หลวงปู่ศิลา จิตตสุโภ พระป่า-วัดถ้ำพระนอน

http://image.ohozaa.com/i/5dc/vMyOh4.JPG

หลวงปู่ศิลา จิตตสุโภ
วัดถ้ำพระนอน ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์

"หลวงปู่ศิลา จิตตสุโภ" เป็นพระสายวัดป่าที่มีวัตรปฏิบัติดี สืบสายธรรมจาก หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม

ปัจจุบัน หลวงปู่ศิลา สิริอายุ 84 ปี พรรษา 25 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำพระนอน ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์

มีนามเดิมว่า ศิลา ฤทธิพรม เกิดเมื่อปี พ.ศ.2474 อ.เมืองสรวง จ.ร้อยเอ็ด ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา

อายุ 24 ปี ท่านบวชอยู่นาน 2 พรรษา ด้วยความจำเป็นในภาระครอบครัวที่มีพี่น้องหลายคน ท่านจึงต้องลาสิกขาช่วยครอบครัวทำมาหากิน และต่อมาได้แต่งงานมีครอบครัว จนอายุท่านล่วงเข้า 50 กว่าปี ประกอบกับภรรยาเสียชีวิต

ในปี พ.ศ.2533 จึงตัดสินใจเข้าพิธีอุปสมบทอีกครั้งหนึ่ง ที่อุโบสถวัดป่า ณ ศิลวรรณ ต.หนองใหญ่ อ.หนองกุงศรี จ.กาฬสินธุ์ โดยมี พระสุเมธีธรรมภาณ (ปัจจุบัน คือ พระเทพสารเมธี) เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ (ธ) เป็นพระอุปัชญาย์

หลังอุปสมบท จำพรรษาศึกษาพระธรรมวินัยอยู่วัดป่า ณ ศิลวรรณ ระยะหนึ่งจากนั้นย้ายไปจำพรรษาที่วัดต่างๆ หลายแห่งในภาคอีสาน อาทิ วัดถ้ำวิมานเจีย วัดป่าเอราวัณ เป็นต้น

พระเถระที่หลวงปู่ศิลาให้ความเลื่อมใสศรัทธา นับถือเป็นครูอาจารย์ คือ หลวงปู่มหาบุญมี สิริธโร วัดป่าวังเลิง จ.มหาสารคาม

ช่วงที่หลวงปู่มหาบุญมี ยังมีชีวิต หากยามใดที่หลวงปู่ศิลา มีเวลาว่างมักจะเดินทางมากราบคารวะ ขอคำชี้แนะการปฏิบัติธรรมจากหลวงปู่มหาบุญมีอยู่เสมอ

ถึงแม้หลวงปู่ศิลา จะบวชเมื่อตอนที่อายุมาก แต่ด้วยความที่ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดี จึงเริ่มมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยม

พ.ศ.2545 คณะศิษยานุศิษย์เห็นว่าวัดถ้ำพระนอน อยู่ในพื้นที่ ต.กุงเก่า อ.ท่าคันโท จ.กาฬสินธุ์ อยู่ในสภาพเป็นวัดร้าง จึงกราบนิมนต์ให้หลวงปู่เข้ามาอยู่จำพรรษา

หลังจากท่านมาอยู่จำพรรษาที่วัดป่าแห่งนี้ ได้ทุ่มเทกำลังพัฒนาวัดแบบค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากท่านมีความปรารถนาที่จะคงสภาพวัดป่าแห่งนี้เอาไว้ให้อยู่สภาพเดิมให้มากที่สุด สมกับความเป็นวัดป่าที่มีแต่ความสงบร่มรื่น บริเวณวัดอุดมไปด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด

ด้วยความที่หลวงปู่ศิลาเป็นพระนักปฏิบัติ จึงเริ่มมีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมในพื้นที่ อ.ท่าคันโท และ อ.หนองกุงศรี อย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันจึงมีญาติโยมเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์ที่เข้มขลัง เสริมความเป็นสิริมงคลที่วัดอย่างไม่ขาดสาย

หลวงปู่ศิลา แม้จะครองตนอยู่อย่างสมถะ ถือสันโดษ เรียบง่าย แต่ท่านก็มักเข้าร่วมกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ทางสังคมไม่ได้ขาด

ด้วยความที่หลวงปู่ชมชอบทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้ ท่านจึงสนับสนุนให้ชุมชนช่วยกันปลูกต้นไม้ในวัด เพิ่มสีเขียวให้กับโลก ปรากฏว่าได้รับความร่วมมือจากพุทธศาสนิกชนในพื้นที่เป็นอย่างดี

ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ การดำรงชีวิตอยู่ด้วยความไม่ประมาท มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อบุพการี ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลก สำคัญที่สุด คือ ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต เพียงเท่านี้ก็พอเพราะท่านทราบว่าญาติโยมยังมีกิเลสอยู่ทำได้แค่นี้ก็จะทำให้ชีวิตตนเองและครอบครัวพานพบแต่ความสุขความเจริญ

อริยโลกที่ 6