[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
01 พฤศจิกายน 2567 05:49:01 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า:  [1] 2   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ตรุษจีนปีนี้ขอเสนอ 24 ยอดกตัญญู  (อ่าน 14644 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
sometime
บุคคลทั่วไป
« เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:09:48 »




<table class="maeva" cellpadding="0" cellspacing="0" border="0" style="width: 800px" id="sae3"> <tr><td style="width: 800px; height: 64px" colspan="2" id="saeva3"><embed type="application/x-shockwave-flash" src="http://www.flash-mp3-player.net/medias/player_mp3_maxi.swf?mp3=http://www.archive.org/download/pray_music/PMS1280006.MP3&amp;width=250&amp;showstop=1&amp;showinfo=1&amp;showvolume=1&amp;volumewidth=35&amp;sliderovercolor=ff0000&amp;buttonovercolor=ff0000" width="800px" height="64px" wmode="transparent" quality="high" allowFullScreen="true" allowScriptAccess="never" pluginspage="http://www.macromedia.com/go/getflashplayer" autoplay="false" autostart="false" /></td></tr> <tr><td class="aeva_t"><a href="http://www.archive.org/download/pray_music/PMS1280006.MP3" target="_blank" class="aeva_link bbc_link new_win">http://www.archive.org/download/pray_music/PMS1280006.MP3</a></td><td class="aeva_q" id="aqc3"></td></tr></table>


>>>หยีซุน กตัญญูจนได้บัลลังก์<<<


หยีซุ่น แซ่เหยา กำพร้าแม่แต่เด็ก บิดาชื่อกู่โส่ว แม่เลี้ยงกับลูกมีจิตใจคับแคบ หยาบช้าเห็นแก่ตัว
แม้ว่า ซุ่น จะถูกแม่เลี้ยงกับลูกวางแผนเผาทั้งเป็นและกลบฝังในบ่อน้ำแต่ก็รอด มาได้ทั้งสองครั้ง โดยซุ่นมิได้ถือโทษโกรธเคืองแม้แต่น้อย
ซุ่นทำนา อยู่ที่เชิงเขาลิซัน มีช้างมาช่วยไถนา และมีฝูงนกมาช่วยกำจัดวัชพืชอย่างน่าอัศจรรย์ ความกตัญญูตกเวทีของซุ่น เมื่อพระเจ้าตี้เหยาทรงทราบ จึงส่งพระโอรสเก้าองค์ไปช่วยซุ่นทำนา และยกพระธิดาสององค์ให้เป็นภริยาของซุ่น
เมื่อพระเจ้าตี้เหยาทรงชรามากแล้ว ได้มอบราชบัลลังก์แต่ซุ่น ทรงพระนามว่า.......พระเจ้าซุ่นตี้

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:40:49 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:11:49 »




>>>ฮั่นเหวินตี้ ชิมโอสถ<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น ฮั่นเหวินตี้ ได้ขึ้นครองราชย์สืบต่อจากพระเจ้าฮั่นโกโจ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ฮั่น พระเจ้า เหวินตี้ เป็นผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ ทุกเช้าค่ำพระองค์จะต้องเสด็จไปเยี่ยมถามทุกข์สุขของพระมารดา
ครั้งหนึ่งพระมารดาเกิดล้มป่วยลง พระเจ้าเหวินตี้กระวนกระวายพระทัยมาก ทุกวันนอกจากการบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระองค์ไม่กล้าห่างกายพระมารดาแม้แต่ก้าวเดียว นอกจากนี้โอสถที่พระมารดาเสวยทุกชาม พระเจ้าเหวินตี้จะต้องลองชิมดูด้วยพระองค์เองก่อนทุกครั้ง ว่าจะร้อนไป ขมไป หรือยาแรงไปหรือไม่ แล้วพระองค์จึงค่อยป้อนพระมารดา พระมารดาป่วยอยู่ 3 ปี ที่สุดก็ค่อย ๆ หายเป็นปกติ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:29:08 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #2 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:14:23 »




