แพทย์ไร้พรมแดนเรียกร้องเลิกโจมตีโรงพยาบาลในกาซ่า-เจรจาตัวประกันมี 'อุปสรรคเล็กน้อย
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2023-11-20 22:14</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>แพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เรียกร้องให้อิสราเอลเลิกทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลในฉนวนกาซ่า ปาเลสไตน์ นอกจากนี้ประธานาธิบดี โจ ไบเดน และยูเอ็น ก็เรียกร้องแบบเดียวกัน ในระหว่างนั้นชาติตะวันตกและประเทศพันธมิตรได้ยื่นมือช่วยเหลือในการเจรจากับให้ติดอาวุธฮามาสปล่อยตัวประกันซึ่งกาตาร์บอกว่ามี "อุปสรรคเล็กน้อย" ที่ทำให้ยังเจรจาปล่อยตัวไม่สำเร็จ</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53344792799_f111215a6f_k.jpg" /></p>
<p style="text-align: center;"><span style="color:#e67e22;">ย่านที่พักอาศัยใกล้กับ Palestinian Tower ถูกอิสราเอลโจมตีทางอากาศจนพังราบ ภาพถ่ายเมื่อ 10 ต.ค. 2566 (ที่มา: </span>
<span style="color:#e67e22;">Wikipedia</span><span style="color:#e67e22;">/VST)</span></p>
<p>องค์กรแพทย์ไร้พรมแดน (MSF) เรียกร้องให้มีเลิกทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลในฉนวนกาซ่า ปาเลสไตน์ หลังจากที่เมื่อช่วงวันที่ 10-11 พ.ย. ที่ผ่านมา กองทัพอิสราเอลได้ทิ้งระเบิดใส่โรงพยาบาลในกวซ่าหลายแห่งต่อเนื่องกันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งรวมถึงแผนกทำคลอดและพักฟื้นหลังคลอด กับแผนกผู้ป่วยนอกด้วย ทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก</p>
<p>หนึ่งในโรงพยาบาลที่ถูกทิ้งระเบิดใส่ มีโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุดในกาซ่าคืออัลชีฟารวมอยู่ด้วย โดยที่โรงพยาบาลแห่งนี้มีคณะทำงานของ MSF ยังคงปฏิบัติการอยู่ในนั้น นอกจากนี้ยังมีคนไข้อีกหลายร้อยชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล มีพยาบาลของ MSF รายหนึ่งส่งข้อความจากอัลชีฟาระบุว่า "พวกเรากำลังถูกสังหารที่นี่ ช่วยทำอะไรสักอย่างหน่อย" นอกจากนี้ยังระบุว่าครอบครัวของเขากับครอบครัวอื่นๆ รวม 4-5 ครอบครัวต้องหลบภัยอยู่ที่ชั้นใต้ดิน มีการทิ้งระเบิดใกล้โรงพยาบาลมาก และเด็กๆ ก็พากันร้องไห้หรือกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว</p>
<h3><span style="color:#2980b9;">MSF ย้ำว่าควรสั่งหยุดโจมตีสถานพยาบาลและเรียกร้องให้มีสนธิสัญญาหยุดยิงโดยทันที</span></h3>
<p>แอน เทย์เลอร์ ประธานภารกิจในพื้นที่ปาเลสไตน์ของ MSF กล่าวว่าสถานการณ์ในโรงพยาบาลอัลชีฟานับเป็น "เหตุการณ์หายนะอย่างแท้จริง" เทย์เลอร์ยังได้กล่าวเรียกร้องให้รัฐบาลอิสราเอล "เลิกโจมตีอย่างไม่หยุดยั้งต่อระบบสาธารณสุขของกาซ่า"</p>
<p>อัลชีฟาเป็นโรงพยาบาลที่มีเตียง 700 ชุด มีการให้บริการฉุกเฉินและการผ่าตัด โดยที่ในสภาพของกาซ่าตอนนี้ไม่มีที่อื่นที่สามารถให้บริการทางการแพทย์แบบนี้ได้ ซึ่งบางครั้งก็มีผู้คนได้รับบาดเจ็บสาหัสในระดับที่เสี่ยงจะถึงแก่ชีวิต คณะทำงานที่นั่นพยายามทำให้โรงพยาบาลปฏิบัติงานต่อไปได้ถึงแม้ว่าจะขาดแคลนเครื่องมือ และถูกโจมตี อีกทั้งยังเคยเกิดเหตุการณ์ไฟดับ รถพยาบาลออกไปรับคนเจ็บข้างนอกไม่ได้ มีคนที่พยายามหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วโดนยิง</p>
<p>โมฮัมเหม็ด โอเบอิด แพทย์ผ่าตัดจาก MSF ที่อัลชีฟากล่าวว่า มีคนไข้จำนวนมากที่รับการผ่าตัดแล้วก็เดินไม่ได้ พวกเขาไม่สามารถอพยพหนีออกจากพื้นที่ได้ และแพทย์พยาบาลเองก็ต้องดูแลคนเจ็บทำให้ออกไปไหนไม่ได้</p>
