'คนไทยพลัดถิ่น' ร้อง 'เศรษฐา' เลิก 'โครงการแลนด์บริดจ์' หวั่นกระทบกับชุมชน-ประมงพื้นบ้าน
<span class="submitted-by">Submitted on Mon, 2024-01-22 18:41</span><div class="field field-name-body field-type-text-with-summary field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even" property="content:encoded"><p>'คนไทยพลัดถิ่น' ร้องนายกฯ จี้ยกเลิก 'โครงการแลนด์บริดจ์' ชุมพร-ระนอง หวั่นสร้างผลกระทบกับชุมชนท้องถิ่น ประมงพื้นบ้าน ด้าน โฆษกรัฐบาลยันนายกฯ รับฟังและชี้แจงประชาชน พร้อมศึกษาทุกด้านไม่ให้เกิดผลกระทบ ยืนยันเป็นอีกโอกาสโครงการขนาดใหญ่ในประเทศรอบ 20 ปี</p>
<p> </p>
<p>22 ม.ค.2567 รายงานข่าวแจ้งว่า วันนี้ (22 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ระหว่างที่ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ลงพื้นที่ติดตามโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge ชุมพร - ระนอง) ที่อุทยานแห่งชาติแหลมสน อ.กะเปอร์ จ.ระนอง นั้น ทม สินสุวรรณ ตัวแทนคนไทยพลัดถิ่น ต.ราชกรูด อ.เมืองระนอง เข้ายื่นหนังสือเพื่อขอให้ยกเลิกโครงการแลนด์บริดจ์ และเร่งรัดการทำบัตรประชาชนให้กับคนไทยพลักถิ่นที่ล่าช้า</p>
<p>โดยมีรายละเอียดจดหมายของ ทม ดังนี้</p>
<p align="center" class="MsoNoSpacing" style="text-align:center; margin:0in"> </p>
<div class="note-box">
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;">วันที่ 22 มกราคม 2567</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;">เรื่อง ท่านจะให้พวกเราไปอยู่ที่ไหน หากสร้างท่าเรือน้ำลึกที่อ่าวอ่าง ภายใต้โครงการแลนด์บริดจ์ ระนอง – ชุมพร
เรียน นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;"> </p>
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;">ตามที่รัฐบาลมีนโยบายจะดำเนินโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง – ชุมพร ซึ่งเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมหาศาล และจะต้องใช้พื้นที่ก่อสร้างโครงการต่างๆจำนวนมากตั้งแต่จังหวัดระนองจนถึงจังหวัดชุมพร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ โครงการท่าเรือน้ำลึกอ่าวอ่าง(ฝั่งระนอง) ที่จะต้องใช้พื้นที่ทะเลทั้งหมด 6,975 ไร่ และต้องขุดร่องน้ำให้ได้ความลึกที่ 19 เมตร มีความยาวถึง 11.5 กิโลเมตร และยังไม่นับร่วมการใช้พื้นที่ชายฝั่งทะเลอีกจำนวนมากเพื่อเป็นลานแทกองตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งการดำเนินทั้งหมดนี้จะส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อยู่ในพื้นที่อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งในจำนวนนั้นมีพวกเราที่เป็นคนไทยพลัดถิ่นรวมอยู่ด้วย</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;">ท่านนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ทราบหรือไม่ว่าประเทศไทยมีคนไทยพลัดถิ่นจำนวนมาก ที่แม้จะได้รับการรับรองสัญชาติตามพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2555 ไปแล้วจำนวนหนึ่ง แต่ยังมีคนตกค้างที่ยังไม่ได้รับการรับรองอยู่อีกจำนวนมาก อันเกิดขึ้นจากความล่าช้าในการดำเนินงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และหนึ่งในจำนวนนั้นคือพวกเราที่อยู่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตำบลราชกรูด จังหวัดระนอง ซึ่งมีที่อยู่อาศัยอยู่ริมทะเลชายฝั่งและมีอาชีพการทำประมงพื้นบ้านเป็นหลัก ดังนั้นการเกิดขึ้นของโครงการแลนด์บริดจ์ระนอง - ชุมพร ที่ท่านกำลังผลักดันอยู่นี้ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเราโดยตรงจนแทบจะสิ้นไร้แผ่นดินทั้งที่อยู่อาศัย ที่ทำกิน นั่นหมายถึงการล่มสลายของพวกเราทั้งหมดในที่สุด</p>
<p class="MsoNoSpacing" style="margin: 0in 0in 0in 40px;">ในฐานะพลเมืองผู้ไร้สิทธิ์แทบทุกด้าน ทั้งด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ ด้านการการเมือง และรวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นๆทัวไปแบบพลเมืองปกติ ที่พวกเราจะต้องทนรับกับสภาพเช่นนั้นอย่างหวานอมขมกลืนมาอย่างยาวนาน และต่อโครงการนี้ เราแทบ “ไร้สิทธิ์” ที่จะแสดงออกใดๆ เพื่อให้ภาครัฐได้รับรู้ถึงความทุกข์ร้อนของพวกเรา</p>
