[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
24 มิถุนายน 2568 14:53:04 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ประวัติความเป็นมา รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี  (อ่าน 268 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
Kimleng
'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น อะไรที่ชอบก็บอกของนั้นดี
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +5/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 6096


'อกุศลธรรม' เป็นสิ่งเกิดขึ้นจากการตามใจคนทั้งนั้น

ระบบปฏิบัติการ:
Windows NT 10.0 Windows NT 10.0
เวบเบราเซอร์:
Chrome 109.0.0.0 Chrome 109.0.0.0


ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: 30 มีนาคม 2568 14:10:58 »





ประวัติความเป็นมา
ของ รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ (พลวง)
ตำบลพลวง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี
โดย พระครูธรรมสรคุณ ผู้ร่างประวัติเขาคิชฌกูต
(เผยแพร่ในเว็บไซต์ กรมศิลปากร)

------------------------------------
คัดโดยคงตัวพยัญชนะและสระเดิม
ภาพ : รอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ - วันที่ ๒๙ มีนาคม ๒๕๖๘


การพบรอยพระพุทธบาทจันทบุรี ออกจเป็นบุญญาภินิหารของชาวจังหวัดจันทบุรีมิใช่น้อย นับว่าเป็นโชคของพุทธศาสนิกชน และเป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดจันทบุรี และพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศไทย

เมื่อ พ.ศ.๒๓๗๙ โดยมีนายติ่งพร้อมด้วยพวกหลายคนด้วยกัน ได้พากันเดินทางขึ้นไปบนเขา เพื่อหากฤษณากะลำพักมาขาย ทำที่พักไว้บนเขาหลายวัน ตอนกลางวันต่างคนต่างก็ออกไปแสวงหาโชคลาภ วันหนึ่งพากันกลับที่พักไม่ถูกต่างพากันเดินวนอยู่บนเขาหลายรอบ วนเวียนไปมาก็มาที่แห่งนี้หลายครั้งจนเหนื่อยอ่อน ในที่นั้นเป็นลานหินกว้างใหญ่ จึงพากันขึ้นไปพักเหนื่อย เพื่อนคนหนึ่งของนายติ่งได้ถอนหญ้าเพื่อจะนอนพัก ก็พบแหวนใหญ่ขนาดสวมหัวแม่เท้าได้ เมื่อช่วยกันตรวจดูก็ปรากฏว่าเป็นแหวนทำด้วยนาค เมื่อพบโชคลาภเช่นนี้ก็ช่วยกันถอนหญ้าเพื่อแสวงหาโชคกันใหญ่ ตอนนี้ไม่พบอะไร นอกจากหินแผ่นหนึ่ง มีพื้นที่เป็นรอยรูปก้นหอย จากนั้นก็กลับบ้านได้อย่างสะดวกง่ายดาย ต่อมานายติ่ง นายนำ นายปลิ่ม ได้นำบุตรชายไปอุปสมบทที่วัดพลับ อ.เมือง จ.จันทบุรี เมื่อบวชลูกชายเรียบร้อยแล้ว จึงกลับบ้านไม่ทัน จึงค้างคืนที่วัดนั้น รุ่งขึ้นก็เป็นงานเทศกาลปิดทองรอยพระพุทธบาทจำลอง นายติ่งจึงซื้อทองไปปิดรอยพระพุทธบาทจำลองนั้น เมื่อปิดแล้วจึงพูดขึ้นว่า พระพุทธบาทที่เขาเช่นนี้ทางบ้านผมก็มีเหมือนกัน พระได้ยินเช่นนั้นจึงเรียนให้เจ้าอาวาสทราบ  สมัยนั้น หลวงพ่อเพชร เป็นเจ้าอาวาสวัดพลับ