>>>กัดนิ้วเรียกบุตร<<<


สมัยราชวงศ์โจว เจิงเซินเป็นศิษย์ในสำนักขงจื๊อเป็นผู้มีความกตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้ายิ่ง
วันหนึ่งขณะที่เขากำลังตัดฟืนอยู่ในป่า มีแขกคนหนึ่งมาเยือนที่บ้าน เนื่องจากเจิงเซินไม่อยู่ อีกทั้งไม่มีเงินจะซื้ออาหารมาต้อนรับแขกตามธรรมเนียม มารดาร้อนใจที่รอแล้วรอเล่าบุตรก็ยังไม่กลับมา ที่สุดนางเกิดความคิดขึ้นว่าสายเลือดของแม่กับลูกนั้นมีความสัมพันธ์ต่อกัน จึงใช้ฟันกัดนิ้วของตนเองจนแตก ในบัดดลนั้นเอง เจิงเซินกำลังตัดฟืนอยู่ในป่าก็รู้สึกเจ็บเสียวในอก เขาสังหรณ์ใจว่า ทางบ้านคงเกิดเหตุอะไรขึ้น จึงรีบแบกฟืนกลับบ้านทันที
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:29:30 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #3 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:17:25 »




>>>แบกข้าวร้อยลี้<<<


สมัยราชวงศ์โจว จื่อลู่เป็นศิษย์คนหนึ่งในสำนัก ขงจื๊อ ครอบครัวของเขายากจนมาก ต้องไปเก็บผักป่ามากินประทังชีวิต เพื่อเลี้ยงดูผู้บังเกิดเกล้าเขาต้องไปรับจ้างทำงานไกลบ้าน ครั้นได้เงินมาก็จะซื้อข้าวสาร แล้วแบกกลับบ้านเป็นระยะทางไกลนับร้อยลี้เป็นประจำ
เมื่อบิดามารดาเสียชีวิตแล้ว จื่อลู่เดินทางลงใต้ไปรับราชการที่แคว้นฉู่จนได้เป็นขุนนางผู้ใหญ่ แม้ว่าบัดนี้ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาจะสมบูรณ์พูนสุข แต่จิตใจเขาก็ยังคงรำลึกถึงพ่อแม่อยู่เสมอ เขามักจะรำพึงรำพันว่า แม้ว่าบัดนี้เราจะมั่งมีศรีสุข แต่เมื่อพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว การอยู่ดีกินดีจะมีความหมายอะไร ยังคิดอยากจะเหมือนเช่นแต่ก่อนที่กินผักป่าและแบกข้าวไกลร้อยลี้เพื่อเลี้ยง ดูพ่อแม่ เสียดายที่วันเวลาเหล่านี้ไม่สามารถหวนกลับมาอีกแล้ว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:29:53 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #4 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:19:39 »




>>>แม่เลี้ยง - ลูกเลี้ยง<<<

สมัยราชวงศ์โจว จื่อเชียนกำพร้ามารดาแต่เด็ก บิดามีภรรยาใหม่ มีบุตรด้วยกัน 2 คน แม่เลี้ยงเกลียดชังจื่อเชียนมาก มักหาเรื่องดุด่าเฆี่ยนตีอยู่เสมอ...........................................
วันหนึ่งในฤดูหนาว บิดาใช้ให้จื่อเชียน เข็นรถม้าออกไปข้างนอกเพื่อจะไปธุระ ขณะที่จื่อเชียนกำลังเข็นรถม้าเชือกบังเหียนที่บังคับม้าหลุดจากมือ เมื่อบิดาตรวจดูเสื้อผ้าของจื่เชียน ก็รู้ว่าเลื้อกันหนาวของบุตรภายในบุด้วยนุ่นเทียม ครั้นไปตรวจดูเสื้อผ้าของลูกอีกสองคนปรากฎว่าภายในบุด้วยนุ่นอย่างดี บิดาโมโหสุดขีด คิดจะขับไล่นางไปจากบ้าน จื่อเชียนรีบคุกเข่า พูดว่า พ่ออย่าไล่แม่ไปนะครับ ถ้าแม่อยู่ผมหนาวคนเดียวเท่านั้น ถ้าแม่ไปเราสามคนต้องลำบากไร้คนดูแล นางได้ฟังคำของลูกเลี้ยง รู้สึกตื้นตันใจมาก ได้สำนึกผิด ตั้งแต่นั้นมานางก็รักเอ็นดูจื่อเชียนเสมอบุตรของตน
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:30:17 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #5 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:24:45 »




