ชีวิตที่ยังไร้สถานะของ ‘เรเน่’ หญิงข้ามเพศที่ต้องลี้ภัยแค่จากโพสต์ไวรัลของตัวเอง
<span>ชีวิตที่ยังไร้สถานะของ ‘เรเน่’ หญิงข้ามเพศที่ต้องลี้ภัยแค่จากโพสต์ไวรัลของตัวเอง</span>
<span><span>See Think</span></span>
<span><time datetime="2024-07-09T22:37:03+07:00" title="Tuesday, July 9, 2024 - 22:37">Tue, 2024-07-09 - 22:37</time>
</span>
<div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p dir="ltr">เรื่อง: ทีมข่าวการเมือง</p><p dir="ltr">ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p></div>
<div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p>ประชาไทพูดคุยกับ ‘เรเน่ พุทธพงศ์’ หญิงข้ามเพศและเจ้าของโพสต์สุดไวรัลที่กลายมาเป็นผู้ลี้ภัยทางการเมือง ถึงชีวิตที่ยังติดขัดเรื่องสถานะการอยู่อาศัยในฝรั่งเศส ซึ่งอาจทำให้ที่นี่ไม่ใช่ปลายทางสุดท้ายของเธอ</p><p dir="ltr">ในระลอกของการปราบปรามการชุมนุมประท้วงภายใต้การนำของคนรุ่นใหม่เมื่อปี 2563 เป็นต้นมา นอกจากการใช้กำลังกับผู้ชุมนุมบนท้องถนนแล้ว ความพยายามกดปราบผู้คนในโลกออนไลน์ก็เข้มข้นไม่แพ้กัน มีการตั้งข้อหามาตรา 112 กับผู้ใช้อินเทอร์เน็ต สร้างบรรยากาศแห่งความหวาดกลัวเพื่อกดเพดานเสรีภาพออนไลน์ให้ต่ำลง</p><p dir="ltr">เรเน่–พุทธพงศ์ กลิ่นยี่โถ ผู้หญิงข้ามเพศวัย 28 ปี เป็นหนึ่งในชาวเน็ตกลุ่มนี้ที่ถูกบีบให้ลี้ภัยมายังฝรั่งเศส เนื่องจากมองไม่เห็นหนทางสู้คดีและรู้สึกหวาดกลัวจากการถูกข่มขู่คุกคามสารพัดรูปแบบ</p><p dir="ltr">กลางเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ครบ 1 ปีที่มาถึงฝรั่งเศส เธอโพสต์ข้อความยาวเหยียดระบายความในใจเกี่ยวกับการยื่นขอสถานะผู้ลี้ภัยที่ยังไม่มีความคืบหน้า พร้อมแนบรูปผื่นแดงที่ขึ้นตามร่างกายสืบเนื่องจากความเครียด</p><p dir="ltr">“จริงๆ เราคาดหวังไว้มากว่าการมาปารีสมันจะดีกว่าอยู่ที่ไทย แต่พอมาถึง ทุกอย่างกลับไม่ได้เป็นเหมือนที่คิด เหมือนจะดี แต่ก็ไม่ ดีกว่าที่ไทยอย่างเดียวคือไม่ต้องติดคุก แค่นั้น เพราะมาตราเหี้ยนั่น”</p><p dir="ltr">“แต่การมาอยู่ที่นี่คือการอยู่แบบไร้จุดหมาย และไม่คาดหวังอะไรแล้ว เพราะทุกการคาดหวัง มันจะผิดหวังเสมอ ทั้งเรื่องงาน เรื่องเงิน ที่อยู่ ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด เปลี่ยนตลอด เปลี่ยนบ่อยจนเหนื่อยสุดๆ เหมือนต้องเริ่มใหม่ซ้ำๆ ชีวิตไม่ได้ก้าวไปไหนเลย ถอยหลังด้วยซ้ำ” วรรคหนึ่งจากโพสต์ของเธอ</p><p dir="ltr">อุปสรรคในกระบวนการขอสถานะผู้ลี้ภัยของเรเน่แตกต่างจากกรณีของผู้ลี้ภัยไทยคนอื่นๆ ตรงที่เธอถูกยกเลิกการให้ความช่วยเหลือกลางคัน</p><p dir="ltr">ช่วงแรกที่มาถึงปารีส เรเน่ยื่นเรื่องขอลี้ภัยต่อ ออฟฟรา ซึ่งเป็นหน่วยงานของฝรั่งเศสที่ช่วยเหลือผู้ลี้ภัยและคนไร้รัฐ (Ofpra: Office française de protection des réfugiés et apatrides) โชคไม่ดีที่ต่อมาเธอถูกขโมยโทรศัพท์ ออฟฟราจึงติดต่อมาไม่ได้และยกเลิกความช่วยเหลือ</p><p dir="ltr">ต่อมาเธอตัดสินใจยื่นฟ้องคดีต่อศาลเพื่อให้มีการตัดสินว่าการยกเลิกความช่วยเหลือกลางคันเช่นนี้มันยุติธรรมแล้วหรือไม่</p><p dir="ltr">“หลังจากที่โดนยกเลิกการช่วยเหลือจากทางฝรั่งเศส เนื่องจากเรื่องการติดต่อสื่อสาร ทำให้ทุกอย่างย่ำแย่ลงไปอีกมากๆ เรไม่สามารถทำงานได้ เพราะไม่มีเอกสาร และไม่อยากทำผิดกฏของทางฝรั่งเศส ทางพี่ผู้ลี้ภัยเลยแนะนำให้เปิดลิงก์เพื่อรับบริจาค แต่เรก็ใช้เวลาทำและตัดสินใจนานมาก เพราะกลัวจะมีปัญหาหรือโดนด่า จนพี่คนหนึ่งได้บอกเรว่า บางทีเราก็ต้องยอมรับว่าเราต้องการความช่วยเหลือ และคนที่เขาเข้าใจเรา เขาจะพร้อมที่จะช่วยเหลือเรา จำไว้ว่าเราไม่ได้สู้เพียงคนเดียว ทำให้เรได้ปล่อย
แคมเปญบริจาคออกมาค่ะ”</p><p dir="ltr">ในระหว่างนี้ เรเน่อยู่ได้ด้วยความช่วยเหลือจากชุมชนผู้ลี้ภัยไทยและรายได้กระจุกกระจิกจากงานพี่เลี้ยงสุนัขและรับจ้างถ่ายภาพ</p><h2>ชาวบ้านหนึ่งที่ทนเห็นเพื่อนโดนตีไม่ได้</h2><p dir="ltr">ย้อนไปสมัยอยู่ไทย เรเน่ทำงานด้านการตลาดออนไลน์ในกรุงเทพฯ ได้เงินเดือนราวสามหมื่นแต่ก็ไม่ค่อยเหลือเก็บจากค่าครองชีพสูงและปัญหาเชิงโครงสร้าง</p><p dir="ltr">ในกระแสการประท้วงที่นำโดยคนรุ่นใหม่ เธอก็เหมือนกับคนทั่วๆ ไปที่ติดตามข่าวอยู่ตลอด จนกระทั่งเมื่อวันที่ 17 พ.ย. 2563 เธอกับเพื่อนไปร่วมการชุมนุมของกลุ่มราษฎรที่หน้ารัฐสภา เกียกกาย</p><p dir="ltr">ม็อบในวันนั้นมีเหตุการณ์ชุลมุนหลักๆ 2 เหตุการณ์เกิดขึ้นพร้อมกัน ภาพใหญ่คือตำรวจฉีดน้ำผสมสารเคมีและใช้แก๊สน้ำตากับผู้ชุมนุม อีกส่วนคือการปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมกลุ่มปกป้องสถาบันและผู้ชุมนุมกลุ่มราษฎร</p><p dir="ltr">“มีแก๊สน้ำตา แล้วก็มีฝั่งตรงข้ามเขาปาหินมาโดนเพื่อนหนูหัวแตก”</p><p dir="ltr">สิ่งนี้ทำให้เธอโมโหขั้นสุดจนอดไม่ได้ที่จะโพสต์เฟซบุ๊กวิจารณ์การสลายการชุมนุมของเจ้าหน้าที่รัฐและการใช้ภาษีของสถาบันกษัตริย์</p><p dir="ltr">“ตอนนั้นก็ถูกเตือนให้ระวังว่าจะมีปัญหา เราก็คิดว่าจะเป็นปัญหาได้ยังไง เราคนธรรมดาทั่วไป ก็รู้ถึงการมีอยู่ของ ม.112 มาพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ไม่คิดว่าใกล้ตัวขนาดนั้น” </p><p dir="ltr">ความรุนแรงที่ในม็อบเกียกกายทำให้ครอบครัวของเรเน่เป็นกังวล เธอห่างจากม็อบที่มีความสุ่มเสี่ยงไปสักพักแล้วกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ</p><p dir="ltr">ผ่านไปหลายเดือน เช้าของวันที่ 9 มี.