.การเพาะเลี้ยงแมลงกินได้จากการที่ประชากรโลกเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ และมีผู้นิยมบริโภคแมลงบางชนิดมากขึ้น เนื่องจากมีการวิจัยว่า แมลงมีคุณค่าทางโภชนาการและอร่อย หลายหน่วยงานมีความห่วงใยว่าแมลงบางชนิดจะสูญพันธุ์ ถ้าบริโภคแมลงจากธรรมชาติเท่านั้น นอกจากนี้ เห็นว่าการเพาะเลี้ยงแมลงกินได้จะช่วยเพิ่มรายได้แก่ชาวบ้าน เกษตรกรและผู้สนใจ จึงมีมหาวิทยาลัยและหน่วยงานเกี่ยวกับการเกษตรหลายแห่ง ได้ค้นคว้าศึกษาวิจัยการเพาะเลี้ยงแมลงกินได้ซึ่งเป็นที่นิยม เช่น กรมป่าไม้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ปัจจุบันสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) ได้วิจัยเรื่องหนอนรถด่วน แมลงกุดจี่ จิ้งหรีด มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร วิจัยการเพาะเลี้ยงแมลงดานา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิจัยการเพาะเลี้ยงมดแดงและจิ้งหรีด แมลงกินได้ชนิดหนึ่งที่หลายหน่วยงานได้มีการศึกษา คือ ผีเสื้อหนอนรถด่วน (ซึ่งมนุษย์นำมาบริโภคระยะที่เป็นตัวหนอน) เพราะนอกจากเป็นแมลงกินได้ที่นิยมบริโภค ทั้งคนชนบท คนเมือง รวมทั้งชาวต่างชาติ ทำรายได้ให้แก่ ผู้เก็บ ผู้ขายสด ผู้ปรุง และผู้ขายปลีก เป็นอย่างดี และนับเป็นแมลงเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นการส่งเสริมการปลูกป่าไผ่ ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยชนิดเดียวของผีเสื้อหนอนรถด่วน ตัวอย่างการเลี้ยงแมลงกินได้
ของสำนักวิจัยการจัดการป่าไม้และผลิตผลป่าไม้ กรมป่าไม้คำอธิบายภาพจากบนซ้ายไปขวา จัดจานน้ำพร้อมฟองน้ำให้จิ้งหรีดเกาะกินน้ำ - ใช้ตู้ปลาที่มีฝามุ้งลวดวางบนโต๊ะ หล่อน้ำขาโต๊ะ
จัดตู้เลี้ยงโดยแยกพื้นที่ดินและส่วนให้อาหาร - เพาะไข่จิ้งหรีดโดยให้วางไข่ในจานดิน
วางไข่จิ้งหรีดบนดินและในดิน - ลูกจิ้งหรีดอายุวัยหนึ่ง ลักษณะคล้ายมดดำ
ลูกจิ้งหรีดเกาะบนกระดาษฝอย - จิ้งหรีดเพศผู้มีปีกมีลายย่น เพศเมียปีกมีลายเรียบเส้นตรง
การเพาะเลี้ยงแมลงกุดจี่คำอธิบายภาพจากบนซ้ายไปขวา แมลงกุดจี่ขุดโพรงใต้ดิน เพื่อปั้นลูกเบ้าและวางไข่
แม่แมลงกุดจี่กับลูกเบ้า - ลูกแมลงกุดจี่เจาะรูลูกเบ้าออกมา
ขุดหาลูกเบ้า เพื่อนำลูกแมลงกุดจี่จากกรงเพาะเลี้ยง - ลูกแมลงกุดจี่ที่ได้จากการเพาะเลี้ยง