<<<<<รีดนมกวาง>>>>


สมัยราชวงศ์โจว ถันจื่อ เป็นผู้มีความกตัญญูเป็นเลิศ บิดามารดามีอายุมากแล้วและเป็นโรคตาทั้งคู่ มีคนบอกว่าน้ำนมกวางสามารถรักษาได้
จึงอยากจะกินน้ำนมกวาง ถันจื่อจึงไปหาซื้อหนังกวางมาคลุมตัว แล้วบุกเข้าไปในป่า แทรกตัวปะปนอยู่ในฝูงกวางโดยกวางไม่สงสัย เขาจึงรีดน้ำนมใส่กาขณะที่เขากำลังนำนมกวางกลับบ้าน มีนายพราน มาพบเข้า เขาเกือบจะถูกนายพรานยิงตายด้วยลูกธนู เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกวาง เมื่อถันจื่อเล่าสาเหตุที่ต้องปลอมเป็นกวางให้ทราบ นายพราน ยกย่องชมเชยในความกตัญญูของเขามาก เมื่อบิดามารดาได้ดื่มน้ำนมกวาง โรคตาก็หายวันหายคืนจนเป็นปกติ


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:31:14 โดย บางครั้ง » บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #6 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:27:27 »




>>>>ความกตัญญูของคนแก่<<<<


สมัยราชวงศ์โจว เหล่าไหลจื่อเป็นคนกตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้าอย่างยิ่ง เขาอายุ 70 ปีแล้ว พ่อแม่ยังแข็งแรงดี เขารู้ว่าพ่อ - แม่อายุมากแล้ว ดังนั้น................จึงเลือกสรรแต่อาหารดี ๆ ที่ท่านชอบมาเลี้ยงดู
และเพื่อให้พ่อแม่สำราญบันเทิงใจ บางครั้งเขาจะสวมเสื้อผ้าหลากสี แล้วร้องรำทำเพลงดังเช่นเด็ก ๆ หรือทำเป็นเด็กเล่นหาบน้ำ แสร้งลื่นหกล้ม แล้วทำเสียงร้องไห้เหมือนเด็กน้อย หรือออดอ้อนออเซาะเหมือนครั้งยังเด็ก ทำให้พ่อแม่เกิดอารมณ์ขำขันสำราญใจ
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #7 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:33:38 »




>>>>สะใภ้กตัญญู<<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น หลี่เสี้ยวฟู่แต่งงานเมื่ออายุ 16 ปี ยังไม่มีลูก สามีไปค้าขายยังต่างแดน ก่อนออกเดินทางได้กล่าวกับนางว่า ครอบครัวเรายากจนจึงจำต้องไปค้าขายยังแดนไกล ภายหน้าถ้าร่ำรวยกลับมาก็ดี หากไม่ได้กลับมาเจ้าจะยอมรับภาระเลี้ยงดูแม่ข้ามั้ย? นางรับปากโดยไม่ลังเลสามีนางดีใจมากได้ถามย้ำแล้วย้ำอีกจนแน่ใจแล้วจึงอำลาจากไป
ตั้งแต่.....นั้นมาสามีนางก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย ทุกวันนางต้องทอผ้าจนมือค่ำ เพื่อหาเงินมาเลี้ยงดูแม่สามี พ่อแม่ของนางเห็นว่า ลูกสาวอายุยังน้อย จะให้นางแต่งงานใหม่ นางกล่าวว่า ก่อนสามีจะไปได้สั่งให้เลี้ยงดูแม่เขา ซึ่งก็ได้รับปากแล้ว หากฉันเสียสัจจะจะสู้หน้าฟ้าดินและสามีได้อย่างไร นางร่ำไห้จะฆ่าตัวตาย พ่อแม่นางจึงเลิกราไม่กล้าบังคับอีก เมื่อทางราชสำนักทราบเรื่องนี้ ได้พระราชทานทอง 200 ตำลึงและป้ายสะใภ้กตัญญูแก่นาง
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #8 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:36:10 »




