[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
30 เมษายน 2567 03:18:31 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: หรรษาเรียบง่าย อบอุ่นธรรมดา (My Neighbors The Yamadas )  (อ่าน 1759 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
มดเอ๊ก
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 14
*

คะแนนความดี: +8/-1
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 5075


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Chrome 34.0.1847.131 Chrome 34.0.1847.131


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 14 พฤษภาคม 2557 12:24:32 »



ภาพยนตร์การ์ตูนเรื่อง My Neighbors The Yamadas

เสียงหัวเราะครื้นเครง

ทำลายความเงียบ

ยามค่ำฤดูใบไม้ร่วง

บาโช (๑๖๔๔-๑๖๘๔)

ผู้เขียนรู้จักบทกวีไฮกุครั้งแรกจากหนังสือชื่อ “กบกินนอน”ของพระอาจารย์ไพศาล วิสาโล ท่านบอกว่ามันเป็นกวีไฮกุที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น ทั้งที่มันมีความยาวเพียง ๓ บรรทัด และประกอบด้วยตัวอักษร ๑๗ ตัวเท่านั้นเอง บทกวีนั้นถอดความเป็นภาษาไทยได้ว่า

“บึงโบราณ กบโจนลงไป เสียงน้ำกังวาน”

สั้นๆเช่นนี้มันยิ่งใหญ่ได้อย่างไรกัน แถมยังเป็นที่กล่าวขวัญชื่นชมต่อเนื่องกันอย่างยาวนานมาหลายศตวรรษแล้ว คงเป็นเพราะว่ามันเป็นบทกวีบรรยายธรรมชาติแวดล้อมภายนอกอย่างสามัญนี่เอง ทว่าในขณะเดียวกันก็แสดงสภาวะจิตใจของบาโชไปพร้อมๆกันด้วย บทกวีนี้สะท้อนให้เห็นอากัปกริยาของจิตที่มีต่อเรื่องเก่าเก็บในใจ เมื่อกระทบถูกเท่านั้น จึงกระเพื่อมส่งเสียงสะท้อนออกมา

และคงเป็นครั้งแรกที่ผู้เขียนได้เห็นบทกวีของบาโช ในภาพยนตร์การ์ตูนแอนนิเมชั่นของค่ายจิบบลิ ที่ทำให้เราถึงกับ ณ จังงังในทันที อันที่จริงก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอธิบายกวีไฮกุบทในย่อหน้าแรกเลย เพราะมันหมายความและรู้สึกซื่อๆตรงๆอย่างที่กล่าวเอาไว้อยู่แล้ว สอดรับพอดีกับเนื้อหาตอนนั้นของการ์ตูน แล้วเธอจะรู้สึกได้เอง เมื่อมันเข้าไปสะเทือนถึงใจ




My Neighbors The Yamadas หรือ “ครอบครัวยามาดะเพื่อนบ้านฉัน” อิซาโอะ ทาคาฮาตะ หนึ่งในสองผู้ก่อตั้งสำคัญของค่ายสตูดิโอจิบบลิ นำเสนอชีวิตครอบครัวชนชั้นกลางในสังคมเมืองของญี่ปุ่น แบบว่า…มันช่างคล้ายคลึงกับชีวิตคนไทยในป่าคอนกรีตซะเหลือเกิน อีกทั้งคงมิต้องไปกล่าวถึงความร่วมสมัยกับชีวิตชนชั้นกลางในเมืองที่อื่นๆบนโลกภายใต้ระบบทุนนิยมกระแสหลักทุกวันนี้ ซึ่งมันน่าจะไม่ผิดแผกแตกต่างกันสักเท่าไหร่

