[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
12 มิถุนายน 2568 04:46:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: สนทนาธรรมเรื่องเกี่ยวกับการทรงเจ้า  (อ่าน 1455 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
時々๛कभी कभी๛
สมาชิกถูกดำเนินคดี
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +9/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Nepal Nepal

กระทู้: 1920


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
Chrome 10.0.648.204 Chrome 10.0.648.204


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 30 เมษายน 2554 10:23:43 »


<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae1"> <tr><td style="width: 800px; height: 576px" colspan="2" id="saeva1"><script type="text/javascript"><!-- // --><![CDATA[ var oldLoad = window.onload; window.onload = function() { if (typeof(oldLoad) == "function") oldLoad(); if (typeof(aevacopy) == "function") aevacopy(); } // ]]></script><embed type="application/x-mplayer2" src="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" width="800px" height="576px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" ShowControls="True" autostart="false" autoplay="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.se-ed.com/ads/pr/sile/song/09.%20Track%209.wma</a></td><td class="aeva_q" id="aqc1"></td></tr></table>




............................คำถามจากผู้ที่งมีความสงสัย.....................



ขอเีรียนถามไขข้องใจ เกี่ยวกับร่างทรง องค์เจ้าอย่างที่บ้านของกระผม ก้อมีอยู่คนนึง

ที่เป็นร่างทรงแต่เจ้าทรงองค์นั้นสามารถแก้ไสยศาสตร์ แก้อาถรรพ์ได้จริงครับแต่

กระผมมิได้เชื่อ แต่ก้อไม่ได้ลบหลู่ น่ะครับ  แล้วก้อมีผู้หญิงที่อายุยังหนุ่มอยู่ ซึ่งป่วยเป็น

อัมพาตที่ไม่น่าจะกลับมาเป็นคนปกติได้เลยครับแต่เค้าก้อได้มารักษากับเจ้าทรงองค์นี้

และเค้าก้อสามารถหายจากเป็นอัมพาตได้ครับแต่ร่างทรงองค์ สามารถทำนายทายได้

แม่น ด้วยครับแต่ผมก้อไม่รู้นะครับ ว่าเป็นเพราะอะไร เจ้าทรงเค้ามีพลังอำนาจหรือป่าว

ครับ เหรอว่าเค้าแกล้งทำ แต่ไม่ได้ลบหลู่น่ะครับ ช่วยไขข้อข้องใจด้วยครับ





.......................................ต่อไปนี้เป็นคำตอบ................................



พระธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอนให้มั่นคงในเรื่องของ{กรรม}สัตว์ทั้งหลาย

มีกรรมเป็นของ ๆ ตนไม่มีใครทำให้ใครเป็นอย่างไรได้ นอกจากกรรมของบุคคลนั้นเอง

หากว่าใครจะหายโรคก็เพราะกรรมที่เป็นอกุศลกรรมที่กำลังใ้ห้ผลนั้นไม่ให้ผลแล้ว

หรือกรรมดีมาตัดรอนให้ผลของอกุศกรรมนั้นเสื่อมไปไม่มีใครทำอะไรใครได้

แม้แต่ผู้ที่คิดว่าเป็นหมอเข้าทรงก็ไม่พ้นจากอำนาจของกรรมหมอเข้าทรงเองก็ไม่

สามารถกหลีกเลี่ยงหรือให้พ้นจากอำนาจของกรรมได้หากว่า{กรรม}นั้นจะให้ผลหาก

หมอเข้าทรงมีอำนาจจริงก็คงทำให้ตัวเองหายจากโรคได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งหมอที่รักษา

ทั่วไป แต่ความเป็นจริงไมไ่ด้เป็นเช่นนั้นครับไม่มีใครเป็นใหญ่กว่า  อำนาจของกรรม

แม้แต่พระพุทธเจ้าเองผู้ที่ประเสริฐสูงสุดก็ไม่พ้นจากอำนาจของกรรมครับ

หมอเข้าทรงจึงไมไ่ด้มีอำนาจแต่กรรมต่างหากมีอำนาจทำให้สัตว์กระเสือกกระสนไป

ในที่ต่าง ๆ ใน{สังสารวัฏฏ์}และพบประสบกับทุกข์ประการต่าง ๆ การที่เขาเดาเหตุการณ์

ถูกหรือรักษาคนป่วยให้หาย จึงไม่น่าอัศจรรย์เลยเพราะไม่ใช่ทุกคนที่เขารักษาหายและ

ไม่ใช่ทุกคนที่เขาเดาเหตุการณ์ถูก แต่เมื่อเราถูกอำนาจของความไม่รู้ของปุถุชนอยู่ ไม่