<p>นอกจากนี้ทาง MSF ยังประณามกองทัพอิสราเอลที่ "ออกใบสั่งตาย" ให้กับพลเรือนที่ติดอยู่ในโรงพยาบาลอัลชีฟา และเรียกร้องให้ส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมไปที่ฉนวนกาซ่า ทางหน่วยแพทย์ MSF ยังไม่สามารถติดต่อกับคณะทำงานที่อาศัยในโรงพยาบาลอื่นๆ ได้ มีบางโรงพยาบาลที่ถูกล้อมด้วยรถถังของอิสราเอล</p>
<p>MSF ระบุในแถลงการณ์ว่า "พวกเราขอเรียกร้องให้ สหรัฐฯ, อังกฤษ แคนาดา, ประเทศสมาชิกสันนิบาตอาหรับ, ประเทศสมาชิกขององค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) และสหภาพยุโรป ผู้ที่เรียกร้องให้มีการเคารพต่อกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศเสมอมา ให้มีปฏิบัติการที่จะทำให้แน่ใจว่าจะมีการหยุดยิงเกิดขึ้นในทันที"</p>
<p>MSF ระบุในแถลงการณ์อีกว่า "ความโหดร้ายที่เผยให้เห็นกับตาของพวกเราในกาซ่า แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า การเรียกร้องให้มีการอดกลั้นและปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศกำลังถูกมองข้าม การดำเนินการให้เกิดการหยุดยิงจะเป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการคุ้มครองพลเรือน"</p>
<p>ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-กาซ่ารอบล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ต.ค. ที่ผ่านมา หลังจากกองกำลังฮามาสโจมตีพลเรือนที่อาศัยในอิสราเอล แต่ทางการอิสราเอลก็โต้ตอบโดยไม่เลือกเป้าหมายจนเป็นเหตุให้มีพลเรือนจำนวนมากเสียชีวิต รวมถึงมีการโจมตีสถานพยาบาลซึ่งนับเป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศด้วย นอกจากนี้ทั้งสองฝ่ายยังมีการจับพลเรือนของอีกฝ่ายหนึ่งเป็นตัวประกัน ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการพยายามเจรจากันเรื่องการปล่อยตัวประกันระหว่างอิสราเอลกับฮามาส</p>
<h3><span style="color:#2980b9;">นายกรัฐมนตรีกาตาร์เผย มี อุปสรรคเพียง "เล็กน้อย" ที่ทำให้เจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกันยังไม่สำเร็จ</span></h3>
<p>นอกจาก MSF แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ได้แถลงว่า "ต้องมีการคุ้มครอง" โรงพยาบาลในฉนวนกาซ่า ท่ามกลางการโจมตีของกองทัพอิสราเอล</p>
<p>อย่างไรก็ตามทางโฆษกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ จอห์น เคอร์บี อ้างว่า ฮามาสและกองกำลังจีฮัดได้อาศัยโรงพยาบาลอัลชีฟาเป็นศูนย์บัญชาการและใช้อุโมงค์ใต้ดินเพื่อสนับสนุนปฏิบัติการทางทหารและคุมขังตัวประกัน โดยที่มีการประเมินว่ามีจำนวนตัวประกันอยู่ภายใต้การคุมขังของฮามาสประมาณ 240 ราย ซึ่งไบเดนแถลงว่าเขาเชื่อว่าจะสามารถเจรจาให้ปล่อยตัวประกันได้ แต่ก็ไม่มีการยืนยันว่าเมื่อไหร่ และยังไม่ได้ให้รายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม</p>
<p>จอห์น เคอร์บี ขยายความว่าที่พวกเขาแถลงเช่นนี้ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาสนับสนุนการโจมตีโรงพยาบาลอัลชีฟาทางอากาศ และพวกเขาก็ไม่สนับสนุนให้มีการใช้กำลังสู้รบภาคพื้นดินต่อโรงพยาบาลแห่งนี้ เพราะประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เข้ารับการรักษาพยาบาลจะโดนลูกกหลงไปด้วย</p>