การ์ตูนเรื่องนี้เริ่มเรื่องด้วยลายเส้นง่ายๆจากภูเขา พระอาทิตย์แล้วค่อยๆต่อเติมแปรเปลี่ยน จนกลายเป็นคุณยายของหลานๆ(สมาชิกอายุมากที่สุดในบ้านยามาดะ) มันเป็นการ์ตูนลายเส้นธรรมดาเนื้อหาใกล้ตัวที่สุดเท่าที่ค่ายจิบบลิเคยทำมา ดูเรียบง่ายให้สีอ่อนจาง ดูแล้วรู้สึกผ่อนคลายเบาสมอง ทั้งๆที่เนื้อหาสาระในเรื่อง อุดมไปด้วยการแทรกเสริมปรัชญาการดำเนินชีวิตของครอบครัวในเมืองใหญ่ ครอบครัวยามาดะตัวแทนชนชั้นกลางที่ดูสมบูรณ์พูนสุขดีๆ มีพ่อเป็นพนักงานบริษัท มีแม่เป็นแม่บ้านวัยกลางคน มีคุณยายอยู่ร่วมกันในบ้านเป็นปูชนียบุคคลบอกนั่นสอนนี่ บอกอะไรแต่ละทีก็แทบจะไม่ได้เป็นเรื่องสลักสำคัญอะไรนัก ทว่าน่าขบขันมิใช่น้อย และมีลูกหลานชายคนหญิงคนอยู่ในวัยเรียนที่แม้ตัวเขา(คนพี่)ซึ่งเป็นผู้เรียนเองยังไม่รู้เลยว่า จะเรียนหนังสือไปทำไมกัน(เหมือนใครเนี่ย?) พ่อว่ามันมีประโยชน์ก็เรียนๆไปเถอะนะ อุปนิสัยช่างคิดของเด็กทั้งสองสะท้อนมุมมองของคนรุ่นใหม่ในปัจจุบันนี้ได้อย่างน่าสนใจจริงๆนะ

ขิงทำพิษ คิดๆเท่าไร คิดไม่ออกซักกะที


โนโบรุซึ่งเป็นพี่ชายคิดว่าถ้ามีพ่อแม่ที่หล่อสวยและรวย ตัวเขาก็น่าจะเกิดมาหล่อและรวยเช่นกัน เราสามารถที่จะพบปรัชญาชีวิตและความเข้าใจแปลกๆ ตลอดจนมีความรู้สึกแบบนี้ได้ไม่ยากเลยถ้าชอบอ่านหนังสือการ์ตูน ส่วนโนโนโกะฝ่ายน้องสาวเมื่อถูกครอบครัวลืมทิ้งไว้ในห้างสรรพสินค้า กลับคิดเห็นว่าพ่อ แม่ ยายและพี่ชายเป็นฝ่ายหลงทางซะหยั่งงั้น นั่นเป็นความเห็นที่เยี่ยมยอดจริงๆน่าจะเอาไว้ปลอบเด็กหลงทางดีไหม? จะมีครอบครัวขี้หลงขี้ลืมสักกี่มากน้อยกันหนอ เพื่อนๆหลายคนคงอยากมีครอบครัวแบบนี้บ้าง ใช่รึเปล่า หากจะบอกว่าไม่ต้องไปดูที่ไหนไกลหรอก เท่าที่เห็นข้างๆตัวนี่ล่ะ มันใช่เลย ครอบครัวแบบยามาดะ! ครอบครัวยามาดะนี่เป็นแบบหนึ่งเท่านั้นของสายใยสัมพันธ์กันทางสายสะดือและเส้นสายดีเอ็นเอเดียวกัน

ถ้าว่ากันตามความเป็นจริงในยุคนี้ครอบครัวมีความหมายกว้างมากขึ้นกว่าแต่ก่อน หากเราจะจำกัดเพียงพ่อแม่ลูกหลานคือครอบครัว ดูจะไม่สมสมัยไปแล้ว ดังนั้นเราน่าจะมองความเป็นครอบครัวในแง่ของสายสัมพันธ์ที่มาผูกโยงกันจะดีกว่าไหม? อาจมีบางครอบครัวที่ไม่มีเส้นสายดีเอ็นเอเหมือนๆกันเลย อย่างเช่น สามีกับภรรยาที่รับเด็กกำพร้ามาเป็นบุตรบุญธรรม เป็นต้น ความเป็นสายสะดือเดียวกันจึงมิได้เป็นตัวบ่งชี้บอกความเป็นครอบครัวเสมอไป สายใยแห่งความผูกพันความห่วงหาอาทรซึ่งกันและกัน นั่นต่างหากที่น่าจะให้ความหมายของคำว่าครอบครัวได้ตรงที่สุดในปัจจุบันนี้