กรมป่าไม้ได้วิจัยศึกษาชีววิทยาและประชากรของผีเสื้อหนอนรถด่วน ที่จังหวัดลำปางและจังหวัดเชียงราย พบว่าทั้งผีเสื้อหนอนรถด่วน หนอนรถด่วน และต้นไผ่ อาจมีจำนวนลดน้อยลงเพราะเก็บหนอนรถด่วนไม่ถูกวิธี และได้เผยแพร่เอกสารเรื่องผีเสื้อหนอนรถด่วนนี้ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๕๔๑
มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย ได้จัดตั้ง “ศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงหนอนรถด่วน” ในโครงการพระราชดำริของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเผยแพร่ความรู้แก่ชาวเขาดอยตุง และผู้สนใจที่จะนำความรู้ไปประกอบอาชีพ รวมทั้งส่งเสริมการปลูกป่าไผ่ในโครงการ “ตามรอยสมเด็จย่าปลูกป่าสร้างคน” ของตำรวจตระเวนชายแดน จังหวัดเชียงรายด้วย ผลการศึกษาเกี่ยวกับผีเสื้อหนอนรถด่วน มีดังนี้• แหล่งที่อยู่อาศัยแลสภาพทั่วไปของผีเสื้อหนอนรถด่วนผีเสื้อหนอนรถด่วนหรือผีเสื้อหนอนไม้ไผ่ เป็นผีเสื้อกลางคืน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ออมฟิซา ฟูสไซเดนทาลีส (Omphisa fuscidentalis) มักจะพบอยู่ในป่าไผ่ทางใต้ของแถบเอเชียใต้ เช่น ประเทศบังคลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เนปาล และแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น กัมพูชา ลาว พม่า ไทย จีน เวียดนาม
ประเทศไทยพบการกระจายตัวของผีเสื้อหนอนรถด่วนบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันตก โดยพบมากสุดที่จังหวัดเชียงราย เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน พะเยา ลำปาง ส่วนจังหวัดแพร่ ลำพูน น่าน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และกาญจนบุรี พบได้เพียงบางพื้นที่เท่านั้น
ปกติเราจะพบผีเสื้อหนอนรถด่วนในระยะที่เป็นตัวหนอนและระยะดักแด้ เพราะผีเสื้อตัวเต็มวัยมีอายุเพียง ๕-๗ วัน เท่านั้น ทั้งที่ผีเสื้อหนอนรถด่วนมีวงจรชีวิตโดยประมาณ ๑ ปี คือ มีระยะตัวหนอนประมาณ ๑๐ เดือน และระยะดักแด้ประมาณ ๓๐-๔๐ วัน เราจะพบหนอนรถด่วนจำนวนมากในปล้องลำไม้ไผ่ที่ไม่มีแสงส่องเข้าไป ส่วนใหญ่ไผ่ที่มีหนอนรถด่วนมีการแพร่กระจายอยู่ในป่าเบญจพรรณ รองลงมาเป็นห่าดิบเขาและดิบแล้ง ซึ่งเป็นบริเวณที่มีอากาศเย็น มีความชื้นและปริมาณน้ำฝนสูง ในผืนป่าเหล่านี้จะพบไผ่หลายชนิดอยู่เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังพบหนอนรถด่วนได้ในบริเวณที่มีการปลูกไผ่ในสถานที่ต่างๆ ในจังหวัดที่กล่าวไปแล้วซ้าย ตัวหนอนจะใช้ก้นติดกับปล้องไผ่ ห้อยหัวลงและเข้าสู่ระยะดักแด้
