ทำไม ? พระเรียกผู้หญิงว่า สีกา

http://i191.photobucket.com/albums/z119/bee_99/yesterday/26%20july%202007/IMG-0025.jpg

<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/5buddistsong/07.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.fungdham.com/download/song/sec2/5buddistsong/07.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.fungdham.com/download/song/sec2/5buddistsong/07.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>

หากเราสงสัยกันว่า ทำไม (:QS:)พระท่านถึงเรียกผู้หญิงว่า สีกา เป็นสีอื่น ๆ ไม่ได้เหรอ มีคำตอบให้ว่า.................
เป็นสีอื่น ๆไม่ได้หรอก ต้องเป็นสีกานั่นแหละ เพราะ คำนี้ตัดมาจากคำว่า อุบาสิกา ซึ่งเป็นคำที่บรรพชิตเรียกคฤหัสถ์
ผู้หญิงที่นับถือพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง คำว่า อุบาสิกา คงจะยาว เรียกไม่สะดวกปาก จึงถูกตัดเหลือเพียง สิกา แล้วกลายเป็น สีกา ในที่สุด
เมื่อมีอุบาสิกาแล้วก็ต้องมีอุบาสก ซึ่งหมายถึงชายผู้แสดงตนเป็นคนนับถือพระพุทธศาสนา เรียกอย่างสั้นว่า ประสก
อุบาสิกาจึงคู่กับอุบาสก และ สีกา ก็คู่กับ ประสก ยิ้ม

credit by sarakadee.com