‘ทิ้งพม่าผ่านไทย’ แกะรอยเส้นทางขนขยะพลาสติกต่างประเทศ
<span class="submitted-by">Submitted on Wed, 2023-10-11 17:31</span><div class="field field-name-field-byline field-type-text-long field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><p>เรื่อง: เทวฤทธิ์ มณีฉาย, ศิชา รุ่งโรจน์ธนกุล, กรรณิกา เพชรแก้ว</p>
<p>ภาพปก: คนเก็บขยะกำลังคัดแยกขยะ ในอำเภอชเวปยีทา ถ่ายโดย ราเชล มูน</p>
</div></div></div><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>เครือข่ายผู้สื่อข่าวนานาชาติไลต์เฮ้าส์รีพอร์ต (Lighthouse Reports) และประชาไท ตรวจสอบข้อมูลกรณีขยะพลาสติกจากยุโรปและอเมริกาเหนือถูกทิ้งในเมียนมา พบว่าไทยถูกใช้เป็น ‘ทางผ่าน’ ชวนแกะรอยเส้นทางและบทบาทที่ถูกซ่อนไว้</p>
<p>และแม้ว่ารัฐบาลไทยประกาศห้ามนำเข้าขยะพลาสติก ในปี 2568 แต่นั่นไม่รวมถึง ‘การผ่านแดน’ จึงหมายถึงไทยจะยังเป็นเส้นทางส่งต่อขยะพลาสติกไปยังประเทศอื่นต่อไป</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เมื่อบ้านกลายเป็นจุดทิ้งขยะ</span></h2>
<p>"จู่ๆ สามเดือนก่อนเขาก็พากันเอาขยะมาทิ้งหน้าบ้านฉัน ตรงนั้นมันเคยเป็นที่ว่าง เคยเป็นสวนสาธารณะของเทศบาล"</p>
<p>เอเอถั่น* แม่บ้านวัย 60 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่อาศัยใกล้จุดทิ้งขยะในอำเภอชเวปยีทา ทางตอนเหนือของภาคย่างกุ้ง เปิดเผยกับสื่อฟรอนเทียร์</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245130013_35c0af6988_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ขยะเกลื่อนตามทางเดินหน้าบ้านของผู้พักอาศัย ในล็อค 27 ใกล้จุดทิ้งขยะ</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ: ไม โทมัส, กันยายน 2566</span></p>
<p>ชเวปยีทา (Shwe Pyi Thar) เป็นเมืองอุตสาหกรรมที่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาตั้งโรงงานกระจายอยู่ทั่วไปเพื่อผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคนานาชนิด </p>
<p>“ชเวปยีทา” แปลว่า สีทองและความรื่นรมย์ แต่สภาพความเป็นอยู่ของชาวบ้านกลับไม่เป็นเช่นนั้น ขยะจำนวนมากจากโรงงานถูกนำมาทิ้งในชุมชน ย่านพักอาศัยแทบทั้งหมดแวดล้อมไปด้วยกองขยะพลาสติก บ้างสูงเทียบเท่าบ้าน 1 ชั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชุมชนชาวพุทธ ภูเขาขยะตระหง่านเงื้อมวัดที่เป็นศูนย์รวมใจของชุมชน</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245130258_bbfe6178d4_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ขยะจำนวนมากถูกนำมาทิ้งอยู่หน้าวัด</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ: แหล่งข่าว</span></p>
<p>ที่หมู่บ้านอะโลต่อพเย (Alo Taw Pyae) คนที่นั่นต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกัน อากาศร้อนจัด เสี่ยงว่าสักวันขยะจะติดไฟลุกไหม้ ชาวบ้านต้องยกใต้ถุนบ้านให้สูง เนื่องจากขยะปิดกั้นทางไหลของน้ำ น้ำเลยท่วมอยู่เรื่อยๆ </p>
<p>"ตรงที่มีขยะกองใหญ่นั่นเคยเป็นถนน อีกกองนั่นเคยเป็นสนามสาธารณะ มันไม่ใช่จุดทิ้งขยะเลย"</p>
<p>เอมิ* แม่บ้านซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มาตั้งแต่ปี 2561 บอกว่าถึงกระท่อมของเธอไม่ได้อยู่ใกล้จุดทิ้งขยะ แต่ก็ตั้งอยู่บนดงน้ำครำ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53243957737_b560462f45_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เด็กๆ เดินลุยน้ำที่เต็มไปด้วยขยะ</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ: แหล่งข่าว</span></p>
<p>แม้จะโกรธแต่พวกเขาก็กลัวเดินกว่าจะพูดอะไรได้ รัฐประหารพม่าในปี 2564 ทำลายกลไกธรรมมาภิบาลตามหลักประชาธิปไตย เผด็จการพม่าจับกุมทุกคนที่พวกเขาเห็นว่าขัดต่อความสงบเรียบร้อยและความมั่นคง เมียนมาปกคลุมไปด้วยความหวาดกลัว</p>
