[ สุขใจ ดอท คอม บ้านหลังเล็กอันแสนอบอุ่น ] ธรรมะ พุทธประวัติ ฟังธรรม ดูหนัง ฟังเพลง เกมส์ เบาสมอง ดูดวง สุขภาพ สารพันความรู้
30 เมษายน 2567 08:44:28 *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
 
  หน้าแรก   เวบบอร์ด   ช่วยเหลือ ห้องเกม ปฏิทิน Tags เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก ห้องสนทนา  
บุคคลทั่วไป, คุณถูกห้ามตั้งกระทู้หรือส่งข้อความส่วนตัวในฟอรั่มนี้
Fuck Advertise !!

หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์  (อ่าน 4222 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ใบบุญ
สุขใจ๊ สุขใจ
นักโพสท์ระดับ 12
*

คะแนนความดี: +0/-0
ออฟไลน์ ออฟไลน์

Thailand Thailand

กระทู้: 2327


ระบบปฏิบัติการ:
Windows 7/Server 2008 R2 Windows 7/Server 2008 R2
เวบเบราเซอร์:
Mozilla รองรับ Mozilla รองรับ


ดูรายละเอียด
« เมื่อ: 07 กรกฎาคม 2557 06:39:39 »

.

http://www.thairath.co.th/media/T18CT60ObSbLrsQ8bmO3KiFJ9b3hORGowVEvn8O6KBQSTRWKg2n3DWA.jpg
รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

ชาโดว์ฮันเตอร์ เขียนอักษรรูน ลงบนร่างกายเพื่อรับพลังอำนาจ

รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

หนึ่งในความน่าสนใจของการศึกษาพงศาวดารบุร่ำบุราณของโลกใบนี้ก็คือ มันมักจะมาควบคู่กับความลี้ลับที่ยังหาคำตอบไม่ได้อยู่เสมอ อีกทั้งความพิศวงเหล่านั้นยังชอบซ่อนตัวอยู่ในศาสตร์ที่อยู่เหนือหลักของเหตุและผลเสียด้วยสิครับ ทั้งเรื่องราวของสิ่งเหนือธรรมชาติต่างๆ เช่นภูติ ผี ปีศาจ วิญญาณหรือโลกหลังความตายและที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดก็คือบรรดาไสยศาสตร์และเวทมนตร์โบราณครับ

บ่อยครั้งที่เรามักจะพบว่าไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถาต่างๆ มักจะถูกแสดงออกควบคู่กับ “สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์” บางประเภท ส่วนใหญ่ที่พบเห็นได้บ่อยก็จะเป็นอักขระภาษาโบราณหน้าตาแปลกประหลาดที่ช่วยเพิ่มได้ทั้งความขลังและพลังทางด้านเวทมนตร์ให้กับคาถาอาคมเหล่านั้น หนึ่งใน “สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์” ที่โด่งดังที่สุดในโลกโบราณก็คืออักษร “รูน” (Rune) ซึ่งมีต้นกำเนิดในดินแดนทวีปยุโรปสมัยโบราณเมื่อประมาณเกือบ 2,000 ปีที่แล้วครับ

เชื่อกันว่าอักษรรูนนั้นมีพลังอำนาจลึกลับทางเวทมนตร์ซุกซ่อนอยู่ ไม่แต่เฉพาะเมื่อครั้งอดีตกาลเท่านั้นหรอกครับ เพราะในปัจจุบันก็มีอาจารย์และนักพยากรณ์หลายท่านที่ยังคงใช้อักษรรูนโบราณในการช่วยทำนายเหตุการณ์ต่างๆในอนาคต แต่ก็เหมือนกับศาสตร์แห่งการทำนายทั่วไปล่ะครับ ที่ผลของการทำนายจะแม่นยำมากน้อยเพียงใดก็ต้องอยู่ขึ้นกับความเข้าใจในอักขระศักดิ์สิทธิ์ของผู้ทำนายเป็นสำคัญด้วย


http://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZUOHAe2BTLWT7DY2cZoDL1WeCGgCMk.jpg
รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

