[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 15:19:37 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โอปนยิโก โดย พอจ.สุชาติ อภิชาโต วัดญาณสังวรารามฯ เมืองพัทยา ชลบุรี  (อ่าน 454 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Maintenence
ผู้ดูแลระบบ
นักโพสท์ระดับ 11
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออนไลน์ ออนไลน์

เพศ: ชาย
Thailand Thailand

กระทู้: 1240


[• บำรุงรักษา •]

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 126.0.0.0 Chrome 126.0.0.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 22 มิถุนายน 2567 16:13:05 »



โอปนยิโก
พระอาจารย์สุชาติ อภิชาโต
วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร เมืองพัทยา ชลบุรี

การเข้าวัดที่แท้จริงต้องเข้าด้วยใจ ที่ทุ่มเทให้กับการหาความสงบสุขภายในใจ หาปัญญาเพื่อทำลายความหลง ที่จะคอยหลอกล่อให้ไปหาความสุขภายนอก ถ้าไม่กำหนดจะไม่มีหลัก อย่างสมัยที่อาตมาเคยปฏิบัติมา ตอนต้นก็นั่งไปตามอัธยาศัย นั่งไปแล้วรู้สึกว่าดีก็อยากจะนั่งมากขึ้น แต่ช่วงนั้นยังทำงานอยู่ ก็เลยตัดสินใจว่า อีกเดือนหนึ่งสิ้นปีพอดี ก็จะขอลาออกจากงาน จะขอใช้เวลา ๑ ปีทุ่มเทกับการปฏิบัติอย่างเดียว จะไม่ทำอย่างอื่น จะรับประทานอาหารมื้อเดียวก่อนเที่ยง ตลอดวันจะเดินจงกรมนั่งสมาธิ อ่านหนังสือธรรมะเป็นส่วนใหญ่ จะไม่ออกไปหาความสุขจากสิ่งต่างๆภายนอก เหมือนกับสมัยที่ไม่ได้ปฏิบัติ พอตื่นเช้าขึ้นมาปั๊บก็ต้องออกจากบ้าน ไปชายทะเล ไปที่ไหนก็ได้ ขอให้ได้ไป แต่ตอนนี้จะไม่ไปแล้ว จะภาวนาปฏิบัติอยู่ในบ้าน ถ้าไปข้างนอกก็จะไปหาที่สงบที่เงียบ เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง ไปหามุมสงบแถวชายทะเล บางทีก็ไปภาวนานอนค้างที่เกาะ กำหนดว่าจะลองทำสักปีหนึ่ง ต้องมีเป้าหมาย กำหนดการไว้ ถ้าปีนี้ปฏิบัติได้ร้อยละสิบ ปีหน้าจะเพิ่มเป็นร้อยละยี่สิบ เคยเข้าวัดเพียง ๒ ถึง ๓ ครั้งต่อปี ก็จะเพิ่มเป็นเดือนละครั้งเป็นต้น

ให้มีกำหนดการแล้วพยายามปฏิบัติตามให้ได้ ถ้าไม่กำหนดไว้ ปล่อยไปตามความรู้สึกความพอใจ หรือรอให้มีเหตุการณ์ชักจูงไป จะไปไม่ถึงไหน เพราะเหตุการณ์ที่จะจูงไปมีน้อย ความรู้สึกอยากจะไปก็มีน้อย อยากจะไปที่อื่นมากกว่า ถ้าไม่วางแผนไว้ แล้วฝืนลากใจไปนี่ ปล่อยให้ไปตามความรู้สึก จะไปไม่ถึงไหน จะเสียเวลามาก เวลาจะไม่พอต่อการปฏิบัติ เพราะชีวิตของเรามันสั้น ไม่ยาวนาน จะสั้นลงไปเรื่อยๆ น้อยลงไปเรื่อยๆทุกวัน แต่ถ้ากำหนดเวลาไว้ ว่าจะปฏิบัติมากน้อย แล้วเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ จะมีเวลาเพียงพอ ที่จะทำให้เกิดผลขึ้นมาได้ เบื้องต้นเราต้องพยายามศึกษาฟังเทศน์ฟังธรรม จนเกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ว่าความสุขในโลกนี้ไม่มี ไม่อยู่กับสิ่งต่างๆ หรือบุคคลต่างๆ มีแต่ความทุกข์ทั้งนั้น เมื่อเข้าใจอย่างนี้แล้ว ก็จะเห็นว่าความสุขที่แท้จริงต้องอยู่ในใจ ต้องเข้าข้างใน ต้องปล่อยวางรูปเสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพะ ปล่อยวางความสุขภายนอก อยู่คนเดียว ทำจิตให้สงบให้ได้ แล้วก็เจริญปัญญา ให้รู้ทันความหลง ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะปัญญาหรือความเข้าใจที่ได้ยินได้ฟังนี้ไม่พอเพียง พอไม่คิดถึงมันปั๊บ ความหลงก็จะมาหลอกเราได้ทันที

