.
วัดขุนอินทประมูลผู้โพสต์มีธุระสำคัญต้องเดินทางไปที่วัดขุนอินทประมูล (เป็นครั้งที่ ๓)
เพราะไม่สามารถนำภาพถ่ายที่ไปเยือนในยามค่ำคืนของพระนอนวัดขุนอินทประมูลมาโพสต์ลงเว็บไซต์ได้
พระนอนวัดขุนอินทประมูล และท่านขุนอินทประมูลมีพลังความศักดิ์สิทธิ์และปาฏิหาริย์เหลือเชื่อ
และจะไม่ขอกล่าวถึงประสบการณ์ที่ได้รับกับตัวเอง (ของอย่างนี้นานาจิตตัง.)
เส้นทางที่จะไปวัดขุนอินทประมูล (หากท่านขับรถเส้นใน ขนานกับทางหลวงสายเอเชีย)
จะผ่านวัดท่าอิฐ ซึ่งมองเห็นเจดีย์สีทองขนาดใหญ่มีรูปทรงแปลกมาแต่ไกล
ทำให้อดแวะเวียนเข้าไปชมความสวยงามแปลกตาไม่ได้


เจดีย์สีทองรูปทรงแปลกตา โดดเด่นเป็นสง่าเห็นมาแต่ไกล
นมัสการพระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทองวัดท่าอิฐบ้านท่าอิฐ ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง วัดท่าอิฐ ตั้งอยู่ที่บ้านท่าอิฐ ตำบลบางพลับ อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง
วัดนี้สร้างเมื่อปี พ.ศ. ๒๓๐๔ บริเวณที่ตั้งเดิมเข้าใจว่าเป็นที่ปั้นเผาอิฐนำไปก่อสร้างวัดขุนอินทประมูล ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดแห่งนี้
และในคราวขุดดินเพื่อวางศิลาฤกษ์ ได้พบอิฐหน้าวัวขนาดใหญ่ นับว่าเป็นสถานที่ขนอิฐหรือท่าขนอิฐ และเมื่อได้สร้างวัดขึ้นจึงขนานนามว่าวัดท่าอิฐ
พระประธานในอุโบสถชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อเพ็ชร” พระประธานในวิหารชาวบ้านเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยอยุธยา ประมาณกว่า ๒๐๐ ปีมาแล้ว ประดิษฐานอยู่ในวิหารมหาอุต
ราวพุทธศักราช ๒๕๓๕ พระครูสุคนธศีลคุณ (หลวงพ่อหอม) มีดำริจะสร้างเจดีย์ขึ้นในบริเวณวัดท่าอิฐ มีความกว้าง ๔๐ เมตร สูง ๕๘ เมตร เพื่อทดแทนเจดีย์หลังเดิม ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอุโบสถที่ผุพังไปตามกาลเวลาและเพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระพุทธรูปปางต่างๆ เป็นสมบัติของพุทธศาสนาสืบต่อไป และเพื่อระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงสั่งสอนทางแห่งความดับทุกข์แก่เหล่าเวไนยสัตว์ทั้งปวง จนสามารถบรรลุคุณธรรมตามความสามารถของแต่ละบุคคล
ราวพุทธศักราช ๒๕๓๘ พระครูสุคนธศีลคุณ (หลวงพ่อหอม) มีดำริจะสร้างเจดีย์เพื่อทดแทนเจดีย์หลังเดิม ซึ่งตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าอุโบสถที่ผุพังไปตามกาลเวลา ขึ้นในบริเวณวัด โดยกำหนดแบบของเจดีย์ให้เป็นศิลปกรรมแบบลังกา ผสมผสานสมัยอยุธยาและรัตนโกสินทร์ มีความกว้าง ๔๐ เมตร สูง ๗๓ เมตร ลักษณะเจดีย์ทรงแปดเหลี่ยม มีองค์ระฆังและปล้องไฉน ๓๒ ปล้อง เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุส่วนพระศอของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ ให้เป็นสมบัติของพุทธศาสนาสืบต่อไป
ประกอบกับขณะนั้น เป็นช่วงที่เริ่มการก่อสร้างเจดีย์ หลวงพ่อหอมได้ทราบข่าวพระอาการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และด้วยความห่วงใยในพระองค์ท่าน หลวงพ่อหอมได้ตั้งสัจจาอธิษฐานว่า ขอให้ในหลวงทรงหายจากพระอาการประชวร ถ้าเป็นไปดังสัจจาอธิษฐาน จะสร้างเจดีย์ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน เมื่อการก่อสร้างสำเร็จลุล่วงแล้ว จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อเจดีย์ว่า "พระธาตุเจดีย์ศรีโพธิ์ทอง" โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเป็นประธานเปิดเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๓
"หลวงพ่อขาว"
เป็นพระพุทธรูปที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา
ประมาณ ๒๐๐ กว่าปีมาแล้ว
ประดิษฐานอยู่ในวิหารมหาอุด
ได้ชมและสักการะบูชาองค์พระเจดีย์ ให้ได้เกิดความแช่มชื่นในจิตใจ ขณะเดียวกันก็รู้สึกสลดใจใน "พระอุโบสถ" ศาสนสถานสำคัญและจำเป็นของวัดท่าอิฐ ที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรมค่อนข้างมาก จึงแจ้งมายังพุทธศาสนิกชนให้ร่วมสละกำลังทรัพย์ตามกำลังศรัทธา ช่วยกันบูรณะพระอุโบสถให้สามารถใช้งานในบวรพุทธศาสนาได้ดีสืบต่อไป.
หมายเหตุ ได้กราบนมัสการเรียนถามพระคุณเจ้าที่ประจำอยู่ในพระเจดีย์ว่า อุโบสถทรุดโทรมขนาดนี้ พระสงฆ์ในวัดท่าอิฐไปทำสังฆกรรมที่ไหน? ได้รับคำตอบเรื่องนี้ว่า เป็นคำถามที่ดีมาก...ตราบใดที่ลูกนิมิตยังไม่ได้ถูกขุดถอนขึ้นจากอุโบสถ จึงยังจัดเป็นเขตพัทสีมา (เขตแดนที่พระสงฆ์ร่วมกันกำหนดให้เป็นเขตทำสังฆกรรมร่วมกันตามพระวินัย)
ปัจจุบัน พระสงฆ์ในวัดท่าอิฐยังคงทำสังฆกรรมร่วมกันในอุโบสถที่ทรุดโทรมตามภาพด้านล่าง ส่วนของหลังคาอุโบสถที่พังไปเหลือแต่โครงหลังคาเป็นบางส่วน นั้น อาศัยแผ่นสังกะมุงพอได้กันน้ำฝนและแสงแดดค่ะ.




ขอเชิญร่วมทำบุญสมทบทุนสร้างอุโบสถหลังใหม่ (ในเขตสีมาเดิม)
ณ วัดท่าอิฐ จ.อ่างทอง เพื่อประโยชน์อันยิ่งใหญ่ของพระพุทธศาสนา
ร่วมทำบุญสมทบทุนก่อสร้างอุโบสถ ได้ที่ พระครูไพศาลศีลวัฒน์ เจ้าอาวาสวัดท่าอิฐ (จร.ชท.)
สำนักงานเจ้าอาวาส โทร.
081 2919856ผู้โพสต์ไปที่วัดแห่งนี้เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ ผ่านพ้นมาไม่กี่วันเองค่ะ