ค. 2564 เรเน่ถูกตำรวจควบคุมตัวจากที่พักย่านดินแดง ยึดโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ พร้อมตั้งข้อหามาตรา 112 หมิ่นประมาทกษัตริย์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ถูกนำกลับมาใช้ปราบปรามการประท้วงตั้งแต่พ.ย.ปี 2563</p><p dir="ltr">“หนูนอนเล่นอยู่ที่ห้อง อยู่ดีๆ ก็มีเสียงเคาะประตูขึ้นมา ตอนแรกคิดว่าเป็นแม่หรือเพื่อนมาหา แต่เป็นตำรวจนอกเครื่องแบบ 12 คน เขาก็ถามชื่อเรา แล้วก็เข้ามายึดของ ตอนนั้นติดต่อใครไม่ได้เลย แล้วก็ถูกเอาตัวไปที่ บก.ปอท. (กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี)”</p><p dir="ltr">“ตำรวจถามเราว่ามีทนายไหม เราก็บอกว่าไม่มี ตอนนั้นคือยังไม่รู้ว่าต้องมีทนายด้วย แล้วตำรวจก็บังคับให้เซ็นเอกสารทุกอย่าง บอกว่าถ้าเซ็นก็จะปล่อยตัวแล้ว เขาก็ไม่ได้ให้หนูอ่านนะคะ ยืนคุมสองฝั่ง หนูก็เซ็น อยู่ตั้งแต่ 7 โมงเช้าจนถึงบ่ายๆ เย็นๆ จนเพื่อนโทรหาทนายที่ศูนย์ทนายฯ ให้ ทนายก็ถามว่าเซ็นอะไรไปบ้าง หนูก็บอกว่าไม่รู้เขาไม่ได้ให้อ่าน พอทนายดูเอกสารก็บอกว่านี่เป็นการเซ็นยอมรับแล้วนะว่าเราทำจริง”</p><p dir="ltr">หลังจากนั้นชีวิตเรเน่เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เครียดตลอดเวลา ต้องพบนักจิตบำบัดและถูกวินิจฉัยว่าเสี่ยงต่อโรคซึมเศร้า ถูกตำรวจคุกคามถึงบ้านและที่ทำงานจนต้องลาออกมาขายผัดกะเพรา ขายได้แค่เดือนเดียวก็ต้องลี้ภัย</p><p dir="ltr">ขณะนั้นเป็นช่วงที่โควิด-19 กำลังระบาด บวกกับตัวเธอเองก็ไม่ได้มีทุนทรัพย์มากและไม่ได้รู้จักใครในแวดวงนักเคลื่อนไหว เรเน่ออกจากไทยไปไต้หวันด้วยความหวังว่าเมื่อถึงที่นั่นแล้วเธอจะขอความช่วยเหลือไปประเทศที่สามได้ ทว่าองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนหลายแห่งกลับช่วยเหลือเธอไม่ได้ด้วยเหตุผลเรื่องแนวปฏิบัติที่ว่าไต้หวันยังเป็นส่วนหนึ่งของจีน เธอเคว้งคว้างอยู่ที่นั่นสักพักจนกระทั่งได้รับความช่วยเหลือให้ไปยังฝรั่งเศส</p><p dir="ltr">“ตั้งแต่หนูออกจากไทยมาเมื่อเดือนตุลาคมปี 2565 หลังจากนั้นสี่เดือนก็ยังมีการคุกคามอยู่ พี่สาวก็โดนเหมือนกันจากคนเดิมที่หน้าบ้าน เขาก็ตามไปที่ทำงานของพี่สาวเลย เจอคนหัวเกรียนนั่งรออยู่” </p><h2>หมายจับ</h2><p dir="ltr">เรเน่บอกกับประชาไทด้วยว่า ช่วงที่มาถึงปารีสแล้วในกระบวนการยื่นขอลี้ภัย เธอต้องใช้หมายจับเพื่อเป็นเอกสารยืนยันว่ามีภัยจากประเทศต้นทาง ในตอนนั้นมีทนายคนหนึ่งชื่อว่าทนายไวท์ จากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้บอกกับเธอว่าในการส่งหมายจับให้จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ</p><p dir="ltr">“เขาบอกว่าหนูต้องซื้อตั๋วเครื่องบินให้เขาเพื่อเอาหมายจับมาให้ หนูก็บอกหนูไม่มี (เงิน)”</p><p dir="ltr">“เขาบอกหนูว่าถ้าหนูอยากได้หมายจับ เขาต้องบินมาให้หนูเท่านั้น เขาไม่สามารถส่งอีเมลหรือส่งอะไรให้หนูได้เลย