เข้าใจในเรื่องสัจจะที่พระองค์ทรงแสดงว่าเป็นเรื่องของกรรมของแต่ละบุคคลเราจึง

เข้าใจว่าหมอเข้าทรงมีอำนาจวิเศษไม่เช่นนั้นหมอที่รักษาคนไข้บางคนที่หายจาก

อัมพาตก็มีครับ เขาก็ไม่ไ่ด้มีความวิเศษหรือเข้าทรงอะไร แต่เพราะอาศัยการรักษาที่ถูก

ต้องแและที่สำคัญที่สุดคือกรรมของบุคคลนั้นที่เป็นอกุศลกรรมไม่ให้ผลอีกก็หายจาก

โรคนั้นจึงต้องมั่นคงในเรื่องของกรรมและมองตามความเป็นจริงก็จะเข้าใจตามที่

พระพุทธองค์ทรงแสดง

ส่วนในเรื่องของอมุษย์เข้าสิงนั้นในสมัยพุทธกาลมีตัวอย่างที่แสดงไว้ในพระไตรปิฎก

มีตัวอย่างและก็ได้แสดงว่า คนที่รักษาศีล(อุโบสถศีล)ยักษ์ย่อมไม่เข้าสิงแต่ถ้าคนที่

ประพฤติไม่ดี ยักษ์ย่อมเข้าสิงคนที่ถูกยักษ์เข้าสิงเพราะไม่มีศีล

การเข้าทรงจึงเป็นเรื่องของความไม่รู้และเ็ป็นการเพิ่มความไม่รู้กับผู้{เสพคุ้น}และ

เพิ่มความสงสัยให้กับผู้พบเห็นพระพุทธองค์ทรงติเตียนการกระทำเหล่านั้นคือการ

เป็นหมอทรงเจ้า เพราะไม่ใช่ปัญญาไม่เป็นไปเพื่อขัดเกลากิเลสกับเป็นการเพิ่ม

กิเลส เพิ่มความไม่รู้กับผู้ทำเองและผู้เสพคุ้นด้วยอันเป็น{ติรัจฉานวิชา}คือ วิชา

ที่ทำให้กั้นสวรรค์ คือไม่สามารถไปสุคติภูมิได้และกั้นมรรค ผล คือไม่สามารถบรรลุได้

เลยเพราะเป็นความไม่รู้

การกล่าวความจริงที่เป็นสัจจะจึงไม่ใช่การลบหลู่แต่ประโยชน์คือความเข้าใจพระ -

ธรรมที่เป็นความเห็นถูกอันจะนำมาซึ่งประโยชน์ของตนและผู้อื่น

อำนาจที่วิเศษจึงไม่ใช่การเดาใจหรือรักษาคนหายแต่อำนาจวิเศษที่สูงสุงดือพระ-

ธรรมคำสอนพระพุทธเจ้าที่เป็น{อนุสาสนีปาฏิหารย์}อันมีปาฏิหารย์สามารถทำให้ผู้

ป่วยทางใจที่ไม่รู้มีปัญญาขึ้นจนสามารถดับกิเลสหมดอันเป็นสิ่งที่ยากแสนยากกว่า

โรคทางกายนั่นคือรักษาโรคใจ

เรื่อง การเป็นหมอเข้าทรง พระพุทธเจ้าติเตียนและเป็นติรัจฉานวิชา

วิชาที่กั้นสวรรค์และการบรรลุธรรม

พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม 1 ภาค 1 หน้าที่ 14

ข้อความบางตอนจากพรหมชาลสูตร  

{๒๔} ๖. พระสมณโคดม เว้นขาดจากการเลี้ยงชีพโดยทางผิด

ด้วย{ติรัจฉานวิชา}อย่างที่สมณพราหมณ์ผู้เจริญบางจำพวกฉันโภชนะที่เขา

ให้ด้วยศรัทธาแล้ว ยังเลี้ยงชีพโดยทางผิดด้วย{ติรัจฉานวิชา}เห็นปานนี้