>>>>แกะสลักรูปพ่อแม่<<<<

สมัยราชวงศ์ฮั่น ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อ ติงหลัน พ่อ - แม่ตายตั้งแต่เขายังเด็ก จึงไม่มีโอกาสปรนนิบัติเลี้ยงดูทดแทนพระคุณเขาเฝ้าแต่ระลึกถึงพระคุณของท่านทุกวันคือจึงแกะสลักรูปบิดามารดาขึ้น ประดิษฐานบนแท่นบูชาไว้กราบไหว้แทนตัว ทุกเช้าค่ำจะจัดอาหารเซ่นไหว้ปรนนิบัติดูแลเสมือนท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ เมื่อนานวันเข้าภรรยาของเขาเกิดรำคาญและเบื่อหน่าย จึงเอาเข็มแทงเล่นที่นิ้วของรูปสลัก ทันใดนั้นก็มีเลือดไหลออกมา เมื่อติงหลันกลับมาเห็นรูปสลักมีน้ำตาไหล เกิดความสงสัย จึงสอบถามสาเหตุ ครั้นทราบว่าภรรยาใช้เข็มแทงนิ้วรูปพ่อแม่ จึงหย่าขาดจากภรรยา
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #9 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:38:39 »




>>>แบกมารดาหนีภัย<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น เจียงเกอเป็นลูกกตัญญูที่กำพร้าพ่อแต่เด็ก อยู่กับมารดาผู้ชราเพียงสองคน ตอนนั้นบ้านเมืองเกิดความไม่สงบ โจรผู้ชาย
ชุกชุม เขาจึงแบกมารดาไว้บนหลังหนีภัยไปอยู่ตำบลอื่น ระหว่างทางเกิดเจอกับพวกโจร ๆ จะจับเขาไปเป็นพวก เจียงเกออ้อนวอนหัวหน้าโจรว่า ได้โปรดเถิด ผมยังมีแม่ที่ต้องเลี้ยงดู หากผมไปกับพวกท่าน แม่ผมก็จะไม่มีใครดูแล
หัวหน้าโจรเห็นเขามีความกตัญญูเช่นนี้เกิดความประทับใจ จึงปล่อยแม่ลูกไป เขาหนีภัยไปอยู่ในตำบลหนึ่ง ยากจนเข็ญใจมากไม่มีเสื้อ ไม่มีรองเท้า ทุกวันต้องไปรับจ้างเขาทำงาน เมื่อได้เงินก็นำมาบำรุงเลี้ยงมารดาจำเป็นต้องกินต้องใช้ทุกวัน เขาจะซื้อหามาไม่ให้ขาด จะเห็นได้ว่าคนจนก็สามารถแสดงความกตัญญูได้
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #10 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:45:17 »




>>>ลกเจ๊ก.........ลักส้ม<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น ลกเจ็กอายุเพียง 6 ขวบ ได้ไปเยี่ยมคำนับอ้วนสุด เจ้าเมืองจิ่วเจียง เจ้าบ้านจัดส้มจำนวนมากมาเลี้ยงรับรองแขกตามธรรมเนียม เมื่อ ลกเจ๊ก กินแล้วก็คิดถึงมารดา จึงหยิบส้มสองผลใส่ไว้ในแขนเสื้อ
ครั้นได้เวลากลับบ้าน ขณะที่ทำคารวะอำลา บังเอิญส้มที่ซ่อนไว้หล่นลงพื้นอ้วนสุดเห็นแล้วก็พูดสัพยอกว่า ลกเจ๊กเอ๋ย เจ้ามาเป็นแขกผู้เยาว์ ไฉนจึงแอบซุกส้มของเจ้าบ้าน ไม่กลัวคนเขาจะหัวเราะเยาะว่าลักส้มหรือ เด็กน้อยคุกเข่าคำนับแล้วกล่าวว่า แม่ผมชอบทานส้มที่สุด จึงตั้งใจจะเอาไปฝาก เมื่อแม่ได้ทานก็นับว่าท่านได้เลี้ยงแขกเพิ่มขึ้นอีกคนหนึ่ง อ้วนสุดได้ฟังดังนั้นก็ชมเชยว่า เด็กอายุเพียงเท่านี้ยังรู้จักกตัญญูต่อมารดา หายากยิ่งนัก แล้วก็สั่งให้คนรับใช้เอาส้มกระเช้าหนึ่งเดินตามไปส่งเด็กตัวน้อยแต่มีความ กตัญญูเป็นเลิศผู้นี้................
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #11 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:48:34 »




