พลัดถิ่นในไทย ชีวิตแรงงานครีเอทีฟพม่าหลังรัฐประหาร
<span>พลัดถิ่นในไทย ชีวิตแรงงานครีเอทีฟพม่าหลังรัฐประหาร</span>
<span><span>See Think</span></span>
<span><time datetime="2024-07-31T19:36:43+07:00" title="Wednesday, July 31, 2024 - 19:36">Wed, 2024-07-31 - 19:36</time>
</span>
<div class="field field--name-field-byline field--type-text-long field--label-hidden field-item"><p>เรื่อง: ศิชา รุ่งโรจน์ธนกุล</p><p>ภาพปก: กิตติยา อรอินทร์</p></div>
<div class="field field--name-body field--type-text-with-summary field--label-hidden field-item"><p dir="ltr">นับตั้งแต่มีการรัฐประหารในปี 2564 คนทำงานครีเอทีฟในพม่าจำนวนหนึ่งได้หนีภัยเข้ามาใช้ชีวิตในประเทศไทย ประชาไทคุยกับ 2 แรงงานสร้างสรรค์จากพม่าถึงชีวิตในเมืองไทย โอกาสในด้านการทำงานและคุณภาพชีวิตที่ต่างขึ้นอยู่กับสถานะทางกฎหมายของแต่ละบุคคล</p><h2>งานอิสระ</h2><p dir="ltr">“ความที่ผมต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ มันทำให้ผมไม่สามารถออกไปถ่ายรูปข้างนอกเหมือนเดิมได้ และผมก็กังวลด้วยว่าคนที่เข้ามาติดต่องานอาจเป็นฝ่ายเผด็จการพม่า”</p><p dir="ltr">
<strong>เดวิด (นามสมมติ)</strong> ช่างภาพอิสระจากนครย่างกุ้งผู้มีประสบการณ์กว่า 10 ปีในอาชีพนี้ เล่าให้ประชาไทฟังถึงเส้นทางอาชีพที่จำต้องสะดุดลง หลังจากที่เขาหลบหนีการปราบปรามทางการเมืองมาอยู่เมืองไทยตั้งแต่ 3 ปีที่แล้ว</p><p dir="ltr">ย้อนกลับไปสมัยอยู่ที่พม่า เดวิดเป็นเป็นชาวพม่าเชื้อสายจีนที่ไม่เกี่ยงงานมาแต่ไหนแต่ไร ซึ่งมันห่างไกลจากสภาพที่เขาต้องไร้งานเป็นเวลานานต่อเนื่องแบบนี้</p><p dir="ltr">ก่อนจะเป็นช่างภาพ เขาเคยทำงานมาหลายประเภท รวมถึงงานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า จนวันหนึ่งเขาเข้าร่วมอบรมการถ่ายภาพและมีโอกาสถ่ายภาพในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จัดขึ้นที่ประเทศพม่าในปี 2556 ภาพที่เดวิดถ่ายได้เผยแพร่ในนิตยสารหลายเล่ม ซึ่งแจ้งเกิดเส้นทางการเป็นช่างภาพของเขานับแต่นั้น</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53893262313_ab7a3b2700_b.jpg" width="640" height="960" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาพขณะเดวิดทำงานในพม่า</p><p class="picture-with-caption"> </p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53892107912_43eee66e50_b.jpg" width="960" height="681" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">พิธีปิดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่จัดขึ้นที่ประเทศพม่าในปี 2556 หนึ่งในภาพที่เดวิดถ่าย</p><p dir="ltr">นับตั้งแต่ที่มีการรัฐประหารในปี 2564 เขาเป็นหนึ่งในคนหนุ่มสาวที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านเผด็จการพม่า ต่อมาเขาได้รับหมายจับและไม่สามารถอยู่ในประเทศได้อีกต่อไป</p><p