เช่นขณะที่เราฟังนี้ เราเข้าใจแล้วว่า ความสุขในโลกนี้ไม่มี แต่พอออกจากสถานที่นี้ไปไม่นาน เดี๋ยวมันจะหลอกให้ไปหาอะไรกินหาอะไรดื่ม ชวนไปที่นั่นไปที่นี่ ชวนคุยกันเรื่องนั้น คุยกันเรื่องนี้ พอเริ่มไปทางนั้น แสดงว่าปัญญาที่ได้ยินได้ฟังเมื่อสักครู่นี้ ถูกกลบไปหมดแล้ว ต้องไปอยู่ที่สงบเงียบ ทำจิตใจให้สงบ เจริญความเข้าใจนี้อยู่เสมอ เตือนตนอยู่เสมอว่า ความสุขต่างๆในโลกนี้ไม่มี อยู่ที่ใจของเราเท่านั้น อยู่ที่ตรงนี้ อยู่ในวัด อยู่ที่สงบสงัดวิเวก โดดเดี่ยวเดียวดาย นี่แหละคือความสุขที่แท้จริง อย่าไปคิดถึงเพื่อนคนนั้น คิดถึงเพื่อนคนนี้ อย่าไปหาคนนั้นหาคนนี้ อย่าไปอยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ มันเป็นความหลงทั้งนั้น นี่คือเป้าหมายที่เราต้องทำให้ได้

เรารู้โดยสังเขปแล้วว่า ความสุขอยู่ในตัวเรา ไม่ได้อยู่ภายนอก ทีนี้เราต้องนำเอาไปปฏิบัติให้ได้ พอเราเผลอปั๊บ ความหลงจะหลอกให้ไปหาความสุขภายนอกทันที เพราะว่าชีวิตของเราส่วนหนึ่ง ก็มีความจำเป็น ต่อการแสวงหาบางสิ่งบางอย่างจากภายนอก เพื่อมาดูแลรักษาอัตภาพร่างกายของเรา ต้องหาอาหารมารับประทาน หาที่อยู่อาศัย หายารักษาโรค หาเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มต่างๆ แต่การแสวงหานี้ก็อาจจะถูกความหลงหลอก ให้หาแบบเลยเถิดไปก็ได้ คือไม่รู้จักประมาณ หาแบบหรูหราฟุ่มเฟือย ก็จะถูกกิเลสถูกความหลงหลอกไปแล้ว ต้องใช้ความมักน้อยสันโดษเสมอ เวลาแสวงหาปัจจัย ๔ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลา อย่างของพระนี่ท่านก็มีเวลา มีกำหนดการ อาหารก็ตอนเช้าออกไปบิณฑบาต ได้อะไรมาก็ฉันไปตามมีตามเกิด ไม่ต้องไปปรุงแต่ง ว่าวันนี้จะรับประทานอาหารชนิดไหน อย่างไร แบบไหน เพราะจะกลายเป็นความหลงไปแล้ว ถ้าปรุงแต่งก็จะปรุงแต่งเพื่อความสุข ต้องรับประทานอาหารที่ถูกอกถูกใจ จะได้มีความสุข