>>>ฝังลูกเพื่อแม่<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น ชายคนหนึ่งมีนามว่า กัวจี้ เป็นคนยากจน มีลูกชายอายุเพียง 3 ขวบ มารดาของ กัวจี้ รักเอ็นดูหลายชายคนนี้มาก จึงมักจะเอาอาหารที่นางกินแบ่งให้หลานชายกินเสมอ กัวจี้เห็นแล้วเกิดความละอายใจ จึงบอกภรรยาว่า บ้านเรายากจนอย่างนี้ อาหารที่บำรุงเลี้ยงมารดาความจริงก็ไม่ค่อยพออยู่แล้ว ยังถูกแบ่งส่วนหนึ่งให้ลูกของเราทุกวัน เราควรเอาลูกไปฝังเสียเถิด แม่จะได้กินอาหารอิ่มท้อง ลูกนั้นอาจมีใหม่ได้ แต่แม่ไม่อาจมีใหม่ได้อีก
เมีย เขาแม้จะรักลูกมาก แต่ก็เห็นความกตัญญูสำคัญกว่าจึงยอมตกลงด้วย ขณะที่กัวจี้ใช้จอบขุดพื้นดินลึก 3 ฟุต ก็พบทองแท่งจำนวนมาก มีอักขระจารึกไว้ว่า ฟ้าประทานแก่ลูกกตัญญูห้ามหลวงยึด ห้ามราษฏร์ชิง
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #12 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:51:31 »




>>>พัดที่นอนให้บิดา<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น หวงเซียง เป็นชื่อของลูกกตัญญูคนหนึ่ง ขณะนั้นมีอายุ 9 ขวบ ตั้งแต่มารดาเสียชีวิต เขาเฝ้าแต่คร่ำครวญคิดถึงอาลัยอยู่ทุกวันคืน หวงเซียง ตั้งอกตั้งใจทำงานด้วยความขยันขันแข็ง คอยปรนนิบัติรับใช้บิดาอย่างดีที่สุดตามหน้าที่ของลูกที่ดี
ในหน้าร้อนยามอากาศร้อนอบอ้าว ก่อนที่บิดาจะเข้านอน เขาจะใช้พัดโบกวีที่นอนของบิดาให้เย็นเสียก่อน แล้วจึงเชิญบิดาขึ้นนอน เขาปฏิบัติเช่นนี้เรื่อยมาอย่างไม่เคยเบื่อหน่าย
กิตติศัพท์ความ กตัญญูของเขา เลื่องลือไปไกลจนทราบถึงเจ้าเมือง หลิวหู้ ท่านจึงขอให้ทางราชสำนักประกาศเกียรติคุณในความกตัญญูกตเวทีของ........
หวงเซียง จนเป็นที่ทราบกันตราบทุกวันนี้
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #13 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:54:15 »




>>>เก็บผลหม่อนเลี้ยงมารดา<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น ไช่ซุ่นกำพร้าพ่อแต่เด็ก เขาปรนนิบัติดูแลมารดาด้วยความกตัญญูยิ่ง ตอนนั้นบ้านเมืองเกิดจลาจลทั้งเกิดภัยแล้ง ข้าวยากหมากแพง ได้แต่ไปเก็บผลหม่อนมากินประทังชีวิต เวลาที่ไช่ซุ่นไปเก็บผลหม่อน จะต้องนำตะกร้าสองใบไปด้วย ใบหนึ่งใส่ผลหม่อนสีดำ ใบหนึ่งใส่ผลหม่อนสีแดง................
บังเอิญพวกโจรคิ้วแดงมาพบเข้า หัวหน้าโจรเห็นแปลกนักจึงถามว่า ทำไมผลหม่อนเหล่านี้จึงต้องแยกตะกร้า เด็กหนุ่มตอบว่า “ผลหม่อนสีดำมีรสหวานจะเอาไปให้แม่กิน ผลหม่อนสีแดงมีรสเปรี้ยวจะเอาไว้กินเอง” หัวหน้าโจรได้ฟังเกิดความสงสารที่ยากจน เช่นนี้ยังมีความกตัญญู จึงสั่งลูกน้องให้นำข้าวสาร 3 กระสอบกับเนื้อโค 1 ขามามอบให้ไปเลี้ยงมารดา
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #14 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 19:56:49 »