ในอดีต สัญลักษณ์ ศักดิ์สิทธิ์แห่งรูนเป็นภาษาที่ใช้กันอย่างแพร่ หลายในชนเผ่าแถบยุโรป ไม่ว่าจะเป็นชาวกอธ (Goth) ชนเผ่าเจอร์มานิค (Germanic) ชาวเดนมาร์ก สวีเดน นอร์เวย์ อังกฤษและเยอรมัน อักษรรูนประกอบไปด้วยอักขระ 24 ตัว เป็นพยัญชนะ 18 ตัวและสระ 6 ตัว สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์นี้บางครั้งก็เรียกกันว่าอักขระ “ฟูทาร์ก” (Futhark) ซึ่งเรียกตามอักษร 6 ตัวแรกของอักษรรูน (f u t h a r k) นั่นเอง

นักวิชาการส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า คำว่า “รูน” ซึ่งเป็นชื่อเรียกอักษรแห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์นั้นน่าจะมาจากคำว่า “raunen” ซึ่งเป็นภาษาเยอรมันแปลว่า “กระซิบ” (Whisper) และความหมายนี้ก็แสดงให้เห็นถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอักษรรูนได้ไม่น้อยเลยทีเดียวครับ

พักเรื่องวิชาการไว้ก่อน หันมามองต้นกำเนิดของอักษรรูนจากพงศาวดารกันบ้างดีกว่าครับ ตามตำนานแถบสแกนดิเนเวียนหรือชนเผ่านอร์ส (Norse) เล่าสืบต่อกันมาว่า ผู้ที่ประดิษฐ์สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งรูนขึ้นมาใช้เป็นคนแรกก็คือเทพเจ้าแห่งสงคราม บทกวี ความรู้และความฉลาดหลักแหลม ผู้มีนามว่าโอดิน (Odin) ครับ เทพโอดินได้ห้อยหัวต่องแต่งประหนึ่งค้างคาวอยู่บนต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่เรียกว่า “อิกดราซิล” (Yggdrasil) ยาวนานเป็นระยะเวลา 9 วัน 9 คืน ติดต่อกัน เพื่อทรมานร่างกายด้วยการให้โลหิตไหลลงศีรษะ ผลจากการทรมานร่างกายของเทพโอดินทำให้ท่านเกิดญาณพิเศษ รับรู้เรื่องราวชวนพิศวงต่างๆมากมายหลายเรื่อง ว่ากันว่าตลอดเวลา 9 คืนที่ห้อยหัวอยู่นั้น เทพโอดินได้ล่วงรู้ถึงความลับทั้งหมดของโลกใบนี้ ซึ่งหนึ่งในสิ่งที่พระองค์ตระหนักรู้ด้วยเช่นกันก็คือ สรรพสิ่งล้วนไม่เที่ยง พระองค์เองคงต้องสิ้นลมหายใจลงไปในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า ท่านจึงคิดหาวิธีที่จะรักษาความรู้มหาศาลเหล่านั้นเอาไว้ให้มนุษย์ในยุคหลังได้เรียนรู้สืบต่อไป


http://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZUOHAe2BTLWT7DY2cWhJKr0yYnI37N.jpg
รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

แน่นอนครับ ความรู้มากมายถ้าเพียงแค่จดจำเอาไว้ในสมองยังไงสักวันหนึ่งมันก็ต้องลืม ดังนั้นเทพโอดินจึงได้ประดิษฐ์อักษรรูนขึ้นมาเพื่อแจกจ่ายความรู้ที่ท่านได้รับมาใน 9 คืนอันแสนทรมานให้มนุษย์โลกได้ศึกษา ดังนั้นถ้าเราอ้างอิงตามตำนานศักดิ์สิทธิ์นี้ อักษรรูนจึงเป็นอักขระที่ได้มาจาก “ความตาย” ของมหาเทพโอดิน อักขระชนิดนี้จึงมีความพิเศษในด้านของเวทมนตร์และคาถาอาคม ซึ่งรวมถึงสรรพความรู้โบราณต่างๆด้วย ถือได้ว่ารูนเป็นสัญลักษณ์อันศักดิ์สิทธิ์แห่งสแกนดิเนเวียนเลยก็ว่าได้ครับ ชนเผ่านอร์สในสมัยโบราณจึงมักจะจารึกอักษรรูนโดยมีนัยแฝงทางด้านพลังเวทมนตร์เอาไว้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการปลุกเสกคาถาหรือคำสาปในไสยเวทต่างๆ โดยเฉพาะการร่ายอาคมลงบนอาวุธเพื่อให้สังหารศัตรูได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