เราอยู่ในประเทศที่ผู้คนยังคงแออัดร่วมทุกข์กันอย่างเสมอๆบนรถเมล์สายประจำทาง เราอาจจะกลายเป็นครอบครัวเดียวกันกับใครบางคนก็ได้ เพราะคนที่เราเจอกันบ่อยๆอาจจะกลายเป็นเพื่อนร่วมชะตากรรม(ถ้าครอบครัวหมายถึงสิ่งมีชีวิตร่วมชะตากรรม ร่วมสิ่งแวดล้อม หรือร่วมบ้านเดียวกัน) หากรถเมล์คันนั้นวิ่งเร็วซะจนกลายเป็นเรือเหาะ เขย่าผู้โดยสารให้คละเคล้ากันแบบที่เขาบอกให้เขย่าขวดก่อนกินยานั่นแหละ บางทีเราบนรถเมล์คงจะรู้ซึ้งถึงคำว่าน้ำหนึ่งใจเดียวกันในเวลานั้น เป็นครอบครัวรถเมล์คันเดียวกัน

ในการ์ตูนคู่สามีภรรยาชาวญี่ปุ่น ทาคาชิกับมัสสึโกะใช้ชีวิตร่วมกันอย่างเข้าอกเข้าใจดีแท้ๆเลยเชียว การอยู่ด้วยกันมาตลอด ๒๐ปีคงทำให้เห็นใจกันอย่างทะลุปรุโปร่งถึงเข้าใจปรัชญาชีวิตครอบครัวที่ว่า “เกี่ยงกันทำ บ้านนี้จึงครึกครื้น หลงลืมกันนั่นคือโกลาหล ไม่ตามใจกัน ถ้างั้นก็ตามใจตัวเองดีกว่า” แต่เอาเข้าจริงๆแล้วแต่ละคนก็ยังคงรับผิดชอบและปฏิบัติต่อครอบครัวในแบบผิดคาดอยู่บ่อยๆหรืออาจจะกลิ้งหลุนๆลุ่มๆดอนๆล้มลุกคลุกคลานซะจนทำให้เรารู้สึกขบขันกับชีวิตครอบครัวชนชั้นกลางสมัยนี้ แต่กระนั้นก็ยังมีความซาบซึ้งอบอุ่นใจให้เรารู้สึกราวกับกำลังเดินกางร่มพร้อมหน้าพร้อมตาท่ามกลางสายฝนในฤดูใบไม้ผลิ อย่างกับบทกวีไฮกุข้างล่างนี่

ฝนฤดูใบไม้ผลิ

เดินไปคุยกันไป

เสื้อฝนและกางร่ม

บุซอน(๑๗๑๖-๑๗๘๔)




เดินกลับบ้านอบอุ่นใจ


ของหยั่งงี้มันต้องรู้และเข้าใจขึ้นมาด้วยตัวเอง เรื่องครอบครัวน่ะ จำเป็นต้องเรียนรู้อยู่เสมอๆ เข้าใจไหม? มัสสึโกะทาคาชิ เข้าใจครับ เข้าใจค่ะ เพื่อที่เราจะอยู่กับความเจ็บปวด อยู่กับความไม่เป็นไปตามใจและความเอาแน่เอานอนอะไรมิได้เลย ยังไงล่ะ หลังจากที่เราได้พบเห็นอาการต่างๆเหล่านี้ และรู้จักมักจี่พวกมันอย่างสม่ำเสมอ เราจึงค่อยๆกลับมารู้ตัวได้เร็วต่อสภาวะอาการต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจริงๆ เพราะว่ามันดันจำอาการประหลาดๆเหล่านั้นขึ้นมาได้เอง