>>>ปลาไนจากน้ำพุ<<<


สมัยราชวงศ์ฮั่น เจียงซือ เป็นผู้กตัญญูต่อมารดายิ่งภรรยาชื่อนางผัง มีความกตัญญูต่อแม่ผัวยิ่งกว่าเจียงซือเสียอีก มารดาชอบดื่มน้ำที่มาจากแม่น้ำ นางผังไม่กลัวต่อความยากลำบาก อุตส่าห์ไปหาบน้ำจากแม่น้ำซึ่งอยู่ไกลบ้านมาให้แม่สามีดื่มและใช้ทุกวัน มารดาชอบกินเนื้อปลาที่หั่นเป็นชิ้น ๆ สองสามีภรรยาก็ไปหาปลามาปรุงให้มารดากินทุกวันทั้งยังไปเชิญแม่เฒ่าบ้านใกล้ เคียงมาร่วมกินเป็นเพื่อนมารดาเพื่อเป็นการเจริญอาหารอีกด้วย
อยู่มาวันหนึ่ง ที่ข้างบ้านได้เกิดมีแอ่งน้ำพุซึ่งมีกลิ่นและรสเหมือนน้ำจาแม่น้ำ และมีปลาไนคู่หนึ่งปรากฎขึ้นมาทุกวัน จากนั้นเป็นต้นมา สองสามีภรรยาก็ใช้น้ำและปลาจากแอ่งน้ำพุ มาปรุงอาหารให้มารดาบริโภคเป็นประจำ
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #15 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:02:53 »




>>>ลูกกตัญญูได้ทอง<<<


หยางอี่เป็นขอทานที่ปรนนิบัติดูแลมารดาด้วยความ กตัญญูยิ่ง ทุกครั้งที่ได้อาหารมา แม้จะหิวปานใดก็จะต้องให้มารดากินก่อนแล้วตนเองถึงจะกินยามมารดามีทุกข์เขาก็จะร้องรำทำเพลง เพื่อให้มารดาเกิดความสำราญบันเทิงใจชาวบ้านร้านถิ่นชื่นชมในความกตัญญูของ เขา ยินดีที่จะรับเขาทำงานด้วยเงินเดือนแพง แต่เขาปฏิเสธโดยกล่าวว่า แม่ผมยังอยู่ จะห่างไกลแม้สักวันได้อย่างไร เมื่อมารดาถึงแก่กรรม ชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคเงินช่วยค่าโลงศพโดยฝังไว้ที่ป่าช้า หยางอี่ได้ปลูกกระท่อมอยู่ข้าง ๆ เพื่อเป็นเพื่อนแม่และหมั่นเซ่นไหว้ทุกวัน เขาได้พบทองคำหนึ่งไหซึ่งฝังอยู่ข้างหลังหลุมฝังศพ มีอักขระจารึกไว้ว่า ฟ้าประทานแก่ลูกกตัญญู นี่คือผลลัพธ์แห่งความกตัญญู
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #16 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:05:47 »




>>>แม่ผัวกินนมจากเต้า<<<


สมัยราชวงศ์ถัง นางจั่งซุนฮูหยินชรามากแล้ว ฟันร่วงหลุดหมดปาก ไม่สามารถขบเคี้ยวอาหารได้ นางถังฮูหยินผู้เป็นบุตรสะใภ้ต้องสละน้ำนมของนางให้กินทุกวัน ก่อนให้น้ำนมแม่ผัว นางจะอาบน้ำชำระร่างกายจนสะอาด แต่งตัวเรียบร้อยเข้าไปในห้องโถง เลิกเสื้อให้แม่ผัวดูดกินน้ำนมจากเต้าของนาง..............................
นางจั่งซุนฮูหยินแม้ จะไม่ได้กินข้าวแต่ได้กินน้ำนมทุกวัน เวลาผ่านไปหลายปีนางก็ยังแข็งแรงดี วันหนึ่งนางเกิดป่วยหนัก ได้เรียกบุตรหลานทุกคนมาพร้อมหน้าแล้วกล่าวว่า ย่าไม่มีอะไรจะตอบแทนบุญคุณของลูกสะใภ้ ขอเพียงให้ลูกสะใภ้ของลูกหลานทุกคน จงได้มีความกตัญญูต่อแม่ผัวดังเช่นลูกสะใภ้ของย่าคนนี้ย่าก็พอใจแล้ว
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #17 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:08:13 »