ขวา ลักษณะรูปร่างดักแด้หนอนรถด่วน
บนซ้าย เพศเมีย
บนขวา เพศผู้
ล่าง ผีเสื้อหนอนรถด่วนกำลังวางไข่ที่หน่อไม้
บนจากซ้ายไปขวา หนอนรถด่วนในปล้องไผ่หก - ไผ่ซาง
ล่างจากซ้ายไปขวา ไผ่รวก - ไผ่หก
• อาหารของผีเสื้อหนอนรถด่วนผีเสื้อหนอนรถด่วนกินอาหารช่วงที่เป็นตัวหนอนเท่านั้น อาหารของหนอนรถด่วน คือ เยื่อภายในปล้องของต้นไผ่ ซึ่งเป็นพืชใบเลี้ยงเดี่ยวตระกูลหญ้าที่สูงที่สุดในโลก และเป็นพืชเขตต้อนถึงอบอุ่นในทวีปเอเชีย ไม้ไผ่ที่พบทั่วโลกมีประมาณ ๗๕ สกุล พบในประเทศไทยประมาณ ๑๕ สกุล ๘๒ ชนิด แต่มีไม้ไผ่เพียงบางชนิดเท่านั้นที่เป็นอาหารของหนอนรถด่วน ศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงหนอนรถด่วนที่มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พบว่า มีไม้ไผ่เพียง ๓ ชนิดเท่านั้น ที่เป็นพืชอาศัยของหนอนรถด่วน คือ ไผ่รวก ไผ่หก ไผซาง ไม่ไผ่ที่ใช้เลี้ยงหนอนจะมีเมือกอยู่ข้างในซึ่งประกอบด้วยเส้นใย (fiber) ร้อยละ ๔๐-๖๐ มีซูโครสสูง รวมทั้งลิกนิน ร้อยละ ๒๐ ตัวหนอนจะกินจนกระทั่งเริ่มเข้าสู่ระยะดักแด้ ดังนั้น ไผ่ที่เลี้ยงหนอนรถด่วนได้ดีต้องมีเนื้อไผ่ที่หนา และมีช่องว่างภายในปล้องมาก
การเลี้ยงหนอนรถด่วนเป็นการค้า ต้องมีการปลูกไผ่เป็นจำนวนมากเพื่อให้มีเยื่อไผ่เพียงพอสำหรับเลี้ยงหนอนรถด่วน ส่งผลให้มีการปลูกป่าไผ่เพิ่มขึ้น จึงเป็นแนวทางหนึ่งในการอนุรักษ์ต้นไผ่ ไม่ให้ถูกทำลายจนลดลงจากผืนป่าธรรมชาติ การเก็บหนอนรถด่วนอย่างถูกวิธี ช่วยให้ผู้เลี้ยงมีรายได้จากการขายหนอนรถด่วน จากการขายไม้ไผ่ และยังนำต้นไผ่ที่มีหนอนรถด่วนไปใช้ได้อีกด้วย
ผีเสื้อหนอนรถด่วนมีปากแบบดูดกิน มีริมฝีปากล่างเป็นท่อกลวงยาวคล้ายสายยางหรืองวง ตาเป็นแบบตาประกอบหรือตารวม หนวดมีลักษณะเรียวยาวคล้ายเส้นด้าย มีขาแบบขาเดิน เป็นขาที่มีต้นขาหน้าแข้งเรียว แต่ไม่มีลักษณะพิเศษและมีขนาดปกติ ส่วนสุดท้ายของลำตัว
คือส่วนท้อง เป็นบริเวณของอวัยวะเพศ จะสังเกตลักษณะของผีเสื้อเพศผู้ได้จากท้องที่เรียวยาว ส่วนเพศเมียท้องมีลักษณะอ้วนลักษณะภายนอกของผีเสื้อหนอนรถด่วน ๑.ผีเสื้อหนอนรถด่วนเพศผู้ ๒.ผีเสื้อหนอนรถด่วนเพศเมีย
๓.ไข่ของผีเสื้อบนผิวหน่อไม้ ๔.หนอนรถด่วนอายุ ๑ วัน ๕.หนอนรถด่วน
๖.หนอนรถด่วนอายุ ๓ วัน ๗.หนอนรถด่วนตัวเต็มวัย มีขนาด ๓๐-๓๕ มิลลิเมตร
