หลวงพ่อทอง วัดเขากบ พระเถราจารย์ผู้มีอาคมเข้มขลังแห่งเมืองปากน้ำโพ“หลวงพ่อทอง” วัดวรนาถบรรพต (เขากบ) ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ พระเกจิคณาจารย์ชื่อดัง เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองนครสวรรค์
วัดวรนาถบรรพต หรือวัดเขากบ หรือวัดปากพระบางเป็นวัดเก่าแก่สมัยสุโขทัย และเคยเป็นวัดร้างมานานจึงไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าอาวาสบ้าง
มีซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างต่างๆ หลงเหลืออยู่ได้แก่ซุ้มเสมาของอุโบสถ ซากวิหารพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) เจดีย์ใหญ่
และรอยพระพุทธบาทจำลอง บนยอดเขากบ สภาพบริเวณวัดเป็นป่าไม้รวก และปกคลุมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ บริเวณนอกวัด มีคูรอบวัด
ประวัติความเป็นมา หลวงพ่อทองไม่ค่อยมีผู้ใดทราบนัก เท่าที่ฟังจากคำบอกเล่าของลูกศิษย์ใกล้ชิดพอจะได้ความว่า ท่านเป็นชาวทุ่งยั้ง จ.อุตรดิตถ์
รุ่นราวคราวเดียวกับหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อเฮง วัดเขาดิน และหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า
แม้กระทั่งหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ พระเกจิชื่อดัง ยังให้ความเคารพ
หลวงพ่อทอง ชอบการธุดงควัตรเป็นนิจศีล จนได้มาพบที่รกร้างอันเป็นปูชนียสถานเก่าแก่ อันกลายเป็นตำนานเล่าขานสืบกันมา
ถึงการเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกแห่งวัดวรนาถบรรพต หรือวัดเขากบ ดังนี้
…คราหนึ่ง มีพระธุดงค์รูปหนึ่งนามว่า ทอง ท่านเดินธุดงค์มาปักกลดอยู่ข้างหมู่บ้านเชิงเขาแห่งหนึ่งใน จ.นครสวรรค์ ทุกเช้าท่านจะเดินบิณฑบาต
เพื่อโปรดสัตว์จนวันหนึ่งไปพบเจดีย์ใหญ่เก่าแก่มาก จึงตรงไปที่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ใกล้ๆ เพื่อสอบถาม ได้พบสองตายายจึงถามว่า
“โยมชื่ออะไร ที่ดินแปลงนี้เป็นของใคร”
ตาตอบว่า
“พระคุณเจ้า ตัวชื่อ ตากบ อยู่ด้วยกันกับยายเขียด ที่แห่งนี้เป็นของฉันเอง มีอยู่ร้อยไร่เศษ กว้างคลุมยอดเขานั่นเทียว
ส่วนเจดีย์นั้นเป็นเจดีย์เก่าแก่ ชาวบ้านแถบนี้นับถือกันมาก หากหลวงพ่อจะใช้ที่ดินแห่งนี้เป็นที่พำนักฉันก็ยินดีถวาย
ให้เป็นที่สร้างวัด เพราะฉันกับยายก็แก่มากแล้ว”
หลวงพ่อทองได้รับถวายที่ดินจากตากบและยายเขียด
ต่อมาชาวบ้านจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิเล็กๆ ก่อนสร้างอุโบสถและศาลาขึ้น เพื่อชาวบ้านได้ใช้ประกอบพิธีทางศาสนา ต่อมาเมื่อตากบและยายเขียดถึงแก่กรรม
หลวงพ่อจึงกำหนดที่ดินทั้งหมดเป็นที่ดินของวัด และตั้งชื่อวัดนี้ว่า “วัดเขากบ” ตามชื่อเจ้าของที่ดิน