<p>นอกจากขยะในท้องถิ่นแล้ว สื่อฟรอนเทียร์ยังพบขยะจากต่างประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร โปแลนด์ และแคนาดา ภายใต้เครื่องหมายการค้า ลิเดิล (Lidl), ยูนิโก เพนเน ริกาเต (Unico Penne Rigate), โฟร์โมสต์ (Foremost), คาซเตลัน (Kasztelan), สปอมเลก (Spomlek) และ ออยคอส (Oikos)</p>
<p>
สื่อฟรอนเทียร์ ระบุด้วยว่า ขยะจากต่างประเทศที่พบเป็นจำนวนมากที่สุดในชเวปยีทา เป็นขยะบรรจุภัณฑ์จาก “ห้างลิเดิล สาขาในสหราชอาณาจักร” ทั้งนี้ ลิเดิลเป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตสัญชาติเยอรมันที่มีสาขากระจายทั่วยุโรป และประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่เข้มงวด</p>
<p>ลิเดิล สหราชอาณาจักร ชี้แจงว่า ขยะพลาสติกทั้งหมดของบริษัทได้รับการจัดการในประเทศ และบริษัทเองก็มีนโยบายที่เข้มงวดในการไม่ส่งขยะไปยังประเทศใดๆ ในเอเชีย</p>
<p>นอกจากยังนี้ ในชเวเปยีทาก็ยังพบเทปกาวติดพัสดุจาก ลิเดิล โปแลนด์ ขณะที่ตัวแทนฝ่ายสื่อสารองค์กรของลิเดิล โปแลนด์ ชี้แจงว่า บริษัทฯ มอบหมายให้การจัดการขยะเป็นความรับผิดชอบของบริษัทเอาท์ซอร์ซ มีกำหนดในสัญญาว่าขยะบรรจุภัณฑ์จะต้องรีไซเคิลในยุโรป</p>
<p>ส่วน คาร์ลสเบิร์ก โพลสกา (Carlsberg Polska) ที่เป็นผู้ผลิตเบียร์คาซเตลัน ชี้แจงว่าไม่มีการส่งออกขยะไปนอกโปแลนด์ หรือการส่งสินค้าไปยังเมียนมา</p>
<p>ผู้สื่อข่าวติดต่อขอความคิดเห็นจากบริษัท ยูนิโก เพนเน ริกาเต และ โฟร์โมสต์ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับ </p>
<p>ส่วน ดานอน นอร์ท อเมริกา ที่เป็นผู้ผลิตโยเกิร์ตออยคอส ก็ไม่ตอบกลับเช่นกัน ทั้งนี้ ดานอนเป็นหนึ่งในผู้ผลิตพลาสติก
ชั้นนำของโลก ที่กำลังเผชิญกับการฟ้องร้องในคดีที่เกี่ยวเนื่องกับปัญหามลพิษในฝรั่งเศส</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245197454_33294863b4_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ขยะพลาสติกจากต่างประเทศที่พบในล็อคที่ 27</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ: แหล่งข่าว</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ช่องโหว่ของ Basel Convention</span></h2>
<p>ปี 2565
เครือข่ายปฏิบัติการบาเซล (Basel Action Network) ที่ติดตามการละเมิดอนุสัญญาบาเซลฯ โดยเฉพาะการส่งออกขยะพลาสติกไปยังประเทศนอกกลุ่ม OECD ร่วมกับ
มูลนิธิบูรณะนิเวศ องค์กรเอกชนด้านสิ่งแวดล้อมของไทย ติดตามตู้สินค้าที่ส่งมายังไทยและต้องสงสัยว่าบรรจุขยะพลาสติก หรือพลาสติกอันตราย ซึ่งอาจเป็นการละเมิดอนุสัญญานี้</p>
<p>หลังแจ้งกรมควบคุมมลพิษของไทยทราบ และต่อมาร่วมกับเจ้าหน้าที่จากกรมควบคุมมลพิษ ตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัย 2 ตู้ พบว่าตู้หนึ่งบรรจุเศษพลาสติกปกติไม่ใช่ขยะ แต่อีกตู้ไม่สามารถตรวจสอบได้เนื่องจากเป็นตู้สินค้าที่ระบุว่าเป็นสินค้าผ่านแดนไปประเทศเมียนมา</p>
<p>“เป็นจุดที่เราเริ่มตั้งข้อสังเกตว่ามีความเป็นไปได้ว่าไทยจะเป็นจุดเคลื่อนย้าย (transit) ขยะพลาสติกไปประเทศเพื่อนบ้าน” นักวิจัยที่ร่วมในการตรวจสอบดังกล่าวระบุ</p>
<p>การนำผ่านเศษพลาสติกชนิดที่ระบุว่าใช้เพื่อการรีไซเคิล ภายใต้อนุสัญญาบาเซลฯ สามารถดำเนินการได้ตาม พรบ. ศุลกากร พ.ศ. 2560 หมวด 4 ส่วนที่ 1 การผ่านแดนและการถ่ายลำไม่ต้องขอความยินยอมล่วงหน้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม การผ่านแดนส่วนใหญ่จึงระบุว่าเป็นการนำผ่านเศษพลาสติกเพื่อการรีไซเคิล</p>
<p>ขณะที่อำนาจในการตรวจสอบสินค้าผ่านแดนนั้น
ประกาศกรมศุลกากร ระบุว่าพนักงานศุลกากรสามารถตรวจค้นของผ่านแดน โดยไม่ต้องมีหมายค้นได้ใน 4 กรณี คือ กรณีมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า ของนั้นมีไว้เพื่อใช้ในการก่อการร้ายหรือเกี่ยวเนื่องกับการก่อการร้าย ,ของนั้นอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคง สันติภาพ และความปลอดภัยระหว่างประเทศ ,มีการแสดงถิ่นกำเนิดเป็นเท็จ และเป็นของผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับการผ่านแดนหรือการถ่ายลำ</p>
