้องประชาสัมพันธ์ ทั้งทางโลก และทางธรรม
===> ฐานข้อมูล มูลนิธิต่าง ๆ ในประเทศไทย (Donation Exchange Center)
-----------------------------
วิทยาศาสตร์ทางจิต เรื่องลี้ลับ
-----------------------------
=> วิทยาศาสตร์ - จักรวาล - การค้นพบ
===> เรื่องราว จากนอกโลก
=====> ประสบการณ์เกี่ยวกับ UFO
=====> หลักฐาน และ การพิสูจน์ยูเอฟโอ
=====> คลิปวีดีโอ ยูเอฟโอ
=> ไขตำนาน - ประวัติศาสตร์ - การค้นพบ อารยธรรม
=> เรื่องแปลก - ประสบการณ์ทางจิต - เรื่องลึกลับ
===> ร้อยภูติ พันวิญญาณ
=====> ประสบการณ์ ผี ๆ
=======> เรื่องเล่าในรั้วมหาลัย
=====> ประวัติ ต้นกำเนิด ตำนานผี
===> ดูดวง ทำนายทายทัก
===> ไดอะล็อก คือ ดอกอะไร - พลังไดอะล็อก (Dialogue)
===> กระบวนการ NEW AGE
=> เครื่องราง ของขลัง พุทธคุณ
-----------------------------
นั่งเล่นหลังสวน
-----------------------------
=> สุขใจ จิบกาแฟ
=> สุขใจ ร้านน้ำชา
=> สุขใจ ห้องสมุด
===> สุขใจ หนังสือแนะนำ
===> สุขใจ คลังความรู้ลวงโลก
===> สยาม ในอดีต
=> สุขใจ ใต้เงาไม้
=> สุขใจ ตลาดสด
=> สุขใจ อนามัย
=> สุขใจ ไปเที่ยว
=> สุขใจ ในครัว
===> เกร็ดความรู้ งานบ้าน งานครัว
=> สุขใจ ไปรษณีย์
=> สุขใจ สวนสนุก
===> ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
===> เวที จำอวด (จำอวดหน้าม่าน)
===> หนังกลางแปลง (ดูหนัง รีวิวหนัง)
===> หน้าเวที (มุมฟังเพลง)
=====> เพลงไทยเดิม
===> แผงลอยริมทาง (รวมคลิปโฆษณาโดน ๆ)
คุณ
ไม่สามารถ
ตั้งกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
ตอบกระทู้ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ได้
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความได้
BBCode
เปิดใช้งาน
Smilies
เปิดใช้งาน
[img]
เปิดใช้งาน
HTML
เปิดใช้งาน
กำลังโหลด...