หลังจากการฌาปนกิจสองตายายแล้ว ท่านได้ให้ช่างปั้นรูปจำลองตากบและยายเขียดไว้ที่หน้าอุโบสถเพื่อเป็นที่ระลึก ปรากฏอยู่กระทั่งทุกวันนี้
…เนื่องจากในสมัยนั้น เชิงเขากบเป็นป่าสักมากมาย หลวงพ่อจึงตั้งชื่อว่า เขากบทราวสีจอมคีรี ณ ป่าสัก
ซึ่งต่อมา เจ้าประคุณสมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี) วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ กรุงเทพฯ ขณะนั้นเป็นเจ้าคณะมณฑล เห็นว่าวัดกบตั้งอยู่เชิงเขา
จึงเปลี่ยนชื่อให้เป็นวัด วรนาถบรรพต แปลได้ว่า ภูเขาซึ่งเป็นที่พึ่งอันประเสริฐ แต่ชาวบ้านยังคงเรียกว่า วัดกบ และวัดเขากบ จนติดปากมาทุกวันนี้
หลวงพ่อทองมีความเพียรอย่างแรงกล้า ลงมือทำงานและบูรณะวัดเขากบด้วยตัวท่านเอง โดยใช้เวลาบูรณะพระเจดีย์ซึ่งยอดหักนานถึง ๑๐ ปี
และทำโบสถ์อยู่ ๕ ปี ทั้งยังบูรณะวิหารพระนอน กำแพงวิหาร ฯลฯ
ด้วยความที่หลวงพ่อทองเป็นพระสมถะ เคร่งในวัตรปฏิบัติ บางตำนานเล่ากันว่าท่านไม่ชอบสร้างวัตถุมงคล มีเรื่องเล่าในสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่
แม้แต่รูปถ่ายท่านก็ไม่ยอมให้ใครถ่าย มีคนมาแอบถ่ายก็ไม่ติด จนลูกศิษย์ต้องขอร้องเพื่อขอเก็บไว้เป็นที่ระลึก ท่านจึงอนุญาต
หลวงพ่อทอง พัฒนาวัดเขากบจนเจริญรุ่งเรืองและจำพรรษาอยู่ตลอดอายุขัย มรณภาพวันที่ ๑๘ เม.ย.๒๔๘๔ สิริอายุเกือบ ๘๐ ปี
บรรดาลูกศิษย์ร่วมใจกันหล่อรูปเหมือนเท่าองค์จริงไว้ในวิหาร
สุดยอดลูกอมในตำนานแห่งเมืองสี่แคว "ลูกอมเล่นแปรธาตุ หลวงพ่อทอง "
แห่งเมืองปากน้ำโพ ผู้มีพลังจิตแก่กล้าอาคมขลัง เข้มขลังในวิทยาคมยิ่งนัก ท่านเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกาจ "สามารถทำตะกั่วให้เป็นทองคำ"
และเป็นพระอาจารย์หนึ่งในสิบรูปที่สามารถทดสอบเสกกบไสไม้วิ่งไปกลับได้ "ลูกอม" หรือ "ลูกสะกด" ของท่านสร้างจากผลพวงของการเล่นแร่แปรธาตุ
ลักษณะเป็นแร่ผสมเนื้อสีเงินยวง วัตถุมงคลที่ทันยุคท่านนอกจากเหรียญปั๊ม หลังเงารุ่นแรก ลูกอมเนื้อแร่เงินยวง เหรียญจอบเนื้อชินหลังเจดีย์
แล้วยังมีเหรียญจอบนางกวัก หลังยันต์เฑาะขัดสมาธิ อันเป็นยันต์ประจำตัวท่าน ซึ่งวัตถุมงคลของท่านที่กล่าวมานั้นสร้างในคราวเดียวกัน
สอบถามคนเก่าที่ทันยุคหลวงพ่อสรุปว่าสร้างในราวปี พ.ศ. ๒๔๗๐
" เรื่องเล่า... คนในตลาดปากน้ำโพ ตกทอดมานาน ท่านจะแจกให้ใคร ท่านจะผ่าลูกมะกรูดเอาลูกอมใส่ไป แล้วให้ไปรอที่บ้าน ท่านจะไช้คันกระสุน
ยิงลูกมะกรูดใส่ลูกอมส่งให้ถึงบ้าน ถามคนเก่าๆ ในตลาดได้ คนจีนในตลาดปากน้ำโพ นับถือท่านมาก ยกย่องท่านคือเง็กเซียนฮ่องเต้เลยทีเดียว "
โดยทุกวันนี้ ยังมีผู้คงแวะเวียนมากราบสักการะอยู่เป็นประจำ
ข้อมูลจาก: เฟสบุ๊ค เพจ เรื่องเล่าชาวสยาม
ภาพจาก: puistore.com