<p style="margin-left: 40px;">โอกาสที่ท่านและคณะรัฐมนตรีเดินทางมาประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรที่จังหวัดระนองในครั้งนี้ คงเป็นโอกาสเดียวที่พวกเราจะส่งเสียงให้ท่านได้รับรู้และรับทราบความทุกข์ร้อนและความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นกับพวกเราในฐานะพลเมืองชั้งสอง จึงยื่นหนังสือฉบับนี้ให้ท่านได้รับทราบเบื้องต้นว่า “พวกเราคนไทยพลัดถิ่นในตำบลราชกรูด อำเภอเมือง จังหวัดระนอง คือกลุ่มที่จะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากโครงการแลนด์บริดจ์ ซึ่งในที่สุดแล้วพวกเราคงไม่สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในพื้นที่แห่งนี้อีกต่อไป แล้วท่านจะให้พวกเราไปอยู่ที่ไหน จึงขอให้ท่านได้เห็นถึงรายละเอียดของผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับชาวบ้านที่จะได้รับผลกระทบดังกรณีของพวกเรา และได้โปรดนำประเด็นปัญหาดังกล่าวนี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจดำเนินโครงการนี้ต่อไป ทั้งยังหวังว่ารัฐบาลของท่านจะช่วยเร่งให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการรับรองสัญชาติของพวกเราได้ดำเนินการรับรองคนที่ตกค้างอยู่ให้ทั่วถึงอย่างอย่างรวดเร็วมากขึ้นต่อไป</p>
<p style="margin-left: 40px;">จึงเรียนมาเพื่อพิจารณา</p>
<p style="text-align: center; margin-left: 40px;">ขอแสดงความนับถือ</p>
<p style="text-align: center; margin-left: 40px;">( น.ส.ทม สินสุวรรณ )
ตัวแทนคนไทยพลัดถิ่นตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัดระนอง</p>
</div>
<h2><span style="color:#2980b9;">โฆษกรัฐบาลยันนายกฯ รับฟังและชี้แจงประชาชนต่อ พร้อมศึกษาทุกด้านไม่ให้เกิดผลกระทบ ยืนยันเป็นอีกโอกาสโครงการขนาดใหญ่ในประเทศรอบ 20 ปี</span></h2>
<p>สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล รายงานว่า ชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ายหลังการรับฟังบรรยายสรุปโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเล อ่าวไทย - อันดามัน (Landbridge ชุมพร - ระนอง) จากทางสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กระทรวงคมนาคม นายกรัฐมนตรีได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนว่า วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้ลงพื้นที่บริเวณนี้ พร้อมได้รับฟังการนำเสนอถึงวิธีการโดยภาพรวม รวมทั้งการคาดการณ์ว่าจะมีการถมทะเลเท่าไหร่ มีระยะห่างออกไปเท่าไหร่ และยังมีการสร้างสะพานที่มีตอม่อ ทำให้เรือประมงของพี่น้องประชาชนยังคงสามารถประกอบอาชีพได้ ทั้งนี้ ในการริเริ่มโครงการใหญ่ ๆ เป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องมีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย รัฐบาลมีหน้าที่ต้องรับฟังความเห็น และชี้แจงประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ ซึ่งในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยไม่มีโครงการใหญ่ Mega Project เลย โดยในช่วงอดีต นายกรัฐมนตรี ดร. ทักษิณ มีโครงการขนาดใหญ่ที่สำเร็จและสร้างประโยชน์ให้ประเทศมหาศาล คือสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการพัฒนาประเทศทำให้ไทยพัฒนาถึงทุกวันนี้ได้ </p>
<p>ทั้งนี้ โครงการ Landbridge เป็นโครงการเชื่อมโยงท่าเรือฝั่งอันดามัน บริเวณแหลมอ่าวอ่าง จังหวัดระนอง และอ่าวไทย บริเวณแหลมริ่ว จังหวัดชุมพร ด้วยเส้นทางมอเตอร์เวย์ และรถไฟทางคู่ที่สามารถเชื่อมต่อไปยังระบบรถไฟในประเทศได้ เพิ่มศักยภาพการขนส่งของไทย ร่นระยะเวลาขนส่งข้ามช่องแคบมะละกาที่แออัด รองรับปริมาณสินค้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคต และสามารถขยายท่าเรือ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวด้วยเรือสำราญ โครงการนี้จึงถือว่าสำคัญ เพราะจะนำความเจริญมาสู่ประเทศ สร้างแรงจูงใจให้บริษัทขนาดใหญ่ระหว่างประเทศมาตั้งฐานผลิตรถยนต์ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ในไทย สร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจให้ประเทศ</p>
<p>อย่างไรก็ดี สำหรับข้อกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รัฐบาลจะมีการศึกษาถึงผลกระทบในขั้นต้น และต่อไปจะเริ่มศึกษาลงไปที่แหล่งน้ำพุร้อน แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ ต่อไป ในส่วนของการจ้างงาน ให้มองว่าเป็นเรื่องของโอกาส โดยท่าเรือที่สร้างขึ้นมาไม่ใช่แค่ท่าเรือขนสินค้าเท่านั้น แต่รวมถึงเรือสำราญ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญทั้งเป็นของชาวระนองและจังหวัดแถบอันดามัน ควบคู่ไปกับการพัฒนาภาคใต้ทั้งภูมิภาค ช่วยยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งในตอนท้าย นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ในการทำ Mega Project นี้เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องทำการศึกษาอย่างละเอียดในทุกมิติควบคู่กันไป</p>
</div></div></div><div class="field field-name-field-variety field-type-taxonomy-term-reference field-label-hidden"><div class="field-items"><div class="field-item even"><a href="/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7" typeof="skos:Concept" property="rdfs:label skos:prefLabel" datatype="">ข
https://fb.me/prachatai : ทวิตเตอร์
https://twitter.com/prachatai : LINE ไอดี = @prachatai</div></div></div>
https://prachatai.com/journal/2024/01/107740 







