[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
07 กรกฎาคม 2568 02:21:12 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: (ป.อ.ปยุตฺโต) เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์  (อ่าน 1333 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5162


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 50.0.2661.271 Chrome 50.0.2661.271


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 09 สิงหาคม 2559 01:03:01 »

(ป.อ.ปยุตฺโต) เช่นเดียวกับพระโพธิสัตว์



“…อย่างน้อยโยมต้องรู้หลักก่อนว่า
ความเป็นพระโพธิสัตว์นั้นอยู่ที่ว่าต้องบำเพ็ญบารมี
บำเพ็ญคุณธรรมอย่างยวดยิ่ง
อย่างที่คนธรรมดาทั่วไปจะบำเพ็ญกันไม่ไหว
ตั้งใจจะบำเพ็ญความดีข้อไหน
เช่นบำเพ็ญทาน ก็บำเพ็ญได้อย่างสูงสุดจนกระทั่ง
สละชีวิตของตนเพื่อประโยชน์ของผู้อื่นได้
เรียกว่าให้ชีวิต

จะบำเพ็ญความเพียรพยายาม
ก็เพียรพยายามอย่างยวดยิ่ง
ไม่มีระย่อท้อถอย แม้ต้องสิ้นชีวิตก็ยอม
นี่คือการบำเพ็ญบารมี
หมายถึงคุณธรรมที่บำเพ็ญอย่างยวดยิ่ง

พระโพธิสัตว์เมื่อบำเพ็ญบารมีครบแล้ว
ก็คือได้พัฒนาพระองค์อย่างเต็มที่แล้ว
ก็ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
แล้วเราก็นับถือพระโพธิสัตว์นั้น
นับถืออย่างไร? นับถือเพื่ออะไร?

ก็ขอตอบสั้น ๆ คือ นับถือเพื่อเอาเป็นแบบอย่าง
เอาพระโพธิสัตว์เป็นตัวอย่าง เป็นตัวอย่างอย่างไร?

พระโพธิสัตว์นั้นกว่าจะได้มาตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า
ท่านต้องทำความดีมากมาย
เพียรพยายามทำมายาวนาน
อย่างยากลำบากมากประสบอุปสรรคมาก
แต่ก็ทำมาตลอดโดยไม่ระย่อท้อถอย
จนประสบความสำเร็จ
ท่านจึงเป็นตัวอย่างในการทำความดีของเรา

พระโพธิสัตว์นั้นท่านมีปณิธานด้วย
คือตั้งใจจะทำความดีอันไหนก็ทำจริง ๆ
ทำเต็มที่แล้วก็มั่นคงด้วย
เราก็ต้องพยายามทำอย่างนั้น

โดยมีพระโพธิสัตว์เป็นแบบอย่าง
จนกระทั่งเราสามารถเสียสละตัวเองได้เพื่อทำความดีนั้น
ตลอดจนกระทั่งว่าพระโพธิสัตว์นี่เสียสละตัวเองเพื่อผู้อื่น
เราก็ต้องสามารถเสียสละผลประโยชน์ของตัวเอง
เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อช่วยเหลือสังคม นี่คือคติพระโพธิสัตว์

อันนี้ก็โยงมาหาพระพุทธเจ้า
เพราะว่าพระพุทธเจ้าทรงเป็นหลัก
พระพุทธเจ้าที่จะตรัสรู้ได้ก็เป็นมาด้วยความเพียรพยายาม
และทำความดีมามากมาย
เพราะอย่างนี้จึงทำให้เราเกิดความซาบซึ้ง
ในพระคุณของพระพุทธเจ้า นี่ประการหนึ่ง

ประการที่สองก็คือ
เป็นการเตือนตัวเราให้สำนึกในหน้าที่
ที่จะพัฒนาตัวที่จะทำความดี
เพื่อจะบรรลุคุณธรรมเบื้องสูง

การที่จะบรรลุสิ่งที่ดีงามประเสริฐสูงสุด
เป็นพระอรหันต์เป็นพระพุทธเจ้านั้น
ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาด้วยการหวังหรืออ้อนวอนเฉย ๆ
แต่จะต้องเพียรพยายามทำ
ฉะนั้นคนเราทุกคนจะต้องพัฒนาตัวเอง
ต้องตั้งใจทำความดี