>>>จับปลาในบึงน้ำแข็ง<<<


สมัยราชวงศ์จิ้น หวังเสียง กำพร้ามารดาแต่เด็ก นางจูมารดาเลี้ยงเกลียดชังลูกเลี้ยงมาก มักหาเรื่องฟ้องสามีว่าบุตรเลี้ยงอกตัญญูต่าง ๆ ทำให้บิดาพลอยเกลียดหวังเสียงไปด้วย แต่หวังเสียงยังคงกตัญญูต่อพ่อแม่ไม่เสื่อมคลาย มารดาเลี้ยงชอบกินปลาสดที่สุด แต่ตอนนั้นเป็นฤดูหนาวหิมะตกหนัก น้ำในแม่น้ำคลองบึงจับตัวเป็นน้ำแข็ง ไม่อาจจะหาปลาสดได้
หวังเสียง ได้ความคิดอย่างหนึ่ง จึงไปที่บึงน้ำแข็งแล้วเปลื้องเสื้อผ้าออก นอนนาบกายลงบนพื้นให้ไออุ่นในร่างเผาลนน้ำแข็ง ครู่ต่อมาน้ำแข็งก็แตกแยกออกเป็นร่องมีปลาไนสองตัวกระโดดขึ้นมา เขาดีใจมาก รีบนำปลาไปปรุงอาหารให้มารดาเลี้ยงกิน
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #18 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:10:29 »




>>>ล่อยุงให้กัดตัวเอง<<<


สมัยราชวงศ์จิ้น อู๋เมิ่ง อายเพียง 8 ขวบก็รู้จักกตัญญูต่อผู้บังเกิดเกล้า เนื่องจากทางบ้านยากจนมาก จึงไม่มีเงินซื้อมุ้งมากางที่นอน ในฤดูร้อนยุงชุมมาก ตอนกลางคืน อู๋เมิ่งจะนอนเปลือยกายล่อให้ยุงกัดไม่ยอมปัดไล่ ปล่อยให้มันกัดกินเลือดของเขาจนอิ่ม เพื่อจะได้ไม่ไปกัดบิดา อู๋เมิ่งอายุเพียงแค่นี้ก็ยังรู้จักรักผู้บังเกิดเกล้าถึงปานนี้ นับว่าเป็นยอดแห่งลูกกตัญญูโดยแท้
บันทึกการเข้า
sometime
บุคคลทั่วไป
« ตอบ #19 เมื่อ: 12 กุมภาพันธ์ 2553 20:13:12 »




>>>สู้เสือช่วยพ่อ<<<


สมัยราชวงศ์จิ้น มีเด็กหญิงอายุ 14 ขวบคนหนึ่งชื่อ หยางเซียง วันหนึ่งขณะที่นางติดตามบิดาไปที่ไร่ ทันใดนั้น มีเสือตัวหนึ่งกระโจนออกมาคาบบิดาของนางไป ตอนนั้นในมือของหยางเซียงไม่มีอาวุธอะไร แต่ด้วยแรงกตัญญูบวกกับความกล้าหาญ นางจึงกระโดดขึ้นขี่บนหลังเสืออย่างไม่คำนึงถึงชีวิตของตนเอง โดยใช้มือน้อยทั้งสองบีบรัดคอเสือไว้แน่แล้วใช้กำปั้นต่อยไปที่หัวเสืออย่างสุดแรง เสือตกใจก็ปล่อยบิดาแล้ววิ่งหนีหายไป บิดาของ
หยางเซียงจึงรอดจากถูกเสือกินอย่างหวุดหวิด
บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า:  [1] 2   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน


หัวข้อที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้
หัวข้อ เริ่มโดย ตอบ อ่าน กระทู้ล่าสุด
อภิรักต์ แซ่ฮ้อ ยอดกตัญญู คนจนผู้ยิ่งใหญ่ 14 กค. 52 (เทปแรก)
ลานกว้าง (มุมดูคลิป)
Sweet Jasmine 0 2255 กระทู้ล่าสุด 28 ธันวาคม 2552 02:24:55
โดย Sweet Jasmine
Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.289 วินาที กับ 31 คำสั่ง

Google visited last this page 18 สิงหาคม 2567 12:49:49