<p>เจ้าหน้าที่ที่จะตรวจสอบตู้สินค้าต้องสงสัยในกรณีนี้ จะต้องเป็นเจ้าหน้าที่ศุลกากรเท่านั้น แม้ว่ากรมควบคุมมลพิษ จะเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของไทยในการดำเนินการตามพันธะสัญญาบาเซลฯ (Basel Convention Competent authority -CA) ร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมก็ตาม</p>
<p>ขณะที่ สมพงษ์* เจ้าหน้าที่ศุลกากรรายหนึ่ง บอกว่าในทางปฏิบัติ ของผ่านแดนที่เป็นตู้คอนเทนเนอร์ ศุลกากรจะตรวจแค่เอกสารที่ประทับแน่นที่ประตูตู้ว่าอยู่ในสภาพเรียบร้อยหรือไม่ เพราะต้องการยืนยันแค่ว่าของออกจริง และไม่มีใครมาเปลี่ยนของ ส่วนการตรวจของนั้น เป็นหน้าที่ของศุลกากรประเทศที่มีการนำเข้า หรือประเทศปลายทาง</p>
<p>อนุสัญญาบาเซลว่าด้วยการควบคุมการเคลื่อนย้ายข้ามแดนของของเสียอันตรายและการกำจัด (Basel Convention on the Control of Transboundary Movements of Hazardous Wastes and Their Disposal) เป็นสนธิสัญญาระหว่างประเทศมุ่งหมายจะลดการเคลื่อนย้ายของเสีย (hazardous waste) จากรัฐหนึ่งไปสู่อีกรัฐหนึ่ง เพื่อป้องกันการถ่ายโอนของเสียอันตรายจากประเทศพัฒนาแล้วไปยังประเทศด้อยพัฒนา </p>
<p>อย่างไรก็พบว่าอนุสัญญาดังกล่าวยังไม่สามารถหยุดยั้งความพยายามที่จะยัดเยียดขยะให้กับประเทศด้อยพัฒนาได้ หลายประเทศเช่น
สหรัฐอเมริกาไม่ได้ให้สัตยาบันต่ออนุสัญญานี้ มีรายงานในสื่อตะวันตกว่ามีการส่งออกขยะพลาสติกจากอเมริกากระจายไปยังประเทศยากจนและกำลังพัฒนา</p>
<p>ในกรณีของประเทศไทยที่ลงนามรับรองอนุสัญญาบาเซล การขนย้ายขยะพลาสติกที่ปนเปื้อนและอาจเป็นอันตรายผ่านไทย ประเทศต้นทางจะต้องขอความ
ยินยอมล่วงหน้าจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตามมีช่องว่างในทางปฏิบัติที่ระบุว่าหากกรมโรงงานอุตสาหกรรมไม่ตอบกลับภายใน 60 วัน ถือว่าเป็นการให้ความยินยอมโดยนิ่งเฉย (Tacit Consent) ประเทศดังกล่าวสามารถนำผ่านขยะดังกล่าวผ่านไทยไปยังประเทศปลายทางได้</p>
<p>แหล่งข่าวจากคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยที่ดำเนินการภายใต้อนุสัญญาบาเซล ระบุว่าเบื้องต้นอนุสัญญาเน้นควบคุมเพียงของเสียอันตราย เมื่อเร็วๆ นี้ได้เพิ่มขยะพลาสติกเข้ามา โดยให้อยู่ในดุลพินิจของแต่ละประเทศว่าของประเภทใดจึงจะจัดเป็นขยะพลาสติก ไม่มีการกำหนดร่วมโดยอนุสัญญาดังกล่าว ทั้งนี้ัมีการแจ้งนำเข้าชิ้นส่วนพลาสติกที่ถูกสงสัยว่าอาจเป็นขยะพลาสติกไม่มากนัก “อยู่ในหลักสิบไม่ถึงหลักร้อยในแต่ละปี” และประเทศไทยตรวจสอบทุกครั้งที่มีการแจ้งจากประเทศต้นทาง </p>
<p>“เช่นครั้งหนึ่งมีตู้สินค้าต้องสงสัยว่าจะเป็นขยะพลาสติกจากอิตาลี เราไปตรวจสอบ พบว่าเป็นชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมรีไซเคิล ไม่ใช่ขยะ และจนถึงปัจจุบันเราไม่เคยตรวจพบขยะพลาสติก แต่ยินดีตรวจสอบทุกครั้งที่มีการแจ้งมา” </p>
<p>แหล่งข่าวแจ้งว่าเมื่อไม่มีข้อกำหนดร่วมภายใต้อนุสัญญาบาเซล ว่าของประเภทใดจัดเป็นขยะพลาสติก จึงทำให้การตีความของแต่ละประเทศต่างกัน ประเทศไทยอยู่ระหว่างร่างข้อกำหนดให้ชัดเจนว่าขยะพลาสติกมีลักษณะและองค์ประกอบเช่นไร พลาสติกประเภทไหนลักษณะใดจึงจะจัดเป็นขยะพลาสติก คาดว่าจะเสร็จสิ้นภายในปีนี้ จากนั้นจึงจะนำข้อกำหนดมาบังคับใช้กับการขนส่งมายังประเทศไทยต่อไป</p>
<p>ขยะพลาสติกที่ สื่อฟรอนเทียร์ พบเป็นแค่ยอดภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น ตามข้อมูลของ UN Comtrade ระบุว่า ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2565 ขยะพลาสติกซึ่งอยู่ใต้พิกัดศุลกากร HS 3915 จากต่างประเทศมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ถูกส่งไปยังเมียนมา ซึ่งส่วนใหญ่ไปจากประเทศไทย ส่วนประเทศอื่นอาทิ สหรัฐอเมริกา แคนาดา โปแลนด์ สเปน ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร รวมถึงประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก็มีแต่ถ้าเทียบกับไทยก็เป็นปริมาณที่น้อยกว่าอย่างเห็นได้ชัด</p>