ในเวลานั้นบางคนก็สามารถที่จะมีอารมณ์ขัน ไหวพริบปฏิภาณแม้กระทั่งอยู่ในสถานการณ์อันคับขันร่อแร่ อารมณ์อันเป็นธรรมฝ่ายอกุศลต่างๆ อาทิเช่น ความหงุดหงิดรำคาญใจ แง่งอน หรืออารมณ์ประเภทอยากจะตะลุมบอนพวกพูดภาษามนุษย์ต่างดาว ก็จะถูกขจัดออกไป ทว่าแม้จะมีปฏิภาณเกิดขึ้นอย่างฉับไวแล้ว แต่อะไรๆมันก็ไม่ได้ดีขึ้นมาเท่าไหร่นักหรอกนะ เพราะคงต้องไม่ลืมว่า มันเป็นสิ่งธรรมดาของคนเราเอง ที่จะพูดจาไม่รู้เรื่อง หรือไม่ก็ฟังจนเป็นเรื่องขึ้นมา ทั้งๆที่คุยกันด้วยภาษาดอกไม้และตั้งใจฟังแล้วก็ตาม มันยังคงไม่เข้าใจกันอยู่ดี

โดยแท้จริงแล้ว ความเข้าใจกันหาได้เกิดขึ้น เพียงแค่พูดจาต๊าอ่วย ล้างหูรอรับฟังกันก็หาไม่ แต่มันเกิดขึ้นไปพร้อมๆกันกับท่าทีที่เราปฏิบัติต่อกันต่างหากเล่า ต่อให้พูดก็แล้ว ฟังก็แล้ว(มันคงไม่แล้วใจได้จริงๆ) หากท่าทีมันไม่ได้ให้ใจเต็มๆเอาไว้ฟังกันหรือปฏิบัติต่อเขาหรือเธออย่างเสมอกัน นั่นล่ะคงยากที่จะก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดี หรือทำให้รู้สึกอบอุ่นสบายอกสบายใจขึ้นมาได้ หากคนไหนสูญเสียความสามารถที่จะอยู่อย่างกลมเกลียวเสมอภาค อีกทั้งยังปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์อย่างปราศจากความใส่ใจแล้วล่ะก็ ในขณะที่ดูหนังการ์ตูนเรื่องนี้ ก็ขอให้ลองฝึกฝนเลียนแบบพฤติกรรมน่ารักๆจากครอบครัวยามาดะในการ์ตูนไปพร้อมๆกันได้เลย ฟรีๆ รับรองไม่คิดตังค์เพิ่มสักแดงเดียว

ความสามารถที่จะเห็นอกเห็นใจกันที่เราหลายคนเมินเฉยและไม่คิดจะนำมาใช้ก็คงจะดีขึ้นบ้าง กับบุคคลที่เราไม่รู้จักมักจี่ หรือเราอาจนำมาปฏิบัติต่อคนที่เรารู้สึกไม่ไว้วางใจด้วยความใส่ใจที่มากพอ ถ้าความเป็นตัวเป็นตนของเรามันเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว มันก็น่าจะเริ่มต้นไว้วางใจกันก่อน แม้ว่าจะไม่อยากไว้วางใจกันก็ตามที(ก็รู้ๆกันอยู่ใช่ไหมว่า มันเป็นยังไง) เรื่องยากๆอย่างนี้ คงจะไม่ยากหากอยู่ในที่ๆความเป็นตัวเราไม่มี หรือว่าอยู่ในสถานการณ์ที่เรากลายเป็นบุคคลน่าสงสัยซะเอง จริงไหม?