แต่นักปฏิบัติต้องรับประทานอาหารเหมือนกับเติมน้ำมัน เหมือนกับรับประทานยา ยาจะมีรูปร่างอย่างไร สีอะไร ไม่สำคัญ หมอให้มารับประทาน ก็รับประทานเข้าไป อาหารจะเป็นชนิดไหนก็ไม่สำคัญ จะมีรสชาติอย่างไรก็ไม่สำคัญ ถ้าเป็นประโยชน์ รับประทานแล้วไม่เกิดโทษ ไม่เจ็บท้อง ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ก็รับประทานเข้าไป เพื่อให้มันอิ่ม เพื่อให้ร่างกายมีพลังงาน จะได้อยู่ต่อไปได้ เท่านี้ก็พอ ต้องมักน้อยสันโดษ รู้จักประมาณในการบริโภคปัจจัย ๔ เสื้อผ้าก็พอปกปิดร่างกายได้ก็พอ ไม่ต้องหรูหรา ไม่ต้องสวยสดงดงาม ไม่ต้องพิสดาร ติดเพชรติดทอง ติดขนไก่ ติดอะไรต่างๆให้ยุ่งไปหมด ที่อยู่อาศัยก็พอหลบแดดหลบฝนได้ ปลอดภัยจากภัยต่างๆ ทางธรรมชาติและจากคนที่ไม่ดีทั้งหลายก็พอ ก็มีเท่านี้ สิ่งที่เราต้องแสวงหาจากภายนอก แต่ไม่ได้แสวงหาเพื่อความสุข เป็นเหมือนเติมน้ำมันให้กับรถ

ร่างกายของเรานี้เป็นเหมือนรถ ที่จะพาให้เราไปสู่จุดหมายปลายทาง คือความสุขภายในที่วิเศษ ที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันต์ทั้งหลายได้สัมผัสได้มาครอบครอง คือใจที่สะอาดบริสุทธิ์ ที่เกิดจากการทำความดี ละบาป และชำระความโลภความโกรธความหลงจนหมดสิ้นไป ด้วยการบำเพ็ญภาวนา รักษาศีล ทำบุญให้ทาน นี่คือข่าวสารจากพระพุทธเจ้า นี่คือคำสอนที่จะพาให้พวกเรา ได้ไปพบกับความสุขที่แท้จริง เมื่อเราได้รับข่าวสารนี้แล้ว ก็ต้องนำเข้ามาสู่ใจ โอปนยิโก นำเข้ามาเตือนสติเตือนใจเราอยู่เรื่อยๆว่า ขณะนี้เรากำลังทำอะไรกันอยู่ วันเวลาผ่านไป กำลังทำอะไรอยู่ กำลังทำตามความหลง หรือกำลังทำตามพระพุทธเจ้า ถ้าทำตามพระพุทธเจ้า ก็ต้องทำบุญให้ทานรักษาศีลหรือภาวนาอย่างใดอย่างหนึ่ง ถ้าไปสนุกสนานเฮฮา ก็ไม่ได้ทำตามพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าก็เคยอยู่ในวัง ท่านก็เคยสนุกสนานเฮฮา แต่ท่านเบื่อเร็ว ท่านเห็นโทษของมันเร็ว พออายุ ๒๙ ท่านก็กระโดดหนีแล้ว เข้าป่าแล้ว พวกเรานี่ ๔๐ –๕๐ เข้าไปแล้ว ยังไม่เห็นอีกหรือ แล้วเมื่อไหร่จะเห็นล่ะ.


จุลธรรมนำใจ ๑๓ กัณฑ์ที่ ๓๘๐     
วันที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๕๑

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

[• สุขใจ บำรุงรักษาระบบ •]
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.18 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 16 พฤษภาคม 2568 03:03:07