<div class="flourish-embed flourish-map" data-src="visualisation/15321409">
<script src="
https://public.flourish.studio/resources/embed.js"></script></div>
<p>จากสถิติการส่งออกของไทยตามพิกัดศุลกากร 3915 (KG) เศษ เศษตัดและของที่ใช้ไม่ได้ ที่เป็นพลาสติก โดยอ้างข้อมูลจาก ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์ โดยความร่วมมือจากกรมศุลกากร พบว่าในรอบ 2561-2565 พม่ายังเป็นประเทศที่ไทยส่งออกสินค้าประเภทนี้ติด 1 ใน 5 โดยเฉพาะปี 2561 เป็นประเทศอันดับ 1 ที่ได้ส่งออกหรือกว่า 61 ล้านกิโลกรัม หรือปีที่แล้วก็กว่า 6 ล้านกิโลกรัม ซึ่งข้อมูลจาก The World Integrated Trade Solution (WITS) ก็ยืนยันว่าไทยเองก็เป็นประเทศที่พม่านำเข้าสินค้าประเภทนี้มากที่สุดเช่นกัน (ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ‘ตารางสถิติประกอบ’ ท้ายรายงานนี้ )</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ไทยถูกใช้เป็นทางผ่านได้อย่างไร</span></h2>
<p>เมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2566 ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติห้ามนำเข้าขยะพลาสติกตั้งแต่วันที่ 31 ธ.ค. 2567 เป็นต้นไป เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อแก้ปัญหาราคาเศษพลาสติกในประเทศตกต่ำ และเพื่อมิให้ประเทศไทยเป็นที่รองรับเศษขยะจากประเทศอื่น</p>
<p>
สำนักข่าวสิ่งแวดล้อมรายงานคำพูดของ เพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ (Earth) ซึ่งติดตามปัญหาขยะพิษมากว่า 10 ปี กล่าวว่ามาตรการดังกล่าวถือเป็นหมุดหมายความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของภาคประชาชน แต่ก็ยังเรื่องที่ยังต้องจับตา อาทิ การลักลอบนำเข้า สำแดงเท็จ หรือแจ้งพิกัดอื่นที่ไม่ถูกต้อง ซึ่งภาคประชาชนจะมีข้อจำกัดคือไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบได้</p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2561 รัฐบาลจีนออกประกาศห้ามนำเข้าขยะจากต่างประเทศ หลังจากพบว่าขยะกำลังล้นประเทศ ทำให้ขยะจำนวนมหาศาลได้ย้ายจุดหมายมายังหลายประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทย รัฐบาลประกาศให้ปัญหาขยะเป็นวาระแห่งชาติเมื่อปี 2561 และมีความพยายามแก้ปัญหามาตลอด แต่ยังไม่สามารถห้ามนำเข้า 100%</p>
<p style="text-align: center;">
<iframe aria-label="Interactive line chart" data-external="1" frameborder="0" height="457" id="datawrapper-chart-TZ3nd" scrolling="no" src="
https://datawrapper.dwcdn.net/TZ3nd/1/" style="width: 0; min-width: 100% !important; border: none;" title="Southeast Asia saw an influx of plastic waste when China banned imports"></iframe><script type="text/javascript">
<!--//--><![CDATA[// ><!--
!function(){"use strict";window.addEventListener("message",(function(a){if(void 0!==a.data["datawrapper-height"]){var e=document.querySelectorAll("iframe");for(var t in a.data["datawrapper-height"])for(var r=0;r<e.length;r++)if(e[r].contentWindow===a.source){var i=a.data["datawrapper-height"][t]+"px";e[r].style.height=i}}}))}();
//--><!]]>
</script></p><p> </p>
<p>ในช่วงปี 2566-2567 ประเทศไทยยังอยู่ในช่วงผ่อนปรน ให้มีการจำกัดการนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศ เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับ 14 โรงงานอุตสาหกรรมที่ได้รับอนุญาตมาก่อนแล้ว ใน “พื้นที่เขตปลอดอากร” เพื่อการผลิตแล้วส่งออกเท่านั้น และเมื่อถึงสิ้นปี 2567 ก็จะไม่มีการนำเข้าขยะพลาสติกจากนอกประเทศอีกต่อไป</p>