โปรดอ่านบันทึกของชาวจันทบุรีคนหนึ่งต่อไป

ขณะนั้น หลวงพ่อดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดจันทบุรี จึงเรียกนายติ่งไปไต่ถาม นายติ่งจึงเล่าความว่า เป็นความจริง เจ้าคณะจึงให้พระไปพิสูจน์ดู นายติ่งเป็นผู้นำทางเมื่อไปพบเข้าก็เป็นความจริงดังที่นายติ่งบอก จึงได้นำแหวนจากนายติ่งไปถวายเจ้าคณะจังหวัด  ต่อมาเจ้าคณะจังหวัดได้ไปดูด้วยตนเอง ไปดูก็เป็นความจริง จึงได้ตรวจดูตามบริเวณนั้นทั่วไป ก็พบสิ่งแปลกประหลาดและสิ่งมหัศจรรย์หลายอย่าง  ดังจะได้กล่าวชี้แจงต่อไป  รอยพระพุทธบาทนั้นท่านทรงเหยียบจารึกไว้ที่ศิลาแผ่นใหญ่บรรจุคนนั่งได้เป็นร้อยกว่าคน บนยอดเขาสูงสุด กว้าง ๑ เมตร ยาว ๒ เมตร และทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของรอยพระพุทธบาทนั้น ยังมีหินกลมก้อนหนึ่งใหญ่มาก หินก้อนนี้เรียกกันว่า หินลูกพระบาท ตั้งขึ้นมามองแล้วน่าแปลก และมหัศจรรย์เป็นอย่างมาก ไม่น่าจะตั้งอยู่ได้เลย มองดูแล้วคล้ายๆ ลอยอยู่เฉยๆ และยิ่งไปกว่านั้นคนก่อน ๆ เล่ากันต่อมาว่า เขาเคยเอาด้ายสายสิญจ์คล้องแล้วหลุดมาได้ พิสูจน์ดูแล้วก็น่าจะเป็นไปได้ ดูโปร่ง ๆ คล้าย ๆ ไม่ติดอะไรเลย และยังมีหินอีกลูกหนึ่งใหญ่มากเหมือนกัน อยู่ตรงกันข้ามกับลูกพระบาทนี้ ก็มีรอยพระหัตถ์ไปรับหินก้อนนี้จากรอยพระพุทธบาทกับรอยพระหัตถ์นั้น ห่างกันประมาณ ๕ เมตร และยิ่งแปลกไปกว่านั้น ในก้อนหินนั้นตรงกันข้ามกับรอยพระหัตถ์ ยังมีรูปรอยเท้าใหญ่ อันนี้เขาเรียกว่ารอยเท้าพญามาร เพียงแหงนหน้าขึ้นไปมองจะเห็นได้ทันที สูงประมาณ ๑๕ เมตร ต่อจากนั้นไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือห่างจากหินลูกนี้ไปเพียง ๑๕ วา ก็มีหินลูกข้างบนเป็นลาน จะมองเห็นรอยรถหรือรอยเกวียน นี่ก็น่าแปลกมาก ยืนบนหินลูกนั้นมองลงไปทางทิศเหนือจะเห็น ถ้ำเต่า บนหลังถ้ำจะมองเห็นเป็นรูปเต่า ลักษณะคล้ายๆ เต่าปลวก ต่อจากนั้นก็หันไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของรอยพระพุทธบาท ก็จะไปพบกับถ้ำช้าง ถ้ามองจากรอยพระพุทธบาทไป จะเห็นหินก้อนหนึ่งมีรูปลักษณะคล้ายช้างจริง เลยจากช้างไปสูงสุดนั้น เราเรียกว่า ห้างฝรั่ง ที่เรียกว่าห้างฝรั่ง ก็เพราะฝรั่งไปตั้งห้างส่องกล้องเพื่อทำแผนที่ มองไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ยังมีถ้ำอีกถ้ำหนึ่งเรียกกันว่า ถ้ำสำเภา เพราะมีหินก่อนหนึ่ง ข้างบนถ้ำมีลักษณะคล้ายๆ เรือสำเภาจึงเรียกว่า ถ้ำสำเภา ยังมีอีกถ้ำหนึ่งใต้พระบาทนี้เรียกว่าถ้ำตาฤๅษี  พระบาทแห่งนี้ทำไมจึงเรียกว่า เขาคิชฌกูต ที่เรียกเช่นนี้ก็เพราะมีชื่อเขาในกรุงราชคฤห์ในประเทศอินเดียลูกหนึ่ง ชื่อว่าเขาคิชฌกูฏ ฟังแล้วสะเทือนใจคล้าย ๆ กับว่าได้ไปยังนครราชคฤห์ อันเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์ครั้งปฐมสมโพธิกาลโน้น และการไปมาก็ไม่สู้ไกลนัก นึกไปว่าปีหนึ่งเรายังได้มีโอกาสไปนมัสการรอยพระพุทธบาทครั้งหนึ่ง บาทหรือเท้านับว่าเป็นอวัยวะที่ต่ำที่สุดของมนุษย์เรา แต่เท้านั้นเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุด ถ้าขาดเท้าเสียก็ไม่สามารถที่จะไปประกอบคุณงามความดีได้ โดยเฉพาะเป็นเท้าของพระพุทธองค์ด้วยแล้วเป็นเท้าพิเศษและบริสุทธิ์ เพราะเท้าของท่านไม่ได้ใช้ไปในทางสำมะเลเทเมา ไม่ใช้เท้าไปก่อความทุกข์หรือความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด ไม่ไปทำทุจริตลักฉ้อหรือพยาบาทปองร้ายผู้ใด ไม่ใช้เดินไปทำชู้กับเมียใคร เท้านั้นใช้ทางดีก็ได้ทางชั่วก็ได้ เช่น ใช้เท้าไปก่อกรรมทำเข็ญ ก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่น เช่น ใช้ไปลักขโมย หรือเบียดเบียนผู้อื่น ไปเล่นการพนัน ไปดื่มสุรายาเมาเช่นนี้ เป็นเท้าที่อัปปรีย์หรือจัญไร นี่เรียกใช้เท้าไปสู่อบายหรือนรก ไม่ช้าก็ไปติดคุกติดตรางได้รับความเดือดร้อนอย่างนี้ ไม่มีใครเลื่อมใสและเคารพกราบไหว้ ส่วนเท้าของพระพุทธองค์แม้จะประดิษฐานอยู่แห่งหนตำบลใดก็ตาม ถ้าเรามีความเชื่อมั่น มีความเคารพกราบไหว้ด้วยใจอธิษฐานแล้ว ย่อมเกิดผลสำเร็จแก่ผู้นั้นทุกคน และจะเป็นศิริมงคลแก่ผู้นั้นตลอดไปด้วยใจอันแน่วแน่ของกระแสจิตของผู้นั้น ถ้าไม่แน่จริงก็ขึ้นไปนมัสการไม่ได้ เพราะจะต้องปีนป่ายขึ้นไปสูงไม่ใช่เล่น นับจากระดับน้ำทะเลขึ้นไปถึงยอดเขา สูงประมาณ ๑๐๐๐ เมตร  จากวัดพลวงขึ้นไปประมาณ ๕ ก.ม. หรือ ๑๒๕ เส้น  ท่านอ่านมาถึงตอนนี้อาจจะแปลกใจว่า จากระดับน้ำทะเล ๑๐๐๐ เมตร จากวัดพลวงไป ๕ ก.ม. หรือ ๑๒๕ เส้นนั้นผิดกันมาก ก็เพราะน้ำทะเลนั้นวัดตรงส่วนจากวัดพลวงไปนั้น ต้องปีนไปตามไหล่เขามีขึ้นแล้วก็ลง รวมแล้วทั้งหมด ๑๒ ชั้น  ฉะนั้น จึงดูว่าไกลมากนับว่าประเทศไทยทั้งประเทศไม่มีรอยพระพุทธบาทแห่งไหนที่พบมาแต่ละแห่งอาจจะยืนยันได้ว่า ไม่มีประดิษฐานสูงถึงขนาดนี้ ทั้งนี้เพราะพระพุทธองค์ท่านคาดการไกลว่าพุทธศาสนิกชนในกาลต่อไป จะมีศรัทธาแก่กล้าถึงขนาดไหน และจะมีความเชื่อมั่นและสักการบูชาท่านแค่ไหน ทั้งนี้อาจจะวัดได้จากพุทธศาสนิกชนผู้แสวงบุญทั้งหลาย ได้หลั่งไหลพากันไปนมัสการทุกสารทิศ ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า ด้วยน้ำจิตอันแท้จริงของพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ผู้เขียนกล้ารับรองได้ว่า ถ้าไม่มีศรัทธาจริง ๆ แล้ว ยากยิ่งที่จะขึ้นไปได้ แม้แต่บุคคลที่กำลังอยู่ในวัยเบญจเพศ ร่างกายยังแข็งแรง ไม่มีศรัทธาในพระองค์ท่านแล้ว ยังล้าถอยหลังกลับไปเปล่าๆ ปีละมาก ๆ ถ้ามีศรัทธาแก่กล้าจริง ๆ แล้ว แม้แต่มีอายุเข้าวัยชรา ถึง ๖๐ – ๗๐ ปี เดิน ๔ เท้า ๓ เท้า ก็ยังขึ้นไปนมัสการกันปีละมาก ๆ นับว่าเป็นที่น่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่งสมด้วยพุทธภาษิตของพระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า “สัทธา ปสาทะ ปฏิถิตา” ศรัทธาตั้งมั่นอยู่ในสิ่งใด สิ่งนั้นย่อมสำเร็จผลตามความมุ่งหมายทุกประการ แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายที่มีบุคคลบางจำพวกที่ไปด้วยไม่มีศรัทธา ไปอยากรู้อยากเห็นหรือไปเพลินๆ ตามเพื่อนพวกนั้น มักจะถูกรุกขเทวดาที่ปกปักรักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ลงโทษกันบ่อย ๆ แทบทุก ๆ ปี ทั้งนี้เราจะเห็นได้จาก เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ แต่ไม่ต้องออกนาม เขาไม่ใช่ศาสนาพุทธ เขาขึ้นไปสนุกกับเพื่อนเขา ผู้นั้นมาจาก จ.ระยอง เขาเป็นผู้ชายเสียด้วย เพื่อน ๆ ทุกคนพากันนมัสการรอยพระพุทธบาททุกคน แต่เขาไม่นมัสการ เขาหัวเราะคล้าย ๆ เป็นเรื่องที่น่าขบขัน เห็นว่าพวกเรานี้หลงไปกราบหิน หรือกราบรอยตีนอะไรกันทำนองนี้ แถมรองเท้าไม่ยอมถอดเสียด้วย นัยว่าเป็นหนามทางตาชาวพุทธเราหนักหนาทีเดียว ต่อจากนั้นมาได้สักครู่เดียว ชายผู้นั้นก็นึกอยากง่วงนอน ก็ไปนอนบนแผ่นหินทางทิศใต้ของรอยพระพุทธบาท ห่างจากรอยพระบาทไม่ไกลนัก แล้วเขาก็หลับไป ที่หลับไปนั้นเขาฝันว่าวิ่งลงมาจากที่สูง แต่ไหนได้ตัวไม่ได้วิ่งสักหน่อยเท่าที่เขาใช้เท้าวิ่ง แต่กลับใช้หลังวิ่งกลิ้งลงไปกระทบหินศีรษะแตกหลายแผล สลบไปหลายชั่วโมง เคราะห์หนุนบุญยังมี ยังไม่ถึงที่ตายหาไม่ก็เป็นสิงห์ เทวดายังสงสารและยังเลี้ยงไว้ให้ผู้อื่นได้แจ้งประจักษ์  เขามีความตกใจเป็นอย่างมาก ทางคณะกรรมการพระบาทได้ช่วยกันปฐมพยาบาล ฟื้นขึ้นมาก็พาเขาผู้นั้น ไปกราบขอขมาลาโทษที่รอยพระพุทธบาทนั้นก็ค่อยทุเลาเบาบางขึ้นทันที แล้วก็กลับไปด้วยความปลอดภัย