dir="ltr">จากนั้นเขาหลบเข้ามาอาศัยที่เมืองชายแดนไทยเพื่อเข้ากระบวนการไปประเทศที่สาม โดยได้รับการคุ้มครองจากองค์การระหว่างประเทศ ทว่าหลังจากอยู่มาระยะหนึ่งและยังไม่มีวี่แววว่าจะเห็นปลายทางในเร็ววัน บวกกับสภาพเมืองที่ไม่เป็นมิตรกับผู้ลี้ภัย เขาตัดสินใจพาตัวเองออกจากที่นั่นโดยมุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ</p><p dir="ltr">“ผมต้องอยู่ที่นั่น (เมืองชายแดน) แบบไม่ออกไปไหนเลย ต้องปิดประตูไว้ ผมกับเพื่อนรวม 4 คนตื่นขึ้นมาก็เจอกันแค่นี้ ถ้าอยากออกไปข้างนอก คือออกไปข้างหลังบ้านได้แค่นิดเดียว ตอนหลบอยู่ในย่างกุ้งก็แบบนี้แหละ เราต้องอยู่ให้เหมือนไม่มีคน ตอนนั้นผมรู้สึกโดดเดี่ยวมาก” เดวิดเล่าถึงสภาพความเป็นอยู่อันหดหู่จนทำให้เขาในขณะนั้นเริ่มสูบบุหรี่</p><p dir="ltr">หลังจากย้ายมาเมืองไทย งานส่วนใหญ่ของเดวิดคือการถ่ายภาพเพื่อใช้ในกิจกรรมของกลุ่มต่อต้านเผด็จการ เดิมช่างภาพคนนี้เคยมีกล้องถึง 5 ตัว แต่หลังจากที่เขาส่งต่อกล้องเกือบทั้งหมดให้กับขบวนการปฏิวัติ เหลือไว้ใช้เองเพียงตัวเดียว ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัย เขาร่วมงานได้แค่กับคนที่หนีมาในลักษณะเดียวกัน ทำให้มีงานแค่ 1-2 งานต่อเดือนเท่านั้น</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53892162907_4ed43d2c10_b.jpg" width="960" height="548" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">เดวิดและกล้องหลายตัว</p><p dir="ltr">ในกรณีของบุคคลที่รอไปประเทศที่สามอย่างเดวิด เขาไม่สามารถทำบัตรสีชมพูและบัตร CI เหมือนกับแรงงานข้ามชาติทั่วๆ ไปได้ นั่นทำให้เขามีความผิดตามกฎหมายทั้งการเข้าเมืองและการอยู่อาศัย ทั้งยังเข้าไม่ถึงสิทธิด้านสุขภาพ</p><p dir="ltr">ขณะที่เขาอยู่ในเมืองชายแดน เขาตรวจพบวัณโรคและต่อมาได้รับความช่วยเหลือด้านการรักษาจากองค์การระหว่างประเทศ</p><h2>งานบริษัท</h2><p dir="ltr">ชีวิตของเดวิดอยู่ท่ามกลางความเสี่ยงในหลายมิติ แตกต่างจาก
<strong>เอ (นามสมมติ)</strong> ศิลปินอิสระจากนครย่างกุ้งที่หลบเข้ามาเมืองไทยอย่างถูกกฎหมายพร้อมกับสามี</p><p dir="ltr">เวลาผ่านไป 2 ปี เอได้งานเป็นกราฟิกดีไซเนอร์เพื่อการตลาดในบริษัทต่างชาติแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ การมีใบอนุญาตทำงานและวีซ่าธุรกิจทำให้เธอรู้สึกถึงชีวิตที่มั่นคงขึ้น</p><p dir="ltr">“ฉันทำงานศิลปะที่เกี่ยวข้องกับการเมืองมาตั้งแต่ก่อนที่จะมีรัฐประหารด้วยซ้ำ แต่สภาพการเมืองแบบนี้ ฉันไม่มีแรงบันดาลใจอะไรอีกแล้ว มีคนบาดเจ็บล้มตายจริง ฉันไม่รู้สึกไม่สนุกเวลาวาดรูป ติดอยู่ในสภาพที่คิดสร้างสรรค์อะไรไม่ออกตั้งแต่เหตุการณ์รัฐประหาร”</p><p dir="ltr">หลังจากที่มีการรัฐประหาร เอเลือกช่วยเหลือพวกองค์กรเยาวชนด้วยฝีมือการทำกราฟิกของเธอ ด้วยเหตุผลที่ว่าองค์กรเหล่านี้มักไม่เป็นที่รู้จักและต้องการทุนสนับสนุนที่มากกว่า</p><p dir="ltr">นอกจากนี้ เธอออกแบบสื่อรณรงค์ในรูปแบบต่างๆ เช่น โปสเตอร์ กราฟิก และเผยแพร่มันทางออนไลน์เพื่อให้ใครก็ตามนำไปใช้ได้เมื่อออกไปประท้วง ทั้งหมดนี้เป็นการทำโดยไม่เปิดเผยตัวตน</p><p dir="ltr">ลักษณะงานของเอมีความปลอดภัยระดับหนึ่ง แตกต่างกับสามีของเธอที่แม้เป็นศิลปินอิสระเช่นเดียวกันแต่หน้างานมีความเสี่ยงมากกว่า วันหนึ่งรูมเมตและเพื่อนร่วมงานของสามีถูกจับ นั่นเป็นจุดที่ทำให้เอและสามีรีบหนีเข้ามายังฝั่งไทย มากกว่าชีวิตที่ต้องรักษาคืออนาคตที่ดีกว่า</p><p dir="ltr">หลังจากย้ายมาที่กรุงเทพฯ เอใช้เวลาเป็นเดือนกว่าจะเริ่มปรับตัวได้ เธอเลี้ยงชีพด้วยงานฟรีแลนซ์ ซึ่งเป็นงานศิลปะเช่นเดิม เพียงแต่ปรับรูปแบบตามสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไป โดยมากจะอยู่ในรูปแบบของภาพประกอบรีพอร์ต วารสาร หรืองานวิจัยต่างๆ</p><p dir="ltr">“ฉันเหมือนกับปลาในบ่อที่ว่ายออกมาสู่แม่น้ำ โลกข้างนอกมีอะไรอีกมากมาย ตอนที่ฉันไปแถวๆ สยามแล้วเห็นวัยรุ่นออกมาเที่ยวเล่น ชอปปิง ฉันน้ำตาแตกด้วยความรู้สึกท่วมท้น มันสนุกที่ได้เห็นอะไรแบบนี้ แต่ก็เสียใจกับประเทศตัวเองมากๆ</p><p dir="ltr">เราเป็นประเทศที่อยู่ติดกันแต่ชีวิตผู้คนช่างต่างกันเหลือเกิน ที่พม่า เยาวชนเสียโอกาสด้านการศึกษา ชีวิตพังจนต้องเริ่มจากศูนย์ ฉันเสียใจกับคนรุ่นใหม่ พวกเขาไม่ควรเจอเรื่องแบบนี้”</p><p dir="ltr">ขณะที่เออยู่ในไทยได้ตามกฎหมาย แต่สามีของเธออยู่เกิน (overstay) เนื่องจากเขาอยู่ในระหว่างรอไปประเทศที่สาม สถานะทางกฎหมายเป็นปัจจัยหลักในการกำหนดคุณภาพชีวิตของผู้หนีภัย</p><p dir="ltr">“เราต้องรอดไปด้วยกัน หนึ่งในพวกเราต้องอยู่ที่นี่อย่างถูกกฎหมายและมีงานที่มั่นคง นั่นเป็นเหตุผลให้ฉันต้องไปทำงานออฟฟิศ ตอนนี้สามีฉันเป็นทำงานเป็นศิลปินเต็มตัวเพื่อการปฏิวัติ ส่วนฉันทำงานบริษัทและเป็นศิลปินได้ในเวลาว่าง พวกเราเป็นทีมเดียวกัน”</p><p dir="ltr">บริษัทที่เอทำงานตั้งอยู่ชานเมืองกรุงเทพฯ เช่นเดียวกับที่พักของเธอ การได้ทำงานบริษัทช่วยให้หายใจได้สะดวกขึ้นเหมือนกับได้ยกภูเขาออกจากอก แม้ยังเป็นหนี้ก้อนโตจากค่าใช้จ่ายในกระบวนการขอวีซ่า</p><p dir="ltr">ในสภาพแวดล้อมการทำงาน มีบ้างที่เธอรู้สึกโดดเดี่ยวจากการเป็นคนสัญชาติพม่าเพียงคนเดียวในบริษัท เพื่อนร่วมงานไทยและต่างชาติคอยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบเธอเสมอ แต่มันก็หนักหนาเกินกว่าใครจะมาเข้าใจ</p><p dir="ltr">“เพื่อนร่วมงานมักถามฉันว่าทำไมฉันดูเศร้าอยู่ตลอด ทำไมฉันดูไม่เข้าสังคม ทำไมฉันดูเครียดจังเลย ฉันไม่ได้เครียดนะ ฉันแค่เหนื่อย ฉันกำลังพยายามที่จะมีความสุข</p><p dir="ltr">หัวหน้าของฉันเคยพูดประมาณว่า เฮ้ คุณมีงาน มีใบอนุญาตทำงาน เราทำวีซ่าธุรกิจให้คุณ ทำไมคุณถึงยังไม่มีความสุขล่ะ… ใช่ ฉันมีความสุข แต่คนๆ หนึ่งจะมีความสุขเต็มที่ได้ยังไงในเมื่อประเทศของเขายังอยู่ในสภาพนี้” </p><p dir="ltr">ในมุมมองของเอที่เลือกอยู่ในกรุงเทพฯ เห็นว่าความพิเศษของเมืองหลวงแห่งนี้ มี 3 ข้อหลักๆ คือ สภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยป้ายโฆษณาและบิลบอร์ด และคอมมูนิตี้ศิลปินชาวไทย โดยอย่างแรกมันช่วยกระตุ้นให้เธอมีไอเดียผลิตงานเชิงพาณิชย์ ส่วนอย่างที่สอง ช่วยให้เธอมีโอกาสจัดแสดงนิทรรศการเป็นครั้งแรก</p><p dir="ltr">ส่วนเหตุผลที่สาม เธอต้องการเป็นอิสระจากทัศนคติที่เป็นพิษของคนในวงการศิลปะที่มักจะอยู่กันในเมืองชายแดน</p><p dir="ltr">ศิลปินรุ่นใหญ่ที่นั่นเคยเป็นคนที่มีอิทธิพลต่อเธอในอดีต พวกเขาสามารถทุ่มเวลาให้กับการปฏิวัติอย่างเต็มตัว บางคนมีความคิดทำนองว่าเราควรเลิกทำงานศิลปะไปเลย เพราะในสภาพการเมืองแบบนี้ เราควรจะไปโฟกัสที่การปฏิวัติก่อน</p><p dir="ltr">แต่เอไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เนื่องจากความที่ไม่ได้สังกัดองค์กรใดและยังต้องส่งเสียครอบครัว</p><p dir="ltr">“ฉันเห็นคนรุ่นเดียวกันทำงานศิลปะได้ดี แต่พวกรุ่นพี่ก็เอาแต่พล่ามให้หยุดทำงานศิลปะได้แล้วถ้ามันไม่ได้เกี่ยวกับการปฏิวัติ ฉันว่าความคิดแบบนี้แม่งโคตรท็อกซิกเลย”</p><p dir="ltr">“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราไม่ควรหยุดทำงานศิลปะ ไม่เกี่ยวกับว่างานนั้นจะเกี่ยวกับการปฏิวัติหรือไม่ ตราบใดที่งานนั้นไม่ได้เป็นการสนับสนุนเผด็จการทหาร มันเท่ออกนะ”</p><p dir="ltr">สำหรับนิทรรศการครั้งแรกของเอในเมืองไทยเป็นนิทรรศการกลุ่มที่จัดแสดงร่วมกับศิลปินคนอื่นๆ มีภาพวาดของเอ 3 ภาพในธีมการปฏิวัติ ภาพหนึ่งเป็นเรื่องการปิดกั้นสื่อมวลชน ส่วนอีกสองภาพเป็นสไตล์ป๊อปอาร์ต</p><p dir="ltr">“มันไม่สำคัญว่าเราจะทำอะไร เราจะมีชีวิตที่สบายขึ้นแล้วขนาดไหน หรือเราจะทำงานบริษัทอยู่หรือไม่ แต่เราจะลืมเรื่องการปฏิวัติไปไม่ได้…ความเป็นขบถมันไม่ได้หายไปจากเรา มันยังอยู่ตรงนั้น ฉันเลือกที่จะทำงานศิลปะต่อไปแบบนี้แหละ เพราะว่ามันคือชีวิตของฉัน” เอกล่าว</p><p dir="ltr"> </p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53893437940_3d0a945946_b.jpg" width="819" height="1024" loading="lazy"><p class="picture-with-caption" dir="ltr">“นี่คือรูปเค้กวันเกิด แต่ฉันวาดให้มันเป็นเค้กแห่งความตาย เอากระสุนปืนมาปักเป็นเทียน มีเลือดบนหน้าเค้กแบบท่วมๆ พร้อมกับเขียน “สุขสันต์วันรัฐประหาร” บนหน้าเค้ก” เอบอกประชาไท เธอวาดภาพนี้ครั้งแรกที่กรุงเทพฯ และครั้งต่อมาที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยนำภาพไปไว้ที่บาร์แห่งหนึ่งที่นั่น</p><p class="picture-with-caption" dir="ltr"> </p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53893437930_65ea9442dd_b.jpg" width="819" height="1024" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">ภาพวาดของเอสื่อถึงการปิดกั้นสื่อของรัฐบาลทหารพม่า</p><img src="