ทำให้หนูไม่มีหมายจับตอนยื่นลี้ภัยครั้งแรก”</p><p dir="ltr">แต่เธอเอาเรื่องนี้ไปบอกกับเพื่อนผู้ลี้ภัยด้วยกันเรื่องจึงแดงขึ้นมา และต่อมาก็ได้ไฟล์หมายจับโดยที่ไม่ได้เสียเงินแต่อย่างใด</p><p dir="ltr">สำหรับ ทนายไวท์ หรือ คุณากร มั่นนทีรัย เคยเป็นทนายอาสาให้ศูนย์ทนายความฯ อยู่ระยะหนึ่ง ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็น สส.พรรคก้าวไกล</p><p dir="ltr">ทั้งนี้ประชาไทได้ส่งคำถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไปให้คุณากรตั้งแต่วันที่ 21 มิ.ย. 2567 จนกระทั่งวันที่เผยแพร่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบจากคุณากร </p><h2>ความลำบากของหญิงข้ามเพศ</h2><p dir="ltr">เรเน่เล่าประสบการณ์ในฐานะผู้หญิงข้ามเพศที่เผชิญกับความยากลำบากในกระบวนการยุติธรรมและการลี้ภัยมากกว่าคนตรงเพศ</p><p dir="ltr">“ตอนอยู่ที่ บก.ปอท. เขาบอกว่าทรงแบบนี้เข้าคุกไปมีผัวแน่ๆ เราก็รู้สึกว่ามันอันตรายแล้ว นี่เป็นเหตุผลที่บอกทนายว่าจะไม่เข้าคุกที่ไทย มันไม่มีสิทธิมนุษยชน แล้วนี่ก็เป็นเหตุผลให้ลี้ภัยด้วย ถ้าเข้าคุกไปวันเดียวหนูยอมตาย ฆ่าตัวตายเลย”</p><p dir="ltr">ชีวิตที่ฝรั่งเศสยังคงเผชิญความรุนแรงด้วยเหตุแห่งเพศอยู่ ทั้งการถูกลวนลาม คุกคามทางเพศในที่สาธารณะ และระบบการช่วยเหลือผู้ลี้ภัยก็ยังไม่ได้เป็นมิตรกับผู้มีความหลากหลายทางเพศเท่าที่ควร</p><p dir="ltr">เธอยกตัวอย่างเรื่องการหาที่พักให้ผู้ลี้ภัยเพศหลากหลายที่จะมีความยากกว่าคนตรงเพศ เนื่องจากผู้ลี้ภัยที่นั่นส่วนมากเป็นชาวอาหรับที่นับถือศาสนาอิสลามและมักมากันเป็นแก๊ง แม้มีที่พักเพียงพอก็ใช่ว่าจะไปอยู่ร่วมกับพวกเขาได้อย่างปลอดภัย เพราะมีโอกาสที่จะไปเจอคนที่ต่อต้านเพศหลากหลาย</p><p dir="ltr">อีกหนึ่งปัญหาที่เรเน่เจออยู่ตลอดคือคำนำหน้านามยังไม่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ ทำให้มีความสับสนในการทำเอกสารอยู่บ้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ของฝรั่งเศสหลายคนปฏิบัติต่อเธออย่างให้เกียรติ แต่ก็มีจำนวนหนึ่งที่มาแกล้งเรียกเธอด้วยคำนำหน้าที่ไม่ตรงกับอัตลักษณ์ทางเพศ</p><p dir="ltr">เรเน่พูดถึงตอนที่เธอถึงฝรั่งเศสแล้วต้องถูกกักตัวอยู่ในสนามบินเพื่อรอความช่วยเหลือ</p><p dir="ltr">“เขา (เจ้าหน้าที่) ไม่แน่ใจว่าเราเป็นนาย (เมอซิเออ) หรือนางสาว (มาดาม) เราก็เขียนตามพาสปอร์ตว่านาย แต่เขาก็บอกว่าไม่ได้นะ ต้องเป็นนางสาว แต่พอแก้แล้วก็เป็นปัญหาเพราะมันไม่ตรงกับพาสปอร์ต พอเข้าไปกักตัวในที่กักตัวก็โดนพูด โดนมอง มันเห็นได้ชัดจริงๆ มีปัญหาตลอดเรื่องคำนำหน้า”</p><h2>