ลองขยับเข้ามาดูความหมายเชิงนัยเกี่ยวกับเวทมนตร์ของอักษรรูนกันบ้างดีกว่าครับว่าจะมีความน่าสนใจเพียงใดและจะเกี่ยวข้องกับเรื่องใดบ้าง

นักวิชาการแบ่งอักขระรูน 24 ตัวออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 8 ตัว แต่ละกลุ่มตั้งชื่อตามเทพเจ้าของชาวนอร์ส ซึ่งก็คือกลุ่มเฟรยา (Freya) กลุ่มไฮม์ดัลล์ (Heimdall) และกลุ่มเทียร์ (Tyr)

ด้วยว่าอักษรรูนกลุ่มแรกหรือกลุ่มเฟรยา ได้รับชื่อมาจากเทพีแห่งความรักและความอุดมสมบูรณ์ อักขระรูน 8 ตัวแรกในกลุ่มเฟรยาจึงมีความหมายในเชิงของความรัก ความสุขและชีวิตตามไปด้วย



http://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZUOHAe2BTLWT7DY2cYBFUPrqWnwqrY.jpg
รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

อักษรรูนกลุ่มที่สองหรือกลุ่มเทพไฮม์ดัลล์นั้น ด้วยว่าพระองค์เป็นเทพเจ้าผู้พิทักษ์ ทำหน้าที่ถือกุญแจแห่งสวรรค์เพื่อเปิดทางให้เหล่าดวงวิญญาณเดินทางไปยังแดนสุขาวดี นั่นจึงทำให้อักษรรูนกลุ่มที่สองนี้มีความเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลง ซึ่งก็ตีความได้ถึงความก้าวหน้า เงินทอง โชคชะตาและความสำเร็จนั่นเอง

อักษรรูนกลุ่มสุดท้ายหรือกลุ่มเทียร์ ซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม อักษรรูนในกลุ่มสุดท้ายนี้มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องราวของอารมณ์และจิตวิญญาณ เช่นความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญหรือไม่ก็เกี่ยวข้องกับความเจ็บปวดต่างๆ

คำถามสำคัญก็คือ แล้วอักขระต่างๆเหล่านี้สามารถแสดงพลังทางด้านเวทมนตร์ออกมาได้อย่างไร คำตอบก็คือ เราเพียงแค่ทำการสลักอักขระที่สื่อความหมายถึงนัยต่างๆลงไปเท่านั้นเองครับก็จะสามารถเข้าถึงพลังเหล่านั้นได้แล้ว ดังเช่นที่ชาวนอร์สทำการสลักอักษรรูนลงไปบนศัตตราวุธของพวกเขา นั่นล่ะครับ แต่บางครั้งเราก็จำเป็นต้องทำการ “ผสม” อักขระที่มีความหมายเชิงสัญลักษณ์ต่างๆเหล่านี้เข้าด้วยกันด้วยเพื่อแสดงออกถึงพลังที่ครอบคลุมขึ้นด้วยครับ เช่นอักขระเสียง t หรือที่ออกเสียงว่าเทียร์ ซึ่งมีความหมายถึงความกล้าหาญหรือความสำเร็จ เมื่อนำมาผสมกับอักขระเสียง f หรือที่ออกเสียงว่าเฟฮู (Fehu) ซึ่งมีความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์หรือความมั่งคั่งแล้ว ก็จะได้สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ออกมาเป็นซึ่งมีความหมายเชิงเวทมนตร์ในทำนองของ “ความสำเร็จทางการเงิน” นั่นเองครับ

ทว่าในปัจจุบัน อักษรรูนสมัยใหม่ปรากฏขึ้นมามากมายราวกับดอกเห็ดในเกมวางแผนการรบต่างๆ จากประเทศญี่ปุ่นที่พยายามเชื่อมโยงความศักดิ์สิทธิ์แห่งสัญลักษณ์เข้ากับความเป็นอักษรรูน แต่อักขระยุคใหม่ที่ปรากฏในเกมเหล่านั้นเพียงแค่ใช้ชื่อของ “รูน” เพื่อสื่อถึงพลังอำนาจทางด้านเวทมนตร์เท่านั้น ไม่ได้นำรูปแบบของอักขระมาจากอักษรรูนของชาวนอร์สแต่อย่างใด เรียกได้ว่าเป็นการรังสรรค์ลวดลายของอักษรรูนแบบใหม่กันเองตามใจชอบเสียมากกว่า


http://www.thairath.co.th/media/4DQpjUtzLUwmJZZUOHAe2BTLWT7DY2ca70ipRuKSmnn7.jpg
รูน สัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งเวทมนตร์ดึกดำบรรพ์