คือ ให้ฤกษ์อาวาหมงคลฤกษ์วิวาหมงคล ดูฤกษ์เรียงหมอน ดูฤกษ์

หย่าร้าง ดูฤกษ์เก็บทรัพย์ ดูฤกษ์จ่ายทรัพย์ ดูโชคดี ดูเคราะห์ร้ายให้

ยาผดุงครรภ์ร่ายมนต์ให้ลิ้นกระด้างร่ายมนต์ให้คางแข็งร่ายมนต์ให้

มือสั่นร่ายมนต์ไม่ให้หูได้ยินเสียง เป็นหมอทรงกระจกเป็นหมอทรง

หญิงสาวเป็นหมอทรงเจ้าบวงสรวงพระอาทิตย์บวงสรวงท้าวมหาพรหม

ร่ายมนต์พ่นไฟทำพิธีเชิญขวัญ




สิ่งที่ควรพิจารณา คือ สิ่งที่กำลังกล่าวถึง(การเข้าทรง)นั้น  เป็นเหตุเป็นผลหรือ

ไม่ เป็นไปเพื่อความเข้าใจสภาพธรรมที่กำลังมีกำลังปรากฏหรือไม่หรือว่าเป็นไป

เพื่อความไม่รู้เป็นไปเพื่อความ{งมงาย}เป็นไปเพื่อเพิ่มอกุศลให้มีมากขึ้น

สิ่งที่ควรฟังควรศึกษา ที่จะเป็นไปเพื่อความเจริญขึ้นของปัญญาเป็นไปเพื่อ

ความเจริญขึ้นของกุศลธรรมประการต่าง ๆ เป็นไปเพื่อความเป็นผู้มั่นคงในความเป็น

จริงของ{สภาพธรรม}นั่นก็คือ พระธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดง พระธรรม

ที่พระองค์ทรงแสดงเป็นไปเพื่อความเข้าใจถูก - เห็นถูกไม่ใช่เพื่อความไม่รู้ และ

ไม่มีโทษมีภัยแก่ผู้ที่ศึกษาด้วยจุดประสงค์ที่ถูกต้องเลยมีแต่คุณประโยชน์โดยส่วน

เดียวเท่านั้นยิ่งศึกษามากเข้าใจมาก ยิ่งมีประโยชน์มากเท่านั้น เพราะศึกษาเท่าใด

ก็ยังไม่พอจนกว่าจะเป็นผู้ถึงความเป็นพระอริยบุคคลขั้นสูงสุด  คือ พระอรหันต์  

เมื่อมีความเข้าใจพระธรรมมากขึ้นความประพฤติในชีวิตประจำวันก็จะเป็นไป

ในทางที่เป็นกุศลมากยิ่งขึ้น ตามกำลังแห่งความเข้าใจ ทั้งทางกาย ทางวาจา และ

ทางใจ ควบคู่ไปกับการเป็นผู้มีศรัทธาที่จะฟังพระธรรม ศึกษาพระธรรมสะสม

ปัญญาต่อไป...............................





(:LOVE:)ข้อมูลจากการสนทนาธรรมที่่มูลนิธิบ้านธรรมะ บุคโล ดาวคะนอง ธนบุรีท่านใดมีความประสงค์ที่จะหาความรู้ทางธรรม

เรียนเชิญสอบถามได้ที่มูลนิธิดังกล่าวขอรับ ขออนุโมทนาขอรับ รัก




http://www.facebook.com/itsariyathanakorn

http://twitter.com/soka45

http://forums.212cafe.com/boxser/

My Forums..................http://forums.212cafe.com/boxser/board-15/topic-81.html



............................บทส่งท้าย...................