<p>จากการสืบสวนพบว่า หากมีผู้ต้องการส่งออกขยะพลาสติกจากประเทศไทยไปยังประเทศเมียนมา สามารถดำเนินการได้ 2 วิธี</p>
<ol>
<li>ผ่าน “บางบริษัท” ที่มีใบอนุญาตนำเข้าขยะพลาสติกเป็นวัตถุดิบในพื้นที่ปลอดอากรเพื่อผลิตและส่งออก และมีสิทธิ์เก็บวัตถุดิบนี้ไว้ในครอบครองเป็นเวลา 2 ปี</li>
<li>ลำเลียงผ่านไทยในฐานะของ “สินค้าผ่านแดน” ซึ่งในทางปฏิบัติจะไม่มีการเปิดคอนเทนเนอร์สินค้าจนกว่าจะถึงประเทศปลายทาง</li>
</ol>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53244837046_c234754f39_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">รถบรรทุกต่อแถวยาวบนถนนในเมืองเมียวดี
ภาพ วรรณา แต้มทอง, กันยายน 2566</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ช่องโหว่จากบางบริษัท</span></h2>
<p>การนำเข้าเศษพลาสติกในเขตปลอดอากรเพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิต จะต้องเพื่อส่งออกไปนอกราชอาณาจักรในรูปผลิตภัณฑ์สำเร็จเท่านั้น แต่ในทางปฏิบัติกลับพบช่องโหว่ </p>
<p>“บางทีเราก็ไม่จำเป็นต้องผลิตก็ได้ เราแค่คัดแยกแล้วก็ส่งออก”</p>
<p>พอล* กรรมการของหนึ่งในบริษัทที่มีใบอนุญาตฯ ให้สัมภาษณ์ว่ามีการนำส่งขยะพลาสติกที่ไม่ได้ผลิตใหม่ ไปยังเมียนมาทางด่านแม่สอด</p>
<p>ขยะต่างประเทศถูกบรรทุกใส่คอนเทนเนอร์จะมาถึงไทยที่ท่าเรือแหลมฉบัง จากนั้นโหลดลงรถพ่วงเพื่อลำเลียงผ่านไทยไปยังเมียนมา </p>
<p>พอล บอกว่าบริษัทที่ตนทำงานส่งออกขยะพลาสติกทั้งแบบที่รีไซเคิลแล้วและแบบที่แค่คัดแยกไปยังหลายประเทศ ทั้งจีน เวียดนาม มาเลเซีย ฮ่องกง ในกรณีของเมียนมานำส่งไม่ได้เยอะมากเทียบเท่าประเทศอื่น เดือนละประมาณ 10-12 คอนเทนเนอร์ จากสมัยก่อนได้ยอดถึงประมาณ 30-40 คอนเทนเนอร์</p>
<p>ส่วนสาเหตุที่นำส่งได้น้อยลง เขาไม่ได้ระบุแน่ชัด แต่คาดว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับความไม่สงบชายแดน</p>
<p>ขณะที่ พลอยใจ* พนักงานบริษัทโลจิติกส์แห่งหนึ่งใน อ.แม่สอด บอกว่า บริษัทตนจัดการเอกสารผ่านแดนให้สินค้าทุกชนิดรวมทั้งเศษพลาสติกด้วย กระทั่งขยะพลาสติกสกปรกก็นำออกจากไทยไปฝั่งเมียนมาได้ “อยู่ที่ว่าคุณเคลียร์กับพม่าได้ไหม” ซึ่งส่วนนี้เป็นหน้าที่ของลูกค้า บริษัทตนมีหน้าที่ทำเอกสารให้ทั้งหมด คิดค่าบริการเดินเอกสารสำหรับนำสินค้าข้ามสะพานจากไทยไปยังเมียนมา ราคา 5,000 บาทต่อหนึ่งรถบรรทุกห่วงซึ่งปกติบรรทุก 2 คอนเทนเนอร์</p>
<p>ทอง* พนักงานบริษัทโลจิสติกส์รายหนึ่ง ใน จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่าปกติบริษัทขนส่งเศษพลาสติกผ่านแดนและข้ามพรมแดนไปยังเมียนมา ลาว กัมพูชา อยู่แล้ว ในกรณีที่ลูกค้าต้องการนำผ่านแดนไปยังเมียนมา ใช้แค่ใบอนุญาตผ่านเมียนมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ลูกค้าจะต้องส่งพิกัดสินค้าอย่างละเอียดให้บริษัททางอีเมลเท่านั้น เนื่องจาก “มีหลายเจ้าที่บอกพิกัดเรามา แต่บางทีมาทำเลี่ยงพิกัด”</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245126903_77afb94a0a_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">โรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี </span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ วรรณา แต้มทอง, กันยายน 2566</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53247865188_0215c54eed_b.jpg" /></span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ขยะพลาสติกที่พบในโรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี</span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพ วรรณา แต้มทอง, กันยายน 2566</span></p>
<p>จากภาพด้านบน ประชาไทสอบถามผู้เชี่ยวชาญ 3 ราย ถึงความเป็นไปได้ที่ขยะพลาสติกที่ถูกบีบอัดจะนำเข้ามาทางตู้คอนเทนเนอร์</p>