วงจรชีวิตผีเสื้อหนอนรถด่วน๑.ดักแด้หนอนที่จะเข้าสู่ระยะตัวเต็มวัย (ผีเสื้อ) ๒.ตัวเต็มวัย (ผีเสื้อ) ออกจากต้นไผ่ตรงรูที่เจาะไว้เมื่อเป็นตัวอ่อน เพื่อผสมพันธุ์และวางไข่
๓.ไข่ที่ผีเสื้อแม่พันธุ์วางไว้ที่หน่อไม้ จะฟักเป็นตัวอ่อน (ตัวหนอน) ภายใน ๓-๕ วัน
๔.ตัวอ่อนหนอนรถด่วนจัดกระบวนเป็นแถว มุ่งหน้าหาปล้องที่เหมาะสม เพื่อเจาะเข้าไปในหน่อไม้ไผ่
๕.ตัวอ่อนหนอนเจาะรูเล็กเท่าปลายเข็มเพื่อเข้าไปอยู่ในต้นไผ่
๖.ตัวหนอนกระจายกันขึ้นไปกินเยื่อไผ่ตามปล้องต่างๆ และ ๗.ตัวหนอนรวมตัวเป็นกลุ่มเมื่ออายุมากขึ้น
• วงจรชีวิตของผีเสื้อหนอนรถด่วน• ระยะไข่ เพศเมียแต่ละตัวออกไข่ประมาณ ๑๒๗-๑๔๕ ฟอง ไข่มีลักษณะกลมรี
สีขาวขุ่น ผิวเรียบเกลี้ยงเป็นมัน ต่อมาไข่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อน แล้วจึงฟักเป็นตัวอ่อนหรือตัวหนอน๑.ปักชำปล้องไม้ไผ่ที่มีหนอนรถด่วนอยู่ ๒.ใช้ตาข่ายครอบหน่อไผ่ที่ต้องการแล้วปล่อยพ่อพันธุ์ แม่พันธ์
๓.เปิดปากตาข่ายปล่อยให้ผีเสื้อผสมพันธุ์และวางไข่อย่างอิสระ
• ระยะตัวหนอน ตัวหนอนระยะเต็มวัยมีความยาว ๓๐-๓๕ มิลลิเมตร ส่วนหัวมีปากสำหรับกัดกิน มีหนวดสั้นมาก ๑ คู่ ลำตัวแบ่งออกเป็น ๑๓ ปล้อง เป็นส่วนอก ๓ ปล้อง และส่วนท้อง ๑๐ ปล้อง มีขาที่ส่วนอก ๓ ปล้องเชื่อมต่อกัน ขาที่ส่วนท้องมี ๔ ปล้อง ซึ่งเป็นขาเทียม และมีขาที่ส่วนท้ายอีก ๑ ปล้อง ส่วนหัวสั้น สีน้ำตาลอมส้ม มีเล็บที่บริเวณขาสำหรับช่วยในการเคลื่อนที่ขึ้นและลงภายในลำต้นของไม้ไผ่
หลังจากที่ผีเสื้อผสมพันธุ์แล้ว แม่พันธุ์จะวางไข่บนผิวหน่อไม้ ไข่จะฟักเป็นตัวหนอนภายใน ๓-๕ วัน จากนั้นหนอนจะช่วยกันเจาะหน่อไม้ไผ่เข้าไปด้านใน ระยะนี้หนอนจะกระจายตัวกันกินเยื่อไผ่ภายในหน่อไผ่ปล้องต่างๆ ในลำเดียวกัน จากล่างขึ้นบน ตามการเจริญเติบโตของต้นไผ่ ช่วงที่เป็นตัวหนอนมีระยะเวลา ๙-๑๐ เดือน ก่อนเข้าระยะดักแด้ ในช่วงนี้หนอนอยู่รวมกันเป็นกลุ่มภายในปล้องไม้ไผ่ เมื่อถึงช่วงที่จะเป็นดักแด้ตัวหนอนจะปล่อยใยเพื่อยึดก้นให้ติดกับด้านในปล้องไผ่และห้อยหัวลง๑.การสำรวจผ่าไผ่เพื่อหาตัวหนอนที่จวนจะเป็นดักแด้ ๒.รูที่ตัวหนอนเจาะเตรียมให้ผีเสื้อออกจากปล้อง
๓.การตรวจสอบตัวหนอนกำลังเป็นดักแด้ภายในปล้องไม้ไผ่
บน หนอนที่จะเป็นดักแด้ในกระบอกไม้ไผ่อยู่ในกรองตาข่ายป้องกันอันตราย
ล่าง ดักแด้โตเต็มวัยจนกลายเป็นผีเสื้อ