ถ้ามีความตะขิตตะขวงใจในเรื่องของผู้รับ

ทำให้จิตของผู้ให้ไม่ผ่องใส

ขณะนั้นอกุศลจิตเกิดสลับกับกุศลจิต

การใส่บาตรกับพระภิกษุ

ในขณะที่จิตนอบน้อมต่อพระภิกษุ ขณะนั้นจิตเป็น{กุศล}

เพราะเหตุว่าเราไม่สามารถรู้ได้ว่า

พระภิกษุรูปใดเป็นพระอริยบุคคล

ข้อประพฤติของพระภิกษุทุกรูป

โดยพระวินัยบัญญัติแล้ว

เสมอเหมือนกับความประพฤติของพระอรหันต์





{สัพพะธานัง ธัมมะทานัง ชินาติ} การให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงผู้ปฏิบัติธรรมย่อมอยู่เย็นเป็นสุขทั้งในโลกนี้และใน โลกหน้าด้วยการมี ศีล สมาธิ ปัญญา คือ การงดเว้นไม่กระทำความชั่วทั้งปวงประพฤติแต่ความดีทำจิตใจให้ผ่องแผ้ว จะบังเกิดความสุขอันแท้จริงที่สุขสงบ ผู้ประพฤติ ปฏิบัติธรรมเท่านั้นจึงจะหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ และการเคารพรัก ดูแลบิดามารดา หรือผู้มีพระคุณ ของตนให้เป็นสุข เป็นมงคลอันสูงสุด เทวดาจะปกปัก รักษาปกป้องคุ้มครองให้ท่านปราศจากโรคาพยาธิ มีความเจริญทั้งแก่ตนเองและผู้ที่อยู่รอบข้างอันจะมีผลให้ท่าน กินก็เป็นสุข หลับก็เป็นสุข ตื่นก็เป็นสุข และเมื่อท่านสิ้นอายุขัยจากโลกนี้แล้วท่านก็จะมีแต่ความสุขในเบื้องหน้า ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำไม่ว่าในวันใด ๆ ขอส่งผลให้กับเจ้ากรรมนายเวรของคุณพ่อ - คุณแม่และญาติพี่น้องพร้อมทั้งตัวข้าพเจ้า รวมถึงได้รับบุญกุศลในการที่ ข้าพเจ้าได้เผยแพร่พระธรรม ขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว มีปู่ย่าตา ยายทั้งหลายได้มารับผลบุญนี้ด้วย หากผลบุญที่ข้าพเจ้าส่งไปไม่ถึงญาติข้าพเจ้าอาจอยู่ในที่ ๆ ไม่พร้อมที่จะรับบุญนี้ ข้าพเจ้าขอมอบบุญกุศลนี้ให้กับพยายมราชและขอฝากผลบุญไว้กับพยายมราชช่วยนำ ส่งให้กับญาติของข้าพเจ้าต่อไปด้วยเทอญ..............................................



......................................มัชฌิมประภาสปุญสถาน.........................

ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้กระทำนี้จงเป็นปัจจัยเกื้อหนุนสรรพชีวิตทั้งหลายให้ได้บำเพ็ญอนุตรวิถี กลับจิตแปรใจ ได้คืนจิตเดิม มีความสงบเย็นใจกาย ปราศจากเสียซึ่งสรรพกำทุกข์ ปลอดพ้นจากภัยเวร สงครามข้าวยาก ด้วยเดชะบุญนี้ จงช่วยค้ำชูบิดา - มารดา ครูบาอาจารย์ - ผู้มีพระคุณ ญาติสนิท - มิตรรัก ศัตรูหมู่มาร สรรพเจ้ากรรมนายเวร เทวาทุกชั้นฟ้า อารักษ์ทั่วชั้นดิน เหล่าภูติ นาคา - นาคี เหล่าวิญญา - หมู่เปรต - อสูรกายเหล่าสัตว์ใด ๆ จงเป็นผู้ได้รับอานิสงค์เดชะแห่งผลบุญนี้ท่วนทั่วทุกคนเทอญ......................

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 เมษายน 2554 10:59:35 โดย 時々sometime » บันทึกการเข้า

โลกเรานี้หนอช่างเหมือนความฝันเสียนี่กระไร ?

คำค้น: ทรง เจ้า 
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 2.501 วินาที กับ 29 คำสั่ง

Google visited last this page 24 มีนาคม 2568 06:09:50