ในปี พ.ศ.........มีหญิงสาววัยรุ่นมาจาก อ.ขลุง จันทบุรี แต่ไม่ต้องออกนามประเดี๋ยวนางจะอาย ปิดไว้เป็นความลับก่อน ร่างกายชะโอนชะองถ์อ้อนแอ้นไม่เคารพปูชนียสถาน เหยียบย่างไปทั้งรองเท้าไม่ถอดรองเท้า ขณะนั้นองค์เทวดาที่รักษาพระบาทก็บันดาลให้มีลมพัดอย่างแรง พัดเอาร่างของนางที่อรชน เกือบเหาะละลิ่วปลิวคว้าง นางทรงตัวไม่อยู่ไปชนเอาหินสลบไปเหมือนกัน เดชะบุญคณะกรรมการพระบาทรับเอาไว้ทัน ถึงอย่างนั้นก็สลบไปหลายชั่วโมง นี่แหละเราชาวพุทธทั้งหลายทุกคนอย่าได้ประมาท ในเมื่อมีโอกาสขึ้นไปแล้วอย่าพลั้งเผลอ จงถอดหมวกรองเท้าก่อนเคารพนอบกราบไหว้ นมัสการปูชนียสถาน อย่าให้รุกขเทวดาท่านโกรธ บันดาลอาจถึงแก่ชีวิตปลิดสังขารมรณา ขึ้นไปแล้วจงทำแต่ความดีทั้งกายใจและจิต ส่งกระแสจิตไปยังพระพุทธองค์ อุปมาเหมือนท่านยังทรงมีชีวิตประทับอยู่ต่อหน้าพวกเราเห็นแต่รอยเท้ายังเฝ้าโสภิต จงอธิษฐานจิตขอให้ได้พบพระพุทธองค์ เรื่องอธิษฐานในสมัยก่อนที่ท่านมีพระชนม์อยู่ ท่านได้ตรัสรู้เป็นสัมมาสัมโพธิญาณ หรือจะเรียกในบารมี ๓๐ ทัดก็ได้ คือ อธิษฐานปารมี อธิษฐานอุปปารมี อธิษฐานปารมัตปารมี เรื่องราวของอธิษฐานนี้มีตัวอย่างมากมาย ฉะนั้นถ้ามีกุศลบารมีได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้แล้ว จงตั้งจิตอธิษฐานให้ดี ปรารถนาสิ่งที่ดีที่ชอบของเราตามความพอใจ ท่านกลับไปจะมีแต่ความปลอดภัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายและรุกขเทวดาที่รักษารอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ก็จะอำนวยพรให้ท่านได้รับแต่ความสุข ความสมบูรณ์พูลผลร่มเย็นเป็นสุขตลอดกาลทุกเมื่อ