<p>ทั้งสามระบุว่า มีความเป็นไปได้ แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นขยะจากต่างประเทศ เพราะขยะในประเทศก็ถูกบีบอัดได้เช่นกันด้วยเหตุผลเรื่องความประหยัดพื้นที่ในการขนส่ง หลักฐานที่จะชี้ว่าเป็นขยะนำเข้าคือฉลากสินค้า</p>
<h2><span style="color:#2980b9;">ช่องโหว่จากของผ่านแดน</span></h2>
<p>ประชาไท พูดคุยกับคนในแวดวงโลจิสติกส์และเจ้าหน้าที่ศุลกากรผู้ไม่ประสงค์ออกนาม พบความเป็นไปได้ว่าขยะพลาสติกต่างประเทศที่พบในเมียนมา ถูกนำผ่านแดนประเทศไทย โดยใช้ประโยชน์จากการที่ศุลกากรไม่ได้ตรวจสอบ และการคอร์รัปชันระหว่างทาง</p>
<p>ชัยวัฒน์* คนขับรถบรรทุกข้ามชายแดนมากว่า 10 ปี ยืนยันว่ามีการนำเข้าและส่งออกขยะระหว่างกันทั้งไทยและเมียนมา เขาเคยเห็นพลาสติกอัดก้อนและกระดาษอัดก้อน บรรจุในตู้คอนเทนเนอร์ บ้างมาทางเรือไม่ก็ทางรถบรรทุก</p>
<p>การส่งสินค้าออกไปทำได้ 2 ช่องทาง ได้แก่ เส้นทางหลักคือสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 และเส้นทางรองคือข้ามโป๊ะ โดยจะขึ้นอยู่กับลูกค้าฝั่งเมียนมาว่าจะรับของทางไหน ถ้าเป็นตู้คอนเทนเนอร์มักจะมีผู้รับเป็นชาวจีน ตัวเขาจึงขับรถข้ามสะพานเป็นส่วนใหญ่ </p>
<p>ตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ถูกลำเลียงผ่านเส้นทางบกของประเทศไทยในฐานะ “ของผ่านแดน” ที่จะไม่มีการเปิดจนกว่าจะถึงปลายทาง</p>
<p>หนึ่งในไม่กี่คนที่มีโอกาสเห็นของภายในตู้คือคนขับรถที่ข้ามไปลงของฝั่งเมียนมา ตัวเขาเคยขนตู้คอนเทนเนอร์จากท่าเรือแหลมฉบังไปยังนิคมอุตสาหกรรมจีนฝั่งเมียนมา จากต้นทางสำแดงว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ แต่เมื่อถึงปลายทางแล้วเปิดตู้ ปรากฏว่าเป็นไม้อัด 4-5 แผ่น ที่เหลือเป็นเหล้าเบียร์ น้ำผลไม้บรรจุขวดแก้วมาจากประเทศจีนทั้งหมด</p>
<p>ยิ่งไปกว่านั้น มีตู้คอนเทนเนอร์บางประเภทที่จะไม่เปิดเลยแม้กระทั่งช่วงที่ลงของ โดยเจ้าหน้าที่จะทำการยกตู้ไปเลย จากนั้นก็นำตู้เปล่ามาสลับให้คนขับนำกลับมา</p>
<p>“ที่นี่เงินแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง”</p>
<p>ชัยวัฒน์* ระบุ พร้อมเล่าถึง “ตู้เคลียร์” คำศัพท์ที่รู้กันในวงการโลจิสติกส์ หมายถึง ตู้ที่จะรอดจากการตรวจสอบของศุลกากร เมื่อถึงด่านจะไม่มีทั้งการถอยตรวจและการเอ็กซเรย์ก่อนข้ามฝั่ง หรือเลี่ยงการข้ามสะพานมาข้ามโป๊ะแทน ซึ่งเมื่อเขาเห็นมาตรการการตรวจสอบที่หละหลวมก็พอเดาได้ว่าเป็นตู้ที่ “เคลียร์กันมาแล้ว”</p>
<p>“พอไปถึงปุ๊บ บางงานที่ยกตู้ลง ก็เอาตู้เปล่ากลับมาคืนแหลม (ฉบัง) คนรถก็จะไม่เห็นของข้างใน” </p>
<p>อีกเสียงยืนยันจาก ไก่* คนขับรถพ่วงข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ระบุด้วยว่าเมื่อข้ามฝั่งไปเมียนมาต้องพกเงินสำรองไว้จ่ายส่วย หลังรัฐประหารพม่าปี 2564 ทหารของกองกำลังกะเหรี่ยงบีจีเอฟเก็บส่วยจากรถบรรทุกมากขึ้นอย่างมีนัยยะ จากเดิมแต่ละด่านเคยเก็บ 10-20 บาทก็พุ่งขึ้นมาเป็น 100 บาท</p>
<p>“ที่เขาบอกว่ามีไม่ถึงพันไม่ต้องมา มันคือเรื่องจริง ถ้ามีเงินจวนตัวนี่ลำบาก เพราะให้ 10 มันจะเอา 100 ถ้าเราไม่ให้ก็จะมีปัญหา”</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245938795_51b3a54f18_b.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">ภาพแคปจากคลิปติ๊กต็อกของคนขับรถบรรทุกข้ามแดนรายหนึ่ง </span></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#d35400;">เจ้าของคลิปยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ในภาพคือฝั่งเมียนมา ทหารบีจีเอฟรีดไถเงินคนขับคันหน้า</span></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">เผยเทคนิครอดการตรวจสอบ</span></h2>
<p>“ถ้าเอกสารระบุไว้ชัดเจนว่ามันเป็นของต้องห้าม ของผิดกฎหมาย ยังไงก็ไม่สามารถผ่านด่านมาได้ มันต้องเป็นการปลอมแปลงเอกสารมาตั้งแต่ต้นทางแล้ว”</p>