• ระยะดักแด้ ตัวหนอนรถด่วนจะลอกคราบกลายเป็นดักแด้ห้อยหัวลง มีเปลือกหุ้มอยู่ ระยะนี้ตัวหนอนจะไม่กินอะไร เรียกว่า “ระยะฟักตัว” ช่วงนี้เป็นช่วงอันตรายที่สุดที่อาจเสียชีวิตได้ เนื่องจากเป็นช่วงที่ตัวหนอนกำลังพัฒนาอวัยวะต่างๆ เช่น ปีก ตา หนวด เตรียมเข้าสู่ตัวเต็มวัย ระยะที่เป็นดักแด้มีประมาณ ๓๐-๔๐ วัน ขนาดดักแด้เพศผู้ยาวประมาณ ๓๐ มิลลิเมตร กว้างประมาณ ๖.๔ มิลลิเมตร น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ ๐.๓ กรัม ดักแด้เพศเมียยาวประมาณ ๕๐ มิลลิเมตร กว้างประมาณ ๖.๖ มิลลิเมตร น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ ๐.๔ กรัม
• ระยะตัวเต็มวัยเมื่อหมดช่วงดักแด้เป็นตัวเต็มวัย ผีเสื้อหนอนรถด่วนมีลำตัวสีน้ำตาลเข้ม เพศเมียมีขนาดใหญ่กว่าเพศผู้ มีส่วนท้องใหญ่ ลำตัวยาวประมาณ ๒๒-๒๓ มิลลิเมตร ปีกเมื่อกางออกมีขนาดประมาณ ๔๑-๔๓ มิลลิเมตร ส่วนปีกผีเสื้อเพศผู้มีขนาด ๑๙ มิลลิเมตร เล็กกว่าผีเสื้อเพศเมีย ปีกกว้างประมาณ ๓๘ มิลลิเมตร เมื่อเจริญเต็มที่ผีเสื้อจะออกจากต้นไผ่ตรงรูที่เจาะไว้เมื่อตอนเป็นตัวหนอน เมื่อถึงช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายน – สิงหาคม ซึ่งเป็นช่วงที่หน่อไม้ออกพอดี ระยะตัวเต็มวัยของเพศเมียเจริญเต็มที่ มีไข่พร้อมที่จะผสมกับเพศผู้ได้เลย โดยปกติผสมพันธุ์ในช่วงค่ำ เมื่อผสมพันธุ์แล้วจะวางไข่ตามกาบใบที่โคนของหน่อไม้ เริ่มวงจรชีวิตใหม่๑.เตรียมผีเสื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ไว้ในถุงตาข่าย ๒.นำตาข่ายที่มีผีเสื้อไปครอบบนหน่อไม้
๓.ไข่ที่แม่พันธุ์วางไว้บนกาบหน่อไม้
บน หาต้นไผ่ที่มีหนอนที่จวนจะเป็นดักแด้ในแหล่งธรรมชาติ
ล่างซ้าย ตัดแบบ ก
ล่างขวา ตัดแบบ ข
การเลี้ยงหนอนรถด่วนการเลี้ยงหนอนรถด่วนเริ่มจากนำตัวหนอนของผีเสื้อหนอนรถด่วนจากต้นไผ่ในธรรมชาติ มาเลี้ยงจนโตเป็นตัวเต็มวัย (ผีเสื้อ) แล้วให้ผีเสื้อแม่พันธุ์วางไข่บนผิวหน่อไม้หรือกาบต้นไผ่ ซึ่งทำได้ ๒ แบบ คือ ให้ผีเสื้อวางไข่บนหน่อไม้ที่ผู้เลี้ยงเลือกไว้ หรือปล่อยให้แม่พันธุ์วางไข่บนต้นใดก็ได้อย่างอิสระ
นางลีลา กญิกนันท์ อดีตนักวิทยาศาสตร์ กรมป่าไม้ ใช้การเลี้ยงทั้งแบบให้ผีเสื้อวางไข่บนหน่อไม้ที่เลือก และ แบบปล่อยให้ผีเสื้อแม่พันธุ์วางไข่บนหน่อไม้ไผ่อย่างอิสระ แบ่งได้เป็น ๒ ขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ ๑ เตรียมพ่อพันธุ์แม่พันธุ์โดยเลี้ยงหนอนในต้นไผ่หรือปล้องไม้ไผ่จนเข้าดักแด้ และเป็นตัวเต็มวัย (ผีเสื้อ) เพื่อเก็บรักษาใช้เป็นพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ แล้วนำไปเพาะเลี้ยงต่อไป มี ๓ วิธี คือ