ในทางวิชาการแล้ว อักษรรูนเป็นอักขระที่ยังถอดความไม่ได้แน่ชัด การตีความหมายอักษรรูนของนักวิชาการในปัจจุบันจึงเป็นเพียงแค่การศึกษา ตีความและคาดเดาความหมายจากหลักฐานเพียงน้อยนิดที่ยังคลุมเครืออยู่เท่านั้นครับ แต่กระนั้นผู้เชี่ยวชาญด้านอักษรรูนก็ได้กล่าวเสริมเอาไว้อย่างน่าสนใจว่า “จารึกอักษรรูน ทุกชิ้นที่ค้นพบสามารถสื่อความหมายได้มากเกินกว่าที่นักวิชาการได้เคยตีความเอาไว้” นั่นหมายความว่าสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์แห่งรูนอาจจะซุกซ่อนเวทมนตร์ที่แฝงไปด้วยความศักดิ์สิทธิ์อันทรงพลังเอาไว้ด้วยก็เป็นได้

ด้วยความเป็นมาที่น่าทึ่งและเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวอันเข้มขลัง อักษรรูนจึงถูกนำมาใช้ในการสร้างสีสันให้กับเรื่องราวในโลกภาพยนตร์ โดยล่าสุด รูนได้รับการหยิบยกเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังของเหล่าตัวละคร “ชาโดว์ฮันเตอร์” หรือ “นักรบครึ่งเทวดา” ในภาพยนตร์ที่สร้างมาจากหนังสือขายดีเรื่อง The Mortal Instruments: City of Bones ซึ่งเหล่า “ชาโดว์ฮันเตอร์” ได้บรรจงเขียนอักษรรูนตามแบบฉบับของพวกเขาลงบนร่างกาย เพื่อใช้พลังอำนาจศักดิ์สิทธิ์ของมันช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้ด้านต่างๆ เช่น ความแข็งแกร่ง ความกล้าหาญ หรือความรวดเร็ว รวมทั้งพลังแห่งการเยียวยารักษา แถมยังใช้รูนเป็นเครื่องรางเพื่อการต่อสู้กับบรรดาอสุรกายทั้งแวมไพร์ ผีดิบ หรือมนุษย์หมาป่าในโลกคู่ขนานที่มนุษย์มองไม่เห็นอีกด้วยครับ

แต่ทว่าพลังเวทมนตร์แห่งอักษรรูนของชาโดว์ฮันเตอร์นั้นจะขลังและทรงพลังอำนาจเทียบเท่าอักษรรูนต้นฉบับของชาวนอร์สเมื่อเกือบสองพันปีก่อนหรือไม่ ต้องไปพิสูจน์กันเองครับ.

โดย... ณัฐพล เดชขจร
ทีมงาน นิตยสาร ต่วย'ตูน

Share this topic on AskShare this topic on DiggShare this topic on FacebookShare this topic on GoogleShare this topic on LiveShare this topic on RedditShare this topic on TwitterShare this topic on YahooShare this topic on Google buzz

บันทึกการเข้า
คำค้น:
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ ตอบกระทู้ได้
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ได้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขข้อความได้
BBCode เปิดใช้งาน
Smilies เปิดใช้งาน
[img] เปิดใช้งาน
HTML เปิดใช้งาน

Powered by MySQL Powered by PHP
Bookmark and Share

www.SookJai.com Created By Mckaforce | Sookjai.com Sitemap | CopyRight All Rights Reserved
Mckaforce Group | Sookjai Group
Best viewed with IE 7.0 , Chrome , Opera , Firefox 3.5
Compatible All OS , Resolution 1024 x 768 Or Higher
Valid XHTML 1.0! Valid CSS!
หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.383 วินาที กับ 32 คำสั่ง

Google visited last this page 28 มีนาคม 2567 01:27:52