แค่คนโชคร้ายที่โดนคดี</h2><p dir="ltr">คนทั่วๆ ไปมักจดจำผู้ลี้ภัยทางการเมืองในฐานะนักเคลื่อนไหวที่เมื่อลี้ภัยไปแล้วก็ยังคงต่อสู้อยู่ กองเชียร์บางส่วนอาจเผลอไปคาดหวังว่าพวกเขาควรจะสู้มากกว่าเดิมเพราะได้ไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว</p><p dir="ltr">สำหรับเรเน่ที่มองตัวเองเป็นเพียง “คนโชคร้าย” สิ่งนี้สร้างภาระทางใจให้เธออยู่ไม่น้อย</p><p dir="ltr">“หนูกลัวมากที่คนจะว่าเราไม่เป็นปากเสียงให้ใคร หนูไม่รู้ว่าตัวเองมีเพาเวอร์มากพอมั้ย หนูไม่ใช่นักเคลื่อนไหว ไม่ใช่เน็ตไอดอล</p><p dir="ltr">หนูก็รู้สึกกลัวเพราะมันโดน (คดี) คนเดียว ถ้ากลับไปก็คงไปเที่ยว ไม่ได้ไปอยู่ ไม่รู้ว่าเห็นแก่ตัวไหม เพราะเสียงหนูคนเดียวไม่พอ แต่ถ้ามันสามารถพูดได้ ถ้ามีโอกาสก็จะทำ”</p><p dir="ltr">สำหรับความคาดหวังต่อพรรคการเมือง เรเน่กล่าวว่ายังต้องการให้ยกเลิก ม.112 หรือปรับลดบทลงโทษให้ได้สัดส่วนกับความผิด ส่วนเรื่อง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เธอให้ความเห็นว่าถ้ากลับไทยได้ก็คงจะแค่กลับไปเที่ยว</p><p dir="ltr">“การที่เรามาอยู่ที่นี่คือดีกว่าเรากลับไปติดคุก หนูแค่ต้องรอให้อะไรมันดีกว่านี้ การมาลี้ภัยก็เป็นโอกาสของเราเหมือนกัน มีการงานที่ดีได้ ที่ไทยเงินเดือนดี แต่เงินไม่เหลือใช้เลย เพราะโครงสร้างไม่ค่อยดี พอมาอยู่นี่ก็เป็นโชคดีได้ลี้ภัย”</p><p dir="ltr"> </p></div>
<div class="node-taxonomy-container">
<ul class="taxonomy-terms">
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C" hreflang="th">สัมภาษณ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยช
http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเท
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">ผู้ลี้ภัยทางการเมือ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2-112" hreflang="th">มาตรา 112[/url]</li>
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B2-112" hreflang="th">คดีมาตรา 112[/url]</li>
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9D%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%A8%E0%B8%AA" hreflang="th">ฝรั่งเศ
http://prachatai.com/category/%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B9%88" hreflang="th">เรเน
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%9E%E0%B8%87%E0%B8%A8%E0%B9%8C-%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A2%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%82%E0%B8%96" hreflang="th">พุทธพงศ์ กลิ่นยี่โ
http://prachatai.com/category/depth" hreflang="th">depth[/url]</li>
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0" hreflang="th">ข่าวเจา
https://prachataistore.net</div>
http://prachatai.com/journal/2024/07/109864 