<p>อัลโตนิโอ กูแตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติแถลงว่าเขารู้สึก "แย่มาก" จากสถานการณ์เลวร้ายและการสูญเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมากในโรงพยาบาลหลายแห่งของกาซ่า อีกทั้งยังเรียกร้องให้มีการหยุดยิงด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม</p>
<p>องค์การอนามัยโลกระบุว่าโรงพยาบาลอัลชีฟาไม่สามารถปฏิบัติงานรักษาผู้คนต่อไปได้อีก เพราะขาดแคลนเชื้อเพลิง, อาหาร และน้ำ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้วผู้คนที่ติดอยู่ในโรงพยาบาลเรียกร้องให้ทั้งกองทัพอิสราเอลและฮามาสให้ทางที่ปลอดภัยแก่พวกเขาในการอพยพออกจากโรงพยาบาล</p>
<p>เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของปาเลสไตน์ระบุว่ามีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 32 ราย เสียชีวิต ในจำนวนนั้นมีเด็กอ่อนอยู่ด้วย 3 ราย เพราะโรงพยาบาลขาดแคลนเชื้อเพลิง</p>
<p>ในเรื่องตัวประกันนั้น เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา ชีต โมฮัมเหม็ด บิน อับดุลรอห์มัน อัลธานี นายกรัฐมนตรีกาตาร์แถลงข่าวในกรุงโดฮา ร่วมกับ โจเซป บอเรลล์ ผู้แทนระดับสูงด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงของสหภาพยุโรป ระบุว่าการเจรจาขอปล่อยตัวประกันกับกลุ่มฮามาสหลังจากที่มีการหยุดการสู้รบชั่วคราว 5 วัน มีอุปสรรค "เล็กน้อย" คือเรื่องที่เกี่ยวกับ "การปฏิบัติจริงและการขนส่ง"</p>
<p>ทางการสหรัฐฯ ร่วมกับกาตาร์และอียิปต์ กำลังพยายามดำเนินการให้อิสราเอลและฮามาสทำข้อตกลงในการปล่อยตัวประกันให้ลุล่วง โดยมีแหล่งข่าวหลายแห่งระบุว่า อิสราเอลกับฮามาสกำลังเจรจากันให้มีการปล่อยตัวประกันอย่างน้อย 50 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กและผู้หญิง เพื่อแลกกับการที่อิสราเอลปล่อยตัวประกันที่เป็นเด็กและผู้หญิงจากที่คุมขังของอิสราเอลเช่นกัน แต่การเจรจาก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปร่วมกันได้ในเชิงรายละเอียด และทางการอิสราเอลก็เรียกร้องให้ฮามาสปล่อยตัวประกันมากกว่านี้</p>
<p><span style="color:#2980b9;"><strong>เรียบเรียงจาก</strong></span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Patients and medical staff in Gaza trapped in hospitals under fire - attacks must stop now, </span>
<span style="color:#2980b9;">MSF,</span><span style="color:#2980b9;"> 11-11-2023</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Biden Believes Hamas Hostages Will Be Released but Gives No Timetable, </span>
<span style="color:#2980b9;">Voice of America,</span><span style="color:#2980b9;"> 14-11-2023</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Only ‘minor’ obstacles blocking Israel-Hamas deal on hostages: Qatar PM, </span>
<span style="color:#2980b9;">Politico,</span><span style="color:#2980b9;"> 19-11-2023</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">US considering tactical recovery plans for hostages in Gaza, </span>
<span style="color:#2980b9;">ABC News,</span><span style="color:#2980b9;"> 19-11-2023</span></p>
<p><span style="color:#2980b9;">Negotiations Stall as Israel, Hamas Disagree on Number of Released Hostages, Duration of Fighting Pause, </span>
<span style="color:#2980b9;">Haaretz, </span><span style="color:#2980b9;">15-11-2023</span></p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2023/11/106898