IMF เตือน AI อาจกระทบตำแหน่งงานทั่วโลกและทำให้ความเหลื่อมล้ำให้เลวร้ายลง
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-01-22 11:34</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) เตือนว่าตำแหน่งงานทั่วโลกอาจได้รับผลกระทบจากการใช้ AI เพิ่มขึ้น โดยคนทำงานในประเทศรายได้สูงต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าในตลาดเกิดใหม่และประเทศรายได้ต่ำ นอกจากนี้เทคโนโลยี AI มีแนวโน้มสร้างความเหลื่อมล้ำให้เลวร้ายลง</p>
<p style="text-align: center;"><img alt="" src="
https://live.staticflickr.com/65535/53045022670_88a0b52d1d_k_d.jpg" />
<span style="color:#f39c12;">ที่มาภาพประกอบ: starline/Freepik</span></p>
<p>ช่วงเดือน ม.ค. 2023 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้ประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ในตลาดแรงงานโลก โดยคนทำงานในประเทศรายได้สูงต้องเผชิญกับความเสี่ยงมากกว่าในตลาดเกิดใหม่และประเทศที่มีรายได้ต่ำ และยังพบว่าเทคโนโลยี AI มีแนวโน้มที่จะยิ่งสร้างความเหลื่อมล้ำให้เลวร้ายลง</p>
<p>คริสตาลินา จอร์จีวา (Kristalina Georgieva) กรรมการผู้จัดการของ IMF เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายเร่งแก้ไขปัญหา "แนวโน้มที่น่ากังวล" นี้ และดำเนินการเชิงรุก "เพื่อป้องกันไม่ให้เทคโนโลยี AI จุดชนวนความตึงเครียดทางสังคมมากยิ่งขึ้น"</p>
<p>"เรากำลังก้าวเข้าสู่การปฏิวัติเทคโนโลยีที่อาจกระตุ้นให้เกิดผลผลิตภาพ เพิ่มอัตราการเติบโต และยกระดับรายได้ทั่วโลก แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อาจทดแทนแรงงานมนุษย์ และสร้างความเหลื่อมล้ำที่รุนแรงขึ้น" จอร์เจวากล่าว</p>
<p>IMF ตั้งข้อสังเกตว่าประมาณ เกือบ 60% ของตำแหน่งงานในประเทศรายได้สูงอาจได้รับผลกระทบจาก AI แต่ราวครึ่งหนึ่งของตำแหน่งงานเหล่านี้จะได้รับประโยชน์จากการทำงานร่วมกับ AI เพื่อเพิ่มผลผลิต</p>
<p>เมื่อเทียบกันแล้ว คาดว่า AI จะส่งผลกระทบต่อ 40% ของตำแหน่งงานในตลาดเกิดใหม่ และ 26% ของงานในประเทศรายได้ต่ำ</p>
<p>ผลการวิจัยชี้ว่าแม้ตลาดเกิดใหม่และประเทศรายได้ต่ำจะเผชิญกับผลกระทบจาก AI ในระยะสั้นน้อยกว่าประเทศรายได้สูง แต่ IMF ยังตั้งข้อสังเกตว่า ประเทศเหล่านี้ยังไม่มีโครงสร้างพื้นฐานและมีแรงงานที่มีทักษะเพียงพอที่จะใช้ประโยชน์จาก AI ในทันที ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เทคโนโลยีจะยิ่งขยายความเหลื่อมล้ำ</p>
<p>IMF ยังเตือนด้วยว่า AI อาจส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำด้านรายได้และความมั่งคั่งภายในประเทศ โดยคาดการณ์ว่า "ช่องว่างระดับรายได้จะขยายตัวขึ้น"</p>
<p>กล่าวคือคนทำงานที่สามารถเข้าถึงประโยชน์ของ AI สามารถเพิ่มผลผลิตและรายได้ ในขณะที่คนทำงานที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้ก็ไม่สามารถเพิ่มผลผลิตและรายได้</p>
<p>ก่อนหน้านี้ Goldman Sachs เคยเตือนว่า generative AI อาจส่งผลกระทบต่อตำแหน่งงานมากถึง 300 ล้านตำแหน่งทั่วโลก แม้ว่าธนาคารยักษ์ใหญ่จากวอลล์สตรีทแห่งนี้อาจตระหนักว่า เทคโนโลยีนี้สามารถกระตุ้นผลผลิตภาพและการเติบโตของแรงงาน และเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศได้ถึง 7%</p>
<p>รายงานของ IMF มีขึ้นในขณะที่ผู้นำทางธุรกิจและการเมืองจากทั่วโลกมารวมตัวกันที่ World Economic Forum (WEF) ในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ การประชุม WEF ประจำปี ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ "การสร้างความน่าเชื่อถือขึ้นมาใหม่" (Rebuilding Trust)</p>
<p>การประชุม WEF ประกาศใช้แนวทาง "ย้อนกลับสู่รากฐาน" เน้นการมีส่วนร่วมในการพูดคุยอย่างเปิดเผยและสร้างสรรค์ระหว่างผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำธุรกิจ และภาคประชาสังคม โดยประโยชน์และข้อเสียของ AI เป็นหัวข้อสำคัญในการหารือ อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา WEF ถูกวิจารณ์อย่างหนักว่าขาดการเชื่อมโยงกับโลกความเป็นจริง ไร้ประสิทธิภาพ และไม่ได้แก้ไขปัญหาสำคัญ</p>
<p><strong>ที่มา:</strong>
IMF warns AI to hit almost 40% of jobs worldwide and worsen overall inequality (Sam Meredith, CNBC, 15 January 2024)</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/01/107735