<p>ศิริชัย* พนักงานแผนกโลจิสติกส์ในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า ตามปกติเอกสารนำเข้าจะมีทั้งหมด 3 อย่างที่มีข้อมูลล้อกัน คือ</p>
<ol>
<li>Invoice : ระบุสินค้า ราคา จำนวน</li>
<li>Tracking list : ระบุน้ำหนัก ความกว้าง ยาว สูง และลักษณะบรรจุภัณฑ์ </li>
<li>B/L (ใบตราส่ง หรือใบ BL :Bill of Lading) </li>
</ol>
<p>แต่เอกสารหลักที่กรมศุลกากรจะตรวจเวลานำเข้า-ส่งออก คือ “ใบขนสินค้า” ทั้งขาเข้าและขาออก ซึ่งผู้ประกอบการต้องทำมาชี้แจงต่อศุลกากร โดยเนื้อหาก็จะอิงมาจากเอกสาร 3 อย่างข้างต้น</p>
<p>วิธีที่ง่ายที่สุดที่จะสำแดงเท็จคือ การปลอมแปลงเอกสาร 3 อย่างมาตั้งแต่ต้นทาง โดยใช้วิธีเปลี่ยนคำอธิบายสินค้าเพื่อให้ไม่สุ่มเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบ</p>
<p>ในเอกสาร shipping document จะมี 2 ช่อง ที่บอกว่าใครคือ shipper (ผู้ส่งออก) หรือ consignee (ผู้นำเข้า) โดยจะระบุทั้งชื่อและที่อยู่บริษัท ส่วนบริษัทขนส่งก็อาจไม่รู้เห็น เพราะว่าเป็นแค่ตัวกลางที่ถูกจ้างมาขนของ </p>
<p>“ฉะนั้นถ้าเกิดการสำแดงเท็จในกรณีส่งออก ตัว shipper (ผู้ส่งออก) ก็เป็นคนปลอมแปลงเอกสารมาตั้งแต่ต้นเลย ของเป็น A แต่ปลอมแปลงเป็น B เพื่อเลี่ยงศุลกากร แล้วก็ทำเอกสารล้อไป ศุลกากรก็ตรวจสอบตามเอกสารก็ไม่รู้แล้ว”</p>
<p>ในกรณีของขยะพลาสติกต่างประเทศที่ถูกขนไปเมียนมาโดยมีไทยเป็นทางผ่าน ศิริชัยยืนยันว่า มีความเป็นไปได้สูงที่จะใช้วิธีการสำแดงเท็จเพื่อนำผ่านแดน โดยใช้ประโยชน์จากการที่ศุลกากรไทยไม่ตรวจสอบ และอาจเกี่ยวกับเรื่องเส้นสาย</p>
<p>ขณะที่ วีรยุทธ์* พนักงานโลจิสติกส์จากอีกบริษัทหนึ่ง ยืนยันว่ามีความเป็นไปได้สูงที่ตู้คอนเทนเนอร์เศษพลาสติก 3915 ที่ค้างอยู่ตามศุลกากรท่าเรือใหญ่ๆ จะเป็น “ตู้เคลียร์” ที่ต้นทางกับปลายทางเคลียร์กันไม่ได้</p>
<p>การสำแดงเท็จเป็นเรื่องที่พบบ่อยสำหรับการนำเข้า ทั้งสำแดงเท็จเรื่องมูลค่าสินค้าเพื่อจ่ายภาษีถูกลง หรือ ตั้งใจแจ้งเป็นสินค้าอย่างอื่นเพื่อเลี่ยงภาษี</p>
<p>เศษขยะในฐานะของตกค้าง ของกลางและของผ่านแดนที่ถูกประมูลตามด่านศุลกากร พร้อมเงื่อนไขต้องนำออกนอกราชอาณาจักร</p>
<p>สำหรับข้อมูลเศษพลาสติก (Plastic Scrap) ที่ถูกขายทอดตลาดที่มีทั้ง บัญชีของตกค้าง ของกลางและของผ่านแดนที่ตกเป็นของแผ่นดินตามด่านศุลกากรต่างๆ ในไทย โดยเงื่อนไขสำคัญของการประมูลคือต้องนำออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้น</p>
<p>ผู้สื่อข่าวสอบถามเจ้าหน้าที่ประสานงานขายทอดตลาดของศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง อธิบายว่าเนื่องจากสินค้าพวกนี้ไม่ได้รับอนุญาตนำเข้าประเทศ รวมทั้งไม่ได้รับใบอนุญาตจากกรมโรงงานอุตสาหกรรม จึงมีเงื่อนไขในการประมูลเพื่อส่งออกเท่านั้น</p>
<p>สำหรับประเภทต่างๆ นั้น ของตกค้างคือของที่ผู้นำเข้าไม่มานำสินค้าออกภายใน 30 วัน</p>
<p>ส่วนของกลางนั้นคือของที่ถูกจับกุม และของผ่านแดนคือสินค้าผ่านแดน สินค้าถ่ายลำที่ไม่นำออกจากท่าเรือภายใน 30 วัน นับจากวันที่เรือนำเข้า มีลักษณะคล้ายของตกค้าง แต่ในใบเอกสาร Manifest เที่ยวเรือที่ระบุก่อนนำเข้าก็จะเขียนว่าเป็นสินค้าผ่านแดนไปที่ไหน เช่น ผ่านแดนไปลาว ไปเมียนมา เป็นต้น </p>
<p>เจ้าหน้าที่ศุลกากรรายหนึ่งให้ความเห็นว่า การที่มีเศษขยะพลาสติกถูกทิ้งค้างที่ศุลกากรท่าเรือใหญ่ๆ อาจมีสาเหตุได้หลายข้อ เช่น ไม่มีคนมารับของ หรือเป็นของผ่านแดนที่ติดต่อปลายทางไม่ได้</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245232044_7724cfae5b_b.jpg" /></p>
<div class="note-box">
<p>ภาพบันทึกบางส่วนจาก
