[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
29 เมษายน 2567 22:34:14 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โคตมีสูตร - หลักว่าธรรมใดเป็นของแท้หรือเป็นของปลอม  (อ่าน 2188 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
เงาฝัน
สุขใจ คนพิเศษ
นักโพสท์ระดับ 15
*

คะแนนความดี: +58/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

เพศ: หญิง
Thailand Thailand

กระทู้: 7493


ระบบปฏิบัติการ:
Windows XP Windows XP
เวบเบราเซอร์:
MS Internet Explorer 8.0 MS Internet Explorer 8.0


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 17 กุมภาพันธ์ 2553 11:02:44 »


 

โคตมีสูตร
หลักว่าธรรมใดเป็นของแท้หรือเป็นของปลอม


หลักโคตมีสูตร

อีกประการหนึ่ง ในฐานะที่เราเป็นพุทธบริษัท
เราจะรู้ได้อย่างไรว่าอะไรเป็นธรรมะของพระพุทธเจ้า
อะไรไม่ใช่ เรื่องนี้พระพุทธเจ้าท่านก็หวั่นวิตกอยู่
พระองค์จึงได้วางหลักไว้ให้เราตัดสิน ที่เรียกว่า
หลักโคตมีสูตร เป็นหลักซึ่งเราควรจะนำมาใช้
ที่สุดในสมัยนี้ ว่าอะไรเป็นของแท้อะไรเป็นของปลอม
หลักที่พระพุทธเจ้าวางไว้มี  ๘ ข้อด้วยกัน คือ

ธรรมเหล่าใด

เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ
เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส
เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่
เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ
เป็นไปเพื่อความคลุกคลีกันเป็นหมู่เป็นคณะ
เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก

นั่นไม่ใช่ธรรม ไม่ใช่วินัย ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า

แต่ถ้าหากว่าข้อปฏิบัติการกระทำ หรือคำสอนเหล่าใด
เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัดย้อมใจ
เป็นไปเพื่อคลายความทุกข์
เป็นไปเพื่อไม่สะสมกองกิเลส
เป็นไปเพื่อความไม่คลุกคลีกันเป็นหมู่คณะ
เป็นไปเพื่อความขยันหมั่นเพียร
เป็นคนเลี้ยงง่าย

นั้นเป็นธรรมเป็นวินัยของพระพุทธเจ้า

หลักนี้เราควรจะจำทีเดียว ก็เก็บไปติดไว้ในใจแล้วก็ดู
การกระทำ การพูด การปฏิบัติ หนังสือที่เราอ่าน ว่าสิ่งนั้น
เป็นธรรมเป็นวินัยหรือไม่ เอาแว่นแปดอันนี้ใส่ตาเข้า
แล้วก็ส่องดูเราก็เห็นได้ ว่าอันนั้นใช่ อันนั้นไม่ใช่

เพราะในสมัยนี้ครูมาก อาจารย์มาก แล้วครูอาจารย์
ส่วนมากก็มักจะชักนำลูกศิษย์ตามทางของตน
เพื่อประโยชน์อย่างโน้น เพื่อประโยชน์อย่างนี้

ถ้าหากว่าเราไม่มีแว่นกระจกไว้ส่องดูให้ดีๆ แล้ว
ความเข้าใจผิดก็อาจจะเกิดขึ้นแก่พี่น้องพุทธบริษัททั้งหลาย
ได้ง่ายเหลือเกิน จึงอยากจะขอฝากแนวคิดนี้ไว้ด้วย

*****
จากหน้า ๗๙ - ๘๐
หนังสือ 
'๙๐ ปี ปัญญานันทะ  ๔๐ ปี วัดชลประทานรังสฤษฏ์'
โดย มูลนิธิภิกขุปัญญานันทะ วัดชลประทานรังสฤษฏ์
พิมพ์เมื่อ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๔๓
*****



 ยิ้ม http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001765.htm

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.2 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 23 มีนาคม 2567 00:53:27