วิธีที่ ๑ ตัดเก็บปล้องไม้ไผ่ซึ่งมีหนอนรถด่วนอยู่มาเลี้ยง ปักชำในกระป๋องน้ำหรือถังน้ำ ใช้ตาข่ายสีเขียวหุ้ม
วิธีที่ ๒ ตัดเคลื่อนย้ายต้นไผ่ที่มีหนอนมาปักชำปลูกเลี้ยงในพื้นที่ชุ่มชื้น
วิธีที่ ๓ ย้ายตัวหนอนมาเลี้ยงในไผ่ต้นใหม่ในพื้นที่ที่ต้องการขั้นตอนที่ ๒ เตรียมการผสมพันธุ์และวางไข่
เมื่อใกล้กำหนดจะเป็นผีเสื้อประมาณเดือนมิถุนายน นำตาข่ายไนลอนครอบปล้องไผ่ที่มีพ่อพันธุ์แม่พันธุ์จากขั้นตอนที่ ๑ เพื่อนำไปผสมพันธุ์และวางไข่ ซึ่งมี ๒ วิธี คือ
วิธีที่ ๑ ครอบผสมพันธุ์ : ใช้ตาข่ายเย็บเป็นถุงครอบหน่อไม้ที่ต้องการ แล้วปล่อยผีเสื้อพ่อพันธุ์แม่พันธุ์อย่างละ ๑-๔ ตัว
วิธีที่ ๒ ปล่อยผสมพันธุ์แบบอิสระ : นำพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ผีเสื้อปล่อยกลางแปลงหน่อไผ่ ผีเสื้อจะผสมพันธุ์อย่างอิสระ และเลือกวางไข่ตามหน่อไม้ที่ต้องการเอง วิธีนี้ง่าย สะดวก ปลอดภัยสำหรับผีเสื้อ ประหยัด ไม่ต้องลงทุน และเสียเวลาเย็บตาข่ายครอบหน่อไม้
ดอกเตอร์ รัทนา ทาปา อาจารย์มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นำตัวหนอนที่เข้าระยะดักแด้มาเลี้ยงให้เป็นผีเสื้อเพื่อผสมพันธุ์และวางไข่ ดังนี้
วิธีที่ ๑ ให้ผีเสื้อวางไข่บนหน่อไม้ที่เลือกไว้ มีขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นที่ ๑ สำรวจและตัดกระบอกไม้ไผ่ที่มีตัวหนอนที่จวนจะเป็นดักแด้จากธรรมชาติ
ขั้นที่ ๒ นำกระบอกไม้ไผ่ที่มีหนอนซึ่งกำลังจะเป็นดักแด้ใส่ในกรงตาข่ายขนาด กว้าง ยาว และสูง ด้านละ ๑๕ เซนติเมตร โดยจัดให้กระบอกไม้ไผ่อยู่ในลักษณะคล้ายกับในธรรมชาติ ป้องกันไม่ให้กระบอกไม้ไผ่กระทบกระเทือนและเกิดอันตรายต่างๆ จนกระทั่งถึงระยะตัวเต็มวัยเป็นผีเสื้อ ซึ่งปกติจะมีเพศผู้และเพศเมียจำนวนเท่ากัน
ขั้นที่ ๓ ใช้ถุงตาข่ายขนาดกว้าง ๓๐ เซนติเมตร ยาว ๖๐ เซนติเมตร ปล่อยผีเสื้อเพศผู้ ๕ ตัว เพศเมีย ๕ ตัว และมัดปากถุงเพื่อป้องกันไม่ให้ผีเสื้อบินหนี
ขั้นที่ ๔ นำถุงในขั้นที่ ๓ ไปครอบหน่อไม้ที่มีอายุประมาณ ๒ สัปดาห์ เพื่อให้ผีเสื้อผสมพันธุ์กัน และให้แม่พันธุ์วางไข่บนผิวหน่อไม้นั้น
วิธีที่ ๒ การเลี้ยงโดยปล่อยให้ผีเสื้อผสมพันธุ์และวางไข่อย่างอิสระ มีขั้นตอนต่อไปนี้
ขั้นที่ ๑ หาต้นไผ่ที่มีหนอนจวนจะเป็นดักแด้ในแหล่งธรรมชาติ
ขั้นที่ ๒ ตัดกระบอกไม้ไผ่ที่มีหนอนจวนจะเป็นดักแด้ โดยตัดกระบอกไม้ไผ่ดังรูป ก หรือ ข ถ้าตัดแบบ ก ดักแด้จะเจริญเป็นผีเสื้อร้อยละ ๕๕ แต่ถ้าตัดแบบ ข ดักแด้จะเจริญเป็นผีเสื้อร้อยละ ๔๐
ขั้นที่ ๓ นำกระบอกไม้ไผ่ที่ตัดแล้วแขวนไว้ในกรงตาข่ายสีเขียว กว้าง ๒ เมตร ยาว ๒ เมตร สูง ๓ เมตร ที่ครอบไว้บริเวณที่เพาะหน่อไม้ไผ่ ทิ้งไว้ตามธรรมชาติ เมื่อดักแด้เป็นตัวหนอนผีเสื้อก็จะผสมพันธุ์กัน ให้คอยติดตามเฝ้าดูการวางไข่ที่หน่อไม้ไผ่ทุกวันบน กรงเลี้ยงตาข่ายสีเขียว
ล่าง กระบอกไม้ไผ่ที่แขวนไว้ในกรงตาข่ายสีเขียว ใกล้กับบริเวณที่เพาะหน่อไม้
ข้อควรระวังในการเลี้ยง๑. ระวังไม่ให้น้ำฝนตกลงบนตัวผีเสื้อ และระวังไม่ให้ผีเสื้อโดนแสงแดดโดยตรง
๒. ระวังไม่ให้มีมดขึ้นอย่างเด็ดขาด
๓. ระวังนก ตัวห้ำ
๔. ระวังแตนเบียนและแมลงวันเบียนปัญหาที่พบระหว่างการเพาะเลี้ยงหนอนรถด่วน๑. หน่อไม้ตาย
๒. มีตัวห้ำและตัวเบียน
๓. ไข่ของผีเสื้อหนอนรถด่วนถูกไรทำร้าย
๔. ผีเสื้อเพศเมียไม่มีการวางไข่
๕. หน่อไม้ไผ่ถูกสัตว์และมนุษย์ทำลาย
๖. หน่อไม้ไผ่ถูกด้วงงวงหรือแมลงปีกแข็งเจาะทำลายลำต้น
๗. หน่อไม้ไผ่ถูกน้ำท่วมถึงลำต้น ทำให้หนอนรถด่วนไม่สามารถดำรงชีวิตได้บนจากซ้ายไปขวา ด้วงงวง มดแดง ไรแดง
ล่างจากซ้ายไปขวา นกหัวขวาน กระรอก
ศัตรูของหนอนรถด่วน• ด้วงเจาะไม้ไผ่ด้วงงวงเจาะไม้ไผ่จะทำลายหน่อไม้ไผ่ที่หนอนรถด่วนอาศัยอยู่
ถ้ามีรูที่ด้วงงวงเจาะ หนอนรถด่วนจะไม่เข้าไปอาศัยอยู่ หรือถ้ามีด้วงงวงเข้าไป
หนอนรถด่วนที่อยู่ด้านในจะหนีออกมาทั้งหมดแมลงกินได้ : จากสารานุกรมไทย โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ภาพจาก : www.oknation.net• มดเป็นศัตรูชนิดหนึ่งของไข่ผีเสื้อและหนอนรถด่วน โดยจะเข้าไปรบกวน
หนอนรถด่วนในปล้องไม้ไผ่ ดังนั้น จึงควรใช้น้ำมันเครื่องทาบริเวณโคนหน่อไม้
สูงจากพื้นประมาณ ๓ เซนติเมตร เพื่อป้องกันมดไม้ให้รบกวนหนอนรถด่วน ภาพจาก : www.oknation.net• ไรแดงไรแดงหรือแมงมุมแดงจะเข้าไปกินหนอนรถด่วนในลำไม้ไผ่ วิธีป้องกันคือ
ใช้น้ำมันเครื่องทาบริเวณโคนหน่อไม้ สูงจากพื้นประมาณ ๓ เซนติเมตร ภาพจาก : www.nprcenter.com• นกหัวขวาน เป็นนกที่เจาะกินหนอนและแมลงตามต้นไม้ โดยทั่วไปเป็นนกสวยงาม
ปกติจะเจาะหาหนอนและแมลง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นศัตรูพืช ทำลายต้นไม้ แต่กรณี
ที่เลี้ยงหนอนรถด่วนในต้นไผ่ นกหัวขวานจะเจาะลำไผ่กินหนอนรถด่วนแทนแมลง
และหนอนอื่นๆ เพราะไม้ไผ่แต่ละปล้องจะมีหนอนรถด่วนเป็นจำนวนมาก ภาพจาก : blogspot.com• กระรอกเป็นสัตว์ฟันแทะที่สามารถเจาะต้นไม้และไม้ไผ่ได้ โดยจะเจาะลำไผ่