https://live.staticflickr.com/65535/53893026091_834baf5f66_b.jpg" width="819" height="1024" loading="lazy"><p class="picture-with-caption">อีกหนึ่งภาพในซีรีส์เดียวกันที่ได้จัดแสดงในนิทรรศการ</p><div class="note-box"><p><strong>รายงานชิ้นนี้เป็นผลงานจากกิจกรรมที่จัดขึ้นโดย Borders & Broader Conversations Initiative</strong></p></div><div class="more-story"><p><strong>เรื่องที่เกี่ยวข้อง</strong></p><ul><li>
จากพม่าถึงไทย: 3 ปีที่ต้องลี้ภัยของนักร้อง Gen Z</li><li>
วิบากกรรม ‘นักข่าวหญิงพลัดถิ่น’ จากพม่าถึงไทยปลอดภัยพอหรือยัง</li></ul></div><p> </p></div>
<div class="node-taxonomy-container">
<ul class="taxonomy-terms">
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%A1%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A9%E0%B8%93%E0%B9%8C" hreflang="th">สัมภาษณ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87" hreflang="th">การเมือ
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99" hreflang="th">แรงงา
http://prachatai.com/category/%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99" hreflang="th">สิทธิมนุษยช
http://prachatai.com/category/%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95" hreflang="th">คุณภาพชีวิ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8" hreflang="th">ต่างประเท
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">พม่
http://prachatai.com/category/%E0%B8%9C%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B9%89%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2" hreflang="th">ผู้ลี้ภั
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%A3%E0%B8%A3%E0%B8%84%E0%B9%8C" hreflang="th">แรงงานสร้างสรรค
http://prachatai.com/category/%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4" hreflang="th">แรงงานข้ามชาต
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A8%E0%B8%B4%E0%B8%A5%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%99" hreflang="th">ศิลปิ
http://prachatai.com/category/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2" hreflang="th">รัฐประหารพม่
http://prachatai.com/category/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0" hreflang="th">ข่าวเจา
http://prachatai.com/category/depth" hreflang="th">depth[/url]</li>
<li class="taxonomy-term"><a href="
http://prachatai.com/category/in-depth" hreflang="th">in-depth[/url]</li>
</ul>
</div> <!--/.node-taxonomy-container -->
<div class="field field--name-field-promote-end field--type-string field--label-hidden field-item">ติดตาม "ประชาไท Prachatai.com" ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้า
https://prachataistore.net</div>
http://prachatai.com/journal/2024/07/110152 







