จิตที่รู้ ย่อมไม่หลงดวงใจอันเดียวนี้แหละ มันเป็นได้ทั้ง "
รู้" และเป็นได้ทั้ง "
หลง"
เมื่อ
ปล่อยให้มันหลงไหล
ไปตาม รูป เสียง กลิ่น รส โผฎฐัพพะ
ธรรมารมณ์แล้ว
ใจอันนี้ จิตอันนี้ มันก็
หลงมากระทั่งวัน กระทั่งคืน ตลอดตั้งแต่เกิด
จนแก่ ตั้งแต่แก่จนตาย หลงไหลมาอย่างนี้นับภพนับชาติมาไม่ถ้วนแล้ว
เมื่อมา
ภาวนาทำความเพียร เพียรแผดเผากิเลส ในหัวใจอันนี้
ให้เบาบางหมดสิ้นไป ก็คือว่า
เพียรเพ่งอยู่จำเพาะ ดวงจิต
อันนี้เตือนบอกดวงจิตดวงที่มีความรู้สึกอยู่ภายในนี้ ว่า
นอกจาก
จิตที่รู้อยู่ ตั้งอยู่ในขณะปัจจุบันนี้ ออกไป จะเป็นอดีต อนาคต ร้ายดีอย่างไร
ไม่ต้องไปสนใจ เพราะไม่เที่ยงทั้งหมด ไม่มีอะไรเป็นของเที่ยง
มั่นคง ถาวร อยู่ได้เลยในโลกนี้ เป็นทุกข์เปล่าๆ
นอกจากที่รู้อยู่นี้เป็นทุกข์คัดจากหนังสือ"สะพานบุญฯ"
ขอบคุณ
http://forum.khonkaenlink.info/index.php?topic=195099.0#msg2185220http://www.tairomdham.net/index.php/topic,53.0.htmlอนุโมทนาสาธุที่มาทั้งหมดมากมายค่ะ