ตัวอย่างคนที่ขึ้นไปแล้วประกอบแต่คุณงามความดี ถึงแม้นมีอุปัทวเหตุก็ไม่เป็นอันตราย ประมาณ ๒๐ ปีล่วงมาแล้ว มีพระภิกษุรูปหนึ่ง ชื่อหลวงตามุกข์ ประจำอยู่สำนักวัดแกรง ต.วังแซ้ม อ.มะขาม จ.จันทบุรี นี่เอง ได้ขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทพร้อมกับพุทธศาสนิกชนทั่วไป เผอิญเดินหลบสีกาพลัดตกลงมาสูงประมาณ ๑๐ วา เหมือนปาฏิหาริย์ ไม่มีอันตรายอะไรเลย

เมื่อ พ.ศ.๒๕๑๓ นี้ ได้มีแม่ชีจีนคนหนึ่งถือศีลกิจเจ เดิมทีประจำอยู่เขาสามมุข จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปนมัสการรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ ได้เห็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์และอัศจรรย์ทั้งหลาย ก็คิดอยากจะอยู่บนยอดเขานี้ตลอดไป และไม่ยอมลงไป ส่วนญาติพี่น้องลูกหลานไม่อยากให้อยู่ กลัวจะเป็นอันตราย พร้อมทั้งที่อยู่ก็ไม่มีด้วย ฉะนั้นลูกหลานจึงพร้อมใจกันไปสร้างกุฏิให้อยู่เป็นพิเศษ ๑ หลัง อยู่ตั้งแต่เดือน ๓ ถึงเดือน ๗ รวม ๔ เดือน แม่ชีคนนี้แกมีบุญมาก ถึงกับมีเสือมาอยู่เป็นเพื่อนด้วย อยู่กับคนลับแล ไม่มีใครอยู่เป็นเพื่อน อยู่ผู้เดียวบนยอดเขานี้ เดี๋ยวนี้ได้มรณภาพไปแล้ว  ฉะนั้น ถ้าท่านทั้งหลายมีโอกาสหรือบุญพาวาสนาส่งขึ้นมาบนนี้ ถ้ามีโอกาสพักแรมหรือค้างคืน จงพยายามทำสติให้ตื่น จงพยายามทำใจให้สงบ ท่านจะได้พบของดี










850/28

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 30 มีนาคม 2568 14:13:32 โดย Kimleng » บันทึกการเข้า



กิมเล้ง @ สุขใจ ดอท คอม
สูตรอาหาร ทำกับข้าว เที่ยวไปทั่ว
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 1.302 วินาที กับ 28 คำสั่ง

Google visited last this page 22 มิถุนายน 2568 05:52:23