จิตมีอยู่ 2 ชนิด
1.
จิต (สงขาร) หรือ จิตในปฏิจจสมุปบาท สิ่งนี้หรือจิตตัวนี้ เป็นสิ่งที่หลวงปู่ดุลย์ เรียกว่า รูปนามของจักรวาล และหลวงปู่ดูลย์กล่าวถึงว่า “ภาวะที่แท้แห่งจิต เป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดธรรมทั้งหลาย ที่เรียกว่าวิญญาณ" ธรรมทั้งหลาย ก็คือ จิต (สงขาร) คือ จักรวาล นั่นเอง
หรือที่พระพุทธเจ้า เรียกว่า
สพฺโพ ปจฺจลิโต โลโก
สพฺโพ โลโก ปกมฺปิโต
โลกทั้งโลก คือ ความกระเพื่อมไหว/หวั่นไหว (Trembling)
โลกทั้งโลก คือ ความสั่นสะเทือน (Vibration)
และนักวิทยาศาสตร์เรียกว่าอะตอมหรือสสาร หรือสรรพสิ่งในจักรวาล
2.
จิตบริสุทธิ์ หรือจิตสังขาร หรือนิพพานจิต สิ่งนี้ที่หลวงปู่ดุลย์ พูดว่า จิตหนึ่ง หรือ จิตคือพุทธะ นิพพาน เป็นการรวมของจิตบริสุทธิ์เข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์และสว่างของจักรวาลเดิม
จุดมุ่งหมายของพุทธศาสนา คือ นำจิตสังขารที่อยู่ในจักรวาล(ฝั่งนี้) ออกไปเป็นจิตบริสุทธิ์นิพพาน(ฝั่งโน้น)
สรุป1. จิตในโลกและจักรวาลเป็นจิตที่ไม่บริสุทธิ์ แม้แต่จิตเจ้าแม่กวนอิม หรือจิตพระศรีอริยะเมตตรัย จิตของพวกท่านก็ยังไม่บริสุทธิ์ เพราะจิตของพวกท่านไม่ได้ตัดความเมตตากรุณาต่อมวลมนุษย์ออกจากใจ
2. จิตนิพพาน เป็นการรวมของจิตบริสุทธิ์เข้ากับความว่างอันบริสุทธิ์และสว่างของจักรวาลเดิม จิตในนิพพานนี้ เป็นจิตต้นกำเนิด หรือเป็นธรรมกายต้นกำเนิด หรือเป็นพุทธภาวะ ที่เรียกว่า อาทิพุทธ ผู้ที่เข้าถึงนิพพาน ก็คือผู้ที่รู้และกลับไปเป็นส่วนหหนึ่งของ อาทิพุทธ ที่ศาสนาพราหมณ์เพรียกว่า อาตมัน(อรหันต์)กลับเข้าไปรวมกับปรมาตมัน (นิพพาน)
ผู้ที่ไม่เข้าใจเรื่องศาสนาไม่ว่ามากหรือน้อย เกือบทั้งหมดก็เพราะ...ถูกมารหรืออวิชชาทำให้ไม่เข้าใจเรื่องจิตไม่บริสุทธิ์(จิตสังขาร)และจิตบริสุทธิ์(จิตนิพพาน)