อยากมีเรือซักลำ จะรอดไหมนั่น


งั้นเราลองมาเริ่มเน้นไปที่การยอมรับ(Acceptance) ที่หมายความถึง “การยินยอมรับได้ตามความเป็นจริง หรือการรับไว้ด้วยความยินดี” กันก่อนน่าจะดีกว่า คำๆนี้มีความหมายใกล้เคียงกับ ความไว้วางใจ(Trust) ความอดทน(Tolerance) และการเห็นพ้อง(Approval) คำเหล่านี้ คือปรากฏการณ์ภายในที่จะเกิดขึ้น ขณะเรากำลังผ่านกระบวนการต่างๆ เมื่อจิตใจถูกกระทบโดยตรง ได้แก่ อาการทนรับไม่ได้ การปฏิเสธความจริงที่อยู่ตรงหน้า สภาวะจิตใจฟุ้งซ่านสับสนต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น เกิดขึ้นไปแล้ว หรือคาดคะเนว่าจะต้องเกิดขึ้นในไม่ช้า ไปจนกระทั่งเราได้เรียนรู้ที่จะปรับตัวให้เป็นไปในทางบวก ถึงที่สุดแล้วเราทุกคนจำต้องก้าวพ้นความรู้สึกอันเป็นฝ่ายลบไปให้ได้ เพื่อให้ชีวิตดำเนินต่อไปให้ได้ใกล้เคียงกับความเป็นปกติมากที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นเราจะเข้าใจและยอมรับได้เอง เพราะรู้ว่าพฤติกรรมภายในตัวเราเองกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือจะเรียกว่า เราสามารถที่จะพึงพอใจ สุขใจและอบอุ่นใจได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

อย่างที่เขียนไว้ตั้งแต่ตอนต้น บทกวีไฮกุที่ยิ่งใหญ่ของบาโซ มาจากการประจักษ์ต่อความเป็นจริงภายในใจพร้อมๆกันกับความรู้สึกเข้าใจต่อวิถีชีวิตและจิตใจที่เป็นอยู่ตามธรรมชาติธรรมดาๆ ส่วนสำคัญก็คือการเห็นตามที่เป็นอยู่กับการรู้สึกอยู่ที่ใจตนเอง ขณะกำลังดำเนินชีวิตประจำวัน เมื่อเราสามารถฉวยโอกาสที่จะเรียนรู้ชีวิตตามที่เป็นจริงๆในชั่วขณะเวลานั้นๆได้ มันก็เลยทำให้เราขำตัวเราเองได้เมื่อเผชิญเหตุการณ์ ผ่านพ้นหรือนึกถึงสิ่งที่แล้วเลยมา สามารถมีอารมณ์ขันได้ทันใด ต่อเหตุการณ์ต่างๆที่ชอบใจบ้างไม่ชอบใจบ้าง ถ้าขบขันไปกับการ์ตูนครอบครัวยามาดะได้ เราก็น่าจะตลกฮากลิ้งกับครอบครัวประหลาดๆของเราได้เช่นกัน อ้าว!…ก็ทุกข์เกิดเมื่อไหร่ให้รู้ไม่ใช่รึ รู้ทันมันให้ได้บ่อยๆ ขำขันหรรษามันก็ง่ายดายตามมาเองนั่นแหละ

ครอบครัวฉันเอง

จิตใจสามัญ

อบอุ่นประหลาดแท้

(๒๕๕๐)

เขียนโดย ญาเฮ ดา(Iechyd Da)

สารโกมล เดือนมกราคม – กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ ปีที่ ๒๕

ภาพบนสุดมาจาก http://www.madman.com.au/catalogue/view/3377/my-neighbors-the-yamadas

ภาพที่สามและห้ามาจาก http://www.dvdactive.com/reviews/dvd/my-neighbours-the-yamadas.html

ภาพเคลื่อนไหว http://rebloggy.com/post/gif-studio-ghibli-isao-takahata-my-neighbors-the-yamadas-yamadas/31953089056

จาก http://indydphaonen.wordpress.com/2014/01/16/neighborsyamadas/

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า

ทิ นัง มิไฮ นัง มิจะนัง ทิกุนัง แปลว่า
ที่นั่ง มีให้นั่ง มึงจะนั่ง ที่กูนั่ง ทิ้งไว้เป็น
ปริศนาธรรม นะตะเอง
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.375 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 16 เมษายน 2567 06:45:35