คติพระโพธิสัตว์เตือนใจเราว่าเราจะต้องตั้งใจทำความดี
บำเพ็ญคุณธรรมต่าง ๆ พร้อมกันนั้นก็เป็นกำลังใจแก่เรา
ในเมื่อเราได้เห็นประวัติของพระโพธิสัตว์
ว่าท่านทำความดีมากมาย
อย่างเข้มแข็งและเสียสละ

เราได้เห็นตัวอย่างแล้วเราก็มีกำลังใจ
ที่จะทำความดีนั้นให้ตลอด
บางทีเราทำความดีไป เราเป็นปุถุชน บางทีเราก็อ่อนแอ
เมื่อไปพบอุปสรรคบางอย่างหรือไม่ได้รับผลที่ปรารถนา
เราก็เกิดความท้อแท้ เกิดความผิดหวัง
คนจำนวนมากจะเป็นอย่างนี้
ทำความดีไประยะหนึ่งก็ไม่เข้มแข็งจริง ไม่มั่นคงจริง
ไปประสบอุปสรรคหรือไม่ได้รับผลตอบแทนที่ต้องการ
ก็เกิดความท้อถอย แล้วก็บ่นเพ้อ
เอ้อ เราอุตส่าห์ทำดีมานักหนา ไม่เห็นได้ดีเลย
แล้วก็มองไปในด้านตรงข้ามว่า
อ้าว คนนั้นคนนี้เขาทำไม่ดี เขาทำชั่วด้วยซ้ำ
ทำไมได้ดีอย่างที่พูดกันว่า
“ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป”
อะไรต่าง ๆ ก็จะตัดพ้อร้องทุกข์ขึ้นมา
แล้วก็พาลพาโลพาเลเลยเลิกทำความดี อันนี้จะเป็นผลเสีย

เมื่อได้เห็นประวัติของพระโพธิสัตว์
ก็จะเกิดกำลังใจว่าพระพุทธเจ้า
เมื่อเป็นพระโพธิสัตว์ท่านทำความดี
ท่านลำบากกว่าเราเยอะแยะอย่างที่ว่าเมื่อกี้

บางทีต้องเสียสละชีวิตก็มี
บางทีพระองค์ทำความดีมากมาย
เขาไม่เห็นความดี เขาเอาพระองค์ไปฆ่า
พระองค์ก็ไม่ท้อถอย แล้วก็ทำความดีต่อไป

เรามานึกดูตัวเราทำความดีแค่นี้แล้วจะมาท้อถอยอะไร
พระพุทธเจ้าเป็นพระโพธิสัตว์ลำบากกว่าเรา ทำมากกว่าเรา
ประสบอุปสรรคมากกว่าเรามากมาย ไปท้อถอยทำไม
พอเห็นคติพระโพธิสัตว์อย่างนี้
เราก็มั่นคงในความดี สู้ต่อไป นี่แหละเป็นแบบอย่าง
นี่คือการนับถือพระโพธิสัตว์ที่ถูกต้อง

ท่านสอนมา ท่านเล่าเรื่องพระโพธิสัตว์มา
ก็เพื่อเป็นแบบอย่างแก่เราในการทำความดี
เป็นเครื่องเตือนใจเราไว้ ทำให้เรามีกำลังใจ
แล้วเราก็เดินหน้าเรื่อยไปไม่ท้อถอย…”

จากหนังสือ “คำถามสำหรับชาวพุทธ (สำรวจตัวก่อนปฏิบัติธรรม)”
โดย พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต)

จาก ธรรมกถา ปาฐกถา ณ วัดสวนแก้ว เมื่อ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๓๗
ดาวโหลดหนังสือ pdf ฉบับเต็มได้ที่นี่ค่ะ
http://www.watnyanaves.net/uploads/File/books/pdf/questions_for_buddhists_(self-inspection_before_practising_dhamma).pdf

ผู้ประพันธ์หนังสือ “พุทธธรรม”
เว็บไซต์รวมผลงานการประพันธ์ ธรรมนิพนธ์และธรรมบรรยายของ
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ. ปยุตโต)
วัดญาณเวศกวัน
http://www.watnyanaves.net/th/home

จาก https://dhammaway.wordpress.com/2013/02/21/in-the-same-way-as-bodhisattva/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.519 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 12 เมษายน 2568 16:08:39