เข้าไปกินตัวหนอนรถด่วนแต่ละปล้องได้โดยง่าย ป้องกันโดยการวางกับดักล่อ
ไว้บริเวณโคนต้นไผ่ธุรกิจเกี่ยวกับแมลงกินได้การส่งเสริมให้มีการเพาะเลี้ยงแมลงกินได้ที่ถูกวิธี ตั้งแต่การคัดเลือกพันธุ์ การเพาะเลี้ยง การเก็บ การปรุงอาหาร ตลอดจนการขายแมลงที่ปรุงสุกแล้ว ก่อให้เกิดธุรกิจหลายอย่าง เช่น กลุ่มผู้หาแมลง ผู้เพาะเลี้ยง ผู้ขายแมลงสด ผู้ปรุงหรือแปรรูป ผู้ขายแมลงแปรรูป แมลงหลายชนิดสั่งซื้อทางอินเทอร์เน็ตได้ แมลงบางชนิดเช่น หนอนรถด่วนทอด เป็นรายการอาหารในภัตตาคาร ทำให้ผู้เกี่ยวข้องมีรายได้ อาจทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม ราคาของแมลงกินได้แตกต่างกันไปตามแหล่งและช่วงเวลา เช่น หนอนรถด่วนสดหรือแช่แข็งขายส่งกิโลกรัมละ ๒๐๐-๕๐๐ บาท หนอนรถด่วนทอดขายกิโลกรัมละ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ บาท ร้านขายปลีกแบ่งขายแมลงกินได้สดตามจำนวนที่ผู้ซื้อต้องการ ขายตั๊กแตนปาทังกา ขีดละ ๓๐ บาท ตั๊กแตนเขียวโม ขีดละ ๒๐ บาท แมลงดานาสด ตัวละ ๑๐ บาท แมลงสะดิ้ง ขีดละ ๒๐ บาท ดักแด้ไหม ขีดละ ๒๐ บาท
อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจประเภทนี้ ผู้หาหรือเพาะเลี้ยงแมลงควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมทั้งการไม่ทำลายธรรมชาติ
ผู้ซื้อไปจำหน่าย ผู้รับประทาน ควรเลือกแหล่งผลิตที่เชื่อถือได้และเลือกรับประทานอย่างเหมาะสม เพราะแมลงกินได้มีหลายชนิด บางชนิดมีโปรตีนสูง บางชนิดมีไขมันสูง และการทอดก็เป็นการเพิ่มไขมันด้วย ดังนั้น ถ้ารับประทานมากเกินไปอาจเกิดผลเสียต่อสุขภาพได้ผู้เรียบเรียง ดร.รัทนา ปาทา และ นายสิทธิพงษ์ วงศ์วิลาศจบบริบูรณ์
เรื่อง "แมลงกินได้" : แมลงที่นิยมนำมาบริโภค, คุณค่าทางโภชนาการฯลฯ
คัดจากหนังสือสารานุกรมไทยฯ เล่ม ๑๗ โดยได้รับอนุญาตจาก ศาสตราจารย์กิตติคุณ ไพฑูรย์ พงศะบุตร กรรมการและเลขาธิการโครงการสารานุกรมไทยฯ โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ให้คัดลอกและสแกนรูปภาพ เผยแพร่ใน www.sookjai.com เพื่อเป็นวิทยาทานแก่นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปผู้ใฝ่การเรียนรู้ในเรื่องราวและวิทยาการสาขาต่างๆ
ตามหนังสือที่ ส.๒๐/๒๕๕๖ ลง ๑๗ ม.ค. ๕๖ ในนามของเว็บไซต์ สุขใจดอทคอม ขอกราบขอบพระคุณในความกรุณาของท่านอาจารย์เป็นอย่างสูงมา ณ โอกาสนี้