ประกาศขายทอดตลาด ของกลาง ของตกค้าง และของที่ตกเป็นของแผ่นดิน ครั้งที่ 1/2566 9 มี.ค. 2566 นอกจากเงื่อนไขการประมูลที่ระบุว่า ต้องนำออกนอกราชอาณาจักรเท่านั้นแล้ว ยังระบุด้วยว่า เว้นแต่หากผู้ประมูลมีความประสงค์จะนำเข้าไปใช้ในประเทศ ผู้ประมูลต้องมีใบอนุญาตนำเข้าและยังมีโควต้านำเข้าเศษพลาสติก ส่วนการการเปลี่ยนถ่ายตู้สินค้าต้องกระทำในพื้นที่กำหนด ภายในเขตท่าเรือแหลมฉบังเท่านั้น และการส่งออกต้องออกทางท่าหรือด่านศุลกากรดังนี้ ท่าเรือแหลมฉบัง ด่านศุลกากรนครพนม ด่านศุลกากรหนองคาย ด่านศุลกากรช่องเม็ก ด่านศุลกากรมุกดาหาร ด่านศุลกากรแม่สอด ด่านศุลกากรคลองใหญ่ ด่านศุลกากรสะเดา และด่านศุลกากรปาดังเบซาร์ เป็นต้น รวมทั้งรายการสินค้ายังระบุกหมายเลขตู้คอนเทนเนอร์และตัวย่อของประเทศต้นทาง เช่น US, JP, KR และ AE เป็นต้น</p>
<p>ตัวอย่างเศษพลาสติก Plastic Scrap ที่ถูกประกาศขายทอดตลาดของกลางตามด่านศุลกากรต่างๆ ในไทย ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ศุลกากรตรวจสินค้าลาดกระบัง 9 มี.ค. 2566 ของกลางที่บางชุดมีนำหนักรวมสูงสุดกว่า 24 ตัน ศุลกากรพระสมุทรเจดีย์ รอบเมื่อวันที่ 23 มี.ค.66 มีเศษพลาสติกที่เป็นของกลางที่เปิดประมูลนำหนักถึง 25 ตัน การท่าเรือแห่งประเทศไทย รอบเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.65 รวม 2 รายการกว่า 90 ตัน แต่ที่มีจำนวนมากที่สุดเป็นศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง จากมีหลายรายการที่เปิดประมูล ในจำนวนนี้บัญชีของตกค้างบางรายการยอดน้ำหนักกว่า 100 ตัน ด้วย (รายละเอียดยอดรวมตามตารางด้านล่าง) </p>
</div>
<h2 style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53244865971_5dd58bc60d_b.jpg" /></h2>
<h2 style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245356910_ba2c85187d_b.jpg" /></h2>
<p>ภาพตัวอย่างเศษพลาสติกที่เปิดประมูลขายทอดตลาดตาม
ประกาศสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ประกาศขายทอดตลาด ของกลางของตกค้าง และของที่ตกเป็นของแผ่นดิน ครั้งที่ 2/2566 ที่จัดประมูลไปเมื่อ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ตามบัญชี LIST F ฉบับที่ 1/2562 (ล.820/01/03/64) ระบุตัวย่อประเทศต้นทาง AU หมายเลขตู้คอนเทนเนอร์ HLBU1771310, HLXU6453475 และ UACU5081790 น้ำหนัก 51,280 กิโลกรัม ซึ่งมีลักษณะเป็นเศษพลาสติกใกล้เคียงกับที่พบในโรงงานรีไซเคิลแห่งหนึ่งในเมืองเมียวดี (ตามภาพด้านล่าง)</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53245226024_d0a43a2a88_b.jpg" /></p>
<h2><span style="color:#2980b9;">มาตรการห้ามนำเข้าไทยยังไม่เพียงพอ</span></h2>
<p>“ขยะ HS 3915 ถูกนำเข้ามาเยอะสุด การแบนอย่างเดียวก็ย่อมเป็นการปิดช่องใหญ่ในการนำเข้า แต่คงไม่ใช่ทางออกที่สมบูรณ์ที่สุด”</p>
<p>ปุณญธร จึงสมาน เจ้าหน้าที่ฝ่ายข้อมูลและสื่อสาร จากมูลนิธิบูรณะนิเวศ กล่าวถึงนโยบายห้ามนำเข้าขยะพลาสติกในปี 2568 ว่าเป็นหมุดหมายที่ดีแต่ยังไม่เพียงพอ เพราะอาจมีการแอบนำเข้าโดยเลี่ยงไปใช้พิกัดอื่น ซึ่งภาคประชาชนตรวจสอบได้ยาก ฉะนั้นรัฐบาลควรมีมาตรการเพิ่มเติมในการติดตามป้องกันและควบคุมการนำเข้าขยะพลาสติกด้วย เช่น ขยายขอบเขตการควบคุมให้รวมถึงพิกัดศุลกากรทั้งหมด เพื่อที่จะตรวจว่ามีโอกาสที่ขยะพลาสติกจะถูกนำเข้ามาในพิกัดอื่นหรือไม่</p>
<p>ย้อนไปเมื่อปี 2561 ภาคประชาสังคมเริ่มมีการคัดค้านการนำเข้าขยะพลาสติก เพราะเห็นว่าไทยเป็นประเทศผู้รับขยะพลาสติกจำนวนมากมาตลอด ยิ่งเวลาผ่านไปก็ปรากฏหลักฐานขึ้นมาเรื่อยๆ ว่าไทยเป็นผู้ส่งออกและจุดนำผ่านด้วย </p>
<p>เมื่อเดือน มิ.ย. 2566 วราวุธ ศิลปอาชา ขณะดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ยืนยันกับประชาไทว่า การห้ามนำเข้าเศษพลาสติกในปี 2568 ไม่รวมถึงการนำเข้าเพื่อส่งผ่านแดน</p>
<p>“ควรจะเขียน (กฎหมาย) ไว้เลยว่าห้ามนำเข้าและห้ามนำผ่าน” </p>
<p>ปุณญธร กล่าวถึงข้อเสนอต่อรัฐบาลไทย ระบุว่า ต้องป้องกันไม่ให้เรากลายเป็นจุดที่มีการเอาพลาสติกนำผ่านไป








